คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ❥Hello soulmate -------- Four
When you're close to me, make me feel alive
Like never before, when my whole world had died
ร่างโปร่งก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมผิวปากอย่างอารมณ์ดี หยดน้ำที่เกาะพราวไปทั่วตัวถูกซับออกด้วยผ้าขนหนูสีเข้มจนแห้ง โลชั่นบำรุงผิวกลิ่นหอมอ่อนๆถูกไล้ไปตามผิวหน้าเนียนใสที่พักหลังมานี้ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี บวกกับสุขภาพจิตที่จัดอยู่ในขั้นดีถึงดีมาก จึงทำให้ปาร์คจองซูดูสดใส่เปล่งปลั่งมากกว่าปกติ
นิ้วเรียวจัดแต่งผมสีน้ำตาลเข้มด้วยเจลเนื้อใสจนเป็นทรงได้ที่
ร่างเปลือยเปล่าสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำตัวเก่งเข้าคู่กับกางเกงยีนส์สีเข้มพอดีตัว
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างให้ตัวเองให้กระจกอีกครั้ง พร้อมหันหามุมที่เจ้าตัวคิดว่าดูดีที่สุดแล้วเอ่ยชมตัวเองออกมาโดยไม่กระดากปาก
ถึงกูจะหล่อทุกวันอยู่แล้ว
.แต่วันนี้กูเหล่อมากจนผิดปกติจริงๆ
ที่ลงทุนตื่นตั้งต่ำไก่โห่นี่ไม่ใช่อะไร
แค่ปฏิทินข้างฝาผนังมันบังเอิญมีวงกลมแดงๆอันเท่าฝาหม้อวงล้อมรอบวันที่วันนี้ไว้ พร้อมกับโพสอิทสีเขียวสะท้อนแสงแปะไว้ข้างๆเรียงกันเป็นประโยคว่า
เดท แรก กับ น้องหมอ ❤
v//////▽/////v
กูเปล่าตื่นเต้นนะ อันที่จริงไม่ได้ใส่ใจไรมากหรอก
แค่เมื่อสองสามวันก่อนเผลอขับรถผ่าน เลยเข้าไปดูสถานที่จริงซักหน่อย เล็งมุมโต๊ะที่ถูกใจไว้เรียบร้อย วางโปรแกรมหลังชาบูว่าจะหลอกน้องหมอไปดูหนังอีกซักเรื่อง ถ้าเป็นไปได้จะทำเนียนจับมือ แล้วพาออกมากินเค้กอาฟเตอร์ยู ถ้าน้องเค้าอยากเดินเที่ยวต่อก็อาจจะพาไปเดินเทอร์มินอล แล้วก็ถ่ายรูปคู่กันไว้เป็นที่ระรึกนิดนึง
.
ไม่ได้ตั้งใจวางแผนไรมากมายนักหรอก แค่เมื่อคืนร่างสเคตด้วลใส่ไดอารี่ไว้แล้ว มีสำรองด้วยสองสามแผน
กว่าจะหลับก็เกือบตีสาม
เห้ย นี่คือกูชิวมากๆไม่ได้ตื่นเต้นไรเลยจริงๆ
.
จริงๆก็แค่
.แอบเฝ้ารอนิดหน่อย
-//////▽/////-
ปาร์คจองซูใช้นิ้วชี้กดที่หางตาทั้งสองข้างของตัวเองแล้วดึงไปด้านหลังนิดๆ
เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่าหางตาที่เคยมีรอยแห่งวัยจางๆตอนนี้ได้หายไปแล้ว บริเวณใต้ตาที่เคยมีรอยดำคล้ำเหมือนคนนอนไม่พออยู่คลอดเวลาก็เป็นสีเดียวกับผิวหน้าส่วนอื่นๆโดยไร้ร่องรอยตำหนิใดๆ
.ใบหน้าเกือบหล่อที่โทรมอยู่ตลอดเวลา บัดนี้ได้รีเฟรซตัวเองใหม่เหมอนสิบสี่อีกครั้ง ทำให้เจ้าตัวแอบภูมิใจในตัวเองไม่น้อย
ตั้งแต่ได้รู้จักกับฮีชอล ชีวิตปาร์คจองซูก็ดูจะค่อยๆหมุนตามเข็มนาฬิกาของคนปกติมากขึ้น ...ร่างโปร่งรีบตั้งนาฬิกาปลุกตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อลงไปทำทีเป็นว่าซื้อของที่มินิมาร์ทใต้คอนโด พักหนึ่งก็จะมีร่างเล็กของใครบางคนเข้ามาซื้ออมิโนพลัสขวดสีส้มรสเดิมทุกวัน
เมื่อได้จังหวะ ก็แค่ทำเป็นพบกันโดยบังเอิญ แกล้งทักทายกวนตีนไม่กี่ประโยคตามประสาพร้อมกับโบกมือบ๊ายบายแล้วบอกให้ฮีชอลตั้งใจเรียน...
ตกเย็นก็หอบกองผ้าจากห้องลงมาซัก ทั้งที่โดยปกติเดือนนึงจะคลานลงมาซักซักครั้ง... ถ้าโชคดีก็จะเจอร่างเล็กของเพื่อนข้างห้องในชุดเตรียมนอนนั่งรอผ้าซักเสร็จอยูใกล้ๆ
แกล้งชวนคิมฮีชอลคุยระหว่างปล่อยให้เครื่องซักผ้าทำงาน
แค่ไม่กี่นาที
แต่ทำให้ปาร์คจองซูคนนี้มีความสุขมากพอแล้ว
จริงอย่างที่ใครๆบอกว่า ...ความรักทำให้โลกสวยงาม
เมื่อตรวจสอบตัวเองทุกองศาจนเรียบร้อยแล้ว ปาร์คจองซูจัดการหยิบไอโฟนเครื่องบางพร้อมกุญแจรถยัดใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินผิวปากออกไปยืนรอหน้าประตูห้องอีกคนอย่างไม่เร่งรีบนัก
อีกไม่ถึงสิบห้านาทีจะได้เวลาสิบเอ็ดโมงครึ่งอย่างที่นัดกันไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน
ไม่รู้ว่านี่เรียกว่าเดทแรกได้รึเปล่า
แต่กูเรียกไปแล้ว ใครจะทำไม หึหึ
มือแกร่งเอื้อมหยิบไอโฟนออกมากดเล่นตามนิสัย แค่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นประตูบานตรงหน้าก็เปิดออก
"อ้าว ยืนรอไรพี่จองซู"
..
