ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] -- Sweet Dormitory -- [YeWook]

    ลำดับตอนที่ #34 : [Fic YeRyeo] Dorm No. 24 -- ตี๋

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1K
      1
      28 ม.ค. 55

     

    Dorm.  Part 24  --  ตี๋มาแว้ว..!

     

     

    ........................................
    ...............................


                    เมื่อคืนเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในซอยบ้านคิมเยเย่  ทำให้บ้านใกล้เรือนเคียงทั้งที่ตื่นและหลับไปแล้วต่างเปิดไฟโล่ง ก่อนชะโงกหน้าจากประตูหน้าต่างออกมาสังเกตุการณ์  บางคนก็ตะโกนด่าเพราะเสียงรบกวนโสตประสาทในยามวิกาลที่ดังยาวๆ ออกมาจากรถคันใหม่(แต่สีแดงแรงเหมือนเดิม)ของพี่ชายตัวดี 

    ว่าไงนะ! ฮีชอลฮยองมาเหรอ?!!  (เย่ version ตาโต ...คึคึ)


     

     "เยซองงงง!!  แกอยู่ไหน?  ออกมาเดี๋ยวนี้นะเฟ้ย!!"  คิมฮีชอลยืนโหวกเหวกอยู่ข้างรถอีกมือก็กดแตรเรียกร้องความสนใจไปพลาง  "ปี๊นๆๆๆ  ปี๊นนนนนนนนนน...!"   ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี  เกิดม็อบย่อยๆ พร้อมกับสายตาไม่เป็นมิตรขึ้นรอบตัวเขาทันที  แต่ผู้ชายคนนี้ดูท่าจะไม่รู้จักเกรงกลัวอะไรทั้งนั้น  ฮีชอลอาศัยคารมเป็นต่อรูปหล่อตั้งแต่เกิดของตัวเองถามหาบ้านเป้าหมายจากอาจุมม่าที่จะเข้ามาเอาเรื่องได้หน้าตาเฉยแล้วก็ได้ผลซะด้วย  เกาหลีมุงจึงเลิกจอแจและกลับเข้าบ้านไปเพราะพ่อหนุ่มกระเป๋าหนักควักเอาเช็คออกมาเซนต์แจกเป็นค่าเบาะแสและค่าเสียเวลาให้ชาวบ้านหลายคนที่ทำท่าจะเข้ามาหาเรื่อง

                    แต่ทั้งหมดมันยังไม่จบแค่นั้น..  นอกจากเพื่อนบ้านที่ออกมาต้อนรับเจ้าของรถคันสวยแล้ว  คนบ้านเยซองก็ออกมาสังเกตุการณ์อยู่หน้าบ้านเช่นกัน  เยซองวิ่งจูงมือรยออุคตามลงมาสมทบทีหลัง แต่ก็ทันได้เห็นสายตาเขียวปั๊ดของพี่ชายขี้หวงที่จ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเข้าพอดี

    "นายไม่เป็นอะไรใช่มั๊ย?!!  เยซองมันทำอะไรนายรึเปล่า?"   รีบคว้าเอาร่างเล็กมากอด ก่อนจะลูบๆ คลำๆ สำรวจอย่างกระวนกระวาย  "ฮยองเป็นห่วงแทบแย่แน่ะ  จะไปแจ้งความตำรวจพวกนั้นก็เอาแต่บอกว่ายังไม่ครบ 24 ชม. รับเรื่องไม่ได้"

    "ผมสบายดีฮะ  ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น"   แต่ก็เกือบไปเหมือนกันอ่ะนะ  - -"   

    "แก๊!!"  ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของพี่ชายต่างจากเมื่อครู่หน้ามือเป็นหลังมือ  "เยซอง!  แกกล้าดียังไงมาล่อลวงเรียวของฉัน!"  เสียงโหดไม่เข้ากับหน้ากรรโชกโฮกฮากราวกับพายุ

    "ล่อลวง?!!"  บ้านคิมที่ทำหน้าเหมือนกันราวกับพิมพ์ออกมาจากบล็อค อุทานขึ้นพร้อมกัน   

    คุณนายคิมมองสลับไปมาระหว่างหล่อน่ารักอย่างฮีชอลกับหล่อมึนๆ อย่างลูกชายตัวเองก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับ  "โอ๊ย! แม่งงไปหมดแล้วนะเนี่ย  เธอเป็นใคร?  แล้วใครล่อลวงใคร?  ช่วยอธิบายให้แม่ฟังหน่อยเถอะ"

    "อ้อ! ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ  สองท่านนี้คงจะเป็นคุณพ่อคุณแม่สินะครับ"  หนุ่มหน้าสวยโปรยยิ้มหวานก่อนโค้งเก้าสิบองศามารยาทงามเต็มกำลัง  "สวัสดีตอนดึกๆ ครับ  ผมคิมฮีชอลเป็นพี่ชายที่แสนดีของรยออุคน่ะครับ"  เขาแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงสุภาพนุ่มนวลชวนเคลิ้ม  "แต่ไม่นานนี้จู่ๆ น้องชายที่น่ารักเพียงคนเดียวของผมก็หายตัวไป  ผมออกตามหาแทบพลิกแผ่นดินและพบว่าคนที่ลักพาตัวน้องของผมมาก็คือ เจ้านี่!!"  นิ้วเรียวสวยชี้ตรงไปยังหน้าเหวอของเยซอง  o.O

