คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ♥ chaper 1 : ปอ ปลา 100%
บนเส้นทาง...มีขวากหนาม...นามว่าคุณ
Mushroom Forest
20 ธันวา 2012
ถึงสาวงามตระกูลปาร์ค
ขอบคุณสำหรับของขวัญสุดพิเศษที่ดีเด่เกินจะหาอะไรมาเทียบเทียม! ตั๋วเครื่องบิน! นี่แม่กำลังบังคับให้ผมกับไปเฉลิมฉลองขึ้นปีใหม่ที่บ้านกับเหล่าญาติที่แสนน่าเบื่อหรอครับ? พระเจ้า แม่รู้มั้ยว่ากว่าผมจะได้รับยอมรับให้เป็นหนึ่งในหนุ่มฮ็อตของคลับโอแมนกลางเมืองนิวยอร์คได้นี่มันยากแค่ไหน แม่คงนึกภาพไม่ออก แต่บอกได้เลยว่ามันยากพอๆกับการหาหนังสือเรียนซักเล่มในห้องของผม
อ่อ แม่อย่าเพิ่งบ่นผมนะ และช่วยพับโครงการที่จะให้ผมเรียนต่อไปได้เลย ปีนี้ผมยี่สิบเก้าแล้ว และแน่นอนว่าเราจะไม่พูดถึงเรื่องเรียนกันอีก อย่างไรก็ตาม ผมนึกขอโทษแม่อยู่เสมอที่ไม่สามารถคว้าใบปริญญามาให้แม่ได้ แต่ขอให้แม่รู้ไว้อย่าง ...สตีฟ จ็อบส์ก็เรียนไม่จบเช่นกัน ผมเชื่อว่าผมต้องประสบความสำเร็จได้แน่ ฉะนั้น ผมขอบอกแม่เลยแล้วกัน ว่าช่วยเอาตั๋วเครื่องบินไฟท์บังคับนี่กลับไป แล้วส่งเงินซักแสนดอลล่ามาให้ผมเปิดธุรกิจร้านเหล้าแทน ขอโทษที่ปีใหม่นี้ผมคงอยู่ที่โอแมน
แล้วแม่จะได้เห็นความสำเร็จของลูกชายคนนี้อย่างแน่นอน
ก็รักเหมือนเดิม
ปาร์ค ชานยอล
…………………………………….
29 ธันวา 2012
เรียนคุณนาย
ให้ทายว่านี่ใคร? ก็นะ ผมเอง ลูกชายแม่นั่นแหละ แม่รู้มั้ยว่าความดื้อดึงที่จะลากผมกลับโซลในเทศกาลปีใหม่นี่มันยุ่งยากมากแค่ไหน ถ้าแม่มาเห็นสบามบินตอนนี้ แม่คงเพลียเหมือนผมแน่ๆ ผมรู้สึกเหมือนจะเป็นลมเลย คนแน่นยังกะข้าวโพดในซุปที่แม่เคยทำให้ผมตอนเด็กๆ
ฉบับนี้คงต้องจบแค่นี้ และผมคงได้มีโอกาสยื่นซองให้แม่เองกับมือ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงเราคงได้พบกันแล้ว
หวังว่าแม่จะยังสวยเหมือนเมื่อปีที่แล้วตอนแวะมาเยี่ยมผมที่เวอร์จีเนียร์
ปล.ผมเอารถสปอร์ตมากับเครื่องด้วย ซึ่งรถน่าจะเดินทางมาถึงหลังผมซักอาทิตย์ อย่าเพิ่งตกใจที่ผมเอาเงินที่แม่ส่งมาไปซื้อรถสปอร์ต เพราะยังมีมินิคูปเปอร์กับจากัวร์อีกอย่างละคัน
ด้วยรัก
ปาร์ค ชานยอล
…………………………….
ท่าอากาศยานอินชอน
31 ธันวา 2012
ท่ามกลางมวลชนที่หนาแน่นอันเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลปีใหม่ ใครคนหนึ่งโดดเด่นออกมา อาจจะด้วยความสูงแตะ 180 เซนติเมตร เส้นผมสีทองสว่างปาดเสยจนเรียบแปล้ ซ้ำยังชโลมเจลจนชุ่มเป็นเงาเหมือนอาบแว็กซ์ ใบหน้าได้รูปภายใต้แว่นกันแดดเรย์แบนอันใหญ่ รองเท้าบู้ทสุดหรูจาก Massimo dutti ผู้ชายคนนี้เป็นที่ดึงดูดสายตาเพราะอะไรกันนะ เพราะโค้ทหนังกลับของชาแนลอย่างนั้นหรือ? ก็อาจจะใช่
แต่จุดสำคัญมันอยู่ตรงนี้ต่างหาก...