รอ
น้อง
มัก
รัก น้อง หมอ ... -/////▽/////-
เหยด
ซะหน่อยเถอะ วันนี้กูอารมณ์ดี๊ดี
"รอมึงไง ก็ไหนว่าวันนี้จะไปกินชาบู"
ร่างเล็กชะงักไปเล็กน้อยก่อนตากลมจะเบิกขึ้นเมื่อระรึกขึ้นมาได้ว่าไม่กี่วันก่อนได้นัดกับคนตรงหน้าเอาไว้
"เห้ย ลืมไปอ่ะ วันนี้เพื่่อนนัดไปดูหนัง"
"จะเบี้ยวกูก็บอก" จองซูแกล้งสวนกลับพร้อมเชิดปากขึ้นเป็นเชิงงอน ทั้งที่จริงๆก็รู้ว่าร่างเล็กไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ในใจเริ่มรู้สึกสั่นแปลกๆเมื่อคำว่า “ลืม” นั่นมันฟังดู
ไม่ค่อยสำคัญ
"เปล่านะเว้ย นี่พูดจริง จีอึนจองตั๋วหนังไปแล้วด้วยอ่ะ ชาบูไว้วันหลังได้เปล่า"
จากแค่ความรู้สึกใจสั่นแบบแปลกๆในทีแรก กลายเป็นความรู้สึกเจ็บหน่วงๆแบบอธิบายไม่ถูก
แต่คนฟังก็ทำได้แค่ปั้นหน้ายิ้มพร้อมน้ำเสียงปกติตอบกลับไปแบบไม่คิดอะไร
"เออๆ ไม่เป็นไร วันหลังก็ได้ ว่างเมื่อไหร่บอกละกัน พร้อมแดกเสมอ 555555"
"ไม่บอกกูก็รู้ 55555 ไปล่ะๆ ถ้ากลับดึกฝากให้อาหารฮีบอมด้วยนะ" ริมฝีปากจิ้มลิ้มยกยิ้มขึ้นก่อนจะหันหลังเดินไป ร่างโปร่งพยักหน้ารับเบาๆเป็นเชิงจบบทสนทนา ก่อนจะยกมือขึ้นทำท่าบ๊ายบาย แต่ก็ต้องยกมือเก้อเมื่ออีกคนไม่ได้หันมามอง...
ปาร์คจองซูค่อยๆกำมือกลางอากาศ ก่อนจะเลื่อนมาลูบที่ใบหน้าเบาๆ...
ริมฝีปากบางพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ
สิ่งที่ทำให้รู้สึกหน่วงในใจ ไม่ใช่เพราะถูกเลื่อนนัดอย่างกระทันหัน ทั้งที่ตัวเองจดจ่อนับวันนับคืนรอ
จีอึน...
ชื่อที่ไม่เคยได้ยินร่างเล็กเอ่ยถึงมาก่อน แต่กลับไปดูหนังด้วยกัน...
จะให้คิดว่ายังไงดีนะ
คิ้วเรียวเหนือดวงตาคมขมวดเข้าหากันจนเป็นปมยุ่ง
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเกือบเป็นเส้นตรง ขายาวพาตัวเองกลับเข้ามาในห้อง ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาช้าๆ โดยที่ห้วงความคิดยังคงวนเวียนอยู่ที่ชื่อสองพยางค์นั่น ,,,
จีอึน
.จีอึน
จึอึน
ชื่อที่ขนาดแมวผีฮีบอมกลั้นหายใจตอบยังเดาถูกว่าเป็นผู้หญิง
การที่ไม่เคยได้ยินฮีชอลเอ่ยถึงมาก่อน แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เพื่อนสนิท หรือคนใกล้ชิด
แน่นอนว่าไม่ใช่น้องสาว เพราะฮีชอลมีพี่สาวคนเดียว ชื่อฮีจิน
เคยมาเยี่ยมน้องชายที่ห้องเมื่อเดือนก่อน ซึ่งปาร์คจองซูก็ได้ทำเนียนเข้าตีสนิทเข้าทางพี่สาวพร้อมล้วงรายละเอียดแฟมิลี่ทรีของคิมฮีชอลจนหมดเรียบร้อย ข้อสงสัยที่ว่า “จีอึน” เป็นน้องสาวหรือญาติสนิทนั้นจึงตัดออกไปได้
งั้น
แฟน
เหรอวะ
ริมฝีปากบางยู่เข้าหากันอย่างอารมณ์เสีย นึกโกรธตัวเองที่ลืมคิดไปว่างน้องหมอเองก็เป็นผู้ชาย หน้าตาน่ารักขนาดนั้นใครๆก็หลงสเน่ห์ได้ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน
ฮีชอลไม่ได้เป็นแบบเค้า
ดังนั้นการที่วันนึงเด็กหนุ่มน่าตาดีคนหนึ่งจะมีแฟนสาวควงไปดูหนังด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
มันเกิดขึ้นง่ายซะยิ่งกว่ากรณีอื่นใดซะอีก
ในหัวตอนนี้มันว้าวุ่นซะจนคิดอะไรไม่ออก ห้วงความคิดมีแต่วัตถุรูปทรงประหลาดคล้ายผลไม้ชื่ออัปมงคลชนิดนึงเดินสวนกันไปมา
แห้ว
เจ้าของผมสีน้ำตาลเข้มโคกหัวกับพนักพิงโซฟาอย่างบ้าคลั่ง
มัวแต่หยอดเล็กหยอดน้อย ไม่คิดจะทำอะไรจริงจัง แม่งปล่อยให้เวลาตั้งกี่เดือนผ่านไปเฉยๆ
สถานะตอนนี้มึงต่างจากวันแรกที่รู้จักกันตอนไหน
ก็ยังอยู่แค่เพื่อนข้างห้องเหมือนเดิมไม่ใช่เหรอสัด
ทำไมมึงโง่อย่างนี้ปาร์คจองซู
ร่างโปร่งรู้สึกตัวเหี่ยวลงจากเมื่อเช้าประมาณแปดสิบเปอร์เซ็น ความมั่นใจอะไรหายไปหมดสิ้น เหมือนลูกโป่งพองลมที่ถูกเจาะอากาศออกจนฟีบเหมือนเศษยางเหี่ยวๆหลังงานปาร์ตี้
เหลือเพียงชายหนุ่มที่แต่งตัวดูเป็นผู้เป็นคนแต่กลับนั่งไถหัวไปมาบนพนักพิงโซฟาเหมือคนเสียสติ
มีใครพอจะตอบกูได้บ้างว่าจีองจีอึนอะไรนั่นเป็นใคร
ฮูอิสชี
นิ้วเรียวกดจิ้มเล่นบนไอโฟนแก้ประสาทเสียอย่างเซ็งๆจนหน้าวอทแอปเลื่อนมาหยุดอยู่ที่ชื่อๆนึงที่จำไม่ได้แล้วว่าคุยกันครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไหร่
พี่อินยอง
พี่สาวบังเกิดเกล้าที่หาตัวยากซะยิ่งกว่ามูฮัมหมัด กัดดาฟี
อีเว้นท์รัดตัวจนแทบไม่มีเวลาเจียดมาให้น้องชาย
ซึ่งอีเว้นท์ที่พูดถึงนี่หาใช่งานของมันไม่
-__-
บางทีคนสายเลือดเดียวกัน ที่เกิดห่างกันแค่ปีเดียวอาจจะพึ่งพากันได้บ้าง
พี่อินยอง มึงว่างมั๊ย
พิมพ์ส่งๆไปแบบไม่คิดอะไร ถ้ามันตอบมานี่นับว่าเป็นบุญกูมากทีเดียว
ไม่เชิงว่าง มีไรน้องชาย?
อู้หู ปลาบปลื้มสัดๆ เซเลปตอบวอทแอปกู
กูกำลังจะมีเมีย
ขึ้นทอปปิคให้มันสนใจหน่อย ก่อนจะหักมุมดังป๊อกว่าว่าที่เมียกูเป็นผู้ชาย และกำลังโดนสาวคาบไปแดก
เหยดดดด ผู้หญิงดวงถึงฆาตคนนั้นเป็นใครน้องพี่
=________=
.
