ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] -- Sweet Dormitory -- [YeWook]

    ลำดับตอนที่ #29 : [Fic. YeRyeo] Dor. No 20 -- ตื่นตูม?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 791
      1
      17 ก.ย. 54

    Dor. part 20   Stampede--ตื่นตูม?

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------




                                          ...ภาพครอบครัวที่อบอุ่นลอยขึ้นมาท่ามกลางความมืด
                                  เสียงหัวเราะมีความสุขท่ามกลางบรรยากาศของแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า

      

                                          "พ่อฮะ..  แม่ฮะ... ^^  ...คุณตาคุณยาย"  ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า


                                    ...แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน

      

                                       "แม่?  แม่ฮะ..แม่จะไปไหน?!"  หญิงสาวค่อยๆ หายไปพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม

                                       "พ่อฮะ?  ..พ่อฮะ?!!"  เด็กน้อยวิ่งตาม  เขาพยายามไขว่คว้ามือใหญ่อบอุ่นที่เคยเกาะกุมเอาไว้

                                       แต่วิ่งเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึง  ชายคนนั้นห่างออกไปทุกทีๆ  ไกลออกไปจนหายลับไปอีกคน...

                                       

                       เด็กน้อยหวาดกลัว และหันไปหาคุณตา  แต่ก่อนที่เขาจะทันได้คว้าตัวคุณตาเอาไว้  ชายชราท่าทางใจดีก็หายไปต่อหน้าต่อตา

                       "คุณยาย!  คุณยายอย่าทิ้งผมไป!"  มือเล็กป้อมพยายามไขว่คว้าสุดกำลัง  เขาร้องไห้เหมือนจะขาดใจ   "อย่าทิ้งผมไป!!!  พาผมไปด้วย!"   แต่ราวกับว่าคำขอเหล่านั้นส่งไปไม่ถึงเลย

                        หญิงชราหันมายิ้มให้อย่างอ่อนโยน  "เป็นเด็กดีนะ  จงเข้มแข็งเข้าไว้...หลานรักของยาย"  เธอพูดแค่นั้นแล้วก็หายลับไปอีกคน

      ท่ามกลางความมืด  เด็กเล็กๆ มองไม่เห็นใคร.. แม้แต่ตัวเอง   "ฮือ...  ไม่น้า~!  อย่าทิ้งผมไว้คนเดียว!!!"

    :::::: ::::::

                ...อึก!!!   ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก  เขาค่อยๆ ลืมตา  สิ่งแรกที่เห็นคือฝ้าเพดานสีซีด  บานประตูใสมองทะลุไปเห็นสวนที่คุ้นเคย  ...สวนที่เค้ามักจะฝันเห็นตัวเองและครอบครัวนั่งอยู่ที่ชานบ้านตรงนั้น  ทุกคนมีรอยยิ้มและดูมีความสุข...  สวนที่คุ้นเคยแต่ไม่ได้เห็นจริงๆ มานานแล้ว


               อาา...  เช้าแล้วสินะ?


              
    บ้านโล่งกว้างดูกว้างกว่าเดิมเมื่อต้องกินข้าวคนเดียว  ดูทีวีคนเดียว  เข้านอนคนเดียว และตื่นขึ้นมาอย่างเดียวดาย...
    คุณเคยเป็นบ้างมั๊ย?  ไม่ได้บกพร่องอะไร  ..มีเพื่อน  มีญาติพี่น้อง  มีเงินใช้  มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่  แต่ทำไมพอกลับมาบ้าน...  พบเพียงห้องว่างเปล่า  ไม่มีใครให้พูดคุย  ดึกแล้วไม่รู้จะโทรหาใคร  ไม่รู้จะโทรไปคุยอะไร 

                ...ก็แค่ "เหงา" 
     
                ...เหงามาก


               ผมเกลียดการอยู่คนเดียวทั้งที่ไม่ได้ตัวคนเดียว  ผมเกลียดเวลาที่เปิดประตูบ้านแล้วมันรู้สึกหดหู่ไปเอง  เกลียดที่ต้องเข้านอนเงียบๆ คนเดียว  และเกลียดที่สุดเมื่อต้องตื่นมาเงียบๆ คนเดียวเสมอ...
    ทำให้ผมมักจะเปิดทีวีไว้เป็นเพื่อน  ไม่มีอะไรดู  ไม่รู้จะดูอะไร  แต่ก็เปิดเอาไว้แบบนั้น  จนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้.. ตื่นมาอีกทีเพราะเสียงทีวีปลุก อาจจะเปลืองไฟไปหน่อยแต่ก็ยังดีกว่านอนไม่หลับ
    เมื่อก่อนผมนอนกับคุณตาคุณยาย  พอคุณตาเสียเราก็นอนด้วยกันแค่สองคนยายหลาน  จนในที่สุดความตายก็มาพรากที่ยึดเหนี่ยวหนึ่งเดียวของผมไป...

