ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF,OS] chanbaek

    ลำดับตอนที่ #3 : [OS] eyes mouth dimple - จบแล้ว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.73K
      55
      19 มิ.ย. 57


     

     






     

    ดวงตาของชานยอลเป็นสีน้ำตาลเข้ม สวย และมีวี่แววแห่งความสดใสมากกว่าใครอื่น

     

    ไม่รู้ว่าแบคฮยอนคิดไปเองหรือเปล่า ทว่าหากจะให้นิยามความเป็นไปของดวงตาคู่โตคู่นั้น แบคฮยอนก็ขอบรรยายมันในลักษณะนี้

     

     

    แบคฮยอนยังจำวันสุดท้ายของการสะบั้นความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนได้ดี ชานยอลยืนอยู่อีกฟากฝั่งของบานประตู มือใหญ่ดันทุรังจะเปิดเข้ามาในห้องนอนที่พวกเราแชร์กันอยู่  แต่เขาขัดขวางไว้ ดันตอบสุดแรง พอใกล้แพ้ก็พิงทั้งตัวใส่ประตู ใช้แผ่นหลังดันเข้าสู้

     

    สุดท้ายบานประตูก็ปิดปังลง

     

     

    “ไปสงบสติอารมณ์ซะชานยอล!” แบคฮยอนโพล่งไปเช่นนั้น ด้วยหวังว่าเพื่อนจอมงี่เง่าเอาแต่ใจของเขาจะเปลี่ยนไป

     

    ซึ่งชานยอลก็เปลี่ยนไปจริงๆ เปลี่ยนไปและไม่หวนกลับมาอีก

     

    ไม่ว่าแบคฮยอนจะพยายามเข้าหาเสียเท่าไหร่ เล่นด้วยมากแค่ไหน กระทั่งถูกเนื้อต้องตัวในเวลาเล่นคอนเสิร์ตมากกว่าที่เคยทำๆมา แต่ชานยอลก็ยังคงเปลี่ยนไป

     

     

    แบคฮยอนมองข้อความในคาทกหรือคาคาโอะนิ่งนาน เขาพิมพ์มันส่งถึงชานยอลซักพักแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังไม่พิมพ์ข้อความใดตอบกลับมา

     

    ส่งรูปนั้นให้หน่อย

     

    แบคฮยอนไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ง้อหรือ? เขากำลังงอนง้อขอให้ดวงตาคู่สวยเหลือบมามองเขาบ่อยๆเหมือนเช่นแต่ก่อนจริงๆน่ะหรือ? แบคฮยอนเองไม่แน่ใจความรู้สึก

     

    ที่สำคัญ เขาไม่รู้ว่าง้อทำอย่างไร เพื่อนในกลุ่มเขาสมัยเรียนไม่มีเรื่องให้ต้องตามตื้อขอคืนดีกัน และเขาก็ไม่เคยมีแฟนด้วย

     

    โทรศัพท์สั่นดังครืด...

     

    ชานยอลส่งรูปกลับมาตามที่ขอ ทว่าปราศจากข้อความใด

     

    แบคฮยอนเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ทีแรกเขากะว่าชานยอลคงถามว่ารูปอะไร จากนั้นคงได้พูดคุยกัน ...แต่ไม่เลย ชานยอลรู้ว่าเขาต้องการรูปอะไร ก็เป็นรูปสุนัขสีขาวที่ชานยอลถ่ายลงอินสตาแกรมนั่นแหละ แต่เป็นในท่าทางอื่น ที่แบคฮยอนเคยเปรยไว้ว่าตลกดี

     

     

     

     

    ริมฝีปากของชานยอลเอิบอิ่ม แต่เฉียบบางเมื่อยามยิ้มกว้าง นั่นทำให้ชายหนุ่มมีมิติกว่าใคร

     

    ไม่รู้ว่าแบคฮยอนเพ้อเจ้อไปเองหรือเปล่า แต่หากจะให้บรรยายริมฝีปากของชานยอล แบคฮยอนก็หมดปัญญาจะสรรหาคำอธิบายอื่น

     

    ชานยอลเป็นคนเอาแต่ใจ ลึกๆแล้วอีโก้สูงน่าดู มีพลัง ทั้งยังเปี่ยมด้วยแรงทะเยอทะยานที่จะทำสิ่งต่างๆ  ชายหนุ่มชอบเขา อาจเพราะคิดว่าเขามีหลายอย่างเหมือนเจ้าตัว

     

    แต่ไม่หรอก แบคฮยอนกับชานยอลไม่ใช่งานก้อปปี้ของกันและกัน เรามีความต่าง และทัศนคติของเราไม่ตรงกันอยู่หลายเรื่อง

     

     

