ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] Hello soulmate [83lines - TeukCin]

    ลำดับตอนที่ #6 : ❥Hello soulmate -------- Five

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 54


      

     


     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

                    Just to touch your hands, whispering your name

    I can feel no pain, feel myself breath again

     

     

    หนึ่งสัปดาห์ที่อัดแน่นไปด้วยตารางสอบวันเว้นวันของคิมฮีชอลค่อยๆดำเนินผ่านไปอย่างเชื่องช้า จังหวะเดียวกับงานสารพัดชนิดที่ประเดประดังเข้าหาอิลลัสเตรเตอร์หนุ่มอย่างไม่เกรงใจเวลาหลับเวลานอน ชีวิตที่เคยเรื่อยเฉื่อยทำตัวติดกับเพื่อนข้างห้องไปวันๆเริ่มสับสนวุ่นวายจนเจ้าตัวแทบลืมวันลืมคืน แต่ทว่าปาร์คจองซูก็ยังสามารถแบ่งเวลาเสนอหน้ามาหาร่างเล็กได้ทุกครั้งแม้งานจะยังไม่เสร็จก็ตามที

    ห้องสีครีมสว่างถูกดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดีอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกันกับอาหารและเครื่องดื่มบำรุงสารพัดชนิดที่มีติดตู้เย็นไม่เคยขาด ร่างโปร่งและแมวผีที่สิงอยู่ใต้เตียงเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้นหลังจากปาร์คจองซูเฝ้าเข้ามาให้อาหารตรงเวลาและดูแลเอาใจใส่ไม่เว้นแต่ละวัน

     

    อะไรที่ไม่ใช่นิสัย ไม่มีใครหรอกจะทนปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอแต่ทว่ากิจกรรมที่สวนทางกับสิ่งที่เรียกได้ว่าสันดานเหล่านั้นกลับกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่เพิ่มขึ้นมาในชีวิตของจองซูโดยไม่รู้ตัว               

     

    คิมฮีชอลเป็นคนพูดมากที่มักไม่พูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ทว่าปาร์คจองซูกลับเข้าใจสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดแม้ว่าร่างเล็กจะไม่ได้เอ่ยมันออกมาเลยก็ตาม

     

    ไม่ได้ต้องการคำขอบคุณอะไร ก็แค่ชอบเวลาที่ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มแล้วบอกว่าผ้าห่มหอมจัง

    ชอบนั่งมองใครคนนึงกินอะมิโนพลัสรสส้มได้วันละหลายๆขวด

    ชอบเวลาที่ฮีชอลอุ่นข้าวที่ซื้อมาให้กินแล้วชมว่ามันอร่อยกว่ามาม่า

    ชอบเวลาที่คิมฮีชอลเผลออมยิ้มออกมาบางๆแต่ก็แสร้งซึนทำเป็นลืมที่จะพูดคำว่าขอบใจ

     

     

    ปลายนิ้วเคาะลงบนพวงมาลัยรถฆ่าเวลาอย่างหงุดหงิดเมื่อรอบข้างเต็มไปด้วยรถราหลากชนิดจอดนิ่งอยู่กับที่โดยไม่ขยับเขยื้อนไปข้างหน้ามาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว ช่วงเวลาหลังเลิกงานพ่วงด้วยลองวีคเอนบนถนนเส้นหลักใจกลางเมือง เป็นเรื่องปกติที่รถจะติดแบบชนิดมหากาพย์ สมกับที่ปาร์คจองซูเผื่อเวลาเอาไว้ก่อนเวลานัดหลายชั่วโมงริมฝีปากบางพ่นลมหายใจออกมาแรงๆก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมากดเล่นตามนิสัย

     

    มึงงง เป็นไง ได้กันยัง? 19:08 PM

     

    เรียวคิวเหนือตาคู่คมกระตุกแล้วขมวดเข้าหากันเมื่อวอทแอปจากสาวนางหนึ่งเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ ส่วนหนึ่งตกใจเพราะเซเลปปาร์คอินยองไม่เคยเป็นฝ่ายทักวอทแอปมาก่อน แต่อีกส่วนคงมาจากภาษาที่อีกฝ่ายใช้ สาบานได้ว่านางคนนี้เป็นสตรีเพศ -_-

     

    19:09 PM   ได้ห่าอะไร ยังไม่ได้คบกันเลย

     

    เอ้าอีหง่าว ยังจีบไม่ติดอีกเหรอ มึงโง่เหรือโง่จองซู 19:09 PM

     

    19:10 PM แล้วจะให้ทำไง ก็ทำตามที่มึงบอกทุกอย่างแล้ว

    น้องเค้าไม่เห็นจะรู้เลยว่ากูชอบเค้า ( .__. )

     

    อยากให้เค้ารู้น่ะ มึงบอกรักเค้าแล้วเหรอ? 19:10 PM

     

    19:11 PM ….

