ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ iKON & WINNER ] NEXT STATION

    ลำดับตอนที่ #11 : NEXT STATION ▶ นักเลงคีย์บอร์ด | JUNCHAN

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 58






    นักเลงคีย์บอร์ด

    JUNHOE x CHANWOO

     








     

     




     

     

    นักเลงคีย์บอร์ดต่อหน้าไม่กล้าบอก

    แต่ถ้ามีคีย์บอร์ดจะกล้าพิมพ์ออกไป

    นักเลงคนหนึ่งพูดซึ้งเป็นกับเขาซะเมื่อไหร่

    พูดความรู้สึก พูดความในใจต้องใช้แป้นพิมพ์







     




     

     

    จุนฮเวอมยิ้มก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือลงใต้โต๊ะเรียน จริงๆมันเป็นข้ออ้างที่เขาอยากจะคุยกับเด็กต่างห้องก็เท่านั้น ไม่ได้เบื่ออะไรหรอกเพราะปกติเขาเองก็ไม่ชอบเรียนสักวิชาอยู่แล้ว จุนฮเวนั่งนึกถึงหน้าเพื่อนต่างห้องที่เขาแอดไลน์ไปโดยการขอมาจากเพื่อนอีกที โอเคตอนแรกยอมรับเขาไม่สนใจชานอูเท่าไหร่แทบจะมองผ่านด้วยซ้ำ ชานอูตัวสูงเกือบเท่าๆเขาแถมยังดูตัวใหญ่กว่าเขาอีก ไม่ใช่อะไรในอุดมคติเลยสักนิด

     
     

    แต่จะให้เล่าว่าทำไมตอนนี้ถึงชอบชานอูมันก็มีหลายเหตุการณ์ เมื่อห้าเดือนก่อนเขาเล่นบอลแล้วดันล้มจนเข่าถลอกพวกจีวอนเลยไล่เขามาห้องพยาบาล จุนฮเวไม่อยากจะขัดทั้งๆที่แผลแค่นี้มันไกลหัวใจไกลมากๆทำอะไรคนอย่างกูจุนฮเวไม่ได้หรอก แต่ก็ยอมมาโดยดี เขาเห็นชานอูกำลังจัดตู้ยาในห้องพยาบาลทั้งๆที่ตอนนี้ก็ใกล้จะเลิกเรียนแล้ว หมอนี่ดูตกใจเขานิดหน่อยตอนหันมาเจอแล้วถามด้วยสีหน้ายิ้มๆว่าเป็นอะไร เขาชี้ที่เข่าตอนนี้เลือดกำลังไหลออกมา ชานอูพยักหน้าก่อนจะหยิบกล่องยาแล้วเอามันมาทำแผลให้เขา

     

    จริงๆเรื่องแค่นั้นไม่ได้ทำให้จุนฮเวสนใจเท่าไหร่หรอกแต่ว่าหลังจากนั้นสองวันจุนฮเวบังเอิญเจอชานอูระหว่างทางขึ้นตึกเรียน ชานอูยิ้มให้(ทั้งๆที่ยังไม่รู้จัก)เขาไม่ได้ยิ้มตอบก็ทำหน้านิ่งๆเหมือนทุกครั้ง กับคนที่ไม่สนิทด้วยคงมองเขาโหดซะเต็มประดา แต่จริงๆก็แค่ไม่รู้จะยิ้มเรี่ยราดแบบจองชานอูไปทำไม แต่หลังเรียกเรียนบังเอิญเจอกันอีก คราวนี้ชานอูก็ยิ้มให้อีกเหมือนเคย

     
     

    คงคิดว่าน่ารัก

    ยอมรับก็ได้ว่าน่ารักและเริ่มสนใจชานอูขึ้นมานิดนึง

    จนไปขอไลน์จากเพื่อนมาแอดไปนั่นแหละ

    นิดนึงของกู จุนฮเว

     

     

    “คุยกับชานอูอีกแล้วดิ่ หน้ามึงงี้บานเชียวไอ้จุนฮเว” ฮันบินผลักหัวเพื่อนตัวสูงแรงๆแล้วหัวเราะออกมาเมื่อจุนฮเวส่งหน้าบึ้งๆตอบกลับมา

