คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Depression - 04 [cut scene]
“คนที่ผมจะกล่าวขอบคุณต่อไปนี้ ได้แก่ คุณพ่อของผมที่ตอนนี้ท่านได้จากผมไปแล้ว อาจารย์ทุกท่านที่สอนผมมา เพื่อนๆ ที่ทำงานหนักมากับผม และคนที่ทำให้ผมมีชีวิตที่ยิ้มได้อีกครั้ง ... คยองซูครับ และวันนี้เค้ามาอยู่ที่นี่กับผมด้วย ขอเสียงปรบมือให้เค้าด้วยครับ”
เสียงปรบมือดังกึกก้องสนั่นฮอลเมื่อกล้องแพลนมาจับที่หน้าของคยองซู คนสำคัญของจงอิน คยองซูทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกทุกสายตาหันมามองที่เค้า พร้อมกับรอยยิ้มที่น่ายินดีนั้น
เมื่อเสียงปรบมือสงบลง คยองซูก็พยักหน้าขอบคุณทุกคนที่ให้เกียรติเค้าพร้อมกับส่งสายตาและยิ้มหวานให้กับเจ้าของรางวัล แรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ คิม จงอิน
[วินาทีที่มีความสุขของจงอินก็คือรอยยิ้มของคยองซูนั่นเอง นายภูมิใจในตัวฉันมั้ย?]
.................
หลังจากเสร็จภาระกิจรับรางวัล จงอินก็จะบินกลับทันที เพราะจริงๆ แล้วเค้าตั้งใจแค่มาทำธุระที่ค้างไว้และได้รับเกียรติมารับรางวัลที่นี่
“นี่เราจะกลับกันเลยหรอครับ คุณคิมเสียเวลาให้ผมมาแค่นี้อ่ะนะ” คยองซูสงสัยว่าถ้ามาแค่นี้จะให้เค้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำไม
“แค่นี้แหละ นายจะทำไม อยากเที่ยวต่อหรอ”
“เปล่าครับ ผมว่ามันสิ้นเปลืองคุณเปล่าๆ ที่ให้ผมมาเป็นภาระแบบนี้”
“ฉันเคยพูดอะไรแบบนั้นหรอ แม้แต่คิดฉันยังไม่เคยเลย ไม่ต้องมาคิดแทนฉันหรอก ฉันอยากให้นายมา ก็แปลว่าอยากให้นายมา นายไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ตกลงอยากอยู่ต่อหรือว่าจะกลับบ้าน“
“...................แล้วแต่คุณคิมครับ ”
“ตอบแบบนี้ คงอยากเที่ยวต่อใช่ไหม ก็ได้ฉันจะพานายไปเที่ยวทุกที่ที่นายอยากได้เลยนะ”
ฮ่า ... จงอินยิ้มให้กับความเป็นคยองซู คยองซูก็คือคยองซูที่อ่อนน้อมถ่อมตน เรียบร้อย น่ารักในสายตาของเค้า
จงอินกับคยองซูก็ใช้ชีวิตอยู่ในนี่ถึงสองเดือน ด้วยดีกรีอาจารย์สอนเต้น เค้าสามารถฝากให้คยองซูได้เรียนภาษาเพิ่มเติมอีกด้วย เค้าทำให้คยองซูได้รู้สึกเหมือนกับมาเป็นอิสระอีกครั้ง ได้ใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน ทั้งๆ ที่ความจริงตัวเองยังไม่จบม.ปลายด้วยซ้ำ
ขอบคุณมากๆ นะครับ คุณคิม <3
................