    "หาผมเหรอ?!!"  ผู้ต้องสงสัยชี้หน้าตัวเองอย่างงงๆ

    "อ้าวงานเข้าแล้วพี่ชายเรา  นี่พี่เป็นคนร้ายลักพาตัวเหรอเนี่ย?"  จงจินหน้ามึน(เหมือนเพิ่งลุกจากเตียง)หันมาตอกย้ำตำแหน่งผู้ร้าย


    ธรรมชาติมากๆ  ^^  ...คึคึ    v
     
    120103 Yesung Twitter Update: Everybody, I wish you all to have a nice dream tonight but do not sleep like my brother.   http://twitpic.com/82784h

     


    "จะบ้าเหรอ
    ฉันไม่ได้ลักพาตัวใครทั้งนั้นแหละ"  หันไปโวยน้องชายที่คล้อยตามคนอื่นง่ายๆ ก่อนจะแก้ข้อกล่าวหา  "พี่พูดแบบนี้มันชวนเข้าใจผิดนะ  เกินไปแล้ว...ผมแค่ชวนรยออุคมาเที่ยวบ้านเท่านั้นเอง"

    "ชวนมาเที่ยวบ้านเหรอ?"  ฮีชอลหรี่ตามองอย่างจับผิด  "อย่ามาพูดดีเลย  หึ..มองตาก็รู้แล้วว่าในหัวคิดอะไรอยู่"

    "โธ่... ฮีนิมอ่า  ไม่มีใครลักพาตัวผมทั้งนั้นแหละ  ผมเต็มใจมาเองฮะ  แล้วทุกคนที่นี่ก็ต้อนรับผมเป็นอย่างดีเลยด้วย"  มือคู่น้อยเข้าไปกระตุกแขนเสื้อพี่ชาย  "เลิกโวยวายเถอะนะฮะ  อย่าให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่เลย"

    "หา?   แต่ว่า..."

    "สรุปเต็มใจนะ ไม่ได้ล่อลวงใครเลย"  คุณนายคิมรีบรวบรัดตัดความเพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว  "เอ้าๆ...  งั้นก็อย่ามัวยืนอยู่เลยเข้าไปนอนกันดีกว่า พรุ่งนี้แม่ต้องตื่นแต่เช้าซะด้วย"  เธอโบกมือเรียกทุกคนเข้าบ้านก่อนหันมาหาลูกชายคนโต  "จัดห้องให้แขกของลูกเองนะ  แม่ง่วงแล้ว   หาวววว..."

                        ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ดูเหมือนว่าแขกจะไม่รอให้เยซองจัดการอะไรเลย  ฮีชอลจัดแจงเฉดหัวโตๆ ของเยซองออกจากห้องทันทีก่อนจะแทรกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันแล้วคว้าเอาร่างเล็กมากกกอดนอนสบายใจเฉิบราวกับเป็นบ้านตัวเอง 

                        เหมือนกับตอนนี้ที่หน้าสวยๆ แสดงออกว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไร  ฮีชอลนั่งไขว่ห้างรอสปาเก็ตตี้ที่สั่งให้น้องชายทำอย่างไม่สะทกสะท้านถึงเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลยสักนิด

    "ว่าแต่นายน่ะ  ถ้าตื่นแล้วก็ปลุกฉันด้วยสิ  ปล่อยให้ฉันนอนอยู่คนเดียวได้ไง!"  หน้าหวานหันไปต่อว่าชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งทานข้าวอยู่ก่อนแล้ว

    "ก็ใครจะไปรู้ล่ะ?"  ชายคนนั้นหันมาพูดบ้าง  "ฉันไม่อยากเสี่ยงหรอก  นายมันพวกหลายใจอยู่ด้วย"

    "...  หลายใจ?"  ฮีชอลฟังแล้วงง  แม้แต่รยออุคก็ยังรู้สึกว่าประโยคมันทะแม่งๆ

    "เคยปลุกแล้วนายก็ว่ากวนใจ  พอไม่ปลุกก็หาว่าทิ้งให้นอนคนเดียว  จะเอาไงแน่?"

    ""อ๋อ.. เข้าใจล่ะ"  ฮีชอลประมวลผลอยู่อึดใจนึงก็ถึงบางอ้อ  "ที่ถูกน่ะ  นายต้องพูดว่าเอาใจยาก ไม่ใช่หลายใจเฟ้ย" 

    "นั่นแหละๆ  มันก็คือๆ กันนั่นแหละ"  หนุ่มคนนั้นโบกมืออย่างขอไปที

    "คือๆ กันที่ไหนล่ะ  มันคนละความหมายกันเลยนะนั่น    เฮ้ยว่าแต่นี่นายกำลังหลอกด่าฉันงั้นเหรอ?!!"    

    "ไม่ได้ด่าซะหน่อย  นายได้ยินฉันพูดคำหยาบรึไง?"  เขาหันไปสนใจข้าวตรงหน้า  ใช้ตะเกียบคีบกิมจิเข้าปากอย่างไม่แยแสคนที่กำลังหาเรื่อง  "ความจริงก็คือความจริง  รู้จักยอมรับความจริงซะบ้างสิ"

    "หา! ว่าไงนะไ อ้กระเหรี่ยงนี่เดี๋ยวนี้ต่อปากต่อคำนะ .. ฮึ้ย!"