ปาร์ค ชานยอลยกมือขึ้นเสยผม อีกข้างถอดแว่นกันแดดสีดำออก ขายาวเรียวหยุดเดินและพ้อยท์ประหนึ่งนายแบบเกรดเอที่ส่งตรงมาจากแคทวอล์คแห่งปารีส
ชายหนุ่มกระหยิ่มยิ้มในใจ ไม่ว่าสาวคนไหน ก็เหลียวหลังกลับมามองความเพอร์เฟ็คของเขาทั้งนั้น ส่วนผสมที่ลงตัวดุจเทพสวรรค์ ปาร์คชานยอลไม่ได้หลงตัวเองขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ เขาคงเป็นบุรุษที่หล่อที่สุดในเกาหลีใต้ ไม่ใช่สิ... จริงๆแล้วน่าจะเอเซียเลยด้วยซ้ำ
ในขณะที่หนุ่มรูปงามกำลังคิดไปต่างๆนานา เด็กหญิงชาวไอร์แลนด์ที่กำลังรอเที่ยวบินกลับบ้านเกิดอยู่แถวๆนั้น กลับคิดว่าเขาก็แค่ผู้ชายเพี้ยนๆที่ลืมรูดซิปกางเกงก็เท่านั้นเอง
“เฮ้มิสเตอร์ปาร์ค!!” แน่นอนว่ามิสเตอร์ปาร์คไม่ได้มีคนเดียวในโลก ชายชาวเกาหลีนามสกุลปาร์คพร้อมใจกันหันไปมองต้นตอของเสียงที่ยืนพิงราวเหล็กตรงช่องทางออก แต่มีเพียงหนึ่งปาร์คเท่านั้นที่เดินล้วงกระเป๋าไปหาคนพูด
“ไงเสี่ยวลู่หาน” ชานยอลไฮไฟว์ทักทาย อีกฝ่ายขมวดคิ้วสงสัยเล็กน้อย
“นายไม่มีกระเป๋าเดินทางหรอ?”
“ฉันโหลดมันมาพร้อมรถ น่าจะมาถึงซักอาทิตย์หน้า”
ลู่หานพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ ดวงตากลมโตมองเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยด้วยกันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นายนี่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”
“หล่อ?”
“เปล่า ดูจะเรื่อยเปื่อยและแต่งตัวจัดเหมือนเดิม เดาว่าปีนี้นายก็ยังตกงาน”
หนุ่มหล่อแห่งคลับโอแมนถึงกับคอแข็งกับคำสบประมาทของเพื่อนรัก “ฉันไม่เคยตกงาน เพราะงานที่นิวยอร์กกระจอกเกินไปสำหรับฉัน แล้วที่ฉันกลับมานี่ก็เพื่อดำรงประธานบริษัทเคที”
ลู่หานแสร้งทำสีหน้าตกใจ “ว้าว! ช่างวิเศษอะไรอย่างนี้”
“แล้วนี่นายมารับฉันแค่คนเดียวหรอ?” ชานยอลเป็นฝ่ายถามบ้างขณะก้าวขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับบนรถสปอร์ตสีเหลืองเปลือกไข่ของลู่หาน
“แหงดิ คิดว่าคนอายุจะสามสิบอย่างพวกเราว่างงานมากนักรึไง นี่กว่าฉันจะปลีกตัวจากที่ทำงานมาได้แม่งเกือบตายเลยนะ”
“ฉันต้องกราบขอบคุณเลยมั้ยล่ะ?”
“แต่คืนนี้เซฮุนกับไคสัญญาว่าจะมาเคาท์ดาวน์ปีใหม่กับพวกเราด้วย”
“เคาท์ดาวน์?”
“ใช่ รับรองว่าคลับร็อคไนต์ของฉันเด็ดไม่แพ้โอแมนแน่นอน!!”
………………………………………….
“พี่จีมินอ่า...ผมต้องใส่ไอ้ชุดบ้าๆนี่จริงๆหรอ” แบคฮยอนทำหน้างอปนออดอ้อนใส่รุ่นพี่สาวสวยที่เป็นคนยื่นชุดทำงานสำหรับเทศกาลพิเศษมาให้
“อย่าบ่นน่า พวกเราก็ต้องใส่เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ”
แบคฮยอนไม่ได้งอแงอะไรออกมาอีก แต่ปากบางสีแดงระเรื่อที่ยังคว่ำอยู่เหมือนเดิมก็บ่งบอกถึงความไม่พอใจได้เป็นอย่างดี
จีมินตบไหล่เล็กของรุ่นน้องเบาๆ “คิดไรมาก ผู้จัดการเขาสั่งมาอย่างนี้ก็เพราะอยากให้ร้านเราดึงดูดลูกค้า ปีใหม่นี้รับรองทิปบานแน่ๆ ....เลิกคิดมากได้แล้วไอ้หนุ่มน้อย มาตั้งใจทำงานเพื่อทิปกันดีกว่านะ”
พอได้ยินเรื่องเงินๆทองๆ คนตัวเล็กจึงพอจะยิ้มออกมาได้ แบคฮยอนทำท่าไฟท์ติ้งให้รุ่นพี่คนสวยก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ
แบคฮยอนมองเงาสะท้อนของตัวเองผ่านกระจกใส....นี่ถ้าไม่บอกว่าที่ทำงานพาร์ทไทม์ของเขาเป็นไนต์คลับธรรมดาๆ เขาคงคิดว่าที่นี่เป็นบาร์เกย์ไปแล้ว!
