ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SMTM : RAPPER ROOM ᕽ (ALL x GIRIBOY)

    ลำดับตอนที่ #10 : ᕽ ROOM 09 : GIRIBOY

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 58




     

     






     

    ฝ่ามือเย็นเฉียบขึ้นมายามที่ฮงชียองมองเห็นผู้คนมากมายในคอนเสิร์ตเปิดตัวของเขา ถึงจะรู้ว่าหลายๆคนมาเพราะเป็นแฟนคลับของคนในค่ายตัวเองก็เถอะแต่มันก็รู้สึกดีจนต้องฉีกยิ้มออกมาคนเดียว มันเกินกว่าที่เคยคิดเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนั้นชียองแค่อยากจะเป็นนั่งแต่งเพลงโง่ๆที่ทำเพลงขึ้นมาโดยไม่รู้จักเบื่อ เขาเคยคิดว่าอยากเป็นแค่เบื้องหลังของความฝันมากกว่าการยืนอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้

     

    หัวใจของชียองเหมือนลูกโป่งที่กำลังล่องลอยแต่มันก็สั่นไหวเล็กน้อยเพราะความประหม่า ลูกโป่งที่กำลังจะลอยขึ้นฟ้า

     

    ให้เล่าถึงความคิดก่อนหน้านี้ของเขาสมัยยังไม่จบมัธยมปลายมันก็คงเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป แต่หนึ่งในนั้นคือเขาอยากจะเป็นนักร้องอยู่เหมือนกัน นักร้องในแบบที่ดีดกีตาร์แล้วร้องเพลงเท่ๆอยู่บนเวทีแต่มันคงไม่โอเคถ้าเขาต้องเป็นเพียงนักร้องเดี่ยวที่ยืนอยู่บนเวทีคนเดียวชียองคิดแบบนั้น เขาไม่มีความมั่นใจมากเท่าไหร่ในตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นมีความประหม่ามากกว่าตอนนี้อยู่เยอะจนคิดว่าการทำเบื้องหลังคงจะเหมาะมากกว่า เขาเล่นกีตาร์เป็นแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะแต่งเพลงตั้งแต่เข้ามหาลัยแทน

     

    แต่ถึงแบบนั้นก็ยังเคยร้องเพลงอยู่เหมือนกันเขามีเพื่อนที่เคยร้องเพลงด้วยกันตอนที่ยังเรียนอยู่มหาลัย เป็นเพื่อนที่เกิดรุ่นเดียวกันแถมยังมีแต่คนบอกว่าหน้าตาคล้ายกันอีกต่างหาก จะต่างก็ตรงความสูงของอีกคนนั่นแหละ

     

    ชียองหัวเราะเมื่อนึกถึงวันเก่าๆ เขากำลังจะเติบโตและเป็นที่รู้จัก ไม่เคยหวังว่าจะต้องดังอะไรมากมายเพียงแค่อยากจะทำเพลงแล้วมีความสุขกับมันเหมือนที่ทุกคนในค่ายเป็น

     

    มันคงเป็นวันที่มีความสุขที่สุด

     

     

    เสียงเพลงจบลงพร้อมกับเสียงโห่ร้องจากข้างล่าง ชียองยื่นมือออกไปจับมือกับใครหลายๆคนที่เขาไม่เคยรู้จักชื่อ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใคร เขาเห็นเพียงผู้หญิงบางกลุ่มโบกมือให้เขาหยอยๆจากข้างล่างนั่น

     

    “ขอบคุณๆ ขอบคุณนะครับ”  ชียองพูดมันใส่ไมค์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินลงไปข้างหลังเวทีพร้อมคนอื่นๆ

     

    โนชางกอดคอชียองเอาไว้แล้วดึงหมวกที่เจ้าตัวชอบใส่ออกมาใส่ไว้เอง เขาขยี้กลุ่มผมจนฟูฟ่องด้วยความยินดี

     

    “ขอบใจนะเว้ย” ชียองบอกแล้วฉีกยิ้มกว้าง

     

    ความรู้สึกที่อยากจะขอบคุณโนชางมีอยู่เสมอ อย่างน้อยเพราะหมอนี่เขาเลยได้มานี่ที่มีเพื่อนใหม่ มีครอบครัวใหม่และมีสิ่งใหม่ๆในชีวิต อย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังมีคนให้ปรับทุกข์เวลาที่รู้สึกไม่ดีและไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป

     

    ความฝันถูกเติมเต็มไปอีกแต่ทว่าชียองก็ไม่เคยจะหยุดฝันถึงอะไรที่มากกว่านี้หรอก เขาก็ยังอยากจะทำผลงานให้ดีแต่ต้องเป็นงานในแบบที่ตัวเองชอบด้วย

     

