ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] -- Sweet Dormitory -- [YeWook]

    ลำดับตอนที่ #14 : [Fic. YeRyeo] Dor No.10 --อึดอัด--

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.09K
      2
      15 ก.ย. 54

    Dormitory Part.10  Queasy  ...อึดอัด...
    by. อ่อนหัด

    --------------------------------------------------------------------------------------------


    วันนี้ใช้เพลงไทยแหละ  ไม่ได้ฟังนานแระ... ก็เพราะดีนะ  ^^

    .....................


    "นายไม่ต้องไปไหนหรอก   ...ฉันจะไปเอง"

    คำพูดประโยคนั้นทำเอาอีกฝ่ายต้องเงยหน้าขึ้นทันที

    "ฉันจะไปเอง...  ฉันจะไปขอย้ายห้อง
    หรือถ้านายไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้าฉันในหอนี้   ...ฉันก็จะเป็นคนที่ออกไปเอง"  พูดจบก็ค่อยๆ ผ่อนแรง และปล่อยมือจากแขนบางในที่สุด



    "แต่...   นายช่วยเลิกหลบหน้าฉัน..." ความรู้สึกอัดอั้นเจ็บปวดเพราะถูกคนที่รักเมินเฉย..ฉายชัดในแววตาสีเข้ม  "...แล้วคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังหน่อยได้มั๊ย?"  

    "ผมไม่..."   ปากบางพยายามเอ่ยปฏิเสธ  แต่เสียงแข็งๆ ดังขึ้นตัดบทซะก่อน

    "ฉันจะรอ!!"  ถึงจะเห็นแววเจ็บอยู่ตรงหน้า  แต่ขอเจ็บช้าลงอีกสักวันก็ยังดี...   "ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไงฉันก็พร้อมจะยอมรับ... 

    ....แต่ขอร้องอย่าทำเหมือนไม่รู้จักกันแบบนี้เลย   ...ได้มั๊ย?"   เสียงแหบพร่าที่เริ่มสั่น  คำขอของผู้ชายคนหนึ่งที่ฉาบไว้ด้วยน้ำตาคลอเบ้า... 


    "ระหว่างนั้นฉันจะไปค้างที่อื่นเอง ...ที่นี่เป็นห้องของนาย เพราะงั้นนายนอนให้สบายเถอะ"  สายตาเศร้าทอดยาวไปยังร่างเล็กก่อนจะหันหลังจากไป





                 ในห้องสี่เหลี่ยมที่เงียบสงัด  รยออุคยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่  คำพูดและแววตาของคนที่เพิ่งออกไปยังติดแน่นในสมอง

                     .....ทำไมต้องทำหน้าเจ็บปวดขนาดนั้นด้วย?   ...ทำไมต้องมาทำให้รู้ว่าพี่จริงจังขนาดไหน?

                
                 ร่างบางทรุดตัวลงนั่ง ในอกเล็กทั้งเจ็บและหนักอึ้งไปหมด  เขากำลังสับสน ความรู้สึกมากมายประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อน  นี่เขาจะต้องทำยังไง?  ..ต้องตัดสินใจยังไงถึงจะดี?
    ทั้งที่คอยหลบ  เพราะไม่อยากเห็นสีหน้าแบบนั้นที่สุดแท้ๆ    "...ฮึก!  ..จะทำยังไง?  ...ผมต้องทำยังไงดี?"   เรียวที่อยู่ในท่ากอดเข่าค่อยๆ ซบหน้าลงเงียบๆ


    .
    .

    --------------------------------------***----------------------------------------





    ที่โรงเรียน
    .
    .
    .

    "เรียว"  คยูฮยอนลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ  ก่อนจะยกแขนยาวๆ ขึ้นโอบไหล่เพื่อน  "เป็นอะไรไป  หน้าโทรมเชียว  ตายังกับหมีแพนด้าแน่ะ!" 

    ตัวเล็กหันมาเอื่อยเฉื่อย  "...ขนาดนั้นเลยเหรอ?   นายดูรู้เลยเหรอ?"

    "ชัดจะตายไป  ตอนนี้นายยังกับซอมบี้แน่ะ"  หน้าหล่อหัวเราะร่วน  แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ขำด้วยจึงเลิกทำหน้าไร้สาระ  "...เป็นอะไรไป  นอนไม่หลับอีกแล้วเหรอ?"

    "อืม"  ปากบางตอบสั้นๆ ง่ายๆ

    "นายนี่มีปัญหากับการนอนจังนะ  เอางี้มะ?  หลังเลิกเรียนฉันจะพาไปซื้อของดี  รับรองหลับสบาย ^^ "

    "อืม"  รยออุคทำตาลอยๆ  เขาแค่ตอบเออออไปอย่างนั้นเอง จริงๆ แล้วแทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคยูพูดเรื่องอะไรอยู่

    "แล้วนายจะไปด้วยมั๊ย?"  ร่างสูงหันไปหาเพื่อนอีกคนที่กำลังขมักเขม้นกับการบ้านตรงหน้า

    "อยากไปอยู่หรอก  แต่เย็นนี้ฉันมีนัดแล้วน่ะ  ...ขอบาย"  ฮยอกแจตั้งหน้าตั้งตาลอกโน๊ตจากเพื่อนไม่หันมาสบตาด้วยซ้ำ

    .
    .

