ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮองเฮาไร้รัก [MarkBam] #มบฮองเฮาไร้รัก [END]

    ลำดับตอนที่ #21 : ๒๐.หนีจากเรื่องวุ่นวาย 115%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10K
      930
      6 เม.ย. 65


                วังหลังเกิดความวุ่นวายขึ้นทันทีเมื่อโจวหวงกุ้ยเฟยได้ตั้งครรภ์ ข่าวลือค่อยๆกระจายไปเรื่อยๆตามลมปากคนหลายๆคนจนในที่สุดก็มาถึงหูของแบมแบมแน่นอนว่าแบมแบมเลือกที่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น เพราะแต่เดิมภาพลักษณ์ของเธอก็ฮองเฮาผู้เฉยเมย หากไม่มีเรื่องใหญ่จริงๆก็ไม่ยุ่งหรือมาเดินวุ่นวายเลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้แบมแบมเลือกที่จะเป็นห่วงเรื่องของแม่ของเธอในร่างนี้ที่กำลังป่วยอยู่แทนและเป็นห่วงเสี่ยวไจ้ที่ออกเดินทางไปกับชินอ๋องซือชุน

                จนในที่สุดเหมือนว่าเหล่านางกำนัลของเธอจะเริ่มทันไม่ไหวกับความเย็นชาและไม่สนโลกของเธอแล้ว เสี่ยวเหมยที่โดนเหล่าเพื่อนนางกำนัลดันตัวออกมานั้นก็ทำท่าเลิกลักเล็กน้อยก่อนจะพยายามอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรอยู่นานจนแบมแบมพูดขึ้นแทน

                “เสี่ยวเหมยเป็นอะไรของเจ้านะ ทำท่าทำทางเหมือนปลากขาดน้ำไม่มีผิด” แบมแบมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสบายๆโดยที่ยังคงทอดสายตามองไปที่สวนดอกไม้อย่างใจเย็น

                “หวงโฮ่วเหนียงเหนียงเพคะ ทรงทราบเรื่องโจวหวงกุ้ยเฟยหรือยังเพคะ?” เสี่ยวเหมยเอ่ยถามเสียงสั่นโดยที่มือของนางนั้นกำไปมาอย่างเลิกลัก

                หือ? นางเป็นอะไรอีกเล่า?” แบมแบมแสร้งถอนหายใจดังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ในใจกำลังคิดเรื่องที่โจวหวงกุ้ยเฟยชอบไปมีเรื่องกับสนมคนอื่นเธอเองก็เหนื่อยนะที่ต้องตามล้างตามเช็ดเรื่องต่างๆของภรรยาคนโปรดของสามี

                “นางตั้งครรภ์เพคะเสี่ยวเหมยพูดเสียงดังพร้อมรีบก้มหน้าลงทันที

                “โอ้!! ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก อย่าลืมเตือนเปิ่นกงให้ส่งยาบำรุงให้นางนะแบมแบมแสร้งยิ้มพร้อมยกจอกชาขึ้นจิบ ทั้งๆที่ในเจ็บแทบเป็นแทบตาย

    หวงโฮ่วเหนียงเหนียง!!!” เหล่านางกำนัลและขันทีต่างพากันร้องโอดครวญไปตามๆกันอย่างน่าสงสาร

     

    ฝ่ายฮ่องเต้หนุ่มที่ได้ยินเรื่องที่โจวจือหยวีตั้งครรภ์ก็แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ทำให้ต้วนอี้ฟานได้แต่มองเหนื่อยๆแล้วถอนหายใจอย่างเพลียใจกับน้องชาย แม้ว่าหมอหลวงจะไปตรวจแล้วมาบอกกับฮ่องเต้หนุ่มว่าโจวจือหยวีตั้งครรภ์จริงๆแต่ฮ่องเต้หนุ่มก็ยังไม่หยุดที่จะส่งหมอหลวงไปตรวจนางใหม่อีกรอบและรอบนี้เขาเรียกหลินไจ้ฟ่านหมอหลวงประจำตัวของกันเตียวให้ไปตรวจอาการของโจวจือหยวี

    “โจวหวงกุ้ยเฟยทรงตั้งครรภ์จริงๆพ่ะย่ะค่ะ” หลินไจ้ฟ่านก้มหน้าตอบ ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัยว่าเหตุใดฮ่องเต้จะต้องส่งหมอหลวงจำนวนมากไปตรวจนางขนานนั้น “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอถามสักข้อได้หรือไม่?”