ปาร์คจองซูชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ประโยคที่อาจจะทำให้พี่สาวร่วมสายเลือดเพียงคนเดียวของเค้าช็อคตายเหตุถูกฆาตกรรมผ่านวอทแอป
ไม่ใช่ผู้หญิงว่ะพี่
..............................
นั่งต้องหน้าต่างวอทแอปเกือบสิบนาที แต่ก็ไม่มีข้อความใดๆตอบกลับมา จนปาร์คจองซูเริ่มเหงื่อตก
ทำไมเค้าไม่ฉุกคิดมากกว่านี้ว่าจะมีพี่สาวซักกี่คนบนโลกที่ยอมรับได้ว่าน้องชายเป็นเกย์ แถมยังมีว่าที่เมียชัดเจนแล้วด้วย (แม้กูจะไปคิดไปคนเดียวทั้งหมดก็ตาม) บางที่มันอาจจะกำลังช็อคน้ำลายฟูมปาก หรือชิบหายตายห่าไปแล้วก็เป็นได้
เผลอๆโทรบอกพ่อกับแม่ จับมือกันเข้าไอซียูกันไปทั้งบ้าน
ชิบหาย
กูไม่ได้อยากสังหารหมู่
.orz
.
พี่อินยอง
มึงยังอยู่มั๊ย
.
เห้ย ตอบหน่อย รับได้เปล่าเนี่ย ไม่งั้นจะได้บอกว่ากูล้อเล่น
นิ้วเรียวเริ่มเคาะที่ขอบโต๊ะรัวๆอย่างที่ชอบทำเวลารู้สึกกดดัน หน้าวอทแอปนิ่งเงียบไปนานแล้ว แต่ปาร์คจองซูก็ยังคงนั่งจ้องตาเขม็งอยู่อย่างนั้น
หลังจากกังวลว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆตามมาต่างๆนานา ในหัวก็เริ่มคิดปลอบใจตัวเองขึ้นมาบ้างเพื่อคลายกังวล
บางทีคำว่า “ไม่เชิงว่าง” ของมันอาจจะเปลี่ยนเป็นไม่ว่างไปแล้วก็ได้
อาจจะงานเข้ากะทันหันเลยไม่มีเวลาพิมพ์ตอบ
โทรหาแม่งเลยแล้วกัน -_-
ตู๊ด
ตู๊ด
เสียงรอสายดังติดต่อกันไม่กี่อึดใจ ปลายสายก็รับโทรศัพท์
ขอบคุณสวรรค์ที่มันยังไม่ตาย
"นี่มึงอยู่ไหน" กรอกเสียงใส่โทรศัพท์ทันทีเมื่ออีกคนรับสาย เสียงดังอื้ออึงที่แทรกมาในโทรศัพท์ทำให้ปาร์คจองซูนึกสงสัยว่าพี่สาวเค้ากำลังอยู่ที่แห่งในบนโลก
"อยู่ดุสิต"
"ไปทำไรที่สวนสัตว์"
"อีน้องควาย โรงแรมดุสิตธานี รู้จักมั๊ยอีหง่าว"
....
ก็กูรู้จักแต่สวนสัตว์ดุสิตอะผิดมั๊ย -______-
"ไปโรงแรมทำไม บ้านไม่มีนอนเหรอ"
"มาตามทึก เชี่ยแปบนะออกมาแล้ว มึงมีไรทวีตมากูขี้เกียจเปิดวอทแอป"
เสียงกรี๊ดโวยวายดังสนั่นกลบเสียงหญิงสาวที่ปลายสาย ก่อนจะได้ยินแต่เสียงดังกุกกักๆแล้วสายก็ตัดไป...
พี่อินยอง อีติ่งเกาหลี ...ห่าถึกทึกอะไรนั่นไม่เห็นหล่อ แก่ชิบหายแล้วยังจะตามมันอยู่ได้ ว่าที่เมียน้องชายมึงจะถูกสาวงาบไปแดกแล้วยังดีด๊าอยู่อีก งอนมาก กูงอน
ร่างโปร่งกลอกตาไปมาอย่างอารมณ์เสีย ยังไงซะ
ถ้าพี่สาวมาเปิดวอทแอปอ่านทีหลังมันก็ต้องรู้อยู่ดี สู้คุยกันให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่า
ตัดสินใจกับตัวเองสั้นๆก่อนจะกดเข้าทวิตเตอร์
ครั้งแรกที่ลอคอินเข้าแอคเค้าที่อินยองสมัครให้ ก็มีเหตุผลเดียวกับวันนี้
กูหาทางติดต่อพี่สาวร่วมสายเลือดของตัวเองไม่ได้ =_=
drimcomtru1 InYoung Park
Leeteuk arrived Dusit #Teuk12plus
ล่าสุดเมื่อ 2 นาทีที่แล้ว และทวีตก่อนหน้านั้นก็ห่างกันไม่ถึงห้านาที สรุปว่าทั้งหน้ามีแต่ทวีตคุณดริมคอมทรูเรียงกันเป็นพรืด เหตุเพราะฟอลโล่แค่มันคนเดียว
drimcomtru2 E-ha Jungsu Park
@drimcomtru1 พี่อินยอง กูเป็นเกย์
ไม่ต้องอะไรให้มากเรื่อง บอกแม่งตรงๆอย่างนี้แหละ รับได้หรือไม่ได้เรื่องของมึง
ที่ต้องการตอนนี้คืออยากรู้ว่ากูควรทำยังไงให้น้องหมอหันมามองกูบ้าง ฮึก
;____;
โปรดมองข้ามชื่อทวิตเตอร์กูไป มีพี่สาวสิ้นคิดก็อย่างนี้แหล่ะ
drimcomtru1 InYoung Park
RT @drimcomtru2: @drimcomtru1 พี่อินยอง กูเป็นเกย์
ห่าราก
RT หาคุณพ่อเธอเหรออีดริมคอมทรู เห็นแว๊บๆว่าฟอลโลเวอร์มึงเกือบห้าพันนะครับ
drimcomtru1 InYoung Park
เหยดดด น้องชายกูจะมีผัวแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด \(///▽///)/
drimcomtru2 E-ha Jungsu Park
@drimcomtru1 พ่อมึงเหอะพี่อินยอง กูจะไปเป็นผัวเค้า ไม่ใช่ไปเป็นเมีย อีห่า = =
drimcomtru1 InYoung Park
น้องกูเป็นเมะ สุขใจจังเบย \(///▽///)/ RT @drimcomtru2: @drimcomtru1 พ่อมึงเหอะพี่อินยอง เกย์ที่กูหมายถึงคือกูชอบน้องผู้ชายคนนึง จะไปเป็นผัวเค้า ไม่ใช่ไปเป็นเมีย อีห่า = =
เมะคืออะไร -_-
แล้วมึงสุขใจ?
ที่น้องชายมึงกำลังจะได้กับผู้ชายเนี่ยนะสัด..
