ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    short fic - 83line/HaeEun

    ลำดับตอนที่ #5 : #haeeun - hello follower

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 58


    Title –  Hello follower

    Author – 30ww

    Paring – HaeEun

     

     

     

     

     

     

    Start following.

     

     

     

     

     

    ทงเฮ

     

    ไอ้ทงเฮ

    ฮะ ทำไมคนถูกเรียกสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมาหาต้นเสียง

    ส่งแบบฝึกเลขด้วย วันนี้เวรกูรวมไปส่ง” 

    ไปเอาดิอยู่บนโต๊ะ” 

    “...ใครวะ รู้จักเหรอร่างที่สูงกว่าเอียงตัวมาในองศาเดียวกับทงเฮก่อนจะมองไปยังเป้าสายตาที่อีกคนจ้องอยู่

    "เปล่า ...ไม่รู้” 

    น่ะไอ้นี่ตาเรียวๆของเพื่อนสนิทหรี่มองอีทงเฮอย่างกวนอารมณ์ ไอ้อาการจ้องจนตาค้างอย่างนี้มันต้องมีซัมติง ปล่อยผ่านไม่ได้

    อะไรของมึงคยูฮยอน” 

     

    ยังไม่ทันที่ทงเฮจะพูดอะไรต่อ...

     

     

    เธอๆ! เพื่อนเราชอบ!” 

     

     

    ไอ้เหี้ย!” เสียงตะโกนของคยูฮยอนดังไปทั่วชั้นเรียน บนทางเดินหน้าห้องเต็มไปด้วยเด็กมัธยมปลายกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน และตอนนี้สายตาทุกคู่กำลังมองมาที่เด็กหนุ่มทั้งคู่เป็นตาเดียว รวมถึงใครคนนั้นที่แม้จะห่างกันไกลกันพอสมควร แต่ทงเฮมั่นใจว่าเค้ารู้ตัว

     

    เห้ยๆหน้าแดงด้วย มินโฮมึงถ่ายรูปมันไว้ดิ๊55555”

    อ้าวสัดวิ่งหนีไปเลย55555555"

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

     

    คยูฮยอน ไอจีมึงชื่อไรนะ” 

    อ้าว มึงไม่ได้ฟอลกูเหรอเด็กชายที่ดูเนิร์ดแต่ภายนอกหันมาขมวดคิ้วหาเรื่องใส่เพื่อนสนิท รู้ว่าอีทงเฮเป็นคนอินดี้ แต่ถึงขนาดไม่คบเพื่อนในไอจีนี่มันน่าเลิกคบในชีวิตจริงด้วยเลยดีมั๊ย

    กูเปลี่ยนไอจีใหม่คนถูกหาเรื่องรีบแก้ตัว

    ไม่ต้อง เอามาดูโห สัด ฟอลแต่อะไรของมึงอีทงเฮได้แต่นั่งนิ่งๆดูเพื่อนตัวสูงเอาไอโฟนของตัวเองไปเลื่อนดูหน้าอินสตาแกรมแล้วทำหน้าไม่เข้าใจ มันก็มีแต่รูปต้นไม้ใบหญ้า แคคตัส วิวป่าเขา ไม่ก็ภาพโทนขาวๆแบบคินโฟล์ค ซีเรียล แบบนั้น ก็ทงเฮชอบถ่ายรูป ชอบภาพสไตล์นั้นมันจะแปลกอะไรที่ไอจีมีแต่รูปแนวที่เค้าชอบ แต่ไม่ฟอลเพื่อนซักคน

    “Geamgyu ฟอลละ

    เออ แล้วมึง... ฟอลเพื่อนในห้องเราหมดป่ะทงเฮเริ่มหลอกถาม พยายามไม่ให้อีกคนรู้ตัวว่าเป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่ไอจีที่มีแต่รูปของกินอย่างคยูฮยอน คนอะไรตะลุยแดกได้ทุกวี่ทุกวัน ขยันรีวิวลงไอจีจนคนฟอลเป็นพันๆ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ทักเรื่องเหนียงได้ยังไง

     

    ก็ฟอลหมด ไม่เหมือนมึง

    อือเคๆ กูจะได้ไล่ฟอลเพื่อนจากแอคมึงไง

    เออหัดมีสังคมซะบ้างไอ้ฮิปสเตอร์55555” ทงเฮนิ่วหน้า แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจมันอีกต่อไป นิ้วเรียวกดไล่ดู Following ของคยูฮยอนช้าๆ พยายามสแกนด้วยสายตาอย่างระมัดระวัง ชื่อจริงๆกับชื่อในไอจีคงแตกต่างกันไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นก็ต้องอาศัยการคาดเดาอยู่พอสมควร

     

     

    Ryeowookiez

     

     

    อันนี้น่าจะใช่

    คิมรยออุค นักเรียนตัวเล็กขี้เม้าท์ที่ฟอลเซเลปทุกคนในโรงเรียนเพื่อแคปรูปมานั่งมอยกับพวกผู้หญิงหลังห้อง อินสตาแกรมนี้ต้องมีสิ่งที่ทงเฮหาอยู่อย่างแน่นอน

     

    เพราะที่ทงเฮสนใจ คือคนที่รยออุคฟอลโล่ว์อยู่ต่างหาก

     

     

    560 following

     

     

    เจ้าของใบหน้าหล่อกลืนน้ำลายลงคืออย่างยากลำบาก เห็นทีว่าจะต้องใช้เวลาตลอดคาบบ่ายในการก้มหน้าจ้องสมาร์ทโฟนซะแล้ว อีทงเฮเป็นคนใจเย็น สามารถนั่งเพาะแคคตัสด้วยเมล็ดเป็นร้อยๆต้นแล้วแยกลงกระถ่างเดี่ยวทุกต้นได้ และตอนนี้เค้าต้องใช้ความพยายามแบบนั้นกับสิ่งตรงหน้า แม้ว่าไอ้คยูฮยอนจะพยายามเหลือบมองหน้าจอของเค้าอย่างสอดรู้สอดเห็นเป็นพักๆก็ตาม

     

    ยี่สิบนาทีผ่านไป

    ผ่านมาซักครึ่งหนึ่งได้แล้ว ทงเฮพบว่ามันง่ายกว่าที่คิดเพราะส่วนมากนั้นเป็นไอจีของร้านค้าที่ชื่อลงท้ายว่า shop ซึ่งเลื่อนผ่านได้โดยไม่ต้องสแกนอะไรมาก ชื่อแอคเค้าท์ของคยูฮยอนเพิ่งผ่านไป และเหมือนกับว่าเริ่มเข้าสู่ลิสต์คนดังของคนในโรงเรียนแล้ว ความหวังในใจทงเฮก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

     

     

    Siwon1987

    taeyeon_ss

    suho_

    Jessi_Jung

    eunhyukee44

     

     

     

     

    eunhyukee44

     

     

     

    ใช่ต้องใช่แน่ๆ

     

    หลังจากวันนั้นที่มองตามเด็กชายร่างบางผิวขาวสว่างหน้าห้อง คยูฮยอนก็เสนอตัวตามไปสืบมาเล่าให้ฟังจนได้ว่าคนน่ารักคนนั้นชื่ออีฮยอกแจ อยู่มอห้า ตึก 60 ปี ข้อมูลหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเพราะชื่ออีฮยอกแจมันก้องอยู่ในหัว คนหน้ามึนอย่างทงเฮก็ทำได้แต่ยืนอมยิ้มเป็นคนโง่อยู่อย่างนั้น จนกระทั่งหัวใจมันเต้นแรงจนรู้สึกได้ว่าต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อที่จะรู้จักคนๆนั้นให้มากกว่านี้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าความรู้สึกชั่ววูบที่เกิดขึ้นตามประสาเด็กที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่มคนนึง มันจะสร้างปัญหาหัวใจให้คนซื่อบื้ออย่างอีทงเฮมากแค่ไหน   

     

    พี่ฮยอกแจเป็นคนดัง

     

    eunhyukee44

    124k followers

     

    ดังในระดับที่คนทั้งโรงเรียนรู้จักกันดีอยู่แล้ว แถมคนทั่วไปก็แทบจะเคยเห็นหน้าเห็นตาเจ้าของใบหน้าขาวๆกับตาใสๆคู่นี้กันมาแล้วทั้งสิ้น อย่างที่เคยได้ยินคยูฮยอนเปรยเอาไว้เน็ตไอดอล คนประเภทที่เด็กวัยรุ่นทั่วไปทำได้แค่มอง ฟอลโลว์ และกดไลค์ 

    ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน ก่อนจะค่อยๆเลื่อนดูรูปเก่าๆที่เจ้าของไอจีลงเอาไว้เป็นพันๆรูป แตกต่างกับไอจีของอีทงเฮชนิดที่ว่าแทบจะอยู่กันคนละโลกคนละสังคม ใบหน้าจิ้มลิ้มประดับด้วยปอยผมสีน้ำตาลอ่อน ปากนิดจมูกหน่อย ขยันลงรูปเซลฟี่ถี่ยิ่งกว่าอาหารสามมื้อ ฟิลเตอร์สีสว่างฟุ้งๆที่ทงเฮไม่คิดจะใช้ แต่พอมันถูกนำมาแต่งแสงบนภาพของอีฮยอกแจทำไมถึงได้น่ารักน่ามองได้ขนาดนี้ก็ไม่เข้าใจ แม้กระทั่งรูปรีวิวครีมที่โผล่มาเป็นระยะๆทงเฮก็ยังเผลอยิ้มให้จนเมื่อยแก้ม

     

    ทุกอย่างดูขัดแย้งไปหมดกับสิ่งที่ทงเฮชอบ

    แต่อีฮยอกแจกลับเป็นข้อยกเว้นที่ไม่มีอะไรมาหักล้างได้เลย

     

    แค่มันไกลจนสะกดได้แต่คำว่า เอื้อม-ไม่-ถึง ...แค่นั้นเอง

     

    ฟอลดิ” 

    อะไรเล่าอีทงเฮสะดุ้งก่อนจะขยับตัวหนีหัวยุ่งๆของคยูฮยอนที่สลอนหน้าเข้ามาใกล้ ดูจากสายตาคงแอบมองมาซักพักแล้ว 

    ไปเม้นเลย พี่ฮยอกแจน่ารักจัง น้องทงเฮนี่สั่นไปหมด

    สัด55555”

    แล้วก็ได้แต่นั่งส่องรูปเค้าอ่ะนะ หมาจริงๆเพื่อนกู

    ก็งั้นแหละ

    ไม่เป็นไรนะ อกหักเดี๋ยวพี่พาไปแดกฮันนี่โทสต์

    ไปไกลๆไปมึงอ่ะทงเฮกรอกตาก่อนจะหันหนีคยูฮยอนไปกดไอโฟนอีกด้าน ทั้งคู่ไม่ได้มีความสนใจกระดานที่เต็มไปด้วยสูตรเคมีหน้าห้องเลยแม้แต่นิด รวมถึงอาจารย์ก็ไม่สนใจเค้าเช่นกัน ดังนั้นทงเฮจึงสบายใจจะนั่งดูรูปพี่ฮยอกแจต่อไปเรื่อยๆแล้วแอบยิ้มเงียบๆคนเดียว

     

    location : งดฝากร้านนะวันนี้วันหยุดดด

     

    eunhyukee44 : sweet sunday / thanks lovely shirt from @imsungmin_shop #whiteday

    imsungmin_shop : thank makmak naaa love you<3

    Ryeowookiez : พี่ฮยอกแจน่ารักจังงงง

    eunhyukee44 : @Ryeowookiez อุคน่ารักกว่า

    Ryeowookiez : ไม่จริงอ่ะพี่ฮยอกแจน่ารักสุดๆๆ

    eunhyukee44 : @Ryeowookiez บ้า อุคก็น่ารักก

     

    จะผลัดชมกันไปมาอีกนานมั๊ยวะ

    ทงเฮทำหน้าไม่เข้าใจ ก่อนจะเลื่อนไปดูรูปอื่นที่คอมเม้นเป็นร้อยเป็นพันส่วนมากก็ ฮยอกแจน่ารักจัง พี่ฮยอกแจหน้าใสใช้ครีมอะไรคะ เสื้อจากร้านไหน กระเป๋าแบรนด์อะไรเหรอ พี่ใช้กล้องฟรุ้งฟริ้งรึเปล่า อันนี้แต่งแอปอะไรคะอยากรู้มากๆ...

