คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ᕽ ROOM 01 : NOCHANG
ชียองมองซ้ายมองขวาเพื่อมองหาใครสักคนเป็นเหยื่อที่จะมาช่วยเขายกกระเป๋าสามใบขึ้นไปที่ชั้นห้า ไม่ใช่ว่าทำเองไม่ได้นะแต่มือมันไม่พอที่จะลากกระเป๋าใบโตอีกใบขึ้นไปหมด จะลงมารอบสองก็ขี้เกียจแม้จะมีลิฟต์ก็เห่อะ
“เฮ้ ช่วยไหม” เสียงสวรรค์ดังขึ้นข้างหลัง หลังจากยืนคิดหน้าลิฟต์อยู่นานสองนาน
“ขอบคุณ” น้ำเสียงเล็กๆนั่นดูดีใจจนคนมาใหม่หัวเราะหึในลำคอก่อนจะแย่งกระเป๋าใบโตอีกใบในมือมาถือ
ลิฟต์ขึ้นไปเรื่อยๆแต่คนสองคนในลิฟต์ไม่พูดอะไรกันเลยแม้แต่นิดจนกระทั่งถึงชั้นที่อาศัยอยู่ โนลากกระเป๋าใบโตตามคนตรงหน้าไปจนกระทั่งหยุดที่ห้อง501 คีย์การ์ดแตะลงก่อนจะใส่รหัสไม่กี่ตัวที่เขาไม่ได้สนใจใคร่รู้ว่ามันคืออะไร
“นายย้ายมาจากไหน ดูของเยอะนะ” ร่างสูงเปิดประเด็น เขามองกระเป๋าสามใบใหญ่ๆที่ดูแล้วของข้างในคงไม่ใช่เล่นๆ
“โซลนี่แหละ แต่ที่เก่ามันเล็กของมันเยอะขึ้นเลยหาห้องใหญ่ๆ” ชียองตอบ
“งั้นฉันไม่กวนนายแล้ว” บทสนทนาถูกตัดจบดื้อๆจนคนที่กำลังรื้อหาของต้องหันกลับไป
“เฮ้! เดี๋ยวนายชื่ออะไร ฉันชียอง”
โนชางหลุดหัวเราะเมื่อเห็นเจ้าของห้องยื่นมือมาคอย ใบหน้านั่นดูงงๆมึนๆจนอดไม่ได้ที่จะคิดว่ามันมีผู้ชายที่ดูเรียบร้อยอยู่อีกหรอในเกาหลีใต้เนี่ย
“ฉันโนชางยินดีที่รู้จัก อ่อ...ห้องฉันอยู่ตรงข้ามห้องนายมีอะไรก็เรียกได้นะ”
ประตูปิดสนิทแต่รอยยิ้มเล็กๆยังประดับอยู่บนใบหน้า หัวใจเต้นตุบๆเหมือนจะลิงโลดกับเพื่อนคนใหม่หลังจากที่ไม่ได้มีเพื่อนใหม่มานาน เพื่อนเก่าๆก็พากันทำงานจนไม่มีเวลาเจอกัน เพราะชียองเป็นนักแต่งเพลงจะเรียกว่าไส้แห้งก็ได้ เพราะเขาไม่ได้โด่งดังอะไรเลย ส่วนเพลงที่ขายได้ก็พออยู่พอใช้ซื้อของไม่กี่อย่างก็หมด แต่อพาร์ตเมนต์นี้แม่กับพ่อออกเงินให้ก่อนเพราะตอนนี้เงินเก็บของเขาในบัญชีมีไม่พอที่จะประทังชีวิตถึงสิ้นเดือนนี้ด้วยซ้ำ
ข้าวของมากมายถูกจัดวางจนหมด กระเป๋าใบหนึ่งสำหรับรองเท้าแบรนด์ดังล้วนๆ ส่วนที่เหลือก็เป็นพวกเสื้อผ้าของใช้และแมคบุ๊กที่เอาไว้ใช้แต่งเพลงทำบีทและอื่นๆอีกมากมายตามประสาคนเหงา
กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จรวมถึงอาบน้ำแต่งตัวก็ปาเข้าไปมืดค่ำ เสียงท้องร้องโครกครากประท้วงให้เจ้าของหาอะไรใส่ท้องหลังจากที่กินแค่มื้อเช้าไปแค่นั้น กระเป๋าตังค์ มือถือ กุญแจห้องถูกเก็บใส่กระเป๋ากางเกงยีนสีซีด