บนเส้นทางถนนคนกลางคืน ชานยอลเป็นหนึ่งในนั้นที่เคยโลดแล่นอยู่ในผับบาร์จนกระทั่งมาเจอกับคยองซูคนที่ทำให้เค้าหยุดเที่ยวและหยุดทำตัวเหลวไหลเมื่อหลายปีก่อน
ชานยอลรักคยองซูในรูปแบบของเพื่อนที่ให้คำปรึกษา คยองซูเข้ามาในช่วงเวลาที่เค้ากำลังทุกข์หนัก ทั้งเรื่องบ้านที่ล้มละลายและครอบครัวที่ต่างหนีหนี้กันไป ชานยอลเคยเป็นหนึ่งในผู้ที่ตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้าโดยมีคยองซูเป็นผู้ดูแล
ทั้งสองได้เริ่มคบกันในช่วงการเรียนมัธยมปีสุดท้ายของคยองซู ก่อนที่พ่อแม่ของคยองซูและชานยอลจะประสบอุบัติเหตุ ทำให้คยองซูต้องเรียนไม่จบ และมีภาระรับผิดชอบเป็นชีวิตของชานยอล
คยองซูรู้สึกผิดที่ครอบครัวตัวเองทำให้ชานยอลต้องตกอยู่ในสภาวะทุพพลภาพ สิ่งที่คยองซูคิดว่าจะทำได้คือการดูแลและรักษาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ
ตลอดเวลาที่ผ่านคยองซูอยู่กับชานยอลด้วยความเข้าใจ ความรัก และความผูกพันธ์ แม้บางครั้งเค้าก็ไม่รู้ว่า ชานยอลอยู่กับเค้าเพราะอะไร
แต่วันนี้ วันที่ชานยอลสามารถยืนได้ด้วยเงินเก็บของคยองซูบวกกับเงินก้อนโตที่คยองซูรับมา มันสามารถทำให้เค้าตั้งตัวและเปิดกิจการบางอย่างที่เค้ารักได้ นั่นคือ ผับ และได้ทำในอาชีพที่เค้ารักคือ ดีเจ
Recommence pub เป็นผับเปิดใหม่ใจกลางเมืองที่มีผู้ดูแลชื่อว่า ปาร์ค ชานยอลและยังพ่วงหน้าที่เป็นดีเจพิเศษในทุกคืนวันศุกร์อีกด้วย ชานยอลใช้พื้นที่ชั้นบนของผับทำเป็นที่อยู่อาศัยแม้ว่าเค้าจะสามารถเข้านอกออกในบ้านคยองซูได้ แต่เค้าก็ไม่ได้กลับไปตั้งแต่วันที่คยองซูขอร้องให้กลายมาเป็นพี่น้องกัน ที่จริงแล้วชานยอลก็แค่รู้สึกเสียหน้าและอับอาย แต่ลึกๆ ก็ไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใด
“ถึงเวลาที่ฉันจะกลับไปทวงของของฉันคืนแล้ว ...........ความรักไง ความรักที่นายเคยมีให้ฉัน ฉันจะเอาไปให้คนอื่นไม่ได้”
ชานยอลคิดมาเสมอว่าตัวเองคือเจ้าชีวิตของคยองซู ถ้าคยองซูไม่เลือกเค้า คยองซูก็ไม่สิทธิ์เลือกใครได้
“ฮัลโหลววววว รังรักเก่า” ชานยอลกลับมาที่บ้านคยองซูอีกครั้ง “ไม่ได้นอนที่นี่ตั้งนาน นายอยู่บ้านคนเดียวคงจะเหงาน่าดู เดี๋ยวฉันมาอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกันนะคยองซู” ชานยอลเดินสำรวจบ้านเก่าที่ไม่ได้กลับมาเป็นเวลาหลายเดือน
“รูปเก่าๆ นี่นายคงเก็บทิ้งหมดใช่มั้ยเนี่ย ขยะแขยงฉันมากหรือไง ... คนอ่อนแออย่างนายแค่เห็นหน้าฉันก็คงใจอ่อนเหมือนเดิมนั่นแหละ”
แล้วชานยอลก็ขนเสื้อผ้าเข้ามาอยู่บ้านเดิมของตัวเองอีกครั้ง แต่จะกลับมาในฐานะอะไรกัน
.................
ณ ซิดนีย์
“พรุ่งนี้ก็จะได้กลับบ้านแล้ว ดีใจมั้ย” จงอินถามคยองซูที่เงียบไปตั้งแต่จงอินเปิดแอร์ให้นอนเล่นเกมส์อย่างสบายใจ
“จริงๆ ผมยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน แต่ก็เป็นห่วงบ้าน คิดถึงที่นอน คิดถึงกลิ่นพ่อกับแม่ คิดถึงที่สุดเลย”
“แล้วเวลาที่นายไม่เจอฉันนานๆ นายจะคิดถึงฉันแบบนั้นบ้างไหมนะ”
“ไม่อ่ะครับ”
“หน้าตาก็ดีทำไมใจร้ายกับฉันจัง” จงอินขบจมูกของคยองซูเพื่อเป็นการทำโทษ
“ก็เราอยู่ด้วยกันตลอดจนผมไม่มีเวลาคิดถึงคุณต่างหาก” คยองซูยิ้มอย่างมีความสุขในอ้อมกอดของจงอิน
“ใครสอนให้นายพูดอะไรแบบนี้นะ” จงอินพลิกตัวมากอดคยองซูและจ้องตากัน
“ก็คนนี้ไง” คยองซูจุ้บไปที่ปากของจงอินรัวๆ
“ฉันนึกไม่ออกเลยว่า ถ้าวันพรุ่งนี้ชีวิตฉันไม่มีนาย ฉันจะอยู่ยังไง ฉันรักนายนะคยองซู ” จงอินจุ้บปากคยองซูกลับบ้าง คยองซูตอบสนองด้วยการกอดซบไปที่หน้าอกของจงอิน
