ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    short fic - 83line/HaeEun

    ลำดับตอนที่ #8 : #haeeun - กาโว กาโว

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 58


     


    Title –  กาโว กาโว

    Author – 30ww

    Paring – HaeEun

    Note – มันไทยมาก

     


    ทงเฮฮยอกแจประมาณนี้

     

     

     

      

    วันนี้เป็นวันสงกรานต์ หนุ่มสาวชาวบ้านเบิกบานจิตใจจริงเอย~~

     

    วันนี้ยังไม่สงกรานต์เลย รีบมากมั๊ย

    อีฮยอกแจเถียงในใจทุกครั้งเมื่อได้ยินเพลงท่อนนี้ดังขึ้น ไม่ว่าที่ไหนตอนนี้ก็เปิดเพลงทำนองทิงนองนอยเข้ากับเทศกาลกันทั้งนั้นแม้กระทั่งสหกรณ์ในมหาลัย รู้แล้วครับว่าสงกรานต์แล้ว ร้อนระดับเผายางขนาดนี้ก็อยากให้เปิดซานต้าอิสคัมมิ่งทูทาวน์บ้างเผื่อจะได้รู้สึกเย็นขึ้น 

    ร้อนเกินไป ร้อนชิบหาย… ตอนแรกกะว่าหลังเลิกเรียนจะไปหาซื้อน้ำอบนางลอยเพิ่มซักขวด แต่ไม่เอาดีกว่า ที่บ้านน่าจะเหลือพอ อยากกลับไปนอนตากแอร์จะแย่แล้วถ้าไม่ติดว่าต้องยืนรอคยูฮยอนขึ้นไปส่งงานอาจารย์ที่ชั้น 21 อยู่ ถึงฮยอกแจจะเรียนเอกประวัติศาสตร์ส่วนคยูฮยอนเรียนเอกศิลปการละคร แต่ก็มีเวลาเรียนตรงกันแทบทุกคาบ ทั้งสองคนจึงกลับบ้านพร้อมกันทุกวัน ชีวิตมหาลัยของอีฮยอกแจจึงไม่ค่อยต่างจากมัธยมปลายมาก อย่างน้อยเพื่อนสนิทก็ยังเป็นคยูฮยอน

    hyukjae : เสร็จยัง

    กูร้อนมาก

    อีกสองนาทีจะแห้งตายอยู่ข้างลิฟท์

    ลงมาโว้ยยย

     

    ป้าบ!

     

    ไลน์มาทำเชี่ยไรมึงนอกจากผลักหัวแล้วยังด่าซ้ำ ทำไมต้องมีเพื่อนอย่างมันด้วยอ่ะไม่เข้าใจ

    เชี่ยนิ กลับบ้านๆ กูร้อนนนคนตัวเตี้ยกว่าหันกลับไปด่าไม่จริงจัง ก่อนที่จะเดินนำไปขึ้นรถรับส่งของมหาลัยที่วนเข้ามาจอดรับพอดี ขอบคุณที่ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง

     

    เออๆฮยอกแจ มะรืนเจอกันที่สยามก่อนนะ ค่อยนั่งบีทีเอสไปพร้อมกันทั้งคู่เบียดตัวเข้ามาในรถโดยสารที่ไม่เหลือที่นั่ง ทว่าแค่มีไอเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศเหนือหัวก็ถือว่าสวรรค์โปรดมากแล้ว คยูฮยอนเปิดบทสนทนาขึ้นโดยไม่มีเกริ่นต้นเรื่อง ทำให้อีฮยอกแจขมวดคิ้วงงเล็กน้อย

    ไปไหนวะ... อ่อ... กูบอกแล้วไงกูไม่ไป ยังทำเปเปอร์ไม่เสร็จมันคงหมายถึงที่ชวนไปเล่นสงกรานต์กับแก๊งมอปลาย 

    งานกูก็ยังไม่เสร็จ กูยังไป"

    "อันนั้นเป็นตรรกะชั่วของมึงคนเดียวคยูฮยอนร่างเล็กสวนกลับพร้อมกับยกมือขึ้นเสยผมสีน้ำตาลชื้นเหงื่อของตัวเองขึ้น โบกหนังสือเรียนในมือไปมาเพื่อให้ลมเย็นๆปะทะหน้าบ้าง แม้หนังสือประวัติศาสตร์ยุคกลางในมือจะมีความหนามากซะจนไม่ก่อให้เกิดลมใดๆเลยก็ตาม

    "ไปเหอะไปเจอเดอะแก๊ง ไม่เจอตั้งนานแล้วนะ นัดกันยากชิบหาย"

    "เมื่อวานมึงเพิ่งไปแดกเหล้ากับรยออุค"

    "กูหมายมึงครับที่นัดยาก ถ้าไม่ไปกูจะเสนอมติถอดถอนมึงออกจากแก๊งดูเหมือนคราวนี้เพื่อนสนิทจะไม่ยอม คยูฮยอนยังคงจ้องหน้าอีฮยอกแจแน่วแน่ แม้เหงื่อที่ไหลลงมาถึงปลายจมูกของมันจะดูตลกมากก็ตาม

    "คยูฮยอน...”

    เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นวัตถุโบราณวะฮยอกแจว่าแล้วมันก็ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่ปลายจมูกแล้วพูดต่อ

    "พวกกูมีกรุ๊ปลับที่ไม่มีมึงอยู่ด้วย เอาไว้คอยนินทามึงที่ไม่เล่นทั้งทวิตเตอร์เฟสบุ๊คและไอจี..."

    "พวกมึง..."

    อย่า... อย่ามาแตะต้องตัวเรา"

    "กูแตะมึงตอนไหนไอ้เหี้ยนี่5555555 หยุดสะดิ้ง555555” คนตัวเล็กระเบิดขำ เกลียดอาการเสแสร้งว่าน้อยเนื้อต่ำใจของมันที่สุด ตุ๊ดชิบหาย5555

    "ฮยอกแจทิ้งเรา ทิ้งเพื่อนทุกคน เห็นหนังสือพวกนั้นดีกว่าเพื่อน"

    โอ้ยหยุดทำหน้ากระเทย555 เออออ กูไปก็ได้ มั้งเออได้แหละ"

    "เอออีห่า ซักที! เดี๋ยวกูเอาเสื้อมาให้"

    "ยังไม่เลิกอีกเหรออีเสื้อแก๊งเนี่ย สั่งกันตอนไหนทำไมกูไม่รู้เรื่อง"

    "ก็คุยในกรุ๊ปอ่ะ นี่มึงไม่เคยเข้าไปอ่านเลยใช่มั๊ย...” สารภาพเลยว่ากูปิด notification เพราะพวกมึงคุยกันถล่มชิบหายมาก เวลาอ่านหนังสือแล้วแสงมันวาบๆตลอดจนขี้เกียจจะรำคาญ

    "แล้วมีของกูด้วยเหรอ กูไม่ได้สั่งอ่ะ"

    "พี่ทึกเอามาให้ครบคนแหละ เสื้อสีพื้นธรรมดา มึงไม่สั่งสกรีนก็ใส่เสื้อเปล่าไป" ส่วนหนึ่งที่วัฒนธรรมเสื้อแก๊งยังคงมีอยู่ทุกปีเพราะบ้านพี่ทึกทำโรงงานสกรีนเสื้อ มีเทศกาลอะไรทีก็ยอดพุ่งรัวๆรวยแทบนับตังไม่ทัน กำไรที่ได้ก็เอามาสกรีนเสื้อแจกอย่างที่เห็น

    เออก็ดีฮยอกแจชอบเสื้อยืดธรรมดาสีพื้น ไม่เหมือนพวกที่เหลือ เดาลายที่อีพวกมันจะสั่งสกรีนได้ไม่ยากเลย อย่างเช่นปีก่อนนู้นอยู่ในช่วงกำลังแว้นซ์ได้ที่เห็นอิคยูฮยอนใส่ 'อะไรๆก็กู' ส่วนพี่อีทึกกับแฟนมันใส่ 'ผิดตลอด' กับ 'ถูกเสมอ' ...ภูธรมาก เห็นแว๊บแรกก็รู้สึกคิดถูกที่ไม่ได้ไปเล่นน้ำกับพวกมัน