                 ผมนอนไม่หลับเลย  ไม่สามารถหลับลงง่ายๆ ในบ้านที่ซุกหัวนอนมาทั้งชีวิต  ไม่มีใครให้กอดและไม่มีใครกอดผมอีกแล้ว  เป็นครั้งแรกที่คิดว่า..การนอนมันยากเย็นขนาดนี้เชียวเหรอ?
    ผมต้องลากตัวเองกับหมอนและผ้าห่มลงมานอนข้างล่าง ตรงห้องนั่งเล่น  ที่ๆ มองเห็นสวน  ..ที่ๆ พวกเราเคยใช้เวลาด้วยกัน  เปิดทีวีไม่ก็ฟังเพลงทั้งคืนจนหลับไปเอง


                 วันนึงตอนผมเดินไปโรงเรียนสมัย ม.ต้น  ผมเห็นกล่องกระดาษใส่ลูกหมาเล็กๆ วางทิ้งไว้ข้างทาง  ผมมองมัน...แต่ก็เดินผ่านไปเฉยๆ
    ตกเย็นตอนที่เดินกลับบ้าน  ลูกหมาพวกนั้นบางตัวคงมีคนรับไปเลี้ยงแล้ว  วันต่อๆ มาลูกหมาค่อยๆ หายไปจากลังกระดาษจนเหลือเจ้าตัวผอมสีดำอยู่ตัวเดียว  ผมแค่มองมัน...แล้วก็เดินผ่านไป
    ผมเดินไปตามทางเดิมที่เคยผ่านอย่างทุกวัน  แต่เจ้าตัวผอมนั่นก็ยังไม่หายไป...

    จนขากลับ...   "อะไรกัน?  แกยังอยู่อีกเหรอ?"  รยออุคเข้าไปจิ้มๆ เจ้าหมาน้อย  มันเลียมือตรงหน้าอย่างประจบประแจง

    ทั้งๆ ที่เจ้าตัวน้อยนี่ก็ดูน่ารักไม่หยอก  แต่คงเพราะมันผอมมากและดูท่าทางจะขี้โรคเลยไม่มีใครสนใจจะเก็บมันไปเลี้ยง 

    "ไม่มีใครต้องการแก?  แกเองก็ตัวคนเดียวเหมือนกันสินะ?"  ตัวเล็กตัดสินใจอุ้มน้องหมาขึ้นมา  "งั้นไปอยู่กับฉันมั๊ย?  เรามันหัวอกเดียวกันนี่"

       ...ม่องๆ !  เจ้าหมาน้อยส่งเสียงเห่าขึ้นมา  รยออุคยิ้มบางๆ รู้สึกขำที่มันทำราวกับว่าตอบรับคำชวน  (หมาในฟิคเกาหลีของเราเห่า ม่องๆ! ล่ะ ...อิอิ)       ...ประมาณเดียวกับ ...บ๊อกๆ


                    ตั้งแต่นั้นมาผมเหมือนได้เติมเต็มบางอย่าง  ผมไม่ได้กินข้าวคนเดียว ไม่ได้อาบน้ำคนเดียว  ไม่ต้องดูทีวีคนเดียว  และไม่ต้องนอนคนเดียวอีกแล้ว  ผมตื่นอย่างสดใสเพราะตาบงช่วยปลุก  ใช่แล้วผมตั้งชื่อเจ้าหมาน้อยว่า "ตาบง" เพื่อหวังให้มันเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง
    ไปโรงเรียนอย่างอารมณ์ดี  ไม่ได้หมดอาลัยตายอยากเวลากลับบ้านแต่รีบกลับอย่างกระตือรือร้น เพราะรู้ว่ามีคนคอยผมอยู่  ถึงมันจะพูดไม่ได้ แต่ก็อยู่เคียงข้างผมเสมอราวกับเข้าใจความรู้สึกของผม  อาจจะใช่..ก็เรามันหัวอกเดียวกันนี่เนอะ?




                   เกือบ 2 ปีที่เก็บตาบงมา  ตั้งแต่ผมขึ้น ม.ปลาย  ผมต้องฝากตาบงไว้กับบ้านจีซอน  ไม่ได้กลับมาดูมันเลย จนกระทั่งมันจากผมไป...  บ้านหลังนี้กลับมากว้างเกินไปเหมือนเดิม  ก็มีแค่ผมนี่นา.. มีแค่ผมคนเดียว...
    ทั้งที่ก็มีแค่ผมคนเดียวมาตั้งแต่แรกแล้ว  ..ทำไมไม่รู้จักชินซะทีน้าเรา..