    บางทีมันก็น่าเจ็บใจ แบคฮยอนมักเป็นฝ่ายโดนโกรธอยู่เสมอ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะชานยอลต้องการให้เขาเป็นไปในแบบที่เจ้าตัวอยากจะให้เป็นอย่างนั้นหรือ? ก็อาจจะใช่? อยากให้เราใกล้ชิดกัน...อยากให้เราเป็นเพื่อนสนิทที่สุดเพียงคนเดียวของกันและกัน ปรึกษากัน พูดคุยและชอบอะไรที่เหมือนๆกัน

     

     

    แต่แบคฮยอนไม่เคยชินกับการผูกติดกับเพื่อนเพียงหนึ่งคนเช่นนั้น เขาเติบโตมาในกลุ่มเพื่อนใหญ่ๆ อาจไม่ละเอียดอ่อนเท่าชานยอลที่โตมาในครอบครัวที่มีคุณแม่และพี่สาว

     

    แบคฮยอนสนุกไปกับคนทุกคน แต่ชานยอลมีจุดนี้ที่หมือนด็กผู้หญิง ...ชานยอลหึงเพื่อน

     

    มากเข้าก็ประชดประชัน หาคนสนิทมาแทนที่แบคฮยอนให้เจ็บใจเล่นๆอยู่ตลอดเวลา

     

     

    ครั้งสุดท้ายที่บานประตู มันเกิดขึ้นเพราะแบคฮยอนไม่ต้องการไหลไปตามความเอาแต่ใจของเพื่อนตัวสูงแล้ว ใจเขาเต็มไปด้วยคำถาม ...ทำไมต้องแคร์ด้วยเล่า เพื่อนของเขาที่ผ่านมาไม่มีใครเอาแต่ใจได้เท่านี้อีกแล้ว ไม่แล้ว...พอแล้ว...เขาจะไม่งอแงงี่เง่าไปกับชานยอลอีก

     

     

     

    ชานยอล

    ชานยอล

    ปาร์คยอลอ่า

     

    แบคฮยอนรัวแป้นไปอีกสามบรรทัด เชื่อมั่นว่าชานยอลจะต้องอ่าน ตอบไม่ตอบค่อยว่ากันอีกเรื่อง

    และชายหนุ่มก็ไม่ตอบตามที่แบคฮยอนคาดไว้ลึกๆ

     

     

     

     

     

     

    ชานยอลเป็นคนมีแก้ม ร่องลักยิ้มตรงเนื้อแก้มนั้นผลักดันให้เครื่องหน้าทุกอย่างดูมีชีวิตชีวา มันทำให้ชานยอลไม่ดูดุดันจนเกินไป

     

    แบคฮยอนคิดเช่นนั้นเสมอ ยอมรับโดยดุษฎีว่าเพื่อนคนนี้ของเขาหล่อเหลาหาตัวจับยาก แต่เพื่อนสนิทมักจะไม่ชมกันเอง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาจัดลำดับความหล่อของชานยอลไว้แทบรั้งตำแหน่งสุดท้ายของสมาชิกเอ็กโซ

     

    รายนั้นไม่พอใจน่าดู อยู่ต่อหน้ากล้องก็ไม่เท่าไหร่ กลับมาหอเท่านั้นล่ะเคลียร์กันยาว ซึ่งเขาก็เป็นฝ่ายง้อ(?)เด็กเอาแต่ใจคนนั้นไปตามระเบียบ

     

     

    ปกติเวลาที่ชานยอลแสดงอาการไม่พอใจ แบคฮยอนจะจับรังสีได้เสมอ จากนั้นก็จะเป็นแบคฮยอที่ส่งสายตาหา ไม่วกไปพูดเรื่องที่ชานยอลไม่พอใจอีก แต่ปล่อยให้ชานยอลหายเอง เขามีหน้าที่ทำตัวปกติ และเขาหามากกว่าเดิมเป็นพิเศษ...ก็เท่านั้น

     

     

    แต่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างประตูมันคงสาหัสเกินไปสำหรับเด็กงี่เง่า แบคฮยอนอยากให้ชานยอลเข้าใจในมุมของเขาบ้าง ที่ทำได้ก็หวังให้เวลาช่วยทำทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม

     

     

     

     

     

     

     

    ชานยอลเป็นคนมือใหญ่ นิ้วที่ห่อคลุมด้วยแหวนก็มองแล้วไม่ขัดหูขัดตา

     

    แต่ช่วงนี้เจ้าตัวมีแหวนคู่กับคนอื่น มีความสุขน่าดู อาจเพราะคิดว่าเอาคืนเขาได้

     

    แบคฮยอนก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน หัวใจของเขาเกิดความรู้สึกแปลกๆ ...บางทีเขาคงรอให้เวลาผสานช่องว่างเหมือนอย่างทุกทีไม่ได้

     

     

     

     

    “ชานยอล”

     

    นั่นคือคำแรกที่แบคฮยอนเปล่ง หลังจากบิดลูกบิดเข้าไปในห้องของมักเม่โอเซฮุน ชานยอลหนีมานอนห้องนี้ได้ซักพักแล้ว ก็ตั้งแต่มีปัญหากัน