    จริงๆแล้ว อีฮยอกแจเล่นสงกรานต์ครั้งสุดท้ายตอนปอหนึ่ง ภาพสีซีเปียในหัวคือตอนวิ่งขึ้นรถกระบะแล้วจ้วงถังน้ำสาดแก๊งเด็กริมถนนอย่างสนุกสนาน แต่พอโตขึ้นแถวบ้านเริ่มเถื่อน โดนเด็กแว้นซ์ดักปะแป้งตอนขี่มอไซต์จนเกือบล้ม หลังจากนั้นก็ขยาดสงกรานต์จนบอกลาวงการไปในที่สุด ย้ายมาเรียนมอปลายในเมืองหลวงแล้วเจออีพวกนี้ก็ไม่เคยไปเล่นด้วยซักทีเพราะที่บ้านหวงจัดอย่างกับมีลูกสาว จนตอนนี้เข้ามหาลัยแล้วก็เลยจะลองซักหน่อย หวังว่าไม่เถื่อนเหมือนแถวบ้านที่ต่างจังหวัด ...แต่เดี๋ยวนะ

     

    "เดี๋ยว นี่มึงไปเล่นไหนกัน" หลวมตัวตกลงไปแล้วแต่ลืมนึกไปว่าไปกับพวกพี่อีทึกคงไม่พ้นที่อโคจร

    "สีลม ดึกๆคงต่ออาร์ซีเอ"

    "พวกมึงนี่"

    "หรือมึงอยากไปวิป แต่เพื่อนพี่ฮีชอลจองโต๊ะได้แค่อาร์ซีเอนะคยูฮยอนแกล้งพูดไปอย่างนั้น เนิร์ดอย่างฮยอกแจไม่รู้จักแม้แต่ชื่อผับหรอก ดึกที่สุดที่ฮยอกแจกลับถึงบ้านคือสามทุ่ม และมันก็ยังรักษาสถิตินั้นตั้งแต่มัธยมยันมหาลัย แม่มันหวงเหมือนไข่ในหินจนเพื่อนในแก๊งต่างพากันตั้งข้อสงสัยว่าฮยอกแจคงรักษาพรหมจรรย์ไปจนตาย หรือไม่ก็ได้เสียกับหนังสือประวัติศาสตร์กองมหึมาที่บ้านมัน

    "กูไม่ต่อไหนทั้งนั้นอ่ะ สีลมถึงสองทุ่มกูกลับบ้าน” 

    "อนามัยเหี้ย..."

    "อือ ต้องแดกนมอุ่นก่อนนอนด้วยอ่ะ" อีฮยอกแจดัดเสียงตอบ เป็นคนติดดื่มนมแล้วก็ไม่ดื่มแอลกอฮอล์มาแต่ไหนแต่ไร จนอีพี่อีทึกเคยผสมนมกับเหล้ากรอกปาก อยู่ในปากฮยอกแจแค่สองวิเท่านั้นแหละ แล้วก็พุ่งพรวดออกมาอยู่บนหน้าอีทึก สมน้ำหน้ามัน แดกได้ก็บ้า

    พี่อีทึกคือพี่รหัสคยูฮยอนสมัยมอปลายที่สนิทกันยันทุกวันนี้ พี่ฮีชอลคือลูกพี่ลูกน้องของฮยอกแจที่มาอาศัยที่บ้านเพราะเรียนมหาลัยที่เดียวกัน สงกรานต์สองปีที่แล้วพี่ทึกใส่เสื้อ 'ผิดตลอด' ส่วนพี่ฮีชอลใส่ 'ถูกเสมอ' พอนึกภาพออกแล้วใช่มั๊ย นั่นแหละ… ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรเป็นแฟนกัน เฮ้

     

    "นับยอดนะ กู มึง ซีวอน รยออุค พี่อีทึก พี่ฮีชอล พี่คังอิน"

    "โหครบเลย"

    "ขาดแต่มึงทุกปีอ่ะไม่รู้เหรอ"

    "โทษ..." ย้ำอยู่ได้ ก็ทุกปีฮยอกแจสรงน้ำพระแล้วก็อ่านหนังสืออยู่บ้าน มันผิดอะไรนักหนา

    "ไปละๆ มะรืนเจอกันสี่โมง" คยูฮยอนแกะสายหูฟังที่พันกันออกก่อนจะเอาเสียบหูทั้งสองข้าง อีฮยอกแจโบกมือลาเพื่อนที่ลงไปเมื่อถึงป้ายรถเมล์ ส่วนบ้านฮยอกแจนั้นต้องนั่งบีทีเอสต่อไปกี่ไกล  

     

    "ไม่ไปแถวนั้นดิ กูกลัวโดนล้วงไข่"

    "พูดอะไรดูหนังหน้าตัวเองด้วยอิสัด เดี๋ยวนี้กระเทยก็เลือก"

    แรง..."

     

    เสียงคุยกันระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงคู่นึงดังขึ้นข้างๆ ดูเหมือนกำลังโต้เถียงกันว่าจะไปเล่นน้ำย่านไหนดี เป็นครั้งแรกที่ได้ยินบทสนทนาแบบนี้แล้วอีฮยอกแจรู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล นี่ต้องโหลดเพลงรำวงสงกรานต์มาฟังบิ๊วท์อารมณ์รึเปล่า

     

    โอเค เดี๋ยวแวะซื้อปืนฉีดน้ำหน้าปากซอยก่อนเข้าบ้าน

    สงกรานต์ ...เจอกัน

     

     

     

     

    เย็นนี้ฮยอกแจออกไปเล่นน้ำนะ

    ทำไมล่ะ กี่ปีๆไม่เห็นอยากออกจากบ้านวันสงกรานต์

    ไปกับพี่ฮีชอลน่ะแม่"

    อ่อถ้าอย่างนั้นแม่ก็ไม่ห่วงหรอก" หญิงสาววัยกลางคนตอบกลับมาโดยที่ไม่ได้ละสายตาไปจากต้มจืดในหม้อ ฮยอกแจกะไว้แล้วว่าต้องพูดแบบนี้ เพราะพี่ฮีชอลสำหรับครอบครัวฮยอกแจคือพี่ชายที่โตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งที่จริงๆแล้วห่างกับฮยอกแจแค่ปีกว่าๆเท่านั้น แต่กับฮยอกแจชอบทำเหมือนเป็นเด็กน้อยที่ยังห้ามทำนู่นห้ามทำนี่เต็มไปหมด และถึงแม้เบื้องลึกเบื้องหลังของญาติผู้พี่จะเมาหัวทิ่ม หรือสูบบุหรี่จัดแค่ไหนคนเป็นน้องอย่างฮยอกแจก็ไม่เล่าให้ใครฟังหรอก เพราะเวลาจะขออนุญาตออกไปเที่ยวที่ไหนแค่เอาฮีชอลมาอ้างว่าไปด้วยกันก็ผ่านการอนุมัติทันที ถึงเอาเข้าจริงๆมันจะหนีไปอยู่กับแฟนมันทุกทีก็เถอะ 

    อย่ากลับดึกนักล่ะ

    ครับ ฮยอกแจกลับไม่เกินสามทุ่มหรอก” …แต่พี่ฮีชอลอาจจะเป็นสามทุ่มของอีกวันหนึ่ง

    เอาขันไปตั้งที่โต๊ะรอไป เดี๋ยวแม่ไปเรียกคุณยายที่ห้องหล่อนเปิดฝาหม้อต้มจืดก่อนจะเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน ลูกชายตัวเล็กอุ้มขันใบใหญ่ที่บรรจุน้ำลอยกลีบดอกไม้ไปตั้งไว้ที่โต๊ะอย่างว่าง่าย กลิ่นน้ำอบลอยอวลไปทั่วบ้านเป็นบรรยากาศที่อีฮยอกแจคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก ทุกปีที่บ้านจะนัดรวมญาติกัน นิมนต์พระพุทธรูปองค์ใหญ่ลงจากหิ้งพระมาตั้งไว้กลางบ้านเพื่อให้สรงน้ำพระกันได้สะดวก พอตกบ่ายก็มีพิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในบ้านอย่างที่เห็น เรียงลำดับอาวุโสตั้งแต่คุณยายลงมาจนถึงคุณแม่ของอีฮยอกแจ ซึ่งสองสามปีที่ผ่านมานี้ก็มีพี่ฮีชอลเข้ามาช่วยลูกชายคนเดียวของบ้านคอยจัดนู่นจัดนี่ แต่พอตกเย็นก็หายตัวไป กลับมาอีกทีก็เลยช่วงเทศกาลไปแล้ว ทว่าคนที่บ้านก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไรเพราะทุกคนต่างคิดว่าพี่ฮีชอลโตจนสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว

    อ้าว แล้วฮยอกแจดูแลตัวเองไม่ได้ตรงไหนอ่ะ

     

    ปั่ก!