ทั้งสองนอนกอดกันแบบนี้ทุกคืน จงอินไม่กล้าล่วงเกินคยองซูไปมากกว่านี้ เพราะเค้ารู้สึกได้ว่าความรู้สึกของคยองซูที่ให้เค้ามา มันยังไม่เต็มร้อย
เวลาจะช่วยให้คยองซูดีขึ้น จงอินแค่อยากให้คยองซูเปิดใจรับและรักเค้าโดยที่ไม่มีคำว่าบังคับ แม้แต่คำว่ารักก็ยังไม่เคยออกจากปากของคยองซูแม้แต่ครั้งเดียว
……………
คู่นอน
แบคฮยอนเพื่อนเก่าสมัยเรียนหรือเรียกอันอย่างว่าคู่นอนของชานยอลก็ได้ เข้ามามีบทบาทในผับของชานยอลอย่างเต็มตัว พร้อมเปิดตัวกับคนในร้านว่าเค้านี่แหละแฟนของชานยอล
“นี่ตกลงงานที่นายจะให้ฉันช่วยดูแลก็คงไม่พ้นพีอาร์ร้านให้นายใช่มั้ย” แบคฮยอนชายหนุ่มในผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กที่เดินไปมาในบ้านของคยองซู
“แล้วนายทำอะไรเป็นนอกจากเสนอหน้าสวยๆ พูดจาดีๆ ออดอ้อนลูกค้าหรือเปล่าหล่ะ ถ้าทำได้มากกว่านั้นก็ทำ”
“ฉันเล่นดนตรีกับร้องเพลงได้นะ แต่ว่านายอาจจะไม่รู้เอง”
“จริงๆ นายอยากทำอะไรก็ได้ในร้านของฉันหน่ะ แค่ดูแลทุกอย่างให้มันเรียบร้อยก็พอ”
“โอเค เรื่องนั้นฉันถนัดอยู่แล้ว ว่าแต่เรื่องที่เราเคยคุยกันไว้ตั้งแต่สมัยโน้น สมัยที่เราได้กันแรกๆอ่ะ นายยังจำได้มั้ย”
“เรื่องอะไร” ชานยอลนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง
“บ้านไง นายบอกว่านายจะซื้อบ้านให้ฉัน ถ้าในอนาคตเราได้กลับมาคบกันอีก”
“ฉันบอกว่าฉันจะคบนายหรอ ฉันว่าถึงตอนนี้ยังไงนายก็ยังอยู่สถานะเดิมนะ”
“สถานะ??”
“คู่นอนไง นายคิดอะไรไปมากกว่านั้นหรอ อย่ามีหวังอะไรลมๆ แล้งๆ กับฉันเลย ฉันไม่มีอะไรให้นายหรอก”
“ก็เราจะสร้างด้วยกันนี่ไง เดี๋ยวนายลงเงิน ฉันลงแรงให้เอง”
“อย่าจริงจังน่า แบคฮยอน มานี่มา” ชานยอลกระดิกนิ้วเรียกแบคฮยอนให้มาใกล้ๆ “นายน่าจะจริงจังกับเรื่องนี้ก่อนนะ ไหนบอกมาซิว่าคู่นอนที่ดีต้องทำอะไรบ้าง”
“คู่นอนงั้นหรอ”
- CUT –
....................................
ระหว่างทางสนามบิน อินซอน - บ้านคยองซู
“นี่นายน้ำหนักขึ้นเปล่าเนี่ย ทำไมหน้าบานขนาดนี้”
“คุณคิมน่าเกลียด มาทำหน้าล้อเลียนผมทำไม”
คุณลุงคนขับรถแอบมองรอยยิ้มของจงอินผ่านกระจกมองหลัง แล้วก็อมยิ้ม พาลคิดในใจไปว่า [ตั้งแต่คุณผู้ชายเสียไป ก็ไม่ได้เห็นรอยยิ้มคุณหนูคิมมานานแล้ว]
“มีรถใครมาจอดขวางหน้าบ้านไม่รู้ครับ งั้นผมจอดตรงนี้นะครับ”
“ทำไมถึงมาจอดหน้าบ้านแบบนี้นะ ไม่มีมารยาทเลย”
“นี่นายไปเปิดไฟในบ้านทิ้งไว้หรือไง ค่าไฟไม่ปาไปล้านแปดแล้วหรอเนี่ย”
“เปล่า ผมไม่ได้เปิด ผมว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่เลย” คยองซูเดินมาหยุดที่หน้าประตูบ้าน เห็นก้นบุหรี่ถูกทิ้งไว้เกลื่อนกลาด ทำให้คยองซูนึกไปถึงคนเดียวที่ชอบทำนิสัยแบบนี้
[ปาร์ค ชานยอล พี่กลับมาทำไม]
“คยองซู คยองซู นายเป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเรียกตั้งหลายรอบแล้วนะ” จงอินเขย่าตัวคยองซูให้ได้สติ
“ผมว่าในบ้านน่าจะมีคนที่ผมไม่อยากเจออยู่ ผมจะทำยังไงดีครับ”
“นี่มันบ้านของนายนะ นายจะกลัวอะไร เดี๋ยวฉันเข้าไปเป็นเพื่อน”
“ถ้าพี่ชานยอลเห็นคุณ ผมว่าต้องมีเรื่องแน่ๆ เลย”
“จะเอาเรื่องอะไรดีหล่ะ ฉันไม่กลัวหรอกนะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้านายเชื่อใจฉัน เราก็เข้าไปด้วยกัน” จงอินจับมือคยองซูที่ดูจะกล้าๆ กลัวๆ “ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่ตรงนี้แล้วไง”