    “หือได้สิ ถ้าเจิ้นตอบได้เจิ้นจะตอบ” ฮ่องเต้หนุ่มไม่แม้แต่จะปลายตามองหลินไจ้ฟ่านเลยแม้แต่น้อย  เขาส่งฎีกาให้พี่ชายตรวจความเรียบร้อยอีกรอบก่อนจะประทับตราลงไป

    “ฝ่าบาททรงไม่มั่นพระทัยหรือพ่ะย่ะค่ะ ในเรื่องที่โจวหวงกุ้ยเฟยทรงตั้งครรภ์” คำถามของหลินไจ้ฟ่านทำให้ฮ่องเต้หนุ่มว่าฎีกาในมือลงก่อนจะยกยิ้มบางๆ

    “แค่ไม่อยากดีใจเก้อก็เท่านั้น แต่ก็น่าแปลกนะ” ฮ่องเต้หนุ่มพูดยิ้มๆอย่างอารมณ์ดี “ทั้งๆที่สั่งว่าไม่ว่าใครก็ห้ามตั้งครรภ์เด็ดขาดเรื่องนี้เจ้ากับพวกหมอหลวงคนอื่นๆก็น่าจะรู้ดีแท้ๆ แต่เหตุใดนางถึงได้ตั้งครรภ์ได้กันนะ”

    หลินไจ้ฟ่านคิดตามก่อนจะเงยหน้าตอบ “หากไม่เพราะว่าเป็นเด็กที่มีบุญมากก็คงเป็นเพราะมีหมอหลวงขัดราชโองการของฝ่าบาท”

    “แบบไหนกันน่า~” น้ำเสียงที่ฟังดูหยอกเย้าของฮ่องเต้หนุ่มช่างขัดกับแววตาที่เหมือนสัตว์ป่าดุร้ายหิวกระหายนั้นเหลือเกิน “เสียเวลาเจ้ามากแล้ว มีงานอะไรก็ไปทำเถอะไป”

    “กระหม่อมทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”

    ทันทีที่หลินไจ้ฟ่านก้าวออกจากห้องทรงงานของฮ่องเต้ ต้วนอี้ฟานก็มองน้องชายร่วมมารดาด้วยสายตาไม่พอใจ แม้ในใจเขาเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะเล่นตามเกมของตระกูลโจวมากน้อยแค่ไหนแต่ก็ไม่คิดว่าน้องชายของเขาจะพูดไปแบบนั้น  ต้วนอี้เอินนั้นเป็นพวกไม่ค่อยจะโกรธหรือเกลียดใครจริงจังแต่ถ้าหากได้ลองโกรธหรือเกลียดแล้วละก็รับประกันได้เลยว่าอีกฝ่ายอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน

    “เจ้าดูเศร้าหมองนะเจียเอ๋อร์เป็นอะไรไปรึเปล่า?” ฮ่องเต้หนุ่มเอ่ยถามพร้อมปลายตาไปมองเล็กน้อยก่อนจะหันมาสนใจกองงานตรงหน้าแทน

    “กระหม่อมมิเป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ” หวังเจียเอ๋อร์ตอบเสียงเศร้าเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “กระหม่อมว่าจะรายงานฝ่าบาทเรื่องการฝึกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

    “ว่ามาสิ เจิ้นฟังอยู่” ฮ่องเต้หนุ่มยิ้มบางพร้อมส่ายหน้าให้กับความปากแข็งของแม่ทัพหนุ่มก็ได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหัวไปมา

    ให้ตายสิ! บางครั้งเจียเอ๋อร์ก็คล้ายเขามากเกินไป

    ฮ่องเต้หนุ่มนั่งฟังรายงานเรื่องจากฝึกจากหวังเจียเอ๋อร์ไปเลื่อยๆโดยไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่น้อยหรือเอ่ยถามอะไรเลยแม้แต่น้อย ทันทีที่ฟังรายงานจบฮ่องเต้หนุ่มก็ได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมมองพี่ชายร่วมมารดาอย่างเหนื่อยอ่อนเป็นการสงสัญญาณว่าให้อีกฝ่ายว่าราชการแทนตน แต่ชินอ๋องต้วนอี้ฟานนั้นนั่งเงียบพร้อมเมินสายตาของอีกฝ่ายทันที

    “เจียเอ๋อร์อย่าได้เป็นกังวลแทนฮองเฮาไปเลยนะ” ฮ่องเต้หนุ่มพูดขึ้นพร้อมอ่านฎีกาในมือจนจบก่อนจะพูดต่อ “นางเป็นคนที่นั้นและเจิ้นเชื่อว่าคงไม่มีใครทำอะไรนางหรอก”

    “ฝ่าบาท” แม่ทัพหนุ่มหน้าแดงขึ้นมาในทันทีพร้อมทำท่าเลิกลักจะหาข้อแก้ต่างให้ตัวเอง

    “หน้าแดงใหญ่แล้วนะแม่ทัพหนุ่ม” ต้วนอี้ฟานเงยหน้าจากฎีกาในมือมาพร้อมเอ่ยแซวอีกฝ่ายก่อนจะก้มหน้าอ่านฎีกาในมืออีกรอบ

    “แล้วก็ไม่ต้องรอบบุกไปตำหนักฮองเฮาเพื่อไปพบนางด้วย” ฮ่องเต้หนุ่มพูดขึ้นอย่างไม่จริงจังนัก

    “กระหม่อมทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

    “พี่ใหญ่หากท่านจะกรุณาจัดการฎีกาพวกนี้แทนข้าสักครู่ละก็มันก็จะดีมากเลย” รูปประโยคอาจจะฟังดูเหมือนกำลังขอร้องแต่แววตาของฮ่องเต้หนุ่มนั้นไม่ได้มีแววตาของการขอร้องเลยแม้แต่น้อย

    “ปฏิเสธได้ด้วยหรือ”

    “แน่นอนว่าย่อมไม่ได้อยู่แล้ว คงถึงเวลาที่ต้องไปเยี่ยมโจวจือหยวีเสียหน่อยแล้วอ่อ ต้องไปเยี่ยมนางกับลูกของนาง” น้ำเสียงเยือกเย็นจนน่ากลัวของฮ่องเต้หนุ่มทำให้ชายอีกสองคนในห้องพากันรู้สึกเสียวสันหลังไปตามๆกัน

    ทันทีที่ฮ่องเต้หนุ่มเดินออกไปแล้วแม่ทัพหวังก็พูดขึ้น “ฝ่าบาททรงน่ากลัวยิ่งนัก”

    “เสด็จพ่อเคยกล่าวกับเปิ่นหวางเสมอว่าอี้เอินเป็นพวกร้ายเงียบ แต่เปิ่นหวางไม่คาดคิดว่าจะร้ายเงียบแล้วยังร้ายลึกอีกด้วย”

     

    แบมแบมที่เดินทางมามอบของบำรุงครรภ์ให้โจวจือหยวีด้วยตัวเองนั้นสร้างความแปลกใจให้เหล่าสนมคนอื่นๆที่มาก่อนเป็นอย่างมาก แม้ในใจของเธอจะน้อยใจที่นางกำลังตั้งครรภ์ทั้งๆที่เธอพึ่งแท้งลูกชายคนแรกไปได้ไม่นาน แต่แบมแบมก็ต้องกัดปากแล้วฝืนยิ้มหวานทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วก็ยิ้มหวานพร้อมกล่าวถ้อยคำอวยพรให้โจวจือหยวี ทันทีที่แบมแบมกำลังจะเดินกลับตำหนักนั้นก็ได้พบกับสามีที่ไม่ได้พบกันมาช่วงหนึ่ง