ยูนิฟอร์มสีชมพูฟูฟ่องนี่มันอะไรกันเนี่ย?!
แบคฮยอนแยกเขี้ยวใส่กระจก เผื่อว่ากระต่ายน้อยในนั้นจะกลายร่างเป็นพญาเสือขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหน เขาในตอนนี้มันก็หนีไม่พ้นคุณกระต่ายสีชมพูหวานแหววอยู่ดี
เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีชมพูอ่อนผูกหูกระต่ายที่ปกเสื้อ กางเกงที่ปกติจะเป็นสแล็คสีดำ กลายร่างเป็นกางเกงจัมพ์ขาสี่ส่วน ผ้ากันเปื้อนผูกเอวสีชมพูเข้ม
ที่จริงมันก็พอรับได้อยู่หรอก ถ้าไม่มีไอ้หางกระต่ายสีขาวปุกปุยที่ติดมากับกางเกงเนี่ย! ไอ้ที่คาดผมหูกระต่ายนี่ก็ด้วย!
แบคฮยอนถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะก้าวออกมาจากห้องน้ำ พอออกมาเห็นพนักงานชายคนอื่นที่มีสภาพไม่ต่างกัน เขาก็พอจะมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ...เอาวะ อย่างน้อยคุณหัวหน้าพนักงานเชว ชีวอนก็อยู่ในชุดเดียวกับเขา
“คุณกระต่ายแบคฮยอนน่ารักจัง หันมายิ้มหน่อยเร็ว”
แชะ!
ไม่ทันได้ตั้งตัว ภาพคุณกระต่ายน้อยที่ทำหน้าเหวอก็ถูกบันทึกลงในโทรศัพท์มือถือของคิมจงแดเป็นที่เรียบร้อย
“ย่า! ลบออกเดี๋ยวนี้เลยนะ จะถ่ายไปทำไมเนี่ย” แบคฮยอนหน้ำคว่ำ พยายามแย่งมือถือของเพื่อนร่วมงานมากำจัดไฟล์ภาพทิ้งเสีย แต่เจ้าของเครื่องไม่ให้ความร่วมมือแถมยังหัวเราะชอบใจ
“จะลบทำไมเล่า ฉันถ่ายเก็บไว้ให้คุณคริสของนายดูไง ฮ่าๆๆ”
“พี่คริสเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ เอามาลบเดี๋ยวนี้เลย!” แบคฮยอนยังคงไม่ละพยายามจะยื้อแย่ง แต่พอเห็นท่าว่าเพื่อนรักไม่ยอมส่งมือถือมาให้แน่ๆ คนตัวเล็กจึงเลิกใช้กำลังมาเป็นสันติวิธีแทน
“ลบมันไปเถอะนะเฉิน นะๆๆ”
“ก็ให้คุณคริสดูก่อน แล้วเดี๋ยวฉันค่อยลบ”
“ก็ทำไมต้องให้พี่คริสดูด้วยเล่า!”
“ก็ตอนนี้นายน่ารักนี่ คุณคริสน่าสงสารออกที่อดเห็นนายตอนนี้อ่ะ”
“พูดไม่รู้เรื่องใหญ่แล้วนะจงแด!”
“คุณคริสน่าสงสารจะตาย แทนที่จะได้เห็นแฟนตัวเองแต่งตัวน่ารักๆ ทำตัวอ้อนๆบ้าง กลับต้องเห็นนายเหงื่อโชกส่งโค้กทุกวัน”
แบคฮยอนยังคงหน้างอไม่เลิก “พี่คริสเป็นเจ้านายฉันต่างหาก บอกไม่รู้กี่ร้อยรอบแล้วเนี่ย!”
