ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] Hello soulmate [83lines - TeukCin]

    ลำดับตอนที่ #3 : ❥Hello soulmate -------- Two

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 54


                     

     



      - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     




    When I fall in love with you

    Anything is out of the blue…

     

     

     

    เช้าวันใหม่มาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา แสงแห่งรุ่งสางสาดกระทบไปทั่วราวระเบียงที่มีรางโปร่งของชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งพิงหลับอยู่... 

    คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อห้วงแห่งความสุขถูกรบกวน ก่อนที่เปลือกตาสวยจะค่อยปรือขึ้นแล้วกระพริบถี่เพื่อปรับการมองเห็นเข้ากับแสงรอบข้าง ปาร์คจองซูหันมองซ้ายขวาด้วยความงัวเงีย ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจไล่อาการเมื่อยขบเพราะเกร็งตัวนั่งหลับมาหลายชั่วโมง

     

     

    ทำไมกูมานั่งหลับตรงนี้...

     

     

    ร่างโปร่งได้แต่เกาหัวแกรกๆด้วยอาการมึนงง รู้สึกว่าเคยตื่นมาทำหน้าหง่าวอย่างนี้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน แต่คนความจำสั้นขี้หลงขี้ลืมตามวัยก็ไม่คิดอะไรมาก เลื่อนมือลงมาเกาตูดอีกทีก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าห้องพร้อมกับหาววอดใหญ่เสียงดัง

     

    ละเมอนี่หนึ่งในโรคชราด้วยเหรอกูเพิ่งรู้

     

    ร่างงัวเงียก้าวสะดุดกีต้าร์โปร่งที่วางนอนไว้กับพื้นจนหัวโขกเข้ากับขอบประตูอย่างแรงเห็นดาวระยิบระยับ ...เจ้าของใบหน้ายุ่งเอามือกุมหัวก่อนจะสบถสัตว์เลื้อยคลานออกมาเซย์ฮัลโหลยามเช้าด้วยความเจ็บปวด มือแกร่งนวดไปที่รอยปูดบนหน้าผากเบาๆพร้อมกับทุบผนังด้วยความน้อยใจในโชคชะตา ไอ้เหี้ยที่ไหนแม่งเล่นกีต้าร์แล้วไม่รู้จักเก็บเข้าที่ บิดามารดรมึงไม่สั่นสอน ฟาย ผู้ชายปากจัดยิ่งกว่าแม่ค้าตลาดไทยกร่นด่าอย่างอารมณ์เสียโดยที่ประโยคทั้งหมดถูกตีกลับเข้าตัวอย่างไม่ต้องสงสัย

     

    ปาร์คจองซูพยายามใช้เท้าเขี่ยคอกีต้าร์ไปให้พ้นทาง แต่ก็ต้องชะงักกึกเหมือนระรึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

     

    ตาที่แทบจะปิดหรี่มองไปยังกีต้าร์ตัวปัญหาบนพื้นนิ่งๆกีต้าร์โปร่งโง่ๆที่นอนแผ่อยู่บนพื้นไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อะไรเกิดขึ้น หากแต่ปาร์คจองซูยู่ปากขึ้นเหมือนพยายามนึกอะไรบางอย่าง

     

    กีต้าร์ ดีดกีต้าร์


     

    ร่างโปร่งเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเซลล์สมองบางส่วนเริ่มลุกจากเตียงขึ้นมาทำงาน...

     

     

     

    ไฟดับ

     

     

    กีต้าร์

     

     

    เปียโน ...

     

     





    สาว(?)ข้างห้อง...

     

     

    ใบหน้าคมอมยิ้มจนแก้มแทบปริเมื่อซีรีบรัมอายุมากกู้ข้อมูลเก่าขึ้นมาได้ นึกย้อนเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาก่อนจะบิดตัวด้วยความเขิน ปาร์คจองซูก้มหยิบกีต้าร์ที่เพิ่งใช้เท้าเขี่ยขึ้นมากอดไว้แนบอกพร้อมกับทำหน้าเคลิ้มฝันเมื่อเสียงเปียโนนุ่มละมุนยังดังก้องอยู่ในหู...

     

    ร่างโปร่งขยับตัวมาเท้าราวระเบียงก่อนจะหันไปยิ้มให้กระถางต้นไม้ของห้องข้างๆ อย่างเสียสติ

     

    "เจ้าของมึงเค้าตื่นยังวะ"  ริมฝีปากบางเอ่ยถามใบไม้สีเขียวอย่างไม่ต้องการคำตอบ ...ปาร์คจองซูเอามือลูบหน้าตัวเองด้วยความสมเพชที่คุยได้แม้กระทั่งพุ่มใบสีเขียวชื้นๆที่ไม่มีวันตอบคำถามอะไรได้

     

     

    ครืด...