     

    เป็นอะไรที่เข้าไม่ถึงสุดๆ แต่ก็จะพยายามทำความเข้าใจต่อไป

    ไม่อยากรีบร้อนกดไลค์ให้เค้ารู้ เพราะถ้าชอบจริงๆทงเฮไม่ไลค์หรอกทางไอจี ไปไลค์ซึ่งๆหน้าเลยดีกว่าว่าเนี่ยชอบนะ ชอบพี่ฮยอกแจ

    ถึงจะเป็นแค่เด็กโง่ๆแต่ก็จะชอบต่อไป

     

    ถึงสุดท้ายจะได้แต่เงยหน้ามองก็ตาม

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

    สอบมิดเทอมผ่านไป ทุลักทุเลจนแทบจะเอาตัวไม่รอดแต่ก็รอดมาได้แบบรอซ่อม สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เหมือนรอศาลตัดสินในนรกตอนฟังคะแนนแต่ละวิชาที่ค่อยๆทะยอยประกาศ โชคดีที่ผ่านแบบหวุดหวิดมาทุกวิชา จะหมั่นไส้ก็แต่ไอ้คยูฮยอนเนี่ยแหละที่ปากบ่นว่ายากๆแต่ซัดท็อปรัวๆ อยากจะหาอะไรฟาดหน้าแม่งจริงๆ

     

     

    ทงเฮ มึงกลับรถไฟฟ้าด้วยกันป่ะ

    ไม่อ่ะ กูเอาจักรยานมา

    ตอนเย็นรถเยอะจะตาย มึงไม่กลัวรถใหญ่เอาขาไปแดกเหรอ

    ระดับกูแล้ว” 

    เออคยูฮยอนมึงลืมเหรอ นี่พี่ทงเฮจากนิตยสาร aday human ride”

    “5555555เออๆตามใจมึง กูกลับกะมินโฮก็ได้

     

    ไม่มีอะไรมาก วันไหนขี้เกียจไปทำเนียนเล่นฟุตบอล ทงเฮก็ชอบขี่จักรยานไปวนๆดูพี่ฮยอกแจซ้อมลีดแถวสนามบอลแทน ไปย้อนดูไอจีมาได้ข้อมูลเพิ่มว่าปีที่แล้วพี่เค้าเป็นลีดสีแดง แต่ปีนี้ไปออดิชั่นลีดโรงเรียน จริงๆก็ติดตั้งแต่ยังไม่ได้ออดิชั่นด้วยซ้ำล่ะมั้งออกจะดังขนาดนั้น แถมหุ่นพี่ฮยอกแจก็ดีมากๆไม่ใช่หุ่นเด็กผู้ชายชอบออกกำลังหรือเล่นกีฬาทั่วไป แต่เจ้าของไหล่บางนั้นมีส่วนเว้าส่วนโค้ง แบบที่ทงเฮมองช่วงเอวแล้วหายใจไม่ค่อยสะดวกทุกที

    ลีดโรงเรียนต้องซ้อมทุกเย็นกว่าจะเลิกก็ฟ้ามืด ยังดีที่แม่พี่เค้าขับรถมารับถึงโรงเรียน ไม่งั้นทงเฮก็คงแอบเดินเข็นจักรยานตามไปส่งถึงรถไฟฟ้านั่นแหละ 

     

    ถามว่ามาด้อมๆมองๆเค้าทุกวันแบบนี้หลายเดือนแล้วพี่ฮยอกแจจำทงเฮได้บ้างมั๊ย

    คำตอบคือไม่ เพราะเวลาซ้อมลีดต้องโฟกัสยิ้มแล้วเชิดหน้ามองบน

     

    ทงเฮคงไม่ได้อยู่ในระดับสายตา 

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

    จะมีไอ้บ้าซักกี่คนเตะบอลอัดคนที่ตัวเองชอบ

     

    ทงเฮเอง

     

    แขนเล็กๆชูขึ้นตั้งการ์ดสู้แดดมาเกือบชั่วโมงนึงแล้ว และตอนนี้มันกำลังสั่นสะท้านเพราะกล้ามเนื้อที่หดเกร็งเป็นระยะ อ่อนแรงจนแทบจะทนไม่ไหว 

     

    ทงเฮก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน กับใบหน้าหวานที่ขมวดแน่นเพราะพยายามอดทนถึงขีดสุด อิพวกรุ่นพี่ก็จะทรมานร่างกายอะไรกันนักหนา ฝึกทหารก็ไม่ใช่ทำไมต้องโหดร้ายกันขนาดนี้ด้วย ร่างหนามาเตะบอลเพื่อแอบเฝ้าพี่ฮยอกแจซ้อมลีดตามปกติทุกวัน เท่าที่สังเกตแล้วพวกน้องลีดจะโดนค้างการ์ดรอเพื่อนที่ยังมาไม่ครบ ที่ผ่านมาอย่างมากก็ครึ่งชั่วโมง มีวิ่งรอบสนามเพื่อวอร์มอัพอีก 5 รอบ แต่วันนี้มีคนหนึ่งมาสายมากเลยโดนไปทั้งหมด 10 รอบ พร้อมค้างการ์ดอีกหนึ่งชั่วโมง ยังยืนนิ่งได้อยู่ก็อึดมากแล้ว

     

     

    ผลั่ก!!

     

     

    ลูกบอลสีมอมแมมพุ่งเข้ากระแทกขอพับขาด้านหลังของอีฮยอกแจแม่นเป๊ะราวกับจับวาง ร่างเล็กเสียหลักล้มพับลงทันทีตามที่ทงเฮคาดเอาไว้ แม้จะไม่ได้มีแรงอัดอะไรมาก แต่การกระแทกข้อพับที่เป็นเหมือนจุดอ่อน กับร่างที่อ่อนแรงอยู่แล้วก็ทำให้คนตัวบางลงไปกองกับพื้นในทันที

     

    ใช่ ทงเฮเตะบอลไปโดนพี่ฮยอกแจเอง

     

    เด็กชายแผ่นหลังชุ่มเหงื่อรีบวิ่งเหยาะๆเข้าไปกลางกลุ่มลีดโรงเรียนที่รีบวิ่งมามุงกันให้วุ่น

     

    โทษทีพี่ เดี๋ยวผมพา-”

    ไม่เป็นไรๆ พี่พาไปเอง” 

    เอ่อ...”

     

     

    ครับ

     

    คิดจะสวมรอยบทพระเอกพาเค้าไปส่งห้องพยาบาลเหรอทงเฮ มองรอบตัวพี่เค้าซะก่อนมั๊ยว่ามีใครรายล้อมอยู่บ้าง มีอีกเป็นสิบคนที่พร้อมจะช่วยเหลือดูแลพี่ฮยอกแจ นึกโกรธตัวเองอยู่เหมือนกันที่เตะบอลไปโดนขาเล็กๆนั่น ผิวขาวๆจะมีรอยรึเปล่า พี่ฮยอกแจจะเจ็บมั๊ย ทำอะไรไม่รู้จักคิด

     

    ทงเฮนี่มันโง่จริงๆเลย

     

    สุดท้ายคนโง่ก็กลายเป็นคนร้ายที่ได้แต่ยืนมองร่างบางของคนที่ชอบถูกพระเอกตัวจริงพยุงไปห้องพยาบาล 

     

    ที่ทำไปไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากทำอะไรซักอย่างให้พี่ฮยอกแจไม่ต้องทำหน้าทรมานแบบนั้น เห็นแล้วมันเจ็บปวด อยากให้ร่างบางตะโกนดังๆว่าทนไม่ไหวแล้วก็วิ่งออกมา พอคิดว่าตัวเองจะทำอะไรได้บ้าง ขามันก็เตะบอลออกไปแล้ว บ้าหรือบ้าก็ไม่รู้อีทงเฮ

    ร่างหนาพับแขนเสื้อที่ชุ่มเหงื่อของตัวเองขึ้นก่อนจะเดินหงอยๆกับมาหาเพื่อนที่ยืนทำหน้างงใส่ ทั้งหมดเตะบอลกันอีกพักหนึ่ง ก่อนทงเฮจะแยกตัวออกมา คว้าเป้หนักๆที่มีตราโรงเรียนพาดไหล่ เดินไปล้างหน้าล้างตาทำความสะอาดหน้าตามอมแมมของตัวเองให้สะอาดขึ้นบ้าง ขาทั้งสองวิ่งเหยาะๆไปที่สหกรณ์โรงเรียนที่ใกล้จะปิด หวังจะซื้ออะไรบางอย่างเพื่อไถ่โทษกับความรู้สึกผิดที่ก่อตัวขึ้นในอก

     

    นมเปรี้ยวกลิ่นสตอเบอรี่

     

    จำได้แม่นว่าพี่ฮยอกแจชอบกิน เพราะรูปที่อัพลงในอินสตาแกรมส่วนมากมักจะมีเจ้าขวดสีชมพูนี้วางอยู่ไม่ห่าง ทงเฮยังไม่ได้เป็นหนึ่งในแสนฟอลโลเวอร์ของพี่เค้าหรอก แค่จำชื่อได้ขึ้นใจแล้วเซิร์ซหาเข้าไปดูอยู่ทุกวี่ทุกวันแค่นั้นเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่ฟอลเค้าไปซักทีให้ชีวิตมันง่าย จะเขินอะไรหนักหนากับแค่ปุ่มฟอลสีน้ำเงินโง่ๆ ฟอลโลเวอร์จะเพิ่มขึ้นมาอีกซักคนพี่เค้าก็คงไม่สนใจ ยิ่งเป็นอินสตาแกรมของทงเฮที่ไม่มีแม้กระทั่งรูปของเจ้าของแอคเค้าท์ด้วยซ้ำ เปิดเข้ามาก็เจอแต่รูปวิวสีทึมๆฟิลเตอร์เทาๆกับต้นแคคตัสไม่ได้น่าสนใจอะไร เผลอๆเค้านึกว่าร้านขายต้นไม้มาฟอลจะโดนบล็อคซะเปล่าๆ

     

     

    “…” ร่างหนายืนเป็นใบ้อยู่หน้าห้องพยาบาล มือขวาถือถุงพลาสติกบรรจุขวดนมเปรี้ยวสีชมพูอ่อนที่มีหยดน้ำเกาะอยู่รอบจนถุงใสขึ้นฝ้าขาว ไม่รู้จะสื่อสารกับอาจารย์ห้องพยาบาลยังไงดีให้ไม่โดนไล่ออกจากห้อง แต่คิดไปก็เท่านั้น ทงเฮทำอะไรก็ดูซื่อบื้อไปหมดอยู่แล้ว รู้ตัวดี

     

    เอ่อ” 

     

    มาหาเพื่อนครับ เข้าไปได้มั๊ยเสียงของเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆทำลายความเงียบที่มีเพียงเสียงหึ่งของแอร์เก่าๆมุมห้อง หญิงสาววัยกลางคนที่ก้มลงจุดยุกยิกอยู่บนโต๊ะเงยหน้าขึ้น ก่อนจะมองตามองศาหน้าของทงเฮไปยังเตียงฝั่งริมหน้าต่างที่มีใครบางคนนอนหลับอยู่ หล่อนพยักหน้าเบาๆเชิงอนุญาตแล้วหันไปจัดการกับตู้ยาด้านหลังโดยไม่ได้สนใจเด็กชายอีก 