หลังจากที่ตระเวนส่งน้ำอัดลมตามร้านชำต่างๆได้ห้าเดือน อู้อี๋ฟานคนหล่อขวัญใจสาวโรงงานก็ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าคนงานส่งของ ส่วนแบคฮยอนคนนี้ก็ยังคงสถานะเดิม อ่อ...ได้ค่าแรงเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แล้วก็ได้สวัสดิการเป็นผ้าเย็นวันล่ะผืน
“เจ้านายอะไรมารับมาส่งนายทำงานทุกวัน คิดว่าฉันไม่เห็นหรอ ฮุนไดสีดำคันนั้นน่ะ”
“ขี้เกียจเถียงแล้วเว้ย ไม่ลบก็ไม่ต้องลบ!” แบคฮยอนยู่ปาก ก่อนจะเดินลงฝ่าเท้าเข้าไปทำงานข้างในตัวคลับ
จงแดมองตามยิ้มๆ ก่อนจะกดส่งรูปที่เขาเพิ่งถ่ายไปยังเบอร์ของชายหนุ่มสุดหล่อที่แบคฮยอนจอมปากแข็งบอกว่าอีกฝ่ายเป็นแค่เจ้านายเท่านั้น
……………………………………
“บันนี่ร็อคไนต์?” ปาร์คชานยอลอ่านป้ายไฟที่ติดอยู่หน้าทางเข้าโอ่อ่าของไนต์คลับสำหรับพวกไฮโซ ลู่หานที่เดินตามมายกแขนขึ้นพาดบ่าเพื่อนรัก ขณะที่ดวงตากลมมองคลับที่สร้างมากับมืออย่างภาคภูมิใจ
“ใช่ บันนี่ร็อคไนต์ จริงๆแล้วชื่อร็อคไนต์เฉยๆ แต่คืนนี้พิเศษหน่อย เพราะเป็นปีใหม่”
“แต่ปีนี้ไม่ช่ปีกระต่ายนี่หว่า ทำไมเป็นธีมบันนี่วะ?” ชายหนุ่มร่างสูงในชุดท่องราตรีหนังแก้วเลิกคิ้วสงสัย
“งั้นมึงปฏิเสธมาสิ ว่าไม่ชอบสาวๆในชุดกระต่าย”
เพื่อนรักสองคนยิ้มให้กันอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพากันเดินเท่เข้าไปข้างใน
เสียงเพลงแดนซ์จังหวะหนักปลุกเอาสัญชาตญาณดิบให้ลุกซู่ซ่า ยามที่กลิ่นแอลกอฮอล์ ควันบุหรี่และบารากุคละเคล้าผสมกันท่ามกลางแสงสีวิบวับ มันช่างเป็นภาพที่ลงตัวไปเสียหมดสำหนับนักเที่ยวกลางคืนตัวยงอย่างปาร์คชานยอล
โต๊ะตัวในสุดมีเพื่อนรักอีกสองคนที่มารออยู่ก่อนแล้ว กำลังนัวเนียอยู่กับสาวๆชุดบันนี่สีชมพูแหวว พอเห็นชานยอลกับลู่หานเดินเข้ามา ทั้งสองจึงผละสาวๆออก แล้วยื่นเหล้าต้อนรับเพื่อนในแบบฉบับผู้ชายแทน
“ชนเว้ย! คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ” ชานยอลรินโซดาใส่แก้วที่มีเหล้าอยู่เกินครึ่ง แล้วยกขึ้นชูพร้อมฟองฟูฟ่องที่ไหลรินออกมาท่วมขอบแก้ว
“เมาห่าไร พรุ่งนี้ทำงาน” นักการตลาดเจ้าของหุ้นเป็นร้อยตัวอย่างโอเซฮุนบ่นอุบแต่ก็ยอมยกแก้วของตนไปจรดกับเพื่อนๆที่รอชนอยู่กลางอากาศ
“วันนี้ใครพูดเรื่องงานโดนบอยคอร์ตนะเว้ย” ลู่หานตั้งกติกา
“งั้นไอ้ชานยอลก็สบายเลยดิ ก็แม่งเกิดมาไม่เคยทำงานเลยนี่หว่า ฮ่าๆๆ”
“อ้าวๆไอ้ดำ หาเรื่องนี่หว่า ไม่อยากจะโม้เหอะว่านัดรวมญาติพรุ่งนี้ แม่ต้องประกาศยกบริษัทให้ฉันแน่ๆ” คนตัวสูงที่สุดในกลุ่มเชิดหน้าอย่างถือดี ก่อนจะกระดกแอลกอฮอล์เข้าปาก
จากนั้นเรื่องสัพเพเหระทั่วไปก็หลุดออกมาจากคนทั้งสี่ไม่ขาดสาย ตามประสาหนุ่มใหญ่วัยทำงานที่ไม่ค่อยได้สังสรรค์กันเท่าไหร่นัก
สรุปได้คร่าวๆก็คือ...
ลู่หานที่จบจากมหาลัย NY ด้วยเกรดเฉลี่ยสองกว่าๆ มีไนต์คลับหรูเป็นของตัวเองสามที่ และกำลังจะเปิดสาขาที่สี่ในอีกสองเดือนข้างหน้า ไม่นับธุรกิจอัญมณีที่ครอบครัวเป็นเจ้าของ เป็นต้นแบบของคนเรียนห่วยแต่จับทางสิ่งที่ตัวเองชอบได้และประสบความสำเร็จอย่างค่อยเป็นค่อยไป (จริงๆก็ได้ทุนตั้งต้นจากพ่อแม่อ่ะนะ แต่ไม่อยากโม้ว่าใช้คืนได้ตั้งแต่ปีแรก)
คิมจงอินโปรแกรมเมอร์ชั้นแนวหน้าของเกาหลี ตอนนี้เปิดบริษัทเกมเป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่วายถูกทีมไมโครซอฟต์จากอเมริกาส่งจดหมายเชิญไปร่วมงานอยู่บ่อยๆ
โอเซฮุนเจ้าของเกียรตินิยมเหรียญทองสาขาบริหารธุรกิจ เจ้าพ่อการตลาด เป็นที่ปรึกษาให้บริษัทยักษ์ใหญ่ ไหนจะหุ้นส่วนตัวที่ทำกำไรมหาศาลในแต่ละปี
เรียกได้ว่าเรื่องงานไปได้ดีกันทุกคน ...แต่ก็ไม่แปลกอะไร พวกเขาต่างก็อายุมากขนาดนี้แล้ว
แต่...