    "...อื้อออ  ..เรียว~"   เสียงเหมือนคนบิดขี้เกียจ...  =o=


    ...?!!  รยออุคเพิ่งจะรู้สึกถึงแรงโอบรัดที่เอว 


    "ยังเช้าอยู่เลย~"  เสียงงัวเงียดังมาจากข้างหลัง (back hug อ่ะ.. back hug ...คึคึ)  มือยาวๆ ดึงผ้าห่มให้เลื่อนขึ้นมาคลุมร่างเล็กและตัวเขาเอง ก่อนจะกดจูบบนผมนุ่ม

    "นอนต่อเถอะ..."  เสียงต่ำๆ กระซิบที่ข้างหู แล้วกระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นขึ้น


     
                    ...ไม่เหมือนเดิม  ไม่เหมือนเดิมซักหน่อย   การกลับมาบ้านหลังนี้อีกครั้งทำให้ความรู้สึกอ้างว้างเก่าๆ กลับคืนมา  แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้นอีกแล้ว  เขาลืมไปได้ยังไงกัน..เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว  เขายังมีเยซองอยู่นี่นา
    ยังมีผู้ชายคนนี้ที่คอยเรียกชื่อเขาในวันที่คิดว่าไม่มีใคร... 

    ร่างเล็กพลิกตัวไปหาเยซอง  เขาจับใบหน้าที่หลับพริ้ม แล้วก็หัวเราะในลำคอ ^^ ก่อนประทับจูบตรงมุมปากที่ไม่มีแผลแตกเบาๆ         ...ขอบคุณนะครับ  ขอบคุณที่มีพี่อยู่ด้วยกันตรงนี้

    "..หืม?"  เยซองรู้สึกตัวตื่น  เขามองเห็นใบหน้าอมยิ้มของตัวเล็กในระยะประชิด  "ขำอะไรน่ะ~?"

    "...หึๆ  ก็หน้าพี่น่ะ  มันบวมฉึ่งเลย"

    "หา?  จริงดิ?!!"  o.O เยซองตื่นเต็มตาทันที  "แล้วแบบนี้จะออกไปข้างนอกยังไงล่ะเนี่ย?!!"

    "ฮะๆ..  ทำไมล่ะ  พี่อายด้วยเหรอ?"

    "ถามได้..  ฉันก็อายเป็นนะ!"  ชายหนุ่มโวยวายโหวกเหวก  แต่รยออุคกลับเอาแต่นั่งอมยิ้ม...  ^_^




    ^  เอ่อม.... วันนี้หนูอุ๊คเธอค่อนข้างเปิดเผยค่ะ  วันนี้ไม่มีเก็บท่าที  ...ก๊ากกกก    

                  ...แม่ครับ  คุณยายครับ  ผมเสียใจมากที่ตาบงจากไปและต้องกลับมาที่บ้านนี้อีกครั้ง  แต่มันทำให้ผมได้รู้ว่าความรักอยู่รอบตัวเราเสมอ
    และตอนนี้ผมคิดว่าได้พบอีกความรักหนึ่งที่เปล่งประกายสว่างกว่าใครๆ  เขาทำให้ผมมองเห็นสิ่งที่ตอนแรกมองไม่เห็น
    เขาทำให้ผมรู้ว่า แค่เหลียวมองเราก็จะเจอคนที่รักเรา  แค่เพียงเราไม่ลืม...









    ^   รยออุค :  ซารางเฮ เยซองงงง..!

     


    เย่ :  ซารางเฮ...



     



    ----------------------------------------------***------------------------------------------------



               ป้ายชื่อ [นพ. ลี ซองมิน] ถูกดึงออกจากหน้าประตูห้องตรวจสีฟ้าสดใส  คุณหมอคนขยันเก็บเอกสารใส่กระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน


    "เหนื่อยหน่อยนะคะ~"   พยาบาลสาวหน้าหมวยโค้งให้ที่หน้าประตู ก่อนทั้งสองคนจะแยกกัน

    "กลับระวังๆ นะครับ"  คุณหมอยิ้มหวานพร้อมโบกมือให้  เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือ

               20:37   ...ยังพอมีเวลา  กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อก่อนดีกว่า

               คุณหมอมิ้นปิดร้านเสร็จก็ตรงกลับบ้านซึ่งก็คือ คอนโดที่อยู่ห่างออกไปแค่ 5 นาที
    ขึ้นลิฟท์แค่อึดใจเดียวก็มาถึงชั้น 11   "...หือ?"   หมอมิ้นเลิกคิ้วเมื่อสังเกตุเห็นเงาคนยืนอยู่แถวหน้าห้องตัวเอง

    "โอ๊ะ!  กลับมาซะที"   ร่างสูงโบกมือให้แต่ไกล

    "เธอ?  มาทำอะไรเนี่ย?"

    "โธ่...  ถามใจร้ายจัง  ทั้งที่ผมอกหักเพราะคุณแท้ๆ"

    "พูดดีๆ หน่อย  เธออกหักเพราะมือไม่ถึงเองต่างหากล่ะ  อย่ามาโทษคนอื่นสิ"

    คยูฮยอนเกาหัวแกรกๆ  "อะไรกันเนี่ย..  เมื่อวานใจดียังกับนางฟ้าแท้ๆ  แต่วันนี้กลับเย็นชาใส่กันได้  =3= ...บู่~!"

    "ว่าแต่มีธุระอะไรรึเปล่า?"

