ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SMTM : RAPPER ROOM ᕽ (ALL x GIRIBOY)

    ลำดับตอนที่ #14 : ᕽ ROOM 12 : THE END

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 284
      4
      27 มิ.ย. 59






    THE END

     

     




     

    ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่กลายเป็นคนสูบบุหรี่จัดขนาดนี้ ชียองไม่เคยเข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมเขาถึงได้แต่ห่วงคนอื่นจนบางทีก็ลืมดูแลตัวเองไป หลายครั้งที่ป่วยแต่ก็ไม่ได้สนใจจะดูแลมันจริงๆจังๆเท่าไหร่จนจูยอง ไม่สิทุกคนในค่ายนั่นแหละบ่นจนปากฉีกว่าเขามันเริ่มดื้อด้าน เปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับหลายปีก่อนจนน่าตกใจ

     

    ชียองได้แต่หัวเราะตอนที่ฟังคำบ่นยาวเหยียดจากเพื่อนรุ่นน้องอย่างซีแจม หมอนี่บอกว่าเขาแกล้งติ๋ม เขาเองอยากจะบอกว่าตอนนั้นมันยังมีความเกรงใจอยู่บ้าง

     

    มือถือแจ้งเตือนใครบางคนอัพเดตรูปภาพ ผมจ้องมองมันอยู่แบบนั้นไม่รู้ว่านานแค่ไหน บุหรี่หมดไปหลายซองแต่ผมยังนั่งอยู่ที่เดิม ก่อนหน้านี้มีข่าวไม่ค่อยดีแต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจริงไหมในเมื่อทุกคนไม่มีใครรู้เรื่องของเจ้าบ้านั่นสักคน

     

    เจ้าบ้าฮอนชอล!

     

    “รู้ไหมว่าลืมล็อคประตูห้อง”

     

    เสียงคนมาใหม่ทำเอาเจ้าของห้องสะดุ้งโหยง ชียองค้อนให้คนที่กำลังทิ้งตัวนั่งลงข้างๆพร้อมเบียร์เย็นเฉียบในถุง

     

     

    “ก็เพิ่งจะรู้ตอนนายมานี่แหละว่าลืม” ชียองตอบก่อนจะหยิบเบียร์ในถุงมาเปิดแล้วกระดกเข้าปากอึกใหญ่

    “ไอ้บ้านั่นรู้ใช่ไหมว่ามันกลับมาแล้ว”

     

    ชียองมองหัวเราะจนตัวงอตอนมองหน้าอีกฝ่ายบูดบึ้ง นึกถึงตอนที่เจอกันใหม่ๆตอนที่ฮอนชอลกับคนข้างๆทะเลาะกันด้วยเรื่องบ้าบอทุกครั้งที่เจอหน้า

     

    “นายทำให้ฉันนึกถึงวันเก่าๆนะโนชาง”

     

    เจ้าของชื่อยักไหล่แล้วแย่งกระป๋องเบียร์ในมือไปกระดกจนหมด สักพักแล้วที่เขากับโนชางกลับมาสนิทกันเหมือนเดิมแม้จะไม่รู้ว่าทำไมโนชางถึงได้กลับมาแต่ชียองก็บอกตัวเองซ้ำๆว่าดีแล้วที่ทุกอย่างกำลังจะเหมือนเดิม

     
     

    “แล้วนายชอบมันไหม”

     
     

    ชอบหรอ? ชียองเองก็ตอบไม่ได้หรอกมันเขาไม่ได้นึกพิศสวาทอะไรผู้ชายด้วยกันตั้งแต่แรกแต่ถามว่าปิดกั้นหรือเปล่าก็ไม่เหมือนกัน ความรู้สึกระหว่างเขาที่มีให้เจ้าบ้าฮอนชอลนั่นมันเลือนราง คล้ายกับความเลือนรางระหว่างเขากับโนชางนี่แหละ

     

    ไม่เป็นรูปเป็นร่าง ไร้ความชัดเจน ที่ยิ่งกว่านั้นมันเป็นไปไม่ได้

     

     

    “ฉันพูดตามตรงเลยนะ มันก็ดีที่มีฮอนชอลอยู่ในวงโคจรของฉัน แต่วงโคจรนั้นฉันก็อยากให้มีนายด้วย ฉันไม่ชอบเลยถ้าเราจะต้องเลือกแล้วต้องเสียคนที่สำคัญที่สุดเท่าๆกันไป”

     

     

    ชียองอยากอธิบายตั้งนานแล้ว เพราะเขาเคยปล่อยเอาไว้ให้โนชางกับฮอนชอลไปตีความเอาเอง สุดท้ายก็กลายเป็นว่ามันคือความห่างแม้ห้องเขากับห้องโนชางจะอยู่ตรงข้ามกันแต่เวลานั้นราวกับว่ามันอยู่ห่างกันไปหลายพันไมล์

     
     