แต่ปาร์ค ชานยอลนี่สิ มองไม่เห็นอนาคตซักเท่าไหร่
หลังจากสังสรรค์กันไปได้ซักพักลู่หานก็ขอตัวไปเดินสำรวจไนต์คลับของตัวเอง ในโต๊ะจึงเหลือแค่สามหนุ่ม ชานยอล จงอิน แล้วก็เซฮุนเท่านั้น
“มาเล่นเกมกันดีกว่า” คิมจงอินทำหน้าเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำเชิญชวนให้เล่นเกม เล่นเอาคนอื่นๆเริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่พวกเขากำลังจะได้ทำกันต่อไปนี้
“เกมอะไร?” ชานยอลหรี่ตามถาม ความบ้าบิ่นและสุดโต่งอันเป็นลักษณะเฉพาะของชายหนุ่มเริ่มพุกพล่านอยู่ในกระแสเลือด
หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งค่อยๆฉีกยิ้มร้าย พร้อมกับคำตอบที่ทำให้อะดีนนารีนของเพื่อนในกลุ่มทำงาน
“เกม..”
“...”
“จับหางกระต่าย”
เซฮุนเป็นคนแรกที่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าๆๆไอ้บ้าเอ๊ย! ตื่นเต้นตายล่ะ ไปไล่จับก้นพนักงานเนี่ยนะ ไอ้ลู่หานได้เตะพวกแกออกจากผับมันพอดี”
จงอินแสร้งทำเป็นหูทวนลมกับคนที่ไม่เห็นด้วย ร่างสูงใช้ปลายเท้าสะกิดเท้าของชานยอลที่อยู่ใต้โต๊ะ อีกฝ่ายพยักหน้าเป็นเชิงว่าเห็นด้วย ก่อนที่จะพยักเพยิดให้คนคิดเกมเป็นฝ่ายเปิดก่อน
จงอินขยิบตาส่งวิงค์ให้ชานยอลเป็นเชิงว่า ‘ได้อยู่แล้ว’ ก่อนที่หนุ่มผิวเข้มจะลุกขึ้นจากเบาะบุกำมะหยี่
ชานยอลมองตามเพื่อนรักที่ออกล่ากระต่ายด้วยท่าทีแบดบอย จงอินแหวกม่านฝูงชนที่กำลังวาดลวดลายอยู่บนฟลอร์ก่อนที่กระต่ายสาวตัวแรกจะถูกตะปบเข้าที่หาง หล่อนหันมายิ้มเอียงอาย ก่อนจะเริ่มชวนหนุ่มผิวเข้มให้เต้นรำด้วยกัน จงอินยิ้มปฏิเสธก่อนจะออกล่าอีกครั้ง...
ไม่น่าเชื่อว่าภายในเวลาแค่ห้านาที ชายหนุ่มก็จับกระต่ายได้ถึงหกตัวและไม่มีตัวใดพยศกับเขาเลย
จึงเป็นทีของชานยอลบ้าง…
ตอนที่ร่างสูงลุกออกไปจากโต๊ะ เซฮุนกระซิบกระซาบกับจงอินว่า “ฉันว่ามันแพ้นายแน่ๆ ไอ้บ้าชานยอลทั้งซื่อบื้อทั้งมือหนัก”
แล้วก็ดูเหมือนว่าคำสบประมาทของเซฮุนจะเป็นจริง…
แบคฮยอนถึงกับช็อคเมื่อมีมือหนึ่งเอื้อมมาบีบที่ก้นของเขาแรงๆ
แรงจนแทบจะเกินจากคำว่าลวนลาม ข้ามเส้นเป็นทำร้ายร่างกาย!
ชานยอลฉีกยิ้มกว้างตอนที่กระต่ายหนุ่มตัวเล็กน่ารักหันมามองหน้า ...นี่เจ้ากระต่ายคงหลงเสน่ห์เขาแหงๆ ก็นะ เขามันหล่อรวยระดับพรีเมี่ยม
“คุณทำบ้าอะไร?” แบคฮยอนถามเสียงโทนปกติ พยายามข่มอารมณ์ นี่ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายเป็นลูกค้านะ...พ่อจะเสยให้หน้าหงาย
ชานยอลยิ้มทะเล้น มือใหญ่เอื้อมไปยังบั้นท้ายของคนตัวเล็กก่อนจะตะปบเข้าให้อีกครั้ง คราวนี้ไม่ลืมที่จะหยอกล้อกับหางกระต่ายปุกปุย
“คุณ!!”
