คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : NEXT STATION ▶ I'M FINE THANK YOU | Double B
I’M FINE THANK YOU
DOUBLE B
เพราะเวลาเป็นสิ่งหนึ่งในโลกที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้
แช่แข็งไว้ไม่ได้ หยอดใส่กระปุกไว้ใช้วันพรุ่งนี้หรือวันต่อๆไปไม่ได้
มนุษย์ทุกคนบนโลกมักวิ่งแข่งกับเวลาเสมอ
โดยเฉพาะคนที่รู้ว่าอีกไม่นานเวลาก็จะผ่านเข้ามาเพื่อพาทุกสิ่งที่มีจากไป…
“ฮันบินไปเล่นบาสกัน”
จีวอนยิ้มร่าในมือกำลังถือลูกบาสสีส้มพลางใช้สายตากวาดไปทั่วห้องเรียน เพื่อนๆในห้องทักทีจีวอนอย่างเป็นกันเองเพราะจีวอนเคยอยู่ห้องนี้แต่โดนย้ายไปเพราะผลการเรียนที่ลดลง
“ฮันบินไม่มาโรงเรียน” จินฮวานพูดบอกเมื่อเห็นว่าจีวอนเอาแต่มองหาเจ้าของชื่อทั้งๆที่ก็เห็นอยู่ว่าในห้องไม่มี
“อีกแล้วอ่อเมื่อวานก็หยุด” จีวอนบ่นด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“ลองโทรไปถามดิ่”
“ไม่ดีกว่า ค่อยไปหาเย็นนี้ตอนกลับบ้านไปก่อนนะจินฮวาน”
จีวอนเดินไปสนามบาสคนเดียวอีกวันทั้งๆที่ปกติจะมีฮันบินคอยไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอแม้อยู่คนละห้อง แต่หลังๆฮันบินขาดเรียนบ่อยแถมจีวอนเองก็ติดเพื่อนกลุ่มใหม่มากเลยทำให้ห่างกันไป
บ้านทั้งคู่อยู่ซอยเดียวกันเพียงแต่บ้านฮันบินอยู่ท้ายซอยแต่บ้านจีวอนอยู่ปากซอย จีวอนเลยไม่ค่อยจะไปบ้านฮันบินเท่าไหร่เพราะส่วนมากจะให้ฮันบินออกมาตลอด บ้านจีวอนเปิดร้านอาหารมีฐานะปานกลางพอๆกับบ้านฮันบิน ทั้งคู่รู้จักตอนมอต้นตอนที่จีวอนย้ายมาอยู่ใหม่ฮันบินคือเพื่อนคนแรกของเขาทั้งในโรงเรียนและละแวกใกล้บ้าน
ออดเลิกเรียนดังบอกหมดเวลา นักเรียนในห้องต่างทยอยเก็บของลงกระเป๋าเสียงดังจอแจเช่นเดียวกับจีวอน เขาไม่ได้ตรงไปห้องเรียนฮันบินเหมือนทุกครั้งเพราะจำได้ว่าอีกคนไม่มาเรียน
“จีวอนเว้ยไปเกมที่ห้องกูป่ะวันก่อนที่มึงชนะกูนี่ยังข้องอยู่เลยนะ” มินโฮเอ่ยชวน
จีวอนทำหน้าครุ่นคิดเพราะใจจริงก็อยากจะไปหาฮันบินเลยแต่เขาก็อยากจะไปเล่นเกมกับมินโฮด้วยเหมือนกัน ความอยากอย่างหลังเหมือนจะชนะจีวอนพยักหน้าแล้วเดินตามกลุ่มมินโฮไป
กว่าจะเล่นเกมที่หอมินโฮเสร็จก็เล่นปาเข้าไปห้าทุ่มกว่าแถมจีวอนก็ลืมสนิทว่าจะแวะไปหาฮันบิน จีวอนไม่ใช่เด็กเกเรเขาไม่ได้โดนเลี้ยงมาแบบตามใจแต่เป็นพวกไม่ชอบให้กรอบมาบดบังความคิดตัวเอง พ่อแม่และครอบครัวทุกคนเลยเข้าใจและยอมรับถ้าลูกชายจะกลับดึกบ้าง ไปเที่ยวบ้าง คบเพื่อนคบฝูงพวกเขาก็รู้จักเพื่อนจีวอนเกือบทุกคนเพราะบ้านเปิดร้านอาหารเพื่อนๆเลยชอบมาจัดงานวันเกิด งานฉลองสารพัดกันประจำจนที่บ้านจำหน้าได้
