คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [OS] rainymood - จบแล้ว
“ดราม่ากับแฟนตอนหน้าฝน...”
“...”
“แม่งเป็นเทรนหรอวะไอ้เหี้ย!!”
ในใจครับ พูดในใจล้วนๆ
ที่ทำได้จริงตอนนี้คือกำแฮนด์มอเตอร์ไซต์แน่นเพื่อระบายอารมณ์ และเอ่ยปากพูดได้เพียงแค่ว่า
“ผมขอโทษว่ะพี่”
เหมือนพูดกับหมาเลยครับ หมาที่ฟังภาษามนุษย์ไม่รู้เรื่อง ไอ้พี่ปาร์คฟังหูซ้ายทะลุหูขวา แถมยังมองเลยหัวผมไปประหนึ่งบยอนแบคฮยอนเป็นแค่ธาตุอากาศ
เรื่องของเรื่องคือผมไปทำอะไรซักอย่างที่ทำให้คุณแฟนสุดที่รัก(?)โกรธ ซึ่งก็เข้าใจว่าปาร์คชานยอลน่ะวัยทองแล้ว อะไรนิดอะไรหน่อยก็พิโรธโกรธา ขัดหูขัดตาไปหมด คิดดูดิครับว่าพี่ท่านไลน์มาถามผมว่า
‘เฮ้ยแบค เคยเกลียดนิสัยตัวเองบ้างปะ’
ไลน์งี้มาตอนห้าทุ่มกว่าๆ ไอ้ผมก็กำลังอ่านนิยาย สไกป์คุยกับเพื่อนหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เจองี้เข้าไปถึงกับขนมร่วงออกจากปาก มือก็สไลด์หน้าจอขึ้นมาอ่านข้อความนั้นซ้ำๆและถามตัวเองว่า
พี่ปาร์คแม่งหลอกด่ากูใช่ปะวะ???
คือมันคงไม่ใช่คำถามธรรมดาประเภทที่ว่า เฮ้นาย นายว่าวันนี้อากาศดีปะ? คือคงไม่ใช่แบบนั้นแน่ นี่มันหลอกด่าสันดานกันชัดๆ
ผมนั่งอ่านข้อความนั้นประมาณสิบนาที พิมพ์ข้อความกลับไปก็ขึ้น read แต่พี่แกไม่ตอบ ...นั่นละ เลยตรัสรู้ว่าไอ้แก่โกรธกูชัวร์ๆ เรื่องไรของแม่งวะ
นั่งดราม่าอยู่ในโซเชียลเน็ตเวิร์คซักพักก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา สุดท้ายก็ต้องลากสังขารขี่มอไซต์มาหาพี่ท่านถึงที่บ้าน
กลับเข้าสู่ปัจจุบัน คุณปาร์คชานยอลวัยยี่สิบปลายๆยืนหน้าบึ้งอยู่ตรงหน้ารถสีแดงแจ๋ของผม ยืนขวางรั้วเป็นนัยว่าไม่ให้ผมเข้าบ้านแน่ๆ
“เฮ้ยก็บอกว่าขอโทษไง” เอาไรนักหนาวะ ให้รำถวายเลยมั้ย
“...” คุณปาร์คก็ยังยืนกอดอกทำไม่รู้ไม่ชี้เหมือนเดิม เหอะ...แต่ใจพี่แกอ่ะอ่อนให้ผม ไม่งั้นไม่ลงมาหาหรอก
“ให้เด็กขี่มอไซต์มาหาดึกๆ แมนปะเนี่ย”
“ใครใช้ให้มาล่ะ” นั่น ยอมพูดด้วยจนได้ ปาร์คชานยอลเป็นมนุษย์ลุงที่ต้องพูดแรงๆให้จี้ใจครับ ไม่งั้นแม่งไม่ยอมพูดตอบ
“ฝนจะตกอ่ะ ขึ้นบ้านได้ปะ”
“ไม่ได้ กลับไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่”
“...”
