คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ᕽ ROOM 02 : IRON
เสียงอึกทึกครึกโครมดังอยู่เป็นเนื่องๆตั้งแต่ตอนสายๆ แต่ชียองไม่อยากจะลุกขึ้นไปดูสักนิดว่าข้างนอกตอนนี้มีอะไรกันแม้จะรำคาญมากก็เถอะ เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบสว่างแถมยังทำงานไม่เสร็จอีกทั้งๆที่หมกตัวทำตั้งแต่บ่ายของเมื่อวานจนถึงเช้าของวันนี้ ผ้าห่มผืนหนาถูกดึงขึ้นมาคลุมหัวจนมิดแต่มันไม่ได้ช่วยทำให้เสียงดังข้างนอกนั่นเบาลงเลย นั่นแหละถึงได้ตัดสินใจลุกขึ้นมองนาฬิกาที่ตอนนี้เหมือนจะเที่ยงกว่าๆแล้ว
หลังจากจัดการตัวเองตั้งแต่ล้างหน้า แปรงฟันและอาบน้ำเพราะเมื่อคืนไม่ได้อาบก็จัดการเลือกชุดสบายๆอย่างกางเกงกีฬาหลวมๆกับเสื้อยืดสีขาวตัวเก่งที่ชอบใส่เวลาอยู่ที่ห้อง เพราะต้องนั่งทำเพลงทั้งวันเลยคิดว่าการแต่งตัวธรรมดาอาจจะดีกว่าการแต่งเต็มยศเช่นทุกที
ออด ออด
เสียงออดหน้าห้องทำให้คนที่กำลังซ้อมแรปอยู่หน้ากระจกหยุดการกระทำบ้าๆบอๆ ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตู
“นึกว่านอนจนเป็นฟอสซิลไปแล้ว” โนชางเอ่ยทักพร้อมกลั้วหัวเราะเมื่อเจ้าของห้องส่งค้อนให้
“กว่าจะได้นอนก็เช้าเลย ง่วงจะตายอยู่แล้วเนี่ยแต่ทนรำคาญเสียงดังไม่ไหว ตกลงใครมาทำอะไร”
“มีคนย้ายมาอยู่ใหม่ ก็เป็นพวกใต้ดินนี่แหละ”
“ใครวะ ฉันรู้จักไหม” ถึงจะถามว่าใครแต่ก็ชะโงกหน้าออกไปมอง
นอกจากวาสโค่ที่ยืนสูบบุหรี่กับซีแจมที่ยกกล่องของอยู่ อีกคนชียองพยายามมองว่าใครก่อนทั้งคู่จะหันมาพร้อมกัน
“ไง เพลงไปถึงไหนแล้ว” วาสโค่พ่นนิโคตินออกมาแล้วเอ่ยปากถาม
“ยังไม่เสร็จดีเลยพี่ มันยังไม่ค่อยดี” ชียองตอบพร้อมรอยยิ้มแห้งๆเพราะเขาใช้เวลาทำเพลงแค่เพลงเดียวนานมาก ตั้งแต่เป็นสมาชิกคนใหม่ของค่ายนี่ก็เกือบเดือนแล้ว
“ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ปรึกษาได้ ไอ้โนชางก็ได้ อ่อ หมอนี่ก็ได้นะ” วาสโค่ชี้ไปที่ข้างในห้องที่อยู่ติดกับห้องของชียอง “เฮ้….ไอออน”
เจ้าของชื่อเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ ตาเรียวคมมองมาที่ชียอง ไล่สำรวจตั้งแต่ทรงผมหน้าม้ายุ่งๆที่ก็เป็นทรงเหมือนพวกนักร้องไอดอลไม่มีผิดเพี้ยน ชุดกางเกงวอร์มเสื้อยืดยิ่งทำให้คนตรงหน้าดูเด็กเข้าไปใหญ่ ถ้าไม่ติดว่าซีแจมบอกว่าคนนี้ๆอายุมากกว่าเข้าหนึ่งปีนี่จะไม่เชื่อจริงๆ
ทำไมถึงได้หน้าเด็กขนาดนั้นกัน
“นี่ไอออน หมอนี่ไม่ใช่คนในค่ายเราหรอก แต่บอกเลยว่าแรปเจ๋งสุดๆ”
ชียองฉีกยิ้มเล็กๆ
“หวัดดีครับ”
และนั่นทำให้ทุกคนหัวเราะกันออกมาเสียงดังลั่น โดยเฉพาะวาสโค่เขาขำจนตัวงอ
“โบอี นายแนะนำตัวได้เห่ยมากเลยวะ ทำตัวจี้อยู่เรื่อย” โนชางบอกขำๆ
“จะให้ฉันแรปใส่รึไงล่ะ ฉันไม่ได้บ้าแบบนายซะหน่อย” ชียองโต้กลับอย่างเคืองๆ ก็โนชางชอบพูดคำว่าเห่ย กรอกใส่หูเขาอยู่เรื่อย
