ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SMTM : RAPPER ROOM ᕽ (ALL x GIRIBOY)

    ลำดับตอนที่ #7 : ᕽ ROOM 07 : LIKE

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 58





    ROOM 7

     
     



     








     

    ชียองนั่งแก้เพลงจนถึงบ่าย ในปากก็มีขนมที่ฮอนชอลซื้อมาฝากเพราะรู้ว่าอีกคนชอบกินขนมมากโดยเฉพาะพวกลูกอมและน้ำอัดลม ถึงจะบ่นอยู่บ่อยๆว่ามันทำให้ฟันผุชียองก็ไม่ได้สนใจแถมยังประชดอีกว่าถ้างั้นก็อย่าซื้อมาให้กินสิ เป็นอันว่าสุดท้ายฮอนชอลก็ตามใจนั่นแหละ

     

    เจ้าของขนมกลับไปตั้งแต่ตอนที่ชียองตื่น จริงๆเจ้าตัวดึงดันจะนอนที่นี่แล้วรอกลับพร้อมกันแต่เป็นชียองอีกแหละที่เอ่ยปากไล่ ใบหน้าหล่อสลดลงแถมยังบอกว่าชียองชอบผลักไสทำเอาคนพูดต้องแก้ต่างว่าก็แค่อยากให้นอนหลับสบายๆที่บริษัทวันนี้คนก็เยอะด้วย

     

    “ผมจะคิดว่าพี่ห่วงผม” ฮอนชอลทิ้งท้ายไว้แบบนั้น

     

    เสียงพูดคุยข้างนอกห้องทำเพลงทำให้ชียองขมวดคิ้วเข้าหากันจนคนนั่งข้างๆอมยิ้ม ซองบินเห็นสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ของรุ่นน้องตัวขาวมาตั้งแต่ตื่นจนถึงตอนนี้ ไม่อยากเดาแต่ก็คิดว่าถ้าเดาก็คงจะถูกว่ามันเป็นเพราะโนชางพาแฟนสาวเข้ามาที่นี่และแนะนำตัวกับทุกคนถึงเขาไม่ได้เจอเด็กหนุ่มข้างๆนี่บ่อยนักแต่ก็รู้แหละว่าอีกคนดูสับสนแล้วจากนั้นใบหน้าน่ารักก็บึ้งตึงไม่เลิก

     

    ซองบินก็เข้าใจดีแหละว่าชียองคงจะสับสนกับเรื่องของเพื่อนอย่างโนชาง เขาเห็นคนวงในพูดกันบ่อยๆว่าสองคนนี้มีอะไรที่พิเศษแต่ก็ไม่มีใครกล้าฟันธงว่าชอบกันหรอกเพราะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ ขนาดเขายังคิดเลยว่าหรือจริงๆสองคนนี้คบกันแบบแอบๆจนกระทั่งโนชางโผล่มาพร้อมแฟนสาวหน้าตาน่ารัก ยังไม่รวมถึงสายตาของชียองเวลามองโนชางกับฮอนชอลด้วยล่ะก็นะ

     

    “หิวข้าวรึยังเราน่ะ”  เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่นั่งนิ่งๆมาเกือบยี่สิบนาทีแม้เพลงจะแก้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

    คนถูกถามส่ายหัวไปมา

    “อยากนอนมากกว่าครับ” ชียองพูดเสียงเหนื่อยๆแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

     

    เมื่ออีกคนไม่พูดอะไรอีกนอกจากนอนฟุบอยู่แบบนั้นซองบินก็ทำได้แค่บีบไหล่เล็กนั่นเบาๆ เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

     

    “อ่าวแล้วโบอีอ่ะพี่” เป็นโนชางที่ถามขึ้นเมื่อไม่เห็นใครเดินตามหลังซองบินมาด้วย

    ซองบินยักไหล่

    “นอนอยู่แถมฝากบอกด้วยว่าอย่าเข้าไปกวน” คำพูดโกหกแต่ทุกพยักหน้าเข้าใจ “ฉันกลับเลยแล้วกัน”

     

    หลังซองบินกลับไปแล้วทุกคนก็ไม่ได้เข้าไปกวนคนที่หลับอยู่ในห้องอีกแม้กระทั่งแดอุงที่มักจะชอบแกล้งถ่ายวีดิโอตอนชียองนอนบ่อยๆเพราะวาสโค่ห้ามเอาไว้

     

    เวลาล่วงเลยมาจนเกือบมืดแต่คนที่นอนอยู่ก็ยังนอนอยู่แบบนั้นจนโนชางเป็นห่วง เขาไม่ได้สนใจคำพูดห้ามของวาสโค่เท่าไหร่เพราะยังไงตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วแถมชียองยังไม่ออกมากินข้าวเลยตั้งแต่เช้าจะบอกว่ากินขนมที่ฮอนชอลซื้อให้แต่เขามั่นใจว่ามันไม่มีทางอยู่ท้องหรอก

     