     

    “ขี้เสือกจริงๆเมียพี่แชมป์เนี่ย” จุนฮเวแขวะกลับ

     

    “กูไม่ใช่เมียพี่เขาเว้ย แค่แฟนป่ะวะพูดให้ถูกดิ่กูมีพ่อมีแม่นะ ใครจะเหมือนมึงอยากมีเมียแต่ไม่ยอมสารภาพสักที แอ๊บเป็นจุนเน่ๆอยู่ได้” ฮันบินพูดตอบแล้วทำลอยหน้าลอยตา เขาสู้จุนฮเวไม่ได้สักเรื่อง เพราะนอกจากส่วนสูง แรงเยอะ กินเก่ง แถมปากยังหมาจะมีก็แต่เรื่องของจองชานอูเพื่อนคนละห้องนี่แหละที่เอามาใช้เป็นการ์ดป้องกัน

     

    “แหมคิมฮันบินแฮดจริงๆนะครับ กูก็จะสารภาพไงแต่ก็ยังไม่พร้อม” จุนฮเวยักไหล่แล้วตอบปัดๆ

     

    “ปอดแหกชิปหายระวังเห่อะๆ พอเขารู้ว่าเป็นมึงเขาจะไม่คุยด้วยไอ้หมา”

     

    จุนฮเวทำน้ำเสียงฮึดฮัดแล้วเงียบไปมือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสไลค์ก่อนจะปลดล็อคแล้วจิ้มเข้าไปในแอพไลน์ ชานอูคงเรียนอยู่จริงๆแถมตอนเย็นก็ไปเรียนพิเศษอีกเห็นว่างแค่วันอาทิตย์ ทั้งเก่งทั้งขยันเขานี่โง่ไปเลย

     

     

    จุนฮเวไม่ได้แวะเถลไถลไปที่ไหนหลังจากเลิกเรียนนอกจากแอบดูชานอูจากบนตึกเรียนรอจนเห็นว่าขึ้นรถไปนั่นแหละถึงได้กลับ เพราะวิชาสุดท้ายเขาต้องปั่นงานจากอาทิตย์ที่แล้วส่งจนมือแทบหงิก จริงๆงานนี้เขาส่งกันจะทั้งห้องแล้วมีแค่เขานี่แหละที่ดองไว้ส่งวันสุดท้าย ปกติฮันบินก็ด่าบ่อยๆว่าเป็นพวกไฟรนก้นถึงอยากจะทำเอาจริงๆก็ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวป่ะในโลกนี้ที่เป็นแบบนี้ นักเรียนสมัยนี้ขยันสิแปลก

     

    กูจุนฮเวน่ะจัดอยู่ในพวกปกติชัดๆ

     

     

     

     
     

    #จุนชานนักเลงคีย์บอร์ด

     

     

     

    จุนฮเวมองนาฬิกาบนหน้าจอโทรศัพท์จะห้าทุ่มแล้วแต่ว่าชานอูยังไม่ทักกลับมาแม้จะทักตอบไปใหม่ จุนฮเวจำได้ว่าชานอูถ้าไปเรียนวันนี้จะตอบกลับตอนประมาณสามทุ่มแต่นี่เกือบสองชั่วโมงอีกคนยังคงเงียบ และนั่นมันทำให้เขานอนหงุดหงิดอยู่บนเตียง ถ้ามีเบอร์อยากจะโทรไปด้วยซ้ำจริงๆก็มีนั่นแหละติดอยู่อย่างเดียว

     

     

    ปอดแหกไงครับพี่น้องไม่กล้าโทร

     

     

    คิดอะไรไปสักพักตอนนี้จุนฮเวหลับไปแล้วและคืนนั้นชานอูก็ไม่ตอบไลน์กลับมาเลย

     