เช้านี้จีวอนนึกขึ้นได้ตอนช่วยพ่อแม่จัดร้านเพราะเป็นวันเสาร์วันหยุดถ้าไม่ได้ออกไปไหนก็จะอยู่ช่วยที่ร้านเป็นประจำ จีวอนขอแม่ออกไปหาฮันบินที่ท้ายซอยโดยไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของผู้เป็นแม่เมื่อพูดถึงชื่อเพื่อนสนิทขึ้นมา
ออด
เสียงออดหน้าบ้านตอนเช้าทำให้คนที่กำลังนอนดูหนังอยู่หน้าทีวีรีบลุกขึ้น ฮันบินยิ้มกับตัวเองเมื่อมองเห็นรองเท้าของจีวอนผ่านประตูเข้ามา
“ทำไมหยุดเรียนสองวัน” จีวอนยิงคำถามทันทีที่เห็นหน้าฮันบิน
“ไม่ค่อยสบายแต่ตอนนี้ไม่เป็นไรมากแล้ว เข้ามาก่อนดิ่”
จีวอนนั่งลงบนโซฟาหน้าทีวีที่ประจำกวาดตามองหาพ่อแม่กับน้องสาวของฮันบินเหมือนทุกครั้งแต่ก็ไม่เห็น จึงเบนความสนใจมาที่เพื่อนสนิทตัวเองที่กำลังหาอะไรให้เขากินอยู่ในครัวเลยผละตัวเองจากโซฟาระเห็จไปดูฮันบินหาของกินในครัวด้วยเหมือนกัน ทั้งคู่นั่งกินข้าวอยู่ในครัวโดยที่วันนี้ฮันบินไม่ค่อยได้พูดเท่าไหร่มีแต่จีวอนที่ชวนคุยนู่นคุยนี่
“แล้วพ่อแม่มึงกลับตอนไหนวะ ถ้ากลับเย็นเดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อน” จีวอนถาม
“ไม่รู้ดิ่อาจจะเย็นๆนั่นแหละ”
“โอเค งั้นเดี๋ยวกูโทรบอกแม่แป๊บนึงนะ”
ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเกือบทั้งวัน จีวอนก็หลบมุมเล่นเกมในโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อยส่วนฮันบินก็เอาแต่นอนทั้งวัน ทั้งๆที่เมื่อก่อนถ้าอยู่ด้วยกันแบบนี้ฮันบินจะรบเร้าให้จีวอนออกไปข้างนอกด้วยกันไม่ก็ไปช่วยจีวอนที่ร้านซึ่งหลังๆมาฮันบินเอาแต่อยู่บ้านซะส่วนใหญ่
เสียงรถดังมาจากบ้านหน้าจีวอนรีบลุกขึ้นทักทายพ่อแม่และน้องสาวฮันบินอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะขอตัวกลับโดยไม่ได้ปลุกฮันบินเพราะเห็นว่าอีกคนกำลังหลับพริ้มอยู่
////
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของปีการศึกษานี้ ฮันบินกำลังรอจีวอนอยู่หน้าอาคารเรียนเพราะเจอกันตอนพักกลางวันจีวอนบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย สีหน้าจีวอนดูมีความสุขมากตอนพูดเรื่องนี้ฮันบินเลยอยากรู้มากว่าเรื่องที่จีวอนจะบอกคือเรื่องอะไร
“สอบเสร็จนานยัง”
ฮันบินส่ายหน้า
“มาก่อนมึงเมื่อกี้นี้เองแล้วมึงมีเรื่องอะไรจะบอกกูหรอวะ” ฮันบินเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“จำที่กูบอกว่ากูไปออดิ่ชั่นได้ป่ะที่บอกว่ามีออดิ่ชั่นตามหาแรปเปอร์ตัวจริงเมื่อเดือนก่อน”
“อื้อแล้วไงจะบอกว่ามึงติดรึไง น้ำหน้าอย่างมึงเนี่ยนะ” ฮันบินพูดตอบขำๆ
“เออดิ่ กูติดแล้วเว้ยที่กูจะบอกคือกูกำลังจะไปอเมริกาไปฝึกที่นั่นเจ๋งมากมึงว่าป่ะ มึงดิ่แม่งบอกจะไปกับกูพอวันออดิชั่นดันไม่มา เซ็งเลย” จีวอนบ่นอุบแต่ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มด้วยความดีใจ