“อ้าว มัวทำอะไรกันอยู่หล่ะ จะเข้าก็เข้ามา ” เสียงของชานยอลตะโกนลงมาจากระเบียงบ้านชั้นสอง แบคฮยอนยืนประกบข้างชานยอล ดูจากสภาพก็รู้ว่าสองคนนั้นเพิ่งจะเสร็จกิจกันหมาดๆ
คยองซูไม่พอใจมากที่ชานยอลทำเรื่องแบบนี้ในบ้านของตัวเอง หนำซ้ำยังเอาคนอื่นมาเสวยสุขอีกด้วย
“ผมไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรทุเรศๆ ในบ้านของผมแน่นอน”
“คยองซู นายต้องใจเย็นๆ นะ” จงอินพูดตามหลังคยองซูที่อาจจะวู่วามจนกลายเป็นเรื่องใหญ่
ชานยอลกับแบคฮยอนใส่เสื้อผ้าลงมาต้อนรับคยองซูที่ห้องรับแขก
“ไง ...... กลับมาแล้วหรอที่รัก พี่กลับมาอยู่บ้านแล้วนะ คิดถึงพี่มั้ย” ชานยอลยั่วยวนกวนประสาทคยองซู ก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ไล่ให้แบคฮยอนกลับบ้าน “ส่วนเธอ ได้เงินแล้วก็กลับไปได้แล้ว”
แบคฮยอนงงที่ชานยอลพูดเรื่องเงินทั้งที่แบคฮยอนยอมมีอะไรด้วยเต็มใจ “เดี๋ยว นายพูดเรื่องอะไร”
“ก็นายมานอนกับฉัน ได้เงินแล้วก็กลับบ้านไปได้แล้ว จะมางี่เง่าไม่ได้นะคู่นอน นี่ที่รักของฉันกลับมาแล้ว แหกตาดูบ้างซิ”
“ชานยอล นายนี่มันเลวกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะ” แบคฮยอนผลักอกชานยอลเต็มแรงก่อนที่จะออกจากบ้านไป
“อ้าว ฉันไล่คนอื่นออกจากบ้านไปแล้ว นายก็ควรไล่คนนอกที่ไม่ใช่คนในครอบครัวออกไปด้วยนะ นายหน่ะ กลับไปได้แล้ว” ชานยอลชี้หน้าจงอินและสะบัดนิ้วไปที่ประตู
“พี่นั่นแหละที่ต้องออกไป ที่นี่บ้านของผม ออกไป ไป๊” คยองซูไล่ชานยอลทั้งน้ำตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“อ๋อ ไปเอากันมาถึงไหนต่อไหนแล้วหล่ะ ถึงได้ปกป้องกันขนาดนี้” ชานยอลกระชากคยองซูมากอด
“นายเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ ที่หวงของเล่นหน่อยเลย ถ้านายอยากมีปัญหา นายมาตัวต่อตัวกับฉันดีกว่า” จงอินแกะมือสกปรกของชานยอลออกจากตัวคยองซู “นายมันสกปรกเกินไปที่จะมาแตะตัวคยองซูนะ”
“กวนตีน นี่แฟนกู กูเผลอแปบเดียวก็มีหมามาคาบไปแดกแล้วหรอเนี่ย เสน่ห์แรงจริงๆ นิสัยอ่อยนี่มันเลิกยากขนาดนั้นเลยหรอคยองซู ไอ้นี่ใช่ม่ะ ที่มันป่วยเป็นโรคอะไรนะ โรคพิษสุนัขบ้าอ่ะหรอ”
“สัส แม่งเอ้ย” จงอินใส่กำปั้นไปที่ชานยอลจนนับไม่ถ้วน ชานยอลแม้จะตัวใหญ่กว่าแต่ก็ไม่ทันได้ตั้งตัว ถึงกับล้มทั้งยืนไปเลย แล้วคยองซูก็ได้เอาตัวเข้ามาบังขอร้องจงอินไว้
“คุณคิม ผมขอร้องพอเถอะครับ ผมไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้”
“แต่สันดานปากมันหมาแบบนี้ คงคุยกับมันดีๆ ไม่รู้เรื่องหรอก”
“มึง !!” ชานยอลจะยันตัวเองลุกขึ้นมาชกมือจงอินสักที แต่คยองซูก็ดึงเข้าไว้ “มึงเห็นม่ะ ว่าคยองซูเค้ายังเป็นห่วงกูขนาดไหน”
“ถุยยยย เป็นห่วงหรอ เค้าสมเพชมึงต่างหาก ทำตัวเป็นปลิงเกาะคนอี่นเค้ากิน แล้วยังจะมาหน้าด้านบอกว่าเค้าเป็นห่วง” จงอินตอกย้ำปมด้อยของชานยอลไปอีกรอบ
“มึงมันก็รวยเพราะพ่อแม่แหละวะ เอาเงินมาฟาดคนอื่นเหมือนกัน กูไม่ได้หน้าเงินคนเดียวโว้ย คยองซูมันก็หน้าเงิน”
“พี่ชานยอล หุบปากเน่าๆ ของพี่ไปเลยนะ ถ้าพี่ไม่รู้อะไรก็ไม่ต้องมาพูด ออกจากบ้านผมไปเลย อย่าให้ผมต้องแจ้งความเลยนะ”
“ไม่ต้องไปแจ้งความให้เสียเวลาหรอก เดี๋ยวฉันให้คนของฉันจัดการแปบเดียวก็หายไปจากโลกนี้แล้ว”
“คุณคิม ผมขอเคลียร์กับพี่ชานยอล สองต่อสองได้ไหมครับ”
“นี่นายไล่ฉันหรอ”
“ครับ”
“โอเคร๊ พี่ไปรอในรถแล้วกัน พี่ไม่ปล่อยให้นายอยู่กับมันสองคนหรอก”
....................
