ปกติพี่ปี4 จะไม่นัดปี 3 ประชุมถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น แต่จู่ๆวันนี้ก็เหมือนสายฟ้าฟาดผ่าน เมื่อพี่ปี 4 นัดให้ปี 3 มาประชุมกันที่ดาดฟ้าชั้นบนของคณะ กว่าที่อีทึกและคนอื่นๆจะมาถึงสถานที่นัด เพื่อนคนอื่นๆก็เริ่มทยอยมากันแล้วบางส่วน อินแจกับแฮยอนที่มาถึงก่อนล่วงหน้าไม่นาน ก็กำลังยืนคุยกับพี่รหัสของตัวเองอยู่ พี่จองมินที่เป็นพี่รหัสของแฮยอนนั้นยิ้มแย้มพูดคุยและเป็นกันเองกับทุกคนตลอด แถมยังใจดีมากๆจึงไม่แปลกที่ใครๆก็อยากได้เป็นพี่รหัส แต่น่าเสียดายที่ดวงแฮยอนดีเลยได้ไป ส่วนพี่รหัสของอินแจนั้น คือ พี่โบอา ที่มีความเชี่ยวชาญในภาษาญี่ปุ่น พอๆกับภาษาเกาหลีที่เป็นภาษาบ้านเกิด นอกจากนี้ยังเคยเข้าประกวดโมเดลลิ่งได้รางวัลที่หนึ่งมาด้วย อินแจเองก็เป็นสาวสวยน่ารัก และที่สำคัญ คือ น้องรหัสของอินแจเองก็เป็นผู้หญิง น่ารักเหมือนกัน ตอนนี้สายนี้ก็เลยมีแต่ผู้หญิง และได้ชื่อว่าเป็นสายที่มีแต่คนสวยที่สุด....
“คยูฮยอนนี่...” เสียงเรียกแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พี่ซองมี พี่รหัสของคยูฮยอนที่มีหนุ่มๆมากมายเข้ามาจีบ แต่พี่แกก็ไม่รับรักใครเลยสักคน จนเกิดข่าวลือตอนที่ได้คยูฮยอนเป็นน้องรหัสใหม่ๆว่า พี่ซองมีชอบน้องตัวเอง แต่ทำไปทำมา...ถึงได้มารู้ตอนหลังว่า พี่แกเป็นแฟนกับพี่สเตฟานี่ พี่รหัสของทงเฮ
“พี่ซองมี...ไม่ต้องเรียกผมแบบนั้น ฟังแล้วมันขนลุก ผมชื่อ คยูฮยอนเฉยๆครับ ไม่ต้องเติมคำลงท้ายให้ผม”
“ออกจะน่ารัก ทำไมถึงไม่ชอบนะ คยูฮยอนน้องพี่ เออ แล้วน้องสะใภ้พี่ไปไหนเนี่ย”
“น้องสะใภ้?” คยูฮยอนทวนคำอย่างงงๆ ซองมีพยักหน้า
“ใช่...น้องสะใภ้พี่...ก็แฮยอนไง” ซองมีบอก เมื่อเห็นสีหน้าของน้องรหัส คยูฮยอนยิ้มแห้งๆไม่รู้จะบอกพี่รหัสตัวเองยังไง
นี่ผมกับแฮยอนเหมือนคนรักกันมากเลยหรอครับ พี่ซองมี
“ผมกับแฮยอนเป็นเพื่อนกัน” หลังจากตั้งสติได้ คยูฮยอนก็บอกกับพี่รหัสตัวเอง ก่อนที่จะมีใครเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
“จริงอะ...อย่ามาอำพี่เลยนะ พี่ดูก็รู้ว่า พวกเธอชอบกัน”
“ไม่หรอกครับ พวกผมเป็นเพื่อนกัน พี่ซองมีคงไปฟังคนอื่นพูดมาผิดๆแน่ๆเลย”
“งั้นเหรอ?” ซองมีไม่แน่ใจ...ก็สายตาเธอนะมองออกนะว่าน้องตัวเองกับน้องจองมินรู้สึกยังไงต่อกัน แล้วทำไมถึงยังบอกว่า ไม่ได้คบกันละ??? ซองมีไม่เข้าใจ...กำลังเล่นอะไรกันอยู่ สองคนนี้?