“นะๆ ขึ้นไปคุยกันบนบ้านนะ” อ้อนบวกทำเหมือนบ้านเดี่ยวของคุณปาร์คเป็นสมบัติของตัวเอง
ผมจ้องหน้าบึ้งๆของคุณปาร์คกลับอย่างไม่ยอมแพ้ กระโดดลงมอเตอร์ไซต์แล้วเข็นไปพิงไว้ข้างรั้ว ก่อนจะปีนรั้วบุกแม่ง...สายเลือดโจรแท้ๆเลยพูดแค่นี้
“เกเรว่ะ” พี่ปาร์คบ่นก่อนจะเดินตามเข้ามา ในขณะที่ผมวิ่งเข้าบ้านอย่างชำนาญทาง หลับตาเดินยังรู้อ่ะก็คบกันมาห้าปีแล้ว ไม่นับที่รู้จักอีกตั้งแต่เด็กๆ
แม่งเลี้ยงต้อยกู หล่อน่ะเนี่ยถึงยอม
ผมเดินเข้าครัวก่อนเลยครับ เจอขนมอะไรก็หยิบๆขึ้นมาอุ้ม คือบยอนแบคฮยอนเป็นเด็กหิวโซตลอดเวลา เพราะตู้เย็นที่บ้านโคฟเวอร์เป็นทะเลทราย แล้งแค้นแล้วแล้งแค้นอีก ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้จนนะ แต่ทำไมป๊าม๊าไม่ชอบซื้อไรใส่ตู้เย็น กลัวลูกอ้วนหรอ(ไม่ทันมั้ยยังไง)
เนียนจิ๊กขนมเสร็จก็วิ่งขึ้นห้องนอนครับ แทบจะลืมจุดประสงค์เลยว่ามาบ้านไอ้คุณปาร์คทำไม
“กินเสร็จรีบกลับเลยนะ” คุณชานยอลเดินหน้ายุ่งมานั่งบนเตียง นางเป็นมนุษย์ลุงที่ไม่เคยเข้าใจความชอบอะไรของผมซักอย่างครับ เรื่องกิน เรื่องเพื่อน เรื่องบ้าเกาหลี คือไม่เข้าใจ ไม่สนใจ ไม่ถาม ไม่ ไม่ ไม่ ไม่อะไรทั้งสิ้น
แต่มันก็ดีอย่าง เพราะทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีพื้นที่ส่วนตัว
แต่ก็เสียตรงที่ผมแม่งโคตรเหงาเลยว่ะ
ผมนอนกินขนมในขณะที่ตาก็มองตามคุณปาร์คที่หยิบแว่นตรงหัวเตียงมาสวม หยิบหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหน้ามากางอ่านบนหน้าตัก คุณปาร์คเป็นอาจารย์มหาลัยที่โคตรจะให้ไฮโซ ผู้ดีชิบหายอ่ะว่าง่ายๆ ขี้สำอางอีก ทำอะไรก็ต้องมีเหตุผล พูดก็น้อย จะพูดทีก็หนักไปทางสั่งสอน จนผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเบบี้ที่เพิ่งหลุดมาจากช่องคลอดยังไงยังงั้น
“โกรธไรเราอ่ะ” ผมเปิดประเด็น คุณปาร์คปรายตามองลอดแว่น ก่อนจะตอบ
“อย่าให้หกเลอะเตียง”
คัมซาฮัมนิดา -_-
“โกรธไรก็บอกดิ”
“วันนี้ไปคุยกับใครมาอ่ะ”
ผมขมวดคิ้ว...คุยกับใคร วันนี้ผมไปคุยกับใครมาวะ?
“อ๋อออ พี่รหัส พี่เค้าแวะเอาชีทวิชาเอกมาให้ นี่หึงอ่อ”
โอ๊ยตาย หึงไม่ดูหนังหน้าแฟนแลยชิบหายละ
“แหน่ะ หึง” ผมแหย่ พี่ปาร์คหลุดยิ้ม
น่ะมียงมียิ้ม ไม่ได้โกรธจริง แต่หลอกให้มาหาดึกๆดื่นๆอ่ะดี๊ มีแผนป่ะเนี่ย
ผมเขยิบเข้าไปนั่งใกล้พี่ปาร์ค คุยเล่นกันไปตามประสา พอเกือบตีสองพี่ปาร์คก็ขับรถมาส่งที่บ้าน
ระหว่างทางฝนก็ตกปรอยๆ เออกูรู้ว่าฤดูฝน ไม่ต้องโชว์หลักฐานตลอดเวก็ได้
“ร้องเพลงหน่อยดิ” จู่ๆคุณปาร์คท่านก็รีเควส
“บ้า เสียงไม่เพราะ”
“เออน่า นิดนึง” ...สุดท้ายผมก็ร้องครับ เพลงเกาหลีเนี่ยแหละ ฟังไม่ออกก็เรื่องของเอ็ง ข้าเป็นติ่งอ่ะ จบนะ
คบกับพี่ปาร์คก็เนือยๆ บางทีก็เหนื่อยบ้าง เจอกันก็ไม่บ่อย เปิดเผยก็ไม่ใช่สไตล์อีก มาถ่ายรูปลงเฟส ลงอินสตาแกรมนี่ไม่ใช่นิสัยพวกเราเลยครับ เจอกันก็ไม่มีไรจะพูด นั่งมองหน้า เล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย ไม่หวานเลย แต่ก็เป็นแบบนี้มาห้าปีแล้ว ไม่รู้ลากสังขารกันมายังไง
ผมกระชับมือพี่ปาร์ค แหวนทองเกลี้ยงๆของเรากระทบกัน ฟีลแบบมุ้งมิ้งสุด
“ป๊อกกี้สีเขียวอร่อยอ่ะ ไปญี่ปุ่นแล้วซื้อมาอีกดิ”
พี่ปาร์คหัวเราะเบาๆ “อันนั้นซื้อมาจากเกาหลี”
“อ้าวหรอ เออนั่นแหละ อร่อยดี”
“แบค”
“ไร”
“ไม่ค่อยบอกแต่ก็รู้ช้ะว่ารักอ่ะ”
“เพ้อเจ้อ”
-END-
เอ้าก็ฟิคสั้น
ความคิดเห็น