    "เอ้าๆ... คาโบนาร่าได้แล้วคร๊าบบบบ"  จานกระเบื้องทรงรียาวบรรจุสปาเก็ตตี้ผัดซอสขาวข้นคลุกไปด้วยแฮมสีชมพูสุกควันฉุยน่าทานถูกวางลงตรงหน้าพี่ชายขี้โมโหเพื่อขัดทัพก่อนสงครามเล็กๆ จะเริ่มขึ้น 

    "ถ้าฉันเป็นกระเหรี่ยง  นายก็หวูดรถไฟล่ะว้า..เอาแต่เสียงดังแล้วก็ควันออกหูตลอดเวลา"

    "ว่าไงนะ..แก๊...!!"  ฮีชอลลุกขึ้นยืนอย่างเหลืออด

    "พอเถอะครับทั้งสองคน"  เรียวรีบยกมือห้าม   "ถ้าจะทะเลาะกันก็กินข้าวก่อน พอมีแรงแล้วค่อยออกไปทะเลาะกันนอกร้านนะฮะ  ...ผมขอร้อง"

    "ก็ได้ถือว่าเห็นแก่เรียวนะ"  พี่ชายนั่งลงตามเดิมก่อนจะหันไปกระสวกสปาเก็ตตี้ของเขาขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆ  ส่วนผู้ชายที่กล้าต่อปากต่อคำกับคิมฮีชอลอย่างไม่สะทกสะท้านแล้วหันไปทานข้าวต้มของเขาอย่างใจเย็นเช่นเดิม เขาคือ ฮันคยอง ใบหน้าหล่อคมเข้ม  นัยน์ตามีเสน่ห์และหางตาชี้ขึ้นเล็กๆ ตามแบบฉบับของอาตี๋จากเมืองจีน  คนๆ นี้เป็นเพื่อนต่างชาติของฮีชอลที่บึ่งรถมาด้วยกันตั้งแต่เมื่อคืน  แต่ติดที่พฤติกรรมสุดห่ามของฮีชอลทำให้เขาไม่กล้าลงจากรถออกมาให้ใครๆ รู้ว่ารู้จักกับผู้ชายหน้าตาดีแต่นิสัยร้ายกาจคนนี้   ก็นะ...ที่เพื่อนจอมโวยวายของเขาทำไปเมื่อคืนก็เกือบทำให้บ้านเยซองเข้าหน้าเพื่อนบ้านไม่ติดอยู่แล้ว  ก็เฮียเล่นตะโกนชื่อเยซองซะดังแถมยังบีบแตรไม่เกรงใจใครกลางดึกแบบนั้น  คิดแล้วรยออุคก็อยากทำเป็นไม่รู้จักให้รู้แล้วรู้รอดไปเหมือนกัน  - -"

      

    "แล้วนี่ฮีนิมจะกลับวันไหนกันล่ะ?"  รยออุคเปิดประเด็นหลังจากนั่งเงียบกันอยู่นาน

    "หา?  พูดอะไรอย่างนั้น"  ฮีชอลเงยหน้าขึ้นมาทำตาโตใส่(อย่างแบ๊วๆ)  "ฮยองก็ต้องกลับพร้อมนายอยู่แล้ว  ถ้าเป็นไปได้ก็จะรับกลับซะวันนี้เลย"

    "วันนี้?  ไม่เอาหรอก  วันหยุดเหลืออีกตั้ง 2 วัน  ผมจะกลับพร้อมพี่เยซอง"

    ประโยคที่ได้ยินทำให้คนฟังอยากจะเอามือปิดหู  "เยซองๆๆๆ  อะไรๆ ก็เยซอง  นี่มันล้างสมองน้องชายฉันแล้วใช่มั๊ย?"  ฮีชอลเริ่มเล่นบทดราม่า  "ทั้งที่เมื่อก่อนตามเราต้อยๆ  แต่เดี๋ยวนี้กลับเลือกคนอื่นมากกว่าพี่ชายที่แสนดีคนนี้ซะแล้ว  ฮึ..ก็อย่างว่าล่ะนะ  ลูกน่ะเราเลี้ยงได้แค่ตัว  หัวใจเราเลี้ยงไม่ได้หรอก  นี่คงถึงวัยต่อต้านแล้วสินะ  ฮืออ...มามี๊ปวดใจ"  ทำท่าซับน้ำตาราวกับกำลังเล่นละครอยู่บนเวทีใหญ่  "ฉันจะทำไงดีล่ะ? ฮันนี่จ๋า~" ว่าแล้วก็เซถลาเข้าไปซบไหล่คนที่นั่งข้างๆ  ดูท่าข้าวที่กินไปคงทำให้อารมณ์ดีขึ้นแล้วถึงได้ลืมไปว่าคนๆ นั้นเพิ่งจะทะเลาะกันมาหยกๆ 

      
    "จะไปรู้เหรอ"  ชายหนุ่มเด้งไหล่ไล่  ไม่ยอมให้ซบ  "นายนี่มันไร้สาระจริงๆ"  ก่อนจะยื่นชามพร้อมส่งยิ้มหล่อให้รยออุคเติมข้าวให้

    "ว่าไงนะ! นายนั่นแหละบ้าแทนที่จะเห็นแก่กิน นายควรจะปลอบใจฉันสิ"

    "ก็ไม่เห็นนายจะเป็นอะไรนิ" 

    "เป็นสิ! ฉันจะโดนแย่งน้องชายไปแล้วเนี่ยไม่เห็นรึไง?!!"  ฮีชอลแย่งชามข้าวจากมือรยออุคก่อนจะโวยต่อ  "นายมากับฉันนะ เข้าข้างกันหน่อยสิ!"