แม้อพาร์ตเมนต์ที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ตอนนี้จะอยู่ใกล้ๆย่านความเจริญแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางทีมันน่ารำคาญเหมือนกัน เขาชอบแสงสี ชอบเสียงเพลง แต่ก็ไม่ชอบอยู่ในที่ๆคนแออัด ร้านอาหารหลายร้านในย่านนี้เต็มไปด้วยผู้คน
เพราะฉะนั้นร้านสะดวกซื้อจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
รามยอนหลายรสถูกหยิบลงตะกร้ารวมไปถึงน้ำอัดลมสีใสและขนมขบเคี้ยวต่างๆ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อเขาคิดไม่ออกว่าจะกินข้าวอะไรในร้านสะดวกซื้อนี้ดีเพราะอยากกินไปหมด
“เอาทูน่ามายองเนสดิ่ อร่อยนะ” เสียงทักทำให้ชียองหันไปแล้วก็เจอกับคนเดิม
“อ่าว มาหาอะไรกินหรอ”
“ใช่ ตอนแรกจะไปกินเนื้อย่างตรงหัวมุมแต่เปลี่ยนใจแล้ว ซื้อข้าวในนี้ไปกินเป็นเพื่อนนายดีกว่า”
จะตกลงหรือไม่ตกลงตอนนี้ชียองก็นั่งกินข้าวอยู่หน้าทีวีในห้องของโนชางแล้วล่ะ เพื่อนใหม่เขาดูจะรวยใช่เล่นดูได้จากรสนิยมในการเลือกของแต่งห้องรวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเข้ากันกับห้อง
“ปกตินายทำงานอะไร”
“ฉันหรอ แต่งเพลงขาย” ชียองตอบคำถามก่อนจะตักข้าวเข้าปากคำใหญ่จนสองข้างแก้มบวมเป่ง
“เจ๋งหนิ แล้วขายให้ใครล่ะ นายชอบดนตรี?”
ชียองพยักหน้า
“ใช่ฉันชอบดนตรีมากๆ เลยไม่มีจะกินอยู่แบบนี้ไง ฮ่า” เสียงหัวเราะแห้งๆ ทำให้โนชางอดเอื้อมมือไปตบไหล่ลาดนั่นไม่ได้
“อยากลองทำเพลงให้ฉันดูไหมล่ะ”
“นายเป็นเจ้าของค่ายหรอ”
“เปล่าเป็นแรปเปอร์กับโปรดิวเซอร์ ว่าไงสนใจไหม”
“ไม่รู้สิ ฉันไม่มั่นใจว่านายจะเชื่อมือฉันได้ฉันไม่ได้เก่งนะแต่ถ้าสนใจเพลงของฉันจริงๆ ... ขอเบิกล่วงหน้าได้ไหม”
คำตอบของชียองทำให้โนชางเลิกคิ้วสูง แล้วก็หัวเราะออกมาดังลั่นจนคนถูกหัวเราะทำหน้าเหรอหราด้วยความงงงวยกับท่าทางของร่างสูงที่ขำจนตัวงอ ชียองมั่นใจว่าคำตอบของเขามันไม่ได้น่าขำอะไรขนาดนั้นแต่ทำไมอีกคนถึงได้ขำขนาดนี้ก็ไม่รู้
“นายนี่ฮาชะมัดเลยวะ”
“หยุดหัวเราะได้แล้วน่า ฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ”
“ก็มันขำ โอเคๆฉันไม่ขำแล้ว ว่าแต่สเตจเนมของนายที่ใช้แต่งเพลงมีไหม”
“มีดิ่ ใครแต่งเพลงโดยไม่มีสเตจเนมมั่งล่ะเดี๋ยวนี้ ใช้ชื่อจริงเชยแย่”
“แล้วชื่อว่าอะไร เผื่อคุ้นๆหูบ้าง”