“ดีใจด้วยนะเว้ย ทำตามความฝันให้ได้นะมึง”
เย็นวันนั้นที่บ้านจีวอนเลยจัดงานเลี้ยงเล็กๆเพื่อเลี้ยงส่งจีวอนก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางไปอเมริกาในอาทิตย์ถัดมา ทุกอย่างรวดเร็วไปตามกาลเวลาที่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไปจากวันเป็นอาทิตย์จากอาทิตย์เป็นเดือน จีวอนไปอเมริกาเกือบห้าเดือน
“ฮันบินอ่าอดทนหน่อยนะลูก”
ภาพเด็กหนุ่มผอมบางกำลังนอนอยู่บนเตียงนอนที่บ้านด้วยใบหน้าอิดโรย เส้นผมสีดำที่เคยปรกคลุมหนังศีรษะตอนนี้มีแค่หมวกไหมพรมสีน้ำเงินเข้มที่เจ้าตัวชอบใส่สวมทับอยู่บนหัว ดวงตาดุๆที่เพื่อนชอบบอกว่าคล้ายเสือตอนนี้มีแต่ความโศกซ่อนอยู่ในนั้น
“จีวอนติดต่อมาบ้างไหมครับแม่”
เธอส่ายหน้าด้วยสีหน้าเศร้าๆ ฮันบินพยักหน้ารับก่อนจะหลับตาลงด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน ฮันบินมักจะถามคำถามเดิมๆกับแม่ทุกครั้งหรือไม่ก็ขอให้เล่าเรื่องจีวอนที่แม่เขาได้ยินจากป้าจีวอนให้ฟังเพราะจีวอนไม่ติดต่อกลับมาเลยยกเว้นแค่สองเดือนแรก
ไลน์ยังคงมีข้อความที่อ่านแล้วไม่ตอบเหมือนเดิม
BobKim: สบายดี...แล้วนี่เป็นไงบ้างเห็นป้าบอกป่วยบ่อยดูแลตัวเองดีๆดิ่
Binkim: สบายดี ขอบคุณนะ…
มันยังคงขึ้นข้อความของฮันบินอยู่แบบนั้น...โดยที่จีวอนไม่ตอบกลับมาเลย
////
เกือบสามปีที่ผมไปอยู่อเมริกา ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ดีๆในช่วงชีวิตหนึ่งของผมและตอนนี้ผมก็กำลังจะกลับมาฝึกที่ค่ายเพลงอีกไม่กี่เดือนก็จะได้เดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัว เรื่องแย่ๆตอนอยู่ที่นู้นคือเผลอทำโทรศัพท์หายระหว่างไปเที่ยวกับพี่ๆที่ฝึกด้วยกันผมเลยไม่ค่อยได้ติดต่อเพื่อนเก่าๆ ตลกดีที่จู่ๆก่อนจะกลับเกาหลีผมดันนึกฮันบินซะได้ นานมากที่ผมไม่ได้ติดต่อมาและไม่ได้ข่าวฮันบินเลยไม่ว่าจากทางไหนหรือใครก็ตาม
ผมกลับมาที่บ้านที่ยังตั้งอยู่เดิมแต่ทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนเจริญขึ้น อ่อ...ผมลืมบอกไปว่าพ่อแม่ผมก็ย้ายไปอเมริกาด้วยเหมือนกันกิจการร้านอาหารเลยให้ป้าสานต่อ ครอบครัวผมยังอยู่ที่นั่นต่อจนกว่าผมจะเดบิวต์และมีเงินพอที่จะซื้อบ้านดีๆสักหลังให้ทุกคนอยู่
เย็นวันนั้นผมลองโทรไปตามเบอร์เก่าๆที่เคยเก็บไว้ในสมุดซึ่งเจอมันยังอยู่ในห้องนอนเก่าของผม โทรติดบ้างไม่ติดบ้าง ทุกคนแปลกใจที่ผมกลับมาก่อนจะพูดจาแปลกๆให้ผมสงสัยโดยเฉพาะจินฮวาน ผมไม่ได้เอะใจสักนิดว่าทำไมฮันบินถึงย้ายบ้านหลังจากที่ผมกลับมาแล้วไม่เจอครอบครัวฮันบินป้าผมบอกว่าพวกเขาย้ายออกไปเกือบสองปีแล้วและส่งอะไรบางอย่างให้ผมมันเหมือนแผนที่พร้อมจดหมายเก่าๆที่ถูกเขียนด้วยลายมือไก่เขี่ย ผมเปิดอ่านมันด้วยความอยากรู้
To…คิมบับ!
