ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { exo's fiction } pastel yellow : chanbaek

    ลำดับตอนที่ #1 : p a s t e l : y e l l o w : 00

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 57



     








    กระเป๋าสตางค์สีเหลืองพาสเทล เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่แบคฮยอนมีอยู่

     

     

    “มาแต่ตัวจริงๆ”

     

     

    น้ำเสียงประชดประชันและนัยน์ตาดูถูกที่มองมา ทำให้แบคฮยอนก้มหน้าจนชิดอก ดวงตาเรียวรีมองเห็นเพียงปลายเท้าของตัวเองที่หุ้มอยู่ในรองเท้าผ้าใบเก่าๆคู่หนึ่ง

     

     

    “รุ่นแม่ยังไง รุ่นลูกก็อย่างนั้น” เจ้าของน้ำเสียงดุดันยังไม่หยุดตำหนิ แม้ว่าแบคฮยอนจะยังไม่เงยหน้าขึ้นสบตาผู้พูด แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตได้อย่างชัดเจน

     

     

     

     

    ยืนอึดอัดให้อีกฝ่ายพ่นคำปรามาสอยู่ได้ซักพัก ก็มีเทวดาลงมาโปรด

     

     

    “แกก็น้อยๆหน่อยเถอะชานยอล ถ้าไม่มีอะไรทำนอกจากว่าเขา ก็เข้าไปเช็คสต็อคไป”

     

     

     

    แบคฮยอนเงยหน้ามองเทวดาของเขาด้วยสายตาขอบคุณ เทวดาองค์นี้มีอายุพอตัว ถ้าจะเรียกว่าชายชราก็คงไม่ผิดซักเท่าไหร่

     

     

    “ตามใจป๊าแล้วกัน แต่ถ้าของหายหมดบ้านแล้วจะมาหาว่าผมไม่เตือนไม่ได้นะ” ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนที่ ปาร์คชานยอลลูกชายคนเดียวของบ้าน จะเดินลงส้นหนักๆออกไปจากห้องรับแขก

     

     

     

    ก็จะไม่ให้กระฟัดกระเฟียด ทำตัวเป็นวัยรุ่นมีปัญหาได้ยังไงละ ในเมื่อลูกชายของศัตรูคู่อาฆาตจะเข้ามาอาศัยในบ้านตัวเองเป็นเวลานานกว่าสามเดือน

     

     

    คิดแล้วชานยอลก็เบ้ปาก ยกมือขยี้ศีรษระบายอารมณ์

     

     

    ป๊านะป๊า ไม่เข็ดเลยรึยังไงนะ!

     

     

    ไอ้ตระกูลบยอนนี่แสบมาตั้งแต่รุ่นแม่ แต่ก่อนก็อยู่บ้านติดกัน เห็นว่าฐานะยากจนป๊าเขาก็เมตตาช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินให้ตลอด แต่ก็ยังไม่วายทำตัวเณรคุณ ปีนรั้วเข้ามาขโมยของในร้านอยู่บ่อยๆ จนห้าปีที่แล้วย้ายตามผู้ชายไปอยู่ไกลถึงโซล ก็ยั๊งบากหน้ามายืมเงินป๊าเขาได้เดือนละหลายๆหน ไอ้ยืมนี่อย่าเรียกยืมเลยดีกว่า ต้องเรียกว่าแบมือขอแล้วไม่คืนถึงจะถูก ป๊าเขาก็ไม่รู้เทวดาตนไหนเข้าสิง ควักกระเป๋าจ่ายให้ทุกครั้ง พอเขาท้วงก็บอกทำบุญทำทาน

     

     

    ไอ้เรื่องทำทานน่ะปาร์คชานยอลไม่อยากขัด แต่มากไปฝ่ายนั้นมันจะเป็นง่อยเอาน่ะสิ

     

     

    ก็ไม่อยากจะลามปามผู้หญิงที่อายุมากกว่าเป็นสิบๆปีหรอก แค่อยากให้ดัดสันดานกันบ้าง เดี๋ยวจะเป็นอัมพาตก่อนอายุขึ้นเลขสี่

     

     

     