     

     

    สมุดบันทึกรายชื่อผู้เข้าใช้ห้องพยาบาลวางอยู่บนโต๊ะ ตาคมไล่หาชื่อของอีฮยอกแจได้ไม่ยากนัก ตัวอักษรหวัดๆของอาจารย์พยาบาลต่างหากที่อ่านยากกว่า

     

    อีฮยอกแจ - แผลถลอก ,อ่อนเพลีย

     

    อีทงเฮพ่นลมหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งอกที่อย่างน้อยขาเล็กๆนั่นก็ไม่บวมช้ำหรืออักเสบไป ไม่อย่างนั้นคงทำให้พี่ฮยอกแจลำบากมากแน่ๆ และทงเฮจะไม่ให้อภัยตัวเองเลยถ้าทำให้คนตัวเล็กของเค้าพลาดงานกีฬาสีที่ลงทุนลงแรงซ้อมมาหลายเดือน 

     

    ขาทั้งสองข้างพยายามก้าวให้เบาที่สุด เร็วที่สุดเพื่อไปให้ถึงเตียงสุดท้าย ภายในห้องพยาบาลมีนักเรียนนอนพักอยู่อีกสองสามคน แต่คนที่ทงเฮระมัดระวังที่จะเข้าใกล้มากที่สุดคงเป็นร่างบางเจ้าของแก้มใสที่หลับตาพริ้มอยู่ข้างหน้านี้ 

     

    เป็นครั้งแรกที่กล้าเดินเข้ามาหาพี่ฮยอกแจ

     

    ก้อนเนื้อในอกเต้นเป็นจังหวะตึกตักจนรู้สึกในหูมันก้องไปหมด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเพราะกลัวว่าตัวเองจะเผลอทำเสียงดังอะไรรบกวนคนป่วยจนสะดุ้งตื่นขึ้นมา ร่างหนาได้แต่ยืนห่างๆแล้วก้มลงวางขวดนมเปรี้ยวไว้ข้างกระเป๋าจาคอปของร่างบางบนพื้น ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วทงเฮก็รีบสาวเท้าเดินออกมาราวกับคนบนเตียงนั่นเป็นเตาร้อนที่เข้าใกล้มากไม่ได้ 

     

    ทงเฮจะละลาย

     

    ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำที่ได้มองใบหน้าใสๆในระยะใกล้ที่สุดในชีวิต ผิวขาวที่ติดจะซีดของพี่ฮยอกแจดูเหนื่อยล้าจนทงเฮอยากจะวิ่งออกไปกวาดวิตามินหมดร้านขายยามากองไว้ให้ อยู่ในโรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่าสอบเข้ายากขนาดนี้แล้ว แค่สอบให้ผ่านแต่ละเทอมยังแทบกระอัก ถึงพี่ฮยอกแจจะเรียนสายศิลป์ที่วิชาน้อยกว่าทงเฮที่เรียนวิทย์ก็เถอะ แต่ให้ทำกิจกรรมไปด้วยทุกวันอย่างนี้ก็คงไม่ไหว

     

    ยิ่งอัพอินสตาแกรมถี่แบบนั้นจะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือกัน

    ชีวิตเน็ตไอดอลนี่มันวุ่นวายจริงๆ 

     

     

    หายไวไวแล้วกันนะ สู้ๆ : )

     

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

     

    จารครับ พอจะมีวิธีทำให้รูปนี้ชัดขึ้นบ้างมั๊ยอ่ะอีทงเฮยกมือเรียกความสนใจจากอาจารย์ประจำวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศให้เดินมาหา ในเวลาใกล้จะหมดคาบเรียน ทุกคนทำงานเสร็จแล้วเอาไฟล์ไปรวมไว้ที่คอมพ์ของอาจารย์เรียบร้อย ตอนนี้ก็แยกย้ายกันนั่งจับกลุ่มเล่นเกม นั่งดูยูทูปตามอัธยาศัย จะมีก็แต่ทงเฮเนี่ยแหละที่หมกหมุ่นกับโฟโต้ช้อปที่เรียนเหลือเกิน ส่งงานเสร็จก็เปิดรูปอื่นขึ้นมาทำต่อจนใครๆก็มองว่าขยัน ทั้งที่จริงแล้วก็มีจุดประสงค์แอบแฝง

     

    รูปแอบถ่ายเค้ามา

     

    ทงเฮเล่นกล้อง และอยู่ชมรมถ่ายภาพ เรื่องอะไรพวกนี้ของถนัด ที่ไม่ถนัดคงจะเป็นโปรแกรมโฟโตช้อปเนี่ยแหละที่เพิ่งหัดแล้วมันก็ยากซะด้วย

     

    ไหนร่างบางของอาจารย์พิเศษเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะก้มหน้าลงดูไฟล์รูปบนหน้าจอ ตาคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อย

    มันไปโฟกัสต้นไม้แทน ผมจะถ่ายคนทงเฮอธิบาย ภาพมันออกจะเบลอผิดที่ไปซักหน่อยทั้งที่มุมดีมากแท้ๆ เป็นรูปพี่ฮยอกแจที่สนามนั่นแหละ ทงเฮปีนขึ้นไปนั่งบนอัฒจรรย์อีกฝั่งแล้วแอบซูมถ่ายเอา 

     

    ไม่มี

    โหจารย์ฮีชอลรีบมากป่าว คิดหน่อยก็ได้ จารย์เก่งจะตายเด็กชายโวยวาย เรียกสีหน้าขำๆจากอาจารย์ได้เป็นอย่างดี ตาคมสวยหรี่ลงมองบุคคลในรูปแล้วถึงกับร้องอ๋อ ถึงจะเบลอไปหน่อยแต่เค้าก็พอจำได้ นอกจากจะเป็นเซเลปที่นักเรียนชอบเปิดรูปให้ดูแล้ว ยังจะสอบตกวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศที่ง่ายแสนง่ายของเค้าอีกด้วย

     

    งั้นหลับตาดู แล้วนึกเอาประโยคคำสั่งง่ายๆที่ทงเฮเผลอทำตามอย่างงงๆ เจ้าของใบหน้าหล่อหลับตาลงพร้อมกับนึกภาพพี่ฮยอกแจขึ้นมาในหัวทันที

     

    ชัดขึ้นมั๊ย

    “…ชัด... เลยครับไม่รู้ว่าอาจารย์จะกวนตีนหรืออะไร แต่ภาพในหัวมันก็ชัดกว่าภาพถ่ายไหนๆจริงด้วยนั่นแหละ

     

    อยากชัดกว่านี้ก็ถ่ายใหม่ มาโน่นล่ะน่ะ

    “?” อีทงเฮลืมตาโพล่ง เสียงเลื่อนประตูเข้ามาใหม่ทำให้หัวใจหล่นไปถึงตาตุ่ม อาจารย์ฮีชอลว่าไงนะ อะไรมา ใครมา

     

    สอบซ่อมอะไรอาจารย์ เดี๋ยวผมต้องไปซ้อมลีดนะ

    อีฮยอกแจ คะแนนทุเรศทุรังแล้วยังจะมาเรื่องมากอีกคนเป็นครูเอ่ยว่าขำๆก่อนจะเดินไปหยิบกระดาษปึกหนึ่งขึ้นมาจากลิ้นชักข้างโต๊ะ อีทงเฮมองผู้มาใหม่อย่างอึ้งๆก่อนจะรีบกดปิดโปรแกรมโฟโต้ช้อปบนหน้าจออย่างรวดเร็ว เหงื่อแตกขึ้นมาทันทีที่อยู่ๆคนในรูปแอบถ่ายก็โผล่มากระทันหันแถมระยะประชิด

     

    ทำไงดี ทำไงดี

     

    คยูฮยอน กลับบ้านกัน

    กูเล่นเกมอยู่เห็นมั๊ย ยังไม่หมดคาบเลยด้วยมึงจะรีบไปไหน

    มึง ข้างหน้า หน้าห้อง

    “…เหยด...แม่.......” คยูฮยอนละสายตาจากจอคอมพ์ทันที ตาคู่เรียวหรี่มองเพื่อนสนิทอย่างมีเลศนัยยิ่งกว่าทงเฮไปฆ่าใครตาย เหมือนโดนแซวโดยไม่ต้องปริปากพูดอะไรออกมา เกลียดสายตามึงที่สุดไอ้เลว

     

    โอ้ย กูกลับละทงเฮเหลือบตามองร่างบางหน้าห้องที่ย้ายตัวไปนั่งบนโต๊ะริมหน้าต่างแล้วเริ่มก้มหน้าทำข้อสอบในมือ ตาคู่สวยนั่นคงไม่มองมาทางนี้หรอก ถึงมองมาแล้วเค้าจะสนใจอะไร ก็ไม่ มีแต่ทงเฮเนี่ยเป็นบ้าไปเองที่อยากจะนั่งแอบมองพี่ฮยอกแจต่อแต่ก็ทนอยู่ไม่ได้ ทงเฮไม่หล่อเลย กลัว

     

    มือไวคว้ากระเป๋าใต้โต๊ะขึ้นสะพาย ถอดแฟรชไดร์ฟจากเครื่องซีพียูยัดใส่กระเป๋าแล้วกดชัตดาวน์เครื่องอย่างรวดเร็ว 

     

    อ้าว อีทงเฮจะกลับแล้วเหรอ ยังไม่หมดคาบเลยนะ” นี่...อาจารย์

    ใช่ๆทงเฮกลับก่อนได้ไงเพื่อนเวร

    อีทงเฮเอางานส่งอาจารย์รึยังนะ อีทงเฮอาจารย์ฮีชอลยังไม่หยุด

    ทงเฮ! ทงเฮ! รอเพื่อนด้วยไอ้เหี้ยคยูฮยอนมึงหยุด

    ทงเฮ อาจารย์คิดวิธีแก้รูปเมื่อกี๊ออกแล้วนะ” 

    เออทงเฮกลับมาทำรูปเมื่อกี๊ใหม่ดิ

    ทงเฮ!

