คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
INTRO
ในโลกใบนี้มีอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายกันและอะไรหลายๆ อย่างที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และโลก ไม่สิ ...มนุษย์ไม่มีวันสมบูรณ์แบบอย่างที่หวังแม้เทคโนโลยีจะกว้างไกลไปมากแค่ไหนก็ตาม... ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะนิสัย ของมนุษย์น่ะสิ
คุณธรรมกับอธรรมกำลังต่อสู้กันอยู่ในตัวเรา
ความดีความชั่วกำลังแก่งแย่งใจของเรา
ความคิดร้ายดีกำลังกำหนดชีวิตเรา
...ก็เหมือนสีขาวกับสีดำ...
ไม่เหมือนกัน ไม่คล้ายกัน
ไม่มีวันลงตัว คู่อริตลอดไป
แต่จะเป็นไปได้ไหมถ้าสีขาวกับสีดำจะอยู่กันกับมนุษย์เพียงคนเดียว ... โดยไม่รับรู้ถึงกันและกัน
สีขาวกับสีดำไม่มีวันรวมตัวกันกลายเป็นหนึ่งเดียวได้ แต่มีวันหนึ่งที่สีขาวและสีดำจะอยู่ในที่เดียวกันได้
..ในตัวเรา..
'รายงานด่วน พบศพเหยื่อรายที่สามในรอบ 5 วัน บริเวณตรอกซอยอับย่านกังนัม สภาพศพที่พบถูกฆ่าโดยการปาดคอบริเวณเส้นเลือดใหญ่ก่อนที่ จะโดนตัดแขนและขาออก เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีความคืบหน้าใดในการจับตัวคนร้าย เตือนประชาชนระวังภัยยามค่ำคืนให้ดีห้ามไปไหนมาไหนคนเดียวตอนกลางคืน...'
เสียงโทรทัศน์ดังขึ้นเรื่อยๆ ตามการปรับเสียงของคนที่นั่งเท้าคางอย่างเหนื่อยหน่ายอยู่บนโซฟาตัวยาว ร่างเล็กมองภาพที่ปรากฏขึ้นบนจอโทรทัศน์พร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ แล้วอย่างนี้
งานพาร์ทไทร์มของเขาล่ะ ? คงต้องยกเลิกสินะ
“เมื่อไรจะจับได้สักที คนเรานี่ก็แปลกเพื่อนร่วมโลกกันแท้ๆ เฮ่อ...” มือเล็กกดปุ่มปิดโทรทัศน์ไปอย่างรวดเร็ว อารมณ์ที่ต้องการจะดูโทรทัศน์ลดฮวบลงไปจนเกือบเหลือศูนย์หลังเขาเปิดมาเจอข่าวการฆาตกรรม
บางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจมนุษย์นัก ใช่.. เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน มันอาจจะฟังดูแปลกแต่.. เขารู้สึกได้ว่ามีปีศาจร้ายอยู่ภายในตัวของเขา มันอาจ จะอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคนก็ได้ไม่งั้นไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก
เขาอยากพักผ่อนหลังจากเสร็จการเรียนที่แสนหนักหน่วงที่มหาวิทยาลัยและการทำงานพิเศษหาเงินเลี้ยงตัวเอง แต่พอเปิดมาเจอเรื่องแบบนี้สู้ให้เขา ขึ้นไปทบทวนบทเรียนต่อจะดีกว่า..
กริ๊ง …
เสียงของโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ... นานเท่าไรแล้วนะที่เขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้านหลังจากซื้อโทรศัพท์มือถือมาพกติดตัว คนร่างเล็กเขยิบตัวไปยังโต๊ะเล็กข้างๆ โซฟาที่นั่งอยู่ก่อนจะยกหูขึ้นมาพร้อมกับกล่าวทักทายคนปลายสายที่ไม่รู้ว่าคือใคร
“ยอโบเซโย คิม จงฮยอนพูดสาย ใครครับ ?”