    "ฉันเป็นกลาง ไม่เข้าใครออกใครทั้งนั้น"  ฮันคยองพยายามแย่งข้าวของเขาคืน

    "ไม่ใช่ไม่เข้าใครออกใคร  ต้องเป็นไม่เข้าข้างใครทั้งนั้นต่างหากล่ะ"  ทั้งสองเริ่มยื้อถ้วยกันไปมา  "จะว่าไปมันเพราะนายนั่นแหละ  เพราะมัวเสียเวลาไปรับนาย  เจ้าเยซองมันถึงลักพาตัวเรียวสำเร็จน่ะ  เพราะนายคนเดียว!"

    "หา? ไม่ใช่ซะหน่อย  ที่เสียเวลาน่ะเพราะนายไปรับรถคันใหม่แล้วก็มัวแต่ขับอวดสาวอยู่ต่างหากล่ะ"  มือหนากระชากชามข้าวเข้าหาตัว  "นายนั่นแหละไ อ้หน้าม่อ!" 

      "ว่าไงนะไ อ้หระเหรี่ยงนี่พูดยังเถิกๆ ผิดๆ อย่าบังอาจมาว่าคนอื่นเค้านะเฟ้ย!"  ว่าแล้วก็ออกแรงยื้อขึ้นอีก  

    "นายแหละ..  ไ อ้ขี้เก๊กไ อ้ใจแคบ! ไ อ้จอมเผด็กการ!"  สรรหาคำด่าเท่าที่จะคิดได้ก่อนจะพ่นออกไปด้วยสำเนียงชัดเป๊ะ  "ไ อ้คนติดน้อง! ปล่อยข้าวฉันนะเว้ย!"  ฮันคยองออกแรงเต็มที่หวังแย่งข้าวคืน จังหวะเดียวกับที่อีกคนปล่อยมือหน้าตาเฉยจนร่างสูงแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้  โชคดีที่คว้าโต๊ะข้างหน้าเอาไว้ได้  แต่...  "เฮ้ย!"  เขาแย่งถ้วยคืนจากฮีชอลได้แล้วก็จริง  ใช่..ก็แค่ถ้วยน่ะนะ  มีแค่ถ้วยอยู่ในมือแต่ข้าวในถ้วยมันหายไปไหนเนี่ย 
    เมื่อค่อยๆ หันกลับไปดู....

    เฮือก!!   ...ข้าวสวยอุ่นๆ เกาะหนึบอยู่บนเส้นผมขาวโพลนของคุณตาคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกค้าที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ พอดี

    "เหวอ..! ขอโทษนะครับคุณตา! เป็นอะไรมั๊ยครับ?"  ฮันคยองและรยออุครีบรุดจากเคาทน์เตอร์ออกไปก้มหัวประหลกๆ ขอโทษขอโพยยกใหญ่   ในขณะที่ตัวต้นเหตุกำลังจะย่องหนี  "คิมฮีชอล!/ฮีนิม!

    ร่างเพรียวค่อยๆ หมุนตัวกลับ  "แหะๆ...  ไม่ต้องเสียงดังก็ด้ายยย~"  ฮีชอลหัวเราะแห้งๆ กลบเกลื่อนแต่สายตาดุๆ ของทั้งสองคนยังคงเหมือนเดิม

    "ไม่ต้องมาหัวเราะแหะๆ เลย!!"  ฮันคยองและรยออุคประสานเสียงกันอีกครั้ง  "มานี่เลย!"

    "รู้แล้วน่า!"  ฮีชอลเดินมาหยุดตรงหน้าคุณตา  หน้าสวยๆ เชิดขึ้นอย่างเคย  "ขอโทษนะครับคุณตา  ผมจะเซนต์เช็คค่าเสียหายให้เดี๋ยวนี้แหละ  ซัก 3 แสนวอนพอมั๊ย?"

    "คิมฮีชอล!!/ฮีนิม!!"   

    "ล้อเล่นน่าล้อเล่น  ไม่ต้องดุขนาดนั้นก็ได้  >.<  ..เค้าขอโต๊ด~"  คนที่ปกติไม่เคยยอมใครตอนนี้กลับทำหน้าเหมือนเด็กสำนึกผิด  ถูกจับให้มาคุกเข่าขอโทษคุณตาซึ่งฮีชอลที่รู้ตัวเองว่าผิดก็ทำตามแต่โดยดี  "ขอโทษครับคุณตา  ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ" 

    "โอ้..."  หนังตาหย่อนคล้อยค่อยๆ เปิดออกเผยให้เห็นดวงตาหรี่เล็กสีเข้มแฝงไว้ด้วยแววอบอุ่น  "ไม่เป็นไรๆ  ถึงเธอจะเสียงดังหนวกหูรบกวนคนอื่น  แถมข้าวนี่มันยังเหนียวหนึบติดผมฉันก็เถอะ   โฮ่ะๆๆ..."  คุณตาหัวเราะราวกับซานตาครอสใจดี แต่คำพูดฟังแล้วแทงใจจี๊ด เห็นแล้วให้นึกถึงตาแก่(คุณปู่)ที่บ้านจริงๆ  

    "ขอโทษจริงๆ ครับ"  แหม...คุณตา  ถ้าพูดขนาดนั้นล่ะก็...   "เพื่อเป็นการไถ่โทษจะให้คิมฮีชอลคนนี้ทำอะไรก็ยอมครับ"

    "โอ้.. แหม...ฉันก็ไม่ได้จะเรียกร้องอะไรหรอกนะ  แต่ถ้าเธอว่าอย่างนั้นล่ะก็..."

