คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ᕽ ROOM 06 : ZICO
ช่วงนี้มันเป็นช่วงเวลาที่ชีวิตของชียองได้กลับมาสงบสุขอีกครั้งหลังจากที่โนชางหายหัวไปเกือบสามอาทิตย์และตอนนี้ก็แทบไม่ได้เจอกันเลยแม้จะอยู่ห้องตรงข้าม ซีแจมบอกว่าช่วงนี้โนชางกำลังมีงานเข้าทำให้เจ้าตัวอาจจะไปนอนบริษัทบ้างนอนบ้านคนนู้นคนนี้บ้างตามประสาคนเพื่อนเยอะ ก็คงไม่ต่างจากฮอนชอลรายนั้นก็งานเยอะพอกันจนแทบจะไม่กลับมาที่ห้องเลย ชียองรู้สึกเหงาๆหูไปบ้างแต่มันก็ดีที่ไม่ต้องมาคอยด่าเจ้าพวกบ้าสองคนนั่นข้อหากวนอวัยวะเบื้องล่าง
วันนี้ก็เหมือนทุกวัน ชียองทำงานเพลงในห้องเพราะอีกไม่นานเขาก็จะปล่อยเพลงแรกในฐานะแรปเปอร์ชื่อกิริบอยอย่างเต็มตัว ช่วงนี้ไม่ค่อยกดดันมากนักเพราะทุกอย่างเสร็จจนเกือบจะเรียกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ เหลือก็แต่ทำให้ดีที่สุด
“เฮ้! ชียอง” เสียงทุ้มตะโกนเรียกเสียงดังจากอีกฝั่งถนนจนคนที่เดินอยู่ต้องหันไปมอง
“อ่าวว่าไง” ชียองตะโกนกลับไปพร้อมโบกมือ
ซิโค่ข้ามถนนมาพร้อมเพื่อนกลุ่มใหญ่ บางคนก็เป็นสมาชิกในวงบล็อกบีแต่บางคนก็เป็นคนที่ชียองไม่คุ้นหน้ายกเว้นซงมินโฮ นักร้องคนดังที่กำลังเป็นที่นิยมอันนี้ชียองรู้จัก
“กำลังจะไปหาไรกิน ไปด้วยกันไหม” ซิโค่เอ่ยถามแล้วใช้มือโอบไหล่เล็กนั่นอย่างสนิทสนม
“อ่าเอาดิ่ หิวอยู่พอดี”
อาจจะแปลกใจว่าทำไมสนิทชียองกับซิโค่สนิทกัน จริงๆซิโค่ก็มีชื่อเสียงพอสมควรในวงการแรปเปอร์และสวิงส์ก็เป็นคนติดต่อให้ซิโค่มาทำเพลงกับเขามันเป็นเหตุผลว่าทำไมชียองสนิทกับซิโค่ แม้จะไม่ได้สนิทกันมากเท่าไหร่แต่ซิโค่ก็เป็นคนเฟรนด์ลี่ในระดับหนึ่งจะบอกว่าตลกก็คงได้ทำให้นั่นชียองไม่เกร็งมากนักเมื่อต้องทำงานด้วยและไม่อึดอัดใจมากนักที่จะเป็นเพื่อนกัน ซิโค่ไม่เรียกชียองว่าพี่และไม่คิดด้วยซ้ำว่าชียองน่ะจะอายุมากกว่าตัวเอง ชียองหน้าเด็กกว่ามิโนด้วยซ้ำไป
“งานไปถึงไหนแล้ว” ซิโค่เอ่ยปากถามคนที่นั่งกินเงียบๆทำตัวเป็นอากาศอยู่ข้างๆมิโน ชียองเป็นคนเงียบไม่รู้ว่าเป็นนิสัยหรืออะไรแต่มันขัดกับการเป็นแรปเปอร์มากๆในความคิดของเขาเอง แรปเปอร์ควรจะดูเท่ไม่ก็ดูดุดันบ้างแต่ไม่รู้ทำไมซิโค่มองไม่เห็นอะไรในตัวของชียอง
“ใกล้แล้วล่ะ ขอบใจนายมากนะที่มาร่วมงานด้วย” ชียองพูดแล้วยักคิ้วเล็กๆให้คนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ซิโค่หัวเราะเสียงดังเมื่อมิโนเลียนแบบท่าของชียอง