     

    กูต้องบอกด้วยเหรอ -/////- เขินตายดิสัด

     

    มึงจะรอให้ชะนีคาบไปแดกเหรอปาร์คจองซู -_-

    กูไม่ยอมนะขอบอก -_- 19:11 PM

     

    19:12 PM กู = = …กลัวว่ะสัด ถ้าเค้าไม่รับนี่ทุกอย่างจบเลยนะมึง

     

    เออจริง หน้าอย่างมึงเป็นกู กูก็ไม่เอา 19:12 PM

     

    หน้าจอวอทแอปนิ่งไปพักนึงเหมือนอีกฝ่ายกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง รถยุโรปสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวไปข้างหน้าช้าๆเมื่อถนนสีเทาเริ่มคลายความวุ่นวายลงเล็กน้อย อีกไม่กี่ช่วงถนนก็จะถึงสถานที่นัดคุยงานกับลูกค้าคนสำคัญ โดยปกติแล้วปาร์คจองซูจะติดต่อรับงานทางโทรศัพท์หรืออีเมลล์ซะมากกว่าออกมานัดคุยเป็นทางการเช่นวันนี้ หากแต่ในคราวนี้กลับแตกต่างออกไป คงเป็นเพราะไม่ใช่งานออกแบบเล็กๆอย่างที่เคยทำ

     

    เอางี๊ มึงลองสังเกตท่าทางเค้าดิ

    ถ้าน้องเค้ายังเฉยๆ มึงก็พยายามต่อไป

    แต่ถ้าเมื่อไหร่เค้ามีท่าทางแปลกๆ แสดงว่ามึงเริ่มมีหวัง 19:15 PM

     

    19:15 PM แปลกๆ ยังไง กูงง

     

    (เคาะกะบาลเบาๆ) เสียงกังวานมากมึง ไม่มีอะไรเลยซินะ 19:16 PM

                    อีห่าพี่อินยองหลอกด่ากู -_____-

                   

    พูดง่ายๆคือถ้ารู้สึกว่าน้องเค้าเริ่มเขินมึงเมื่อไหร่ ก็จัดไปเมื่อนั้น เกทยัง 19:16 PM

     

    19:17 PM แปบนะกูขับรถก่อน ค่อยคุยๆ

     

    อย่าชักช้านักมึง กูอยากอุ้มหลาน 19:18 PM

     

    19:18 PM หลานพ่องพี่อินยอง ผู้ชายเอากันท้องได้ที่ไหนสัด = =

     

    ถอนหายใจกับความติ่งของพี่สาวร่วมสายเลือดก่อนจะกดปิดแอพแล้วเก็บไอโฟนเครื่องบางใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ต การจราจรที่เหมือนจะดีขึ้นเพียงไม่กี่นาทีกลับมาติดแหงกอีกครั้งจนดูเหมือนไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเลยแม้แต่นิดปาร์คจองซูเท้าแขนกับขอบกระจกข้างที่นั่งคนขับอย่างเนือยๆ ก่อนจะกลอกตาไปมาราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

     

    กลัว ใช่ เค้ารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

    ยิ่งทุ่มเทมากเท่าไหร่ ความกลัวที่จะผิดหวังในส่วนลึกของจิตใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

     

    กังวลว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน

    ถ้าวันนึงคิมฮีชอลได้ฟังว่าแท้จริงแล้วผู้ชายคนนี้รู้สึกยังไง

     

    แววตาคมฉายแววหม่นออกมาอย่างไม่เคยเป็นความรู้สึกหน่วงๆที่ปฏิเสธมาตลอดกลับเข้ามาเกาะกุมจิตใจโดยฉับพลัน ความสับสนเริ่มก่อตัวขึ้นทุกครั้งที่ร่างโปร่งเริ่มถามตัวเองว่าพยายามขนาดนี้ ไปเพื่ออะไร

     