[ ...ฉันมีงานให้นายทำ ] ราวกับคำพูดเมื่อครู่เป็นคำสั่งเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟ้ฟ้าบางอย่าง ร่างของจงฮยอนกระตุกเล็กน้อยเหมือนถูกไฟฟ้า ช็อตก่อนจะตอบกลับเสียงปลายสายไปด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป
“รหัสเจอาร์...พร้อมทำงานครับนายท่าน”
เขารู้สึกได้ว่ามีปีศาจร้ายอยู่ภายในตัวเขา
ผู้คนนอกแถบเส้นสีเหลืองเหมือนในหนังสืบสวนสอบสวนต่างก็ ชะเง้อชะแง้คอพยายามกันอย่างถึงที่สุดเพื่อจะมองให้เห็นสถานที่เกิดเหตุให้ ชัดเต็มสองตา บ้างก็หยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาถ่ายรูป บ้างก็โทรบอกคนอื่นๆ และนั่นก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สืบสวนทั้งหลายต่างก็ต้อง พากันกุมขมับเพราะความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
“ให้ตายเถอะ ! นี่มันสถานที่เกิดเหตุ ทำไมคนพวกนี้ถึงได้ถ่ายรูปกันได้ห๊ะ มันทำให้เสียรูปคดีคุณรู้หรือเปล่า ?! คุณรีบไปจัดการกันคนพวกนี้ออกไปก่อนที่ผมจะได้บอกเจ้านายของคุณ คุณตำรวจ !!!" ร่างสูงกวาดสายตาไล่มองผู้คนรอบนอกด้วยสีหน้าที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
“ครับๆ” เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่ควบคุมสถานการณ์โค้งตัวขอโทษคนตรงหน้าเป็นการใหญ่ก่อนจะรีบทำตามที่คนตัวสูงบอกอย่างรีบเร่ง
“ดุลูกน้องผมอีกแล้วเหรอคุณนักนิติเวช ?” คนที่เดินเข้ามาใหม่เริกคิ้วขึ้นอย่างล้อเลียนไม่ได้คิดโกรธอะไร เขารู้ดีเพื่อรูปคดีที่สมบูรณ์และไร้ข้อติเตียนที่สุดคนตรงหน้าต้องทำทุกอย่างเพื่อมันเป็นแน่ เขารู้ดี... เพราะคนๆ นี้คือเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนของเขาน่ะสิ
“ลูกน้องของคุณทำงานผิดพลาดก็ต้องดุให้ผมพูดชมรึไง ? แล้วนี่ไม่มีงานทำเหรอถึงเที่ยวมากวนคนอื่นเขาไปทั่วน่ะ ?!”
“อุ้ย... เพลาๆ ลงหน่อยก็ได้นิสัยระเบียบจัดของนายน่ะ ฮวัง มินฮยอน” ร่างกำยำหน้าถอดสีเมื่อโดนเพื่อนดุเอาบ้าง
“ผมทำงานอยู่” คนตัวสูงพูดตัดบทก่อนจะก้าวเท้ายาวไปยังศพที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น
“ย่า ! นี่เห็นศพดีกว่าเพื่อนงั้นเหรอ ?” เขาตะโกนไล่หลังเพื่อนสนิทไปโดยไม่สนใจว่าตนจะถูกมองด้วยสายตาแบบไหน
เขาไม่ได้โกรธที่มินฮยอนเห็นงานดีกว่าเพื่อนอย่างเขา แต่เขาโกรธที่มินฮยอนเห็นงานดีกว่าตัวเองต่างหาก มินฮยอนมักจะทุ่มเทให้กับงานเสมอ ... ทุ่มเทมากเกินไปจนเขาอดที่จะเป็นห่วงสุขภาพของเพื่อนคนนี้ไม่ได้ มินฮยอนเคยทำงานติดต่อกัน 3 วันโดยไม่นอนมาแล้วนั่นเป็นเหตุผลที่เขาละสายตาจากเพื่อนหัวดื้อไม่ได้จริงๆ
“พบอะไรบ้าง ?” คนตัวสูงย่อตัวลงข้างศพส่วนตัวที่ไร้แขนกับขากวาดสายตามองศพที่เบิกตากว้างมองเขาอยู่ด้วยสายตาครุ่นคิด
“ผู้หญิงขายบริการ พบบัตรประจำตัวประชานและใบขับขี่ของผู้ตาย นอกจากนี้ยังพบบัตรเครดิตจำนวนมากที่ยังไม่ได้รูดใช้ครับ เธอชื่อ นา ซองอา อายุ 23 ปี ครับ”
ผู้หญิงหน้าตาสะสวย หุ่นดี ขายบริการ ... ต่างจากคนแรกและคนที่สองโดยสิ้นเชิง..
“คดีนี้ถูกทำขึ้นลอกเลียนแบบไม่ใช่คนร้ายรายเดียวกับสองคดีแรกแน่นอน” มินฮยอนพูดขึ้นมาดื้อๆ เมื่อฟังผู้ช่วยรายงานเสร็จเรียบร้อย เขายังคงกวาดสายตามองไปที่ศพท่ามกลางความงุนงงของคนที่ยืนอยู่พร้อมหลักฐานภายในมือ
“ครับ ?”