     

    ตรงนี้แหละ...

     

    โอ้ย!!” ร่างเล็กชนเข้ากับมุมโต๊ะจนเซ น้ำในขันกระฉอกออกมาเลอะเป็นวง มือทั้งสองประคองขันใบใหญ่ไปวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

    ระวังหน่อยดิ้พี่ฮีชอลเข้ามาดุทันที แล้วรีบเอาผ้ามาเช็ดน้ำที่หกลงบนโต๊ะ ทีเมื่อกี๊นั่งกดโทรศัพท์ไม่เห็นจะสนใจเข้ามาช่วยน้องเลย ไอ้สร้างภาพ

    พิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ผ่านไปอย่างอบอุ่นและเรียบง่าย ตอนนี้ก็สิ้นสุดกิจกรรมสงกรานต์ที่ฮยอกแจคุ้นเคยแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นการเปิดโลกใหม่โดยพี่ชายหน้าสวยที่ยืนกอดอกรออยู่หน้าประตูห้อง อีฮยอกแจยังยืนส่องกระจกอยู่ด้วยความรู้สึกแปลกๆเพราะเมื่อกี๊พี่ฮีชอลเพิ่งโบกครีมกันแดดที่หน้าให้ แต่คนตัวเล็กไม่ค่อยมั่นใจว่ามันแค่ครีมกันแดดจริงรึเปล่า

    ทำไมมันเหมือนรองพื้นอ่ะพี่ฮีชอล

    เปลือยหน้าสดไปเล่นน้ำเดี๋ยวก็นกหรอก

    นกคืออะไรอ่ะ...” 

    “…” คนเป็นพี่เหลือกตาอย่างเซ็งๆ ไม่ควรใช้ศัพท์ยากกับมันแต่แรกสินะ กับไอ้เด็กเฉิ่มนี่ต้องใช้คำจาก .. ไหนถึงจะเข้าใจวะ

    แล้วทำไมขอบตาฮยอกแจสีเข้มๆขึ้นด้วย

    อย่าสงสัยมากได้มั๊ย ไปได้แล้วอีทึกโทรตาม” 

    แล้วโทรศัพท์ล่ะน้องชายช่างสงสัยดูเหมือนจะยังไม่หยุดถามเอาง่ายๆ ก็ไม่เห็นพี่ฮีชอลจะห้อยซองใสๆเหมือนเด็กข้างบ้านเลย ร่างบางของพี่ชายเดินไปหยิบของอะไรบางอย่างในลิ้นชักก่อนจะเดินมาคว้าโทรศัพท์ของฮยอกแจเข้าห้องน้ำไป

     

    อ่ะ ลืมซื้อซองใส ใส่ไอ้นี่ไปก่อน

    อ่า… โอเคร่างเล็กรับไอโฟนกลับมาถือ ก่อนจะพลิกๆสำรวจอุปกรณ์กันน้ำของพี่ฮีชอลด้วยความสงสัย

     

    พี่ฮีชอล...”

    อะไรอีก

    ที่เอามาครอบนี่... ถุงยางป่ะอ่ะ"

     “เออ

     

    ความเถื่อนมันเริ่มตั้งแต่ที่บ้านแล้วสินะ

     

     

     

     

     

    คนเยอะชิบหายเลยว่ะ จับชายเสื้อพี่ไว้นะเดี๋ยวหลงร่างบางของผู้ชายที่สูงกว่าฮยอกแจเล็กน้อยหันมาสั่งก่อนจะเริ่มเบียดเข้าไปในฝูงชนเพื่อข้ามถนนไปอีกฝั่ง ตามที่พี่คังอินไปชะเง้อส่องๆมาว่าฝั่งนู้นคนน้อยกว่า แต่ปัญหาคือตรงนี้คนแน่นสุดๆแบบขยับตัวไม่ได้ จะข้ามไปถนนฝั่งตรงข้ามได้ยังไงฮยอกแจยังนึกภาพไม่ออก

    ถ้าหลงกันเมื่อไหร่กลับมาเจอกันที่ป้ายสีเหลืองตรงนี้ โอเคนะ

    โอเคๆ"

    อีทึกมึงอย่าทะลึ่งโอบเอวตอนนี้ได้มั๊ย มันเดินลำบาก

    ที่รักเอียงตัวนิดๆเดี๋ยวก็ไหลไปตามคนเองอ่ะพี่ชายตัวบางและแฟนแว้นซ์ของมันยังคงตัวติดกันเหมือนเนื้องอก ใส่เสื้อสีดำสกรีนลายคู่กันตามคอนเซปเป็นปีที่สาม ซึ่งคนไม่เล่นโซเชี่ยลอย่างฮยอกแจได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจว่ามันคู่กันยังไง

     

    อีทึก - ยิ้มอ่อน

    ฮีชอล - มองแรง

     

    อยากกินข้าวไข่เจียวว่ะพี่ทึก ไปซื้อกินก่อนได้ป่ะคยูฮยอนที่เกาะตามพี่ทึกเริ่มมองหาอาหารด้วยแววตาเป็นประกาย เสื้อสีดำที่มันใส่อยู่สกรีนด้วยคำสั้นๆกวนส้นตีนตัวเท่าควายกลางเสื้อว่าลายดอก

    เดี๋ยวก็หลงหรอกมึง รอค่ำกว่านี้คนซาๆค่อยแดกเชื่อกู

    “…แต่พี่คังอินกับซีวอนมันไปแล้วอ่ะ

    อ้าวสัดห่วงแดกไม่ห่วงเพื่อน” 

    เห้ยตรงนี้ดินสอพองสิบห้าบาทเอง ซื้อมั๊ยๆคยูฮยอนเริ่มเอียงตัวเข้าหาร้านค้าอีกครั้ง แต่โดนพี่ฮีชอลมองแรงใส่จนหดหัวกลับมาจับชายเสื้อพี่อีทึกเอาไว้เหมือนเดิม โดยที่มีรยออุคสะพายกระเป๋าปืนฉีดน้ำลายคิตตี้สีชมพูเดินตามมาอีกที เสื้อรยออุคไม่ได้สกรีนวลีฮิตหรือประโยคกวนตีนใดๆ เน้นขายตรงล้วนๆด้วยชื่อไอจีร้านขายเสื้อผ้านำเข้าเกาหลีของตัวเองแล้วตามด้วยไอดีไลน์ ซึ่งจุดนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะขายเสื้อผ้าหรือขายไอดีไลน์กันแน่

    กูว่าอีซีวอนไม่ได้ไปกินไข่เจียวหรอก มันอยากโดนเค้าเจียวไข่มากกว่า ป่านนี้อยู่ซอย 4 อ่ะเชื่อกู55555555” อีทึกแซวก่อนจะชะเง้อหน้าไปทางซอย 4 ที่คนแน่นทะลัก โดยเฉพาะประชาเกย์ทุกชนชาติ ทุกสายพันธุ์เน้นไปทางกล้ามปู ซึ่งอีฮยอกแจไม่ได้ขำไปกับเค้าหรอกเพราะไม่รู้เรื่องว่าพี่ซีวอนไปทำอะไรในซอยนั้น รู้แค่พี่ฮีชอลเตือนไว้ว่ามันอันตรายอย่าหลงเข้าไปเด็ดขาดเท่านั้นเอง

    เดี๋ยวๆ แล้วลากพี่คังอินไปด้วยเนี่ยนะคยูฮยอนทำหน้าสยอง

    อุคว่าไม่ได้ไข่เจียว แต่ไข่เขียวกลับมาแน่ๆ” 

    จริง55555555555”

    แม่งไม่รอด555555555”

     

    ทำไมทุกคนถึงอวยพรพี่คังอินกันขนาดนั้นล่ะ...