             ...ติ๊งงงง~    ต่องงงง~



                    เมื่อออดดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าเวลาเรียนได้จบลงแล้ว  คยูฮยอนกระตือรือร้นเข้ามาลากรยออุคออกไปตามที่ได้นัดกันไว้   ที่ๆ ร่างสูงตั้งใจจะพาไปในวันนี้คงหนีไม่พ้นย่านช็อปปิ้งที่ซึ่งมีร้านค้าตั้งเรียงรายเต็มสองฝั่งทาง
    ไม่ว่าพวกเขาจะต้องการอะไร  ทั้งเสื้อผ้า  เครื่องเขียน  เครื่องใช้ไฟฟ้า  เครื่องสำอางค์  อาหาร ฯลฯ  ทุกอย่างล้วนหาซื้อได้ที่นี่

     

     

    "ฮึ้ย...  วันนี้คนเยอะจริงๆ"  ว่าแล้วก็คว้าหมับไปที่มือเล็ก  ก่อนจะหันไปพูดกับเจ้าของมือ  "..เดี๋ยวหลง"   
    รยออุคไม่ได้ว่าอะไร  ทั้งคู่เดินจูงมือกันไปซักพักคยูฮยอนก็พาเข้าไปในตึกสูงแห่งหนึ่ง  เขาพวกตรงไปขึ้นลิฟท์ก่อนจะมาหยุดที่ชั้น 5

     

    "อ้าาา~  ถึงแล้ว"  ร่างสูงกล่าวขึ้นอย่างอารมณ์ดี 

    ตัวเล็กหันมามองหน้าอย่างงงๆ  "...?"  ...แล้วไง?

    "...ก็แผนกเครื่องนอนไง  นอนไม่หลับก็ต้องมาที่นี่แหละ"  ว่าแล้วก็พากันเข้าไป  แม้ในตัวห้างฯ คนจะไม่พลุ่กพล่านนักแต่ร่างสูงก็ยังคงจูงมือไม่ห่าง

    "ฉันเคยเห็นน้า~?  ที่แม่ชอบมาซื้อ พวกหมอนเพื่อสุขภาพอะไรทำนองนั้นน่ะ"  คยูกำลังกวาดสายตาหาสิ่งที่เขาต้องการ
    "อ๊ะ!  นั่นไงๆ เจอหมอนแล้ว"  ร่างสูงตรงดิ่งเข้าไปในส่วนที่แสดงหมอนหลากหลายชนิด  เขามองๆ อยู่ซักพักก็หยิบหมอนรูปตัวการ์ตูนที่ดูเหมือนจะเป็นหมีลายขวางสีขาวสลับเทาขึ้นมา

      


    "อันนี้มั๊ย?  หรืออันนี้ดี?" ว่าแล้วก็ชี้ไปทางหมอนรูปการ์ตูนอีกใบซึ่งเค้าไม่แน่ใจว่าจะใช่กระต่ายรึเปล่า  มันเป็นรูปใบหน้าสีขาว หูยาว  และกำลังทำปากจู๋

    "อืม...  ก็น่ารักดี"  รยออุคตอบเนือยๆ

    คยูฮยอนวางหมอนในมือลงทันที  "เป็นอะไร?  เบื่อเหรอ?"  ถามออกมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง

    "อะ...  เปล่าๆ   คือฉัน...  ก็ฉันนอนไม่พอ  เลยดูง่วงๆ น่ะ  ไม่มีอะไรหรอก"  พลางยิ้มแห้งๆ กลบเกลื่อน

    "เหรอ..  งั้นรีบซื้อแล้วรีบกลับดีกว่านายจะได้กลับไปนอน   อ๊ะ!"  สายตาคมไปสะดุดอยู่ที่หมอนแสนน่ารักใบนึง

    "อันนี้เป็นไง? ^^"  คยูชี้ให้ดูหมอนขนนุ่มนิ่มสีชมพูที่ด้านนึงเป็นรูปหน้ากระต่าย  แถมยังเป็นกระต่ายที่ติดโบว์สีชมพูด้วย  "เข้ากับนายมากๆ อ่ะ"

     เพื่อนหัวหน้าห้องหยิบขึ้นมาดูนิดนึง  "อันนี้ดีเลย  เสียบปลั๊กทิ้งไว้ไม่กี่นาทีมันก็จะอุ่นด้วยล่ะ  ถึงจะกลมๆ ไปหน่อยแต่นุ่มดีนะ  OK เอาอันนี้ล่ะ"  ร่างสูงพูดเอออออยู่คนเดียว ก่อนจะหันมายิ้มให้เพื่อนตัวเล็ก


    รยออุคได้แต่พยัคหน้าและยิ้มตอบ  ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะเลือกจะดูอะไรทั้งนั้น  แต่เพื่อนอุตส่าเป็นห่วงและพามาถึงนี่ ถ้าคยูฮยอนว่าดีเค้าก็ต้องว่าดีด้วยอยู่แล้ว

    "เอ่าล่ะๆ...  หมอนเคลียร์!  ต่อไปๆ..."  ชายหนุ่มเริ่มกวาดสายตาไปทั่ว  "โอ้...  นั่นเลย!"  เขาจูงรยออุคไปที่ชั้นไม่ห่างกันนัก
    "อันนี้ถึงไม่ใช่กระต่ายแต่ก็เข้าชุดกันดีนะ"  คยูหยิบ Sleeping eye mask (หน้ากากปิดตาสำหรับใส่นอน) สีชมพูรูปแกะขึ้นมาให้คนข้างๆ ดู