“กิริบอย เคยได้ยินมั่งไหม”
“ไม่ดังจริงๆวะ ไม่เคยได้ยินเลย” โนชางตอบแล้วก็ยิ้มเมื่อร่างเล็กส่งสีหน้าผิดหวัง
“ถ้าดังคงไม่กระเป๋าฉีกอยู่แบบนี้หรอก”
“โอเคครับคุณชียอง ผมผิดเองยกโทษให้กระผมด้วย”
ทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน โนชางยกมือขึ้นสองข้างบอกเป็นนัยๆว่ายอมแพ้ยิ่งทำให้ชียองยิ้มกว้างเข้าไปใหญ่ อาหารมื้อเย็นถูกกินจนเกลี้ยงโนชางอาสาที่จะเก็บมันไปทิ้งเองจนหมดและกลับมานั่งที่เดิม
ชียองก็กำลังสัปปะหงก
“เฮ้! นี่เพิ่งกี่ทุ่มเอง นายนอนเร็วหรอปกติ”
“เปล่า แต่วันนี้มันเหนื่อยๆ” ร่างเล็กตอบแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นปิดปากที่หาววอดๆ
“กลับห้องไปนอนเห่อะ เห็นแล้วสงสารเป็นบ้า”
“โอเคครับคุณ งั้นไปก่อนนะ”
ชียองยันตัวขึ้นจากโซฟาตัวใหญ่ เดินโงนเงนไปที่ประตูแต่ยังไม่ทันพ้นประตูห้องเจ้าของห้องก็เรียกให้หยุดซะก่อน
“เดี๋ยวก่อนๆ”
“ว่า?”
“พรุ่งนี้สิบโมงไปบริษัทฉันกัน ตกลงตามนั้น ฝันดี”
- R O O M 0 1 -
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้นายรอนะ แต่ว่าเมื่อคืนฉันกลับจากบริษัทเกือบเช้าเลย…”
ชียองพยักหน้าหงึกๆแต่หัวโยกไปตามเพลงในรถ เขาไม่ได้เป็นคนที่จริงจังขนาดนั้นก็แค่รอจนถึงบ่ายโมงก็เท่านั้น
“ไม่โกรธกันใช่เปล่าโบอี”
“หื้อ ไม่หนิเรื่องแค่นี้เอง”
“น่ารักมากครับคุณ แต่เรียกโบอีไม่ว่ากันนะ? เรียกชียองกลัวชินปาก”
“ตามสบายครับคุณโนชาง แล้วอีกไกลไหมกว่าจะถึง”
“ไม่ไกลเท่าไหร่ แถวๆกังนัม”
โนชางดูมีอะไรให้ชียองแปลกใจได้ตลอด โดยเฉพาะเพลงที่กำลังเล่นในรถเสียงดังกระหึ่มทุกเพลงล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือการทำของโนชางทั้งสิ้น จริงๆชียองเองก็เคยได้ยินสเตจเนมจีเนียสโนชางมาเหมือนกันเพียงแต่เขาไม่ได้ฟังเพลงของอีกคนจริงๆจังๆ ไม่ได้สนใจหน้าตาอะไรมากมายเพิ่งรู้ก็ตอนไปเปิดเว็บดูเมื่อคืนนี้เองว่าอีกคนเป็นคนดังพอสมควร
“นี่นายสนิทกับบีนซิโน่ไหม”
“ก็รู้จักบางทีก็มาทำเพลงร่วมกัน เจอกันตามงานบ้างทำไมหรอ”
“ฉันเป็นแฟนคลับเขาไง อยากเท่แบบนั้นบ้าง” คำตอบที่ได้ทำให้โนชางขมวดคิ้วเป็นปม
“ทีฉันล่ะบอกรู้จักผ่านๆ” ร่างสูงบ่นงึมงำปากเบะออกดูไม่เข้ากับบุคลิกเลยสักนิด
“เอาน่าต่อไปนี้ฉันจะเป็นแฟนเพลงของนาย วีไอพีเลยเป็นไง” ชียองตอบขำๆแต่ก็ทำให้คนข้างๆขำตามด้วย