     

    โทงงงงเฮฮฮรรร!!” รยออุคมึงเกี่ยวอะไรด้วย ไปรู้อะไรมา

     

     

    อยากจะแทรกแผ่นดินหนี ชื่ออีทงเฮดังไปทั่วห้องด้วยการกลั่นแกล้งของอาจารย์พิเศษใจบาปกับเพื่อนใจหมา เลวมากเลวที่สุด ทำไมทำแบบนี้ไม่คิดถึงใจคนโดนแซวบ้างจะรู้สึกยังไง ป่านนี้พี่ฮยอกแจได้ยินชื่อเค้าไปแล้วกี่ครั้งแล้วเค้าจะรู้มั๊ย อีทงเฮยังไม่ได้อยากใ้ห้เค้ารู้จักตอนนี้ซักหน่อย ไม่หล่อ ไม่พร้อม 

    ไอ้เหี้ยโกรธมาก โกรธด้วยเขินด้วยจนหน้าแดงแทบระเบิด วิ่งออกมาแบบนั้นยิ่งน่าอายเข้าไปใหญ่เลย 

     

     

    ไม่มีอะไรหรอกมั้ง พี่เค้าสอบซ่อมอยู่ไม่สนใจหรอก

    หายใจเข้าลึกๆน่าทงเฮ

     

     

    เฮ้อ… 

     

     

    อยากจะเป็นบ้า

     

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

     

    ต้นกระบองเพชรวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบอยู่ในกระบะสีเขียวเข้ม ยิ้มบางปรากฎให้กับต้นไม้ทรงกลมน่ารักด้านในสุดที่วันนี้ออกดอกสีชมพูสดใสให้คนเลี้ยงได้ชื่นใจหลังจากเฝ้าเอาใจใส่ดูแลมานานแรมปี แคคตัสเหมือนต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ซะทีเดียว ทงเฮใจเย็น แต่บางครั้งก็ไม่ได้ใจเย็นมากพอที่จะคอยเอาใจใส่ดูสภาพดินอย่างละเอียดก่อนรดน้ำ ก่อนจะเลี้ยงเป็นก็เฉาตายไปหลายต้นแล้วเหมือนกัน เค้าต้องคอยดูว่าวันนี้ดินแห้งหรือยังถึงจะรดน้ำลงไป ถ้าดินชื้นรากก็เน่า แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน ดินก็แห้งเกินไป เอาใจยากอยู่เหมือนกัน

     

    เหมือนใครบางคนที่ทงเฮชอบนั่นแหละ

    คนมาจีบไม่ขาด แต่ไม่เห็นตกลงคบกับใครซักที คงเป็นคนที่เอาใจยากน่าดู

     

     

    โตไวๆนะพี่ฮยอกแจ

    ใช่ ชีวิตฮิปสเตอร์มากแต่เสือกตั้งชื่อให้ต้นไม้ตามคนที่ชอบ

     

    อีกต้นที่กำลังจะออกดอกกระถางนั้นก็กำลังจะได้ชื่อฮยอกแจ

    ต้นไหนสวยที่สุด ต้นนั้นเป็นพี่ฮยอกแจ

     

    ส่วนต้นเขียวๆธรรมดาที่ไม่มีดอกชื่อทงเฮ

    ถึงจะไม่โดดเด่นอะไร แต่ก็วางอยู่ล้อมรอบพี่ฮยอกแจไม่ยอมเฉาตายจากไปไหนซักที

     

     

    อืม ก็ว่ารดน้ำเปล่านะ

    ทำไมได้กลิ่นน้ำเน่า

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

     

    วันนี้ D-Day

    เรียกอีกอย่างว่าวันกีฬาสี สงครามแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรี และวันปล่อยผีของโรงเรียนที่เรียนเครียดจนเด็กจะกลั้นใจตายรายวัน

    แต่สำหรับทงเฮคือวันฮยอกแจ

     

    วันดีแท้ๆ แต่อุปสรรคชีวิตก็หล่นทับลงมาจนได้ เมื่อเช้าที่เร่งรีบออกมาจากบ้านแล้วดันลืมหยิบฟิล์มโพรารอยด์กล่องใหม่ใส่กระเป๋า มาสะเพร่าอะไรเอาวันนี้ก็ไม่รู้ ตอนนี้เด็กชายกำลังร้อนรนที่จะออกไปร้านขายกล้องถ่ายรูปใกล้ๆโรงเรียนเพื่อซื้อฟิล์มใหม่ แต่ก็โดนอาจารย์ฝ่ายปกครองดักเอาไว้ซะก่อน ถึงจะเป็นวันกีฬาสี แต่โรงเรียนก็ยังคงเข้มงวดเรื่องการเข้าออกโรงเรียนของนักเรียนทุกคนอยู่ดี

     

    ไม่มีใบสีฟ้าออกนอกโรงเรียนไม่ได้

    จารย์ผมมีธุระจริงๆต้องรีบไปอ่ะ” 

    ทัณบนแน่

    โห!” อีทงเฮโวยวาย ก่อนจะคิดงัดไม้เด็ดออกมาต่อกรกับอาจารย์ฝ่ายปกครองตรงหน้า

    จารย์จองซู

    อะไร

    เมื่อวานไปทำอะไรแถวรถจารย์ฮีชอลครับ

    “…"

     

    ถึงกับนิ่ง

     

    ถ้าจะออกก็ไปออกประตูเล็ก อีก 5 นาทีช่วงเปลี่ยนเวรไม่มีคนเฝ้า

    ก็แค่นั้นอ่ะ

     

     

    อีทงเฮหลุดขำก่อนจะวิ่งมาอีกทาง นึกขอบคุณตัวเองเมื่อวานที่บังเอิญปั่นจักรยานมาเจออาจารย์จองซูกำลังด้อมๆมองๆที่รถของอาจารย์ฮีชอลพอดี สีหน้าดูมีซัมติงแบบที่คนแอบชอบคนอื่นอยู่อย่างทงเฮดูออก ขอโทษนะครับที่เอามาขู่เพื่อออกนอกโรงเรียน ขออวยพรให้จารย์ฮีชอลไม่หาอะไรฟาดหน้าตอนเข้าไปจีบเค้าแล้วกัน

     

    ร่างหนาแอบมุดออกทางประตูเล็กอย่างรวดเร็ว ถึงจะเคยหนีเรียนทางประตูนี้บ้างแต่ก็ใช่ว่าจะชำนาญ ช่วงเวลาห้านาทีที่อาจารย์ผลัดเวร อีทงเฮก็สปีดเท้าชนิดที่ว่าถ้าลงแข่งวิ่งกรีฑาตอนนี้คงได้เหรียญ สุดท้ายกล่องฟิล์มโพรารอยด์อันใหม่ก็มาอยู่ในมือ พร้อมกับร่างชื้นเหงื่อที่วิ่งกลับเข้ามายืนหอบอยู่ข้างห้องน้ำในโรงเรียน

     

    ครืด… 

     

    ไอโฟนในกระเป๋ากางเกงสั่นรัว มีแรงกดรับสาย แต่ไม่มีแรงพูด

     

    ทงเฮมึงอยู่ไหน จองสแตนให้มั๊ย พาเหรดเข้าแล้วเนี่ย

    เออแฮ่กไม่เป็นไร กูต้องไปถ่ายรูปให้ชมรม

    เคๆ เจอกันตอนกินข้าว

    แต๊งกิ้วนิ้วเรียวกดว่างสายก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ คยูฮยอนผู้ทำตัวไร้หน้าที่ใดๆได้ไปนั่งจองแสตนด์อยู่อีกฝั่งแล้ว อีกไม่นานก็คงเต็มเอียดจนขึ้นไปไม่ได้ ซึ่งทงเฮก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร กล้องโปรตัวโตในกระเป๋าสีดำวางรอเค้าอยู่ วันนี้เด็กในชมรมทั้งหมดต้องลงสนามเก็บภาพทุกมุมในงานกีฬาสี

     

     

    ปลอกแขนสีชมพูบานเย็นสกรีนตัวอักษรสั้นได้ใจความชมรมโฟโต้อีทงเฮสามารถถือกล้อง DSLR ตัวโตเดินเข้าไปได้ทุกพื้นที่ ทุกเวลา เก็บภาพทุกอย่างในงานกีฬาสีครั้งนี้ได้ โคตรจะอภิสิทธิ์ และสิทธิเดียวที่ทงเฮอยากใช้คือการถ่ายรูปลีดโรงเรียน

     

    ถ้าไม่ติดว่าแต่ละคนเค้ามีช่างกล้องส่วนตัวมาอยู่แล้วน่ะนะ

    แถมบ้องเลนส์แต่ละอันที่พี่ช่างกล้องเค้าพกมานี่ใหญ่ยาวแบบทงเฮเทียบไม่ติด

     

    กะให้มีรูปลงอินสตาแกรมไปอีกครึ่งปี

     

     

    ปี๊ดดดดด...

     

     

    ขบวนพาเหรดส่วนที่เดินเข้ามาบนสนามหญ้าแล้วพากันหยุดนิ่ง หลีดโรงเรียนในชุดสีขาวปลอดตั้งแต่หัวจรดเท้ายืนเด่นอยู่ตรงกลางสนามเด่นเกินหลีดของทุกสี ชุดที่สว่างจ้าทำให้ห้าคนตรงนั้นราวกับมีแสดงสว่างในตัวเอง ผิวที่ขาวอยู่แล้วของอีฮยอกแจทำให้ร่างบางเหมือนหลอดไฟนีออนที่เจิดจ้าเกินไปจนทงเฮต้องหรี่ตามอง ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกดัดให้เป็นลอนน้อยๆเข้ากับใบหน้าหวานที่กรีดอายไลน์เนอร์เข้มจนคมสวย  ไหนจะเฮดแบนด์ที่ทำจากขนนกสีขาวขดรอบหัวนั่นอีก ธีมนางฟ้านางสวรรค์อะไรกัน เอานางฟ้าตัวจริงมายืนตากแดดใช้ได้ที่ไหน ทงเฮล่ะหงุดหงิดในความน่ารักของพี่ฮยอกแจจริงๆเลย

     

    ลีดโรงเรียนที่ถูกฝึกมาหนักยิ่งกว่าเรียน รด. ยืนนิ่งเป็นหุ่น ตามองตรงขึ้นฟ้าในแนวที่มนุษย์ปกติไม่มองกัน โฟกัสยิ้มหวานซะจนร่างหนาไม่อยากจะเดินเข้าใกล้ กลัวละลาย

     

    ฮอตกว่าเแดดก็พี่ฮยอกแจแล้วล่ะ

     

    ในสนามที่ทุกสิ่งมีชีวิตนิ่งเหมือนถูกสาปเพราะคณะกรรมการกำลังให้คะแนนพาเหรดอยู่ อีทงเฮเดินฝ่าเข้าไปตรงกลางอย่างไม่สนใจอะไร

     

    ที่แขนยังใส่ปลอกสีชมพูของชมรมโฟโต้ ทว่ากล้องตัวเก่งในมือกลับถูกปล่อยคล้องคอไว้เฉยๆ ก่อนที่กล้องโพรารอยด์สีขาวจะถูกยกขึ้นมาในระดับสายตาแทน

    ร่างหนาก้าวไปอยู่เบื้องหน้าของอีฮยอกแจตรงๆ ออกจะใกล้ไปซักนิด ก็กล้องโพรารอยด์มันซูมได้ที่ไหนกัน ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะพี่ฮยอกแจ

     

    หลีดโรงเรียนสุดเซเลปที่ตั้งสมาธิโฟกัสยิ้มอย่างต่อเนื่องมาหลายสิบนาทีถูกทำลายสมาธิด้วยช่างกล้องประหลาดๆที่เข้ามาถ่ายใกล้เกินกว่าที่ควรจะเป็น ตาคู่สวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยอายไลน์เนอร์คมกริบเหลือบลงมองบุคคลเบื้องหน้าทันที ทั้งที่ปากยังระบายยิ้มอยู่นั่นแหละ

     

     

    แชะ

     

     

    วินาทีเดียวที่ตาคู่นั้นก้มลงมองกล้อง นิ้วทงเฮก้ไวพอจะเก็บชั่วพริบตาหนึ่งนั้นเอาไว้

     

    อีฮยอกแจเห็นหน้าตากล้องประหลาดคนนี้แค่แว๊บเดียวเท่านั้นก็ปรับระดับสายตาขึ้นโฟกัสยิ้มต่อไป ดีแล้ว ขืนสบตาตรงๆทงเฮต้องแย่แน่ๆ แค่ยืนใกล้ๆก็ทนออร่าแทบไม่ไหว มันร้อน ในใจเนี่ยมันร้อนไปหมด

     

    กล้องโพรารอยด์ใช้เวลาเพียงครู่เดียวก่อนที่จะปริ้นท์ฟิล์มขนาดเล็กออกมา ระหว่างรอให้ฟิล์มขาวๆขึ้นรูปภาพที่ถ่ายไปเมื่อกี๊ มือใหญ่ก็ละจากกล้องแล้วล้วงลงหยิบทิชชู่ในกระเป๋าสะพาย

     

    แดดแรงจะตาย เหงื่อเข้าตาจนแสบใครจะมาซับให้ ช่างแต่งหน้าเข้ามาในสนามไม่ได้ด้วย

     

    มีแต่ทงเฮนี่แหละ เดี๋ยวจัดการให้แล้วกัน

    ไม่ได้ถือโอกาสอะไรหรอกนะ

    ถือว่าช่วยดูแล

     