     


     

    เสียงเลื่อนบานกระจกทำให้คนที่กำลังคุยกับต้นไม้อยู่สะดุ้งพรวด ... 

    จองซูรีบวิ่งกลับเข้ามาหลบอยู่หลังประตูระเบียงอย่างรวดเร็วด้วยความปอดแหก..


    พ่อมึง คนเมื่อคืนใช่เปล่าวะ ...ชิบหายแส้ว กูเขินมาก อยากรวมร่างกับประตูระเบียง *ตะกุยแก้ม*


     

     ร่างโปร่งกำคอกีต้าร์ในมือแน่นด้วยความประหม่ากับสิ่งที่ยังมองไม่เห็น ก่อนจะค่อยๆแอบโผล่หัวฟูๆออกมานอกขอบประตูเพื่อแอบดูอีกคนที่เพิ่งออกมา

     


    …..

     

     



    …………..

     

     

     





    ..... เชี่ย...น่ารักมาก ... เห็นแว่บๆแค่ติ่งหูแต่กูบอกได้คำเดียวว่าน่ารักยิ่งกว่าโซฮีวอนเดอร์เกิร์ล

     

    ร่างโปร่งหดหัวเข้ามาในห้องก่อนจะกัดปากระบายความเขิน ...ไม่รู้เป็นบ้าอะไรมากมายกะอีแค่เพื่อนข้างห้องที่เล่นเปียโนเก่ง แต่ตอนรู้แค่ว่ากูตื่นเต้นเหมือนสิบสี่อีกครั้ง

     

    “โทษนะมึง เมื่อกี้เผลอหลับ” เสียงห้าวๆเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนดังมาจากระเบียงห้องข้างๆ ทำปาร์คจองซูหูตั้งหางกระดิกด้วยความสอดรู้ หัวยุ่งฟูค่อยๆแอบโผล่ออกมาดูเพื่อนข้างห้องอีกครั้ง

     

    . . .




    เจ้าของใบหน้าขาวจัดที่ขมวดยุ่งเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ดวงตากลมสวมทับด้วยแว่นกรอบสีแดงยืนเกาะขอบระเบียงด้านที่ติดกับห้องจองซูอยู่ ผมยาวประบ่าสีน้ำตาลอัลมอนต์ถูกมัดขึ้นไปเป็นจุกเล็กๆบนหัว ชุดนอนลายทางสีเทาเหมือนชุดยูนิฟอร์มเด็กโรงเรียนอนุบาลวัยใส ...มือนึงเอื้อมขึ้นมาขยี้ตาใต้กรอบแว่นด้วยความงัวเงีย แต่อีกมือนึงถือบัวรดน้ำอันเล็กๆ กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่

     


    ที่พูดเมื่อกี๊นี่คุยกับต้นไม้?....

     



    สรรพนามกูมึงดูไม่เหมาะกับอิมเมจน้องเค้าเท่าไหร่ แต่อย่างนี้แหล่ะครับ คนหน้าตาดีมักใช้ภาษาที่คนทุกระดับประทับใจ 

    ร่างโปร่งหดหัวเข้ามาอีกครั้งพร้อมใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักที่ยังติดตาอยู่อันที่จริงตราตรึงไปทั้งหัวใจแล้ว แต่เสี่ยวเหลือเกิน ไม่กล้าบอกใคร -//////-

     

    “เมื่อคืนมึงได้ยืนเสียงใครเล่นกีต้าร์เหมือนกูป่ะ ดีดคอร์ดแบบบอดมาก เพี้ยนสุดๆกูทรมานหูเลยเล่นเปียโนกลบแม่งเลย”



     

    น้องเค้าด่ากูอยู่เหรอเขินจัง -////////////-

     


    อยากกระโจนออกไปบอกรักน้องหน้ามนซะเดี๋ยวนี้แต่ติดที่ว่าสังขารไม่เที่ยงเพราะตะคริวเริ่มแดกที่ขา บวกกับสภาพหัวฟูรก หนังหน้าโทรมบัดซบ ปากเก่าๆเหม็นๆ พร้อมรอยปูดบนหน้าผากยิ่งเพิ่มความทุเรศจนกูยังอายตัวเอง

     