    "..เอ๋?"  ฮันคยองกับรยออุคหันมาทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามใส่กัน

    ............................................

    .............................


                   
     

     
    Lamborghini  ประตูปีกนกด้วย  ...หุหุ
     
     

    ------------------------------------------------------***------------------------------------------------------









     

    สุขสันต์วันตรุษจีนนะคะ  รวยๆ เฮงๆ กันทั่วหน้า  โชคดีมีสุขค่ะ
    โอย...  ง่วงๆๆ  สุดท้ายเลยอัพได้แค่นี้ 
    - -"  แต่ใกล้แล้วๆ สัญญา ^^



    พี่เย่บอกสวัสดีปีใหม่  v

    120122 Yesung Twitter Update:  @shfly3424: twitpic.com/8a9my8 Everyone, eat many yummy food~~ Happy new year ^^ 




    ..............................................
    ........................

    "อืมมม....."   ชายหนุ่มนั่งกอดอกหน้านิ่วคิ้วขมวดมองเสื้อไหมพรมสีอ่อนอย่างใช้ความคิด เป็นอย่างนี้มาพักใหญ่แล้วที่คยูฮยอนนั่งหนักใจอยู่ในห้องคนเดียว 
    "โธ่เว้ยยย...!" ร่างสูงลงไปนอนกลิ้งกุมขมับอยู่บนเตียง "เอาไงดีว้า!" ท่าทางเสียอาการแบบนี้ปกติคยูฮยอนกรรมการนักเรียน พ่วงตำแหน่งหัวหน้าห้อง และนักเรียนหัวกระทิ Top 5 ของชั้นปีคงไม่ยอมแสดงออกให้ใครได้เห็นง่ายๆ แน่ นี่ถ้าเป็นโจทย์แคลคูรัสคยูคงแก้ได้หมดแล้ว แต่พอมาเป็นเรื่องหัวใจทีไรทำไมมันยุ่งยากมากเรื่องอย่างนี้ก็ไม่รู้   ใครก็ได้ช่วยคยูด้วย! >.<
    "หรือจะไม่คืนดี... เสื้อหายไปตัวเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ...เหอๆๆ" เขาพูดกับตัวเองก่อนจะหัวเราะเก้อๆ  -_-"

    .
    .
    .
     