“ไหน พี่พูดมาซิ ว่าพี่กลับมาทำไม”
“ก็พี่ไม่มีที่ไปไง พี่มีนายแค่คนเดียวนะ”
“แล้วผมบอกแล้วไง ว่าเราเป็นได้แค่พี่น้องกัน แต่นี่พี่เล่นทำตัวแบบนี้ ผมว่าเราจะอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้วนะ”
“แสดงว่าถ้าพี่จะกลับมาอยู่กับนายแบบพี่น้อง นายก็จะไม่รังเกียจพี่ใช่มั้ย”
“.......................” คยองซูคิดหนักกับคำถามของชานยอล
“ก็ได้ พี่จะยอมนายทุกอย่าง พี่ขอแค่ที่ซุกหัวนอนก็พอ”
“แล้วเงินตั้งเยอะแยะ พี่เอาไปใช้ทำอะไรหมด เงินไม่ใช่น้อยๆ เลยนะพี่”
“อ่อ พี่เอาไปใช้หนี้พ่อกับแม่หน่ะ” ชานยอลยังคงไม่พูดความจริงกับคยองซูว่าตัวเองเอาเงินทั้งหมดไปลงทุนทำผับหมดแล้ว โดยที่คยองซูไม่ได้ผลประโยชน์เลยสักนิด
“อืมมม พี่ก็ต้องทำงานหาเงินเองด้วยนะ ผมไม่มีเงินเหลือให้พี่ใช้ฟรีๆ แล้ว”
“รู้แล้วแหละน่า สรุปว่าให้พี่อยู่ที่นนี่เหมือนเดิมนะ”
“ครับ”
“แล้วตกลง ไอ้สถุลนั่นแฟนใหม่นายหรอ”
“เปล่าครับ นายจ้างก็คือนายจ้างครับ”
คนอย่างชานยอล...มีหรอจะมองไม่ออกว่า คยองซูกับจงอินมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกว่านายจ้างลูกจ้างธรรมดา ต่อให้คยองซูโกหกยังไงก็คงหลอกหัวใจตัวเองไม่ได้
[คนอย่างนาย มันคนใจอ่อน นายไม่มีทางรู้ทันฉันหรอก ... คยองซู]
50%
ทำไมคยองซูจะต้องทนอยู่กับคนที่ตัวเองหมดรักไปแล้วด้วย อยู่แบบเจ้าของบ้านก็เหมือนขออาศัยเค้าอยู่ไปวันๆ ชานยอลไม่ได้รับผิดชอบอะไรภายในบ้านเลย แถมยังเอาผู้หญิงมานอนได้ไม่ซ้ำหน้าแต่ที่เห็นบ่อยสุดก็คงเป็นแบคฮยอน
หลายครั้งที่แบคฮยอนมักจะหานอนค้างเป็นประจำ แถมยังพูดจาไม่ดีใส่คยองซูอยู่บ่อยๆ ด้วยแววตาของแบคฮยอนก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เพียงแต่แค่จะบอกว่าเค้าคือเจ้าของชานยอลก็เท่านั้น
ในเมื่อคยองซูไม่ได้คิดอะไรกับชานยอล นั่นเป็นเหตุผลที่เค้าไม่ไปมีปัญหากับแบคฮยอน เพียงแต่บอกให้ทั้งสองคนอยู่กันแบบสงบก็พอ
แต่กลับเป็นชานยอลที่ชอบลากคยองซูเข้าไปเป็นปัญหากับแบคฮยอนจนได้
"แบคฮยอน นายรู้ไหมว่าชีวิตฉัน ใครคือคนสำคัญที่สุด"
"............................"