    “ถวายบังคมฝ่าบาท” ทุกคนต่างพากันย่อตัวทำความเคารพฮ่องเต้หนุ่มอย่างพร้อมเพียง

    “ไม่ต้องมากพิธี” ฮ่องเต้หนุ่มกล่าวก่อนจะเดินตรงไปที่โจวจือหยวีแล้วประคองนางพร้อมพูดกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “หยวีเอ๋อร์ลุกขึ้นเถอะ เจ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่นะจะให้มาทำแบบนี้เดี๋ยวลูกในครรภ์ของเจ้าจะไม่สบายตัวเอา”

    โจวจือหยวีหน้าแดงเล็กน้อยพร้อมพูดเสียงหวาน “หม่อมฉันพึ่งตั้งครรภ์ได้ไม่นานเองนะเพคะ หากฝ่าบาททรงดูแลหม่อมฉันมากเกินไปลูกของเราอาจจะเกิดมาไม่แข็งแรงนะเพคะ”

    แบมแบมแสร้งยกขึ้นมาปิดหน้าเหมือนกำลังเขินอายแทนโจวจือหยวีแต่นความจริงแล้วเธอกำลังเบ้หน้าอยู่ต่างหาก เหล่าสนมคนอื่นๆที่เห็นก็ลอบทำตามบ้าง ใช่ว่าพวกนางจะชอบโจวจือหยวีเสียที่ไหนเล่าที่เอาของมาให้บำรุงครรภ์นั้นก็แค่ทำตามมารยาทก็เท่านั้นเอง

    “ไม่หรอก ลูกของเจ้าจะต้องเข้มแข็งแน่นอน” คำพูดของฮ่องเต้หนุ่มทำให้โจวจือหยวีขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ เหตุใดจึงไม่กล่าวลูกของเราแต่กลับกล่าวว่าลูกของนางเล่า

    “ฝ่าบาทอยากได้ลูกคนแรกของเราเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงเพคะ?” โจวจือหยวีเอ่ยถามเสียงหวานพร้อมฉีกยิ้มหวาน

    “ลูกคนแรกของเจ้าจะเป็นชายหรือหญิงก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่เกิดมาสมบรูณ์แข็งแรงก็พอแล้ว” และเป็นอีกครั้งที่ฮ่องเต้หนุ่มเรียกว่าลูกของนาง แม้จะมาเยี่ยมนางแต่เขาไม่แตะหรือสัมผัสท้องนางเลยแม้แต่น้อยมีเพียงแววตาที่ดูดีใจแต่ทำนางถึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้ดีใจด้วยเลยแม้แต่น้อย

    “เจ้าควรพักผ่อนได้แล้วนะหยวีเอ๋อร์เดี๋ยวเด็กจะไม่แข็งแรงเอาได้ ส่วนพวกเจ้าเองก็กลับตำหนักของตัวเองไปได้แล้ว”

    “เพคะฝ่าบาท หม่อมฉันทูลลา”

     

    “หวังว่าการที่นางท้องแล้วนางจะเลิกทำตัววุ่นวายจนน่ารำคาญเสียทีนะ” แบมแบมที่อยู่ในห้องพระพูดขึ้นพร้อมถอนหายใจก่อนจะสวดมนต์ต่อก่อนจะไปเรียกนางกำนัล “เสี่ยวเหมยหยิบเจ้าเช็ดหน้าที่เปิ่นกงปักมาให้เปิ่นกงหน่อย ไม่สิเอาของที่เปิ่นกงปักทั้งหมดมาให้เปิ่นกง”

    “นี่เพคะ  หวงโฮ่วเหนียงเหนียงต้องสิ่งใดอีกรึเปล่าเจ้าคะ?” นางเอ่ยถาม

    “ไม่มีอะไรแล้ว พวกเจ้าออกไปรอเปิ่นกงข้างนอกไป”

    “เพคะ”

    แบมแบมค่อยๆจัดวางของที่เธอปักเย็บเองทีละอย่างอย่างใจเย็น มือเรียววางผ้าเช็ดหน้าสีนวลที่ปักลายมังกรทองถัดไปคือหมวกที่มีลายปักเป็นรูปมังกรทองขนาดเล็กที่มีขนาดสำหรับเด็กและชิ้นสุดท้ายเป็นถุงเท้า  