    จุนฮเวสะดุ้งตื่นก่อนนาฬิกาแม้ตายังไม่เปิดดีนักแต่มือก็คว้านหาเจ้าเครื่องมือสื่อสารบนหัวนอน พอหยิบมาก็เปิดเข้าแอพเดิมๆ แต่แค่ดูหน้าจอจุนฮเวก็เหี่ยวแล้วเพราะนอกจากฮันบินที่ไลน์มาย้ำเรื่องวันนี้มีเรียนคหกรรมกับรุ่นพี่มินโฮที่บอกให้เอากางเกงบอลไปเพราะวันนี้จะนัดซ้อมบอลจุนฮเวก็ไม่เห็นข้อความขึ้นว่าชานอูส่งมาเลย ร่างสูงรีบลุกจากที่นอนด้วยใบหน้าบูดๆตรงเข้าห้องน้ำอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันด้วยความรู้สึกแปลกๆ ก่อนจะได้ยินเสียงไลน์ดังจากในห้องเลยรีบล้างผมที่ยังมีแชมพูคาหัวอยู่

     

     
     















     

    จุนฮเวหัวเราะแล้วโยนโทรศัพท์ไว้บนที่นอนก่อนจะฮัมเพลงไปใส่เสื้อผ้าไปอย่างอารมณ์ดี ลืมมาหมดว่าเมื่อคืนบอกว่าจะไม่ตอบชานอู ก็กูจุนฮเวอ่ะใครจะทำไม

     
     

    แต่งตัวกินข้าวเช้าเสร็จตอนนี้ก็ใกล้ๆจะเข้าเรียนแล้วจุนฮเวถึงโรงเรียนพอดีกับตอนที่เข้าเรียน ฮันบินบ่นงุ้งงิ้งเรื่องที่เขามาสายปล่อยให้มันกินข้าวเช้าคนเดียวเพราะจีวอนต้องทำงานส่งอาจารย์แต่เช้า จุนฮเวไม่ได้สนใจฟังที่ฮันบินบ่นแต่ตาดุๆกำลังจ้องไปที่เด็กอ้วนที่ตอนนี้กำลังยืนคุยกับเพื่อนอยู่หน้าห้อง จุนฮเวมองก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยแต่พอชานอูหันมาสบตาจุนฮเวแกล้งเบนสายตาหนีแล้วทำหน้านิ่งๆเหมือนทุกที

     

    ทำหน้านิ่งทั้งๆที่ในใจเต้นตึกๆเหมือนจะหลุดออกมาให้ได้

     

    ชานอูเข้าห้องไปแล้วแต่จุนฮเวยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ร่างสูงส่งเสียงจิ๊จ๊ะในปากอย่างเสียดายเขายังอยากยืนมองหน้าเด็กอ้วนอยู่นะแต่เหมือนตอนนี้อาจารย์ห้องนั้นจะเข้าสอนแล้วมีพวกเขาฮันบิน ดงฮยอก ฮงซอกในกลุ่มนี่แหละที่ยังยืนคุยรออาจารย์มาไล่เข้าห้อง

     

     

    จะพูดคำว่ารักคุณต้องต่อด้วยหน้า J

    จะพูดคำว่าคิดถึงคุณต้องใช้ปลายนิ้วจิ้ม

     

     
     

     

     

     

    ตั้งแต่โดนจู่โจมด้วยการตอบกลับแบบนั้นจุนฮเวยอมรับเลยว่าวันที่ทั้งวันเขาเรียนไม่รู้เรื่องจนฮันบินต้องสะกิดเรียกบ่อยๆเพราะอาจารย์ชี้มาที่เขา ใบหน้าบึ้งๆตอนนี้มันยิ้มแบบหุบไม่ได้ อยากหุบนะแต่แบบทำยังไงไอ้หนังข้างแก้มก็ยังไม่ยอมลงมา

     

    จองชานอูมีอิทธิพลขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    “มึงท่าทางเพ้อๆนะจุนฮเว ตอนทำขนมไม่ต้องเสือกมาปรุงนะเว้ยเดี๋ยวกินไม่ได้” ฮันบินบอกตามหลังไป ทุกคนในกลุ่มพยักหน้าเห็นด้วย

     