    ว่าแล้วก็ค่อยๆซับทิชชู่เนื้อบางซับไปตามไรผมและสันกรามที่เกาะพราวไปด้วยหยดเหงื่อ พยายามบังคับมือไม่ให้สั่นจนพี่ฮยอกแจจับได้ว่าตื่นเต้น ยอมรับก็ได้ว่าฉวยโอกาสเข้าใกล้ แต่ทำไงได้ ดูสิแดดเผาจนผิวใสๆแดงไปหมด เห็นแล้วอยากจะกดจมูกหอมลงไปแรงๆ

     

    “…เก็บอาการหน่อยมั๊ยล่ะอีทงเฮ 

     

    รูปขึ้นแล้ว สบัดฟิล์มโพรารอยด์ในมือสองสามครั้งก่อนจะอมยิ้มให้ฝีมือการถ่ายภาพของตัวเอง ใบหน้าหวานในรูปยิ้มสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าชุดที่ตัวเองใส่ ตาคมสวยมองตรงมายังกล้อง พื้นหลังเบลอสีฟุ้งราวกับปุยเมฆบนสวรรค์ เว้นพื้นที่ด้านบนของภาพเป็นท้องฟ้ากว้างๆแบบที่ทงเฮชอบทำ ทุกอย่างดูลงตัวยิ่งกว่าภาพวาดของศิลปินเอกทุกยุครวมกัน

     

     

    ทงเฮยิ้มให้กับคนในภาพอย่างพอใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาหาตัวจริง เลื่อนมือมาสอดฟิล์มบางใส่เข้ากระเป๋าเสื้อเล็กๆบนสูทสีขาวอย่างระมัดระวัง อยากจะอยู่ตรงนี้นานๆแต่ก็ไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน แอบชอบมาเกือบปีนี่ก็ใกล้ที่สุดแล้วที่ทงเฮจะก้าวเข้ามาได้ ยืนเก้ๆกังๆอยู่พักนึงจนได้ยินเสียงนกหวีดจากด้านหน้าสุดของสนามเป็นสัญญาณว่าพาเหรดของทุกคณะสีเข้ามาอยู่ในสนามครบแล้ว ทงเฮก็ได้แต่ถอยออกมาแล้วหันหลังวิ่งพาตัวเองออกจากสนามไป

     

     

     

    ทิ้งไว้แต่หลีดโรงเรียนตัวท๊อป ยืนโฟกัสยิ้มกว้างจนปวดแก้มมากกว่าที่เคย

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

    ทงเฮกำลังปั่นการบ้านรักการอ่าน แต่มานั่งไกลถึงโรงอาหารตึก 60 ปี ทั้งที่ตัวเองอยู่ตึกศิลปะ ถ้าถามหาเหตุผลก็ไม่ต้องหาอะไรมาอ้าง นอกจากมานั่งรอส่องพี่ฮยอกแจที่เรียนอยู่ชั้น 3 ข้างบนนี้แหละ หลังจากหมดกีฬาสีก็ไม่ได้เฉียดไปแถวสนามบอลอีกเลยเพราะคนที่ชอบไม่ได้ซ้อมลีดแล้ว

     

    ตอนเย็นๆพี่เค้าชอบมานั่งกินโกโก้เย็นก่อนไปเรียนพิเศษ ทงเฮจำได้ แต่ก็ไม่ได้ซื้อโกโก้เย็นไปจีบอย่างที่คนอื่นเค้าทำกัน เกร่อแบบนั้นพี่ฮยอกแจไม่ประทับใจหรอก แต่คิดมุกใหม่ก็ไม่ออก เลยได้แต่นั่งมองเค้าอยู่ได้ทุกวันแบบไม่ได้ทำอะไรซักที ขนาดพี่ซีวอนประธานตึกเก้าเอาสตาร์บัคส์มาให้พี่ฮยอกแจทุกวันยังไม่ได้ข่าวว่าจีบติดเลย เด็กมอสี่หัวเกรียนหน้าจืดอย่างอีทงเฮจะไปทำอะไรให้เค้าประทับใจได้

     

    ได้แต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คนที่รอก็ลงมาพอดี

     

    เห็นแต่ไกลก็รู้ว่าสีผมน้ำตาลสว่างของร่างบางมันผิดระเบียบ แต่ทำไงได้คนเค้าเป็นเน็ตไอดอลคนตามอินสาแกรมเป็นแสน ทำกิจกรรมให้โรงเรียนไม่ขาด เรื่องสีผมแค่นี้ครูฝ่ายปกครองเค้าคงหยวนๆ ดูอย่างทงเฮสิ ดำสนิทขนาดนี้ นอกจากแค่ที่ปรึกษาจะชมว่าถูกระเบียบดีแล้วก็ไม่มีใครสนใจอีกเลย

     

    ก็ธรรมดาซะอย่างนี้แหละพี่ฮยอกแจถึงไม่เห็นหัวกันซักที

     

    วันนี้ริมฝีปากบางสีสดนั่นดูจะยิ้มง่ายเป็นพิเศษ เสียงหัวเราะร่วนดังกลั้วกับบทสนทนาไม่หยุด เพื่อนกลุ่มฮยอกแจมีกันห้าคน หลีดโรงเรียนสอง ดรัมเมเยอร์สอง กรรมการนักเรียนหนึ่ง เอาง่ายๆว่าโคตรรวมเซเลปโรงเรียน เข้าโรงอาหารมาคนก็มองกันเกินครึ่งแล้ว

     

    ยกเว้นอีทงเฮ

     

    ปากกาในมือกำลังเขียนตัวอักษรเร็วรัวตามความคิดที่จู่ๆก็แล่นเร็วขึ้นมา ย่อความจากหนังสือเล่มโปรดที่เพิ่งอ่านจบเป็นเล่มที่สี่ของสัปดาห์ พี่ฮยอกแจคงนั่งโต๊ะเดิมนั่นแหละ เดี๋ยวค่อยเงยหน้าขึ้นมองก็ได้ อีกอย่างขืนหันไปมองตรงๆแบบนั้นพี่เค้าได้คิดว่าทงเฮเป็นติ่งเซเลปโรงเรียนธรรมดาๆน่ะสิ 

     

    ไม่อยากให้เห็นว่าเป็นแฟนคลับ เพราะอยากเป็นแฟนครับเข้าใจมั๊ย

     

    แต่ทงเฮก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วไม่เห็นกลุ่มพี่ฮยอกแจนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิมอย่างทุกที วันนี้กลับมานั่งอยู่โต๊ะตัวถัดไปจากที่ทงเฮนั่งอยู่

     

    โต๊ะข้างๆ... 

    ใกล้ๆอย่างนี้เลย...

     

    ว่าแล้วก็ก้มหน้าทำรักการอ่านต่อแล้วกัน ใกล้ขนาดนี้จะไปแอบมองได้ยังไงพี่ฮยอกแจนี่ใช้ไม่ได้จริงๆเลย บ่นในใจไปอย่างนั้นแล้วก็หยิบหูฟังมาสร้างโลกส่วนตัวโดยที่ไม่ได้เปิดเพลงด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าระแวงคนที่แอบชอบจะจำตัวเองได้จากงานกีฬาสีรึเปล่า แต่ทงเฮกลับรู้สึกว่าถูกคนโต๊ะนั้นเหลือบมามองบ่อยๆ 

     

    ไม่ได้แอบฟังหรอกน่า เรื่องที่คุยกันเค้าเข้าใจซะที่ไหน ใครอันฟอลอินสตราแกรมใคร ใครรีวิวครีมซ้ำกับใคร ทงเฮจะไปสนใจทำไม พวกเซเลปนี่เข้าใจยากจริงๆเลย 

     

    แต่ก็แปลกเหมือนกันที่ไม่ค่อยได้ยินเสียงพี่ฮยอกแจในบทสนทนา ทั้งที่เมื่อกี๊ยังหัวเราะร่าอยู่นี่นา

     

     

    สี่โมงครึ่งละ ไปเรียนกันในที่สุดเสียงที่ทงเฮได้ยินไม่บ่อยแต่ก็จำได้ขึ้นใจก็เอ่ยขึ้น เสียงเก็บของกุกกักดังอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่นักเรียนออร่าจับห้าคนนั้นจะเดินจากไป ริมฝีปากบางพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทีวันงานกีฬาสีล่ะทำเป็นเก่งไปยืนซับเหงื่อให้เค้า ไม่รู้เอาความกล้ามาจากไหน พอวันนี้เค้าเดินมาใกล้ๆหน่อยถึงกับตัวแข็งไปเลย เบื่อตัวเอง

     

    อีทงเฮนั่งทำการบ้านต่อจนเสร็จก่อนจะเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านบ้าง ทว่าตาคมเหลือบไปเห็นสมุดสีชมพูวางอยู่บนโต๊ะข้างๆเสียก่อน

     

    สมุดรักการอ่าน หน้าตาเหมือนสมุดในกระเป๋าของอีทงเฮ

     

     

    มีชื่อเขียนอยู่ข้างหน้าว่า

    อีฮยอกแจ

     

    เชี่ย…” ถึงกับเผลอสบถออกมา อะไรดลใจให้พี่ฮยอกแจลืมสมุดรักการอ่านทิ้งเอาไว้ในวันที่ทงเฮทำการบ้านรักการอ่าน นี่พรหมลิขิตแห่งสมุดรักการอ่านใช่มั๊ย ตอบ

     

    ยืนจ้องสมุดนิ่งๆพักนึงก่อนจะค่อยๆหยิบขึ้นมาเปิดดู มองดูรอบๆให้แน่ใจว่าไม่มีใครสนใจทงเฮอยู่ เดี๋ยวจะหาว่าเป็นขโมยสรุปว่าใช้ของพี่ฮยอกแจจริงๆจากสายการเรียนและเลขที่ห้อง แถมยังมีโพสอิทสีชมพูแสบตาแปะไว้ที่หน้าแรกอีกต่างหาก

     

     

    ย่อความสิบเล่ม

    ส่งอาจารย์แชยอง ห้อง 808

    29 Nov.

     

    hyukjae_allrisesilver

     

     

    อ่านจบแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ไอชื่อที่ลงท้ายไว้น่ะไม่เข้าใจ ใช้ปากกาคนละสีเหมือนเขียนเติมเอาทีหลัง แต่ที่แน่ๆวันที่ 29 พฤศจิกายนน่ะมันพรุ่งนี้แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วมาลืมสมุดทิ้งไว้อย่างนี้เนี่ยนะ คิดได้อย่างนั้นนิ้วเรียวก็พลิกหน้าที่เหลือดู เส้นบันทัดสีดำเรียงตัวกันทุกคู่หน้ากระดาษยังคงสะอาดเหมือนใหม่ ไร้การขีดเขียนใดๆราวกับเพิ่งซื้อมาเมื่อกี๊นี้

     

    นี่คือการบ้านที่ต้องส่งพรุ่งนี้ของพี่ฮยอกแจ 

    ขยันเหลือเกิน...

     

    อีทงเฮเม้มปากอย่างครุ่นคิด สมุดรักการอ่านปกติอาจารย์ตรวจแล้วไม่ส่งคืน เป็นคะแนนช่วยอะไรแบบนั้น แต่ถ้าไม่ส่งก็แย่เหมือนกันประเด็นคือ อาจารย์คงไม่ส่งสมุดคืน เพราะฉะนั้น ทงเฮจะทำ

     

     

    ไหนๆก็อ่านหนังสือเป็นนิสัยอยู่แล้ว เขียนให้พี่ฮยอกแจแค่สิบเล่มไม่เกินความสามารถทงเฮหรอก อย่างน้อยก็ถือว่าช่วยไม่ให้พี่เค้าติด .ก็แล้วกัน สรุปว่าเก็บใส่กระเป๋ากลับบ้าน

     

     

    อีทงเฮสะพายกระเป๋าเดินออกจากโรงเรียนมา

    โดยลืมนึกไปว่า ความบังเอิญไม่มีจริง

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

     

     23.33 .