    “จินหลงลูกรัก ช่วงนี้อากาศไม่ค่อยเอาแน่เอานอนเสียเท่าไหร่เดี๋ยวก็อบอุ่นเดี๋ยวก็หนาว ที่ที่ลูกอยู่อากาศจะเป็นเช่นไรกันนะ แม่ไม่รู้แต่แม่ก็กลัวว่าลูกจะหนาวจึงทำของพวกนี้ให้ลูก จินหลงหากลูกยังอยู่ในท้องของแม่ตอนนี้ละก็แม่คงจะท้องโตแล้วสินะ” แบมแบมหยุดพูดไปครู่ก่อนจะพูดต่อ “แต่ก็ดีแล้วละนะที่ลูกยังไม่ได้มาเกิดในช่วงนี้ อีกไม่นานทุกสิ่งทุกอย่างจะวุ่นวายมากเลย จินหลงลูกรู้ไหมว่าแม่น่ะไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงลูกเลย ทำไมกันจินหลง ทำไมลูกไม่มาหาแม่ในฝันเหมือนก่อนเล่า”

    ฮ่องเต้หนุ่มที่ยืนรออยู่หน้าห้องได้ฟังทุกถ้อยคำของผู้เป็นภรรยาก็ทำให้รู้สึกเจ็บในอกไม่น้อย เขาเองก็พอจะเดาได้ว่าตอนนี้นางคงน้อยใจแทนจินหลงที่จากไปตั้งแต่ยังไม่ได้ลืมตามาลูกโลกเป็นแน่ ต้วนอี้เอินได้แต่ถอนหายใจเสียงแผ่วพร้อมคิดว่าการไม่บอกว่าลูกในท้องของโจวจือหยวีไม่ใช่ลูกของเขานั้นดีที่สุดแล้ว  เรื่องบางเรื่องคนรู้น้อยจะดีกว่าฮ่องเต้หนุ่มกลัวว่าถ้าเขาบอกเรื่องนี้กับกันเตียวแล้วตระกูลโจวรู้เรื่องเข้าแล้วจะหันไปเล่นงานนางแทน

    แรงกระตุกชายเสื้อทำให้ฮ่องเต้หนุ่มลืมตาขึ้นมาแล้วก้มลงมามองด้านล่าง ภาพที่เขาเห็นนั้นก็จินหลงที่สวมหมวกถักมือสีน้ำเงินเข้มปักลายมังกรทองขนาดเล็กและถุงเท้าสีน้ำตาลเข้ม ร่างโปร่งใสของลูกชายหยิบบางอย่างออกมาจากเสื้อก่อนจะชูให้เขาดู ผ้าเช็ดหน้าสีนวลที่ปักลายมังกรทองสวยที่กันเตียวปักให้จินหลง  เด็กชายยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมยังคงชูผ้าเช็ดหน้าราวกับว่ากำลังอวดให้เขาอิจฉาอยู่ไม่มีผิด ต้วนอี้เอินย่อตัวลงไปพร้อมยิ้มให้จินหลงแล้วหันไปแง้มประตูเพื่อดูกันเตียวที่กำลังสวดมนต์ให้จินหลงอยู่

    “อยากหนีจากเรื่องวุ่นวายนี้จริงๆเลย แต่ถ้าพ่อหนีก็จะปกป้องแม่ไม่ได้” ต้วนอี้เอินพูดเสียงแผ่วพร้อมยิ้มให้จินหลงก่อนจะกล่าวต่อ “เด็กดี แม่เจ้าคิดถึงเจ้านะไปหาแม่ของเจ้าบ้างนะ”






    Thumbnail Seller Link
    ฮองเฮาไร้รัก
    Princess Comet
    www.mebmarket.com
    เหอะ!! เกิดใหม่เป็นองค์หญิงที่พ่อไม่รักแถมยังโดนส่งมาเป็นเมียฮ่องเต้ต่างแคว้น  ที่สำคัญสามีใหม่ก็ดันมีคนรักอยู่แล้วด้วย  สามีข้าขอบอกท่านเลยหากบรรดาอน...
    Get it now
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×