    เสียงเลื่อนปิดประตูดังครืดทำให้ปาร์คจองซูพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อรู้ว่าอีกคนกลับเข้าห้องไปแล้ว อาการตะคริวกินเริ่มหายไปเมื่อร่างโปร่งหยุดเกร็งเกินเหตุซักที มือแกร่งค่อยๆวางกีต้าร์ลงกับพื้นอย่างเบามือพร้อมกับค่อยๆย่องไปแนบตัวชิดกับผนังฝั่งที่ติดกับห้องน้องคนเมื่อกี๊ ท่าทางลับๆล่อๆเหมือนกลัวใครจะจับได้ทั้งๆที่อยู่ในห้องตัวเอง ยิ่งทำให้คนมีอายุดูเสียสติยิ่งกว่าเดิม

    ไม่มีเสียงอะไรดังเล็ดลอดออกมาครู่นึง ….ก่อนที่เสียงน้ำสาดกระทบพื้นจะดังแว่วออกมาเบาๆ

    ไม่นานก็ได้ยินเสียงโครมครามอะไรซักอย่างเหมือนอีกคนกำลังเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงเปิดปิดประตูดังปังพร้อมเสียงฝีเท้าวิ่งกระหืดกระหอบออกไป


     

    ปาร์คจองซูย่องไปเปิดประตูห้องดูไล่หลังคนที่เพิ่งวิ่งออกจากห้อง เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาชะลอฝีเท้าไปหยุดอยู่หน้าลิฟท์ผมยาวประบ่าถูกหวีให้เป็นทรงมากขึ้น ปอยผมด้านน่ายาวลงมาปรกขอบแว่นสีแดงเข้มเล็กน้อย ไหล่ขวาหนีบโทรศัพท์แนบไว้กับหูพร้อมริมฝีปากจิ้มลิ้มที่สบถด่าคนในสายอย่างหัวเสีย บนแขนมีเสื้อกาวน์สีขาวพาดอยู่ มือเรียวสวยกำลังไล่เปิดปึกกระดาษในมือเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่างด้วยความเร่งรีบ

     

    “โอเคเจอละๆ แม่งเมื่อคืนไฟดับกูปั่นรายงานไม่เสร็จ ซวยชิบหาย เออมึง ลิฟท์มาละ อีกสิบนาทีเจอกัน บาย” มือบางเก็บโทรศัพท์เข้าใส่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหายตัวเข้าไปในลิฟท์ ประตูบานหนาสีเทาค่อยๆเลื่อนปิดเข้าหากันช้าๆ พร้อมกับชายคนนึงที่ค่อยๆหดหัวกลับเข้ามาในห้องแล้วทรุดตัวลงพิงกับประตูห้องด้วยท่าทางเพ้อจัด

     

    แม้จะใช้ชีวิตบนโลกอันโหดร้ายใบนี้มานานเกือบสามสิบปีแล้วก็ตาม แต่อาการที่เกิดขึ้นมันเหมือนกับปั๊ปปี้เลิฟสมัยมัธยมปลายชั้นปีที่ 5 จริงๆ

     

     

    ชุดนักศึกษาด้วยมึงน่าจะซักยี่สิบต้นๆ

    ที่สำคัญ เสื้อกาวน์

     

     

     

     

     

    นะน้องหมอของพี่…. T///////////T

     

     



     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     




     

    รถยุโรปสีดำสนิทถอยเข้าจอดในบลอคจอดรถใต้คอนโด ประตูรถถูกเปิดออก ...ปรากฏร่างโปร่งของปาร์คจองซูเดินลงมาพร้อมกระเป๋าโน้ตบุ๊คที่สะพายไหล่ไว้ มืออีกข้างถือถุงเครื่องสำอางค์และกระปุกครีมชะลอรอยแห่งวัยหลายยี่ห้อที่แวะซื้อในห้างระหว่างทางไปเอาโน้ตบุ๊คที่ส่งซ่อมร่างโปร่งผิวปากอย่างอารมณ์ดี ...นานๆทีออกไปเจอโลกภายนอกบ้างก็สดชื่นดีเหมือนกัน เพราะหลังจากเห็นน้องหมอในชุดนักศึกษาเมื่อเช้าแล้วปาร์คจองซูก็ตัดสินใจอย่างแนวแน่ว่าต่อจากนี้จะรีเฟรซชีวิตตัวเอง และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อยื้อหนังหน้าให้เด็กลงมากที่สุด


     