“พี่ซองมีครับ”
“อ้าว ทงเฮ ว่างไง สบายดีมั้ย” เมื่อได้ยินเสียงเรียก ซองมีก็หันไปตามเสียงเรียก พบว่าเป็นทงเฮที่เรียกเธอนั่นเอง
“พี่สเตฟานี่ละครับ” ทงเฮถามถึงพี่รหัสตัวเอง ปกติ...จะต้องตัวติดกับพี่ซองมีตลอด แล้วไงวันนี้พี่ซองมีมาคนเดียวละ คงไม่ได้เลิกกันแล้วหรอกนะ
“ไปซื้อน้ำกับซันเดย์อยู่นะ เดี๋ยวขึ้นมา” ซันเดย์ที่ซองมีพูดถึง คือ เพื่อนร่วมชั้นของเธอ และเป็นพี่รหัสของจุนซูที่ใครๆในกลุ่มต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เอ๋อเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง
“นั่นไง พูดถึงก็มาพอดี” ฮยอนนยอที่หันไปเห็นรุ่นพี่ทั้งสองพอดีพูดขึ้น ทงเฮกับจุนซูหันไป เห็นพี่รหัสของตัวเองเดินคุยกันมาอย่างสนุกสนาน พี่ซองมีที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าเดินจากไปเมื่อไหร่ มารู้อีกที คือ พี่แกไปตัวติดกับพี่สเตฟานี่อีกแล้ว
“พี่เตฟ/พี่ซันเดย์” ทั้งสองหนุ่มต่างก็ส่งเสียงเรียกพี่รหัสของตัวเอง สเตฟานี่และซันเดย์โบกมือให้ ก่อนจะกลับมาคุยกันต่ออย่างไม่สนใจน้องรหัส ทงเฮกับจุนซูกอดคอกัน แล้วถอนหายใจ ชินแล้วละที่มีพี่รหัสผู้หญิงแล้วชอบเรื่องการเม้าเป็นชีวิตจิตใจ
“มีใครโทรตามฮีชอลยัง มันเป็นประธานชั้นปี 4 มันต้องมานะประชุมวันนี้ ไม่มาไม่ได้ ใครเพื่อนมัน โทรตามดิ” เสียงของรุ่นพี่รีอิน พี่รหัสของซอนจิน และเป็นรองประธานชั้นปีที่ 4 ตะโกนขึ้น เมื่อยังไม่เห็นหัวของท่านประธานชั้นปี
“เดี๋ยวมันมา อีกแป๊บ” ท็อปที่เป็นเพื่อนสนิทของฮีชอลตะโกนตอบกลับมา รีอินพยักหน้าหงึกๆแล้วหันกลับไปคุยกับเพื่อนๆต่อ สักพักฮีชอลก็เดินเข้ามา แต่แทนที่เค้าจะทักทายเพื่อนๆเค้ากลับเดินเข้าไปกอดฮยอนนยอก่อน แล้วจึงแวะเข้าไปยังวงสนทนาที่มีเพื่อนๆทุกคนรอเขาอยู่
“ประชุมกันยัง”
“ยัง รอนายนั่นแหละ” รีอินตอบกลับมา ฮีชอลพยักหน้ารับรู้ แล้วหันไปทางน้องๆปี 3 ที่เหมือนจะยืนรอกันนานแล้ว
“สวัสดีน้องๆปี 3 ที่น่ารักดูเหมือนพวกเราจะไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะครับ” ฮีชอลส่งเสียงกระแอมเบาๆ ก่อนจะเริ่มพูดขึ้นมาด้วยท่าทางที่กวนๆนิดๆ
“ประธานชั้นปีที่ 3 อยู่ไหนครับ”
“ผมเองครับ” อีทึกยกมือขึ้น ฮีชอลหันไปมอง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
เคยเป็นมั้ย เมื่อแรกเจอปุ๊บ ก็รู้สึกไม่ถูกชะตาเลยทันที