    "ก็มีอยู่หรอก  มือถือผมหายน่ะ  คิดว่าน่าจะลืมไว้ที่นี่นะ"

    "อ้าวเหรอ?"  คุณหมอจิ้มที่แผงหน้าประตู คงเป็นรหัส 7-8 ตัวเพื่อปลดล็อค  "งั้นก็เข้ามาหาเอาสิ"

    ร่างสูงเข้าไปในห้องตามคำเชิญก่อนจะตรงไปยังห้องนอน  "มันน่าจะอยู่ในนี้นะ..  ว่าแต่ซอนแซงนิม!"  เขาตะโกนถาม  "คุณเป็นคน..!"  ..ถอดเสื้อผ้าผม  พอคิดว่าจะพูดแบบนั้นก็เกิดเขินขึ้นมาซะงั้น  "คือ..  คุณน่าจะรู้นะว่ามันตกที่ไหนอ่ะ?!"

    "ฉันไม่เห็นเคยได้ยินเสียงโทรศัพท์เข้าเลยนะ"  คุณหมอร้องบอก 

    "คงแบตหมดตั้งแต่คืนนั้นแล้วล่ะ"

    "คงงั้น..ก็นายเล่นเมาแล้วโทรป่วนชาวบ้านเค้าไปทั่วเลยนี่"

    "โห่...  - -"  ยังเก็บมาล้อกันอีกนะครับ"

    "แล้วนายเข้าไปทำอะไรในนั้น  ฉันว่ามันน่าจะอยู่แถวนี้นะ  อ๊ะ! เจอแล้ว!!" 

    "จริงเหรอ?  ไหนๆ  อยู่ไหน?"

    "นี่ไง  ฉันเจอในซอกโซฟาเนี่ย"  หมอมิ้นชี้ที่จุดเกิดเหตุ

    'แปลกจริง..  ไปอยู่ในนั้นได้ไงหว่า  = =a  ก็เราว่าเราตื่นมาในห้องนอนนี่นา'   คยูพึมพำแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร

    "ดีแล้ว  หาเจอก็กลับไปได้แล้ว"

    "โห่~  อะไรกัน  ไม่คิดจะชวนให้นั่งดื่มชาก่อนบ้างเหรอ?"

    "อะๆ..  จะดื่มอะไรมั๊ย?"  ซองมินก็เล่นตามไปด้วย 

    "โค้กแล้วกันฮะ  ขอบคุณ"

    เจ้าของบ้านเดินไปหยิบโค้กในตู้เย็นมาโยนให้  "ดื่มเสร็จก็รีบกลับไปเลยนะ  ฉันนัดเพื่อนเอาไว้"

    "คร๊าบๆ..."  คยูลากเสียงยาวๆ เป็นการตอบรับก่อนจะงัดกระป๋องโค้กเย็นเฉียบ

                 ไม่นานนักคุณหมอที่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องก็กลับออกมา  "อ้าว?  ยังไม่ไปอีก?"

    "ใจร้ายอีกแล้ว!   ผมจะไปโดยไม่ลาคุณหมอได้ไง.. เสียมารยาทแย่เลย"  พูดเหมือนจะมารยาทดีแต่น้ำเสียงกวนโมโหมาก -*-

    "งั้นก็ ลาก่อน  กลับไปได้แล้ว"  หมอมิ้นช่วย(ผลักไสไล่)ส่งจนถึงที่  ก่อนเอื้อมไปเปิดประตูให้    "3 ทุ่มแล้ว  รีบกลับไปนอนได้แล้ว!"

    "ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ!"


               แอ๊ดดดด....         ทั้งสองคนเงียบไปชั่วขณะ เพราะมีคนยืนอยู่หน้าประตูพอดี 

    "ไง!  ว่าจะกดออดอยู่พอดี..."  พ่อหนุ่มคิ้วหนาหน้าตาหล่อยังกับนายแบบทักทายพร้อมยิ้มโชว์ฟันขาว  เขาจ้องมาที่คยูฮยอนที่ยืนคั่นระหว่างซองมินกับเขา 

    "ไม่มีอะไรหรอก!  เด็กนี่กำลังจะกลับพอดีน่ะ!"  คุณหมอเด้งคยูออกมาจากบ้านจนได้  "ราตรีสวัสดิ์!"  เขาตัดบทเสร็จสรรพ

    "ราตรีสวัสดิ์(ก็ได้)ครับ"  เด็กหนุ่มโค้งให้คุณหมอและเพื่อนก่อนจะเดินงงๆ กลับไป

    บรรยากาศเงียบแปลกๆ เกิดขึ้นที่หน้าประตูทันที  "นั่นมัน.. เด็กคนนั้นสินะ?"  ร่างสูงถามขึ้นน้ำเสียงจริงจัง

    ใบหน้าหวานหมองลงทันที  ซองมินไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้า ก่อนจะเชิญแขกเข้าบ้าน

    "นายนี่น้า~  ต้องทำตัวเองเจ็บอีกเท่าไหร่ถึงจะพอฮะ?"