    มึงถลำลึกเกินไปรึเปล่าปาร์คจองซู

     

    หลายครั้งที่สิ่งคล้ายความรักแวะเวียนเข้ามาทักทายในชีวิต แต่ไม่นานก็ผ่านเลยไปราวกับความรู้สึกเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริง ความสัมพันธ์ทางกายที่เคยคิดว่าหวานหอม แต่เมื่อหมดรสก็จืดจางและห่างหายไปราวกับว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เคยมีความสำคัญอะไรชีวิตเดิมๆของผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างที่เคยเป็น

     

    ความรักที่ปาร์คจองซูเคยรู้จัก ไม่เคยทำให้เค้าต้องทุ่มเทใจมากมากขนาดนี้

     

    ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันช้าๆ เมื่อรู้สึกว่าการถอนหายใจซ้ำๆมันทำให้รู้สึกเหนื่อยกว่าวิ่งร้อยเมตรซะอีก

     

    คนหล่อไม่แคร์โลกอย่างกูก็มีมุมซีเรียสนะมึง ถึงจะพยายามไม่ดราม่ามากเพราะกลัวว่าเครียดบ่อยแล้วจะทำให้หน้าเหี่ยว แต่จะให้ทำยังไงคนแก่แม่งก็ชอบคิดมากอย่างนี้แหล่ะกูก็เบื่อตัวเองเหมือนกัน

     

    หยดน้ำหยดเล็กโปรยตัวลงมาตกกระทบบนกระจกหน้ารถจนเกิดเสียงเปาะแปะก่อนจะหยาดฝนจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วสาดเทลงมาอย่างไม่เกรงใจการจราจรที่ง่อยแดกอยู่แล้วจนทำให้กลายเป็นตายสนิทโดยสมบูรณ์ชายหนุ่มในที่นั่งคนขับพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเอนหัวพิงกับกระจกรถ

     

                    สายตาคมเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่เกาะพราวไปด้วยหยดน้ำ บรรยากาศชวนดราม่าที่ก่อตัวขึ้นทำให้ปาร์คจองซูอดบิ๊วอารมณ์ตัวเองไม่ได้

     

    บนถนนสีเทาแออัดไปด้วยรถยนต์ที่แต่ละคันก็ต่างมีจุดหมายแตกต่างกัน ผู้คนมากมายใต้ร่มคันเล็กเดินวุ่นสวนกันไปมาดวงไฟหลากสีอวดแสงสวยท่ามกลางสายฝนกระหน่ำทำให้มองเห็นหยดน้ำฝนที่เทตัวลงมาส่องประกายมากยิ่งขึ้น

    ความวุ่นวายในเมืองหลวงทำให้คนมองกลับรู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

     

                   

                    …

                    คิดถึงน้องหมอ ;_____;

     

     

                    ใบหน้าหล่อมุ่ยลงเหมือนหมาหงอยเมื่อเหลือบมองไปยังนาฬิกาดิจิทัลบนคอนโซลรถแล้วพบว่าตอนนี้เกือบสองทุ่มแล้ว ถ้าเพียงแค่ผ่านช่วงที่รถติดหนักๆตรงนี้ไป ก็จะสามารถไปถึงที่นัดได้ตรงเวลาอย่างแน่นอน

     

                    แต่ขี้เกียจว่ะ อยากกลับไปกินข้าวกับฮีชอล

     

                    เสียงฟ้าร้องครืนดังแว่วเข้ามาในรถ ทำให้คนที่นั่งเซ็งอยู่ข้างในสะดุ้งน้อยๆก่อนจะฉุดคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ใบหน้าหวานของคนที่กำลังคิดถึงลอยขึ้นมาตรงหน้า

                   

                    ฝนตกที่คอนโดเปล่าวะ น้องฮีกูจะเป็นไงบ้าง โอ้ยเชี่ย อยากกลับบ้าน ;____;

                   

                    แต่ยังไม่ทันที่ปาร์คจองซูจะได้กดโทรไปยังเบอร์คุ้นที่เซฟเฟพเอาไว้ ก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้นซะก่อน

     

                    น้องหมอ

     

                   

                    .

                    .

                    .