    เสียงสัญญาณปิ๊บดังขึ้นเมื่อเจ้าของรถกดปุ่มล็อคเรียบร้อยก่อนจะหย่อนกุญแจรถลงในกระเป๋ากางเกง  ร่างโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ดสีดำกับกางเกงยืนส์สีซืดเดินมาหยุดรอยู่หน้าลิฟท์ พร้อมกับหยิบไอโฟนขึ้นมาเล่นตามนิสัย

     

    ไม่ถึงห้านาที เสียงตึ๊งก็ดังขึ้นพร้อมๆกับประตูบานหนาสีเทาเบื้องหน้าเคลื่อนตัวเปิดออก ขายาวก้าวเข้าไปในกล่องสีเหลี่ยมจตุรัสก่อนจะยกมือขึ้นกดปุ่มชั้นที่ต้องการแล้วพิงตัวกับผนังลิฟท์ ใบหน้าคมก้มลงตั้งหน้าตั้งตาเล่นวอทแอปต่ออย่างไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้าง

     

     

    ประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิดลงเปิดขึ้นอีกครั้งเพราะแรงกดจากปุ่มด้านนอก ชายหนุ่มอีกคนก้าวเข้ามาพิงผนังลิฟท์ข้างปาร์คจองซูอย่างรวดเร็ว เสียงหอบเบาๆทำให้ร่างโปร่งละสายตาจากโทรศัพท์หันไปถามจุดหมายของคนข้างๆหวังจะช่วยกดเลขชั้นให้

     

     

    “ชั้นไหน… …ครับ


     

    ท้ายประโยคขาดห้วงลงเพราะริมฝีปากที่อ้าค้างกลางอากาศไม่สามารถเปล่งเสียงใดๆออกมาได้อีก รางโปร่งหยุดหายใจไปชั่วขณะด้วยความอึ้งเมื่อพบว่าผู้ชายคนข้างๆนั้นเป็นใคร

     


    “อ่าชั้นเดียวกันครับ”

     




     

    ….

     

     

     

    …..

     

     

     

    น้องหมอ….




     

    หัวใจปาร์คจองซูกระตุกวาบก่อนจะเริ่มเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง มือที่เอื้อมไปหวังจะกดปุ่มลิฟท์ นิ่งค้างกลางอากาศ ก่อนจะค่อยๆกำแน่นแล้วเลื่อนมาเกาจมูกด้วยความประหม่า ประตูลิฟท์ค่อยๆเลื่อนตัวปิดลง ขังให้คนแปลกหน้าสองคนใช้อากาศหายใจร่วมกันในกล่องสีเหลี่ยมจตุรัสแคบๆ

    คนนึงพัดปึกกระดาษในมือเพื่อไล่เหงื่อชื้นๆที่ไหลออกมาเพราะรีบวิ่งมาตลอดทาง

    แต่อีกคนกลับมีเหงื่อซึมออกมามากมายทั้งที่ไม่ได้ออกแรงทำอะไร

     

    ร่างโปร่งพยายามเพ่งสายตามองหน้าจอไอโฟนในมือ วอทแอปที่คุยกับรุ่นน้องคนสนิทเด้งขึ้นมาหลายสิบประโยคแล้วแต่ทว่าจองซูกลับไม่ตอบอะไร แววตาสีน้ำตาลเข้มสะท้อนหน้าจอเครื่องมือสื่อสารในมือ หากแต่หัวใจนั้นแยกร่างวิ่งเตลิดไปมารอบลิฟท์อย่างควบคุมไม่ได้

     

    ลิฟท์เหี้ยมึงเปิดประตูเดี๋ยวนี้ ปล่อยกูออกไป! โอ้ยเขินมาก เขินโคตรๆจนไม่รู้จะทำยังไง แค่หายใจยังเกรงใจน้องเค้าเลย อะไรก็ได้ช่วยดูดกูหายไปจากตรงนี้ทีสัดดดดด

     

    โอ้ยเหี้ย ความดันจะขึ้น T________T

     

     

     

    จองซูกัดริมฝีปากล่างแน่น ในหูมันอื้อไปหมดได้ยินแต่เสียงตึกๆเหมือนมีขบวนแห่ขันหมากมาเดินเล่นอยู่ในหัว  สติสตังนี่ไม่ต้องพูดถึง กระเจิดกระเจิงซะจนเจ้าตัวยังนึกสงสัยว่านี่กูชอบหรือกลัวน้องเค้ากันแน่

     