    ซองมินเอาแต่ฟังอยู่เงียบๆ...  จนเพื่อนสุดหล่อถอนใจ

    "เฮ้อ~  เจ้าเด็กนั่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายเป็นใคร ยิ่งอยู่ใกล้คนแบบนั้นมีแต่จะยิ่งเจ็บเปล่าๆ"  เขาหงุดหงิดเหมือนยิ่งเห็นยิ่งขัดใจ  "แล้วถ้าจำได้ขึ้นมาก็คงไม่พ้นเป็นนายที่เจ็บอีก"

    "ด่าฉันอีก... ห้ามฉันทีสิซีวอน..."  คนที่นั่งเงียบมานานเปิดปากพูดเสียงอ่อย

    "ฉันก็ค้านมาตั้งแต่แรกไม่ใช่เหรอ?  นายนี่มันเจ็บแล้วไม่จำจริงๆ นะ..บ้ารึเปล่า?"

    ".............."    ปากบางเม้มแน่น  ในตาสั่นไหว..   "ฉันจะทำยังไงดี?  ฉันควรจะทำยังไง?"

    "เลิกยุ่งกับเด็กนั่นซะ  พอแล้วกับเด็กคนนี้น่ะ..OK?"



                      ....ก็คิดอยู่แล้วว่าต้องได้คำตอบแบบนี้
                      ...รู้ดีทุกอย่าง  แต่ทำไม่ได้ซักอย่าง 
                      คนเราก็อย่างเนี้ยะ  ..ใจมันไม่ยอมทำตามที่สมองสั่งเอาซะเลย...



    ::  แนะนำตัวละคร  ::



    ------------------------------------***---------------------------------- 


             ...กิ๊งงงง~   ก่องงงง~      


    ฮยอกแจลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นทันทีที่สัญญาณพักเที่ยงดังขึ้น โดยลืมสนใจ อ.ที่ยืนอยู่หน้าห้องไปเลย   "กินข้าวๆ!"  ไก่ชวนเสียงใส





    "......."    รยออุคค่อยๆ เก็บหนังสือเข้าใต้โต๊ะขณะแอบมองไปที่โต๊ะข้างๆ  คยูฮยอนมาโรงเรียนแล้ว(จริงๆ ก็มาตั้งนานแล้ว)  แต่พวกเขายังไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ 

    มันรู้สึกไม่สนิทใจเหมือนเมื่อก่อนและค่อนข้างอึดอัด  แต่ก็ต้องมีคนเริ่มก่อน   ...เอาวะ!   "คยู!"  ตัวเล็กกลั้นใจทักออกไป

    "หืม?"

    "เอ่อ... ไป  ไปกินข้าวกันเถอะ!"

    "อือ..  ก็ไปสิ"  


           ...เฮ้อ  ค่อยยังชั่วหน่อย   รยออุคถอนหายใจโล่งอกที่ไม่ถูกปฏิเสธ  แต่คยูฮยอนก็ยังพูดกับเขาน้อยมากอยู่ดี  T_T

            ขณะที่นั่งกินข้าวกัน 3 คนอยู่ที่โรงอาหาร  มีแต่ไก่ที่จ้ออยู่คนเดียว  คยูฮยอนกับรยออุคไม่ได้คุยกันตรงๆ เลย  แค่ทำเป็นสนใจที่ฮยอกแจพูดและหัวเราะฝืดๆ ออกมาเท่านั้น

    "แค่กๆ..!  พูดมากติดคอ  พวกนายไม่คอแห้งบ้างรึไง?  เดี๋ยวฉันไปหาน้ำกินก่อน  พวกนายจะเอาอะไรล่ะ?"

    "เอ่อ... น้ำเปล่าละกัน  ขอบใจ"

    "OK!  น้ำเปล่านะ"  ว่าแล้วก็วิ่งตัวเบาไปทางร้านน้ำทันที

             รยออุคเหลือบมองไปทางคนตรงข้ามที่ก้มหน้าตักข้าวเข้าปาก  ตอนนี้ต้องถือโอกาสที่ฮยอกแจไม่อยู่พูดออกไปเลย...

    "เอ่อ.. คยู"   เรียวอึกอัก  มือไม้บีบไปมา  "เอ่อ...  คือพวกเรา.."

    "มันไม่ทางกลับไปเหมือนเดิมได้หรอก"  o.O  คยูตัดบทขึ้นมาหน้าตาเฉยทำเอาอีกคนอึ้งไปเลย

    "ด.. เดี๋ยวสิ"   ตัวเล็กเอื้อมไปคว้ามือไว้

    เพื่อนตัวโตก้มมองมือเล็กๆ นั้น  "ฉันคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้  เพราะเราต่างก็รู้อยู่ว่ามีอะไรเกิดขึ้น.." 

    รยออุคที่คอยฟังอยู่ใจเสียขึ้นเรื่อยๆ  ราวกับกำลังจะถูกบอกเลิกจากเพื่อนคนสำคัญ   "..เป็นเพื่อนก็ไม่ได้เหรอ?"