     

    ปากบางคลี่ยิ้มน้อยๆ  "อืม..  ก็ดี" 


    ยิ่งเห็นเพื่อนทำท่าทางซึมๆ  คยูฮยอนก็ยิ่งชวนคุยทั้งที่ปกติเค้าไม่ใช่คนช่างพูด  แต่วันนี้ดูราวกับว่าเขาเป็นคนพูดมากไปเลยทีเดียว  ร่างสูงยังคงพยายามลากรยออุคไปดูของตรงนั้นตรงนี้  จนได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ที่ไม่เชิงเป็นหมอนข้าง  มันยาวตั้ง 110 ซม. แน่ะ และเขาคิดว่าน่าจะเพื่อนนอนที่ดีของรยออุคได้

     

    "ได้ของสีชมพูมาตั้งเยอะแล้ว  ตัวนี้เอาสีเขียวแล้วกัน"  คนตัวโตลอบยิ้มกับตัวเอง ปากก็พูดออกไปแบบนั้นแต่จริงๆ แล้วคยูชอบสีเขียว  และเขาอยากให้เจ้ากระต่าย(มั้ง?)ตัวนี้ทำหน้าที่นอนเป็นเพื่อนรยออุคแทนเขาด้วย

    "อืมมม...  ครบรึยังนะ?  มีหมอนแล้ว  หน้ากากแล้ว  หมอนข้าง..."  หน้าหล่อทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะตรวจเช็คของที่ตนซื้อมา  "จริงสิ!  ถ้ามีนั่นอีกอย่างนายหลับฝันดีแน่"  ว่าแล้วก็รีบคว้าข้อมือบางเดินลงไปยังชั้นล่าง

      

       
                แถวนี้เป็นโซนเครื่องหอม  ขนาดคยูยังไม่ได้แวะเข้าร้านไหนรยออุคก็ได้กลิ่นหอมมาแต่ไกล  ไม่นานร่างสูงก็พาแวะเข้าไปในร้านเล็กๆ น่ารักร้านนึง  เป็นห้องที่ประดับประดาไปด้วยเทียน  ทั้งเทียนจริงๆ และเทียนไฟฟ้า  แถมยังมีโคมไฟและตะเกียงสำหรับจุดน้ำมันหอมระเหยอีกด้วย  ...บรรยากาศและกลิ่นหอมชวนให้รู้สึกโรแมนติคอยู่ไม่น้อย

    "ว่าไงคะ~  สนใจเป็นกลิ่นแบบไหนดีเอ่ย"  พี่สาวดูท่าทางใจดีซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของร้านถามขึ้น

    "เอ่อ..."  คยูฮยอนทำท่าอ้ำอึ้งก่อนจะหันมาทางเพื่อนตัวเล็ก  "นายชอบกลิ่นแบบไหนล่ะ?"

    "เอ๊ะ?  ...ฉัน  แบบไหนก็ได้  แต่ขออ่อนๆ ดีกว่า"

    "อ่อนๆ สินะจ๊ะ  กลิ่นอ่อนๆ ที่ผู้ชายน่าจะชอบ..."  เจ้าของร้านลากเสียงยาว  พลางกวาดตาไปที่สินค้าในร้าน "งั้นก็ลองนี่มั๊ยจ๊ะ?  Aura  ชุดนี้ได้กลิ่นแล้วจะรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย  หอมอ่อนๆ แต่ไม่ใช่หอมหวาน  น่าจะใช้ได้นะ"  ว่าแล้วก็ส่งเทียนมาให้เด็กหนุ่มทั้งคู่ลองดมดู

     

    "...อื้มมม   อันนี้ก็ดีนะ"  คยูเสนอขึ้น  "ว่าแต่นายชอบรึเปล่า?  เพราะนายจะต้องเป็นคนนอนกับมันนะ"

    เรียวเอาจมูกเขาไปใกล้ๆ เทียนในมือคยู  "อืม  ได้กลิ่นแล้วก็สดชื่นดี"  ตัวเล็กยิ้มออกมานิดนึง

    "OK งั้นตกลงเอาชุดนี้ล่ะฮะ"  มือเรียวส่งเทียนคืนให้แม่ค้าเพื่อนำไปแพ็คใส่ถุง

    "ไม่สนใจอันนี้ด้วยเหรอจ๊ะ?"  นิ้วผอมๆ ชี้ไปทางเทียนสีขาวแดงรูปหัวใจซ้อนกันอย่างน่ารัก  "ตัวนี้เป็นเทียนคู่รัก  กลิ่นหอมละมุน  จุดแล้วอธิษฐานรับรองว่าสมหวังรักกันหวานชื่นแน่นอนค่ะ"

    "...?!!"  รยออุคงงเป็นไก่ตาแตก  แต่พอเริ่มจะเข้าใจก็รีบแก้ข่าวทันที  "ไม่ใช่ฮะไม่ใช่..."  มือไม้โบกไปมา  หน้าก็เริ่มขึ้นสีจัด  "เราเป็นแค่เพื่อนกันน่ะครับ!  ไม่จำเป็นต้องใช้หรอกครับ!" 