“นายเองเหรอ?” คำถามนี้ไม่รู้จะให้อีทึกตีความหมายไปในทางไหนดี เลยได้แต่พยักหน้าเบาๆเพื่อยืนยันอีกครั้ง
“คือที่พวกพี่นัดวันนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า ปีนี้พวกนายโชคดีมาก ที่มีทุนไปศึกษาต่อจากฝรั่งเศสมาให้ และเค้าต้องการนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ไปจำนวนทั้งหมด 6 คนด้วยกัน”
“รายละเอียดทั้งหมดอยู่นี่” ฮีบอน พี่รหัสของฮียอลเดินแจกเอกสารทั้งหมดที่มีอยู่ในมือให้กับรุ่นน้องแต่ละคน ในขณะที่ฮีชอลก็พูดต่อไปว่า
“ถ้าใครสนใจก็ให้มาติดต่อที่พี่...ให้เร็วที่สุด เพราะพวกพี่ต้องเสนอชื่อส่งอาจารย์อีก...เอกสารที่ให้ไป ถ้าใครมีอะไรสงสัย สอบถามที่ฮีบอนได้”
“ไม่มีอะไรแล้ว ก็แยกย้าย” ฮีชอลเห็นไม่มีใครพูดอะไรก็จะสั่งแยกย้าย แต่เสียงของคังทาก็ดังขึ้นมาก่อน
“น้องปี 1 เป็นยังไงบ้าง” คำถามนี้ทำเอาแต่ละคนได้แต่มองหน้ากันไปมา เพราะไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง เนื่องจากไม่ได้ลงไปสนิทคลุกคลีด้วยเหมือนกับปี 2
“ก็ดีครับ” อีทึกตอบตามที่ตัวเองเห็น คังทาพยักหน้าๆ
“อ่อ...ดีแล้วๆ ไม่มีอะไรแล้วก็แยกย้ายกันเถอะ” แต่ละคนเริ่มแยกย้ายกันไป ฮยอนนยอเดินเข้าไปหาฮีชอล
“พี่ฮีชอลลลล”
“ว่าไงยัยตัวเล็ก” ฮีชอลจับหัวฮยอนนยอโยกไปโยกมาอย่างเอ็นดู
“ทุนนี้ยากป่าววววว”
“ไม่ยากหรอก ลองดูสิ มันน่าสนใจนะ”
“อืม...ขอไปคิดพิจารณาก่อนนะ คุณพี่รหัส” ฮยอนนยอบอก ฮีชอลมองไปที่กลุ่มเพื่อนๆของเธอ
“เราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับประธานชั้นปีเหรอ ฮยอนนยอ”
“ค่ะ...ทำไมเหรอ พี่ฮีชอล?” ฮยอนนยอเอียงคอไปมา รู้สึกแปลกๆกับคำถามของพี่รหัสชอบกล
“อะ....อ่อ...เปล่าๆไม่มีอะไรหรอก แค่ถามดูนะ” ฮีชอลตอบ แต่สายตายังคงจ้องมองไปที่กลุ่มเพื่อนๆของฮยอนนยอ
“แปลกๆนะพี่ฮีชอล” ฮยอนนยอเดินย้ายตัวเองมาหยุดอยู่ข้างหน้าพี่รหัส ฮีชอลละสายตากลับมามองหน้าฮยอนนยอ
“ทำไมวันนี้เป็นเจ้าหนูจำมัยจังเลยนะ ยัยตัวเล็ก” ไม่พูดเปล่า แต่ยังเขกหัวฮยอนนยอไปอีกหนึ่งที
“ก็ปกติไม่เห็นพี่ฮีชอลเห็นจะสนใจเลยนิหน่า แล้ววันนี้ทำไมถึงได้.....รึว่า.....” ฮยอนนยอมองหน้าพี่รหัวตัวเอง
“รึว่า....รึว่า พี่ฮีชอลชอบอีทึก” พูดจบ ฝ่ามืองามๆของฮีชอลก็เขกไปที่หัวของฮยอนนยอ-อีกครั้ง
“ถึงพี่จะรู้ตัวว่าหน้าสวยเหมือนผู้หญิง แต่พี่ก็ไม่ได้มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกันหรอกนะ จะบอกให้”