    ทว่านอกจากจะส่งเงินให้ไม่ขาดมือแล้ว คราวนี้ยังเอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอมอีก ...ปาร์คชานยอลจะอกแตกตาย ตัวแม่นี่อย่าหาว่าด่าผู้หญิงเลยนะ แต่แสบสันไม่มีใครเกิน ทั้งขี้มโมย ขี้เหล้าเมายา ปากดีนี่ที่หนึ่ง เรื่องผู้ชายก็ไม่เคยว่างเว้น แล้วมาถึงรุ่นลูก ...หึ ของแบบนี้มันก็ตกทอดส่งต่อกันมานั่นแหละ ถึงจะเป็นลูกติดสามีคนล่าสุดก็เถอะ

     

     

     

    มีอย่างที่ไหน โดนสามีทิ้งแล้วไม่มีปัญญาจัดการกับลูกเขา จนต้องเอามาฝากอดีตเพื่อนบ้าน มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ย!

     

     

    หึ่ย! ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด!

     

     

     

     

     

     

    -------------------

     

     

     

     

     

    “ไอ้ชานยอลมันเป็นคนปากร้ายใจดี เราอย่าไปคิดมากเลยนะ”

     

     

    คำพูดของคุณลุงปาร์ค(ตามที่แม่สั่งให้เรียก) ไม่ได้ทำให้แบคฮยอนใจชื้นขึ้นมาแต่อย่างใด ริมฝีปากบางเม้มแน่นเป็นเส้นตรง ลึกๆแล้วมีความรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่เขาก็ไม่ใช่คนใจเสาะขนาดนั้น

     

     

    “ห้องเราอยู่ชั้นสองซ้ายสุดนะ เมื่อวานลุงให้ชานยอลมันทำความสะอาดให้แล้ว เราก็เข้าไปพักให้หายเหนื่อยแล้วเย็นๆค่อยลงมากินข้าวก็แล้วกัน”

     

     

    สิ้นน้ำเสียงใจดี แบคฮยอนก็โค้งศีรษะแทบจรดพื้น ผงกขึ้นลงอย่างนั้นอยู่หลายที จนคนมีอายุหลุดเสียงหัวเราะ

     

     

    “รู้แล้วว่าขอบคุณ ไปพักเถอะ” อนุญาตอีกครั้งก่อนจะมองตามเด็กหนุ่มขี้เกรงใจที่เดินตัวลีบขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง ...อดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยให้แบคฮยอนเข้ากับลูกชายจอมดื้อของเขาได้ในเร็ววัน

     

     

     

     

     

    ฝ่ายคนตัวเล็ก พอขึ้นมาถึงชั้นสองก็ถึงกับขาสั่น ทั้งชั้นมีแค่สองห้อง นั่นก็คือห้องเขากับห้องที่แขวนป้ายไว้ตัวเบ่อเริ้มว่า ปาร์คชานยอล

     

     

    แบคฮยอนสูดลมหายใจเข้าสุดขั้วปอด ก่อนจะเดินไปสุดทางเดินทางด้ายซ้าย ก่อนจะบิดลูกบิดเข้าไปในห้องที่คุณลุงปาร์คยกให้เป็นห้องพักของเขาในสามเดือนนี้

     

     

    ...เมื่อวานลุงให้ชานยอลมันทำความสะอาดให้แล้ว

     

     

    คำพูดของชายชราผู้ใจดีดังก้องอยู่ในหัว แต่สภาพที่เห็นกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

     

     

     

    เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นให้ห้องเคลือบด้วยฝุ่นหนาเตอะ เพียงแค่เดินลงฝีเท้าเบาๆ ละอองสีเทาก็ปลิวว่อนจะแทบสำลักอากาศ

     

     

     

    แต่ก็ถือว่าชานยอลยังมีความเมตตาอยู่บ้าง เพราะดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะตั้งใจทิ้งอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ให้กลางห้อง  แบคฮยอนเดินไปหยิบไม้กวาดมาถือไว้ในมือ ก่อนจะมองไปรอบๆห้องที่แสนสกปรก ด้วยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ตรงไหน

     

     

    ยืนมึนอยู่ซักพักกว่าจะได้สติ แบคฮยอนเริ่มไล้ไม้กวาดไปบนพื้นพร้อมกวาดฝุ่นเข้าสู่ที่โกย