     

    ปะแป้งหน่อยนะครับเสียงผู้ชายดังขึ้นใกล้ๆ ไม่ทันที่ฮยอกแจจะรู้ว่าใครพูดด้วยซ้ำ มือคนแปลกหน้าก็เอื้อมมาป้ายแป้งดินสอพองเย็นๆลื่นๆที่แก้มเนียนทันทีคนที่สิบกว่าได้ละที่คุกคามใบหน้าของเค้าด้วยดินสอพองแฉะๆ บางคนยิ้มให้ แล้วก็เดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งร่างเล็กจะไม่หงุดหงิดเท่านี้เลย ถ้าทั้งหมดนั่นไม่ใช้ผู้ชาย...

    เข้าใจนะว่าสีลม แต่ผู้หญิงถือถังแป้งเดินสวนกันก็เยอะป่ะวะ ทำไมโดนแต่ผู้ชายเนี่ย 

    ช้ำหมดแล้วมั้งน้องกูคิมฮีชอลอยากจะหันมาล้างหน้าให้น้องชายตัวเล็กแต่ดูเหมือนสถานะการณ์เบียดเสียดจะไม่เอื้ออำนวย จึงทำได้แค่ยกปืนฉีดน้ำใส่หน้าช่วยมันเท่านั้น

     

    สวัสดีปีใหม่ครับบแต่ยังขยับไม่ถึงสามก้าวก็ยื่นมือมาอีกคน คราวนี้เลยได้แต่มองนิ่งๆแบบขี้เกียจจะหันหน้าหนี อยากปะนักใช่มั๊ย เอาเลย เต็มที่

     

    แปะ

     

    โอ้ยอีฮยอกแจก้มหน้าทันทีเมื่อมือที่ปะแป้งนั้นเอื้อมมาผิดตำแหน่ง ของเหลวสีขาวปาดเข้าตาของคนตัวเล็กเต็มๆจนแสบไปหมด มือเล็กยกขึ้นขยี้ตาทั้งสองตามสัญชาติญาณทันที แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เค้ายิ่งแสบหนัก และยังลืมไปด้วยว่าการที่ยกมือมาปิดหน้าขยี้ตานั้นเท่ากับปล่อยชายเสื้อของพี่ฮีชอลไป

     

    "น้ำ ขอน้ำหน่อยได้แต่โวยวายเสียงอู้อี้ออกมาเพราะคิดว่าพี่ฮีชอลที่อยู่ใกล้กันคงได้ยิน

    อ่า... แปบนึง"

    เร็วๆๆฮยอกแจแสบตาจากที่แป้งเข้าตาแค่ข้างเดียว พอเอามือไปขยี้เข้ากลายเป็นว่าตอนนี้ตาลืมไม่ขึ้นทั้งสองข้างแล้ว

    เงยหน้าขึ้นหน่อยครับแม้คนที่ตอบโต้กันจะไม่คุ้นเสียงแม้แต่นิด แต่ฮยอกแจก็ไม่ทันได้สนใจอะไร ใบหน้าเล็กเงยขึ้นจากฝ่ามือตามคำสั่งโดยง่ายเพื่อให้อีกคนเทน้ำสะอาดรดบนเปลือกตา คราบสีขาวถูกล้างออกจนสะอาดในทันที ไม่นานอาการแสบก็ทุเลาลงจนร่างเล็กสามารถลืมตาขึ้นได้เป็นปกติ

    "ขอบคุณนะพี่ฮีชอลแต่คนที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่ใช่พี่ชายอย่างที่คิด

     

    "อ้าว ใครอ่ะ..."

    "?"

    "...คนไทยป่ะนิคนตัวเล็กขมวดคิ้วทันที ผู้ชายผมสีบลอนด์ตรงหน้ายืนถือขวดน้ำที่เพิ่งเทรดฮยอกแจไปเมื่อครู่ แผ่นอกเต็มไปด้วยมัดกล้ามได้รูปสวมทับด้วยเสื้อกล้ามสีนีออนบางๆที่เปียกน้ำแล้วแนบเนื้อเหมือนไม่ได้ใส่ จนเห็นรอยสักจางๆรูปปีกที่อก ท่อนล่างใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ คีบร้องเท้าแตะไม่ต่างจากร่างเล็กนัก เมื่อรู้สึกว่าเริ่มสำรวจร่างกายผู้ชายแปลกหน้ามากเกินไป ฮยอกแจก็เลื่อนสายตากลับมาที่ใบหน้าหล่อแบบเอเชียที่สวมหมวกแก็บกลับหลังเหมือนเดิม 

    "เกย์ไต้หวันอ่อแค่ปากไวพูดตามความคิดออกไปเบาๆเท่านั้นไม่คิดว่าเค้าจะได้ยิน

    "…ไม่ใช่ครับ"

    "อ้าวกรรมร่างเล็กได้แต่ยิ้มแห้งๆแก้เก้อ รู้สึกหน้าตึงไปประมาณหนึ่ง ในใจแอบโหวงๆกลัวจะโดนต่อยปากแตก

    เอ่อ เมื่อกี๊ขอบคุณนะฮยอกแจก้มหัวขอบคุณเล็กน้อยตามมารยาท ก่อนจะชะเง้อหากลุ่มเพื่อนตัวเองที่หายไป เริ่มรู้สึกร้อนรนเมื่อมองไปทางไหนก็เจอแต่คลื่นมนุษย์จนตาลาย โอกาสหาเจอแทบกลายเป็นศูนย์

    ไม่เป็นไรครับ แล้วนี่...หลงกับเพื่อนเหรอ” 

    อือ คลาดกันเมื่อกี๊นี้แหละ กำลังข้ามไปฝั่งนู้นอ่ะ

    เราก็จะไปฝั่งนู้นเหมือนกัน ไปด้วยกันเนอะริมฝีปากหยักเป็นเอกลักษณ์นั่นยกยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร ผู้ชายตรงหน้าดูไม่มีพิษไม่มีภัยอะไรแต่อีฮยอกแจก็ยังรู้สึกแปลกๆจู่ๆคนแปลกหน้าก็เข้ามาคุยด้วยแบบนี้

    แล้วนาย...เอ่อ ไม่ได้มากับเพื่อนเหรอเป็นประโยคคำถามที่ไม่ได้อยากรู้คำตอบ แค่อยากหาเรื่องแยกกันเท่านั้น ก็พี่ฮีชอลเพิ่งเตือนเรื่องมิจฉาชีพไปหมาดๆ

    ก็มากับเพื่อน แต่เพื่อนไม่น่าสนใจอ่ะครับ

    หือ?”

     

    ร่างหนายิ้มกว้าง ก็หมายความตรงๆตามที่พูด... เพื่อนไม่น่าสนใจ และสนใจคนตรงหน้า มากกว่าเพื่อน

     

    ไปกันเถอะ

    เอ่อ…” ผู้ชายยิ้มเก่งคนนั้นแตะมือที่แขนฮยอกแจเบาๆเพื่อให้เดินไปพร้อมกัน ถึงจะงงๆแต่ฮยอกแจก็กำลังจะเดินไปทางนั้นอยู่แล้วเลยไม่ได้ขัดขืนอะไร 

     

    ขอปะแป้งหน่อยนะครับบ

    อ่า…” ตายังแดงก่ำไม่หายเลยจะปะแป้งอีกแล้วเหรอ อย่าด่าใส่แต่มันก็ช่วยไม่ได้อ่ะ จะให้หันหน้าหนีก็เสียมารยาท...