    "แหม...  ไม่ต้องทำเป็นเขินหรอกจ้ะ  ก็เห็นจูงมือกันติดหนึบขนาดเนี้ย"  เจ๊เจ้าของร้านทำท่ายกนิ้วชี้ขึ้นแนบชิดกัน  ก่อนจะป้องปากหัวเราะเสียงแหลม  ...โฮะๆๆ

    แขนบางถองเข้าที่เอวของร่างสูง  "บอกเธอไปสิ! ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดน่ะ"

    "อาาาาา...  ครับ"  คยูฮยอนปฏิเสธอย่างจำใจ   "เอาแค่นี้พอแล้วครับ"

    "จ้าาา~  จ้ะ"  เจ้รับคำแล้วก็รับเงินไปที่เคาทน์เตอร์  ตอนส่งของให้ก็ยังไม่วายแซวว่า  "...ระวังเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อนะจ๊าาา~"  ทำเอารยออุคหน้าร้อนฉ่าขึ้นอีก

    .
    .
    .
    "หัวเราะอยู่ได้  นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ"  มือเล็กตีเบาๆ เข้าที่ไหล่กว้าง  "เพราะนายนั่นแหละเอาแต่ลากฉันไปทางนั้นทีทางนี้ที  เลยถูกเข้าใจผิดเลยเห็นมั๊ย?"

    "อ้าว...  ก็นายทำตัวยังกับศพเดินได้  ถ้าฉันไม่จูงมือป่านนี้หลงไปไหนแล้วก็ไม่รู้" 

    "ว่าไงนะ!  ว่าฉันเป็นศพเหรอ?"  พูดจบก็กระหน่ำตีเข้าไปอีก

    "โอ๊ย...  พอแล้วๆๆ"  มือเรียวคว้าหมับไปที่มือของอีกฝ่าย  ทำให้มือเล็กๆ ของรยออุคต้องหยุดนิ่ง  "...โมโหได้แบบนี้ก็ดีแล้ว  ฉันไม่อยากเห็นนายเอาแต่ทำหน้าเศร้า"  เสียงทุ้มอบอุ่นที่ได้ยินทำเอาตัวเล็กเปลี่ยนอารมณ์ตามแทบไม่ทัน

    ร่างบางนิ่งไปพักหนึ่ง  ก่อนจะโวยวายขึ้นอีก  "...อะไรของนาย!  ฉันเนี่ยนะหน้าเศร้า!   ฉันไปทำแบบนั้นที่ไหนกัน?!!"  พูดจบก็รีบเดินเร็วๆ นำหน้าไป  รู้สึกในหัวร้อนวูบวาบไปหมด




                 ขณะที่รยออุคและคยูฮยอนช็อปปิ้งกันอย่างสบายอารมณ์ในร้านเทียนหอมนั้น   มีผู้ชายอีกคนบังเอิญผ่านมาและเฝ้ามองทุกการกระทำนั้นอยู่   ในสายตาของเยซอง...  ร่างเล็กกับเพื่อนชายที่ดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษกำลังหยอกล้ออย่างเป็นกันเอง  และบรรยากาศดูสนุกสนานผ่อนคลายต่างจากเขากับรยออุคในตอนนี้  ซึ่งถ้าพบหน้ากันคงจะอึดอัดกระอักกระอ่วนสิ้นดี
                  ทั้งที่เขาก็เคยมีวันที่หัวเราะกับคนตัวเล็กได้แบบนั้นเหมือนกัน  แต่ตอนนี้...   ไม่รู้จริงๆ ว่าวันที่มีความสุขอย่างนั้นจะกลับมาหาเขาอีกมั๊ย..?   คิดแล้วก็รู้สึกปวดในอกขึ้นมาเฉยๆ  เยซองตัดสินใจไม่เข้าไปทัก   แต่รีบก้าวยาวๆ พาตัวเองเดินจากมาอย่างเงียบๆ...

     

    ..............
    ......
    ..



    "...ว่าแต่นี่!  ขอถามอะไรอย่างได้มั๊ยคยู?"

    "ได้อยู่แล้ว  ถ้าเป็นอุคกี้จะถามซักร้อยอย่างพันอย่างก็ได้ทั้งนั้นแหละจ้ะ"   ตัวสูงหันมาทำตาหวานใส่ พร้อมด้วยกระพริบตาปริบๆ

    "เลิกเล่นซะทีเหอะ...  จริงจังนะเนี่ย"  หน้าหวานเบ้ปากใส่  "นายไม่อายบ้างรึไงที่ถูกคิดว่าเป็นแฟนกับฉันน่ะ?"

    "อืมมม..."  ทำเป็นลากเสียงยาว  (เหมือนจะคิด แต่ก็ไม่ได้คิด)  "ก็ไม่นี่!"

    "ไหงงั้นล่ะ?  นายไม่อายเลยเหรอ?  เราถูกหาว่าเป็นแบบนั้นทั้งที่เราเป็นผู้ชายทั้งคู่เนี่ยนะ ..แล้วทำไมนายถึงไม่อายล่ะ?  นายหน้าหนากว่าที่ฉันคิดนะเนี่ยคยู"

    "นายอายเหรอ?  ...ฉันคงเป็นพวกหน้าด้านล่ะมั้ง  ^o^ 555+"  พูดจบก็หัวเราะเยาะตัวเอง  "งั้นฉันถามหน่อย  ทำไมนายถึงอายล่ะ?"