                    ...ติ๊งต่อง~ 
                   ...แกร๊ก             

    ประตูไม้เนื้อหนาเปิดออกอย่างรวดเร็วเพราะมีการโทรมาแจ้งเจ้าของห้องไว้ก่อนหน้าแล้ว 
    "เข้ามาสิ" ซองมินที่ใบหน้าซีดโทรมเอ่ยเชิญเพื่อนเข้าห้อง
    คิ้วเข้มยกสูงอย่างสงสัยเมื่อเห็นรองเท้าคู่หนึ่งจอดอยู่ก่อนแล้ว "ใครน่ะ?  คิบอม?"
    "อือ... กำลังจะออกไปข้างนอกพอดีนายโทรมาซะก่อน"
    ซีวอนพยักหน้ารับรู้ก่อนจะถอดรองเท้าหนังมันวับเรียงไว้ข้างๆ กัน "จะไปไหนวะ? ..ฮะ?"   ร่างสูงเดินเข้ามาทักเพื่อนหมอผิวเข้มที่นั่งดูทีวีอยู่ "ร้อยวันพันปีไม่เห็นแกจะว่าง วันนี้นึกยังไงถึงมาควงซองมินมันออกไปได้วะ?..ฮะ?"
    "ก็อย่างที่แกว่าแหละ ฉันไม่ได้ว่างหรอก โน่น.." หมอคิมคิชี้ไปที่เจ้าของห้องตัวต้นเหตุ "ฉันอุตส่าห์ cancel นัดคืนนี้ทั้งหมดเพื่อมันคนเดียวเลยนะ"
                      คิม คิบอม หมอหนุ่มหน้าตาดีที่ชอบอมยิ้มกรุ้มกริ่มทำให้มีอิมเมจดูเพลย์บอยหน่อยๆ ส่วนนิสัยนั้น...เอ่อม - -"  ขอบอกว่า(แอบ)เพลย์บอยยิ่งกว่าอิมเมจเสียอีก เพราะเข้าตำราหน้าตาดี มีรถขับ โทรศัพท์ i-phone  ทำให้พ่อคนหล่อเลือกได้นายนี้เปลี่ยนตุ๊กตาหน้ารถบ่อยพอๆ กับเปลี่ยนถุงเท้า แถมยังมาสนิทกับ เชว ชีวอน ผู้ชายที่ดูสุภาพบุรุษสุดติ่ง แต่ก็แค่ 'ดู' นิสัยจริงนั้นถ้าไม่ใกล้เคียงกันคงคบกับผู้ชายลั้ลลาอย่างคิมคิไม่ได้
                     ซีวอนกับคิบอมนั้นจริงๆ แล้วต้องเรียกว่าเป็นเพื่อนของเพื่อน เพราะซีวอนเป็นเพื่อนสมัยเด็กของซองมิน ส่วนคิบอมก็เป็นเพื่อน นศ.แพทย์ ซึ่งทั้งสองมาได้รู้จักกันผ่านซองมินนั่นเอง แต่ไปๆ มาๆ เจ้าสองคนนี้ดูจะสนิทกันยิ่งกว่าซองมินซะอีก ก็เข้าขากันดียังกับรู้จักกันมานานเป็นสิบๆ ปีงั้นแหละ ดูได้จากภาษาพูดที่แสนเป็นกันเองของทั้งสองคน
    "แล้วแกล่ะ? ไปโบสถ์มา?"  หมอคิมถามขึ้นบ้าง
    "เออ ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?"  ชีวอนตีหน้าสงสัย "แกรู้มั๊ย.. ตอนออกมาจากโบสถ์มีเด็กมาทักว่าฉันเป็นบาทหลวง จะมาสารภาพบาปกับฉันอ่ะ?"
    เพื่อนผิวแทนหัวเราะดังลั่นแก้มแทบแตก "555+ ถามจริง?" เขาเพ่งสำรวจสภาพเพื่อนที่สวมเสื้อมิดชิดติดกระดุมถึงเม็ดบนสุด ทับด้วยโค้ทสีดำตัวยาว แถมวันนี้ยังหวีผมเรียบแปล้อีกด้วย "แต่งตัวแบบนี้มันก็น่าเข้าใจผิดอยู่หรอก 555+ ^o^ ไบเบิ้ลแกอยู่ในรถใช่มั๊ย? ไปเอามาสิ เห็นแบบนี้แล้วฉันก็ชักอยากจะสารภาพบาปขึ้นมาเหมือนกัน"  
     "ไ อ้บ้าถ้าฉันชำระบาปเองได้จะถ่อไปโบสถ์ทำไมวะ?" ไ อ้เพื่อนเลว หัวเราะเยาะไม่พอยังจะมาแซวกันอีก - -*   "ว่าแต่มินมันเป็นอะไรวะ? หน้างี้ซึมกระทือเลย" ซีวอนกระแซะเข้ามากระซิบกระซาบ
    "ไม่แน่ใจ..แต่อาการไม่ค่อยดี ลางานแต่เช้าแระ แปลกป๊ะล่ะคนอย่างลีซองมินทิ้งงานน่ะ?"
    "เออ.. มาก!"
    "เลยอดไม่ได้..เป็นห่วงต้องมาดูมันหน่อย  พอมาถึงก็เจออย่างที่เห็นนี่แหละ ทำหน้าเหมือนคนอกหักแถมอดนอนอ่ะ"
    "แกเลยจะชวนมันไปดริ๊งค์แทนที่จะให้มันนอน?"
    "เออดิ ปล่อยไว้บ้านคนเดียวเดี๋ยวมันเฉาตายทำไง?" คิบอมเอื้อมไปปิดทีวีก่อนหันมาทำหน้าซีเรียส  "ฉันว่าหน้าอย่างงี้มีอยู่เรื่องเดียวแหละ"
    "...หือ?"
    "..ปัญหาหัวใจชัวร์!"  หมอคิมฟันเฟิร์ม   "ว่าแต่แกพอรู้อะไรบ้างมะ?"  
    "ปัญหาหัวใจ?" ซีวอนทำท่าจะปวดไมเกรน "ขออย่าให้เป็นอย่างที่ฉันคิดก็แล้วกัน..."

     





    ---------------------------------------------------***---------------------------------------------------