    "ฉันบอกว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม เพราะฉันคงต้องขอเวลาทำใจ"  คยูกุมมือตอบ  "..แต่ไม่ได้บอกว่าเราต้องเลิกเป็นเพื่อนกันซะหน่อย"

    "...  จริงนะ!"   ตัวเล็กตาเป็นประกาย เขายิ้มกว้างออกมาทันที  "เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่?"

    "อื้อ  แน่นอนอยู่แล้ว"   เขายิ้มให้พร้อมตบมือเล็กเบาๆ


               ...เพี้ยะ!


             ร่างสูงที่เพิ่งเดินถือถาดอาหารมาถึงตีเผี่ยะเข้าให้บนมือหนาของคยู  

    "ปล่อยเลยๆ!"  เยซองเขี่ยถาดของฮยอกแจไปข้างๆ และวางของตัวเองแทนที่เพื่อจะนั่งข้างๆ รยออุค  ก่อนจะเอื้อมไปแกะมือทั้งสองให้แยกกัน  แล้วหันไปค้อนใส่คยูฮยอน  "คุยกันเฉยๆ ก็ได้ม้าง..."  เขาลากเสียงกวนๆ

    ทั้งสองคนจ้องตากัน ..เปรี้ยะๆ!  ราวกับจะมีประกายไฟแล่บออกมาก็ไม่ปาน...


    "อ้าวพี่เยซอง  มาช้าจัง"  ไก่น้อยวิ่งย็อกแย็กมาพร้อมน้ำ 3 ขวดกับนมรสกล้วย

    "ก็เสียเวลาตอบแบบสอบถามเรื่องอนาคตอยู่น่ะสิ"  รุ่นพี่ส่ายหน้า  "3 อันดับมหา'ลัยที่อยากเข้าอะไรทำนองเนี้ยะ ...ปวดหัว!"

    "พี่ก็ตั้งใจเข้า ม.M  ที่ดังเรื่องดนตรีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?  ไม่น่าต้องคิดนานนี่"

    "ก็อยากอยู่..."   พูดแล้วก็หันไปทางรยออุคที่ทำตาแป๋วคอยฟังอยู่   "..แต่มันไกลนี่"

             เยซองที่เพิ่งรู้สึกว่าใจตรงกันกับเจ้าตัวเล็กของเขา  ตอนนี้อยากจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่า  แค่เผลอคิดไปว่าอีกเดี๋ยวเขาก็จะจบ ม.ปลายแล้วในอกมันโหวงขึ้นมาทันที  เพราะงั้นถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากไปเรียนต่อในที่ไกลๆ แบบนั้นหรอก  อย่างน้อยถ้าเรียนแถวนี้ก็ยังมาหาบ่อยๆ ได้  


             ....ถ้าไปอยู่ไกลๆ แล้วเกิดอยากเห็นหน้าเจ้าเปี๊ยกนี่ขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ?  บ้าตายกันพอดี  -*-



    "โธ่เอ้ย...ที่แท้ก็ติดแฟน"  ฮยอกแจเบ้หน้าใส่  "เฮอะ... ไร้สาระ"

    "ว่าไงนะ?!"

             รยออุคลอบมองคยูทันทีที่ไก่พูดเหมือนว่าเขากับเยซองเป็นแฟนกัน  แต่คยูกลับทำหน้านิ่งผิดคาด  เขากินซุปอย่างไม่แยแสเลยด้วยซ้ำ  ไม่แม้แต่จะมองมาทางนี้.. จนรยออุครู้สึกแปล๊บในอกชอบกล

    "เอ้อ!  ...สุดสัปดาห์นี้พวกนายมีโปรแกรมไปเที่ยวไหนกันรึเปล่า?"  เรียวหันมาชวนเปลี่ยนเรื่อง

    ไก่ที่โดนเย่ล็อคคอโทษฐานว่ารุ่นพี่ไร้สาระหันมาทำตาโต  "จริงสิ!  อาทิตย์นี้อุตส่าห์มีวันหยุดยาวนี่นา  พวกเรารวมกลุ่มกันไปเที่ยวดีมั๊ย?"  ฮยอกแจเสนอไอเดียอย่างตื่นเต้น  "ไปนะๆ  ฉันอยากไปทะเลจัง~"  เขาพยายามรบเร้าด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

    "ไม่ได้!"  เยซองค้านเสียงแข็ง   "นายจะไปไหนกับใครฉันไม่ว่า  แต่เรียวมีนัดกับฉันก่อนแล้วเฟ้ย!"

    "โห่...."  ฮยอกแจทำหน้าผิดหวังอยู่แว่บนึงก่อนเปลี่ยนมายิ้มเจ้าเล่ห์  "ฮั่นแน่!  นี่จะไปเที่ยวกันสองต่อสองล่ะสิ"

    "ฮึ้ย!  จะไปคนเดียวหรือสองคนมันก็เรื่องของฉัน"  เย่หลบตาอย่างเขิลๆ... หุหุ

    "แน่ะๆ..  รู้นะคิดอะไรอยู่~"   เจ้าเด็กตาชั้นเดียวยังแซวไม่เลิก   



             ...ปึ้ง!!