ตอนแรกนั่งกังวลว่ามันอาจจะเครียดหรือรับไม่ได้ที่จะมีน้องสะใภ้เป็นผู้ชาย
แต่ตอนนี้กลายเป็นกูที่เครียดแทน ว่าพี่สาวตัวเองสติดีมั๊ยที่เห็นดีเห็นงามให้ผู้ชายได้กันเอง
ผู้หญิงสมัยนี้แม่งน่ากลัวสัดๆ
drimcomtru2 E-ha Jungsu Park
@drimcomtru1 มีเรื่องจะปรึกษา อันนี้จริงจัง ห้าม RT ด้วยพี่เวร
drimcomtru1 InYoung Park
@drimcomtru2 เล่ามาให้หมด กูจะเอามาแต่งฟิค \(///▽///)/
ปาร์คจองซูถอนหายใจพรืดใหญ่กับความติ่งของพี่สาวตัวเอง แต่ทว่าริมฝีปากบางก็คลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ
รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่ผลออกมาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด อย่างน้อยก็ไม่ได้โดนต่อว่าอะไรกลับมา
เรียวนิ้วกดพิมพ์ตัวอักษรอย่างคล่องแคล่ว เล่าเรื่องราวคร่าวๆให้อีกคนฟังหลายสิบทวีต โดยพยายามไม่ใส่ใจว่าพี่สาวบังเกิดเกล้ากำลังแบ่งความสนใจไป RT รูปอีนักร้องเกาหลีห่าอะไรนั่นอยู่
drimcomtru2 E-ha Jungsu Park
@drimcomtru1 ประเด็นคือจริงๆวันนี้นัดไปกินชาบูกัน แต่น้องเค้าดันหนีกูไปดูหนังกับสาว กูนอยด์
drimcomtru1 InYoung Park
@drimcomtru2 ห่ารว่าก! ชะนีหน้าไหนบังอาจขวางทางรักน้องกู
มึงก็ชะนีไม่ใช่เหรอพี่อินยอง - -
drimcomtru2 E-ha Jungsu Park
@drimcomtru1 ทำไงดี กูไม่เคยจีบผู้ชาย
ขอคำปรึกษาหน่อยในฐานะมึงเคยจีบผู้ชายมาก่อน ถึงจะแห้วแดกก็ตาม
drimcomtru1 InYoung Park
@drimcomtru2 สัด งั้นกูเข้าโหมดจริงจังนะ
จากทั้งหมดที่เล่ามา สรุปได้ว่ามึงมันบื้อ
บอกว่าจำรายละเอียดเกี่ยวกับน้องได้ทุกอย่างใช่มั๊ย? มึงก็ทำให้เค้าเห็นสิว่ามึงให้ความสำคัญ
drimcomtru1 InYoung Park
@drimcomtru2 ความรัก
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามึงรักมากเท่าไหร่ มันอยู่ที่ว่ามึงแสดงออกมามากแค่ไหนมากกว่า
#กูจำมาจากฟิค
แววตาใสสะท้อนคำในประโยคนั้นทุกตัวอักษร
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อรู้สึกเหมือนกับว่าถ้อยคำเหล่านั้นปักเข้ากลางหน้าผากอย่างแรง
ถึงแม้ปาร์คอินยองจะดูละเลยไม่ใส่ใจในตัวน้องชายตัวเองซักเท่าไหร่ แต่ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นที่พึ่งให้แก่ปาร์คจองซูได้เสมอ
drimcomtru2 E-ha Jungsu Park
@drimcomtru1 อือ ขอบคุณมาก
หน้าต่างทวิตเตอร์ปิดลงพร้อมกับรอยยิ้มบางจุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเริ่มคลายจากอารมณ์ที่ขุ่นมัว ... แววตาคมกลอกไปมาอย่างครุ่นคิด
ในหัวมีเพียงถ้อยคำสั้นๆที่ยังคงดังซ้ำไปมาอยู่ในใจ
ความรัก
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามึงรักมากเท่าไหร่ มันอยู่ที่ว่ามึงแสดงออกมามากแค่ไหนมากกว่า
กูไม่รู้หรอกว่าความรู้สึก”รัก”
มันมีมากเท่าไหร่
ขอแค่ให้มึงรอรับไว้ให้หมดก็แล้วกันน้องหมอ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปได้ไม่นาน ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีส้มอ่อนเริ่มถูกความมืดมิดก็เข้ามาแทนที่
รถยุโรปสีดำสนิทคันเดิมถอยเข้าจอดใต้คอนโดหลังจากออกไปข้างนอกได้เกือบสี่ชั่วโมงเต็ม
ร่างโปร่งของปาร์คจองซูทยอยเอาของออกจากหลังรถออกมาวางไว้ข้างรถ
ถุงพลาสติกสีขาวบรรจุของที่ซื้อมาจากซูเปอร์มาเก็ตมามายถูกหิ้วมารอหน้าลิฟท์ด้วยความทุลักทุเล กว่าจะถึงห้องก็เล่นซะตะคริวกินนิ้วจนแทบขยับไม่ได้
ร่างโปร่งพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงเมื่อจัดแจงวางกองข้าวของที่ขนซื้อมาจนเหมือนจะเแพคถุงยังชีพไว้บนโซฟา
ปาร์คจองซูค่อยๆแยกของส่วนตัวออกจากของที่ซื้อมาเพราะคิดถึงเพื่อนข้างห้อง
แล้วทยอยย้ายขนถุงพวกนั้นไปไว้ในห้องที่อยู่ติดกัน
กุญแจสำรองที่ฮีชอลเคยให้จองซูเอาไว้ เผื่อฝากให้ร่างโปร่งเข้าไปให้อาหารฮีบอมเวลาที่เจ้าตัวต้องกลับห้องดึกๆ ไขเข้าไปในห้องแฝดที่ภาพรวมไม่แตกต่างจากห้องของปาร์คจองซูเท่าไหร่นัก จะมีก็แต่สีวอลเปเปอร์และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆนานาที่ติดจะเป็นสีครีมสลับกับสีแดงซะส่วนใหญ่ ...
กลิ่นโลชั่นอ่อนๆที่คุ้นเคยลอยมาแตะจมูกทำให้ร่างโปร่งเผลออมยิ้มออกมาบางๆโดยไม่รู้ตัว ข้าวของในห้องดูจะไม่ค่อยเป็นระเบียบซักเท่าไหร่นักซึ่งขัดกับนิสัยเจ้าของห้องอย่างคิมฮีชอล
อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ก็ใกล้สอบเต็มที ร่างเล็กเองก็คงไม่มีเวลาดูแลทำความสะอาดห้องเท่าที่เคย
ร่างโปร่งจัดแจงแยกข้าวของออกมาจากถุง แบ่งส่วนที่ต้องแช่เย็นทยอยเข้าไปเก็บในตู้เย็นใกล้ๆ
น้ำอมิโนพลัสสีส้มที่ฮีชอลกินเป็นประจำถูกจัดวางไว้ที่ช่องแช่น้ำข้างๆ
ด้วยความที่เห็นคนตัวเล็กกินอะไรเกี่ยวกับส้มบ่อยๆ ปาร์คจองซูจึงซื้อทั้งน้ำส้ม และน้ำผลไม้อื่นๆมาแช่ติดตู้เย็นเอาไว้ เผื่อเวลาฮีชอลต้องอ่านหนังสือดึกๆ จะได้ไม่ขาดวิตามินซีจนไม่สบาย
ข้าวกล่องซีพีหลายแพคทยอยเข้าเก็บในช่องฟรีซอย่างเป็นระเบียบ
เห็นน้องหมอขลุกอยู่แต่ในห้องทีไรก็ต้มแต่มาม่าๆ ถึงจะใส่ไข่หรือไส้กรอกลงไปบ้าง แต่มันก็ไม่พออยู่ดีเมื่อเทียบกับพลังงานสมองที่ต้องใช้ในแต่ละวัน
ขวดแบรนด์ฟิตจำนวนหนึ่งวางเรียงกันที่ช่องใต้ล่าง ตามด้วยกล่องวีต้าร์เบอร์รี่ที่ซื้อมาเพราะไม่อยากให้คนที่สายตาสั้นอยู่แล้วต้องเดือดร้อนตัดแว่นใหม่
อาหารแช่แข็งพร้อมเครื่องดื่มบำรุงอีกหลายชนิดจับจองพื้นที่ในตู้เย็นที่เคยว่างโล่งจนเต็ม เรียกรอยยิ้มแห่งความพอใจของปาร์คจองซูได้เล็กน้อย
แต่ทว่ามีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการ
อาหารแมวชนิดเม็ดจำนวนหนึ่งถูกเทใส่ลงในถาดอาหารสีแดงเข้ม ก่อนร่างโปร่งจะใช้เท้าค่อยๆเขี่ยถาดนั้นเข้าไปใต้เตียงที่มีแมวผีฮีบอมสิงอยู่อย่างกล้าๆกลัวๆ...