    “ฉันไม่ได้ชอบใครเลย มันชอบแบบที่ว่าขอบคุณที่อยู่ในชีวิตฉันแต่ไม่ได้ชอบแบบที่อยากให้มาเป็นแฟนเข้าใจใช่ไหม”

    “นี่หมายถึงฉันหรือมัน” โนชางถามเสียงเครียด

    “ก็ทั้งคู่”

     

     
     

    กระป๋องเบียร์ว่างเปล่าถูกวางระเกะระกะอยู่ตรงหน้า ทุกอย่างกลับมาเงียบอีกครั้งเมื่อโนชางออกไปสักพักใหญ่ๆ ไม่มีบทสนทนาอะไรอีกระหว่างทั้งคู่ แต่ชียองคิดเอาเองว่านี่มันดีแล้วเพราะถ้าวันนั้นเขาเลือกได้ฮอนชอลก็จะได้คำตอบแบบนี้ บางทีหมอนั่นอาจจะเข้าใจแล้วก็ไม่ต้องหายไปแบบนั้นก็ได้

     

     

    ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจน

    ไม่ก็ชียองคนเดียวที่ทำให้มันชัดเจน

     

     

     

     

    #room

     

     

    ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมจูยองถึงได้ชอบหัวเราะเรื่องของเขานัก หมอนี่เอาแต่หัวเราะตั้งแต่เริ่มเล่าจนตอนนี้จบแล้วยังคงหัวเราะไม่เลิกไม่เห็นจะมีอะไรน่าขำ เรื่องมันดราม่าจะตายไปเพราะตั้งแต่เมื่อวันก่อนโนชางก็เงียบเหมือนเดิม ชียองไม่เซ้าซี้เขาไม่อยากจะอธิบายอีกแล้ว

     

               

    “ที่พูดออกไปนั่นโคตรจะดีเลย โนชางเองก็ฉลาดคงเข้าใจแต่นายก็ต้องเข้าใจหมอนั่นนะว่าความสัมพันธ์ที่มันเลือนรางมาตลอดพอชัดเจนแล้วไม่ได้เป็นแบบที่หวังก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดา”

     

     

    จูยองโหมดจริงจังทำเอาชียองหลุดขำขึ้นมาซะเฉยๆ เมื่อกี้ยังหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังแล้วก็มาพูดอะไรมีสาระไม่ขำก็แปลกแล้ว

     

     

    “ฉันรู้น่าอย่าทำเหมือนว่าฉันไม่เคยอกหักสิ ซูจียังเคยหักอกฉันเลยนะเว้ย”

    จูยองหัวเราะ

    “มันบ้ามากกับคนที่อกหักเพราะเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าตอนนี้ไปชอบซอลฮยอนAOA แล้วหรือไงกันวะ”

     

    ทั้งคู่เริ่มคุยกันเรื่องสัพเพเหระตั้งแต่เพลงเรื่องที่จูยองจะเข้ากรมในไม่ช้านี้ ไปจนถึงไอดอลหญิงวงใหม่ๆที่กำลังดัง

     

     

    “ขอผมคุยด้วยแป๊บนึงได้ไหม”

     

    คนที่โผล่เข้ามากลางบทสนทนาทำชียองตกใจชั่วครู่ ฮอนชอลหน้านิ่งสนิทปรายตามองจูยองก้มหัวให้เล็กน้อยแล้วหันมาจ้องชียองที่กำลังดันแว่นลู่ตกลงมาจนถึงปีกจมูกขึ้นไป

     

    “ไปสิ”

     

     

     

    ฮอนชอลจูงมือเขามาเรื่อยๆเหมือนอีกคนกำลังมองหาที่ดีๆสำหรับการพูดคุย ชียองไม่ขัดขืนเขาเองก็อยากจะคุยกับฮอนชอลให้รู้เรื่องเหมือนกัน หมอนี่ดูเข้มขึ้นแบบยังไงดีลุคดูโตขึ้นดูโตกว่าเขาที่แก่กว่าอีกมั้ง

     
     

    “ผมขอโทษ”

     
     

    ชียองแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งของตัวเองอย่างประหม่า ถ้าถามว่าโกรธไหมมันก็โกรธเพราะเขาเป็นห่วงฮอนชอลมาก จนเฝ้าตัวเองซ้ำๆว่าเป็นต้นเหตุถึงแม้ว่าจริงๆเขาอาจจะไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้ฮอนชอลหายไปก็เถอะ

     

    “ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันโคตรเด็กแต่ผมแค่ทนไม่ได้ ผมชอบพี่ตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้มันก็เป็นพี่มาตลอด”

     

    มือที่จับข้อมือของชียองเอาไว้สั่นจนรับรู้ได้ว่าอีกคนกำลังกลั้นน้ำตา ชียองไม่เลือกที่จะหันหน้าหนีอีกเขาขยับไปใกล้ๆยกมือขยี้กลุ้มผมสีดำสนิทของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น

     

     

    “ขอบใจที่ชอบกัน เมื่อวานโนชางก็มาบอกกับฉันแบบนี้”

    “หมายความว่าไง พี่คบกันแล้ว?