    มือใหญ่สะกิดแผ่นหลังที่นอนฟุบอยู่กับโต๊ะ คนถูกสะกิดเปิดเปลือกตาขึ้นมาแล้วใช้มือขยี้มันเบาๆก่อนจะเหลียวหลังกลับไปมอง ใบหน้าของโนชางดูเหมือนทุกวันแต่มีชียองนี่แหละที่รู้สึกตัวเองไม่เหมือนทุกวัน เขากลับมานอนฟุบกับโต๊ะเหมือนเดิมจนโนชางผลักหัวเล็กๆนั่นแรงๆ

     

    “ตื่นไปกินข้าวได้แล้วคนอื่นรออยู่” โนชางพูดแล้วขยี้กลุ่มผมสีดำของอีกคนจนยุ่ง

    “ไปกินกันเลย” ชียองไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาแต่ก็ตอบออกไปด้วยเสียงอู้อี้

    “อย่ามาดื้อดิ” ยังคงรบเร้าแม้ชียองจะนอนอยู่เหมือนเดิมจนกระทั่งอีกคนตะคอกออกมาเสียงดัง

    “อย่ามายุ่งดิ่วะ!

     

    เหมือนเสียงตะโกนจะทำให้หลายคนเดินเข้ามาดูด้วยความตกใจแต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรออกมาสักคน ดูจากสีหน้าโนชางตอนนี้ก็เหมือนกำลังโกรธสุดๆ แต่โนชางไม่ใช่คนที่จะมาโวยวายเสียงดังอะไรอยู่แล้วเป็นคนเฉยๆมากกว่าจะบอกว่านิ่งๆตอนโกรธก็คงได้

     

    หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ วันนี้มันกร่อยกว่าที่คิดเอาไว้ว่าจะพาไปเลี้ยงเปิดตัวแฟนสาวกลายเป็นมีแค่ไม่กี่คนที่ไปส่วนชียองก็หุนหันออกไปตั้งแต่ตอนนั้น ไม่มีใครกล้ารั้งไว้สักคนเพราะสีหน้าหงุดหงิดที่น้อยครั้งจะได้เห็นมันตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา วาสโค่บอกให้ปล่อยๆไปก่อนเพราะชียองอาจจะเครียดจากเพลงที่กำลังจะถูกปล่อยออกไปอีกในไม่กี่สัปดาห์

     

    #

     

     

    รู้สึกผิดมาก...

    ชียองสถบด่าตัวเองหลังจากเผลอหงุดหงิดใส่โนชางแถมยังไม่กล้าขอโทษอีก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงพูดแบบนั้นออกไปมันแค่รู้สึน้อยใจที่จู่ๆก็หายหัวไปแล้วกลับมาบอกว่ามีแฟน ชียองรู้สึกขนลุกที่คิดเรื่องรักๆใคร่ๆขึ้นมาแต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นคนอื่นเขาก็คงจะเฉยๆ ไม่สิ...ชียองแย้งอยู่ในใจนิดๆว่าอาจเป็นเพราะเครียดมากไปเลยพาลหงุดหงิดไปซะหมด

     

    “เดินเร็วจนผมเกือบตามไม่ทัน”

     

    เสียงทักของคนที่วิ่งมาดึงแขนเขาไว้ทำให้ชียองสะดุ้งนิดหน่อยเพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ เขาผลักหัวฮอนชอลแล้วถอนหายใจออมาเฮือกใหญ่

     

    “เห็นซีแจมบอกพี่ทะเลาะกับพี่โนชาง” คำถามของฮอนชอลทำให้ชียองต้องถอนหายใจออกมาอีกแล้ว

     

    เขาไม่ได้ตอบคำถามของรุ่นน้องคนสนิทเหมือนฮอนชอลเองก็เข้าใจและไม่รบเร้า แขนยาวกอดคอชียองให้เดินไปตามทางเรื่อยๆโดยไม่พูดอะไรออกมา นั่นมันทำให้ขียองสบายใจมากขึ้นกว่าการจมอยู่กับตัวเองคนเดียวแล้วคิดฟุ้งซ่าน บางทีก็นึกขอบคุณฮอนชอลที่เข้ามาถูกเวลาเกือบทุกครั้ง

     

    “ขอบใจนายมากที่ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น” ชียองพูดออกไปเสียงเบาแต่คนข้างๆได้ยินมันชัดเต็มสองหู

    ฮอนชอลอมยิ้ม

    “ถ้าพี่รู้สึกดีขึ้นเพราะมีผมข้างๆผมก็ดีใจนะ”

     

    ฮอนชอลหัวเราะกลบเกลื่อนเมื่ออีกคนนิ่งไป ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆชียองเคยรู้ไหมว่าตัวเองน่าสนใจสำหรับคนรอบข้างมากขนาดไหน ชียองไม่ใช่ผู้ชายที่หน้าหวานเหมือนพวกไอดอลซ้ำยังออกจะหน้าดูซื่อๆตามอะไรไม่ค่อยทันซะมากกว่าแต่ฮอนชอลมองว่ามันน่ารักดี แต่ถึงอย่างนั้นชียองก็ไม่ใช่คนจะมาสุภาพอะไรมากมายสำหรับตัวเขาที่เผชิญมาหลายครั้ง เหมือนว่าถ้าอยู่ใกล้ก็มีความสุขแบบนั้นมากว่า