“อ้าวว ก็เห็นเอาแต่มองไปทางกลุ่มเพื่อนฮยอนนยอ ไอ้เราก็นึกว่าพี่จะปิ๊งอีทึกซะอีก”
“ฮยอนนยอ” จู่ๆเสียงของพี่รหัสก็เปลี่ยนไป....ท่าทางก็ดูจริงจัง ไม่เล่นๆเหมือนตอนแรก
“อะไร พี่ฮีชอล”
“ผู้หญิงคนนั้น ชื่อ อะไร” ฮยอนนยอมองไปตามนิ้วของพี่รหัส และพบว่า คนที่ฮีชอลไปนั้น
“พักอายอง”
~~~~~ Friends ~~~~~
หลังจากกลับมาที่โต๊ะแล้ว ทุกคนก็เอาแต่นั่งมองเอกสารที่ได้มา ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“มีใครคิดจะไปลองสอบทุนนี้ดูบ้างมั้ย”
“นายจะสอบเหรอ คยูฮยอน” แฮยอนมองหน้าเพื่อนชายคนสนิทด้วยความรู้สึกน้อยใจ คยูฮยอนพยักหน้าหงึกๆ
“ถ้ามึงไปสอบ รับรองมึงได้ไปแน่ๆไอ้คยูฮยอน”
“มึงก็พูดเว่อร์ไปแล้ว จียง กูไม่เก่งขนาดนั้นหรอก แค่ลองสอบดูเฉยๆ”
“แล้วถ้าสอบได้จะไปมั้ยละ” คำถามของแฮยอน ทำเอาคยูฮยอนนิ่งไปนิดนึง แฮยอนกัดริมฝีปากจนมันเจ็บไปหมด แต่นั่นก็ไม่เท่ากับหัวใจ ที่มันกำลังร้องไห้อย่างเงียบๆ
“ฉันขอตัวก่อนนะ” แฮยอนลุกขึ้นจากโต๊ะ อินแจมองตามอย่างเป็นห่วง
“จะไปไหนนะ แฮยอน”
“ไปเรื่อยๆ” แฮยอนตอบ แล้วฝืนยิ้มออกมา ก่อนจะเดินออกไป ทุกคนหันมามองคยูฮยอนเป็นจุดเดียว
“ไม่ตามไปเหรอวะ” ซีวอนถาม คยูฮยอนส่ายหน้า แล้วก้มลงดูเอกสารในมือต่อ....ไม่มีใครรู้เลยว่า เค้ากำลังคิดจะทำอะไร
“นี่พวกแกสองคนดูหนังอินเดียมากไปรึเปล่า...เฮ้ย เรื่องหัวใจ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องวิ่งหนีนะเว้ย ไอ้คยูฮยอน”
“กูอยากอยู่เงียบๆ ขอตัวนะ” ดูเหมือนที่จุนซูพูดไปนั้นจะไม่เข้าถึงโสตประสาทของคยูฮยอนเลยแม้แต่น้อย เพื่อนๆพากันถอนหายใจ แล้วปล่อยให้คยูฮยอนไปตามที่ต้องการ
“ฮยอนนยอ...นั่นใช่พี่ฮีชอล พี่เทคเธอรึเปล่า” เสียงของซอนจิน ทำให้ฮยอนนยอต้องหันไป ก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ
“เมื่อกี้ก็เพิ่งเจอกันไม่ใช่เหรอ” ซอนจินถามอย่างแปลใจ ฮยอนนยอยักไหล่ แล้วลุกขึ้นไปพาพี่เทคเข้ามาที่กลุ่ม
“ว่างกันรึเปล่า” ฮีชอลถาม พร้อมกับกวาดสายตาอมองไปที่ทุกคน “พอดีพี่มีเรื่องอยากให้พวกเราช่วยหน่อยนะ”
“มีเรื่องอะไรเหรอพี่ฮีชอล” ฮยอนนยอแกล้งถามเสียงใส แต่บนในหน้านั้นกลับมีรอยยิ้มบางอย่าง ที่จียองเฝ้ามองอยู่....รู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากล
พี่น้องสองคนนี้จะเล่นอะไรกัน?