    “เออน่าถึงกูไม่เพ้อมึงก็ไม่ให้กูทำอยู่แล้ว อยากฝึกเป็นเมียที่ดีของพี่บาบิก็บอกดีๆดิ่วะ ฮันบินนี่มันฮันบินจริงๆ” จุนฮเวหันมาตอบด้วยประโยคกวนๆเหมือนเดิม

     

    “ชานอูมาทำอะไรหรอ”

     

    จุนฮเวหันขวับเขาคิดว่าดงฮยอกแค่หยอกเล่นแต่ชานอูจริงๆยืนยิ้ม(อีกแล้ว)อยู่หน้าห้องคหกรรม จากหน้ายิ้มๆเมื่อกี้ตอนนี้ปากมันก็กระตุกลงมาส่วนตาขว้างขึ้นมาทันที

     

    “มาเรียนน่ะ อาจารย์ไม่ได้บอกหรอว่าวันนี้ห้องหนึ่งกับห้องสองเรียนรวมกัน” คำตอบของชานอูทำเอาจุนฮเวแทบจะโห่ร้องอยู่ในใจ ทั้งดีใจ ทั้งตื่นเต้น และประหม่ากลัวชานอูจะรู้ว่าเป็นเขา

     

    “อ๋อ งั้นไว้เราทำแล้วมาแลกกันชิมนะอยากกินฝีมือชานอูบ้าง” ฮงซอกพูดยิ้มๆ

     

    ชานอูพยักหน้า “โอเคเลย”

     

    ชานอูเดินเข้าห้องคหกรรมไปแล้วแต่จุนฮเวยังยืนแข็งเป็นหินอยู่หน้าประตู จุนฮเวเขย่าคอฮงซอกแบบเอาเป็นเอาตายเรียกเสียงฮาจากเพื่อนในกลุ่มได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหูแดงๆที่จุนฮเวใช้มือปิดมันน่าล้อซะให้เข็ด

     

    “มึงบอกเขาเลยดิ่ เวลานี้นะโรแมนติกไปยืนซ้อนหลังแล้วบอกว่า เราคือจุนเน่นะเชื่อกูว่าชานอูแม่ง”ฮันบินกัดปากพลางทำหน้าครุ่นคิด

     

    “ชานอูทำไมวะ”

     

    “เอามีดทำครัวเฉาะหน้ามึงไง” แล้วฮันบินก็คือฮันบินอีกครั้งคำตอบกวนประสาทแบบนี้ถ้าไม่อยู่กลุ่มเดียวกันและมันไม่ได้เป็นแฟนของจีวอน จุนฮเวสาบานต่อหน้ามีด เขียง เตาอบเลยว่าจะเอาเขียงปาใส่หน้ามันแทน

     

                คุกกี้กลุ่มเขาก็เหมือนเดิมนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ทำเพราะบ้านฮงซอกเปิดร้านขนมนั่นทำให้ทุกครั้งการได้คะแนนดีมันช่างง่ายแสนง่ายในวิชาคหกรรม จุนฮเวแอบมองชานอูตลอดคาบเรียนไม่ว่าอีกคนจะตื่นเต้นที่เอาคุกกี้เข้าไปในเตาอบ ตอนดีใจที่ขนมตัวเองออกมาน่ากินหรือตอนชิมของคนอื่น มันก็น่ารักในสายตาของจุนฮเวทั้งนั้น

     

    น่ารักจนอยากเกิดเป็นคุกกี้

     

    ก่อนจะกลับบ้านชานอูเอาคุกกี้มาแลกจริงๆตามที่ฮงซอกพูดไว้แถมยังใส่ถุงซะดูดี ฮันบินส่งต่อมาให้เขาถือก่อนจะหยิบของพวกเขาให้ชานอูบ้าง อีกคนร้องว้าวเมื่อเห็นว่ามันดูน่ารักแถมยังบอกว่าชอบไอ้ตัวทามามะที่ชานอูชอบนั่นเขาเป็นคนทำ ก็จุนฮเวจำได้ว่าชานอูบอกชอบไอ้ตัวนี้เพราะตามันโตๆคล้ายตัวเอง

     