    "ถามแปลกๆ  ถูกหาว่าเป็นเกย์ใครๆ ก็ต้องรีบปฏิเสธไม่ใช่รึไง?" 

    "งั้นเหรอ..  แต่ถ้าเป็นฉันนะ  ..ถ้าเป็นคนที่ฉันรักล่ะก็ ฉันไม่สนหรอกว่าเค้าจะสูงต่ำดำขาว  จะโง่หรือฉลาด ไม่ว่าเค้าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย   ถ้ารักแล้วล่ะก็ฉันจะยืดอกยอมรับและจับมือเค้าให้แน่นๆ"  พูดไปก็ยิ้มไป  สายตาคมจับจ้องมาที่เพื่อนตัวเล็ก  จนรยออุคชักรู้สึกเขินแปลกๆ  

    (พอกลับมาอ่านประโยคที่เน้นไว้แล้วรู้สึกแปลกๆ ขัดๆ ชอบกล  ถ้ามันเป็นนิยายแปลคงไม่แปลกหรอกแต่นี่ไม่ใช่  พออ่านๆ มาก็มาขัดๆ ตรงนี้  เลยขอเปลี่ยนหน่อยนะจ๊ะ ^^  จริงๆ อยากจะยืมประโยคจาก Coffee prince มาเหมือนกัน  ที่ว่า ต่อให้นายเป็นมนุษย์ต่างดาวฉันก็จะรัก ...คึคึ น่ารักดีเนอะ)

    "เป็นไง?  เท่ห์มากเลยใช่มะ?ฉันเนี่ย"    คยูพูดติดตลกพร้อมทำหน้าภูมิใจ ทำลายความโรแมนติกลงในพริบตา

     

    "ก็เหมือนจะฟังดูดี  แต่อย่าหันมาทางนี้ได้มั๊ย  ดูสิ..."  เรียวยกแขนผอมๆ ขึ้นมาระดับสายตา  "ขนลุกหมดแล้วเนี่ย! ...บรื๋ออ"   


    .
    .
    .

    กรุณากด play เพื่อความอินนะจ๊ะ  ^^  แล้วเปิดเสียงให้ตัวเองได้ยินด้วยล่ะ...

              ...นิ้วยาวๆ ขยับรูดรั้งไปมาระหว่างสายทั้งหก  คอร์ดช้าๆ ถูกบรรเลงขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง  เยซองนั่งกอดกีต้าร์โปร่งอยู่ริมหน้าต่างด้วยแววตาเหม่อลอย...  ภาพรยออุคที่ส่งยิ้มร่าเริงกับเพื่อนตัวสูงยังคงวนเวียนอยู่ในหัว  ยิ่งคิดนิ้วก็ยิ่งเคลื่อนไหวช้าลงเรื่อยๆ... 
    จนที่สุดแล้วมือที่ใช้ดีดกีต้าร์ต้องเลื่อนมาซับน้ำตาที่จู่ๆ ก็ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว 


              ...เขาสามารถยิ้มแบบนั้นให้คนอื่นได้  แต่กับฉันแค่มองหน้าก็หนักหนาเกินไปแล้วสินะ...

                ตอนนี้เยซองคิดซ้ำไปซ้ำมาว่าที่เขาทำไปนั้นดีแล้วเหรอ? เค้ากำลังจะต้องมาเสียใจภายหลังใช่มั๊ย?   ถ้าเพียงแต่วันนั้นเขาไม่พูดมันออกไป คนที่จะเดินข้างรยออุควันนี้คงยังเป็นเขาได้
    มือเรียวค่อยๆ วางกีต้าร์ไว้ข้างตัวก่อนจะหันมาซับน้ำตาที่ล่วงลงมาอย่างสุดกลั้น...


            ร่างสูงที่เคยเอะอะเฮฮาตอนนี้กลับนั่งตาแดงใจลอยอยู่คนเดียวข้างหน้าต่าง  ร้อนถึงเจ้าของห้องคนสวยที่เฝ้ามองอยู่ด้วยความสมเพชต้องรีบเข้าไปทำลายบรรยากาศสุดรันทด

    "อะไรของนายเนี่ย?!!  มานั่งทำ MV อยู่ได้  นี่คิดว่าถ่ายทำซีนอกหักอยู่รึไง!"

    ชายหนุ่มไม่หันมามอง แต่ตอบกลับมาเบาๆ...  "ก็อาจจะใช่..."

    "เฮ้ย!  นายนี่มันไม่เอาไหนจริงๆ เลย  ไม่ทันไรก็ยอมแพ้ซะแล้วเหรอ?!"

    หน้าคมหันมาจ้อง  "ก็พี่ไม่เห็นนี่  เค้ายิ้มแบบนั้นให้กับคนอื่นได้... แต่ไม่ใช่กับฉัน"

    หน้าหวานส่ายหัวไปมา  "เฮ้อ... แกนี่นะ  แล้วไงล่ะ! หมอนั่นมันเป็นแฟนเค้าเหรอ?" 

    เยซองส่ายหัว...

    "งั้นกิ๊กเหรอ?"

    เยซองก็ส่ายหัวอีก...