     

    ห้าทุ่มครึ่งแล้วยังไม่รู้จะเขียนอะไรลงในสมุดของพี่ฮยอกแจ นั่งเอ๋อแดกอย่างนี้มาแล้วรอบนึงตอนสามทุ่มกว่าๆ จนไล่ตัวเองไปเคลียร์การบ้านเคมีจนเสร็จก่อน แล้วก็มานั่งนิ่งๆอีกรอบ ไม่รู้จะคิดอะไรมากทำไมแค่ทำให้เสร็จๆส่งอาจารย์ไปก็พอ แต่พอมานึกดูว่าถ้าอาจารย์แชยอนส่งคืนพี่เค้าหลังตรวจเสร็จจะเป็นยังไง

     

    ทันใดนั้นในหัวมันก็คิดอะไรบ้าๆขึ้นมาทันที

     

    อีทงเฮอมยิ้มให้ต้นแคคตัสผิวเรียบลายจุดสีขาวบนโต๊ะ ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับชั้นวางหนังสือข้างห้องที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือและนิตยสารมากมายที่ทงเฮสะสม ไม่นับรวมชั้นบนสุดที่เรียงหนังอินดี้ที่ชอบดู ชื่อหนังสือบนสันปกค่อยๆถูกอ่านผ่านสายตาของทงเฮช้าๆ พร้อมๆกับในสมองที่กำลังปะติดปะต่อบางอย่างอยู่

     

     

    รายชื่อที่เข้าหมวดหมู่ในหัวของเด็กชายถูกจดลงบนกระดาษแผ่นเล็ก คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างครุ่นคิดเมื่อไล่อ่านไปตามชื่อต่างๆที่มีทั้งคำนาม ประโยค และวลี พยายามหาจุดเชื่อมต่อบางอย่างเพื่อให้เกิดเป็นข้อความที่คิดเอาไว้ในหัว

     

    แม้จะใช้เวลานานหลายชั่วโมง ต้องเซิร์ซหาชื่อหนังสือเล่มอื่นเพิ่มบ้าง แต่สุดท้ายทงเฮก็ทำมันจนเสร็จ นึกหมั่นไส้ตัวเองที่ทีเวลาทำการบ้านส่งอาจารย์ไม่เห็นมีแรงฮึดขนาดนี้บ้าง กับเรื่องพี่ฮยอกแจนี่ต้องทำอะไรไม่มีบ่น ง่วงก็ไม่ง่วง ทำไมเป็นคนแบบนี้

     

     

    02.12 น.

     

    สมุดหน้าปกแข็งสีชมพูถูกหย่อนลงไปในกระเป๋านักเรียนเรียบร้อย เหลือเพียงแวะไปส่งที่ห้องอาจารย์แชยอนพรุ่งนี้ตอนเช้าเท่านั้น ที่คิดจนหัวจะระเบิดเมื่อกี๊นี้พี่ฮยอกแจจะได้อ่านมั๊ยไม่รู้ แต่ทำไปแล้วมันรู้สึกดีเหมือนได้พูดสิ่งที่อยากบอก แค่นั้นทงเฮก็พอใจ

     

    คืนนี้คงนอนฝันดี

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

    สอบไฟนอลผ่านไป ทุลักทุเลกว่ามิดเทอมสิบเท่า เพราะต้องรับกรรมจากมิดเทอมที่คะแนนแสนจะห่วยแตกเลยต้องมาฉุดชีวิตเกรดตัวเองจากข้อสอบไฟนอล ซึ่งกว่าจะจบเนื้อหาแต่ละวิชาทงเฮแทบจะอ้วกออกมาเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เหนื่อยในระดับที่ไม่มีเวลาไปนั่งส่องพี่ฮยอกแจทุกวันเหมือนเมื่อก่อน เลยได้เจอแค่เพียงครั้งคราวเท่านั้น อย่างเช่นวันที่พี่ฮยอกแจมีเรียนพละที่โรงยิมใกล้ๆ หรือบังเอิญเค้าผ่านมากินข้าวที่โรงอาหารใหญ่ที่ทงเฮกินข้าวกลางวันประจำ 

    ไม่รู้ว่าร่างบางรู้ตัวบ้างรึเปล่าว่าการบ้านรักการอ่านตอนนั้นมีคนส่งให้แล้ว แต่การแอบมองอีฮยอกแจจากที่ไกลๆก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ทงเฮรู้สึกดีอยู่เสมอ 

     

    จนกระทั่งปิดเทอม ตารางเรียนพิเศษเต็มแน่นเอียดทุกวัน แถมโอกาสเจอพี่ฮยอกแจกลายเป็นศูนย์เพราะไม่ได้ไปโรงเรียน สิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงชีวิตหัวใจเหี่ยวๆเหมือนแคคตัสขาดน้ำของทงเฮคงจะเป็นไอจี eunhyukee44 ที่อัพเดทอยู่ตลอดเวลาล่ะมั้ง

     

    ตอนนี้ก็เช่นกัน

     

    หน้าไอจีชื่อที่คุ้นจนแทบจะหลับตาพิมพ์ยังถูกปรากฏกรอบสีเหลี่ยมสีเทาของรูปที่เพิ่งอัพใหม่แต่ยังโหลดไม่เสร็จ นิ้วเรียวกดกดโหลดดูทันที ไม่มีโลเคชั่นห้ามฝากร้านเหมือนที่เคย ทำให้คนที่รอภาพโหลดอยู่เลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

     

    ไม่นานแถบสีขาวก็โหลดจนเต็ม ปรากฏภาพโทนสว่างภาพหนึ่งที่ทำเอาร่างหนาแทบหยุดหายใจ

     

    “…”

     

    ใจทงเฮเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ สีหน้าเบื่อๆของเด็กชายที่นั่งเรียนฟิสิกส์อยู่ในโรงเรียนกวดวิชาหายสนิทไปชั่วพริบตา แทนทีด้วยสีหน้าตกใจ ปนดีใจ ปนหลากหลายความรู้สึกจนมั่วไปหมด

     

    รูปโพรารอยด์ของทงเฮรูปนั้น...

     

     

    พี่ฮยอคแจถือรูปโพรารอยด์ที่ทงเฮถ่ายให้ตอนงานวันกีฬาสี ชูขึ้นบนฟ้าแล้วถ่ายรูปอัพลงอินสตาแกรม ตามด้วยแคปชั่น...

     

     

     

    eunhyukee44 : I miss… #throwback #sportsday

     

    มิสอะไร

    มิสวันกีฬาสี มิสตอนเป็นลีดใช่มั๊ย ทงเฮจะไม่คิดอะไรเข้าข้างตัวเองอย่างมิสทงเฮหรอกนะ ไม่ได้คิดเลยจริงๆ โอ้ย...

     

    อีทงเฮหมดสิ้นแล้วซึ่งสมาธิในการเรียนหนังสือ เรียวนิ้วกดแคปหน้าจอทันทีที่ตั้งสติได้ แต่ทันใดนั้นมือสั่นๆก็เลื่อนลงไปที่รูปอีกครั้ง และเผลอแตะหน้าจอไปสองครั้ง

     

     

    “เหี้ย!” สบถออกมาเสียงดังจนคนทั้งห้องหันมามอง ทงเฮตะครุบไอโฟนที่เกือบจะหล่นลงพื้นขึ้นมาทันที รู้สึกอยากกลั้นหายใจตายที่มือลั่นไปกดไลค์รูปพี่เค้า แถมเพิ่งอัพเมื่อไม่ถึงนาที ไลค์ยังมีไม่กี่คน บ้าไปแล้ว พอเริ่มตั้งสติจับไอโฟนนิ่งๆได้ก็เลื่อนลงมากดปุ่มเอาไลค์ออกทันที เหนื่อยใจตัวเอง ทำไมต้องจริงจังขนาดนี้ด้วย สติแตกชัดๆ

     

    หลังจากนั้นในหัวก็โล่งมาก เรียนไม่รู้เรื่อง ไม่เห็นกระดานอะไรเลยนอกจากใบหน้าเจ้าของไอจี

     

    จู่ๆทงเฮก็คิดขึ้นมาเล่นๆว่าถ้าเปิดเทอมขึ้นมอห้าไปแล้วก็อยากทำตัวเองให้ดูดีขึ้น อยากจะไปทำความรู้จักกับพี่เค้าเหมือนกัน ปีนี้พี่ฮยอกแจจะขึ้นมอหกแล้ว อย่างน้อยเป็นคนรู้จักของเค้าบ้างก็ยังดี ชีวิตมอปลายมันก็แค่สามปีสั้นๆ มัวมานั่งเรียนหัวฟูหน้ามันแบบนี้ก็เสียเวลาเปล่า

     

    จริงๆก็แค่คิดเล่นๆในใจ

    แต่แค่เอ่ยปากชวนคยูฮยอนไปรักษาสิวเย็นนั้นทุกอย่างก็เลยเถิด

    จากรักษาสิวก็ไปตัดผม จากผมรองทรงที่ยาวขึ้นเพราะปิดเทอม ช่างก็เล็มเล็กน้อยจนกลายเป็นทรงอะไรก็ไม่รู้ที่ทงเฮเห็นชัดๆว่ายังยาวผิดระเบียบ

    ตอกย้ำความกบฎด้วยการย้อมผมสีน้ำตาล ถึงไม่อ่อนเท่าพี่ฮยอกแจแต่มันก็ทำให้ใบหน้าของทงเฮสว่างขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

    ทงเฮรู้จักแว๊กซ์ผมเป็นครั้งแรกจากร้านนั้น แล้วเค้าก็เริ่มเรียนรู้ที่จะเซตผมตัวเองให้เป็นทรง 

    รวมทั้งครีมบำรุงผิวหน้าและโคโลญจ์ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิต

     

    ถ้าเล่าให้แม่ฟัง คงจะได้รับเสียงสะอึกสะอื้นตอบกลับมาว่าทงเฮของแม่โตเป็นหนุ่มแล้ว

    แต่จะไม่เล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจหรอกนะ เดี๋ยวจะร้องไห้ไม่หยุด

     

    ระยะเวลาสามสัปดาห์ก่อนเปิดเทอมกลายเป็นเหมือนระยะฟักตัวของเด็กชายที่ก้าวสู่ความเป็นเด็กหนุ่ม

    ทงเฮค้นพบว่ามันตื่นเต้นและสนุกดีที่ได้ทำอะไรใหม่ๆ ไม่เชิงเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะทงเฮก็ยังคงเป็นทงเฮคนเดิมอยู่

     

    ขอเรียกมันว่าพัฒนาการเพื่อพี่ฮยอกแจ

     

     

     

    |

     

    |

     

     

    เปิดเทอมมอห้าได้สองสามวันแล้ว วิชาใหม่ๆเริ่มสาดเข้าใส่ชีวิตของนักเรียนสายวิทย์อันแสนแข็งแกร่งและอดทนอีกครั้ง โชคดีที่ตอนปิดเทอมไม่ทำตัวขี้เกียจจึงพอรู้สึกว่าเตรียมตัวมารับมืออยู่บ้าง อีทงเฮนั่งกดโทรศัพท์เล่นตามนิสัย รอคยูฮยอนกินข้าวให้เสร็จแล้วจะเดินไปตึกเรียกตึกใหม่ของพี่ฮยอกแจกัน ปีนี้มอหกสายศิลป์ย้ายไปเรียนตึกสาม ห่างไกลอีทงเฮเหมือนเดิม ก็กะแค่จะไปแอบถ่ายตารางสอนที่แปะอยู่บนประตูหน้าห้องเรียนเค้านั่นแหละ อยากรู้ว่ามีเรียนที่ไหนอะไรยังไงบ้าง เผื่อจะบังเอิญเจอกันอะไรแบบนั้น

     

    โปสเตอร์ประกาศรับสมัครเชียร์ลีดเดอร์ถูกแปะไปทั่วโรงอาหาร แน่นอนว่ามีรูปลีดโรงเรียนปีที่แล้วอย่างพี่ฮยอกแจเด่นหราอยู่ตรงกลาง เดินผ่านแล้วอยากจะแกะกลับไปแปะที่บ้านจริงๆ

     

     

    น้องๆ

     

    น้องครับเสียงเรียกดังขึ้นด้านหลังระหว่างกำลังเดินถือจานไปเก็บดังขึ้นจนทงเฮต้องหันกลับไปมอง รุ่นพี่มอหกกลุ่มนึงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งโรงเรียน เพราะเป็นกลุ่มที่อยู่บนรูปโปสเตอร์ประกาศรับสมัครลีดนั่นแหล่ะนั่นรุ่นพี่ชเวซึงฮยอน

     

     

    ครับ?” อีทงเฮตอบงงๆ สายตาเริ่มอยู่ไม่นิ่งเพราะเป็นไปได้สูงว่าพี่ฮยอกแจจะยืนอยู่ในกลุ่มนั้น...