นายหายไปเลยนะจีวอนอ่าไลน์ไปก็ไม่ตอบกลับมาเลย คงจะมีความสุขจนลืมกันแล้วล่ะสินะ อยู่ที่นั่นปรับตัวได้ไหม ฝึกหนักรึเปล่าพักผ่อนบ้างล่ะนายชอบเอาแต่เล่นเกมไม่ก็อ่านหนังสือการ์ตูนอยู่เรื่อยเลย นายรู้ไหมบางครั้งฉันรู้สึกอิจฉานายชะมัดเลยจีวอนอ่าที่นายได้ไปที่นั่น ย๊า! อิจฉาจริงๆนะเนี่ยอยากจะไปที่นั่นพร้อมนายแต่ก็ไปไม่ได้ ฉันคงเขียนอะไรยาวๆให้นายไม่ไหวเอาเป็นว่านายดูแลตัวเองดีๆแล้วกันนะ ขยันซ้อมแล้วเป็นซุปเปอร์สตาร์ให้ได้ล่ะ หวังว่านายจะอ่านจดหมายฉบับนี้ในเร็ววันแล้วรู้ว่าฉันสบายดีเสมอขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคิมบับ
ฮันบินสุดหล่อ
“ฮันบินเสียแล้วตั้งแต่ที่จีวอนไปอเมริกาได้ห้าเดือน แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะฮันบินไม่เคยลืมจีวอนนะลูกเขายังฝากให้แม่ดูจีวอนตลอดเลยนะ”
น้ำเสียงสั่นๆที่ผมได้ยินจากแม่ฮันบินเหมือนเป็นข่าวร้ายที่สุดในตั้งแต่ผมเกิดมา ฮันบินไม่เคยพูดว่าเขาไม่สบายเขาไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นหนักขนาดนี้ ฮันบินอดทนมาตลอดโดยที่ผมเองอยู่ข้างๆฮันบินแต่กลับไม่รู้อะไรเลยหรือเพราะจริงๆผมไม่เคยใส่ใจ
ถ้าผมเอะใจสักนิดว่าคนที่ชอบเล่นกีฬาอย่างฮันบินกลับปฏิเสธที่จะเล่นมัน
ถ้าผมเอะใจสักนิดว่าทำไมฮันบินถึงไม่สบายและหยุดเรียนบ่อยๆ
ถ้าผมเอะใจสักนิดว่าทำไมฮันบินที่กินข้าวเยอะพอๆกับผมพักหลังๆถึงกินน้อยลง
ถ้าผมเอะใจสักนิดว่าทำไมวันหยุดเขาถึงเอาแต่นอนทั้งที่ปกติจะรบเร้าให้ไปข้างนอกด้วยกัน
ถ้าผมเอะใจสักนิดว่าทำไมกอดที่สนามบินครั้งนั้นฮันบินถึงได้ร้องไห้หนักมาก….
“ไหนนายบอกว่านายสบายดีไง...”
AND YOU
คย๊า... มันคือฟิคดราม่านะ T_T ซึ่งอารมณ์ถึงไหมไม่รู้
มันมีแรงบันดาลใจมากจากตัวเอง ช่วงนี้เราปวดหัวบ่อยมาก
ก็เลยคิดว่าถ้าวันหนึ่่งรู้ว่าตัวเองกำลังจะตายจะทำยังไงเลยคิดย้อนไป
สมัยเรียนมอปลายคือตอนนั้นสุขภาพดีมากทุกอย่างมีความสุขเลยอยากย้อนกลับไป
ในช่วงที่มีความสุขที่สุดที่คิดว่า ตื่นนอนกับวิชาคณิตแค่นั้นที่เราไม่ชอบในตอนนั้น
แต่เวลาก็คือเวลาพอมันผ่านเลยไปแล้วทุกอย่างคือความทรงจำ
บางครั้งเวลาวิ่งไปข้างหน้าในขณะที่เราอยากถอยหลังกลับ...
บางทีก็ชอบพูดกับตัวเองบ่อยๆติดปาก "ถ้า" วันนั้นทำงั้นคง ถ้าวันนั้นคิดได้ก็คงดี
ซึ่งมันทำไม่ได้ ไม่ใช่โนบิตะจะได้เปลี่ยนแปลงอนาคต สุดท้ายก็ต้องยอมรับและเดินต่อ
ความคิดเห็น