ปาร์คจองซูจัดการสะบัดผ้าห่มที่ตกลงมากองระเกะระกะบนพื้นก่อนจะพับแล้ววางไว้บนเตียงอย่างเป็นระเบียบคู่กับหมอนหนุนและหมอนข้างที่สีเข้าชุดกัน
ถัดมาจากเตียงขนาดกลางเป็นโต๊ะหนังสือที่เต็มไปด้วยชีทเรียนวิชาต่างๆนานากองรวมกันไว้ สุมทับด้วยหนังสือเล่มบางเล่มหนาอีกหลายชั้น
จองซูค่อยๆจัดพื้นที่บนโต๊ะให้เป็นโต๊ะมากขึ้น ชีทเรียนต่างๆถูกรวมไว้เป็นกองเดียวกัน หนังสือเรียนหน้าปกประหลาดๆที่ปาร์คจองซูสาบานได้ว่าไม่เคยเห็นตลอดชีวิตนักเรียนหรือนักศึกษาที่ผ่านมา ถูกจัดวางไว้บนชั้นหนังสือตามขนาดจนเป็นแถวเป็นแนวเรียบร้อย
มือแกร่งคว้าผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้กับพนักพิงเก้าอี้มาสะบัดสองสามที ก่อนพาดไว้กับไม้แขวนเสื้อแล้วเอาไปแขวนหน้าตู้เสื้อผ้า
ต้นไม้ต้นเล็กๆตามราวระเบียงดูแห้งเหี่ยวลงไปถนัดตา คงเพราะเจ้าของห้องเร่งรีบออกไปเรียนแต่เช้าทุกวันจนลืมใส่ใจดูแล
ร่างโปร่งเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อกรอกน้ำใส่ฝักบัวสีฟ้าอันเล็กๆออกมารดน้ำให้ต้นไม้ต้นเล็กที่ฮีชอลชอบมาคุยกับมันบ่อยๆจนปาร์คจองซูนึกอิจฉา
7.49 PM
ตาคมสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองนาฬิกาข้อมือระหว่างเก็บข้าวของเครื่องใช้เข้าที่
ดวงอาทิตย์สีส้มลาลับขอบฟ้าไปพักหนึ่งแล้ว แต่ทว่าเจ้าของห้องตัวเล็กยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา
ไหนบอกจันทร์นี้สอบแล้วจะอ่านหนึงสือโอเวอร์ไนท์ไง มัวแต่ไปเที่ยวเตร็ดเตร่กับสาวจนดึกดื่น ระวังจะแดกเอฟไม่รู้ตัวอีน้องหมอ -_-
บ่นงุ้งงิ้งในใจไปอย่างนั้น ทั้งที่ลึกๆเต็มไปด้วยความเป็นห่วงว่าคืนนี้อีกคนจะได้นอนมั๊ย ชีทที่วางกองสุมเอาไว้มากมายบ่งบอกว่าสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมไปสอบพรุ่งนี้นั้นไม่น้อยเลย
ห้องสีเหลี่ยมสีขาวครีมดูเป็นระเยียบเรียบร้อยมากขึ้นด้วยฝีมือของปาร์คจองซู ผู้ชายซกมกสกปรกที่ขนาดห้องตัวเองยังไมเคยแม้แต่คิดจะหยิบจับข้าวของอะไร แต่กลับใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อทำความสะอาดห้องให้ใครบางคนที่ไม่รู้ว่ามีความสำคัญต่อเค้ามาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ไม้กวาดด้ามเล็กถูกนำไปวางเก็บไว้ที่มุมห้องเมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อย
มือแกร่งถูมือเข้าหากันช้าๆพร้อมกับตรวจดูสภาพรอบห้อง
ถ้าตั้งใจทำ ก็ทำได้นี่นา
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆอย่างพอใจ ไม่รู้หรอกว่าเมื่ออีกคนกลับมาจะสังเกตเห็นบ้างมั๊ย
อย่างน้อยก็รู้สึกดีทีได้ทำ
อย่างที่พี่อินยองบอก
ก็แค่แสดงความรู้สึกออกมาตามแบบของปาร์คจองซู
แกรก
ประตูบานหนาถูกผลักเข้ามาก่อนจะปรากฏร่างเล็กที่คุ้นตาสอดตัวเข้ามาในห้อง ใบหน้าจิ้มลิ้มชะงักด้วยความตกใจนิดหน่อยที่เห็นร่างใครบางคนเดินวุ่นอยู่รอบเตียง แต่ริมฝีปากเล็กก็คลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคนๆนั้นคือปาร์คจองซู
“หนังห่วยชิบหายเลยพี่จองซู เซ็งมาก” น้ำเสียงบูดๆบ่นออกมาทันทีที่ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ใบหน้าหวานที่ติดจะหงุดหงิดนั่นทำให้ปาร์คจองซูนึกกระหยิ่มอยู่ในใจ รู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาดที่ฮีชอลไม่ได้ประทับใจในการไปเดทกับสาวครั้งนี้เท่าไรนัก
“กลับมาก็บ่นเป็นคนแก่เลยน้องหมอ แล้วนี่กินข้าวมายัง?” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างร่างเล็กที่กำลังถอดเสื้อฮู๊ดออกมาพาดไว้กับไหล่
“กินแล้ว ร้านไรไม่รู้โคตรแพง ไม่เห็นอร่อยเลย” คิมฮีชอลตอบกลับมาพร้อมกับยู่ปากขึ้นอย่างอารมณ์เสีย แต่กลับทำให้อีกคนอารมณ์ดีขึ้นมาถนัดตา
“ไปกับแฟนเหรอ?”