"นายเห็นคนนั้นม่ะ คนที่ชื่อคยองซู คนนั้นแหละที่สำคัญกับฉันมากที่สุด ถ้าไม่มีเค้าในวันนั้น ฉันคงมายืนไม่ได้ในวันนี้ เราต้องขอบคุณเค้านะ" ชานยอลที่นั่งกอดกับแบคฮยอนที่โซฟา กำลังจ้องมองคยองซูที่กำลังทำความสะอาดบ้านในส่วนที่ทั้งสองทำเลอะเทอะไว้
"แล้วทำไมนายต้องพูดถึงคนอื่นต่อหน้าฉันด้วย" แบคฮยอนสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของชานยอล
"ก็ฉันพูดเรื่องจริง ทำให้นายต้องโมโห"
"ก็ได้" แบคฮยอนเดินตรงเข้าไปหาคยองซู กระชากตัวคยองซูมาหาชานยอล และบีบคางของคยองซูไว้ "นี่นะหรอคนที่นายบอกว่าสำคัญที่สุด ทำไมปล่อยให้มันทำงานงกๆ อยู่คนเดียวหล่ะ แล้วเอาเวลามาเสวยสุขกับฉัน นี่นายรักมันจริงๆ หรือว่ากำลังปั่นประสาทฉัน ตอบมาซิชานยอล"
"คุณครับ ปล่อยผมก่อนซิครับ แล้วผมจะพูดอะไรให้คุณฟัง" คยองซูผลักมือของแบคฮยอนออก "คุณจำไว้นะครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ชานยอลแล้ว ทั้งหมดเป็นการร้องขอของเค้าที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้เอง ผมก็ให้อยู่แล้ว ขออย่างเดียวอย่ามาระรานผมก็ได้ แต่ทำไมพวกคุณถึงไม่จบ ผมไม่รู้ว่านี่คือเกมส์อะไรของใครแต่ผมไม่ได้สนุกด้วย ผมมีแฟนแล้ว ผมมีคนรักของผมแล้ว ฉะนั้นไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงความคิดผมได้ หวังว่า คุณคงสบายใจขึ้นนะครับ.... แบคฮยอน"
"นายพูดว่าอะไรนะ นายมีแฟนแล้ว มีคนรักแล้วงั้นหรอ" ชานยอลไม่พอใจที่คยองซูกล้าสารภาพความจริงออกมา ชานยอลโมโหเหมือนถูกหักหน้าเข้าเต็มๆ "นายมานี่ มาคุยกับฉัน" ชานยอลรวบตัวคยองซูอุ้มเข้าห้องไป
แบคฮยอนได้แต่มองตาปริบ กำลังสับสนว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร แค่หมากตัวนึงที่ชานยอลจับมาเดินงั้นหรอ ผิดกับแบคฮยอนที่รักชานยอลจนหมดใจ รักมานานเกินกว่าจะเลิกรักได้ ชานยอลเป็นสิ่งเดียวที่เค้าเฝ้าทะนุถนอมมาทั้งชีวิต
"ไม่ๆ เราจะไม่ปล่อยให้ชานยอลไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับคยองซูเด็ดขาด"
ช่วยด้วย ........ เสียงตะโกนร้องเรียกขอความช่วยเหลือของคยองซูดังมาจากในห้อง ช่วยด้วย พี่ครับอย่าทำแบบนี้เลย ผมบอกว่าผมมีแฟนแล้วไงครับ ทำไมพี่ไม่เข้าใจผมบ้าง
เสียงสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองคนจะเงียบไปในห้อง ครั้นจะให้แบคฮยอนโวยวายแน่นอนเค้าคงถูกชานยอลทำร้ายร่างกายฟรีๆ อีกตามเคย
"ฉันจะช่วยแกยังไงดีนะ" แบคฮยอนกำลังคิดหาวิธีอยู่ เสียงโทรศัพท์ของคยองซูก็ดังขึ้น หน้าจอปรากฎชื่อคุณคิม นี่แหละหนทางเดียวที่จะช่วยให้เรื่องทั้งหมดจบ
"ฮัลโหล ฮัลโหล ฉันแบคฮยอนนะ เป็นแฟนชานยอล คุณรีบมาช่วยคยองซูหน่อยตอนนี้ชานยอลจับเค้าเข้าห้องและเงียบไปแล้ว"
"อ้าว ไอ้เชี่ยชานยอล แล้วทำไมนายไม่ชอบคยองซู"
"ผมตัวแค่นี้จะไปช่วยอะไรใครได้ คุณรีบมานะ ผมจะถ่วงเวลาไว้"
".................." จงอินรีบวางสายไปทันที
แบคฮยอนคิดว่าชานยอลคงไม่ใช่กำลังกับคยองซูแน่นอน และตอนนี้เสียงโวยวายก็เงียบไปแล้ว แต่จะถ่วงเวลาไว้อย่างไรหล่ะ
ก๊อกๆๆๆ
"ชานยอล ชานยอล" แบคฮยอนตัดสินใจเคาะประตูเพื่อขัดจังหวะความสุขของชานยอล
"ทำไมยังไม่กลับไปอีกวะ" ชานยอลตะโกนออกมาด้วยอาการหัวเสีย