    ช่อดอกไม้ทำให้ชียองนึกขำขึ้นมาเมื่อมองมัน ไม่ใช่แค่ช่อเดียวมันมากกว่าห้ามั้งถ้ามองผ่านๆยังไม่รวมถึงอื่นๆอย่างเช่นเสื้อแบรนด์ที่เขาชอบ รองเท้าคู่ใหม่จากซองบิน หรือจะเป็นแว่นตาแบบที่เขาชอบจากฮอนชอล หมอนั่นยืนยิ้มอยู่หน้าตั้งแต่เช้าและทำตัวตื่นเต้นยิ่งกว่าชียองซะอีก ชียองไม่กล้าพูดออกไปได้แต่คิดในใจว่าฮอนชอลเหมือนลูกหมาถ้ามีหางกับหูเขาคงเห็นมันกระดิกแน่ๆ

     

    เสียงอึกทึกที่ดังมาจากข้างนอกทำให้ชียองหัวเราะ เสียงของจีโฮดังกว่าใครเพื่อนเลยด้วยซ้ำแต่ไอ้เสียงหัวเราะแหลมๆเล็กๆแบบนั้นมันคุ้นหูกว่าเสียงของจีโฮเสียอีก

     

    “ไง” เจ้าของเสียงหัวเราะเล็กๆนั่นยักคิ้ว

    “ซึงแทกมาได้ไงวะ”

     

    โอ ซึงแทก เพื่อนที่เคยร้องเพลงด้วยกันสมัยมหาลัย คนที่ใครๆก็บอกว่าคล้ายชียองมากๆจนเหมือนพี่น้องแตกต่างกันที่ความสูง ซึงแทกเป็นแรปเปอร์ที่เก่งเอาเรื่องอยู่เหมือนกันแต่ว่าก็ไม่ติดต่อกันตั้งแต่เรียนจบแล้วหลังจากเรียนจบซึงแทกก็เดบิวต์เป็นวงดูโอ้กับพี่อีกคนที่ชียองเองก็รู้จัก ฮวังมุนซอบเสียงโคตรดีแบบที่ว่าเข้ากันกับซึงแทกมากๆ

     

    “มาได้ไงไม่สำคัญเท่ากับทำไมไม่ชวนมาวะ ไม่ติดมาเลยโทรไปเบอร์เดิมก็ไม่ติด” ซึงแทกบ่นแต่ก็ยังยิ้มเหมือนทุกที

    “โทษทีวะ แต่ว่าขอบใจที่มานะฉันนี่โคตรดีใจเลย” น้ำเสียงที่พูดออกไปบอกแทนได้หมด “แล้วนี่บยอลมันไม่มาด้วยหรอ” ชียองถามถึงรุ่นน้องที่รู้จัก เอาเป็นว่าเป็นการรู้จักแบบห่วงโซ่จะว่างั้นก็ได้

    “เดี๋ยวมันตามมาทีหลัง” เป็นจีโฮที่ตอบคำถามนี้แทน

     

    ชียองยืนคุยกับจีโฮและซึงแทกเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งการมาของใครบางคนที่ทำให้ชียองไม่เข้าใจ แขนใหญ่กอดคอซึงแทกเหมือนสนิท

     

    “หมอนั้นชื่อฮยอนแท” จีโฮกระซิบเบาๆแต่มันดังก้องในหัวซ้ำไปซ้ำมาก็ไอ้ประโยคถัดมานั่นแหละ “สองคนนั้นเป็นแฟนกัน”

     

    เขาไม่รู้หรอกว่าเผลอทำหน้าแบบไหนออกไปตอนได้ยินแต่มันคงจะดูตลกมากที่ทำให้แดอุง ฮอนชอลและจีโฮขำจนตัวงอ แต่เขาตกใจมากจริงๆจนต้องเหลียวหลังกลับไปมองสองคนนั้นที่ยืนคุยกันอยู่ตรงประตู ฮยอนแทดูท่าทางไม่น่าจะชอบอะไรแบบซึงแทก จะให้อธิบายแบบไหนดีซึงแทกเป็นผู้ชายแบบว่าไม่ได้ดูบอบบางอะไรมากมันก็เหมือนเขานี่แหละแต่ทำไมฮยอนแทถึงได้ชอบ อันนี้ชียองก็ไม่รู้เฮ้ เขาสับสนจริงๆนะ สองคนนั้นดูไม่น่าจะเข้ากันด้วยซ้ำไปถ้าบอกว่าเป็นแฟนพี่มุนซอบ ชียองยังจะเชื่อมากกว่าอีก

     

     

    Room

     

     

    ร้านเนื้อย่างที่วาสโค่เป็นคนหามาถูกปิดหนึ่งวันเพราะฉลองให้กับเขา ชียองขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนวาสโค่บอกให้พอได้แล้ว ข้างๆชียองเป็นโนชางและฮอนชอล ฝั่งตรงข้ามเป็นจีโฮและคนอื่นๆวาสโค่ สวิงส์ เจ้าซีแจม แดอุง บยอล ฮยอนแท ซึงแทก

     

    เจ้ามือที่เลี้ยงคือเจ้าของค่ายที่ชียองอาศัยอยู่ด้วย ทุกคนรุมเอาใจแบบที่ว่ามันเกินไปไหม เนื้อย่างที่อยู่ในจานเขามันกองเป็นภูเขา มากขนาดที่ว่ากินหมดคงต้องน้ำหนักขึ้นแน่ๆ

     