“เลิกแกล้งได้แล้ว” ซิโค่บอกมิโนที่เอาแต่ก่อกวนคนนั่งข้างๆไม่เลิกจนชียองขมวดคิ้วเป็นปม
“ก็พี่เขาตลกดี” มิโนยักไหล่พลางยิ้มกว้างออกมาเหมือนที่ชอบทำ “เอาน่าผมไม่แกล้งพี่แล้ว ยินดีที่ได้รู้จักนะ” มิโนเอื้อมมือไปจับมือข้างที่ว่างของชียองแล้วเขย่าก่อนจะปล่อยออก
บทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องเพลงและเรื่องไร้สาระดังอยู่เรื่อยๆไม่ขาดปาก ชียองไม่ได้พูดมากนักแต่ก็ตอบคำถามบ้างให้ทุกคนพอรู้ว่ายังมีตัวตนอยู่ตรงนี้ ส่วนมากจะเป็นซิโค่ที่ถามเรื่องคนนู้นคนนี้ในค่ายเสียมากกว่า
ชียองหาวหวอดๆออกมาหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คนปกติจะออกมานั่งกินข้าวเท่าไหร่เพราะปาไปเกือบจะตีสามแล้ว
“งั้นกลับกันเลยแล้วกัน พวกนายไปกลับกันได้นะ” ซิโค่เอ่ยถามเพื่อนคนอื่นๆ ทุกคนพยักหน้าแล้วล่ำลากันโดยที่มื้อนี้เจ้ามือก็คือซิโค่นั่นแหละ
ที่เจ้าตัวไม่ได้กลับพร้อมเพื่อนๆเพราะจะไปส่งชียองถึงจะโดนปฏิเสธแต่ซิโค่กลับดึงดันที่จะไปส่งให้ได้จนชียองต้องยอม ชียองไม่ได้จะกลับไปที่อพาร์ตเมนต์เลยเขาเลยอึดอัดที่ซิโค่จะไปส่ง เขาอยากจะเดินเล่นไปเรื่อยๆก่อนมากกว่าเพราะตอนนี้อาจเป็นเพราะชียองเริ่มติดนิสัยที่จะนอนตอนเช้าแล้วตื่นเอาอีกทีตอนเย็นไปซะแล้ว
“จริงๆไม่ต้องมาส่งฉันก็ได้นะ” ชียองเอ่ยปากพูดกับคนที่เดินขนาบข้าง
เหมือนซิโค่จะไม่สนใจประโยคในเชิงไล่ของชียองเท่าไหร่ เจ้าตัวยักไหล่ประมาณว่าไม่สนแล้วหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของคนข้างๆที่เริ่มจะเงียบลงไปอีกครั้ง
“บางทีฉันก็ส่งสัยนะว่าทำไมนายเงียบจังวะ”
คำถามของซิโค่เป็นคำถามที่ชียองตอบซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนรอบข้างจนเบื่อ ชียองคิดว่าตัวเองก็พูดมากในระดับหนึ่งแต่อย่างที่บอกเฉพาะคนที่สนิทเท่านั้นแหละ เขาไม่ใช่คนที่จะสนิทกับทุกคนง่ายๆไม่ใช่คนพูดเก่งหรือต้องมีปากมีเสียงไปซะทุกเรื่อง
ชียองยักไหล่บ้าง เขาเลียนแบบท่าทางของซิโค่ก่อนหน้านี้
“แต่มีคนบอกมาว่านายพูดมากเฉพาะคนสนิท” จู่ๆซิโค่ก็หยุดเดินแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง “มาสนิทกันไหมล่ะ”
มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้า ซิโค่เลิกคิ้วแล้วพยักหน้าเล็กๆเหมือนเป็นจะบอกว่าให้ชียองยื่นมาจับมือนี้ ชียองนิ่งเงียบไปนานจนคนที่ยื่นมือรอเริ่มรู้สึกใจแป้ว เพราะส่วนมากแรปเปอร์จะเป็นพวกเข้าถึงไม่ยากเท่าไหร่ทุกคนจะเหมือนๆกัน คือบางทีก็แซวกันดิสกันด้วยคำพูดแรงๆแต่ไม่มีใครโกรธเพราะรู้กันว่านั่นก็แค่ล้อเล่น บางทีช่องว่างระหว่างอายุยังไม่เป็นปัญหาในการทำงานด้วยซ้ำ
ซิโค่รู้สึกว่าครั้งนี้ชียองจะทำให้เขาแปลกใจมาก อีกคนนิ่งเงียบไปนานจนซิโค่ถอดใจ
“โอเค”
ชียองเอื้อมมือไปจับมือนั้นด้วยรอยยิ้มเล็กๆที่คิดว่าเท่ที่สุดแต่ในสายตาของซิโค่มันดูตลกซะมากกว่า มือทั้งคู่แยกออกจากกันแล้วแต่ซิโค่กลับยกมือขึ้นไปขยี้กลุ่มผมสีดำสนิทนั่นแล้วหัวเราะ
“ถ้าไม่ตกลงจะดิสให้ดู” คำขู่ของซิโค่ทำให้ชียองหัวเราะลั่น
“ฮ่ะๆ ดีเลยฉันจะได้ดัง” ชียองตอบกลับ
ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะไปซื้อเครื่องดื่มเย็นๆสักกระป๋องมานั่งคุยกันหน้าร้านสะดวกซื้อ ชียองกระดกน้ำสีใสในมือลงคอแล้วเป่าฟู่ออกมาด้วยความชื่นใจ ซิโค่ดึงกระป๋องเย็นเฉียบในมือไปกระดกบ้างทั้งๆที่ของตัวเองก็ยังถืออยู่ในมือจนคนข้างๆโวยวายเสียงดัง
“ไปซื้อมาใหม่เลยนะเจ้าบ้า” ชียองเห้วดังลั่นแล้วดึงกระป๋องสีแดงในมือของซิโค่มากระดกเอือกๆจนหมดกระป๋อง “เจ๊ากันแล้วนะ”
ไม่รู้ว่าทำไมซิโค่ถึงรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้ๆชียอง เพราะอีกคนเงียบแล้วเป็นผู้ฟังที่ดีตลอดเวลาที่ได้เจอกันหรือเป็นเพราะอีกคนยังไม่ได้คิดถึงเรื่องผลประโยชน์มากนักเลยคุยกันได้โดยไม่ต้องพะวง ไม่ใช่ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาจะดีไปซะหมด บางคนก็หวังแค่ผลประโยชน์บางคนก็แค่อยากจะมีชื่อเสียงเยอะๆ แต่เขาไม่ใช่คนคิดในเชิงลบเพราะยิ่งคิดลบในวงการนี้แล้วยิ่งอยู่ยาก นอกจากคนในวงและคนสนิทเก่าๆกับพี่ชายของเขา ก็มีชียองนี่แหละมั้งที่น่าจะคุยกันรู้เรื่องและสบายใจ
R O O M
ชียองให้ซิโค่กลับไปหลังจากคุยกันจนเกือบสว่าง ตอนแรกซิโค่ดึงดันจะไปส่งอีกคนถึงห้องแต่ชียองบอกว่าจะไปที่บริษัทก่อนจะกลับห้องทำให้ซิโค่ต้องยอมลากับอีกคนตรงนั้นแต่มิวายขู่ชียองเรื่องดิสถ้าหากอีกคนยังทำตัวไม่พูดไม่จาเหมือนเดิม ชียองโวยวายแล้วไล่อีกคนขึ้นรถไป
ไม่นานนักชียองก็เดินทางมาถึงบริษัทตอนนี้ก็หกโมงครึ่ง เขาเดินสวนกับซีแจมที่ออกมาซื้อกาแฟเหมือนซีแจมจะนอนที่นี่เมื่อคืน ชียองเอ่ยปากให้ซีแจมซื้อมาเผื่อเพราะขี้เกียจเดินย้อนกลับไปเมื่อคืนก็เดินทั้งคืนจนตอนนี้เริ่มปวดขาและอยากจะนั่งเต็มทน