     

     

    โทษครับ แฟนผมไม่เล่นแป้ง

    ขอโทษครับ

     

    ผู้ชายตัวโย่งคนนั้นหน้าเสียทันที รีบก้มหัวขอโทษขอโพยแล้วเดินหนีไปอย่างเร็ว ทิ้งไว้แต่ร่างเล็กที่กระพริบตามองผู้ชายร่างหนาข้างๆอย่างงงๆ 

    ปากไวไปหน่อย ไม่โกรธกันเนอะ

    อ่า อือๆก็ไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว ถึงจะแอบใจกระตุกนิดหน่อยแต่กับคนที่ไม่รู้จักกันแม้แต่ชื่อฮยอกแจก็ไม่ได้อยากจะคิดอะไรมากมาย ติดอยู่แค่ใบหน้าใสๆชอบหันมามองหน้าเค้าแล้วอมยิ้มอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ

     

    คนบ้าอะไรยิ้มอยู่ได้ 

     

    ปะแป้งหน่อยค่าเสียงแหลมๆดังขึ้นจากกลุ่มผู้หญิงที่เดินเข้ามาประกบหน้าหลังอย่างรวดเร็วจนทั้งคู่ไม่ทันได้ตั้งตัว

    คนนี้ไม่เล่นแป้งครับ ปะผมแทนได้มั๊ย

    กรี๊ดดดดด…..” หล่อนครางเสียงแหลมกันระงมก่อนจะรุมปะแป้งร่างหนาข้างๆแล้วเอาน้ำมาสาดๆใส่ฮยอกแจอย่างสนุกสนาน ใบหน้าหล่อของผู้ชายแปลกหน้าเปื้อนไปด้วยคราบสีขาวของดินสอพองจนอีฮยอกแจขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด

     

    โหยนาย ผู้หญิงปะเราได้ ไปห้ามเค้าทำไม

    อ้าว ทำไมสองมารตฐานล่ะครับ

    ก็อยากโดนสาวปะแป้งบ้างอ่ะ

    ไม่ต้องเลย

     

    ร่างหนาหัวเราะเบาๆก่อนจะดันหลังให้ฮยอกแจเดินไปข้างหน้าต่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำตามที่ผู้ชายหน้ายิ้มคนนี้สั่ง แต่ก็ช่างเถอะอีกนิดเดียวก็ถึงถนนอีกฝั่งแล้ว ยิ่งฟ้ามืดเพลงตื๊ดๆก็ยิ่งดังก้องไปทั่ว รถกระบะที่จอดอยู่ริมถนนเพื่อขายของก็เริ่มมีมนุษย์ใจกล้าหลากหลายเพศขึ้นไปเขย่าร่างโชว์กันสนั่นหวั่นไหว บรรยากาศเริ่มคึกคักแต่น่ากลัวมากขึ้นสำหรับคนตัวเล็กจนนึกอยากกลับบ้านขึ้นมาทันที

     

    แต่ดูเหมือนว่าคืนนี้จะไม่จบลงง่ายๆอย่างที่อีฮยอกแจอยากให้เป็น

     

     

    พลั่ก!!

                เพล้ง!!! 

     

    “เสียงอะ-"

    "วิ่งเร็ว!"

    เสียงขว้างปาดังขึ้นไม่ไกล ตามมาด้วยเสียงโวยวายที่ฟังไม่ได้ศัพท์ ฝูงชนที่เบียดเสียดกระจายเป็นวงกว้างทันทีเมื่อมีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น ร่างเล็กหดตัวลงด้วยความกลัวก่อนที่จะโดนแรงดึงจากคนข้างๆกระชากให้วิ่งตามไปข้างหน้า ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากโดยที่ฮยอกแจไม่ทันได้ตั้งสติหรือประมวลผลได้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ตอนที่โดนร่างหนาพาวิ่งมายืนหอบอยู่ข้างร้านขายปืนฉีดน้ำร้านหนึ่ง

    “เมื่อกี๊... อะไร น่ะ"

    "คนเมาตีกันมั้ง นายไม่เป็นไรนะ"

    "แฮ่ก... อือ ไม่ ไม่เป็นไร"

    "ไหวมั๊ยครับ ขี่หลังมั๊ย"

    "บ้าเหรอ” อีฮยอกแจตวัดสายตาใส่ เพิ่งผ่านเหตุการณ์ขวัญเสียมาหมาดๆยังจะมายิ้มอีก 

    “555555 ไม่เป็นไรน่า อย่าทำหน้ามุ่ยสิ"

    ขอบใจนะถึงจะหงุดหงิดกับรอยยิ้มกวนตีนๆของผู้ชายตรงหน้ามาแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีมันช่วยพาวิ่งหนีออกมาเมื่อกี๊ ป่านนี้ก็คงยืนเฉิ่มอยู่ที่เดิมโดยที่ไม่รู้ว่าจะโดนลูกหลงอะไรบ้าง แค่ขอบคุณเฉยๆประโยคมันเลยดูห้วนๆ อยากจะเอ่ยชื่อด้วยแต่ก็ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร

    นาย...”

    ว่าไงครับ

    ชื่ออะไรอ่ะ

    อยากรู้จักเราอ่ะดิอยากจะเอาด้ามปืนฉีดน้ำซัดหน้ามันจริงๆเลย

    …ไปละ

    ล้อเล่นๆ โห จะทิ้งกันง่ายๆงี๊เลยชื่อทงเฮ

    อาหะ... ขอบใจทงเฮ

    นายล่ะพอได้จังหวะ คนที่ยิ้มรออยู่ก็ถามกลับ 

    ฮยอกแจ

    อะไรนะ ไม่ได้ยิน

    ฮยอก-แจ

    เพลงมันเสียงดังอ่ะ กระซิบใกล้ๆหน่อย

    ตลกละ

    “55555 ครับๆ ฮยอกแจ

    พอเริ่มกลับมาหายใจเป็นปกติร่างเล็กถึงได้เริ่มมองไปรอบๆ และสรุปได้ว่าตอนนี้เค้าวิ่งมาไกลจากที่เดิมพอสมควร ป้ายสีเหลืองที่พี่ฮีชอลเคยบอกว่าถ้าหลงให้มาเจอกันก็อยู่ห่างไกลลิบๆออกไป และตอนนี้ร่างเปียกๆก็เหนื่อยเกินที่จะเข้าไปเบียดกับฝูงมนุษย์แถวนั้นแล้ว 

     

    line group

    เมื่อไหร่อีฮยอกแจจะเล่นไอจี (7)

     

    hyukjae : หลงมาอยู่หน้าเซเว่นอ่ะ มารับหน่อย แถวป้ายเหลืองคนเยอะมากขี้เกียจเบียดกลับไปแล้ว

    >>LEETEUK<< : อ้าวมึงไปเซเว่นได้ไงน่ะ กูยังติดอยู่ใต้สะพานบีทีเอสอยูเลนว่าฟหกด้่า

     

    >>HEENIM<< : อีทึกแม่งโดนรุมอยู่หน้าร้านน้ำอ่ะ แปบนะ

    hyukjae : คยูฮยอนกับรยออุคอ่ะ

    >>HEENIM<< : รยออุคกรี๊ดฝรั่งหล่อมากแล้วก็เดินตามไปฉีดน้ำใส่เค้า คยูฮยอนไปตาม

     

    เวรกันจริงๆเพื่อนกูแต่ละคน ทุเรศจนฮยอกแจหยุดขำไม่ได้

     

    ถุงยางเลยเหรอคนที่เกือบลืมไปแล้วว่ายืนอยู่ข้างๆกันเอ่ยถามขึ้น อีทงเฮหรี่ตามองไอโฟนที่หุ้มด้วยถุงยางสีชมพูอย่างแซวๆจนฮยอกแจหน้าแดง

    ของพี่ ไม่ใช่ของเรา

    ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย55555” 

     

    hyukjae : กูนั่งกินข้าวอยู่แถวเซเว่นอ่ะ แปบนะ คนเริ่มน้อยแล้ว เดี๋ยวเจอกันป้ายเหลืองก็ได้

    >>LEETEUK<< : ดีๆนะมึง ระวังคนล้วงกระเป๋า คนเดียวอันตราย 

    hyukjae : อยู่กับอีกคนอ่ะ ชื่อทงเฮ 

     

    ไม่รู้ว่าบอกไปแล้วจะดูอันตรายกว่าเดิมมั๊ย แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้รู้ไว้ว่าไอ้คนที่ชื่อทงเฮเนี่ยแหละอยู่กับฮยอกแจเป็นคนสุดท้าย

     

    >>HEENIM<< : ใครวะ

    hyukjae : เนี่ย

     

    แชะ

     

    “…ทำไรอ่ะ” 

     

    ItsMeSiwonie : อีดอกรูปเบลอแต่หล่อลากก สอยได้จากไหนเนี่ย พามาเร็วๆๆ

     

    >>HEENIM<< : อ้าวอินี่ ยังไม่ตายเหรอ

    GeamGyu : พอรูปผู้ชายมานี่หน้าสลอนเชียว

    Ryeowookie<3 : เห็นเงียบๆนี่ได้ก่อนใครเพื่อนเลยนะมึงงงง

    hyukjae : มันช่วยล้างหน้ากูตอนแป้งเข้าตา ไม่มีไร

     

    แอบถ่ายรูปเราเหรออีทงเฮยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วยความสงสัยจนฮยอกแจต้องหดคอหนี 