                    =///////////=

     

                    “ว่าไง ที่คอนโดฝนตกเหรอ” เสียงทุ้มกรอกส่งไปที่ปลายสายทันทีเมื่อกดรับโทรศัพท์ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเพื่อเก็บอาการไม่ให้ตัวเองเผลอยิ้มออกมากว้างจนเกินไป

     

                    "พี่จองซูมารับหน่อยได้เปล่า ขึ้นรถเมลล์ผิดสายมาโผล่ไหนไม่รู้ กลับคอนโดไม่ถูกอ่ะ"

    "อ้าว ...ทำไมมึงโง่งั้นครับน้องฮี" แกล้งพูดไปอย่างนั้นทั้งที่ในใจกลับเริ่มคิดกังวลไปต่างๆนานา ยิ่งได้ยินเสียงฟ้าร้องเบาๆดังแทรกเข้ามาแล้วยิ่งห่วงคนที่ปลายสายว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

     

    "สงสัยช่วงนี้กูอยู่กะไอ้แก่ข้างห้องบ่อยเกินไปเลยติดเชื้อหง่าวมันมา ,,,ลุงอย่าพูดมากได้ป่ะมารับกูเร็วๆ ...กลัวฟ้าร้อง" ท้ายประโยคเบาหวิวเกือบถูกกลบด้วยเสียงฝนตกจนจองซูแทบไม่ได้ยิน แต่ทว่าเสียงหงอยๆนั่นทำให้เจ้าของคำถามอดใจกระตุกวูบไม่ได้

     

    ร่างโปร่งเหลือบตามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาหนักๆเพราะอีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะถึงเวลานัดแล้ว แค่เพียงเลี้ยวเข้าซอยข้างหน้าก็จะถึงที่หมายภายในไม่กี่นาที...

     

    แต่ทว่าท้ายเสียงของคิมฮีชอลที่ติดจะสั่นๆนั่นทำให้เค้าตัดสินใจหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าไปในซอยตรงข้ามอย่าง่ายดาย...แม้ว่าในหัวจะคัดค้านการกระทำที่ดูไร้เหตุผลนั่นมากเท่าไหร่ก็ตาม

     

    "ตอนนี้อยู่ไหน เดี๋ยวรีบไปรับ" น้ำเสียงจริงจังกรอกส่งไปที่ปลายสายเมื่อเสียงฝนตกในโทรศัพท์เริ่มดังแทรกเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆจนร่างโปร่งเริ่มร้อนใจ

     

    "ป้ายรถเมล์ข้างทางด่วนอะไรไม่รู้ ฝั่งตรงข้ามมีส่วนสาธารณะใหญ่ๆ "

    "มึงบอกซะละเอียดจนกูแทบหาละติจูดได้เลยนะสัด ...เอาอะไรที่มันเจาะจงกว่านั้นหน่อยสิครับน้องหมอ" คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันเมื่อเสียงฟ้าร้องครืนดังแทรกเข้ามาพร้อมกับเสียงอุทานเบาๆของคนที่ปลายสายเริ่มทำให้เค้าเป็นห่วงจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

     

    ก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายบีบตัวขยับเป็นจังหวะประหลาดเมื่อความกลัวเริ่มเข้ากอบกุมทั่วทั้งหัวใจ ความกังวลประเดประดังเข้ามาในหัวจนปาร์คจองซูแทบจะรอให้คนที่ปลายสายตอบกลับมาไม่ไหวเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับทั้งสองข้างแม้แอร์ในรถจะยังทำหน้าที่ของมันได้ดีจองซูตัดสินใจเลี้ยวรถอีกครั้งเมื่อฮีชอลเดินฝ่าฝนไปอ่านชื่อสวนสาธารณะใกล้ๆให้ฟังจนร่างโปร่งเริ่มจะเดาออกว่าตอนนี้อีกคนอยู่ที่ไหน

     

    “เร็วๆนะ

     

    “อย่าทำเสียงงั้นสิ ไม่เกินสิบนาทีเจอกัน” เสียงสั่นๆของร่างเล็กที่ดังรอดมาเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะวางสายทำให้ปาร์คจองซูสลัดความคิดที่จะยูเทิร์นรถกลับโดยสิ้นเชิง ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งจนเกือบมิดฝ่าสายฝนเพื่อไปให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด

                   

                    เรียวนิ้วกดโทรศัพท์หาคนอีกคนอย่างรวดเร็ว

    "ฮยอกแจ ออกไปคุยงานแทนพี่หน่อย รายละเอียดเดี๋ยวเมลล์ไปให้ กูไม่ว่างกระทันหัน"