“ผู้หญิงที่ถูกฆ่าตายในคดีแรกและคดีที่สองเป็นแม่ลูกอ่อนตั้งครรภ์ประมาณ 4-5 เดือน และข้อสำคัญพวกเธอเป็นแม่บ้านไม่ใช่สาวขายบริการแบบเหยื่อรายนี้ อวัยวะที่ถูกตัดออกก็ไม่ครบ สองรายแรกถูกตัดหัวออกด้วยแต่ นี่ไม่ได้ตัดแล้วก็เธอไม่มีตัวอ่อนในท้องให้คว้านออกมา... เอาแขนข้างนั้นมาให้ผมดูหน่อย” มินฮยอนร่ายยาวก่อนจะชี้ไปยังแขนข้างหนึ่งที่ถูกตัดออกและอยู่ในถุงหลักฐานเรียบร้อยแล้วในมือของผู้ช่วย
“เอ่อ.. ครับ” ผู้ช่วยยื่นมันมาให้เขาอย่างงุนงง คนตัวสูงหมุนแขนในถุงดูอย่างละเอียดก่อนจะพูดข้อสันนิษฐานออกมาอีกครั้ง
“ฝีมือพวกมือสมัครเล่นรอยตัดไม่เนียนสวยเหมือนสองรายแรกแสดงให้เห็นว่าผู้ร้ายคนละคนกันชัดเจน คิดยังไงกับทฤษฎีของผมบ้าง ? พูดมาได้เลยผมจะได้พิจารณาการทำงานของคุณด้วย”
มินฮยอนเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนค้ำหัวตนเองอยู่ด้วยใบหน้านิ่งเฉยที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ นั่นทำให้คนที่ยืนอยู่เกิดอาการเลิ่กลั่กขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความที่โดนถามขึ้นมาดื้อๆ
“อะ เอ่อ.. ผมคาดว่าถ้าเป็นฝีมือของพวกสมัครเล่นตามคำของคุณ มินฮยอนจะต้องมีอาวุธที่ใช้สำหรับฆ่าตกอยู่ในบริเวณนี้แน่นอนครับ”
“ใช้ได้นี่ มือสมัครเล่นมักคิดว่าอาวุธที่ใช้ในการฆ่าไม่อยู่กับตัวจะดีที่สุด งั้นนายบอกเจ้าหน้าที่แบคโฮด้วยว่าขอความช่วยเหลือของพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจหาอาวุธที่พอจะใช้สำหรับการฆ่าหั่นศพครั้งนี้ให้ด้วย ผมจะพาศพกลับไปชันสูตรที่แล็ป”
“รับทราบครับ !”
ชายในชุดฮู้ดคลุมยาวสีดำน่าสงสัยมองผ่านฝูงผู้คนที่ยืนห้อมล้อมตนเองอยู่ออกไปยังร่างสูงโดดเด่นในชุดลำลองขัดกับคนอื่นที่เป็นชุดปฏิบัติงานด้วย แววตาเศร้าสร้อย ศพที่ถูกเคลื่อนย้ายขึ้นรถขนส่งศพไปอยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา
“ดูสิว่านายจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไง ฮวัง มินฮยอน” ชายปริศนาไม่เปิดเผยใบหน้าพึมพำเสียงเบาที่แทบจะกลืนไปกับเสียงลมที่พัดผ่านไป ก่อนจะก้าวออกไปจากที่ตรงนั้นเขาไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่ต้องยืนอยู่ยังที่ตรงนี้ต่อ
ไม่มีทุกคนบนโลกหรอกที่จะเกิดมาสมบูรณ์แบบ ไม่มีทุกคนบนโลกหรอกที่จะเกิดมาแล้วไม่เคยทำผิด แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเช่นกันที่รับรู้ว่าตัวเองทำผิดอย่างเช่นเขา เพราะความจำเป็นบางอย่าง...
มือกร้านหยิบมีดที่ยังคงมีเลือดเกรอะกรังออกมาจากฮู้ด เขามองที่ด้ามจับมีดที่เต็มไปด้วยรอยนิ้วมือของตัวเองก่อนจะโยนมันทิ้งข้างทางไปไม่คิดจะเช็ดรอยนิ้วมือ ไม่คิดจะนำมันติดตัวไปยังที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ เพราะเขามีเหตุผลของเขา...
เหตุผลที่สำคัญพอจะทำให้เขาฆ่าคนเพื่อสร้างความวุ่นวายให้กับกรมตำรวจได้
ความคิดเห็น