    แต่กูจุนฮเวชอบชานอูนะรู้ยัง

     

    วันนี้ทั้งวันหลังจากเจอกันตอนกลับบ้านตามไปดูจนอีกคนขึ้นรถเขาก็ไม่ได้ตอบไลน์อะไรกลับไปมากแค่บอกอีกคนว่ามีธุระตอนเย็นอาจจะตอบกลับตอบมืดๆ ชานอูไม่เซ้าซี้ว่าจุนฮเวไปทำอะไรแค่ตอบโอเคกลับมา

     

     

    จุนฮเวเดินหอบแฮ่กๆกลับบ้านเพราะวันนี้มินโฮเล่นซ้อมซะหนักแถมพรุ่งนี้ตอนเย็นยังนัดซ้อมอีก ใจจริงก็อยากจะบ่นว่าซ้อมอะไรนักหนาแต่เขาไม่อยากโดนกัปตันถีบหัวส่งออกจากทีมตอนนี้หรอก จุนฮเวชอบเล่นกีฬา ชอบเล่นดนตรี แต่ไม่ชอบเรียน เป็นอันรู้กันว่าชอบทุกอย่างยกเว้นเรียน

     

    กระเป๋านักเรียนถูกโยนไว้บนโซฟาใกล้ๆแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาอีกตัว ยังไม่ทันจะขยับตัวไปไหนเสียงไลน์ก็ดังขึ้นมาซะก่อน

     

     

     






     

     

     
     

    จุนฮเวรีบตอบกลับไปอย่างเร็ว เขาไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้จะทำยังไงแต่พอเห็นอีกฝ่ายพิมพ์อะไรเศร้าๆกลับมามันก็รู้สึกไม่ดี ตอนนี้เขากำลังเอาเปรียบชานอูอยู่เพราะเขารู้จักชานอูเห็นหน้า โดยที่ชานอูไม่เคยจะเห็นหน้าเขาเห็นแค่ดิสที่เอารูปการ์ตูนมาตั้ง แต่ชานอูก็ยังยอมคุยมาเกือบทั้งเทอมโดยที่ไม่บ่นสักคำแม้ว่าจะพูดว่าอยากเจอแล้วเขาบอกยังไม่พร้อมชานอูก็เข้าใจ

     

     

                แล้วพรุ่งนี้ถ้าชานอูรู้ว่าเป็นเขาจะชอบไหมนะ

     

     

     

    #จุนชานนักเลงคีย์บอร์ด

     

     

     

    “ตกลงว่ามึงนัดเจอชานอูเย็นนี้ที่ข้างสนามบอล” ฮับบินพูดทวนพลางหัวเราะชอบใจ

     

    “หัวเราะอะไรของมึงวะกูเครียดนะเนี่ย ไม่รู้จะทำตัวไงวะแบบไม่รู้วะ” จุนฮเวตอบด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

     

    เมื่อคืนกว่าจะข่มตัวเองให้นอนหลับก็ปาไปเกือบสว่างแถมวันนี้ยังมาสายด้วยและยังไม่ได้ตอบไลน์ชานอูเลยตั้งแต่เช้า ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงกลัวขึ้นมาซะดื้อๆทั้งที่เห็นอยู่ว่าชานอูถึงไม่ปลื้มเขาก็ไม่น่าจะทำร้ายจิตใจกันสักเท่าไหร่ จุนฮเวยังเห็นสีหน้ายิ้มแย้มกว่าปกติตั้งแต่เช้าของชานอู ถึงอยากจะขอเลื่อนแต่ก็คงทำไม่ลง

     

    “อะไรวะมึงกูจุนฮเวเลยนะเว้ย คุยกันมาตั้งนานแล้วจะมาปอดแหกอะไรเอาตอนนี้ครับคุณ” ฮงซอกที่นั่งกินขนมอยู่บนโต๊ะเรียนโพล่งขึ้นมาเฉยๆไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแถมทุกคนยังพยักหน้าเห็นด้วย

     