     

     

    “โอ๊ะ...” อุทานออกมาเบาๆเมื่อดวงตาเรียวเหลือบไปเห็นเจ้าแมงมุมสีดำตัวใหญ่หลบมุมอยู่ตรงขาเตียง

     

     

    “มานี่มา” แบคฮยอนไม่รู้ว่ามันมีพิษหรือไม่ แต่ทางที่ดีไม่ขออยู่ร่วมห้องกันจะดีกว่า แต่ถ้าจะให้ฆ่าแกงก็ทำไม่ลง สุดท้ายก็ตัดสินใจยื่นด้ามไม้กวาดไปทางเจ้าแมงมุมขนาดเท่ากำปั้น ปล่อยให้มันเดินไต่มายังด้ามไม้ ก่อนจะสาวเท้าไปยังหน้าต่าง

     

     

    มือบางเลื่อนบานกระจกออก พยายามยื่นไม้กวาดไปให้ใกล้กิ่งไม้ข้างนอกมากที่สุด เพื่อที่เจ้าแมงมุมจะได้ไต่ไปเกาะต้นไม้นั่น แต่ดูเหมือนว่า วันนี้โชคจะไม่เข้าข้างเด็กหนุ่มซักเท่าไหร่

     

     

     

    “เฮ้ย!! อ๊ากกๆๆ! ปาร์คชานยอลร้องเสียงหลง เมื่ออยู่ดีๆก็มีแมงมุมตัวมหึมาตกลงมาจากฟ้าลงสู่หัวกบาลของเขาเต็มๆ แถมตอนนี้มันยังพยายามไต่เข้าไปในเสื้อของเขาอีก

     

     

    ชายหนุ่มกระโดดเหยงๆ ทั้งปัด ทั้งดิ้นจนหน้าแดงหูแดงไปหมด  แบคฮยอนที่สำนึกได้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ ได้แต่ยืนหน้าซีดเผือดกำไม้กวาดอยู่ที่เดิมตรงชั้นสอง จะผลุบตัวลงนั่งไม่ให้เขาเห็นว่าตัวเองเป็นคนทำแมงมุมหล่นลงไปก็แลจะเป็นการปัดความรับผิดชอบไปหน่อย สุดท้ายเจ้าตัวเล็กจึงตะโกนเสียงสั่นออกไป

     

     

    “พ..พี่ชานยอลครับ”

     

     

    เจ้าของชื่อที่เพิ่งจัดการไล่แมงมุมออกไปจากร่างกายเสร็จเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง พอเห็นคนที่ไม่ชอบขี้หน้ายืนอยู่ตรงหน้าต่างก็ถึงกับกัดฟันกรอด

     

     

    “อะไร!!” ตะคอกถามออกไปเสียงดุ ยอมรับว่าเสียงฟอร์ม...ไอ้เด็กนี่ต้องเห็นเขาตอนปัดแมงมุมแหงๆ

     

     

    “ผมเป็นคน...ทำมันตกลงไปเอง”

     

     

    ปาร์คชานยอลเท้าสะเอวเตรียมหาเรื่อง “มัน? แมงมุม? เมื่อกี้นายทิ้งมันลงมาจากชั้นสอง?”

     

     

    “ครับ” คนตัวเล็กหน้าเจื่อนยอมรับแต่โดยดี มือสองข้างประกบกันเพื่อสื่อว่าเขาขอโทษ

     

     

    “นายจงใจแกล้งฉัน?”

     

     

    “ไม่ใช่นะครับ!” รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุทั้งนั้น ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าชานยอลจะต้องเดือดร้อน แบคฮยอนยอมนอนร่วมห้องกับแมงมุมซะยังจะดีกว่า

     

     

    “นายเปิดศึกก่อนเองนะ” คนตัวสูงชี้หน้าไม่ยอมความ ดวงตากลมโตฉายแววแค้นเคือง

     

     

    “...”

     

     

    “เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



     

     

     

     

    ไม่มีอะไรจะแก้ตัว

    แก้ผ้าก็ไม่มี

    โอเคเลย โอเค 5555555555555555

    #ยลพท

    Seeme

     

     

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×