    "เหี้ยไรอีกพี่จองซู กูเพิ่งกลับถึงบ้านเนี่ย ไม่ว่างอะไร"

     

    "กู ....กูต้องรีบไปรับหลาน" ร่างโปร่งบอกเหตุผลส่งๆไปพร้อมกับมัดมือชกให้รุ่นน้องคนสนิทไปคุยงานแทนโดยไม่ฟังเสียงโวยวายจากเจ้าเด็กตัวแสบ สายตาคมจ้องมองไปที่ถนนเส้นยาวที่ทอดตัวไปเบื้องหน้าพร้อมกับจิตใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ รถยุโรปคันสวยแล่นฝ่าสายฝนด้วยความเร็วที่มากพอๆกับความร้อนรุ่มในจิตใจโดยที่เจ้าตัวอดที่จะแปลกใจกับการตัดสินใจเพียงเสี่ยววินาทีของตัวเองไม่ได้

     

    คนคนหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตได้ไม่นานแต่กลับอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของลำดับความสำคัญ

    โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เหมือนกันว่าคิมฮีชอลเข้ามามีอิทธิพลต่อจิตใจของเค้ามากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

     

     

    ความรักที่ปาร์คจองซูเคยรู้จัก ไม่เคยทำให้เค้าต้องทุ่มเทใจมากมากขนาดนี้

     

     

     

    กูไม่ได้หลงงมงายทำเพื่อความรัก

    แต่กูกำลังทำเพื่อคนที่กูรัก ไม่ว่าคนคนนั้นจะให้รักกลับมาหรือไม่ก็ตาม

     

     


     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

    ท่ามกลางสายฝนที่สาดเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักพร้อมกับท้องฟ้ามืดสนิทที่ส่งเสียงดังครืนๆทำให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์นั่งกอดอกหดตัวแน่น เสื้อเชิ้ตนักศึกษาตัวบางที่ชื้นไปด้วยน้ำฝนทำให้ร่างเล็กตัวสั่นเทาด้วยความเย็นยะเยือก เมื่อลมพายุที่พัดผ่านเป็นพักๆยิ่งทำให้ฮีชอลรู้สึกหนาวเข้าไปถึงกระดูก

    แต่ทว่าในใจกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดหลังจากได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของคนที่ปลายสายเมื่อครู่

     

    ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจทำให้ฮีชอลตัดสินใจกดโทรหาคนที่ไม่นาพึ่งพาได้คนนั้น ทั้งที่มีทั้งเพื่อนและพี่รหัสที่พร้อมให้ความช่วยเหลืออยู่มากมาย

     

     

    ครืนนน…!

     

     

    เสียงฟ้าร้องดังขึ้นอีกครั้งจนร่างเล็กสะดุ้งแล้วรีบยกมือขึ้นปิดหู เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่ฮีชอลต้องนั่งหดตัวอยู่ในป้ายรถเมลล์เล็กๆที่มีเพียงแสงไฟเพียงดวงเดียวจากหลอดไฟนีออนเหนือหัว รอบกายที่มืดสนิทไร้ซึ่งรถยนต์วิ่งผ่าน หรือบ้านเรือนใดๆ  มีแค่เพียงถนนเงียบๆกับป่ารกร้างด้านหลังที่ยิ่งทำให้บรรยากาศโดดเดี่ยวท่ามกลางสายฝนน่ากลัวมากยิ่งขึ้น

    พ่วงด้วยเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่นขึ้นเป็นพักๆยิ่งทำให้คิมฮีชอลเริ่มกลัวจนประสาทเสีย

     

    เสี้ยววินาทีนั้นเรียวนิ้วสวยเกือบจะตัดสินใจกดโทรออกหาปาร์คจองซูอีกครั้ง แต่ทว่าแสงไฟจากรถยนต์ที่สาดเข้ามาแยงตาให้ทำร่างเล็กต้องชะงัก

    รถยุโรปรุ่นคุ้นตาเบรกตัวเทียบหน้าป้ายรถเมล์อย่ารวดเร็วจนน้ำฝนที่เจิ่งนองเป็นแอ่งบนพื้นสาดกระจายไปทั่วกระจกที่ติดด้วยฟิล์มมืดฝั่งติดกับฟุตบาตรเปิดลงช้าๆ ปรากฏใบหน้าของคนที่อยากเห็นมากที่สุดนั่งอยู่ถัดไปทางฝั่งคนขับ