    "แฟนก็ไม่ใช่  กิ๊กก็ไม่ใช่จะไปแคร์ไรฟะ!  ตอนแกเป็นแค่เพื่อนเค้าๆ ก็ยิ้มให้แกแบบนั้นแหละ"

    "...แต่ผมอาจจะไม่ได้รับรอยยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว"

    "มัวแต่กลัวจนหัวหด  ถ้าไม่เสียเพื่อนไปก็ไม่ได้แฟนมาหรอกนะเฟ้ย จะบอกให้  มานี่ฉันจะบอกอะไรดีๆ ให้"  ว่าแล้วเจ้าของห้องปริศนาที่เยซองมาค้างด้วยก็เข้าไปกระซิบกระซาบกันอย่างลึกลับ

      แล้วมันจะได้ผลเหรอพี่?" 

    "เชื่อมือดิ!"  ร่างบางกอดอกใบหน้าเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจ   




    ----------------------------***---------------------------





    ห้องปี 1

    .
    .
    .

              ขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายกับการเตรียมงานสำหรับที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมง  จู่ๆ สาวๆ ก็แตกตื่นวี๊ดว๊ายกันขึ้นมา
    กลุ่มความวุ่นวายเล็กๆ เคลื่อนตรงมาที่รยออุคกำลังนั่งทำงานอยู่  ชายหนุ่มร่างสูงแหวกกลุ่มนักเรียนหญิงออกมายืนตรงหน้า

    เมื่อเห็นเต็มตาว่าเป็นใครที่เข้ามาสร้างความปั่นป่วนร่างเล็กก็แทบจะลุกหนีอย่างอัตโนมัติ  แต่มือหนาก็คว้าตัวไว้ได้ซะก่อน

    สายตาเศร้าถูกส่งมาอีกแล้วทำเอาคนตัวเล็กต้องรีบหันหน้าหนี

    "ฉันรู้ว่านายไม่อยากเห็นหน้าฉันตอนนี้ และยิ่งไม่ได้อยากจะคุยกับฉันด้วย  ...แต่นายแค่ฟังฉันหน่อยก็พอ"  น้ำเสียงอ่อนแรงค่อยๆ เอ่ยจุดประสงค์ที่มาวันนี้  "พรุ่งนี้ตอนบ่าย 2 ช่วยมาที่โรงยิมหน่อยได้มั๊ย? ถือว่าฉันขอร้อง  ...แล้วฉันจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับนายซะที"


    'เลิกยุ่งเกี่ยว' งั้นเหรอ?  ในอกเล็กรู้สึกโหวงๆ อย่างประหลาด  เกิดอะไรขึ้นกับเขากันนะ...  รยออุคไม่ยอมตอบอะไรเขาเอาแต่ก้มหน้านิ่ง 

    เยซองไม่ได้หวังถึงขนาดจะได้รับคำตอบตกลงอยู่แล้ว  เขาคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะปล่อยมือและเดินจากไป...

    เมื่ออีกฝ่ายไปแล้วตัวเล็กจึงเงยหน้าขึ้น  เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างที่ห่างไกลออกไปทุกที  โดยยังคงไม่พูดอะไร




    กลุ่มสาวๆ ยังคงตามจุ๊กจิ๊กเจ๊าะแจ๊ะ ล้อมหน้าล้อมหลังรุ่นพี่จนน่ารำคาญ

    "พรุ่งนี้ฉันไปแน่ค่ะพี่  งานแสดงตอนบ่าย 2 ใช่มั๊ยคะ?  ฉันจะเป็นกำลังใจให้นะคะ ^^"

    "พรุ่งนี้ฉันก็จะไปเป็นกำลังใจให้เหมือนกันค่ะพี่! >.<  สู้ๆ นะคะ"

    "จะรอฟังเพลงเพราะๆ นะคะพี่"

                  ไม่ว่าใครจะพูดยังไงก็ไม่ทำให้ร่างสูงรู้สึกมีกำลังใจขึ้นเลย  ในเมื่อคำพูดนั้นไม่ได้ออกมาจากปากของคนที่เค้าอยากได้ยินที่สุด  เยซองนักร้องนำประจำโรงเรียนได้แต่เดินคอตกใบหน้าห่อเหี่ยวกลับไปเตรียมงานของตัวเอง...


    .
    .
    .

    วันต่อมา


              งานโรงเรียนประจำปีได้เริ่มขึ้นแล้ว  เสียงดนตรีและเสียงประกาศดังสลับกันเป็นช่วงๆ  มีทั้งร้านค้าและเกมส์ให้เลือกเล่นมากมาย  บรรยากาศครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คนเหมือนเช่นทุกปี



    .
    .
    .


    [เมื่อเช้าตรู่...  ห้องปี 1-2]



              ท่ามกลางเสียงื้ออึงของนักเรียนกว่า 3 ใน 4 ของห้องซึ่งเป็นผู้ชาย

    "..เร็วเข้าสาวๆ  เรามีเวลาไม่มากนักนะ  ใครที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วไปเข้าคิวรอแต่งหน้าเลยนะ"  เสียงแหลมสูงเป็นเอกลักษณ์ของนายองจอมบงการที่หมู่นี้รู้สึกจะได้ยินบ่อยจนเกินไปแล้ว กำลังเรียกรวมพล และชี้นิ้วสั่งเพื่อนๆ ในห้องด้วยความเคยชิน

    "สาวเสิร์ฟของฉันมากันครบรึยังเนี่ย?  1  2  3..."  เธอเริ่มนับจำนวนและเช็คชื่อแบบรายคน