    จู่ๆ คยูฮยอนก็ลุกพรวดขึ้น  "ใครจะไปไหนก็เชิญตามสบาย  แต่ฉันขอตัวล่ะ!"  ว่าแล้วก็ลุกเดินออกไปเลย



    "เป็นไรของมันว้า~?"  ฮยอกแจเกาหัวแกรกๆ  "ไม่ไปก็ไม่ไปสิ  ไม่เห็นต้องเสียงดังเลย..."

    ...ทนไม่ได้ล่ะสิ้   รุ่นพี่มองตามไปแบบสะใจเล็กๆ  ก่อนลอบยิ้มออกมา  "ฉันก็ไม่ได้ชวนแกเฟ้ย...หึ"

    "พี่เยซอง!"  มือเล็กหยิกเข้าให้ที่แขนคนข้างๆ   ...เก็บอาการบ้างก็ได้นะ   - -"







    ---------------------------------------------***--------------------------------------------






              ...เฮ้อ    ตัวเล็กนั่งถอนใจที่ห้องโถงชั้นล่างของหอพัก  พรุ่งนี้ก็วันหยุดแล้ว...พรุ่งนี้ก็ถึงวันที่นัดกับพี่เยซองของเค้าแล้ว

    'เอาไงดีน้า~   อุตส่าห์จะชวนคนไปด้วยกันเยอะๆ จะได้มีไม้กันหมา'   เขาบ่นพึมพำยังกับเสียงยุงบิน  'แล้วทีนี้จะทำไงดีล่ะเนี่ย?'  เรียวนั่งเท้าคางพยายามคิดหาวิธีเอาตัวรอด  'ไม่หรอกมั้ง..  คงไม่มีอะไรหรอก  ก็พี่เค้าสัญญาเอาไว้แล้วนี่..ถ้าเราไม่ยินยอมก็จะไม่(เอาพี่เย่เวอร์ชั่นหื่นออกมา)ฝืนใจน่ะ'

    ....เฮ้ออออ    ว่าแล้วก็ถอนใจยาวๆ อีกรอบ


    "ทำอะไรอยู่น่ะ?!!"  จู่ๆ ก็มีคนเข้ามาตะปบหลังทำเอาตัวเล็กสะดุ้งเฮือก

    "พ.. พี่คังอิน!  โธ่...ตกใจหมด!"  

    "ขวัญอ่อนจริงนะ  ใจลอยไปถึงไหนล่ะ?"  รุ่นพี่หัวเราะชอบใจจนตาเหลือขีดเดียว  "แล้วนี่พี่เย่แกไปไหน?  แปลกใจเลยนะเนี่ยที่เห็นนายนั่งอยู่คนเดียวแบบนี้"

    "พี่เยซองบอกว่าจะกลับดึกหน่อย ต้องซ้อมดนตรีน่ะฮะ"

    "อ้อ..สมควรแล้ว   ที่ผ่านมาคงไม่พ้นโดดตลอด  พอเห็นจะหยุดยาวเลยซ้อมส่งท้ายให้เพื่อนดีใจหน่อยละมั้ง"

    .
    .

    "เอ่อ..."  รยออุคมองหน้าคังอินอย่างชั่งใจ  "คือ..."

    "หืม?"  หมียกคิ้วเข้มๆ  "ว่าไง?"

    "เอ่อ...  แบบว่า..  ถ้า.. ถ้าเกิดคนๆ หนึ่งชวนอีกคนหนึ่งไปเที่ยวค้างคืนเนี่ย พี่คิดว่าเขาคิดอะไรอยู่ฮะ?"

    "หา?!!  นี่พรุ่งนี้พี่เยซองชวนนายไปเที่ยวเหรอ?  ค้างคืนซะด้วย!"  อุ้งเท้าหมีตีป๊าบที่หน้าขาตัวเอง  "แหม่!  ให้มันได้อย่างนี้สิพี่เรา"

    "พี่คังอินอ่า...  ผมยังไม่ได้พูดอย่างงั้นซะหน่อย!"  แก้มกลมๆ ขึ้นสีระเรื่อ

    "ไม่เป็นไรๆ  ^^  ไม่ต้องมาอายหรอกน่า"  พี่หมีเข้ามาโอบรอบคอ  "ของแบบนี้มันเรื่องธรรมดา~"

    "อะ... ธรรมดาอะไรฮะ?"

    "แหม...  อย่ามาแอ๊บแบ๊วน่า  เป็นแฟนกันชวนกันไปค้างคืน  นายก็เป็นผู้ชายอย่าบอกนะว่าไม่รู้ว่าผู้ชายเค้าคิดอะไรกัน ...คึคึ"    หมีส่งยิ้มตาขีดเดียวมาอีกรอบ


           ...หา?!!  จะว่ารู้ก็พอรู้อยู่หรอก  แต่ไม่อยากจะคิดแบบนั้นนี่นา  ..แล้วมันต้องลงเอยแบบนั้นตลอดเลยเหรอ?!!