     

    “ขึ้นมาเร็วๆ” เสียงทุ้มที่ดังลอดออกมาทำให้ฮีชอลเผลอยิ้มกว้างออกมาอย่างโล่งใจ ใบหน้าหวานพยักหน้ารัวๆก่อนที่ร่างเล็กเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนรีบเปิดประตูแล้วแทรกตัวเข้ามานั่งข้างคนขับอย่างรวดเร็ว

     

    ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยทำให้คิมฮีชอลรู้สึกอุ่นวาบไปทั่วทั้งหัวใจ

     

    ผ้าขนหนูผืนเล็กถูกนำมาคลุมไว้บนหัวร่างเล็กในทันที ก่อนที่มือแกร่งจะเอื้อมไปหรี่แอร์ตรงหน้าฮีชอลให้เบาลง แล้วเอี้ยวตัวไปดึงเซฟตี้เบลต์มาคาดให้ร่างเล็กเสร็จสรรพโดยที่คิมฮีชอลไม่ทันได้ตั้งตัว

     

    ใบหน้าหล่อที่เฉียดเข้ามาใกล้แค่เพียงเสี้ยววินาที แต่ทว่ากลับทำให้อีกคนนิ่งค้างไปเกือบหนึ่งนาทีก่อนจะรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าอย่างประหลาด

     

    “เปิดเพลงกลบเสียงฟ้าร้องมั๊ย?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม แต่ทว่าฮีชอลไม่ตอบอะไร ใบหน้าหวานแค่เพียงพยักหน้าตอบเบาๆก่อนจะพิงหัวกับกระจกข้างๆแล้วแสร้งหลับตาลง

     

    ริมฝีปากบางเผลออมยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเสียงเพลงที่ดังขึ้นเป็นเพลงที่โปรดที่เค้าเปิดฟังบ่อยๆเสียงเพลงหวานหูขับกล่อมให้ร่างเล็กเคลิ้มหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

     

    แม้จะไม่กล้าลืมตาขึ้น เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้อีกคนกำลังมองมาที่เค้าหรือไม่

     

    แต่ทว่าคิมฮีชอลก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังรู้สึกดี

     

    รู้สึกดีที่มีปาร์คจองซูอยู่ข้างๆทุกครั้งที่เค้าต้องการ

     

     


     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     


    ประตูบ้านหนาถูกไขกุญแจเปิดออก ก่อนที่ร่างทั้งจะสอดตัวเข้ามาภายในห้องสีเหลี่ยมสีครีม ไฟสีส้มนวลสว่างขึ้นเมื่อปาร์คจองซูกดเปิดสวิตซ์ที่ข้างบานประตู คนตัวเล็กที่สะลึมสะลือเพราะหลับมาในรถตลอดทาง เดินโงนเงนไปทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มทันทีก่อนจะขดตัวนอนหลับต่อโดยไม่สนใจร่างโปร่งที่กอดอกมองอยู่ด้วยท่าทีไม่พอใจ

     

    “ยังไม่ตอบกูเลยว่าทำไมอยู่ดีๆนั่งรถเมล์ไปโผล่นอกเมืองซะขนาดนั้น” ปาร์คจองซูทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆร่างเล็กที่ซุกตัวเข้ากับผ้าห่มผืนหนา

    “เพื่อนพาไปเลี้ยงหลังสอบเสร็จ กินเสร็จก็แยกย้ายกันนั่งรถกลับบ้าน แต่กูมีเคยไปแถวนั้น เลยนั่งรถเมลล์ผิดสายอ่ะ” เสียงอู้อี้ดังลอดออกมาจากกองผ้าห่มตรงหน้าทำให้ปาร์คจองซูอดขำออกมาไม่ได้ มือแกร่งเอื้อมไปดึงผ้านวมที่คลุมร่างเล็กออกเพราะกลัวว่าฮีชอลจะขาดอากาศหายใจ

     

    “น้องหมอมึงอย่าเพิ่งนอน ตัวเปียกหัวแฉะเป็นลูกหมาตกโคลนมึงนอนเลยได้ไง เดี๋ยวไข้ขึ้นหรอก ลุกมา ไปอาบน้ำสระผมก่อนค่อยนอน” บ่นจุกจิกด้วยความเป็นห่วงตามประสาคนแก่พร้อมกับดึงผ้าห่มออกให้พ้นร่างเล็กจนฮีชอลหันมาค้อนขวับแล้วเริ่มงอแงเป็นเด็กๆ