    ใช่ แจ้งบุคคลอันตราย

    โหย อยู่กับเราเนี่ยปลอดภัยอย่าห่วงแค่เห็นรอยสักบนอกนั่นก็รู้สึกถึงความนักเลง อย่ามาปฏิเสธลุคตัวเองเลย

    อันนี้แทททูเฉยๆน่า

    ไม่ได้ถามซักหน่อยฮยอกแจแกล้งทำเป็นไม่สนใจ ยอมรับว่าแอบเขินนิดๆที่โดนจับได้ว่าจ้องรอยสักบนอก คือมองแค่ช่วงอกไม่ได้เลื่อนลงไปมองซิกซ์แพคซะหน่อย ทำไมต้องหรี่ตามองแซวกันอย่างนั้น

     

    "หิวข้าวอ่ะ” เริ่มรู้สึกว่ายืนคุยกันนานๆมันชักเริ่มแปลกๆ เลยหาเรื่องแยกตัวไปหาอะไรกินเพราะท้องเริ่มร้องโครกครากประท้วงทวงมื้อเย็นแล้ว

    "ซะงั้น55555 ข้าวไข่เจียวมั๊ยล่ะ"

    “อือๆ กิน" อีทงเฮยิ้มขำ ท่าทางหิวๆง่วงๆของคนตัวเล็กดูน่ารักกว่าตอนทำหน้าบึ้งตั้งเยอะ เพิ่งเคยเจอคนที่ตัวเปียกแล้วเหมือนลูกหมาขนาดนี้

     

    "นั่งกินตรงนี้แหละง่ายดี” ต่อคิวไม่เกินสามนาที ข้าวไข่เจียวราดซอสพริกสีส้มก็มาอยู่ในมือ กลิ่นหอมโชยมาแตะจมูกจนฮยอกแจอยากตักเข้าปากซะตอนนี้ ทั้งคู่หย่อนร่างเปียกๆลงที่บันไดหน้าเซเว่น ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จับจองพื้นที่เพื่อหาอะไรใส่ท้องกันจนเกือบเต็ม เป็นการกินข้าวในบรรยากาศที่แปลกตาสำหรับร่างเล็กอยู่เหมือนกัน

     

    "ฮยอกแจมาเล่นที่นี่ทุกปีรึเปล่า"

    "เราเพิ่งเคยเล่นปีแรก"

    "ไม่น่าล่ะ"

    "ไม่น่าอะไร ได้ยินนะ"

    "เปล่าว่าอะไร5555 แค่เห็นเอ๋อๆไง5555” อีทงเฮตักไข่เจียวคำโตเข้าปากก่อนจะเคี้ยวไปอมยิ้มไป

    "พ่อเราเป็นตำรวจนะ"

    "แล้วจะจับเราข้อหาอะไรเหรอ"

    “...แว้นซ์” 

    "แต่เราไม่ได้จับแฮนด์มอไซต์ซักหน่อย จับมือฮยอกแจอยู่นะ"

    "ปล่อยเลย!"

    “5555555555” อยู่ดีๆก็โดนคว้ามือไปจับ ถ้าไม่ติดว่าอีกมือถือกล้องข้าวอยู่นะจะโบกให้หัวหลุด สนิทกันแล้วเหรอมาแตะเนื้อต้องตัวอ่ะ ฟ้องแม่แน่

     

    "ฮยอกแจมาตั้งแต่กี่โมง"

    "ห้าโมงมั้ง"

    "แล้วไปไหนต่อรึเปล่า"

    "ไม่แล้ว เดี๋ยวสองทุ่มก็กลับบ้านละ"

    "ว้า รีบกลับจัง"

    "นี่นายกินไปเงียบๆได้มั๊ย"

    "แล้วคิดว่าที่ทิ้งเพื่อนมาหาเนี่ย แค่อยากมานั่งด้วยเงียบๆเหรอครับ"

    "..."

     

    พูดได้เลยว่าไปไม่เป็น

     

    “ถ้านี่คือการจีบ บอกไว้เลยนะว่าเราไม่ใช่เกย์ ไม่ชอบผู้ชาย”

    “ไม่เป็นไร เราชอบ”

     

    ไปไม่เป็นรอบที่สอง...

    คิดว่าประโยคบอกเล่าเมื่อกี๊ชัดเจนมากแล้ว แต่เจออีทงเฮยิ้มหยีตาตอบกลับมาแบบนั้น บอกตรงๆว่างงจนกลืนไข่เจียวไม่ลง

     

    “น่ะ เงียบเลย55555”

    “ไม่ได้พูดมากเหมือนทงเฮ”

    “หูย55555”

     

    ไม่รู้ว่าต้องหน้าด้านหน้าทนขนาดไหนถึงได้หัวเราะร่วนกับประโยคห้วนๆของฮยอกแจได้ แต่ผู้ชายคนนี้กลับนั่งตักข้าวไข่เจียวเข้าปากอย่างชิวๆโดยที่ยังหาเรื่องคุยไม่หยุด บางทีก็แอบขำมุกของมันบ้าง แต่คนตัวเล็กฟอร์มจัดก็ทำได้แค่เกร็งหน้านิ่งเอาไว้ ทั้งๆที่มันไม่เนียนเอาเข้าซะเลย

     

    “จะเดินกลับไปหาเพื่อนที่ป้ายสีเหลือง ยังจะตามมาอีกมั๊ย”

    “กำลังจะไปทางนั้นพอดี” คิดว่าเชื่อมันมั๊ย …ไม่ แต่ต่อให้ไล่ก็คงไม่ไปหรอกคนแบบนี้

    “เพื่อนเราโหดนะ”

    “ไม่เป็นไร เพื่อนเราโหดกว่า”

    “…” แต่เรื่องนี้เชื่อก็ได้

     

    “น้ำยังเต็มกระบอกอยู่เลย ไม่ฉีดคนอื่นบ้างเลยเหรอเนี่ย” อีทงเฮหยิบปืนฉีดน้ำเบ็นเท็นของร่างเล็กขึ้นมา เพราะอีฮยอกแจทำท่าจะเอาข้าวกล่องไปทิ้งโดยที่ลืมปืนฉีดน้ำใหม่เอี่ยมทิ้งไว้ …ถ้าอยู่คนเดียวจะรอดมั๊ยน่ะ

    “ก็ไม่รู้จะฉีดใครอ่ะ”

    “เดินผ่านก็ฉีดเลย ยิ่งเวลาโดนปะแป้งแล้วแค้นมันนะ อัดหน้าแม่ง”

    “เค้าจะไม่ด่าเอาเหรอ”

    “เล่นกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ5555 น้ำไม่แรงมากหรอกน่า เนี่ยตอนเดินกลับก็ลองยิงดู เดี๋ยวเปิดให้เลยเอามั๊ย”

    “กลัวโดนรุม”

    “ถ้าโดนรุมเดี๋ยวเราช่วย”

    “ไม่ต้องมายุ่งเลย” ท่าทางแบบนี้ไม่น่าจะช่วยให้รอด น่าจะช่วยให้โดนรุมมากกว่าเดิมมากกว่า โคตรจะนักเลง

     

    “พร้อมนะ” 

    “อ…อือ พร้อมๆ” อีฮยอกแจไม่เข้าใจว่าพร้อมแบบไหน แต่พอเห็นทงเฮจับก้านใต้กระบอกปืนแล้วสูบลมเข้าก็ทำตามบ้าง ว่าแล้วร่างหนาก็กราดยิงใส่ฝรั่งเคราะห์ร้ายที่เดินผ่านหน้ามาพอดี

     

    ซู่มๆๆๆๆๆ

    ฟู่ๆๆๆๆ

     

    “เห้ยๆ” อีฮยอกแจก้มหน้าลง เค้ายังไม่ได้ฉีดอะไรซักหยด ไอ้ทงเฮนั่นคนเดียวหรอก ทำไมรุมแบบเหมารวมแบบนี้เล่า

    “ฮยอกแจยิงกลับดิ55555”

    “โอ้ย เดี๋ยวเจอ!”