               อีกด้านหนึ่งตากลมๆ กำลังจ้องเขม็งไปยังชุดที่ติดป้ายชื่อของตัวเอง  ปากสีระเรื่อเริ่มเม้มแน่น  ตามมาด้วยแก้มขาวๆ เริ่มพองขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

    "อะไรเนี่ย?"   เพื่อนสาวจอมบงการเดินมาหยุดที่รยออุค  "ยืนจ้องแล้วมันจะเข้ามาสวมให้เธอเองรึไง?  บอกให้รีบๆ แต่งตัวไง"

    ร่างเล็กหันมาจ้องนายองอย่างชั่งใจ   "เอ่อ...  นี่ชุดฉันแน่เหรอ?  ติดชื่อผิดรึเปล่า?"

    "นี่แหละถูกแล้ว  ระดับนายองคนนี้ไม่มีผิดพลาดย่ะ"

    "แต่ว่า..."

    "นี่มันบ้าไปแล้วแน่ๆ!"  เสียงใสๆ ที่ดังขึ้นอีกฟากหนึ่ง   "ผู้ชายที่ไหนมันจะไปใส่ของพรรค์นี้ได้ฟะ?!!"  ฮยอกแจที่กำลังพินิจพิจารณาชุดของตัวเองอยู่เหมือนกันโวยวายลั่น

    "จะโวยวายอะไรกันเนี่ย  ก็เคยให้ดูแบบแล้วนี่"  เพื่อนสาวโต้กลับ  "อย่ามาทำเป็นเรื่องมากได้มั๊ย?"

    "แต่ตอนที่ให้ดูมันไม่ขนาดนี้นะ  จำได้ว่าเป็นแค่ชุดหมีธรรมดา"  เรียวค้านขึ้นบ้าง

    "ทำไมยะ?  ก็อนาคตดีไซเนอร์ชื่อดังอย่างนายองคนนี้  อุตส่าห์มีไอเดียบรรเจิดขึ้นมากระทันหัน  อยากจะเพิ่มนั่นนิดนี่หน่อยให้กับพวกนาย  นายควรจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำนะเนี่ย"  ไม่พูดเปล่าเธอยังหัวเราะด้วยโทนเสียงสูง  ..โฮะๆๆ! ^0^  เหมือนเคย 

    "...ยังกล้าพูดว่าเพิ่มแค่นิดหน่อย   นี่นิดหน่อยของเธอเหรอ?"   ไก่น้อยมองชุดอย่างเอือมระอา   ...สมแล้วที่เป็นทายาทบริษัทนำเข้าสินค้าแฟชั่นชั้นนำ  ที่ฝันอยากเป็นดีไซเนอร์  ฉันว่าเธอน่าจะไปรุ่งอยู่นะ  - -"


    "นี่แค่เบาๆ นะยะ  ก็กลัวพวกเธอจะไม่กล้าใส่น่ะสิ  เลยต้องทำแบบเรียบๆ มาให้   ^0^ ...โฮะๆๆ" 

    "แต่เจ้าพวกนั้นใส่ชุดไม่เหมือนของเรานะ"  ฮยอกแจชี้ไปทางกลุ่มเพื่อนฝั่งนึง

    "อนาคตดีไซเนอร์อย่างฉันจะออกแบบมาแค่แบบ-2แบบได้ไง  ฉันออกแบบให้เข้ากับผู้สวมใส่แต่ละคนย่ะ  พวกทึกๆ ก็ไซส์ใหญ่ดีไซน์เข้ากับหน้าตา   ส่วนพวกนายไซส์เล็กกระทัดรัดก็ต้องแบบนี้แหละ  รับรองใส่แล้วดูดีมากๆ ^0^ ...โฮะๆๆ"
     

    หนุ่มร่างเล็ก 7-8 คนมองหน้ากันปลงๆ  และถอนหายใจยาว


    "แต่ถ้าจะไม่ใส่ก็ได้นะ"  จู่ๆ นายองก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าขึงขัง  "ฉันยังมี...   ผ้ากันเปื้อนรออยู่"  พลางชูผ้ากันเปื้อนสีขาวระบายลูกไม้ให้ได้ดู  ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างเห็นได้ชัด   "แต่เป็น...  ถ้ากันเปื้อนอย่างเดียวจริงๆ นะ  ...หึหึหึ"  พูดจบสายตาเยียบเย็นก็ถูกส่งมายังเพื่อนๆ ผู้โชคร้าย  ทำเอาทุกคนขนลุกซู่!!!   

                     ...บ้ารึเปล่า?  ใครมันจะไปยอมใส่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียว  แค่คิดก็ทุเรศตัวเองแล้วเว้ย!!!  

    หนุ่มร่างเล็กทุกคนรีบคว้าชุดของตัวเองไปเปลี่ยนโดยด่วน...

    .
    .
    .