     

    สมัครลีดมั๊ย มาออดิชั่นก่อนได้นะ น้องดูแบบ …ได้มากเลยเป็นประโยคที่ทงเฮไม่คาดหวังเลยว่าจะได้ยิน

    ใช่ๆ น้องอยู่มออะไรอ่ะผู้หญิงอีกคนเสริม ทงเฮจำได้ว่าชื่อเจสสิก้า

    มอห้าครับ

    โอ้ยไปอยู่ไหนมา เบ้าหน้าดีขนาดนี้น่าจะจับเป็นลีดตั้งแต่มอสี่แล้วหล่อนทำหน้าจริงจัง ก่อนจะยัดใบปลิวกำหนดการณ์ใส่มือทงเฮ

    เคยเป็นลีดสีรึเปล่า คือหล่อมากทำไมพี่ไม่เคยเห็นหน้าผู้หญิงอีกคนเริ่มเข้ามาในบทสนทนา พี่ทิฟฟานี่คือผู้หญิงที่ซ้อมลีดข้างๆพี่ฮยอกแจ เค้าจำได้แม่นสุด ไม่รู้คยูฮยอนหายหัวไปไหนแล้ว แต่ตอนนี้ทงเฮต้องการความช่วยเหลือให้พ้นจากกลุ่มเซเลปลีดโรงเรียนที่รุมเค้าอยู่พร้อมกับจานข้าวที่ยังคาอยู่ในมือ

     

    เอ่อร่างหนาที่ถูกจู่โจมอึกอัก

     

     

    น้องเค้าไม่เป็นลีดหรอก เค้าเล่นบอล

     

     

     

    เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้ทงเฮชาไปทั้งตัว ร่างบางๆที่ยืนอยู่ในกลุ่มส่งยิ้มให้เค้าเล็กน้อยเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่สุดท้ายก็เงียบไป

     

    อ้าวเป็นนักบอลเหรอคะ เสียดายจัง แต่แอบมาออดิชั่นก็ได้นะ เดี๋ยวจะชิงตัวมา

    ใช่ๆ พี่รอเลยอ่ะนักเรียนหญิงตายิ้มยังคงยืนยันให้เค้าเก็บใบกำหนดการณ์เอาไว้ ก่อนที่กลุ่มคนดังของโรงเรียนจะพากันเดินเลยผ่านเค้าไป ถ้าทงเฮไม่ได้ตาฝาด เค้าเห็นนางฟ้าหันมายิ้มให้

     

     

    พี่ฮยอกแจรู้ได้ยังไงว่าทงเฮเตะบอล...

     

     

     

    |

     

    |

     

     

     

    ปีนี้เขียนย่อความหนังสือที่ชอบอ่านสิบเล่มเหมือนเดิมนะ ใช้เล่มเก่าต่อได้เลย อาจารย์ตรวจดูแล้วย่อกันมาสั้นเหลือเกิน พื้นที่เหลืออีกเป็นไร่อาจารย์ประจำวิชาการอ่านแสนอารมณ์ดี ใจดี แต่การบ้านไม่ดี สั่งทีเยอะเหมือนสั่งเสีย ดูสิเปิดเทอมมาไม่ถึงอาทิตย์งานก็มาแล้ว

     

    “หัวหน้าห้องแจกคืนเพื่อนเลยสิ้นเสียงอาจารย์สมุดเล่มสีชมพูก็ถูกส่งต่อกันไปทั่วห้องเพื่อหาเจ้าของ แลกสลับกันไปมาไม่นานเจ้าสมุดปกแข็งมีชื่อฮยอกแจก็มาวางตรงหน้า รางบางขมวดคิ้วนิดๆเมื่อโพสอิทสีชมพูยังแปะอยู่ที่หน้าเดิม แถมด้านในมีลายมือที่ไม่คุ้นเขียนอยู่อย่างเป็นระเบียบเต็มไปหมด 

     

    นิ้วเรียวค่อยๆไล่เปิดดูทีละหน้า ปากกาสีน้ำเงินเขียนตัวอักษรเรียงกันอย่างเรียบร้อยจนอาจารย์ขีดเครื่องไม้ถูกแถมด้วยคำว่าดีมาก อย่างที่อีฮยอกแจไม่เคยได้ แปลกหน่อยก็ตรงมุมบนสุดเป็นชื่อหนังสือ ถูกขีดทับด้วยปากกาไฮไลท์สีเหลืองจนเด่นหรา

     

    เป็นชื่อหนังสือภาษาอังกฤษทั้งหมด

     

    ฮยอกแจขมวดคิ้ว

    ไฮไลท์ทำไม...

     

    เรียวนิ้วพลิกกระดาษไปที่หน้าแรกอีกครั้ง

    คราวนี้เค้าอ่านเพียงแค่ชื่อหนังสือที่ถูกไฮไลท์ด้วยสีเหลือง

     

     

    Now is good by jenny downham

     

    I love it when you smile by Sam Mcbratney

     

    Happiness through your eyes by damrong pinkoon

     

    I am by Howard Falco

     

    Captivated by you by sylvia day 

     

    At first sight by Nicolas Sparks

     

    Here’s looking at you by Mhairi Mcfarlane

     

    Gorgeous by Paul Rudnick

     

    You are beautiful by Ken Paves

     

     

     

     

    P.S. I love you by Cecelia Ahern

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ชื่อหนังสื่อเรียงกัน... เป็นประโยค ได้ใจความ

    อีฮยอกแจกำลังถูกสารภาพรัก...ด้วยชื่อหนังสือ 

     

    เป็นความโรแมนติกเหนือความคาดหมายที่สาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยนึกถึง

     

    ริมฝีปากบางที่เผยอขึ้นด้วยความอึ้งเริ่มระบายยิ้มบนหน้าใสๆที่ขึ้นสีด้วยความเขิน รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงตึกตักในร่างกายอย่างไม่เคยได้ยินมาก่อน เผลอยิ้มกว้างจนตาแทบปิด เรียวนิ้วยังคงเปิดไล่อ่านแต่ละหน้าซ้ำๆจนแทบจะมุดหายลงไปในสมุด 

     

    ทำอะไรไม่ถูก เพราะรู้ดีว่าคนที่เขียนข้อความทั้งหมดนี้เป็นใคร อีฮยอกแจถึงได้รู้สึกดีจนทำอะไรไม่ถูก 

     

     

    แน่นอน ก็เค้าเป็นคนทิ้งสมุดเล่มนี้ไว้ให้คนนั้นเองกับมือ แต่ที่เจออยู่นี่มันผิดจุดประสงค์ที่หวังเอาไว้ เรียกได้ว่าเกินคาด เกินคาดจนอีฮยอกแจอยากจะวิ่งไปหาเด็กคนนั้นซะตอนนี้

     

    และเสียงออดหมดเวลาเรียนก็เป็นใจที่ดังขึ้นถูกจังหวะเวลา ร่างบางลุกพรวดออกจากห้องไปทันทีโดยไม่ได้ทิ้งคำอธิบายใดให้เพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆ และอีฮยอกแจก็รู้เป้าหมายของตัวเองดี

     

     

    |

     

    |

     

     

    “อีทงเฮอยู่มั๊ย” สภาพห้องเรียนหลังหมดคาบสุดท้ายวุ่นวายไปด้วยเสียงคุยและนักเรียนชายหญิงที่เร่งรีบเก็บกระเป๋ากลับบ้าน แต่เพียงประโยคเดียวเท่านั้นทั้งห้องก็หันมามองรุ่นพี่คนดังเป็นตาเดียว

     

    เจ้าของชื่อก็ได้แต่ทำหน้าช็อคอยู่หลังห้อง ยืนตัวแข็งรอให้ร่างบางเดินเข้ามาประชิดอย่างกระทันหัน

     

    "เป็นคนเขียนสมุดนี่ใช่มั๊ย" ตรงประเด็น และไม่รอให้อีกคนตั้งสติเลย

    "ช…ใช่ครับ"

     

    พี่ฮยอกแจมาทำอะไรเนี่ย…

     

    "ขอโทษครับ"

    "ขอโทษทำไม"

    "ก็พี่ดูโกรธ"

    "พี่ไม่ได้โกรธ พี่วิ่งมาเหนื่อย"

    "แล้วพี่วิ่งมาทำไม"

    "มาให้รับผิดชอบ"

     

    "ครับ?"

    "เนี่ย ใช่มั๊ย ที่ไฮไลท์ไว้ …ตั้งใจให้อ่านนี่รึเปล่า now is good..."

    "พอๆพี่ฮยอกแจ ใช่ตามนั้นแหละ ตามนั้นเลย" อีทงเฮรีบโวยวาย ตายแน่ ขืนพี่ฮยอกแจอ่านออกเสียงทงเฮได้ขุดหลุมฝังตัวเองตายตรงนี้ซะยังดีกว่า

     

    "แล้วเนี่ยทำไมไม่แอดไลน์มา"

    "ไลน์อะไรพี่..."

    "อันนี้ชื่อไลน์" เราเขียนทิ้งไว้ให้ อ่อยขนาดนี้แล้ว ไอ้เด็กซื่อบื้อ แทนที่จะแอดไลน์มันดันทำการบ้านให้ซะงั้น แถมสารภาพรักไปด้วยอีกต่างหาก เด็กบ้า

     

    “ก็…ไม่รู้นี่นา เดี๋ยวผมแอดไปแล้วไลน์หา"

    "ไลน์ทำไม นี่อุตส่าวิ่งมาหาแล้ว ไม่ต้องแล้ว"

    "พี่...มาหาผมเหรอ"

    "ใช่น่ะสิ อีทงเฮ" คนถูกเรียกชื่อกระพริบตาปริบๆอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่สายตาก็ต้องสะดุดเมื่อเหลือบไปเห็นเพื่อนสนิทตัวเองกำลังชูไอโฟนหันมาทางเค้ากับพี่ฮยอกแจ

     

    "เชี่ยคยูฮยอนถ่ายรูปทำไม เดี๋ยวเหอะมึง"

    "ไม่ด่าฝั่งนู้นบ้างอ่ะ รยออุคแม่งถ่ายคลิป"

    "รยออุค!"

    "เราแค่ถ่ายสแนปแชท!"