    เจ้าของดวงตาคมค่อยๆรวบรวมความกล้าหรี่ตาไปมองคนข้างๆอีกครั้ง ร่างบางในชุดนักศึกษาเหมือนกับที่เจอเมื่อเช้าไม่ผิดเพี้ยน บนบ่ามีเสื้อกาวน์สีขาวปลอดพาดอยู่ ไหล่อีกข้างสะพายเป้สีแดงเข้มพร้อมกระดาษปึกใหญ่ในมือ ปอยผมสีน้ำตาลแอลมอนต์ชื้นเหงื่อถูกเสยขึ้นอย่างลวกๆเผยให้เห็นดวงหน้าหวานภายใต้กรอบแว่นบาง ดวงตาสวยเหม่อขึ้นมองตัวเลขดิจิทัลเหนือประตูลิฟท์ฆ่าเวลา

    สายตาเกือบโรคจิตของปาร์คจองซูไล่มองขึ้นไปถึงแก้มขาวๆขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความร้อน จนถึงริมฝีปากสีสดที่พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

     

     

                    ………

     

     

     

     

     

     

    (+///////////////////////////////////////////////////+)~~~~

     

     

     

    เหยดน่ารักชิบหายยยยยยยยย!!!! @#%&*)_*&.<>=a;sdfi qnklas-#$@$%*))_(U**&T!!!!!!

     

    กู่ร้องในใจเสียงดัง ก่อนตาคมเลื่อนกลับมามองที่หน้าจอไอโฟนตามเดิม แสร้งเก็กว่าไม่สนใจก่อนจะจิ้มที่ปุ่มโฮมซ้ำๆอย่างบ้าคลั่งเพื่อระบายความเขิน

     

     

    กูอยากใช้เวลาช่วงบั้นปลายชีวิตอยู่ในลิฟท์กับน้องหมอตลอดไป  ….. ( ;  w  ; )

     

     


     

    แค่อยากรู้รังเกียจกันไหม ขอให้มันอย่าเป็นแบบนั้นเลย

    อยากได้ยินเสียงคนที่คุ้นเคย อยากจะเจอคนเดิมที่เคยที่เจอในเมื่อวาน

     

     

    “เหี้ยพ่อตาย!” เสียงริงโทนไอโฟนในมือหวีดร้องขึ้นเสียงดังจนเจ้าของสะดุ้งปล่อยเครื่องมือสื่อสารราคาแพงตกลงกระทบพื้นอย่างแรงพร้อมสบถออกมาด้วยความตกใจ เสียงเพลงคุ้นหูเรียกความสนใจจากอีกคนให้หันมามอง...



     

       หากพรุ่งนี้ทุกอย่างหมุนไป ฉันคนหนึ่งจะยืนตรงที่….

     

    “มึงโทรมาเพื่อ!” ปาร์คจองซูรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย ก่อนจะกดเสียงพูดรอดไรฟันใส่ปลายสายเมื่อเห็นว่าชื่อคนที่โทรมาคือรุ่นน้องคนสนิทที่คุยวอทแอปด้วยกันเมื่อกี๊

     

    “ก็พี่ไม่ตอบวอทแอปล่ะวะ กูก็นึกว่าเบาหวานขึ้นตายห่าไปแล้ว ตกลงงานนั้นมึงเสร็จยัง” เสียงรุ่นน้องร่วมสายอาชีพยังบ่นยืดยาวต่อไป แต่จองซูไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่นิด เพราะถึงแม้ไม่กล้าหันไปมอง แต่ก็รู้สึกได้ว่าคนข้างๆกำลังจ้องมาที่เค้าเพราะเสียงริงโทนที่ดังขึ้น มันเหมือนกับเพลงที่ทั้งสองคนเล่นด้วยกันเมื่อคืน



     

    กูอยากระเบิดตัวตายซักบรึ้ม อีห่าฮยอกแจโทรมาทำเหี้ยอะไรตอนนี้ กูยังไม่พร้อมมีตัวตนใดๆทั้งสิ้น ถึงวันนี้กูจะดูดีมากในเสื้อเชิ้ตสีดำ แต่ครีมชะลอวัยที่ซื้อมายังไม่ได้ใช้เลยไอ้เวร @#%_+(**^%%^$>NM<:L!!!!!