    "เร็วเข้าสิเรียว!  ลูกค้ากำลังรออยู่นะ"  เสียงแหลมของเพื่อนสาวจอมบงการดังขึ้นไล่หลัง  เมื่อกาแฟและขนมที่ต้องเสิร์ฟเริ่มจะล้นออกมาจากเคานท์เตอร์

    "สโคนกับชานี่ของโต๊ะ 2  ส่วนชีสเค้กกับทีรามิสุโต๊ะ 4 , มิลค์ที 3 ที่โต๊ะ 7 นะจ๊ะ"

     

    "...เอ๊ะ?"  ตัวเล็กทำหน้างงๆ  จนเพื่อนสาวต้องพูดซ้ำเร็วๆ อีกรอบ

    "นายไปรับออร์เดอร์โต๊ะ 5 ให้หน่อยปะ  เดี๋ยวนี่ฉันเสิร์ฟเอง"  ฮยอกแจเข้ามาแทรกจากด้านหลัง

    รยออุคพยักหน้ารับก่อนจะรีบพาขาสั้นๆ ตรงไปที่โต๊ะนั้น  "รับอะไรดีครั... คะ~"  ปากบางปั้นยิ้มอย่างสุดกำลัง

    "เอ่อ..  โอเปร่าเค้กนี่เป็นยังไงเหรอคะ? ชื่อแปลกจัง"

    หน้าหวานๆ สูดหายใจเข้านิดนึงก่อนจะบรรยายถึงสรรพคุณของสินค้าอย่างเชี่ยวชาญ  "โอเปร่าเค้กเป็นการผสมผสานระหว่างช็อคโกแลตซอสและครีมกาแฟสไตล์ฝรั่งเศส ที่ปรุงรสด้วยเหล้าคาลัวร์ได้อย่างลงตัวที่สุด ทานพร้อมกับเค้กอัลมอนด์สูตรดั้งเดิมที่สืบต่อกันมา เค้กชิ้นนี้จึงได้ชื่อว่า โอเปร่า เปรียบได้กับการฟังเพลงบรรเลงที่มีดนตรีหลายชนิดสอดประสานกันอย่างลงตัวน่ะ  ตัวนี้ขายดีมากๆ สำหรับคนรักช็อคโกแลตเลยนะฮะ"

    "แล้วคนที่ไม่ใช่คอช็อคโกแลตล่ะคะ?"  ลูกค้าสาวอีกรายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

    "ไม่เป็นไรฮะ  เรายังมีโอเปร่าชาเขียว และโอเปร่าสตอร์เบอร์รี่  เป็นฟิวชั่นระหว่างตะวันตกกับตะวันออกที่ลงตัวมากๆ ไว้รองรับสำหรับลูกค้าที่น่ารักทุกท่านเลยฮะ"
    พูดเรื่องของหวานเสร็จก็ส่งยิ้มหวาน ^_^ ตามไปด้วย  ทำเอาสาวๆ แทบใจละลายรีบตัดสินใจสั่งโอเปร่าเค้กกันเป็นแถว~


    ..อัพแล้วหิวขึ้นมาเลย  ไปหาไรกินดีกว่า  ^^


    "..เฮ้อ  เหนื่อยจัง"  ร่างเล็กเดินโซเซกลับมาที่เคานท์เตอร์  ก่อนจะทิ้งตัวลงแปะตรงหน้าเพื่อนสาว

    "อะไรกันๆ  ยิ้มแย้มหน่อยสิจ๊ะสาวๆ"  จอมบงการคนเดิมสาดเสียงแหลมเข้าใส่

    "นี่ก็ยิ้มจนเหงือกแห้งหมดแล้วนะ  ขอพักซักเดี๋ยวไม่ได้เหรอนายอง?"

    มือขาวๆ ยื่นแก้วมาตรงหน้า  "เอ้า..  ดื่มซะ  อย่ามาหมดแรงตายตรงนี้นะยะ  ช่วงพักของเธอฉันจัดไว้ให้แล้ว"  พูดจบก็ทำตาเจ้าเล่ห์ใส่  "ตอนบ่าย 2 ถึงบ่าย 3 ไง  ...โฮะๆๆ" ว่าแล้วก็ป้องปากหัวเราะเสียงสูง


    "...!!?"

    -----------------------------to be continue-------------------------------






    :: Writer  Talk :: 
              


     

               โอ้ววว...  ไม่น่าเชื่อเลย  Sweet Dor.  มาถึง part.10  แล้ว!!!   ที่ไม่น่าเชื่อก็เพราะว่าตอนแรกเลยไรท์เตอร์ตั้งใจเขียนเรื่องนี้แค่สั้นๆ ประมาณ 10 ตอนจบ  (แต่ไปๆ มาๆ 10ตอนแล้วก็ยังไม่จบ - -")   

               ขอสารภาพเลยว่าเพราะกะจะจบอย่างเร็ว  พล็อตร่งพล็อตเรื่องอะไรก็เลยไม่ได้คิด  เวลาเขียนก็อาศัยแต่งสดกันไปมากกว่า  พอถึงตอนนี้รู้สึกว่าเนื้อหาไม่ค่อยน่าสนใจเท่าที่ควร  ก็เลยคิดว่าได้เวลาต้องกลับไป re-write กันซะหน่อยแล้วมั้ง

              
        


    ขอบคุณสำหรับเม้นทุกเม้น  อยากบอกว่าเป็นกำลังใจมากๆ เลยค่ะ...  ตอนไหนไม่มีเม้นแล้วมันห่อเหี่ยว (อย่างเวอร์อ่ะ..แต่จริง)  เพราะงั้นขอบคุณทุกคนที่เม้นมากๆ ค่ะ  จะพัฒนาให้เรื่องมันดีกว่านี้   ^o^  ...Fighting!!! 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×