                      ...บ่ายคล้อย  แดดร่มลมตก ลูกค้าเริ่มซาจึงได้เวลาพักของเหล่าพนักงานร้านพั่บทล รวมถึงรยองกูตัวน้อยก็กำลังเอนหลังฟังเพลงสบายใจอยู่ในสวน ใต้เงาไม้สายลมเย็นพัดมาประทะใบหน้า ร่างเล็กนั่งหลับตากลั้วอมยิ้มซ้ายทีขวาทีเมื่อของหวานก้อนกลมกระทบกับฟันกรามในปากก็ได้ยินเสียงกลุ่กกลั่กๆ อยู่ในหัว หลอดเล็กสีขาวปลายด้ามอมยิ้มกระดกดุ๊กดิ๊กอย่างสบายอารมณ์ 
    แต่แล้วจู่ๆ ก็ถูกดึงออกไป...
    "อื้ออออออออออ... >.<!"   รยออุคได้แต่ร้องค้านในลำคอเมื่ออมยิ้มหวานถูกดึงออกไม่ทันให้ตั้งตัวแล้วกลับเป็นปากนุ่มยัดเยียดเข้ามาแทน "อื้อๆๆ...!"
    ร่างสูงละริมฝีปากออกก่อนส่งยิ้มหน้าเป็นมาให้ ^_^
    "ท...ทำอะไรเนี่ย?!! นี่มันนอกบ้านนะฮะ!" ตัวเล็กโวยวายใบหน้าร้อนผ่าว ...คนออกเต็มบ้าน  ถ้าใครมาเห็นเข้าจะทำไง >.<
    "ก็นายกินไม่แบ่งนี่" 
    "...หา?"
    "ฉันก็อยากกินอมยิ้มบ้างนี่นา" เยซองแอ๊บเสียงอ้อนสุดฤทธิ์
    "ของแบบนั้นถ้าอยากกินก็กินอมยิ้มสิฮะ ไม่ใช่มากิน..." พอนึกถึงจูบเมื่อครู่แล้วหน้าสีเรื่อก็แดงขึ้นไปอีก
    "อ้าว? ก็ฉันนึกว่าชิมจากปากนายมันจะอร่อยกว่านี่นา แล้วมันก็อร่อยกว่าจริงๆ" พูดออกมาหน้าตายเหมือนเป็นเรื่องปกติพร้อมกับยิ้มตาหยีอย่างพอใจ "แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะคนอื่นๆ เขาเตรียมเก็บร้านกันอยู่ ส่วนพี่ฮีชอลก็ทะเลาะกับพี่ฮันอยู่หลังร้านนู่น ไม่มีใครมาเห็นหรอก ^^ "
    "ถ.. ถึงงั้นก็เหอะ!"
    หน้าระรื่นเมื่อครู่ค่อยๆ หุบลง "ไม่ได้เหรอ..." เสียงทุ้มแฝงแววน้อยใจ "ตั้งแต่พี่ฮีชอลมาถึงก็เอาแต่กีดกันฉันตลอด ฉันน่ะหาโอกาสแทบตายกว่าจะได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่ดูเหมือนนายจะไม่คิดอย่างนั้นสินะ?" เย่เริ่มพองแก้มขึ้นอย่างงอนๆ
    "โธ่... ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อยฮะ"
    "ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วอย่างไหน?" ชายหนุ่มเริ่มกอดอกเข้าโหมดงอนเต็มขั้น 
    "ผมน่ะอยากอยู่ใกล้ๆ พี่เยซองที่ซู๊ดดดดด...เลย" ตัวเล็กหันมากอดแขนพร้อมทั้งซบหัวลงกับไหล่หนาก่อนจะอ้อนกลับด้วยการไซร้หัวไปมากับแขนนั้น "จริงๆ น้า~~~" น้ำเสียงออดอ้อนแสนน่ารักที่ไม่ได้เจอมานานหลังจากสารภาพรักออกไปทำให้เย่ใจอ่อนยวบอย่างง่ายดาย แต่ถึงจะหายงอนแล้วแต่ก็อยากให้ง้อต่ออีกนิด ก็ท่าทางน่ารักน่ากอดแบบเนี้ยะรยออุคไม่ได้ทำให้ดูทุกวันนี่นา
    "ไม่เชื่อหรอก!"
    "หา?!! แล้วจะให้ทำไงล่ะฮะ?"
    ร่างสูงหันมาสบตา "ฉันยังจูบนายเลย นายก็จูบคืนบ้างสิ..นะ" ว่าแล้วก็คลี่ยิ้มอารมณ์ดีทำปากยื่นปากยาวรอให้เรียวเข้ามาจูบ
    ...เอาก็เอาฟะ หมู่นี้ก็จูบจนชินแล้วนี่รยออุค ตัวเล็กบอกตัวเองก่อนจะเอื้อมมือไปประคองใบหน้ากลมของคนรัก ริมฝีปากบางทาบทับลงไปแผ่วเบา "อือออ..." แต่แค่ปากแตะปากคงไม่พอสำหรับเยซองเขาประคองจับแก้มนิ่มของอีกคนบ้าง ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปอย่างชำนาญตักตวงรสหวานจนพอใจแล้วจึงปล่อยตัวเล็กให้เป็นอิสระ
    "จุ๊บรสโคล่า~ ^^ " เย่ยิ้มสระอิจนตาปิดบอกได้เลยว่าตอนนี้ระดับความสุขพุ่งขึ้นแค่ไหน "อร่อยมาก ชิมแล้วก็อยากชิมอีกเรื่อยๆ"
    "แหม......" หน้าหวานขึ้นสีจัดถึงใบหู "พูดออกมาหน้าด้านๆ เลยนะฮะ พี่ไม่รู้จักอายบ้างรึไงนะ?"
    "เคยได้ยินมั๊ย? ด้านได้อายอดน่ะ" เยซองวาดแขนโอบรยออุคไว้อย่างเนียนๆ "นายก็เป็นซะแบบนี้ ถ้าฉันยังมัวมานั่งอายแล้วเมื่อไหร่เราจะได้รักกันล่ะ? ฮึ?" ว่าแล้วก็หยิกแก้มเจ้าตัวเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะรวบร่างบางมาไว้ในอ้อมอก "รักนะ... ฉันรักนายนะ"
    "...รู้แล้วน่า"  อีกคนตอบเสียงอ้อมแอ้มแทบไม่ได้ยิน 'ผมก็รักพี่ฮะรยออุคแอบยิ้มหน้าแดงอยู่ในอ้อมกอดคนรัก หัวใจพองโตเต็มไปด้วยความสุข


     
                   ...ครืดดด ..ครืดดดด    มือถือในกระเป๋าเสื้อเยซองสั่นเรียกให้รับสาย ร่างสูงจึงต้องละจากคนตรงหน้าแล้วล้วงมันขึ้นมากดแนบหู
    เยซองพูดครับๆ อยู่พักนึง ไม่กี่นาทีต่อมาก็วางสายไป
    "มีอะไรรึเปล่าฮะ?" รยออุคถามเมื่อเห็นหน้าเย่ยังอึ้งไม่หาย
    "มี"
    "เอ๊ะ?" รยออุคเริ่มรู้สึกกังวลกับน้ำเสียงจริงจังของอีกฝ่าย "เรื่องอะไรฮะ?"
    "พวกเขาโทรมา" เขาเว้นวรรคนิดนึง "พวกเขา... SM โทรมา บอกว่าฉันผ่านรอบแรกแล้ว เสาร์หน้าให้เข้าไปออดิชั่นอย่างเป็นทางการอีกที"
    "เอ๋?!!" รยออุคตาลุกวาว  o.O  "SM? Audition? งั้นก็แปลว่า....!! 
     