     

                    “พอๆ มึงหุบปากงานนั้นยังไม่เสร็จเพราะเมื่อคืนไฟที่คอนโดกูดับ เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวกูโทรบอกมึงเองโอเคมั๊ยสัด!” ประโยครวบรัดเอ่ยก่อนจะกดตัดสายไปดื้อๆ ปาร์คจองซูพ่นลมหายใจออกมาแรงๆก่อนจะทำใจกล้าหันไปสบตาอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

     

     

                    “งานไม่เสร็จโดนหักคะแนนเพราะไฟดับเมื่อคืนเหมือนกัน ซวยชิบหายเลยเนอะ” เด็กหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าเอ่ยชวนคุยขึ้นมาเบาๆ ท้ายประโยคห้วนเหมือนบ่นกับตัวเองเพราะยังอารมณ์เสียไม่หาย แต่คนที่ยืนอีกมุมของลิฟท์กลับฟินจนแทบสลายร่างหายไปกับอากาศธาตุ

     

                    น้องหมอพูดกับกูวววววว์~~ ❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤

     

                     “...เออใช่ นี่ไม่รู้จะกู้งานคืนได้รึเปล่า เซ็งชิบ” ปาร์คจองซูแสร้งตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเจือความหงุดหงิด ตัวเลขดิจิทัลบนลิฟท์ใกล้ถึงชั้น 21 เต็มทีสิ่งที่คิดได้อย่างเดียวตอนนี้คือหาเรื่องคุยกับคนข้างๆ ...อย่าปล่อยให้โอกาสทำความรู้จักนี้หลุดลอยผ่านไปซีรีบรัมแก่ๆเริ่มแรนด้อมหาประโยคที่ดูปกติและเป็นธรรมชาติมากที่สุดก่อนจะเก็กเสี่ยงหล่อถามออกไป

     

                    “เรียนหมอเหรอเรา?”

     

                    “ครับ ปีสองละ” เสียงนุ่มตอบกลับมาพร้อมระบายยิ้มอย่างเป็นมิตร ทำคนแก่เขินจนเริ่มตาลาย

                   

    “เล่นเปียโนก็เก่งทำไมเรียนหมอล่ะ

     

                    “อ่อ พอดีฉลาดด้วยครับ” เจ้าของใบหน้าหวานตอกกลับมาพร้อมฉีกยิ้มกว้างอย่างยียวน ท่าทางกวนประสาทแต่ดูน่ารักอยู่ในทีทำให้ปาร์คจองซูอดขำออกมาไม่ได้จนลืมฉุดคิดไปว่าประโยคข้างต้นมันเปิดเผยตัวเองโดยอัตโนมัติ

     

                    ประตูลิฟท์เปิดออกพร้อมกับสองร่างที่เดินคู่กันออกมา ทางตรงเบื้องหน้าเงียบซะจนได้ยินเสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วทั้งชั้น

                   

                    “ได้ยินเมื่อคืนเหรอครับ?” หนุ่มน้อยเอ่ยปากถามพร้อมกับเอียงหน้ามองผู้ชายเชิ้ตดำข้างๆด้วยความสงสัย องศาน่ารักที่ไม่ได้ตั้งใจทำให้ปาร์คจองซูแอบนิ่งไปชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะสะดุ้งเฮือกแล้วแกล้งทำท่าเล่นกีต้าร์ลมให้ร่างบ่างข้างๆดูแทนคำพูด

    ชายในชุดนักศึกษาเลิกคิ้วขึ้นเชิงเข้าใจก่อนจะอมยิ้มออกมา

                    “พี่เล่นเพราะดีนะ”

     



                   

     

                    …เมื่อเช้ายังด่าว่ากูเล่นห่วยให้ต้นไม้ฟังอยู่เลยน้องหมอ  (  .     .  )


     

    ร่างบางหยุดฝีเท้าลงเมื่อก้าวมาถึงหน้าประตูห้องของตัวเอง ชายหนุ่มอีกคนเดินล่วงหน้าไปอีกสองสามก้าวก่อนจะหันหน้ากลับมายิ้มหล่อให้เจ้าของใบหน้าหวาน

     

     

     

    “ปาร์คจองซู ยินดีที่ได้รู้จักนะครับเพื่อนข้างห้อง

     

     

     

    แววตาใสเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างตอบกลับไปพร้อมประโยคแนะนำตัวง่ายๆ

     

    “เช่นกันครับ ผมคิมฮีชอล”

     



     

     

     

    To be con.

     

     

     

    -talk-

    (/////////) เขียนไปเขียนมาเริ่มสนุกกับการบรรยายลักษณะพี่ทึกให้แย่ลงเรื่อยๆ 555555

     ตอนหน้าคำว่า “ครับ” กับ “ผม” จะหายไปแล้วนะคะทุกคนฮ่าาาา ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×