     

    ซู่มๆๆๆๆ

     

    ร่างเล็กฉีดอัดไปเต็มที่ ก่อนที่จะโดนน้ำเย็นขันใหญ่สาดมาจากอีกด้าน มาแบบคอมโบเซตประมาณห้าขันโดยที่ความเย็นจัดของมันทำให้ทั้งคู่ถึงกับร้องออกมาเสียงดัง

    “โอ้ยๆร้อนๆ” อีทงเฮยังไม่วายไปกวนตีนเค้า

    “ร้อนเหรอคะ เอาไปอีกค่าาาาาา” เสียงห้าวๆของพี่กระเทยบนรถกระบะตอบกลับมา ก่อนที่น้ำเย็นเฉียบระรอกใหญ่จะสาดโครมใส่ทั้งคู่อีกครั้งโดยไม่ถามความสมัครใจของฮยอกแจที่ตอนนี้ปากคอสั่นไปหมด พอแล้วโว้ยยย

    “ปะแป้งหน่อยค่าาา” สุดท้ายก็โดนปาดดินสอพองกันไปจนหน้าขาว แล้วพากันเดินตัวสั่นหนีออกมา ประสบการณ์สงครามสาดน้ำอย่างจริงจังครั้งแรกของฮยอกแจ ผลคือแพ้ราบคาบ และได้ข้อคิดว่าอย่าแหยมกับกระเทยรถกระบะ เพราะมันมีน้ำเย็นเป็นแท๊งค์และพรรคพวกเป็นสิบ

    “เป็นไงมันป่ะ555555” ร่างหนาหันไปถามอาการของร่างเล็กที่ตอนนี้ไหล่สั่นไปหมดแล้ว

    “โคตรหนาว55555555” 

    “เออต้องเล่นน้ำเย็นอ่ะถึงจะสะใจ”

    “เติมน้ำๆ เอาเย็นๆแบบเมื่อกี๊อ่ะ จะแก้แค้น55555” ฮยอกแจวิ่งไปหาร้านเติมน้ำทันที กระบอกเบ็นเท็นกลับมาเต็มอีกครั้งด้วยน้ำอุณหภูมิเย็นยะเยือกที่พร้อมสอยทุกคน ปืนสีน้ำเงินเขียวสะท้อนแสงของทงเฮก็เช่นกัน แต่คราวนี้ดูท่าว่าศึกจะหนักหนากว่ากระเทยรถกระบะมากนัก

    "น้องคะ น้องคนนั้นอ่ะ ขายแป้งรึเปล่าคะ” เป็นผู้ชายร่างหนาหัวโล้นที่ใช้คำว่าคะลงท้ายประโยคอีกเช่นเคย สีลมนี่มันสีลมจริงๆ

    "ไม่ได้ขายครับ"

    "ที่บ้านมีกิจการอะไรรึเปล่าลูก” 

    "เอ่อ... ไม่มีครับ555"

    "เอาอย่างนี้นะ เดี๋ยวพี่ป๋อมแป๋มเนี่ยจะเปิดร้านอาหารเล็กๆ แล้วจดทะเบียนเป็นชื่อน้อง ทีนี้พี่จะได้ไปถ่ายพ่อค้าแซ่บนะคะ"

    “5555555555555555555555" อีทงเฮระเบิดหัวเราะลั่นทันที ส่วนอีกคนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นจุดสนใจมาขึ้นเพราะนอกจากพี่กระเทยสามคนนี้จะเข้ามาคุยด้วยแทนที่จะสาดน้ำแล้วยังมีกล้องตามมาอีกสองตัว เหมือนกำลังถ่ายทำรายการอะไรซักอย่าง ถ้าแม่ดูทีวีจะรู้มั๊ยเนี่ยว่าฮยอกแจไม่ได้อยู่กับพี่ฮีชอล

    “มาๆขอแอ๊วหน่อย ชื่ออะไรจ๊า” พี่กระเทยหัวโล้นคุกคามอีทงเฮอีกครั้ง โดยไม่ลืมที่จะหันมามองฮยอกแจเพื่อเตือนให้รู้ว่าเค้าเป็นเหยื่อรายต่อไป ระหว่างนั้นก็โดนคนข้างๆสาดน้ำเย็นใส่ไปอีกสองขันโดยที่ร่างเล็กยกปืนขึ้นมาสู้ไม่ทัน เจ็บใจ

    “ทงเฮครับ”

    “ต๊ายย ชื่อเกาหลีเหมือนหน้า”

    “กรี๊ดดดดดด” คนที่เริ่มมามุงดูก็เป็นลูกคู่ช่วยแซวช่วยหัวเราะกันไป

    “แฟนล่ะคะ แฟนชื่ออะไร”

    “เพื่อนครับเพื่อน ชื่อฮยอกแจ” อีทงเฮตอบแทนทันที เพราะดูเหมือนคนตัวเล็กที่ยืนหดตัวอยู่ข้างๆจะเข้าสู่โหมดตัดขาดออกจากโลกไปแล้ว

    “จ้า ผอสระอัวเพื่อนเนอะ”

    “จ้า55555555555555555” เสียงแซวดังขึ้นอื้ออึงอีกรอบ ซึ่งฮยอกแจก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะบ้าจี้หน้าแดงทำไม เอาน้ำเย็นมาสาดรัวๆดีกว่ามายืนสัมภาษณ์แบบนี้อ่ะ ทำอะไรไม่ถูกแล้วเนี่ย 

    "ว้ายยยยยยย!! น้องเค้าจับมือกันด้วยแกกก!!” พี่กระเทยที่หน้าใหญ่กรีดร้องก่อนจะชี้นิ้วมาที่มือของทั้งคู่ที่กุมกันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    “ร้ายยย! อีปาล์มมึงโฟกัสมือน้องเค้าเดี๋ยวนี้!"

    "ต่ายแล๊ววว"

    "นี่ๆเดี๋ยวฟ้องแม่เลยนะ” 

     

     

    "แม่รู้แล้ว..."

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดด” คราวนี้เสียงกรีดร้องดังพร้อมกันเป็นเสียงเดียว ยอมรับตรงๆเลยว่าตอนนี้ซุกหน้ากับหลังทงเฮแล้ว รับมือกับสถานะการณ์แบบนี้ไม่เป็นจริงๆ ช่วยด้วยยยย

     

    "ลูกสาวมานี่หน่อยค่ะเดี๋ยวแม่ก็อตจิพรมน้ำอบให้นะ” ทันใดนั้นพี่กระเทยที่มีผมก็เดินเอาขวดน้ำอบมาเหยาะๆใส่ร่างเล็กเหมือนเหยาะซอสอะไรซักอย่างจนฮยอกแจหลุดขำออกมา

    "ค...ครับ ขอบคุณครับ"

    "จ้า ไหว้ชีเถอะจ้า"

    "She has a penis!” พี่หัวโล้นตะโกนขึ้น

    "มึงก็ด้วยค่ะ!” จังหวะรับมุกที่เข้าขากันเป็นอย่างดีเรียกเสียงฮาครืนอีกรอบ ซึ่งคราวนี้ฮยอกแจก็หัวเราะไปกับเค้าด้วย 

     

    "อ่ะๆไม่แกล้งละสงสารรร บายค่า” 

    "เบื่อผัวแล้วบอกพี่นะลูก"

    “555555555555” ในที่สุดทั้งคู่ก็โดนสาดน้ำโครมใหญ่ โดนรุมปะแป้ง แล้วก็หลุดออกมาจากคนกลุ่มนั้น ถึงจะโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวแต่มันก็สนุกจนทั้งสองหัวเราะไม่หยุด กว่าจะเดินโซเซออกมาตั้งหลักได้นี่เล่นเอาหอบอยู่เหมือนกัน

     

    "พวกพี่เค้าเป็นใครอ่ะ"

    "เทยเที่ยวไทยไงไม่เคยดูเหรอ"

    “อะไรนะ เคยเที่ยวไทย”

    “เทย กระเทยอ่ะ ไปเซิร์ซยูทูปดูนะ ตลก55555555”

    “ทงเฮไม่กลัวเหรอ”

    “กลัวทำไมเค้าไม่ได้ล้วงไข่เราซักหน่อย”

    “…” 

    ที่พูดนี่โดนมาแล้วเหรอ...

    “เปล่านะไม่เคยโดน555555” ร่างหนาตอบกลับมาขำๆราวกับอ่านความคิดฮยอกแจออก ทั้งคู่เดินฉีดน้ำไปตามทางเรื่อยๆ โดนน้ำเย็นสาดจนตัวสั่นไปอีกหลายรอบ ในที่สุดก็เดินกลับมาถึงป้ายเหลืองที่ร่างเล็กนัดกับเดอะแก๊งเอาไว้ แต่บรรยากาศแถวนี้ก็เปลี่ยนไปจากตอนเย็นราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ เพลงตื๊ดๆที่เคยเปิดตีกันไปมาเหลือแค่เพลงดังๆที่เปิดจากลำโพงใหญ่แค่ลำโพงเดียว กลางถนนมีหัวดับเพลิงอันใหญ่ตั้งชี้ขึ้นฟ้าอยู่ และยังที่ไม่ทันที่ฮยอกแจจะได้เดาอะไร

     

               ฟู่!!!