    “ก็กูเขินหนิหว่า กลัวด้วย ไม่รู้ดิ่เจอหน้าชานอูทีไรกลไกของหนังหน้ากูแม่งชอบทำหน้ากวนส้นตีนเขาอ่ะ” จุนฮเวตอบก่อนจะซบหน้าลงกับโต๊ะเรียน

     

    ฮันบินกับฮงซอกหัวเราะกับท่าทางตลกๆ

     

    “เขาเรียกว่ากวนส้นตีนกลบเกลื่อนครับคุณกูจุนฮเว” ฮงซอกพูดพลางจับมือฮันบินเขย่าไปมา

     

    “มึงไม่ต้องเลย ต้องไปดูกูด้วยนะเย็นนี้กูกลัวว่าจะทำตัวไม่ถูก มีเพื่อนอย่างน้อยก็อุ่นใจ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาม สามคนสบายนะ สี่คนกำลังดีเลย”

     

    ถึงไม่ตกลงทุกคนก็กำลังนั่งปะปนอยู่บนอัฒจันทร์ในสนามบอลเพราะตอนนี้พักซ้อมครึ่งชั่วโมงจะซ้อมอีกทีตอนห้าโมงครึ่ง จุนฮเวนั่งจับโทรศัพท์แน่นกระสับกระส่ายไปมาจนเพื่อนๆที่อยู่ทีมเดียวกันแปลกใจนึกว่าไม่สบาย จนฮันบินต้องแก้ตัวให้ว่าจุนฮเวกำลังตื่นเต้น

     

     

     

     

    ถึงมือจะตอบกลับไปแบบนั้นแต่ตอนนี้จุนฮเวกำลังลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋า ตาคมมองชานอูที่นั่งอยู่คนเดียวบนอัฒจันทร์ ตาโตนั่นกำลังมองซ้ายมองขวาชะเง้อหาเขา แต่จุนฮเวกำลังกลัวแม้จะอยู่ใกล้ๆกันแค่นี้

     

    “จะเอาแบบนี้หรอวะจุนฮเว กูสงสารชานอูอ่ะมึงดูหน้าเขาดิ่มึงทำแบบนี้เขาอาจจะไม่คุยกับมึงอีกก็ได้นะเว้ย” ฮันบินจับไหล่จุนฮเวเอาไว้และตอนนี้เขาก็จริงจังและไม่พอใจมากที่จุนฮเวจะหนีไปเฉยๆโดยปล่อยให้ชานอูนั่งรอ

     

    “กูไม่พร้อมจริงๆวะฮันบิน กูปอดกูไม่กล้ากูบอกตรงๆเลย” จุนฮเวตอบเสียงเครียด

     

    “งั้นตามใจมึงแต่วันหลังถ้าจะทำไม่ได้ก็อย่านัดเขาดิ่วะ” ฮันบินพูดเคืองๆก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปหาจีวอนที่ยืนมองอยู่ข้างล่างของอัฒจันทร์ ส่วนคนอื่นๆก็ขอตัวกลับบ้านกันหมดหลังจากรู้ว่าเขาจะกลับ

     



     

     

     

     

    ชานอูนั่งก้มหน้าพลางถอนหายใจออกมา เขามองซ้ายมองขวาในสนามก็มีคนรุ่นเดียวกันเยอะแยะรุ่นพี่ก็เยอะแต่มีคนที่รู้จักอยู่ไม่กี่คน ตากลมโตหม่นลงเมื่อส่งไลน์ไปเท่าไหร่อีกคนก็แค่อ่านแล้วไม่ตอบทั้งๆที่ตอนนี้ก็ทุ่มครึ่งแล้ว

     

    จุนฮเวไม่ได้กลับแต่เขาอยู่ซ้อมบนจนเลิกตั้งแต่หกโมงกว่า พอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาก็พบว่าอีกคนไม่ได้นั่งอยู่บนอัฒจันทร์แล้ว จุนฮเวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเพราะเขาคิดไม่ออกจริงๆว่าถ้าชานอูยังนั่งรออยู่เขาจะทำยังไง จะรู้สึกผิดมากไปกว่านี้แค่ไหน

     