     

    ชียองส่ายหน้า

     

    “ฉันก็บอกว่าไม่ว่าจะกับหมอนั่นหรือนาย ฉันอยากให้เป็นคนสำคัญไม่ใช่ในแบบคนรักกันแต่แบบพี่น้องที่จะอยู่ข้างๆกันแบบนั้นพอจะเข้าใจไหม”

     

    ฮอนชอลเงยหน้าขึ้นกะพริบตาถี่ๆ ความอ่อนแอกลืนกินจนไม่เป็นตัวเองตั้งแต่วันนั้น ชียองไม่เคยทำเหมือนว่าชอบ ไม่เคยให้ความหวังด้วยซ้ำ ฮอนชอลเลยคิดว่ามันไม่ชัดเจนเลยสักนิดนึกโทษชียองซ้ำๆว่าอีกคนโลเล ไม่ชัดเจน  จนตอนนี้เป็นชียองที่ทำให้กระจ่าง



    “นายชอบฉันไม่ผิดเลยนะ แต่คิดสิว่าฉันไม่ได้ชอบนายมันก็ไม่ผิด”

    ฮอนชอลหัวเราะหึในลำคอ

    “พี่เคยอกหักด้วยรึไง”

    “คิดว่าฉันเป็นผู้ชายแบบที่ผู้หญิงชอบหรอ ไม่ได้หน้าเหมือนลีมินโฮซะหน่อยนะเว้ยไอ้บ้านี่”

     

     

    แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาเสียงดังจนตัวงอ มันบ้าบอชะมัดที่มายืนหัวเราะกันตรงนี้ทั้งที่เพิ่งจะพูดเรื่องจริงจังกันไปเมื่อไม่ถึงหนึ่งนาที และเริ่มต้นคุยกันเรื่องที่ฮอนชอลหายไป เรื่องเพลงของชียองและเรื่องคนในค่ายเรื่อยเปื่อยอยู่หลายชั่วโมง

     

    “กลับกับผมเลยไหมนี่มันก็ดึกแล้วพี่จูยองก็คงกลับไปแล้ว”

     

    ชียองเลิกคิ้วขึ้น

     

    “แต่ว่าที่พักเรามันคนละทาง”

     

    ฮอนชอลหัวเราะแล้วยกมือเกาท้ายทอยตัวเอง

     

    “ผมย้ายเข้าไปอยู่ข้างห้องพี่แล้ว”

    “นี่ล้อเล่นกันใช่ไหม?

     

    “จริง เมื่อเช้าโนชางฮยองยังมาช่วยผมขนของอยู่เลย เขาเล่าเรื่องของพี่แล้วด้วยแต่ผมอยากฟังจากปากพี่อีกเพื่อให้แน่ใจ”

    “แน่ใจเรื่องอะไร”

     

    ฮอนชอลยิ้มกว้างก่อนจะเอื้อมไปจับมือเรียวของชียองมากุม

     

    “ก็แน่ใจว่าต่อจากนี้ผมกับโนชางฮยองจะจีบพี่ จนกว่าจะติดเพราะฉะนั้นตอนนี้ผมก็นำโนชางฮยองไปก้าวนึงแล้ว”

     
     

    ชียองสถบด่าเสียงดัง

     


     

    “ฉันจะย้ายออก ไอ้พวกบ้านี่! จะจ้างแดอุงให้ดิสพวกนายให้หมดเลยคอยดูสิ!







     


    ROOM
    ##

    จบแบบงงๆ TvT มันเป็นฟิคงงตั้งแต่แรกใช้เวลานานมากในการแต่ง 
    ขอโทษจริงๆนะคะ คุณฮอนชอลกลับมาเราก็รีบแต่งตอนจบเมื่อกี้เลย 
    ไม่อยากให้จบแบบต้องเลือกแม้ลึกๆตอนนี้เราเชียร์คุณฮอนชอลมากกว่าคุณพระนิดนึง
    แบบคะแนน 52:48 อะไรงี้นะเลยให้บทจบที่คุณฮอนชอล แต่ก็ไม่เลือก
    โบอีเป็นคนกากเลือกได้เนอะ ฮื่ออ ตอนนี้ smtm5 แล้ว เชียร์ใครกันบ้างคะ
    เราขอทีมชุลกูโอปป้าเลยT_T คนอะไรแบบดีจัง แถมยังชอบซอตี้ด้วย ชุลกูอลที งึก
    จะกลับมาพบทุกคนใหม่ถ้ายังอยากอ่านอยู่นะ 555555555

    รักโบอีและชาวแรปเปอร์เรื่อยๆนะคะ รักเน้อ จุ๊บๆ

    #โบอีของทุกคน 



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×