“กิริบอย ยินดีที่รู้จัก” ชียองแนะนำตัวใหม่อีกครั้ง
“ไอออนยินดีเหมือนกันครับ” และไอออนก็แนะนำตัวกลับไปไม่ต่างจากชียองเท่าไหร่
สุดท้ายชียองก็ต้องออกมาช่วยยกของด้วยเหมือนกัน ไอออนย้ายมาใหม่และอยู่ห้องถัดไปจากชียอง เป็นห้องตรงข้ามกับวาสโค่ ส่วนซีแจมหมอนี่ไม่ได้พักที่นี่แต่มีบ้างที่จะมานอนกับโนชางบ้าง วาสโค่บ้าง แต่ตอนนี้คงจะไอออนอีกคนด้วยล่ะมั้ง
โนชางแย่งของจากมือชียองไปหน้าตาเฉยแต่จริงๆก็ดีเหมือนกันเพราะกล่องนั้นมันหนักเอาการอยู่ เดาว่าน่าจะเป็นรองเท้าเพราะสภาพกล่องไม่ค่อยใหม่เท่าไหร่ถ้าเทียบกับกล่องอื่นๆ
“เฮ้ย!โนชางทำไมต้องมาแย่งถืออยู่เรื่อยเลยวะ หยิบเองไม่เป็นไง๊”
ถึงจะถูกบ่นแต่เจ้าของชื่อยิ้มร่ายักไหล่ตอบมาอย่างกวนๆ แถมยังมีหน้ามาแย่งกล่องสุดท้ายไปจากมือชียองอีกต่างหาก
“มันก็เป็นหง่อยพอดี อะไรจะเทคแคร์ดีกว่าเมียอีกวะ” วาสโค่ที่ยืนมองอยู่นานสองนานพูดขึ้นมาจนทำให้ทั้งห้องหันมามองชียองเป็นตาเดียว
“ฟัค! ผมเป็นผู้ชายนะพี่” ชียองสถบลั่น เขาไม่ชอบบทสาวน้อยแบบนี้จริงๆ
“เออ ดูก็รู้ว่าเป็นผู้ชาย ไม่มีนม ตูดก็ไม่มี หนวดก็เขียว สิวก็มี มองเป็นผู้หญิงก็คงแปลก”
“แต่ก็เหมือนทอมอยู่นะครับ” คราวนี้เป็นไอออนที่แสดงความคิดเห็นขึ้นมา
“เงียบไปเลย!” ชียองสวนทันควัน
ไอออนยิ้มปนขำแม้อีกคนจะทำหน้าโหดๆใส่เขาแต่แปลกที่มันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยสักนิด มันคงจะตลกดีถ้าวงการแรปเปอร์จะมีแรปเปอร์ที่ใส่แว่น หน้าเด็กยังกับพวกนักเรียนมัธยม แต่ไม่ได้มีความดุดันอยู่เลยแม้แต่นิด
แล้วจะไปดิสใครเขาได้เนี่ย ไอออนคิดในใจ
“ไม่คุยแล้ว กลับไปทำเพลงดีกว่า”
ตั้งแต่กลับมาจากห้องข้างๆ ชียองก็นั่งจุมปุกอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้ฟ้าข้างนอกเริ่มจะเปลี่ยนสีไปแล้ว เขาไม่ได้สนใจอะไรเท่ากับงานตรงหน้า ตลกดีที่โนชางพูดจนเขาได้เงินก้อนแรกจากการทำงานเพลง(ที่ยังไม่เสร็จ)มาได้ ทำให้รอดเดือนแห้งความวิปโยคไปอย่างหวุดหวิด
นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องเร่งทำเพลงให้เสร็จเร็วๆ
แต่ถึงแบบนั้นก็เห่อะยังโดนรบกวนจากสมาชิกใหม่ของอพาร์ตเมนต์ที่มากดออดเรียกเขาพร้อมชูถุงต๊อกโบกีกับคิมบับ แถมยังถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องหน้าตาเฉย
“ผมซื้อมาเยอะเลยอยากชวนพี่กินด้วยกัน” ไอออนพูดพร้อมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา เมินเฉยต่อสายตาที่มองลอดออกมาจากกรอบแว่นสีดำสนิท
“ไม่อยากกิน” ชียองตอบห้วนๆ เพราะเขากำลังทำงานเพลงจนเกือบจะอินไปกับมันแล้วถ้าอีกคนไม่มาขัดซะก่อน
“ต้อนรับซะอบอุ่นเชียว” ไอออนพูดประชดแถมยังลุกขึ้นไปหยิบจานกับส้อมมาโดยไม่สนใจเจ้าห้องสักนิด