    มือหนาหยิบตัวทามามะขนาดเกือบฝามือออกมาดู ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนเสียงไลน์จะดังเตือนให้จุนฮเวต้องรีบหยิบขึ้นมาดู

     
     

     




     

    จุนฮเวหันขวับก่อนจะทำหน้าเหวอเมื่อเห็นว่าชานอูยืนทำหน้าตึงอยู่ใกล้ๆ

     

    “คะ...คือว่า..คือฉัน...” จุนฮเวพูดติดๆขัดๆเมื่อเห็นตากลมจ้องมองเขาในระยะใกล้ๆ

     

    “ตอนพิมพ์ล่ะเก่งพอตอนนี้ทำมาติดอ่าง ถ้าฮันบินไม่มาบอกเราก็ไม่รู้หรอกว่ากูจุนฮเวขี้ขลาด” ชานอูพูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆแถมยังเดินเข้ามาใกล้จุนฮเวจนอีกคนแทบอยากจะลงไปนอนดิ้น ทั้งมือทั้งหัวใจสั่นจนกลัวว่าอีกคนจะจับได้

     

    “ขอโทษนะ...คือว่ามันแบบยังไงดีวะแบบมันอธิบายไม่ถูก” ปากจะอธิบายไม่ถูกแต่หูสองข้างแดงแจ๋ก็พอทำให้ชานอูเข้าใจ

     

    “เขินก็บอกว่าเขินดิ่ หนีงี้แล้วเมื่อไหร่จะได้บอกชอบจุนเน่โดยไม่ต้องผ่านเจ้านี่สักที” ชานอูพูดแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแกว่งไปมา

     

    “ถ้าจุนเน่ไม่คุยเรากลับบ้านก่อนนะ แม่คงเป็นห่วงแย่เลยนี่ก็จะสองทุ่มแล้ว จุนเน่ก็กลับดีๆล่ะ”

     

     

    จุนฮเวมองแผ่นหลังที่ค่อยๆเคลื่อนออกไปช้าๆ ก่อนจะยกมือดึงทึ้งหัวตัวเองแรงๆด้วยความหงุดหงิด เวลาเห็นในละครพระเอกไม่ยอมพูดบอกรักนางเอกเขายังหงุดหงิดด่าพระเอกโง่จะเป็นจะตาย ตอนนี้เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไม

     

    “เอาก็เอาวะ ด้านได้อายอด กูจุนฮเวไฟท์ติ้ง” จุนฮเวพูดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะวิ่งตามชานอูไป

     

    “เด็กอ้วน!รอด้วยเดี๋ยวไปส่ง” ถึงจะตะโกนพูดแบบนั้นแต่ตอนนี้มือก็กุมมือของชานอูเอาไว้แน่น ถึงมันจะสั่นไปหน่อยแต่จุนฮเวก็รู้สึกดีกว่าที่คิดไว้มาก

     

    “ชานอูย่า”

     

    “ว่าไงจุนเน่” ชานอูหันหน้ามาพร้อมรอยยิ้ม

     

    “คือว่า...คือว่า...”

     

    “ชอบนะ”

     

    ชานอูหัวเราะก่อนจะพิมพ์อะไรบางอย่างในโทรศัพท์สักพักเสียงไลน์ของจุนฮเวก็ดังขึ้น

     


     

     














     

    J









     













     

    ADD

    โอ้ยยย เสร็จแล้ววว ขอบคุณป้าส้มนะฮ๊าฟสำหรับชานอู อิสอิส
    เวลาอาจจะไม่ตรงนะคะเพราะเราไม่ได้ทำ T-T
    เป็นฟิคที่ใสมากก ;w; คนชอบคู่นี้อาจจะไม่เยอะ แต่เราชอบ
    ชอบชานอูเคะะ ฮื่ออ น้องใส น้องน่ารักกก ><  ฮื่อออ
    จุนเน่ต้องเป็นนักเลงอยู่แล้วดูจากหน้านางนะคะ ..
    เม้นท์ด้วยก็ดี มีแท็กด้วยก็ได้  



    #จุนชานนักเลงคีย์บอร์ด




    © GRAYSCALE
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×