    "คืออะไรวะ เออช่างเหอะ หยุดทั้งหมด"

     

    "พี่ฮยอกแจ อุคเอาลงไอจีนะ"

    "แท็คพี่ด้วย"

    "เห้ยลงทำไม"

     

    "ก็โมเม้นท์สารภาพรัก"

     

    "..." ทงเฮถึงกับพูดไม่ออก

     

    นี่กำลังจะ...สารภาพรักเหรอ ใครจะสารภาพ ทงเฮหรือพี่ฮยอกแจ โอ้ยไม่รู้อะไรแล้วทั้งนั้น พี่กลับห้องไปได้มั๊ยนี่อยากจะบ้าตาย

     

    "เมื่อกี๊... พี่เรียก ผม?" ใช่ พี่ฮยอกแจเรียกชื่ออีทงเฮ

     

    "อือ..." ร่างบางเริ่มยกมือขึ้นแตะปลายจมูกตัวเองเมื่อรู้สึกว่าหน้ามันร้อนๆ

     

    "เริ่มตรงไหนดี …อืม ขอบคุณนมเปรี้ยวตอนนั้นละกัน" ...เห็นด้วยเหรอ ตอนเอาเข้าไปให้หลับอยู่นี่ พี่ฮยอกแจแกล้งหลับรึไง ทำไมร้าย

    "ผม เอ่อ ตั้งใจเตะบอลไปโดนพี่เองแหละ" ไหนๆก็พูดแล้วก็พูดไปเลยละกัน

    "ฮะ?"

    "คือผมเห็นพี่เหมือนจะล้มแต่ไม่ล้มซักที ไม่อยากให้พี่ทรมานนานอ่ะ"

    "นี่55555555" เจ้าของรอยยิ้มหน้ารักหลุดขำออกมา เดาทางคงามคิดของคนตรงหน้าไม่ออกแม้แต่นิด อีทงเฮดูเรียบง่ายแต่ซับซ้อน เหมือนยิ่งคุยด้วยยิ่งอยากรู้จัก

    "ผมขอโทษนะ" เห็นหน้าหงอยๆสำนึกผิดแล้วยิ่งตลกเข้าไปใหญ่

    "ไม่เป็นไรๆ5555"

     

    "อ่อ รูปถ่ายโพรารอยด์ด้วย ชอบมากเลย"

    "โอ้ยพี่จำได้หมดเลย"

    "คิดว่าแอบมองคนอื่นเป็นคนเดียวรึไง"

    "..." ทงเฮอยากระเบิดตัวเองตาย

     

    "โอ้ยพี่ฮยอกแจเขินน่ารักสัด"

    "คยูฮยอนมึงซูมๆๆ"

    "ลงไปสิบวิคนกดไลค์จะร้อยแล้ว!"

    "รยออุคให้เครดิตกูด้วย นั่นกูถ่าย"

     

    ทงเฮอยากหาปืนกราดยิง จังหวะนี้ต้องการสมาธิแต่ดูเหมือนสิ่งแวดล้อมไม่เป็นใจ เพื่อนทั้งในห้องและนอกห้องเริ่มมามุงดู มือหนากำแน่นจนชื้นเหงื่อไปหมด ตื่นเต้นจนอยากจะวิ่งหนี แต่เห็นคนตรงหน้าแล้วไปไหนไม่รอด

     

    ไม่ทนแล้ว

     

    "ไปคุยที่อื่นกัน" คนเด็กกว่าเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง

    "เอ่อ อือ ไป"

    "ก็... ไป"

    "ไป..."

    เก้ๆกังๆกันทั้งคู่ไม่รู้จะขยับร่างกายไปทางไหน สายตาเป็นสิบๆคู่จ้องอยู่ยังพอว่า นี่เล่นถือโทรศัพท์ถ่ายกันทุกคน เกรงใจกันบ้างโว้ย

     

    "ไป" เมื่อไม่รู้ใครจะไปทางไหนก่อนดี อีทงเฮตัดสินใจคว้าข้อมือเล็กแล้วจูงรุ่นพี่คนดังออกมาจากดงมนุษย์ จนเสียงโห่แซวดังขึ้นลั่นห้องทันที

     

    "โหยยยยยยย"

    "จับบมืออออออ"

    "อีทงงงเฮฮรรรร"

    "โว้ววววว ไปไหนกันอ่าาาา"

     

    ไปให้พ้นจากพวกมึงอ่ะ

     

    "พี่ฮยอกแจวิ่งดิ"

    "รีบไปไหน5555"

    "ตรงไหนก็ได้ที่ไม่มีคน"

    "จะทำอะไรเราเหรอ"

    "พี่ฮยอกแจ!" คนที่จูงมืออยู่แทบจะหัวทิ่ม คิดอะไรเนี่ยแค่จับข้อมือยังเขินตัวจะไหม้ทงเฮจะมีปัญญาไปทำอะไรได้

     

    "ทงเฮตลก555555"

    "ขำอะไรของพี่อ่ะ" ปล่อยมือแล้ว ปล่อยให้คนน่ารักยืนขำให้พอใจ เหนื่อยนะเนี่ยพาวิ่งออกมายังจะขำอีก

    ตอนนี้ทั้งคู่มายืนอยู่กลางทางเดินข้างสนามบอล ตึกเรียนมอสี่อยู่ด้านซ้ายมือเงียบสงัดเพราะคาบสุดท้ายเลิกคนละเวลา

     

    โอเค หายใจเข้าลึกๆ

     

    "แล้วพามานี่ทำไม" อีฮยอกแจเอ่ยถาม ริมฝีปากบางยังไม่หยุดยิ้ม เริ่มหอบน้อยๆเพราะวิ่งไปหัวเราะไป หายใจแทบไม่ทัน

     

    "มาสารภาพรัก"

     

    โหย... ไอ้บ้า

     

    "แต่แปบนะ ตื่นเต้น" ท่าทางมันจริงจังมาก แต่ทำไมฮยอกแจตลก ร่างกายที่โตขึ้นผิดหูผิดตากับปีที่แล้วทำให้อีทงเฮดูเป็นหนุ่มเต็มตัว แต่การแสดงออกยังคงเป็นอีทงเฮที่เคยแอบมองพี่ฮยอกแจคนเดิม

     

    "คือ... ผมเนี่ย ชื่ออีทงเฮ… อืมๆ พี่ก็รู้แล้วนิเนอะ…เอ่อ... แบบ ชอบพี่ฮยอกแจมานานแล้ว"

    "..." ทำตัวไม่ถูก เด็กมันหล่อมาก จะให้พูดยังไง

    "เคยเตะบอลอัดพี่"

     

    "เคยแอบถ่ายรูปพี่ด้วย...แต่ไม่ชัด"

     

    "แล้วก็ อะไรดี ...คือพี่น่ารักมาก ตามส่องไอจี ไม่รู้จะบอกทำไมแต่คิดมานานแล้วว่าอยากบอก" ตาคู่คมเสมองซ้ายทีขวาทีอย่างประหม่า เกิดมาไม่คิดว่าจะมายืนพูดอะไรอย่างนี้ ในหัวเรียบเรียงไม่เป็นประโยค นึกอะไรก็ออกพูด ยิ่งพูดยิ่งดูตลก ไปบอกเค้าทำไมวะว่าตามส่องไอจี อีทงเฮอยากจะบ้า

     

    แต่หารู้ไม่ว่าท่าทางเก้ๆกังๆแบบนั้นทำให้อีกคนยิ้มกว้างไม่หยุด

     

    "จบแล้วเหรอ"

    "อือ"

     

    เด็กเอ๊ย

     

    "เราก็มีจะสารภาพ เยอะกว่าด้วย" ใบหน้าหวานเชิดขึ้นราวกับจะเล่าเรื่องเพื่อเกทับ ใครสารภาพยาวกว่าชนะ ตอนแรกก็ว่ามันน่าอายจนไม่กล้าพูด แต่พอเห็นอีทงเฮเขินแล้วมันอยากจะแกล้ง

     

    "แอบชอบเด็กที่ไหนไม่รู้คนนึง ไม่รู้จักชื่อ ไม่มีเพื่อนคนไหนรู้จัก หาตัวก็ยาก เจอหน้าแค่ตอนซ้อมลีด เค้าชอบมาเตะบอลใกล้ๆ จะออกจากลีดตั้งนานแล้วเพราะเหนื่อยโคตรๆแต่กลัวไม่ได้เจอ"

     

    คนที่โดนพูดถึงดูเหมือนจะช็อคอีกครั้ง อีฮยอกแจฝืนกลั้นยิ้มเอาไว้ก่อนแล้วพูดต่อ

     

    "ซ่อมสาระสนเทศตั้งสองรอบ รอบแรกไม่ผ่านเพราะไม่มีสมาธิ นึกคำตอบไม่ออก นึกออกแต่ชื่ออะไรทงเฮๆ"

     

    "คนอะไรเฟสบุ๊คก็ไม่เล่น หาที่ไหนก็ไม่เจอ"

     

    "วันกีฬาสีเต้นเพลงโรงเรียนก็ออกท่าผิดด้วย เพราะห่วงรูปโพรารอยด์หล่น"

     

    "ทิ้งชื่อไลน์ไว้ให้ก็ไม่แอดอีก คิดว่าอกหักทั้งปิดเทอมเลย นิสัยไม่ดี" แล้วเปิดเทอมมายังจะหล่อขึ้นอีกนะ นึกว่าไปมีแฟนที่ไหนซะแล้ว

     

    "ทำชีวิตเราวุ่นวายมากเลยรู้ตัวมั๊ย" ขอด่าหน่อยเหอะฮยอกแจทนมานานละ

     

    "ขอโทษ..." ดูมัน ดูมันยิ้มตาหยีแล้วยังจะมาขอโทษ

    "ไม่ต้องมาขอโทษเลย"

    "งั้นขอคบได้มั๊ยล่ะ" อีทงเฮพูดแล้วก็เผลอกัดริมฝีปาก ไม่อยากพูดอะไรมากละ ยืนยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้ว

     

     

    "ก็...ได้" คนน่ารักตอบรับเบาๆก่อนจะเสมองไปทางอื่น อยู่ดีๆแววตาเขินอายของอีทงเฮเปลี่ยนเป็นสายตาอ้อนๆแบบนั้นได้ยังไงก็ไม่รู้ เดาทางมันไม่ถูกเลยเด็กบ้า

     

    "เมื่อยแล้ว อยากหาที่นั่ง"

    "พี่ฮยอกแจอยากนั่งไหนล่ะ"

     

    "นั่งในร้านอาหาร นั่งในร้านเค้ก แล้วก็นั่งในโรงหนังด้วย"

    "โหเยอะจัง"

    "จะนั่งด้วยมั๊ยล่ะ"

    "นั่งดิ นั่งข้างๆเลย"

     

     

    จริงๆก็มีแค่ที่เดียว

    ที่ๆทงเฮอยากนั่งมานานแล้ว

     

     

     

    นั่งในใจพี่ฮยอกแจ

     

     

     

    |

     

    |

     

     

    Instagram

    Ryeowookiez

     

     

    Gaemgyu left comment on your photo : อิจฉาคู่เค้าก็พูด #ทฮฮจ

    Minho_mino left comment on your photo : มึงตกเคมีต่อไปเถอะ ต้องยอมเค้า #ทฮฮจ

    Imsungmin_shop left comment on your photo : ด้วยคน #ฝากร้านเสื้อผ้าสวยๆจ้า  

     

    Leedonghae liked your photo

    eunhyukee44 liked your photo

     

     

    #ทฮฮจ 

     

     

     

    - fin -

     

     

     

     

     

     

     

                คิดถึงมอปลาย ฮืออ หมั่นไส้เนอะอิพวกได้เป็นแฟนกับคนที่ชอบ ไม่รู้จะอะไรยังไง แต่งไปแล้วมันเขินๆ แบบมากๆด้วยแต่ไม่รู้คนอื่นอ่านเป็นยังไง บอกเราด้วยนา TvT (อยากแต่งคู่อิอาจารย์สองคนนั้นจัง โอยๆ)

                ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า

                #ทฮฮจ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×