ตัดสินใจถามออกไปพร้อมกับเสตามองไปข้างๆ ใจหนึ่งก็อยากรู้ให้มันชัดเจนว่าผู้หญิงที่ออกไปด้วยกัน อยู่ในฐานะไหน
แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่ามันไม่สำคัญว่าคำตอบจะออกมาแบบใด
เพราะถ้าอยู่ในฐานะคนรักกันจริงๆ
ปาร์คจองซูจะแย่งมา
หรือถ้าเป็นแค่คนที่เพิ่งเริ่มทำความรู้จักกัน
ปาร์คจองซูคนนี้จะขัดขวางเอง
เอ่อ
กูมันชมพูแพรภาคผู้ชายชัดๆ =_=
“เปล่า เพิ่งรู้จักกัน ยังไม่ถึงขั้นแฟน”
เสียงเนือยๆตอบกลับมา
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเน้นเพื่อบังคับตัวเองไม่ให้คลี่ยิ้มออกมาอย่างเปิดเผย แม้ภายในใจจะตีฆ้องโหม่งกู่ร้องด้วยความปลาบปลื้มใจไปทั่วป่าแล้วก็ตาม อยากหันไปบอกคนข้างๆในแทบขาดว่าถ้าอยากมีแฟนน่ะก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่คนใกล้ๆ
ทำไมไม่มอง
“แล้วไปเดทกันเป็นไงบ้าง? ดูๆแล้วพอคบกันได้มั๊ยล่ะ?”
“ไม่รู้ว่ะพี่จองซู
มันอึดอัดแปลกๆ ...แบบกูไม่รู้จะเอาใจยังไงดี ทำตัวไม่ถูก” เสียงขุ่นๆตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก แต่ทว่ายิ่งฮีชอลรู้สึกแย่กับวันนี้มาเท่าไหร่ ปาร์คจองซูยิ่งสบายใจมากขึ้นเท่านั้น
“แล้วมึงอยากได้แฟนแบบไหนล่ะน้องฮี?” ชวนคุยต่อไปแบบไม่ได้คิดอะไร แค่เห็นร่างเล็กข้างๆอารมณ์ไม่ค่อยดีก็เลยอยากทำให้อารมณ์ดีขึ้นบ้างก็เท่านั้น
“ก็
ไม่รู้เหมือนกัน
ถ้ามีคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจเหมือนอยู่กับมึงซักคนก็คงดี
” ประโยคเบาๆเอ่ยขึ้นมาเหมือนพูดกับตัวเอง แต่กลับทำให้หัวใจของอีกคนกระตุกวูบก่อนจะเต้นระรัวอย่างแรงจนกลัวว่าก้อนเนื้อในออกข้างซ้ายจะหลุดออกมา
“พ่อมึง! จะสามทุ่มแล้ว ชิบหายยยย พรุ่งนี้สอบอนาโตมี่อ่ะสัด! ตายห่าแน่ ตายๆๆๆ
กูไปอาบน้ำก่อนพี่จองซู ถ้าว่างอยู่เป็นเพื่อนอ่านหนังสือหน่อยนะ เหลืออีกเยอะมากเลย เวรๆๆ
โอ้ยพ่องตาย กูไม่น่าไปดูหนังเลยเชี่ย เสียเวลาชิบ!” จู่ๆร่างเล็กก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูแล้วเด้งตัวลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับสบถด่าตัวเองออกมายาวเป็นหางว่าว ฮีชอลทึ้งหัวตัวเองอย่างอารมณ์เสียเมื่อมองไปเห็นกองชีทเรียนมากมายบนโต๊ะหนังสือ ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้ปาร์คจองซูนั่งนิ่งอยู่กับประโยคสั้นๆที่รีเพลซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ในใจ
ถ้ามีคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจเหมือนอยู่กับมึงซักคนก็คงดี
คนแบบกูน่ะหายาก
เป็นกูซะเลยแล้วกันนะน้องหมอ
v//////▽/////v
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ไม่ถึงสิบนาที ร่างเล็กก็วิ่งพรวดออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนสีขาวลายจุดน่ารัก ผ้าเช็ดตัวผืนหน้าถูกขยี้ไปบนกลุ่มผมเปียกบนหัวอย่างลวกๆจนหมาด
ไม่ต้องเสียเวลาใช้ไดร์เป่าให้แห้งเหมือนทุกที คิมฮีชอลก็กระโจนเข้าใส่โต๊ะหนังสือพร้อมกับคาบปากกาไฮไลท์ไว้ในปากด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“พรุ่งนี้สอบอะไรมี่ๆนะฮีชอล” ร่างโปร่งเดินถือไดร์เป่าผมมาเสียบกับช่องปลั๊กข้างๆโต๊ะอ่านหนังสือ ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กซับไปบนกลุ่มผมสีน้ำตาลอัลมอนต์อย่างเบามือ พร้อมลมอุ่นๆจากไดร์ตัวเล็กค่อยๆเป่าให้ผมหมาดน้ำแห้งลง
“อนาโตมี่” แว่นกรอบบางสวมทับลงบนใบหน้าหวานที่ฉายแววจริงจังออกมา ต่างจากเด็กผู้ชายที่ชอบพูดจากวนประสาทอย่างทุกที
คิมฮีชอลเป็นคนที่เปลี่ยนโหมดอารมณ์ง่ายเสมอ อาจจะดูเป็นคนแปรปรวนและเข้าใจยาก
แต่ถ้าวางตัวนิ่ง พยายามใจเย็นแล้วค่อยๆปรับตัวตามให้ทันก็จะไม่เกิดปัญหาใดๆ
ดูว่าตัวเองควรจะทำอะไร
เลือกที่จะถามเมื่อสังเกตว่าฮีชอลต้องการความช่วยเหลือ หรือเลือกที่จะนั่งมองอยู่เงียบๆเพื่อไม่ให้อีกคนรู้สึกรำคาญ
นั่นคือสิ่งที่ทำให้ปาร์คจองซูสามารถอยู่ร่วมกับคิมฮีชอลได้ ไม่ว่าคนตัวเล็กจะอยู่ในโหมดอารมณ์ไหนก็ตาม
“เรื่องไรบ้าง”
“กระดูกรยางค์ทั้งหมดเลย”
ไม่รู้หรอกว่าเนื้อหามันมีอะไรบ้าง แต่ดูจากน้ำเสียงที่เน้นคำว่าทั้งหมดแล้ว ดูท่าคืนนี้ไม่น่าจะได้นอนแน่ๆ
“ไหน ให้ช่วยไรบ้างน้องหมอ” เสียงไดร์เป่าผมเงียบลงเมื่อลมอุ่นๆทำหน้าที่ของมันเสร็จจนกลุ่มผมสีน้ำตาลแห้งสนิท
ไดร์ตัวเล็กถูกนำไปเก็บเข้าที่พร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีอ่อน ก่อนที่ปาร์คจองซูจะทิ้งตัวลงนั่งบนขอบเตียงข้างๆกับเก้าอี้ของฮีชอล
มือเล็กแยกชีทบนโต๊ะออกเป็นปึกๆก่อนจะส่งให้ร่างโปร่งนั่งเท้าคางมองอยู่ข้างๆ
“พวกนี้เกี่ยวกับกระดูกไหล่ แขน เชิงกราน ต้นขา ท่องหมดแล้วแต่ชื่อยังไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ เดี๋ยวท่องอีกรอบแล้วมึงช่วยทดสอบหน่อย แบบปิดชื่อใต้รูปไว้ แล้วถ้ากูบอกถูกก็ผ่าน โอเค้?” เจ้าของใบหน้าหล่อพยักหน้าเชิงเข้าใจ เพราะเคยช่วยทำอย่างนี้มาครั้งหนึ่งแล้วตอนที่ฮีชอลต้องท่องกล้ามเนื้ออะไรซักอย่างไปสอบแลปกริ้ง
ร่างเล็กพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสนใจชีทอีกสองสามชุดในมือ
“อันนี้กระดูกนิ้วมือ ฝ่ามือ ข้อมือ
ซึ่งกูยังจำไม่ได้ซักอัน เยอะสุดด้วยสัด กูตายแน่พี่จองซู๊วววว์” คิมฮีชอลโหยหวนขึ้นพร้อมกับม้วนกระดาษในมือเป็นทรงกระบอกแล้วตีไปบนไหล่ของร่างโปร่งรัวๆราวกับเป็นที่ระบายอารมณ์ - -
“ใจเย็นน้องฮี = = เลิกทำร้ายร่างกายคนหล่อแล้วฟังกู
พรุ่งนี้สอบกี่โมง?”