                    “งืออออออ กูง่วงงงงงง เหนื่อยด้วย เอาผ้าห่มมากูจะนอนนนนนน” คิมฮีชอลโวยวายก่อนจะกระโจนแย่งผ้าห่มกลับมาแล้วเอาพันรอบตัวเอาไว้จนตัวกลมเหมือนดักแด้ ร่างโปร่งขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างจนปัญญาก่อนจะหลุดยิ้มออกมากับพฤติกรรมเหมือนเด็กสามขวบของร่างเล็กตรงหน้า

    อีกไม่กี่ปีจะจบมาเป็นหมอนะเนี่ยคนเนี้ย =///////////=

     

                    “ฮีชอล

                   

     

                    “คิมฮีชอล

                    “

     

                    สิ้นเสียงเรียกชื่อครั้งสุดท้าย ก่อนที่ปาร์คจองซูจะช้อนตัวดักแด้ยักษ์ขึ้นอุ้ม แล้วเดินพาไปปล่อยไว้หน้าห้องน้ำ คนตัวเล็กในอ้อมแขนดิ้นขลุกขลักเมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้นเหนือพื้น เสียงโวยวายที่ดังอู้อี้ลอดผ้านวมผืนหนาออกมาทำได้เพียงเรียกเสียงหัวเราะจากปาร์คจองซูเท่านั้น

     

                    “อาบ-น้ำ-สระ-ผม” ปาร์คจองซูออกคำสั่งชัดถ้อยชัดคำก่อนจะแกะผ้าห่มที่ห่อตัวฮีชอลออก พร้อมกับเอาผ้าขนหนูสีครีมมาคลุมลงไปบนกลุ่มผมนุ่มที่หมาดน้ำฝนคนตัวเล็กสะบัดหัวออกด้วยความหงุดหงิด ริมฝีปากบางเบะบึ้งใส่คนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้มภูมิใจที่สุดท้ายก็บังคับให้ฮีชอลอาบน้ำได้เป็นผลสำเร็จ

                   

                    “ปาร์คจองซู! กูแบนไอดีมึง ห้ามเข้าห้องกูสองอาทิตย์เลยสัด!” ดวงตากลมที่ปิดปรือด้วยความง่วงจ้องเจ้าของใบหน้าหล่ออย่างฆาตโทษก่อนจะปิดประตูห้องน้ำใส่หน้าดังปึง แต่อีกคนกลับทำได้แค่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

     

                    บังเอิญกูนั่งปั่นเมลล์สมัครไว้หลายไอดีว่ะ หึหึ

     

     

    ไม่ถึงห้านาทีร่างเล็กที่เพิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำก็ปิดประตูพรวดออกมาในชุดนอนสีฟ้าอ่อน กลุ่มผมสีน้ำตาลชุ่มน้ำถูกผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เช็ดอย่างลวกๆเพียงไม่กี่ครั้ง ก่อนที่คิมฮีชอลจะทิ้งตัวลงบนที่นอนแทบจะในทันที

                   

                    “ฮีชอลลุกมาเป่าผมก่อนค่อยนอน” ร่างโปร่งที่นั่งกดไอโฟนเล่นอยู่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นใครบางคนเดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่สายตายังไม่ละไปจากเกมฟรุตนินจาตรงหน้าแต่ใบหน้าหล่อก็ต้องเงยขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าคนที่เค้าพูดด้วยนั้นสลบแน่นิ่งไปเรียบร้อยแล้ว

                   

                    ปาร์คจองซูเดินไปดูสภาพคนบนเตียงที่นอนหลับสนิทด้วยความเหนื่อยจัด โดยที่ผ้าเช็ดตัวยังกองทิ้งไว้ข้างหมอนอยู่อย่างนั้นริมฝีปากบางกดยิ้มน้อยๆเมื่อจ้องมองไปยังใบหน้าหวานยามหลับที่คุ้นเคย ก่อนจะหยิบไดร์เป่าผมตัวเล็กมาเสียบปลั๊กข้างๆหัวเตียง

     