     

    ชียองชอบเตะบอลใครๆก็รู้แต่ทุกครั้งที่ไปมักจะนั่งอยู่ข้างสนามมากกว่าออกมาเตะแบบจริงๆจังๆเหมือนคนอื่นๆ ฮอนชอลเองก็เคยถามว่าทำไมก็ได้คำตอบแบบง่ายๆ “ขี้เกียจ”

     

    นอกเหนือจากนั้นยังมีไอดอลสาวที่ชอบนั่นก็คือเบซูจีวงมิสเอ ฮอนชอลขำแทบตายตอนฟังชียองพูดถึงครั้งแรกว่าตัวเองออกจะเหมาะกับผู้หญิงแบบนั้น เขาไม่ได้พูดอะไรออกไปมากเพราะมันก็แค่ความชอบส่วนตัวแต่ใครจะไปคิดว่าจริงๆชียองชอบเธอจริงๆจังๆ

     

    “ผมถามจริงๆคิดว่าตัวเองเหมาะกับผู้หญิงหรอ” คำถามของเขาทำให้ชียองโมโหถึงขึ้นผลักหัวเต็มแรงแถมยังด่ามาซะยกใหญ่

     

    นี่ยังไม่นับไอ้เสื้อผ้าที่ชอบใส่อีก มันทำให้อีกคนดูเหมือนวัยรุ่นมากกว่าเขาเยอะมากกว่าใครในค่ายของเจ้าตัวอีกด้วยมั้ง แต่ฮอนชอลกลับชอบสไตล์ที่ชียองใส่ไม่ต้องมากแต่ก็ดูน่ามอง จริงๆก็คิดว่าอะไรที่เป็นชียองตอนนี้เขาก็ชอบไปซะหมดแหละมั้ง

     

    “ทำไมถึงไม่มีแฟนวะ” ชียองถามขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย

    “แล้วทำไมต้องมีด้วย ผมก็ชอบแบบนี้นะอยู่สบายดีจะตาย”

     

    คำตอบของฮอนชอลมันก็คงเหมือนคำตอบของตัวชียองเอง เขาชอบอยู่ไปเรื่อยๆถึงจะเป็นคนเรื่อยๆเขาก็มองสาวๆเหมือนกันไม่ใช่ว่าจะตายด้าน แต่ก็ยอมรับว่ายังไม่อยากผูกมัดและยังไม่พร้อมจะแต่งเพลงอกหักออกมาให้ใครฟัง

     

    “จริงๆผมมีคนที่รู้สึกดีด้วยแล้ว” ฮอนชอลพูดแล้วอมยิ้ม “แต่รู้สึกว่าเขาไม่เคยรู้ตัวเลยวะ”

     

    ชียองหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนข้างๆจนกระทั่งใบหน้านั่นหันมาจ้องตอบ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่เขารู้สึกว่าแววตาของฮอนชอลมันแปลกๆและตอนนี้มันก็แปลกจนเห็นได้ชัดเจนกว่าทุกๆครั้ง ชียองไม่กล้าเอ่ยถามว่าทำไมถึงได้มองกันแบบนี้ จริงๆไม่กล้าถามอะไรมากด้วยซ้ำ

     

    “นายก็บอกเธอไปซะสิ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธนายหรอก” ชียองเป็นคนเบนสายตาหนีออกไปก่อนแล้วพูดให้คำแนะนำที่คิดว่าดีที่สุด ฮอนชอลไม่ใช่คนขี้เหร่แถมยังมีเสน่ห์เมื่ออยู่ใกล้ๆขนาดเขายังคิดว่าฮอนชอลเท่และดูเป็นผู้ชายใจดีโดยเฉพาะเวลายิ้มออกมา

     

    “ถ้าผมมั่นใจแล้วผมก็ว่าจะบอกนะ” ฮอนชอลตอบ “แต่ตอนนี้ผมก็รอให้รู้ตัวซะทีเพราะผมแสดงออกไปเยอะแล้ว”

    “นายชอบเธอจริงวันนึงเธอจะเห็นเองแหละน่า”

     

    ชียองพูดออกไปแบบนั้นโดยไม่ทันเห็นว่าจริงๆแล้วบางอย่างในแววตาคู่นั้นกำลังจ้องมองตัวเองในแบบที่มันชัดเจนมากกว่าทุกครั้ง

     






    #

    มาสั้นและเรื่อยๆไม่เปิดตัวใครนะ ถถถถถ
    ขอให้ทีมฮอนชอลได้รุกบ้าง

    แท็ก #โบอีของทุกคน
     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×