    -------------------------------------------------***--------------------------------------------------
     
    [แถม]

    .
    .
    .

    "โอ๊ยยยย...เมื่อไหร่มันจะหมดเนี่ย?!!>[]< ฮีชอลตะโกนใส่จานกองโตตรงหน้า
    "เลิกบ่นแล้วลงมือทำซะทีได้มั๊ย? มันจะได้เสร็จๆ ไป"
                 คุณชายที่เกิดมา 19  ปี ยังไม่เคยต้องพับผ้าห่มตอนตื่นนอนอย่างคิมฮีชอล แน่นอนว่างานบ้านไม่เคยแตะซักอย่าง แต่วันนี้กลับต้องคอยรับใช้ลูกค้าในร้านพั่บทลจนร้านปิด แถมยังต้องมานั่งล้างจานกองโต สาเหตุเพราะคุณตาคนเมื่อกลางวันไม่ยอมรับเงิน แต่ยืนยันจะให้ฮีชอลทำงานชดใช้แทน  
                  เมื่อรับปากแล้วก็ต้องทำ ขืนกลับคำแล้วเอาแต่หาข้อแก้ตัวก็ไม่ใช่คิมฮีน่ะสิ ถึงจะพูดแบบนั้นเจ้าตัวก็ยังเอาแต่บ่นๆๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณตาต้องให้เขามาทำอะไรแบบนี้ด้วย  แต่ฮันคยองพอจะเข้าใจความคิดของคุณตาคนนั้น แกคงอยากให้เพื่อนของเขาพบกับความลำบากแล้วรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง
              ...เพล้งงงงง!!! 
    "เฮ้ยอีกแล้วเหรอ!" หนุ่มตี๋หันมองซากจานที่แตกกระจายอยู่บนพื้น
    "ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ จานมันลื่น..."   (- -")
    "โกหกนายตั้งใจจะแกล้งกันชัดๆ!! ที่กองๆ ท่วมหัวอยู่เนี่ยนายขี้เกียจล้างเลยกะจะทำแตกให้หมดเลยใช่มั๊ย?!!"
    "ไ อ้บ้าก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจไงเล่า!! ไ อ้ตี๋นี่พูดไม่รู้เรื่องรึไง!"
    "ตี๋แล้วไง? ไม่ได้ไปตี๋บนหน้าใครซะหน่อยนายแหละไ อ้คนชอบหาเรื่องใส่หัว ที่ฉันต้องมาล้างจานอยู่นี่เพราะนายคนเดียว!"
    "ว่าไงนะ! จะหาเหาใส่หัวหรือหาเรื่องใส่ตัวก็เลือกเอาซักอย่างสิฟะ!  ไ อ้กระเหรี่ยงพูกมะชัดเอ้ย!"

    "ว่าฉันกระเหรี่ยงเหรอ?!! นายแหละ ไ อ้หน้าตุ๊ด!"

    "ว่าไงนะ! อย่างฉันเค้าเรียกหนุ่มหน้าสวยเฟ้ย!    นายนี่มัน...เรื่องดีๆ ไม่รู้จักจำ แล้วไปจำคำพวกนั้นมาจากไหนกันฮะ
    ?!!...แถมยังพูดซะชัดเชียว  -*-
    "จะที่ไหน..  ก็นายนั่นแหละ!!"  อุ๊..! ฮันตอบง่ายๆ สั้นๆ แต่มันทำฮีจุก o.O!
                     ดูท่าแล้วคนที่ต้องพบกับความลำบากจะเป็นฮันคยองซะมากกว่า คุณตาครับตอนที่คุณตาบอกว่าจะให้หมอนี่ช่วยงานในร้านคงไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอย่างนี้ใช่มั๊ยครับ?    = =a
     
     



    -------------------------------------------------***----------------------------------------------------


     แหมๆๆ...  100% ซะที  ทำไมไม่รู้พอไม่ได้อัพรวดเดียวจบเนี่ย เนื้อเรื่องมันยืดยาวจริงๆ 
    (มีคนแอบคิด "มันยาวเพราะรูปที่แกลงนั่นแหละ!"   -*-)

    ตอนนี้ไรท์เตอร์เอาแต่เขียนเรื่องใหม่ๆ  เรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ เรื่องเก่ายังไม่จบซักเรื่อง 
    ...555+    (หัวเราะแบบสมเพชตัวเอง  - -")

    สนับสนุนกันต่อไปด้วยการเม้นๆๆ...  ตอนนี้เบาๆ ชิวๆ เนอะ (หรือจะเรียกว่าเรื่อยเฉื่อย)
    ตอนหน้าจะพยายามจัดหนักกว่านี้  เค้าสัญญา!!!  ^o^ 




    ฝากเบาๆ -->



      ตามไรท์เตอร์

     ตามเก็บรูป  SJ


     
     
          


     
     




    รัก!  รัก!  รัก!  ร๊ากกกกกก...!!!
      




    v    เฮ้ย!  นี่มันเพลงรักเย่เรียวใช่ม้ายยยยย...!!  >[]< 


    ไม่มีคยูออกมาซักกะติ๊ด  มีแต่เสียงอ่ะ  แสดงว่าเป็น MVรัก เย่เรียว  ใช่ป่าว?  ...ฮี่ๆๆๆ  ^_^


    v   อีกมุมเล็กๆ น่ารักของเย่เรียว 
    เสนอตอน  "ความโก๊ะของหนูเรียว"  ...เอิ๊ก ...เอิ๊ก  ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×