“แปดโมงเช้า ;_______;”
“ตอนนี้สามทุ่มสี่สิบ ปัดเป็นสี่ทุ่ม
มึงต้องนอนอย่างน้อยสามชั่วโมงกันแฮงค์ เพราะฉะนั้นเหลือเวลาอีก 5 ชั่วโมง
มึงอ่านที่บอกว่ายังจำไม่ได้ซักนิดเข้าหัวไปก่อนรอบนึง ให้เวลาถึงเที่ยงคืน
แล้วมาทวนอันเก่าพร้อมกูถึงตีหนึ่ง
หลังจากนั้นมาทวนอันที่มึงยังไม่ได้ทั้งหมดพร้อมกันรอบสุดท้าย ตีสามสรุปให้จบแล้วนอน โอเค้?” ประโยคคำสั่งยาวเหยียดถูกพูดออกมารวดเดียวจบ ทำให้ฮีชอลอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี
ร่างโปร่งยิ้มให้ใบหน้าหวานที่มองชีทในมืออย่างซึมๆเหมือนหมาหงอยก่อนจะลูบหัวเบาๆอย่างเอ็นดู
“สู้ๆน้องหมอ
เดี๋ยวกูไปอาบน้ำรอพลางๆ” ริมฝีปากจิ้มลิ้มกดยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อคำว่าสู้ๆนั่นดูเหมือนจะทำให้เค้ารู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างประหลาด
ปาร์คจองซูหายตัวเข้าห้องน้ำไปพักนึง ก่อนจะเดินออกมารินน้ำผลไม้ใส่แก้วแล้วเอาไปวางไว้บนโต๊ะข้างๆฮีชอล
ร่างโปร่งทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มพร้อมกับหยิบชีทที่เต็มไปด้วยศัพท์เฉพาะภาษาอังกฤษเต็มหน้า บางหน้ากระดาษมีรูปวาดโครงกระดูกสวนต่างๆที่จองซูเองก็เคยเห็นมาบ้างตอนเรียนวาดสัดส่วนร่างกายมนุษย์
แกล้งถือชีทบังหน้าไปอย่างนั้น แต่แท้ที่จริงแล้วสายตากลับจับจ้องไปที่ใบหน้าหวานที่ตั้งอกตั้งใจท่องเนื้อหาที่ต้องสอบอย่างมีสมาธิ
ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อยเพื่อท่องชื่อต่างๆให้เข้าหัว พร้อมกับมือขวาที่ทำหน้าที่จดเลกเชอร์ย่อวรรคที่สำคัญๆลงในมุดเล่มเล็ก
ไม่นานฮีชอลก็เก็บชีทในมือแล้วหันมาหาจองซูที่นอนแผ่อยู่บนเตียง ใบหน้าขาวจัดพยักเพยิดเป็นเชิงอกว่ากูอ่านพวกนั้นจบแล้ว ถึงตามึงมาทวน
ร่างโปร่งจัดการเปิดรูปโครงกระดูกส่วนต่างๆให้ร่างเล็กดูโดยที่มีโพสอิทใบเล็กๆปิดทับชื่อไว้
คิ้วเรียวเหนือดวงตาสวยขมวดเข้ากันเป็นปมยุ่งอย่างที่ชอบทำเวลาใช้ความคิด ก่อนจะค่อยๆเอ่ยศัพท์เฉพาะออกมาอย่างแม่นยำ จนสายตามาสะดุดอยู่ที่บรรทัดหนึ่ง
Lower limb (ระยางค์ขา) ❤
“พี่จองซู
รูปหัวใจมาจากไหน = =”
“กูจะไปรู้เหรอ” ร่างโปร่งปฏิเสธอย่างงงๆ
ก็ชีทมึง มาถามกูทำไม - -
ตากลมโตเพ่งมองลายมือบนแผ่นกระดาษครู่หนึ่งก่อนจะสบถออกมาแล้วจ้องใบหน้าหล่อที่ที่ทำหน้าหมาบื้ออยู่บนเตียง
“ชีทนี่กูถ่ายเอกสารมาจากงานที่ส่งไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
งานที่ให้มึงช่วยลอกน่ะพี่จองซู”
“อ่อ งั้นนี่ก็ลายมือกูสิ ถึงว่า
คุ้นๆ”
“ประเด็นอยู่ที่ว่ามึงวาดรูปหัวใจใส่กระดูกรยางค์ขาหาพ่อมึงเหรอสัด! รายงานเล่มนี้กูเย็บส่งอาจารย์ไปแล้วนะเว้ย มึงบ้าหรือมึงบ้าอีห่าพี่จองซู” คิมฮีชอลแว้ดใส่ก่อนจะม้วนชีทปึกหน้าเป็นแท่งกลมแล้วฟาดลงบนไหล่กว้างไม่ยั้งมือด้วยอารมณ์โมโห
“กู
กูขอโทษ 55555555 ไม่รู้ตัวว่ะตอนนั้นมันง่วงๆ 5555555” ปาร์คจองซูหลุดขำออกมาเมื่อเห็นสีหน้าร่างเล็กดูจะเฟลกับรูปหัวใจหลังกระดูกรยางค์ขานั่นเป็นอย่างมาก
ตอนกูนั่งลอกงานมึงเสือกอยู่เฉยๆแต่ทำหน้าตาน่ารักเองทำไมล่ะน้องหมอ
=//////▽/////=
❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤
ปึกกระดาษในมือลดจำนวนน้อยลงเรื่อยๆเมื่อร่างเล็กท่องจำชื่อได้เกือบหมด สุดท้ายเนื้อหาส่วนแรกก็หมดลง พร้อมกับร่างบางฟุบหัวลงกับโต๊ะอย่างหมดแรง
แว่นสายตากรอบบางถูกเลื่อนขึ้นไปคาดไว้บนหัว เผยให้เห็นหน้าผากใสกับตาคู่สวยที่ปิดปรือลงมาเล็กน้อยด้วยความมึนและความง่วง
"มึงมีตังใช้ได้ไงวะพี่จองซู วันๆไม่เห็นทำอะไรเลย" เมื่อปากว่างจากการท่องหนังสือก็เริ่มแส่หาเรื่องกวนตีนทันที
"งานฟรีแลนซ์ทำเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจกูครับ" ร่างโปร่งฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับรวบรวมกระดาษที่กระจัดกระจายเต็มเตียงให้เป็นปึกเดียวกันแล้วจัดวางไว้บนโต๊ะข้างๆ
"แม่ง น่าอิจฉาว่ะ อยากวาดรูปเขี่ยๆก็ได้ตังอย่างมึงบ้าง .... เซ็งตัวเอง
ทำไมกูต้องเกิดมาฉลาด"
"น้อยๆหน่อยน้องฮี ถ้ามึงฉลาดจริงที่ผ่านมาคงไม่ต้องให้กูมานั่งปั่นงานให้หรอก"
"ก็กูถึงได้หลอกใช้มึงไง .... ไง ฉลาดมะ? 55555555"