                    “น้องหมอ” ลองเรียกชื่ออีกฝ่ายซ้ำอีกทีเพื่อว่าฮีชอลจะยอมตื่นมาอีกครั้ง แต่ทว่าดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล ร่างโปร่งตัดสินใจทิ้งตัวนั่งลงขนาบข้างคนที่กำลังหลับไม่รู้เรื่อง ก่อนจะค่อยๆรั้งแขนเล็กขึ้นหวังจะดึงให้คนตัวเล็กลุกขึ้นมา

     

                    แต่ทว่าร่างไร้สติที่ถูกดึงตัวลุกขึ้นกลับงัวเงียเกินกว่าจะตั้งตัวนั่งตรงศีรษะโงนเงนเอนไปข้างหน้า ก่อนจะพิงหัวเข้ากับลาดไหล่กว้างของปาร์คจองซูแทบจะในทันที

     

                    …ท่วงท่าที่ใกล้ชิดกว่าทุกทีทำให้ร่างโปร่งถึงกับนิ่งค้าง

                    กลิ่นแชมพูอ่อนๆลอยอยู่ใกล้ปลายจมูกว่าที่เคยทำให้ปาร์คจองซูรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าลมหายใจอุ่นสม่ำเสมอเป่ารถอยู่ที่ไหล่ทำให้หัวใจในอกข้างซ้ายบีบตัวเต้นระรัวมากกว่าทุกครั้ง

     

                     มือขวาที่กำไดร์เป่าผมตัวเล็กเอาไว้เลื่อนนิ้วมากดเปิดสวิตซ์ให้อุปกรณ์ไฟฟ้าในมือเริ่มทำงาน ลมร้อนถูกเป่าไปตามกลุ่มผมหมาดน้ำข้างๆโดยที่มีมือซ้ายช่วยใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กซับไปตามไรผมอย่างเบามือ

     

                    สายตาคมยังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าหวานด้านข้างยามหลับที่ซบอยู่กับไหล่ซ้าย เหลือตาสวยปิดสนิท แต่ทว่าแก้มใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อนั่นทำให้ร่างโปร่งนึกสงสัยว่าคนตัวเล็กกำลังหลับอยู่จริงๆรึเปล่า

     

                    ท่าทางเป่าผมที่ดูเหมือนการกอดกรายๆทำให้จองซูรู้สึกเกร็งเล็กน้อยแต่ทว่าเจ้าตัวก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกดี

                   

     

                    หลายนาทีที่ร่างโปร่งเป่าผมให้คนตัวเล็กที่ซบหลับอยู่กับไหล่จนกลุ่มผมสีน้ำตาลอัลมอนต์นั่นแห่งสนิทแต่ทว่าปาร์คจองซูก็เลือกที่จะนั่งอยู่ในท่านั้นต่อไปนิ่งๆโดยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

     

                    เสียงหัวใจที่เต้นระรัวของจองซูเริ่มเบาลง ในขณะเดียวกันนั้นเค้ากลับรู้สึกได้ถึงเสียงตึกๆไม่เป็นจังหวะของหัวใจอีกดวงที่อยู่ห่างกันไม่ไกล

     

                    แก้มใสสีชมพูระเรื่อของคนในอ้อมอกกลายเป็นสีแดงจัดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ปาร์คจองซูสัมผัสได้แค่ว่าเค้าเหมือนจะเริ่มเข้าใจคำว่าแปลกที่อินยองพูดถึง

     

     

                ฮีชอลไม่ได้กำลังหลับ

                   

                   

                    เสียงอู้อี้จากคนที่ซบหน้าอยู่กับไหล่ดังลอดขึ้นมาเบาๆ หากแต่ปาร์คจองซูกลับได้ยินมันได้อย่างชัดเจน

                   

                    “ขอบใจนะ

     

     

     

     

     

                    .

                    .

                    .

     


     

     

                    ขอเป็นกลางใจแทนได้มั๊ยฮีชอล

     

     

     

     

     

     

    -talk-

    เสี่ยว… OTL….

    หายไปเกือบอาทิตย์ แถมอัพตอนนี้สั้นมากเบย ..ตายแล้ว รู้สึกผิด –A-

    เปิดเทอมแล้วมันยุ่งจริงไรจริง เพลีย OTL… ตอนหน้าจะอัพยาวๆน้า อย่าเพิ่งลืมน้องหมอ

     

    ปล.มาอัพเช้ามาก หกโมง … 555555555 กึ๊ดมอนิ่งค่ะทุกคน เราไปนอนก่อน… - -;

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×