“ว่าไงบันนี่น้อย”
“คุณกำลังทำให้ผมเสียหายนะ!” แบคฮยอนเลือดขึ้นหน้า มือเล็กจับที่สะโพกของตัวเอง เป็นการป้องกันเผื่อว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไรบ้าๆอีก
ชานยอลไม่ได้สำนึกผิดแต่อย่างใด แก้มแดงๆและท่าทางกึ่งกล้ากึ่งกลัวของเจ้ากระต่ายน้อยทำให้เขาชอบใจอย่างบอกไม่ถูก
“งั้นฉันต้องจ่ายค่าเสียหายเท่าไหร่ล่ะบันนี่น้อย?”
แบคฮยอนเม้มปากมองคนตัวสูงกว่าอย่างโมโห แต่พอคิดดูดีๆแล้ว มีเรื่องกันไปเขาก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ดี เพราะอย่างไรซะอีกฝ่ายก็เป็นลูกค้า แถมเขายังเป็นผู้ชาย แค่โดนจับก้นแค่นี้ไม่เสียหายอะไรมากอยู่แล้ว ไหนๆอีกฝ่ายก็บอกว่าจะรับผิดชอบเป็นเงิน....เอาวะ ดีกว่าเสียอารมณ์ฟรีๆ
“สามหมื่น...คุณต้องจ่ายผมสามหมื่นวอน”
“สามหมื่นนี่คือราคาเหมาทั้งคืนหรือนายนับเป็นครั้ง ฉันเพิ่มให้อีกหมื่นแต่ขอแตกข้างในได้มั้ย?”
แบคฮยอนถึงกับพูดไม่ออก ริมฝีปากสีชมพูอ่อนได้แต่อ้าค้างพะงาบๆอยู่อย่างนั้น และเป็นจังหวะที่จงแดกำลังเดินอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่เข้ามาใกล้พร้อมถาดเครื่องดื่ม
แบคฮยอนไม่ปล่อยให้โอกาสแห่งการชำระแค้นผ่านไป มือเรียวคว้าเอาคอกเทลแก้วที่สีแสบตาที่สุดสาดใส่ชายหนุ่มนักล่าหางกระต่ายทันที
ชานยอลชาไปทั้งหน้า...
“ถือว่าเราหายกัน!” คนตัวเล็กตัดบทด้วยอารมณ์คุกรุ่นก่อนจะเดินหายเข้าในหลังร้าน ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของแขกเหรื่อ เพื่อร่วมงาน ร่วมถึงคนที่หวานซ่าไปทั้งใบหน้าอย่าปาร์ค ชานยอล
สรุปแล้วคืนนี้แบคฮยอนก็มีอันต้องสูญเสียรายได้ไปทั้งหมด หลังจากถูกผู้จัดการไล่กลับไปสงบสติอารมณ์แล้วค่อยมาทำงานใหม่ในคืนพรุ่งนี้ โดยจะไม่มีสิทธิหารทิปร่วมกับพนักงานคนอื่นไปอีกสามวันเป็นการลงโทษ
เพราะไอ้บ้าพูดจาหมาๆนั่นคนเดียว!
คนตัวเล็กยืนสาปแช่งต้นตอของเรื่องเฮงซวยในชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ฮุนไดมือสองแต่สภาพยังถือว่าไม่แย่นักก็แล่นมาจอดเทียบท่าอยู่ตรงหน้า ไม่รอช้า แบคฮยอนเปิดประตูและก้าวเข้าไปนั่งยังเบาะข้างคนขับทันที
“ไงครับคุณกระต่าย หน้าบึ้งเชียว”
แบคฮยอนหันควับไปทางคนพูด ใบหน้าเล็กง้ำงอยิ่งกว่าเดิม...ทักกันแบบนี้แสดงว่าจงแดส่งรูปน่าอับอายของเขาให้พี่คริสดูแล้วแน่ๆ
“ถ้าพี่คริสเรียกผมว่ากระต่ายอีกที ผมจะกัดพี่จริงๆด้วย!”
อี้ฟานถึงกับหัวเราะ ช่างเป็นคำขู่ที่น่ากลัวซะไม่มี
“คุณกาต่าย คุณกาต่ายย”
“พี่คริสอ่า!”
“กาต่าย กาต่ายย”
แบคฮยอนจ้องคนอายุมากกว่าที่กำลังล้อเลียนเขาเป็นเด็กๆเขม็ง มือน้อยเอื้อมไปดึงมือข้างซ้ายของอีกฝ่ายที่จับพวงมาลัยรถอยู่มากุมไว้ ก่อนที่ฟันซี่เล็กจะงับลงไปที่หลังมือ
แบคฮยอนผ่อนแรงกัดลงเมื่อคริสนิ่งไป...
คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของฮุนไดมือสองสีดำปลาบ อีกฝ่ายหยุดรถและมองมาอ่อนโยน
“พี่รักเรานะแบคฮยอน”
“...”