“พี่จะมาขอให้พวกเราไปช่วยงานพี่ที่สโมหน่อยนะ ว่างกันรึเปล่า” ฮีชอลพยายามไม่สนใจท่าทางแปลกๆของน้องเทคตัวเอง สายตาของเค้ามองไปยังเพื่อนๆทุคนของฮยอนนยอ เหมือนกำลังวัดดวง
เดิมพันครั้งแรก จะล่ม...หรือรอด
“แล้วพี่ฮีชอลต้องการกี่คนละ”ฮยอนนยอยังยียวนกวนพี่รหัสตัวเอง ฮีชอลนึกอยากจะฆ่าน้องรหัสที่แสนรักนักรักหนาก็วันนี้แหละ
“พี่อยากให้ไปกันหมด งานจะได้เสร็จเร็วๆ”
แหมะ...วางแผนมาอย่างดีเลยนะ คุณพี่รหัส
“ขอโทษนะครับ” จู่ๆอีทึกก็ลุกขึ้นมา พร้อมกับโค้งตัวลงให้อย่างมีมารยาท ฮีชอลมองแล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่ถูกชะตากับหนุ่มรุ่นน้องคนนี้
คนมันไม่ชอบ...ทำยังไง...ก็คงไม่มีวันชอบ
“นายมีปัญหาอะไรเหรอ” คำถามก็ดูธรรมดาๆ แต่อีทึกฟังแล้ว เหมือนอีกฝ่ายกำลังจะหาเรื่องเขา
บางทีเค้าอาจจะคิดมากไป--*-
“คือ วันนี้ผมมีงานของคณะ คงจะไปช่วยงานของพี่ฮีชอลไม่ได้นะครับ”
“เชิญ” ฮีชอลไม่พูดเปล่า แต่ยังผายมือออกไปอีกต่างหาก ฮยอนนยอเข้าไปตีต้นแขนพี่รหัสตัวเองเบาๆ แต่ฮีชอลก็ยังคงผายมืออยู่ อีทึกยิ้มจางๆ แล้วหันไปดึงอายองให้ลุกขึ้นตาม
“พอดีอายองต้องไปกับผมด้วย ส่วนที่เหลือ ก็คงจะไปกับพี่ฮีชอลนะครับ...ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ ไป อายอง” อายองที่ยัง-งงๆอยู่ ถูกอีทึกลากออกไปจากกลุ่ม ครั้นจะอ้าปากถาม ก็อ่านสายตาของอีทึกที่มองมาได้ว่า
“อย่าเพิ่งถามอะไรนะ”
“คิดจะเล่นไม้นี้กับฉัน มันไม่ง่ายหรอก พักจองซู” ฮีชอลพูดกับตัวเองในใจ พลางมองภาพที่อายองถูกอีทึกลากออกไปด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาได้ว่า เค้ากำลังคิดอะไรอยู่
ฮยอนนยอมองภาพของเพื่อน สลับกับหันมามองพี่เทคตัวเอง ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ...พี่ฮีชอลไม่ใช่คนที่เก็บอะไรได้เก่งมากนัก หากแต่คราวงนี้ พี่เค้ากลับนิ่งสงบราวกับน้ำแข็ง มันเลยทำให้ฮยอนนยอกังวลเหลือเกินว่า....สักวันกลุ่มของเธอกับพี่เค้าจะมีปัญหา....ปัญหาที่มองง่ายๆเพียงแป๊บเดียวก็รู้แล้วว่า....