     

    เจ้าของชื่อนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง หน้าบึ้งน่าดู เมื่อเห็นว่าเป็นเขาที่เดินเข้ามาในห้อง

     

     

    “มีอะไร?” เสียงทุ้มต่ำถามห้วนๆ

     

    “มีเกมใหม่น่ะ คิดว่านายน่าจะชอบ”

     

    “ขี้เกียจเล่น” ก็ห้วนอีกตามเคย

     

    แบคฮยอนถอนหายใจ ไม่รู้เลยว่าต้องง้อชานยอลทำไม เพราะอะไร เพื่ออะไร

     

     

    “แก๊บซอง” เหมือนจะตลก แต่ไม่ตลกหรอก นี่คือน้ำเสียงที่ผิดหวังที่สุดเท่าที่แบคฮยอนจะแสดงออกมาได้

     

    เขายืนหน้าชาอยู่ใกล้ประตู มองชานยอลที่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ด้วยหัวใจที่อึดอัดราวกับมีลูกเหล็กมาถ่วงไว้

     

    จริงๆแต่ก่อนก็ดี ...มันก็ไม่ได้แย่อะไรหรอก มีชานยอลตามติด เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของกันและกัน

     

    เขายอมรับผิดก็ได้ เขาผิดเองก็ได้

     

     

    “ชานยอล” แบคฮยอนครางเรียกอีกครั้ง เสียงสั่นพร่าแย่งชิงความสนใจของชานยอลมาจากสมาร์ทโฟนได้ในที่สุด

     

    “เกมสนุกนะ... ฉันลองเล่นแล้ว”

     

    “...”

     

    “นายต้องชอบแน่ๆเลย ชอบเหมือนที่ฉันชอบ” แบคฮยอนพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย พยายามส่งสายตาหยีๆให้เพื่อนตัวสูง หยีเอาไว้เพื่อปิดน้ำตาที่คลอขึ้นมาทำไมก็ไม่อาจรู้ได้

     

    ชานยอลนิ่งไป นาทีสำคัญคือเขาจะตอบตกลงหรือปฏิเสธอีกเป็นครั้งที่สอง

     

     

    แหวนวงนั้นยังคงสวมอยู่บนนิ้วนางข้างขวาของชานยอล ซึ่งแบคฮยอนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆ บางทีการได้ใกล้ชิดชานยอลมันอาจจะทำให้เขาซึมซับนิสัยแปลกๆมาก็ได้ ...อย่างเช่นนิสัยหึงหวงเพื่อน

     

     

    อยากให้เราสนิทกันที่สุดเหมือนแต่ก่อน เป็นเบอร์หนึ่งของกันและกัน และเป็นคนแรกที่อีกฝ่ายคิดถึง

     

     

    “ไหน เกมอะไร”

     

     

    แบคฮยอนน้ำตาไหลตอนชานยอลพูดแบบนั้น เหมือนลูกเหล็กที่ถ่วงหัวใจได้หลุดออกไป เหมือนได้รับการปลดปล่อยจากคุบแคบๆที่แสนจะอึดอัดทรมาน

     

    ชานยอลทำเป็นไม่เห็นที่เขาร้องไห้ อาจเป็นเพราะยังไม่หายโกรธดีนัก

     

    แบคฮยอนปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะควักมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง และตรงดิ่งไปนั่งลงบนเตียงข้างๆกับเพื่อนตัวสูง

     

     

    “นี่ไง เวลานายจะเล่นก็ต้องกดตรงนี้...”

     

    ชานยอลตั้งใจฟังตอนที่เขาอธิบาย นานเข้าก็เริ่มเอาคางมาเกยบนไหล่อย่างที่ชอบทำเป็นประจำ มือใหญ่เลื่อนมาซ้อนมือของเขา อีกนิ้วจิ้มหน้าจอตามที่เขาไกด์ไลน์เอาไว้ให้

     

    ชานยอลไม่รู้หรอกว่าแบคฮยอนโล่งใจขนาดไหน

     

    ดวงตาของชานยอลสวย ริมฝีปากของชานยอลมีสเน่ห์ ลักยิ้มนั่นก็งดงามดีเหลือเกิน

     

    ซึ่งตอนนี้ชานยอลก็ยิ้มจนเกิดรอยบุ๋มลึกที่ข้างแก้ม ราวกับเป็นสัญญาณว่าความสัมพันธ์ที่ดีกำลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

     

     

    อีกครั้ง อีกครั้ง และคงอยู่ตลอดไป

    (หากว่าชานยอลจะไม่งี่เง่าอีก)

     

     

     

     

     

    -END-

     

    สามเรื่องนี่คนละลายเส้น
    แลเป็นคนไม่มีแนวทาง ไม่มีลายเซ็น
    55555555555555555555555555555555555

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×