"เปิดประตูให้ฉันก่อน ฉันมีเรื่องจะบอก "
แก๊กกก ชานยอลเปิดประตูออกมา แบคฮยอนพยายามมองหาคยองซูแต่ก็ไม่เห็นร่างของคยองซู
"มองหาใคร" ชานยอลผลักอกแบคฮยอนให้ออกจากห้องไป "คยองซูมันหนีฉันเข้าห้องน้ำไปแล้ว"
"งั้นให้ฉันไปกล่อมให้มั้ย" แบคฮยอนออกอุบายเพื่อถ่วงเวลาให้จงอินมาได้ทันเวลา "ตอนนี้นายก็ออกไปหาอะไรดื่มเย็นๆ ให้ชื่นใจก่อนก็แล้วกันนะ อย่าอารมณ์เสียไปเลย"
"ได้ งั้นนายช่วยกล่อมมันทีนะ เป็นตัวเป็นเด็กไปได้ ทำอย่างกับพวกที่ไม่เคยอย่างนั้นแหละ"
"เอาน่า ไม่เห็นต้องหงุดหงินเลยนิ่ที่รัก" แบคฮยอนกอดข้างหลังของชานยอล แต่ชานยอลกลับสลัดตัวของแบคฮยอนออกไป
"อย่าเพิ่งมายุ่ง ฉันยังไม่มีอารมณ์"
"แต่มีอารมณ์กับมันนี่นะ" แบคฮยอนชี้ไปที่คยองซูที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ
"เออ หุบปากไปเถอะ ถ้ายังอยากมาหาฉันอยู่" หลังจากชานยอลระเบิดอารมณ์ใส่แบคฮยอนเค้าก็เดินลงไปข้างล่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"นี่ นี่ ไอ้คนขี้ขลาดได้ยินฉันมั้ย" แบคฮยอนเคาะประตูห้องน้ำเรียกคยองซู "ฟังดีๆ นะ เดี๋ยวคุณคิมแฟนแกกำลังจะมา ฉันจะถ่วงเวลาเอาไว้จนกว่าเค้าจะมา ฉะนั้นแกไม่ต้องออกมา เข้าใจมั้ย"
"อืม" เสียงตอบเบาๆ จากคนข้างใน เป็นการตอบรับการเจรจาของแบคฮยอน
เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จงอินก็ปรากฎตัวที่หน้าบ้านของคยองซู ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ชานยอลเผลอหลับไปเพราะความเมาหลังจากถูกแบคฮยอนมอมไปหลายแก้ว
"คยองซูอยู่ที่ไหน" คำถามสั้นจากจงอินที่เป็นห่วงคยองซูมากกว่าใคร
แบคฮยอนชี้ไปที่ชั้นสอง " นี่นายฉันเตือนนายเป็นครั้งสุดท้ายนะ ช่วยเอามันไปไกลๆ ขานยอลสักทีเหอะ เพราะชานยอลคงไม่ปล่อยมันไปง่ายๆ "
"แต่นี่มันบ้านคยองซูนะ มันต่างหากที่ต้องออกไปไม่ใช่เจ้าของบ้าน"
"ก็จะให้ฉันทำยังไงหล่ะ ฉันพยายามที่สุดแล้วนะ ฉันพยายามจะเอาชานยอลให้ออกห่างจากมัน แต่ชานยอลก็ไม่ยอม ยอมเจ็บตัวยอมทุกอย่าง จะให้ฉันยอมอะไรอีกหล่ะ" หลังจากจบประโยคแบคฮยอนก็บ่อน้ำตาแตก แต่จงอินก็ได้แต่ส่ายตัว และรีบวิ่งขึ้นไปหาคยองซู
ก๊อก ๆ " คยองซู ได้ยินฉันมั้ย ออกมาเร็วฉันมารับนายออกจากที่นี่"
แกร๊ก เสียงกลอนประตูค่อยๆ ถูกปลดออก ทันทีที่คยองซูเห็นหน้าจงอินก็โผกอดจงอินด้วยความดีใจ
"คุณคิม จะทำยังไงดี ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ผมกลัว"
"ผมทำอะไรนาย"
"เปล่า"
"ฉันถามว่ามันทำอะไรนาย ถ้านายไม่บอกฉัน ฉันจะไปกระทืบมันตอนนี้แหละ"
"อย่าเลยคุณคิม พอเหอะ ผมสัญญาว่าผมจะไปอยู่กับคุณ" คยองซูบีบแขนของจงอินไว้ไม่ให้ทำอะไรที่ไม่ดีตอนนี้
คยองซูตัดสินใจออกมาอยู่กับจงอิน ทั้งที่อีกใจก็ไม่อยากทิ้งบ้านของตัวเองไปไว้กับน้ำมือของคนอย่างชานยอล แต่จะให้ทนถูกรังแกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็คงไม่ไหว
"คุณคิม คุณพอมีวิธีไล่เค้าออกจากบ้านของผมหรือเปล่าครับ"
"..................."
"คุณคิม คุณคิม"
".........."
"คุณคิม" คยองซูพยายามเรียกจงอินเป็นครั้งที่สาม แต่ดูเหมือนเค้าจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจคยองซูต่างหาก
"........"