“คบกันจริงๆจังๆซักทีไม่ได้หรอ”
แบคฮยอนลงลิ้นไปบรรเทาความเจ็บบนมือใหญ่โต ใบหน้าหวานออดอ้อนออเซาะซบอยู่ที่ฝ่ามือนั้น
“ผมก็ไม่เคยมองใครนอกจากพี่อยู่แล้วนี่นา จะรีบร้อนทำไมนักล่ะ”
“ก็เราน่ารักจะตาย ถ้ามีคนที่หล่อกว่าพี่มาจีบล่ะ” คริสบีบเสียงเศร้าอ้อนกลับไปบ้าง คนอะไรใจแข็งจริงๆ เขาตามจีบมาหกเดือนแล้วยังไม่ไปถึงไหน
“ผมไม่เคยมองคนที่หน้าตาอยู่แล้ว”
“แล้วถ้าคนๆนั้นรวยกว่าหัวหน้าพนักงานส่งโค้กอย่างพี่ล่ะ”
แบคฮยอนปล่อยมือของคนตัวสูงออก ก่อนจะดึงจมูกโด่งๆอย่างหมั่นเขี้ยว “ถึงเราจะยังไม่ใช่แฟนกัน แต่พี่ก็เห็นแล้วนี่นาว่าผมมองแค่พี่คนเดียว มีแค่พี่คนเดียวเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ผมยังไม่พร้อมที่จะผูกติดกับใคร ยังมีเรื่องน้องๆ มีเรื่องบ้าน มีเรื่องหนี้อีกตั้งเยอะตั้งแยะที่ผมต้องสะสาง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมพร้อมจะดูแลใคร แล้วก็พร้อมจะให้ใครมาดูแลจริงๆจังๆ ยังไงคนๆนั้นของผมก็ต้องเป็นพี่คริสสุดล่อคนนี้อยู่แล้ว”
“เราพูดแล้วนะ”
“แหงสิ นี่พี่เห็นผมเป็นคนกลับกลอกหรอ” แบคฮยอนแกล้งทำเป็นโกรธขึ้นมาบ้าง คริสที่ได้คำตอบที่สมใจแล้วยิ้มละไมก่อนจะจูบลงบนหลังมือของตัวเองที่แบคฮยอนเพิ่งจะกัดลงไปเมื่อครู่
ตาคมพราวระยับ เล่นเอาแบคฮยอนต้องหลบตาไปทางอื่น
“พี่มันเจ้าชู้ รีบออกรถเลยนะไอ้คนลูกเล่นเยอะ!”
“พี่เจ้าชู้แต่ไม่ได้หลายใจนะ เจ้าชู้กับเราคนเดียวนั่นแหละ”
แบคฮยอนทำเป็นหูทวนลม แต่ก็หันมาแอบอมยิ้มตอนที่อีกฝ่ายเริ่มเหยียบคันเร่งอีกครั้ง
นึกขอบคุณอู้อี๋ฟานที่แสนดีคนนี้อยู่เสมอ ใจจริงเขาไม่เคยคิดกับคนตัวสูงนี่ไปในทางพิศวาสเลยซักครั้ง แต่ถ้าเขาเคลียร์เรื่องหนี้สินหมดเมื่อไหร่ แน่นอนว่าเขาจะยอมคบกับคริสและยกทั้งตัวและใจให้ทั้งหมด อย่างน้อยก็เพื่อตอบแทนความใจดีและทุ่มเทที่คริสได้มอบให้มา
หวังว่าเขาจะรักอู้อี๋ฟานได้ในซักวัน
“อ๊ะ! จะเที่ยงคืนแล้ว พี่คริสขับเร็วๆหน่อยได้มั้ย ผมอยากกลับไปเคาท์ดาวน์ปีใหม่กับน้องๆ”
“ได้สิ แต่สัญญาก่อนนะ ว่าเราจะให้พี่เข้าไปแจมในบ้านด้วย”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ ก็พี่เป็นว่าที่ลูกเขยของบ้านผมนี่นา”
……………………………………
“ฮ่าๆๆๆๆ โอ๊ย!ขำไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
“เอ้ออ สนุกกันเข้าไป สะใจกันเข้าไป!”
“เด็กคนนั้นชื่ออะไรนะ? แบคฮยอนใช่มั้ย ฮ่าๆๆ ไอ้ลู่เพิ่มโบนัสให้ด้วยนะ บอกว่าท่านจงอินคนนี้ถูกใจมาก ฮ่าๆๆๆ”
“จะเลิกเยาะเย้ยกันได้รึยัง!!” ชานยอลตบเคาท์เตอร์บาร์เสียงดังลัน ใบหน้าหล่อเดือดดาลเล่นเอาบาร์เทนเดอร์กับพนักงานคนอื่นๆพากันหนีไปเก็บกวาดร้านตรงมุมอื่นแทน
แต่เพื่อนรักอีกสามคนกลับไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวแต่อย่างใด ยังคงหัวเราะท้องคดท้องแข็งไม่เลิก โดยเฉพาะเสี่ยวลู่หานที่พลาดช็อตสำคัญอ่างตอนสาดคอกเทลเข้าเต็มๆหน้า แต่พอจินตนาการสภาพที่ไรแล้วก็อดปล่อยกร๊ากไม่ได้ทุกที
สมน้ำหน้าไอ้คนอวดดีปาร์คชานยอล
“ฉันขอสั่งให้แกไล่เด็กคนนั้นออก!”