=_________=
น้องฮี
ไอ้
olo
“อย่าหาเรื่องกวนตีน ตีสองกว่าแล้วมึง เอาชีทกระดูกมืออะไรนั่นมาเร็วๆ จะได้รีบๆนอน” เจ้าของใบหน้าหวานเบะปากใส่ก่อนจะหยิบชีทสองสามชุดส่งให้ร่างโปร่งที่ไม่มีท่าทีว่าจะง่วงเลยแม้แต่น้อย
“ตรงนี้อะไร” เรียวนิ้วยาวชี้ลงบนรูปโครงกระดูกนิ้วมือที่แยกเป็นข้อต่างๆมากมายจนแค่คนมองยังเวียนหัว
“Scaphoid” จองซูพลิกกระดาษเข้าหาตัวก่อนจะแง้มกระดาษโพสอิทออกเพื่อดูคำตอบ
“ผิด
อันนี้ Trapazium”
“อยู่ห่างกันแค่นี้มึงแยกชื่อเยอะแยะทำเหี้ยอะไรเนี่ย” คิมฮีชอลบ่นออกมาอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะพึมพำชื่อภาษาอังกฤษที่สะกดยากนั่นซ้ำๆเพื่อให้จดจำเข้าสมอง
“ตรงนี้เรียกอะไร” เสียงทุ้มถามคำถามเดิมอีกครั้งพร้อมกับชี้นิ้วไปอีกบริเวณหนึ่งบนรูป
“Pisiform”
“ผิด
ตรงนี้ Hamate”
“เชี่ยยยยยย พี่จองซู พรุ่งนี้กูไม่รอดแน่” ฮีชอลโขกหัวลงกับหมอนอย่างบ้าคลั่งเมื่อรู้สึกว่าในหัวมีแต่ศัพท์อะไรไม่รู้กระจัดกระจายเต็มไปหมดแต่กลับดึงออกมาตอบไม่ถูกเลยซักข้อ
“ไม่ใช่พรุ่งนี้ แต่เป็นเช้านี้ต่างหากมึง”
ปาร์คจองซูเคาะนิ้วลงบนขอบเตียงอย่างครุ่นคิด ก่อนที่ร่างโปร่งจะนึกวิธีบางอย่างขึ้นมาได้แล้วเอ่ยเรียกให้ร่างเล็กที่ความง่วงเริ่มเข้าครอบงำเต็มที่มานอน
“มานอนนี่มาน้องฮี”
“ไม่เอา จำไม่ได้กูไม่นอน”
จะพูดอะไรช่วยดูสังขารตัวเองหน่อย
ลืมตาพร้อมกันสองข้างได้ค่อยมาพูดคำนั้นกับกู - -
“มานอนนี่เหอะ เร็วๆ กูมีวิธี” ร่างเล็กพยักหน้าหงึกๆก่อนจะค่อยๆคลานมานอนบนเตียงนุ่ม เปลือกตาสวยทั้งสองข้างปิดสนิทพร้อมเข้าสู่นิทราเต็มที่
แต่ทว่าก็ต้องเบิกตาขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถืองสัมผัสอุ่นๆที่กอบกุมมือซ้ายของตัวเอง
ปาร์คจองซูย้ายตัวเองมานั่งที่เก้าอี้แทนที่ฮีชอล ก่อนจะเอื้อมไปจับมือที่มือนิ่มเบาๆ
“ตรงนี้เรียกอะไร
”
เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นสีหน้างงๆของคนที่นอนอยู่ พร้อมกับกดนิ้วลงไปบริเวณปลายนิ้วสวย
คิมฮีชอลเม้มริมฝีปากเข้าหากันเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะนึกไม่ออกว่ากระดูกส่วนนั้นเรียกว่าอะไร แต่เพราะต้องการข่มบางสิ่งในร่างกายที่เริ่มเต้นจังหวะผิดแปลกไป
“Distal
”
“ถูกต้อง
แล้วตรงนี้เรียกอะไร” มืออุ่นเลื่อนตำแหน่งมาที่ปลายนิ้วข้อที่สองก่อนจะกดเบาๆ
“Middle
” ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเล็กน้อยเมื่อคำตอบออกมาถูกต้องเป็นครั้งที่สอง ตาคมเลื่อนลงมาอ่านกระดาษในมืออีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนมือมาจับที่เรียวนิ้วข้อที่หนึ่ง
“ตรงนี้
”
“Proximal
”
“แล้วตรงนี้?”
“Metacarpals
”
เรียวนิ้วเลื่อนไปกดลงที่ส่วนต่างๆบนฝ่ามือเล็กช้าๆ ก่อนที่เจ้าของริมฝีปากบางจะเอ่ยพูดชื่อกระดูกส่วนที่ถูกสัมผัสออกมาอย่างแม่นยำ
มืออุ่นกอบกุมมือนิ่มเอาไว้แน่น
ก่อนจะเลื่อนนิ้วมาสัมผัสเบาๆที่ข้อมือขาว
“สุดท้ายแล้ว
ตรงนี้
”
“
Styloid process of ulna
”
“เก่งมาก
นอนได้แล้ว เดี๋ยวหกโมงมาปลุก” ปาร์คจองซูหยัดตัวลุกขึ้นก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลนิ่มเบาๆ
ฮีชอลพยักหน้าน้อยๆพร้อมกับหลับตาลง แต่ทว่าภายในใจไม่ได้หลับตาม
เสียงฝีเท้าเดินออกจากห้องไปอย่างเชื่องช้า
ตามด้วยเสียงปิดประตูห้องดังแกรก
เปลือกตาสวยยังคงหลับตานิ่ง โดยที่ภายในจิตใจกลับสั่นไหวโดยไม่รู้สาเหตุ
มือสวยกำเข้าหากันช้าๆ ราวกับสัมผัสอุ่นๆเมื่อครู่นี้ยังติดตรึงไม่หายไปไหน
ภายในห้องสีครีมสงบเงียบ
เหมือนกับจะช่วยขับให้ฮีชอลได้ยินเสียงอะไรบางอย่างภายในร่างกายชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ
เสียงอะไรกันนะ
?
-talk-
ตอนแรกบอกจะมาต่อบ่าย
แต่ตื่นเย็นค่ะ 55555555555 = = โอย ชีวิตไม่ไหวแล้ว สาบานได้ว่าพรุ่งนี้เปิดเทอม
ฮึก
OTL
.
สัญญาว่าเปิดเทอมจะ(พยายาม)ไม่ดอง(มาก)ค่ะ - -; เห็นตารางเรียนชดแล้วอิโบเกือบกลั้นใจตาย
RIP
ใครว่างๆและรู้สึกว่าตัวเองหน้าตาดีจังเบย... ช่วยเขียนวิจารณ์ฟิคพี่จองกับน้องหมอให้หน่อยเน้ ..อยากได้อยากได้! #อี่นี่ 55555
สุขสันต์วันพ่อค่าาาา ^^ ❤
ความคิดเห็น