“ไง” คนที่กำลังนั่งดูรายการอะไรสักอย่างทักชียองทันทีที่เขาร่างสังขารเข้ามา
ชียองหยุดอยู่กับที่แล้วผงกหัวให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟา
“พี่ซิโน่มาแต่เช้าเลย”
ใช่ คนที่นั่งอยู่คือบีนซิโน่หรือซองบินคนที่มาฟีทกับชียองอีกคนหนึ่ง ซีแจมเคยแซวเขาเกี่ยวกับอัลบัมที่จะออกว่าเหมือนเขาจะร่วมงานกับแรปเปอร์ทุกคนแล้วมั้ง ชียองก็ว่ายังงั้นเหมือนทุกคนจะใจดีกับเขามากกว่าที่คิด ในเมื่อเขายังโนเนมแต่ก็มีแรปเปอร์ใต้ดินหลายคนมาร่วมงานโดยไม่ได้แคร์ว่าเขายังใหม่
“ตาโหลมาเชียวยังไม่ได้นอนรึไง”
คนถูกถามพยักหน้าขึ้นลงเป็นคำตอบแล้ววางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะก่อนจะนั่งลงข้างๆซองบิน ซองบินปรายตามองเด็กผู้ชายข้างๆแล้วยกยิ้ม
“นอนไปก่อนก็ได้นะ สักแปดเก้าโมงค่อยเริ่มแก้เพลงกันใหม่”
ซองบินเห็นชียองโงนเงนเหมือนอยากจะหลับซะให้ได้ เจ้าตัวพยักหน้าแล้วทิ้งตัวลงกับที่พิงก่อนเปลือกตาขาวจะปิดสนิท เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้ซองบินรู้ว่าอีกคนหลับไปแล้วจริงๆทั้งที่เปลือกตาเพิ่งจะปิดด้วยซ้ำ
“เจอกันทีไรนายหลับใส่ฉันตลอดเลยนะ” เสียงทุ้มพูดเบาๆกับคนที่กำลังหลับก่อนจะลุกขึ้นจัดท่านอนของชียองให้สบายตัวกว่าเดิมแถมยังแอบลูบผมนิ่มๆนั่นอีกก่อนผละมือออกเมื่อได้ยินเสียงคนที่น่าจะเป็นซีแจมกับอีกคนซองบินคิดว่าคงเป็นวาสโค่
วาสโค่ทักทายคนที่นั่งอยู่ก่อนจะปรายตามองคนหลับแล้วหัวเราะ ซีแจมบ่นชียองเรื่องกาแฟที่ฝากให้ซื้อแต่มาชิงหลับไปซะก่อน ทั้งห้องเงียบสนิทมีแต่เสียงโทรทัศน์เครื่องใหญ่ที่กำลังฉายรายการวาไรตี้อะไรสักอย่าง ประตูถูกเปิดออกก่อนทุกคนจะหันไปมองคนมาใหม่ ไอออนที่หิ้วถุงอะไรสักอย่างเข้ามาพร้อมกับโนชาง
“ตั้งแต่เจ้าเด็กนี่เข้ามาอยู่ในค่าย หัวกระไดค่ายไม่แห้งเลยเว้ย”
มุกตลกของวาสโค่ทำเอาบรรยากาศเงียบกริบ…
R O O M T A L K
มาต่อแล้วนะคะหลังจากหายไปนาน
คิดถึงนางมาก T-T ช่วงนี้งานฟีทนางเยอะมาก555
ตอนนี้ลัดคิวให้ซิโค่เพราะชอบ ฮิๆ
จริงๆขอบอกคนที่มาอ่านแรปเปอร์ไม่ใช่คิตตี้เหมือนคุณซ้งทุกคน
ในเรื่องนี้เลยมีจินตนาการของเราประมาณ 99% อีก 1% คือความน่ารักของโบอีเอง
อ่านเอาสนุก อย่ามาแบบเฮ้ยไม่ใช่ต้องงั้นงี้ .. ฟิคนะจ๊ะ 555
แท็ก #โบอีของทุกคน
ความคิดเห็น