"ไม่อยากคุยก็ไม่ต้องมาง้อนะ นี่ก็ไม่อยากจะง้อมากมายนักหรอก เค้าไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ทำไมอยู่ดีๆ ก็ไม่พูดด้วย" คยองซูเดินหนีจงอินไปเพราะความหงุดหงิดมานาน
"จะไปไหน" จงอินดึงแขนคยองซูไว้
"ก็คุณคิมไม่อยากคุยด้วยนิ่"
"แล้วเมื่อไหร่จะเลิกเรียกคุณคิมหล่ะ เราเป็นแฟนกันแล้วนะ" จงอินอุ้มคยองซูให้มานั่งบนโต๊ะอาหาร
"ก็เป็นแฟน แล้วก็อยากเรียกคุณด้วย ก็มันติดปากแล้วนี่"
"เรียกแฟนได้ไหม"
"..........................."
"จะเรียกแฟนได้ไหม" จงอินทำเสียงแข็งเหมือนเป็นการบังคับให้ตอบว่าได้แบบนัยๆ
"ได้ก็ได้ไงคุณคิม"
"คุณหรอ"
"แฟน .. แฟนก็ได้" คยองซูทำหน้าบู้ใส่จงอินที่เหมือนบังคับให้เค้าพูดอะไรก็ไม่รู้
"ทำไมทำหน้าแบบนั้น ลำบากใจมากหรอที่ต้องเรียกฉันว่าแฟน ทีไอ้ชานยอลนายยังเรียกมันว่าแฟนได้เต็มปาก"
"คุณคิม เอ้ย แฟนกับพี่ชานยอลมันไม่เหมือนกันซะหน่อย แต่ช่างมันเหอะ ตกลงที่ผมถามเรื่องบ้านล่ะครับ ผมอยากหาวิธีไล่เค้าออกจากบ้านพ่อแม่ของผมมั้ย"
"มีซิ แบคฮยอนไง แบคฮยอนช่วยเราได้" จงอินทำหน้ามีเลศนัย
"แบคฮยอนมาเกี่ยวอะไรด้วย"
"เค้าทำได้ทุกอย่างเพื่อคนที่เค้ารักอยู่แล้ว ฉันรู้จักเค้าดี"
"ทำไมแฟนรู้จัก !!" คยองซูทำหน้างงใส่จงอิน
"หึงหรอ" จุ้บบบ จงอินขโมยหอมแก้มคยองซู.
"ไอ้แฟนบ้า ชอบทำแบบนี้นะ" คยองซูไล่ตีจงอินเหมือนเด็กๆ วิ่งรอบห้องครัว จนชนข้าวของตกระเนระนาด แป้งที่คยองซูเตรียมไว้สำหรับทำขนม หล่นลงมาคว่ำเต็มพื้น จงอินก็ได้แต่หัวเราะคยองซูที่วิ่งตามเค้าไม่เคยทัน
"ขาสั้นแบบนี้ ตามยังไงก็ไม่ทันหรอก"
พลั่กกกก จงอินเหยียบแป้งที่พื้นลื่นหัวไปชนกับขอบโต๊ะ "โอ้ยยยยยยยยยยย" จงอินร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บแต่คยองซูก็ไม่สนใจ
"สมน้ำหน้า ดีนะที่หัวไม่แตก ฮ่าาาาาา"
"ถ้าหัวฉันแตก ก็ไม่พ้นนายอยู่ดีที่ต้องดูแลฉัน หรือว่าจะทำให้หัวแตกดีนะ" จงอินทำหน้าจะเอาหัวโขกโต๊ะซ้ำให้มันแตกไปซะเลย "หยุดเลยนะคุณคิม เอ้ย แฟน อย่าทำตัวเป็นเด็กเรียกร้องความสนใจแบบนี้ ถ้าหัวแตกขึ้นมาจริงๆ จะโดนตีซ้ำ คอยดู"
"จะตีฉันตรงไหน ตีที่นี่ม่ะ" จงอินจับมือคยองซูมาทาบไว้ทีอกของตัวเอง
"เลิกเน่าได้แล้วแฟน มาช่วยกันเก็บของเลย สกปรกไปหมดแล้ว" คยองซูเป่าไปที่หัวที่โน แล้วดึงมือให้จงอินลุกขึ้นมาทำความสะอาดพื้นให้หมด
..............................
TALK : 100% ขอมือคนอยากได้ NCชานแบคหน่อย <3
นอกเรื่อง
มีเรื่องจะมาบอก ตอนนี้เรามีบอทคุณคิม @k_k_im รออยู่ที่ทวิตเตอร์นะคะ มีไรข้องใจเข้าไปด่า เอ้ย ถามได้ที่นั่นเลย ส่วนในอนาคตจะมีบอทคยองซูผู้แสนดีหรือเปล่านั้นก็ยังไม่รู้นะคะ เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครอยากมาเล่นด้วยหรือเปล่า
|HELLO|
อ่านให้สนุกนะคะ
ความคิดเห็น