“ก็นายมาขัดจังหวะฉัน”
“หื้ม? อย่าบอกนะว่าพี่กำลัง..” ไม่พูดเปล่าตาเรียวคมยังจ้องต่ำลงมา
“ชิท! ฉันทำเพลงอยู่เว้ย หมดอารมณ์จะทำแล้วเนี่ย ให้ตาย”
“ผมช่วยไหมล่ะ ติดขัดตรงไหนอยู่”
“ไม่ต้อง”
เหมือนคำว่าไม่ต้องจะไม่มีผลต่อไอออนเลยสักนิด เขากำลังนั่งฟังบีทในเพลงพร้อมกับเสียงแรปสดๆที่ชียองแรปให้ฟัง ยอมรับว่าเนื้อเพลงนี้เป็นเพลงที่ดีถ้าชียองมีแฟนเขาคงนึกว่าอีกคนอยู่ในช่วงเลิกกับแฟน ไม่ใช่เพลงเศร้าแต่เป็นเพลงที่ดีมากๆเพลงหนึ่ง จริงๆมันก็ติดหูอยู่แต่เขาว่ามันยังขาดอะไรไป
“มันก็พอได้แล้วนะ แต่ผมว่าพี่น่าจะแรปใส่เข้าไปอีก ไม่ก็หาคนมาฟีทด้วยก็ได้”
“เคๆ ขอบใจนะ”
“แล้วพี่จะหาใครมาฟีท ถ้าเพลงผ่าน”
“โนชางมั้งไม่รู้วะ สักคนในจัส” ชียองตอบปัดๆเพราะเขายังไม่ได้คิดเรื่องจะได้ฟีทหรืออะไรทั้งนั้น
“ถ้าไม่มีก็บอกผมได้ ยินดีช่วยแบบไม่คิดค่าแรง”
R o o m
หลังจากนั้นสองวันเพลงแรกที่ทำถูกตรวจสอบจะเรียกว่าถูกวิจารณ์จากคนทั้งค่ายก็ได้ ทุกคนมีความเห็นคล้ายๆกันคือหาคนมาแจมให้เพลงดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โนชางออกความเห็นให้การเปิดตัวของชียองควรทำเพลงให้ได้เยอะกว่านี้เอามาเลือกว่าเพลงไหนควรเป็นเพลงแรกในการเปิดตัวแรปเปอร์คนใหม่ของค่าย แม้เพลงSkit จะเป็นเพลงที่ดีแต่อาจจะไม่เหมาะกับการเป็นเพลงเปิดตัวสักเท่าไหร่
แน่นอนว่าไอเดียของอัจฉริยะทุกคนเห็นด้วยหมด
เจ้าของเพลงก็ต้องเออออตามไปเหมือนกัน
“อยากทำงานเพลงกับใครมาที่สุดสามคนถ้าเลือกได้” โนชางที่กำลังจ้องแมคบุ๊กเอ่ยถาม
“สวิงส์ บีนซีโน่ วาสโค่”
คำตอบทำให้โนชางขมวดคิ้วหากันโดยอัตโนมัติ
“ได้ไง แล้วฉันล่ะ” ตาเรียวคมละจากหน้าจอจ้องมองเพื่อนร่วมค่ายที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือเขม็ง คนถูกจ้องเงยหน้าขึ้นมาหัวเราะก่อนจะยักไหล่ใส่กวนๆ
“แต่ไอออนก็บอกฉันว่าหมอนั่นจะช่วยโดยไม่คิดค่าแรง”
“แล้วที่พูดชื่อมาตัวพ่อทั้งนั้น” โนชางสวนทันควัน
“ก็นายแค่ถามนี่หว่า แต่ถ้าได้มาแจมก็คงจะดี”
บทสนทนาจบลงตรงนั้น เพราะต่างคนต่างอยู่ในโลกของตัวเองไม่มีใครเปิดปากอะไรออกมาอีกจนทำให้ห้องทั้งห้องเงียบสนิทจนกระทั่งซีแจมเปิดประตูเข้ามาพร้อมวาสโค่ ในมือคือกาแฟจากร้านดังใกล้ๆตึก เพราะอยู่ด้วยกันมาเป็นเดือนเลยรู้ว่าคนที่เอาแต่นั่งเงียบในโลกส่วนตัวทั้งคู่ชอบดื่มอะไร ชียองเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับวาสโค่ที่ยื่นแก้วกาแฟให้น้อยๆแต่คนยื่นให้กลับเอื้อมมือไปขยี้กลุ่มผมสีดำสนิทๆ
“ไอ้ลูกหมาเอ้ย”
และทำแบบนั้นด้วยความเอ็นดูล้วนๆ
talk:
นอกจากสั้นแล้วก็ไม่มีอะไรตามเคย ... 5555 เริ่มเปิดตัวพระเอกทีละคน
ใครเชียร์ฮอนชอลบ้าง rr
’ cactus
ความคิดเห็น