พี่ฮีชอลไม่ชอบอีทึก....และเพราะเหตุผลอะไรนั้น ฮยอนนยอยังไม่อยากจะเดา ตราบใดที่พี่ฮีชอลยังไม่พูดมันออกด้วยตัวเอง
“ไปกันเถอะพี่ฮีชอล” ฮยอนนยอฉุดแขนฮีชอลให้เดินไปทางห้องสโม คนอื่นๆหันมามองหน้ากันอย่าง-งงๆ ก่อนจะพากันลุกขึ้นเดินตามฮยอนนยอไป โดยที่ในใจของแต่ละคนเอง ก็มีคำถามเกิดขึ้นมาเหมือนกันว่า
ทำไมพี่ฮีชอลถึงต้องมาหาพวกเค้า....ในวันที่พวกเค้ารู้สึกว่า กำลังจะมีปัญหา
ทางด้านของอีทึกที่พาอายองเดินออกมานั้น เมื่อเห็นว่าพ้นระยะจากโต๊ะกลุ่มแล้ว เค้าก็ปล่อยมือของอายองออก ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างดัง จนอายองยิ่งรู้สึกงงกว่าเดิม
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
“นายหัวเราะอะไร อีทึก” ถามอย่าง-งงๆ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆก็มาลากเนี่ย ไม่มีบอกไม่มีกล่าวก่อนอะ พอลากมาเสร็จก็มาหัวเราะ ถามจริงเถอะ สติกลับไปแล้วรึไง...ท่านประธาน
“เปล่าๆไม่มีอะไร” อีทึกโบกไม้โบกมือปฏิเสธ แต่ยังคงหัวเราะไม่หยุด อายองเริ่มหงุดหงิด จึงเตะเข้าที่แข้งของอีทึกอย่างแรง
“......” เสียงหัวเราะหายไปในทันที
“ทีนี้จะบอกได้รึยังว่าหัวเราะอะไร หรือว่าจะเอาอีกข้างดี” อายองไม่ได้พูดขู่ แต่จะทำจริง อีทึกรีบยกมือขึ้นมาห้าม แล้วเดินกะเผลกๆไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ อายองเดินกอดอกตามอีทึกไป
“เธอนี่มันแรงผู้ชายจริงๆเลยนะ” อีทึกพูดแขวะ ขณะที่เอามือไปจับที่หน้าแข้งของตัวเอง “นี่ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมา เดินไม่ได้ เธอจะทำยังไงเนี่ย อายอง”
“น้อยๆหน่อยๆเลย อีทึก...เว่อร์ไปแล้ว”
“แรงทึกจริงๆเลยเธอ”
“แล้วตกลงหัวเราะอะไร จะบอกได้รึยัง”
“ก็ไม่มีอะไร แค่หัวเราะไปเรื่อยๆนะ”
“ตกลงจะบอกดีๆหรือจะต้องบอกด้วยน้ำตากันแน่” อีทึกรู้ว่า อายองเป็นคนพูดจริง ทำจริง ถ้าถามแล้ว...ก็คือ ถาม...ถ้าไม่ถาม ก็คือ ไม่ถาม
“ก็ฉันหัวเราะพี่ฮีชอล”
“หัวเราะทำไม?”
“ก็ไม่มีอะไร แค่พี่เค้าอยากจะแกล้งฉัน ฉันก็เลยแกล้งเขากลับ ก็แค่นั้น” อีทึกพูดง่ายๆสบายๆ แต่อายองที่ฟังนี่สิ
งง
“พี่เค้าแกล้งอะไรนาย...นี่นายรู้ตัวมั้ย นายเป็นคนที่พูด แล้วทำให้ฉันงง..ไม่งงธรรมดาด้วยนะ แต่โคตรงง”
“เอาเถอะๆ” อีทึกส่ายหน้าอย่างปลงๆ “ไม่เข้าใจก็ช่างมัน ถือซะว่า ที่เธอเตะฉันเมื่อกี้ ก็หายกันกับที่ฉันแกล้งลากเธอออกมาจากกลุ่มก็แล้วกัน”
“นี่นายยิ่งพูด ฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจ เฮ้อ ช่างมันเถอะ ขี้เกียจจะเซ้าซี้ถามนายแล้ว แล้วนี่ไหนว่าจะให้ไปช่วยทำงานของคณะไง”
“งานคณะอะไร?” อีทึกทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ อายองตาโต
“นี่นายอย่าบอกนะว่า นาย..........”
“ไม่มีหรอกงานคณะ ฉันหลอกเธอนะ ขอโทษที”
“พักจองซู!!!!!”
~~~~~ Friends ~~~~~
2BC
ความคิดเห็น