“ห้ามคืนคำก็แล้วกัน”
รถจอดใกล้ๆตึกขนาดกลางมันเหมือนบ้านมากกว่าจะเป็นบริษัท โนชางสั่งให้ชียองตามเข้าไป เขากดรหัสหน้าประตูอย่างชำนาญก่อนจะเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของบริษัท
“โย่ว”
เสียงทักทายของโนชางทำให้คนที่ออกันอยู่หน้าทีวีขนาดใหญ่หันหลังกลับมามอง เหมือนทุกคนจะกำลังสนุกกับเกมแต่ตอนนี้ความสนใจกลายเป็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆโนชางไปแล้ว
“คนนี้หรอวะ”
“คนนี้แหละพี่ หน้าตาอาจจะไม่ถูกใจพี่เท่าไหร่” โนชางบอกขำๆ
คนโดนวิจารณ์ส่งค้อนให้โนชางก่อนจะโค้งให้กับคนที่คิดเอาเองว่าอาจจะเป็นเจ้าของค่ายล่ะมั้ง
“ผมกิริบอยครับ เอ่อ...ฝากตัวด้วย”
“นั่นสเตจเนมนายหรอ” คนที่ดูเหมือนจะเท่ที่สุดในนี้เอ่ยถามและหน้าดูคุ้นๆเหมือนจะเคยเห็นที่ไหน
“อ่า ครับ”
“เด็กน้อยชะมัดแต่ก็ติดหูอยู่”
ชียองตกใจมากเมื่อเขารู้ว่าคนที่วิจารณ์สเตจเนมเขาคือแรปเปอร์ใต้ดินในตำนาน แม้จะไม่ค่อยได้ฟังเพลงของคนอื่นเท่าไหร่แต่ก็พอจะรู้จักอยู่บ้าง แถมยังตกใจกับอายุที่เกินหลักสองไปแล้วอีกต่างหาก ยกเว้นก็แต่คนที่เด็กที่สุดในค่ายที่จำได้ว่าชื่อซีแจมอายุผกผันกับหน้าตาจนแปลกใจเหมือนกัน เด็กนั่นอ่อนกว่าเขาสามปี
แต่กับโนชางชียองก็ว่าหมอนี่หน้าตากับอายุก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอกมั้งนะ
“นายดูหน้าเด็กกว่าใครเลยนะ ขนาดเจ้านี่มันยังดูแก่กว่าเหลือเชื่อว่าเกิดเก้าหนึ่ง” สวิงส์พูดไปขำไป
“หน้าเด็กไม่พอแถมหน้าเอ๋ออีก” คราวนี้เป็นวาสโค่ที่พูดขึ้นมาบ้าง เอาเป็นว่ามุกนี้ไม่แป้กเรียกเสียงฮาจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
“นายพักอยู่แถวไหน หรือห้องเดียวกันกับโนชางมัน”
“เปล่าครับอาร์ตเมนต์เดียวกันแต่ห้องตรงข้าม”
“ดีเลย ฉันก็พักอยู่ที่นั่นเหมือนกันชั้นเดียวกันกับนาย มีอะไรจะได้คุยสะดวกๆ”
ทุกคนซักถามประวัติกันจนพอใจกว่าจะให้ชียองนั่ง เป็นโนชางอีกนั่นแหละที่ดึงมืออีกคนลงไปนั่งที่โซฟา ทุกคนดูเป็นกันเองผิดจากที่กลัวเอาไว้ โดยเฉพาะเจ้าของค่ายใจดีจนน่าเหลือเชื่อถึงจะชอบแซวเขาแรงๆให้คนอื่นขำก็เถอะ
“ยินดีต้อนรับสู่จัสมิวสิค ค่ายเพลงนรกที่ไม่มีโอทีมีแต่โอฟรี ถ้าทำงานไม่ดีเจ้าของค่ายก็ไม่จ่ายตังค์ เฮ้! ฮ่าๆ”
สงสัยเขาอาจจะตัดสินใจผิดก็ได้…
talk;
.. มันไม่มีอะไรเลยแค่อยากแต่งเนอะ .
’ cactus
ความคิดเห็น