    "คุยอะไรกันอยู่น่ะ"   เสียงหวานๆ ของหัวหน้าหอโผล่มาพร้อมลักยิ้มน่ารัก  "อย่าไปเชื่อหมอนี่มากนักนะ  หมอนี่มันชอบเพ้อเจ้อ!"  อีทึกชี้ไปที่รูมเมทตัวเอง

    "ฉันเพ้อเจ้อที่ไหน  ฉันเป็นรุ่นพี่ที่น่าเชื่อถือนะ"

    "จ้าๆ  ^^   แล้วไง?  ปรึกษาอะไรกันอยู่?"

    "ก็คือว่า พี่เย่ซี้นาย เขาชวนเจ้าตัวเล็กนี่ไปเที่ยวค้างคืนตั้งแต่พรุ่งนี้น่ะ"

    "เที่ยวค้างคืน?"

    รยออุคได้แต่หน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ  จะห้ามปากพี่หมีก็คงทำไม่ได้  >/////<  ต้องเออออตามไป

    "ไม่ใช่มั้ง"   ทึกกี้แย้ง  "ก็พรุ่งนี้มันวันที่ 24 ไม่ใช่เหรอ?"

    "ก็ใช่  แล้วมันยังไงเหรอ?"  หมีอยากรู้เต็มแก่

    "ก็วันที่ 24 สิงหาเป็นวันเกิดเย่มัน  มันกลับบ้านไปหาแม่ทุกปีแหละ ไม่ไปเที่ยวหรอก"

    "เอ๋?"   เรียวชักจะงง...  วันเกิด?  เที่ยว?  อะไร? ยังไงกันแน่?


    "มันชวนเรียวไปด้วยแบบนี้ก็เหมือนพาไปเปิดตัวน่ะสิ"  ทึกกี้หันมาทำตาหวาน  "ดีใจด้วยน้า~ ...คริๆ"  รุ่นพี่เอานิ้วจิ้มไหล่แก้เขินก่อนทำเป็นหัวเราะอายๆ แทนเจ้าตัว

    "กิ๊วๆ~  นี่มันเหมือนพาว่าที่ลูกสะใภ้ไปฝากตัวกับแม่สามีเลยนะเนี่ย~"   คังอินรีบสมทบทันทีทำเอาตัวเล็กยิ่งหน้าแดงเป็นมะเขือเทศถูกต้ม (แดงแล้วยังร้อนอีก ...คึคึ  )  





    "เอ... ว่าแต่ปีนี้จะให้ของขวัญอะไรมันดีล่ะเนี่ย?"

    o.O ของขวัญ!  รยออุคเลิกอายทันทีที่นึกได้  เพราะว่าเพิ่งรู้จึงไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย  นี่ก็เย็นป่านนี้แล้วจะไปหาของขวัญดีๆ ได้ที่ไหนล่ะเนี่ย?!   

                ...ว๊ากกกก!   ทำไงดีๆ!     ฮึดฮัดพึมพำอะไรอยู่คนเดียวก่อนจะวิ่งหายขึ้นไปบนห้อง



    อีทึกกับคังอินเห็นรุ่นน้องฟุ้งซ่านก็พากันส่ายหัวอย่างปลงๆ

    หมีคัง...  "นี่นายคิดว่าไปบ้านแล้วจะไม่โดนทำอะไรจริงๆ เหรอ?"

    ทึกกี้...    "ไม่หรอกน่า  ที่บ้านคนเยอะแยะนะ  ถ้าเป็นนายๆ จะทำได้เหรอ?"

    หมีคังยิ้มเจ้าเล่ห์...  "มันก็ไม่แน่นะ..หึหึ  นายยิ่งชอบยั่วฉันอยู่ด้วย"

    ทึกกี้ตีป๊าบเข้าให้...  "บ้า!  ฉันไปทำอย่างนั้นเมื่อไหร่?!!"

    หมีคัง...  "นี่ไงๆ..ขนาดโมโหยังน่ารักอ่ะ  ว่าแล้วก็มาจูบทีซิ  มามะ!"  หมีอ้าแขนรับ

    ทึกกี้...   "บร้า~"   ^^

    .............................
    ......................
    ........

    to  be  continue

    ช่วงนี้อัพบ่อยนะเราเนี่ย    และยังใส่รูปไม่ยั้งเหมือนเดิม  ...555+



    ไปค้างน่ะไปได้ค่ะ  แต่อย่าให้คุณฮีรู้ละกัน... ไม่งั้นอาจจะอดไป  อิอิ

    ส่วนของขวัญน่ะเอาตัวผูกโบว์ไปเลยง่ายๆ  ไม่ต้องหาซื้อ ...ㅋㅋ


    ^   อุ๊คจะกลับไปนอนฝันร้าย?



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×