    “เฮ้ยๆ โนชางพอแล้วๆนี่คิดว่าฉันจะกินหมดไหม” ชียองรีบเบรกให้อีกคนเลิกย่างเจ้าเนื้อพวกนั้นแล้วใส่มาในจานเขาสักที

     

    โนชางหัวเราะแล้วขยี้หัวอีกคนด้วยความเอ็นดู

     

    “นายก็ด้วยเจ้าบ้าฮอนชอล กินเองมั่งเถอะผอมจะตายอยู่แล้ว” ชียองบ่นแล้วคีบเนื้อในจานของตัวเองใส่ปากฮอนชอลด้วยความหมั่นไส้

     

    จีโฮหยุดชะงักตะเกียบที่ยืนไปคีบเนื้อหมูกลางอากาศ เขาเอาเข้าปากแก้เก้อก่อนจะหันไปค้อนฮยอนแทที่นั่งขำเสียงดังอยู่ใกล้ๆ

     

    “ขอบอกหน่อยเถอะว่าไม่ได้เป็นง่อยนะเว้ย ย่างกินเองเป็น” คำตอบของชียองทำเอาทุกคนฮาครืดทั้งโต๊ะ ซึงแทกเองก็ขำจนสำลัก

    “ก็พี่เป็นเจ้าหญิงของค่ายไง แบบใครๆก็อยากเทคแคร์” ซีแจมบอกขำๆแต่นั่นมันเรียกเสียงหัวเราะให้ดังกว่าเดิมอีก

    “กวนตีน” ชียองบอกเขาชูนิ้วกลางแถมให้ซีแจมด้วย

     

    ทุกคนดื่มกันจนเมามาย ซึงแทกเลยลากฮยอนแทกลับไปก่อนเพราะอีกคนเมาจนหน้าแดงแจ๋ อ่อ..จีโฮเองก็กลับไปพร้อมสองคนนั้นด้วย เหลือก็แต่พวกสมาชิกในค่ายที่เมาแอ๋อยู่ตอนนี้ส่วนชียองเองก็รู้สึกรึ่มๆเหมือนว่ากำลังจะเมาถ้าเขายังเผลอดื่มมันเขาไปมากกว่านี้

     

    ฮอนชอลน่ะดื่มจนสลบไปแล้วส่วนที่เหลือก็นอนแผ่อยู่ในร้าน ดีหน่อยที่มันเป็นแบบนั่งพื้นและไม่มีลูกค้าทำให้เจ้าของร้านอนุญาตให้นอนที่นี่เนื่องจากจะให้ชียองลากกลับคงไม่ไหว เขามองกางเกงในสีแดงที่แดอุงใส่มันบ่อยๆแล้วก็ขำออกมาคนเดียว

     

    “ขำอะไร” เสียงและสัมผัสที่เอวทำให้ชียองต้องก้มลงไปมอง โนชางเคลื่อนตัวมาหนุนตักเขาแล้วกอดเขาที่เอว

    “นายยังไม่เมา” ชียองเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เขาเห็นโนชางซัดเข้าไปเยอะมากพอๆกับฮอนชอลเลยด้วยซ้ำ

    “เมาแล้ว..เมามากด้วย” คำตอบของคนเมาทำเอาชียองขำ “เมาจนรู้สึก” เสียงของโนชางเริ่มเบาลงเรื่อยๆจนชียองต้องก้มลงไปนิดหน่อยเพื่อฟังมัน

     

    ว่านายน่ารักจังชียอง”

     

    คนเมาหลับคาตักไปแล้วแต่ชียองได้ยินมันชัดเจน เขาได้ยินที่โนชางพูดทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เคยจูบกันเมื่อหลายเดือนก่อน เขาใจเต้นพอๆกับคำพูดของฮอนชอลเมื่อตอนที่จับมือเขา ชียองไม่รู้ว่านี่มันจะตลกไปหน่อยไหม ไม่รู้ทำไมรู้สึกเหมือนถูกจีบ

     

    ถ้าพรุ่งนี้ตื่นมาเขาจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องกับคำพูดของโนชางเหมือนที่ทำใส่ฮอนชอล มันไม่ได้น่าขยะแขยงแต่ว่ามันแปลกๆนะ

     

    สองคนนั้นไม่ได้เหมือนเบ ซูจีเลยสักนิด

    แต่ทำไมชียองต้องใจเต้นแบบนี้กันนะ

     

     

     

     

    #

    แบบว่าเป็นฟิคที่ไม่ได้วางพล็อตอะไรตั้งแต่ต้น
    ตอนนี้ตันจ้า555555555555 T_____T กรี๊ด 555
    ไว้แต่งเรื่องอื่นแบบAU เนอะ เราถนัดเอยูมากกว่าอ้างอิงจริงๆ
    พระชอบละเมอมาแบบซึนๆอ่ะ เอาเป็นว่าอีก 6-7 ตอนอวสานแล้วนะ 555
    ตอนหน้าน้องตี้มาแล้วนะะะจ้าาา มาแบบไม่พิศสวาทคุณโบอีด้วยเข้ากับหน้าน้อง
    แท็กได้ #โบอีของทุกคน  

     

    ⒸQRD
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×