     

    สายน้ำแรงดันสูงพุ่งขึ้นฟ้าอย่างแรงพร้อมกับเสียงกู่ร้องสนุกสนานจากคนรอบข้าง ละอองน้ำตกลงมาเป็นละอองเหมือนฝนตกห่าใหญ่ ฮยอกแจเห็นพวกเพื่อนตัวเองกำลังเต้นๆอยู่ริมถนนข้างหน้านี้แล้ว คนที่โบกมือแรงสุดไม่พ้นเพื่อนเกย์กล้ามปูซีวอนที่ไม่รู้ว่าโบกมือทักทายหรือกวักมือเรียกผู้ชายข้างๆฮยอกแจกันแน่ 

     

    อามี อามี กาฟรื้อ!!

    เดซิโก๊ะ เดจิ นาโบ กาโว๊ะ กาโว กาโว กาโว~~ กาโว กาโว กาโว~~ กาโว กาโว กาโว~

     

    ฮยอกแจมึงมานี่เลยกำลังมัน!” ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องการคำทักทายอย่างใดๆอีกต่อไปแล้ว ทั้งเพื่อนทั้งพี่ และอีทงเฮเข้าไปดิ้นใส่กันราวกับรู้จักกันมานาน เสียงเพลงจังหวะสุดตื๊ดเล่นวนไปวนมาราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด อะไรกาโวๆฮยอกแจก็ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกัน รู้แต่ว่าจังหวะส่ายเป้าของทงเฮฮอทซะจนเรียกเสียงโหยหวนจากคนรอบข้างแบบสุดๆ จากที่ว่าลุคมันดูแว้นซ์ๆมาเจออย่างนี้ก็พูดได้เลยว่าแว้นซ์ของจริง ท่าเต้นมันแต่ละท่านี่สู้พี่คังอินกับซีวอนได้สบาย 

    แต่ดึงฮยอกแจเข้าไปเต้นด้วยแบบนี้เริ่มไม่โอเคละ

    “ไม่เอาไม่เต้นนน”

    “โหยขนาดนี้ละ มาๆๆๆ” แล้วคนตัวเล็กก็โดนผู้ชายร่างใหญ่สามคนบังคับให้มาดิ้นอยู่กลางวง ชะเง้อมองหาพี่ชายตัวเองก็เห็นมันเต้นนัวเนียกะพี่ทึกอยู่ไกลๆแบบไม่สนใจน้องชายแม้แต่นิด เลวมาก ส่วนอีคยูฮยอนกับรยออุคก็ไปสีฝรั่งฝั่งตรงข้าม พวกเพื่อนเวร...

     

    อามี อามี กาฟรื้อ!! 

    เดซิโก๊ะ เดจิ นาโบ กาโว๊ะ กาโว กาโว กาโว~~ กาโว กาโว กาโว~~ กาโว กาโว กาโว~

     

    ถามจริงๆว่าเพลงนี่มีท่อนฮุคกี่ร้อยรอบ เอะอะก็กาโวๆ จากตอนแรกยังเกร็งๆจนฮุคหลายๆรอบเข้าฮยอกแจก็เริ่มจะเคลิ้มไปกับเค้าด้วย ยิ่งมีคนช่วยบิ๊วด์รอบตัวนี่ยิ่งมัน แต่ไม่เล่นท่ายากอย่างพี่คังอินแล้วก็ไม่เน้นตูดแบบอีซีวอนด้วย แค่ขยับเอวนิดหน่อยก็ถือว่าเยอะสุดในชีวิตฮยอกแจแล้วเนี่ย 

     

    เห้ยฮยอกแจอย่าส่ายเอวตามเรา ไม่เอาๆ!” อีทงเฮตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงเพลงจนคนตัวเล็กที่กำลังมันได้ที่ต้องชะงัก

    อ้าวไมอ่ะ ทงเฮยังเต้นได้เลย

    มันเออ ไม่ดีอ่ะ คนมองไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกันแต่เห็นเอวคอดๆนั้นส่ายตามท่าทงเฮแล้วมันหายใจไม่สะดวกเอามากๆ แค่เสื้อยืดสีดำที่เปียกน้ำแล้วแนบไปกับเนื้อจนเห็นอะไรต่อมิอะไรชัดเจนอีทงเฮก็แทบจะคุมตัวเองไม่อยู่ อย่าเยอะไปกว่านี้เลยเดี๋ยวเตลิดไปไกล

    ทีคนมองทงเฮไม่เห็นอาย

    “เออน่า ท่าอื่นๆ”

    นี่ๆพวกกูก็ยืนอยู่นี่นะ คุยกับกูบ้างสิ

    โลกนี้มีกันอยู่สองคนเหรอออออีสองคนที่เหลือเริ่มเรียกร้องความสนใจ สายตาแซวๆของพี่คังอินน่ะไม่เท่าไหร่ แต่สายตากะลิ้มกะเหลี่ยของซีวอนนี่จะแซวฮยอกแจหรือว่าอยากกินทงเฮกันแน่ไม่รู้

     

    อามี อามี กาฟรื้อ!! 

    เดซิโก๊ะ เดจิ นาโบ กาโว๊ะ กาโว กาโว กาโว~~ 

     

     

    โอ้ยท่อนฮุคอีกแล้ว 

     

    กาโว กาโว กาโว~~ กาโว กาโว กาโว~ กาโว กาโว กาโว~~ กาโว กาโว กาโว~

     

    เออแก๊งฮยอกแจนี่ก็ดีเนอะมีสกรีนเสื้อเป็นธีมด้วยอ่ะ55555555”

    ดีตรงไหนเสี่ยวแดกจะตายร่างเล็กขมวดคิ้วพร้อมกับส่ายหน้าตอบตามจังหวะเพลง

    เราชอบของฮยอกแจสุด555555”

    ฮะ? เสื้อเราไม่ได้สกรีนไม่รู้ว่าได้ยินผิดหรือทงเฮพูดแบบนั้นจริงๆ ฮยอกแจก้มลงมองเสื้อสีดำที่ตัวเองใส่อยู่อีกครั้ง ก็เสื้อเปล่าๆไม่ได้สกรีนอะไรนี่

    เห้ยๆอย่าไปบอกมัน

    ชู่ๆๆๆ” 

    แต่เห็นท่าทางพิรุธสุดๆของพี่คังอินกับซีวอนแล้วก็ชัดเจนทันทีว่ามันต้องมีอะไร

     

    ก็ด้านหลังอ่ะสกรีนว่า...”

    ชู่ววววววว

     

     

    “ #สาดน้ำอย่างไรให้ได้ผัว...”

     

    “555555555555555”

    แล้วแม่งได้จริงๆด้วยว่ะ555555"

    “…

    อีฮยอกแจได้แต่ยืนช็อคนิ่ง อ้าปากค้างกับความเลวของเพื่อนร่วมแก๊งที่ไว้ใจคบกันมาหลายปี มึงทำกับกูแบบนี้เหรอ มึงสกรีนเสื้อลายนี้ให้กูใส่เดินสาดน้ำเค้าไปทั่วสีลม...

     

     

    ไอ้พวกเหี้ยยยยยยย!”

     

     

    กาโว๊ะ กาโว กาโว กาโว~~ ...

     

     

     

    fin

     

     

    อืม ไม่รู้จะพูดอะไรเลย555555555

    ปีนี้ไม่ได้ออกไปเล่นที่ไหนเลยนั่งแต่งฟิค ข้างบ้านเปิดกาโว แค่นั้นแหละ โคตรมั่ว555

    อ่านละเป็นไงเม้นบอกด้วยนะ อันนี้อยากรู้จริงๆๆ55555 ทวิตเตอร์ก็ได้ #สงกรานต์เฮอึน

     

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า

     
    ปล. "แม่รู้แล้ว" มีจริงๆในรายการเทยเที่ยวไทยนะ 
    https://www.youtube.com/watch?v=pBm0lFlyN1g  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×