“อ้าวๆ เรื่องอะไร แกอยากไปลวนลามเขาก่อนทำไมล่ะ”
“นี่แกเห็นพนักงานเงินเดือนไม่กี่วอนสำคัญกว่าเพื่อนที่รู้จักกันมาเป็นสิบๆปีหรอวะ ไอ้เสี่ยวลู่!”
“ใจเย็นดิวะ คิดซะว่าขำๆ ไอ้เด็กคนนั้นมันก็อวดดีไปตามเรื่องตามราว อาจจะอยากให้แกสนใจเป็นพิเศษก็ได้ แล้วดูเหมือนว่าจะทำสำเร็จซะด้วย เพราะตอนนี้แกก็คิดถึงแต่เรื่องของเด็กคนนั้นใช่มั้ยล่ะ” ประหนึ่งว่าโดนยิงด้วยสไนปเปอร์ ชานยอลหุบปากทันทีที่โอเซฮุนเจ้าของไอคิว 180 พูดออกมาแบบนั้น
เขาฉลาดพอที่จะไม่ดิ้นไปตามเกมที่เด็กนั่นวางเอาไว้ ...หึ อยากให้คนอย่างปาร์คชานยอลสนใจสินะ ถึงได้ทำตัวร้ายกาจเรียกร้องความสนใจ
แบคฮยอนก็แค่เด็กบาร์หิวเงินทั่วไปนั่นแหละ เรื่องอะไรที่ชานยอลผู้แสนจะเพอร์เฟ็คคนนี้จะลดตัวไปคิดสนใจกันเล่า!
เอาเวลามาตื่นเต้นกับวันพรุ่งนี้ดีกว่า...วันรวมญาติที่คุณนายปาร์คจะประกาศให้ลูกชายหล่อเหลาเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทอะไหล่ยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี
เฮ้อออ ชีวิของปาร์คชานยอลนี่ช่างเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบจริงๆ
หากชีวิตคนถูกกำหนดด้วยเทวดาและนางฟ้าจริงๆ ตอนนี้ก็คงมีนางฟ้าซักองค์นอนเท้าคางบนเตียงเมฆนุ่มๆพร้อมกับมองตรงมายังชายหนุ่มผู้แสนจะหลงตัวเองและสุดจะจองหอง
นางฟ้าองค์นั้นมองร่างสูงสง่าในชุดหนังแก้วอย่างหมันไส้ ในมือของเธอมีหนามกุหลาบนับแสนที่พร้อมจะเทลงไปบนโลกมนุษย์ได้ทุกเมื่อ
เธอยิ้มและเริ่มโรยของในมือลงไป
เอาล่ะเจ้าคนไม่เอาไหนปาร์คชานยอล...ชิมหนามกุหลาบหน่อยเป็นไง
100%
ฮูเร่! >< ปั่นยาวๆแบบไม่มีพักเลยนะเนี่ย กิกิ
เห็นมีหลายคนสงสัยว่า ป่าเห็ด คืออะไร ทำไมต้อง ป่าเห็ด
จริงๆซีจะเล่นกับคำว่าเงินค่ะ ถ้าเห็นคำโปรยหน้าฟิคน่าจะพอเข้าใจ แบบว่า ความน่าจะเป็นที่พี่ชานกับน้องแบคจะรักกันเนี่ย มากพอๆกับความน่าจะเป็นที่เงินจะกลายเป็นเห็ด 5555555
ตอนแรกจะใช้ชื่อเรื่องว่า cash ที่แปลว่าเงินสด แล้วชื่อไทยที่แปลเป็นเห็ด ก็คือ เห็ดสด
แต่มันทุเรศอ่ะ แลแบบจะกลายเป็นฟิคตลกโปกฮาจนเกินไป เหอๆๆ
พอตัด เห็ดสด ออกไปแล้ว ก็เลยคิดว่าจะใช้ชื่อเรื่องว่า กินเด็ก ซึ่งก็ค่อนข้างโหล แต่จะใช้ เลี้ยงต้อย ก็สื่อและสิ้นคิด
สุดท้ายก็เลยเป็น ป่าเห็ด ซึ่งก็นะ...ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย -_-
เอาเป็นว่าไม่ต้องสนชื่อเรื่องก็ได้ มาลุ้นว่าพี่ชานกับน้องแพคจะลงเอยกันยังไงดีกว่า 55555555555555
แท็กทวิต #ป่าเห็ด นะจ๊ะ
ความคิดเห็น