ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC EXO) KaiSoo รักซึมเศร้า >> Depression

    ลำดับตอนที่ #4 : Depression - 03

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 58


     

      [Depression - 03] 

     
    แก้ไขคำผิดระนาวเลย 19-05-2015

     

    “คุณชานยอลคะ ยังไงคุณชานยอลลองโทรหาคุณคยองซูอีกครั้งแล้วกันนะคะ ป้าโทรไปหลายรอบแล้วแกไม่ยอมรับสายเลย ป้าขอตัวกลับก่อนแล้วกันค่ะ มันดึกมากแล้ว”

    “จะไปไหนก็ไป ผมอยู่คนเดียวได้”  เพล้งงงงง แก้วในมือของชานยอลหลุดมือลงมาแตกกระจายเต็มพื้น  “ออกไป ผมอยากอยู่คนเดียว ไป๊”

    “เดี๋ยวป้าทำความสะอาดเศษแก้วพวกนี้ก่อนนะคะ”

    “ไม่ต้อง... ออกไป ไป๊” สายตาของชานยอลแข็งกร้าวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เค้าไม่เอาอะไรสักอย่าง วันๆ เรียกหาแต่คยองซู แล้วนี่ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ไม่แปลกที่ชานยอลจะโมโหขนาดนี้

    “ค่ะๆ ป้าไปก่อนนะคะ คุณชานยอลระวังแก้วบาดเท้านะคะ”

    “.....................”

     

    ระหว่างที่คุณป้ากำลังจะใส่รองเท้าออกจากบ้าน เกิดนึกขึ้นมาได้ว่าลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ในบ้าน คุณป้าเลยเข้ามาในบ้านอีกรอบ

    “ห๊ะ คุณชานยอล” ป้าขยี้ตาและอุทานออกมาเบาๆ “คุณชานยอลเดินได้”

    ชานยอลกำลังเดินไปเดินมาโดยที่ไม่ได้ใช้ไม้เท้าเหมือนทุกที ดูท่าทางเดินคล่องเหมือนกับเป็นปกติแล้ว ทำไมไม่เหมือนตอนที่อยู่กับคนอื่นที่จะต้องใช้ไม้เท้าตลอดเวลา หรือว่าคุณชานยอลต้องการคิดจะตบตาใครต่อใครว่ายังไม่หายดี

    เรื่องนี้คยองซูคงยังไม่รู้และคิดว่าชานยอลคงไม่อยากให้รู้ด้วย แต่จะหลอกกันไปเพื่ออะไรกัน คยองซูทำงานคนเดียวมาตลอดสามปีเลยนะ

    ใครเป็นคยองซูที่คงเสียความรู้สึกแน่ๆ

     

    “ขออนุญาตินะคะ ป้าจะมาเอากระเป๋าสตางค์”  คุณป้าค่อยๆ เดินเข้าไปเอาของที่ลืมไว้ โดยที่ไม่กล้าสบตาชานยอล “นั่นคุณชานยอลจะทำอะไรคะ ถ้าจะลุกมาทำความสะอาดเดี๋ยวป้าทำให้ดีกว่าค่ะ”

    พอป้าอาสาจะเก็บกวาดเศษแก้วให้ ชานยอลก็ทำทีเดินไม่ไหวและล้มลงกับพื้น ทำให้มือพลาดไปโดนเศษแก้วที่ตัวเองทำแตกไว้

    “แม่งเอ้ย”

    “เป็นไรมากมั้ยคะ บอกแล้วว่าให้นั่งเฉยๆ ยังเดินไม่สะดวกแบบนี้ล้มไปจะแย่นะคะ”

    “ป้าไม่ต้องมายุ่งกับผมหรอก ป้ากลับไปเหอะ เรื่องทำความสะอาดกับทำแผลปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแฟนผมเหอะ”

    “ก็ได้คะ แต่ตอนนี้คุณชานยอลลุกมานั่งดีๆ ก่อนค่ะ”

    “..........................”

    “มานั่งข้างบนโซฟานี่ซิคะ” คุณป้าทำเป็นไม่สนใจอย่างที่ชานยอลต้องการ เลยคว้ากระเป๋าสตางค์แล้วเดินออกมาจากตรงนั้น

    “เอ้าป้า!! มาช่วยพยุงผมลุกขึ้นซิ จะให้ลุกเองได้ไง ลำพังผมเดินเองยังไม่ได้เลยนะ”

    “ค่ะๆ” คุณป้าก็ยอมมาทำด้วยความรู้สึกขัดใจนิดหน่อย เพราะภาพที่ตัวเองเห็นก่อนหน้านี้ไม่ใช่ชานยอลคนอ่อนแอที่รอให้ใครต่อใครมาช่วยเหลือ เค้าเดินเองเดินไปเดินมาแถมยังยกเหล้ากระดกอีกด้วย  มันไม่ได้น่าสงสารเลยสักนิด

     

     

    เช้าอีกวัน

     

    “....................... พี่ชานยอล ทำไมมานอนอยู่แบบนี้ .....................

    กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วห้องรับแขก ชานยอลหมดสภาพอยู่กับพื้น ถ้ามองผิวเผินก็เหมือนคนเมาทั่วไป แต่พอเข้าไปดูใกล้ที่เห็นบาดแผลเหวอะหวะที่แขนทั้งสองข้าง

    คยองซูตกใจทำอะไรไม่ถูก ลำพังจะให้ไปอุ้มชานยอลไปโรงพยาบาลก็คงลำบากเกินไป คยองซูหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง จากมือถือที่แบตใกล้จะหมดตั้งแต่เมื่อคืน คยองซูเลยปิดเครื่องเอาไว้ 

    คุณลุงที่เพิ่งมาส่งคยองซูที่บ้านก็ยังไม่ทันจะได้กลับไป คยองซูเลยจำเป็นต้องรีบขอความช่วยเหลือ คุณลุงครับ ช่วยผมด้วยครับ ช่วยพาคนเจ็บไปโรงพยาบาลหน่อยครับ

    คนขับรถของบ้านตระกูลคิม จึงช่วยเหลือด้วยการประคองร่างของชานยอลแขนคนละข้างกับคยองซูแล้วพาขึ้นรถเพื่อไปส่งที่โรงพยาบาล

                “พี่ชานยอล ทำไมยังไม่ได้สติอีกเนี่ย

    แหม คุณครับ กลิ่นเหล้าขนาดนี้น่าจะกินไปเยอะเหมือนกันนะครับเนี่ยคุณลุงเปิดหน้าต่างเพื่อระบายกลิ่นเหล้าออกจากรถ

    ปกติพี่เค้าไม่เคยกินเหล้าเลยนะคะ แปลกมากเลยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อ่อ .. คุณป้า ถามคุณป้าน่าจะรู้เรื่อง

     

    ติ๊ดดด คยองซูหยิบมือถือขึ้นมาเปิดเครื่องอีกครั้งหลังจากที่ปิดเครื่องไปตั้งแต่เมื่อวาน

    ฮัลโหล คุณป้าครับ เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นครับ  เช้ามาทำไมพี่ชานยอลมานอนจมกองเลือดแบบนี้

    [อ่อ ป้าก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เพราะว่าก่อนที่ป้าจะออกมาจากบ้าน คุณชานยอลดื่มเหล้าแล้วก็ล้มลงไปโดนเศษแก้วที่แตก แล้วคุณชานยอลก็ไล่ป้าให้กลับบ้าน ป้าเลยไม่รู้ว่าคุณชานยอลทำอะไรต่อ ตอนนี้จะไปโรงพยาบาลไหนล่ะคะ เดี๋ยวป้าตามไปคะ]

    โรงพยาบาลหน้าปากซอยนี่แหละครับ ยังไงคุณป้ารีบตามมานะครับ ผมทำอะไรไม่ถูกเลย โชคดีนะครับที่คุณลุงคนขับรถมาช่วยไว้

    [โอเค..เดี๋ยวป้ารีบไปค่ะ]

     

     

     

    แล้วรถก็มาจอดหน้าโรงพยาบาลที่ห่างจากบ้านเพียงแค่ 10 นาที

    ช่วยด้วยครับ บนรถมีคนเจ็บครับคยองซูตะโกนเรียกบุรุษพยาบาลที่แสตนบายรออยู่แล้ว คนเจ็บเลยถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินทันที

     

    คงเป็นคยองซูที่รู้สึกร้อนใจอยู่คนเดียว เพราะเรื่องที่ตัวเองทำไว้เมื่อคืนก็เป็นความผิดติดตัวที่ไม่สามารถบอกใครได้ หนำซ้ำจะต้องมาเจอสภาพแฟนตัวเองเจ็บหนักแบบนี้อีก

    คยองซูได้แต่นั่งร้องไห้รออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน โดยที่ไม่รู้ว่าถ้าชานยอลฟื้นขึ้นมา เค้าจะต้องมานั่งตอบคำถามอะไรบ้าง

    คุณคยองซูคะ คุณชานยอลเป็นยังไงบ้างคะคุณป้าที่เหมือนญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่ยังพอหลงเหลืออยู่ของคยองซูได้เข้ามาปลอบใจอยู่ข้างๆ

    คุณป้า มาพอดีเลย ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ พี่ชานยอลจะเป็นอะไรไหมพอคยองซูเห็นคุณป้าเท่านั้น เค้าก็ปล่อยโฮออกมาเหมือนเด็กๆ

    คุณชานยอลต้องไม่เป็นไรคะ เชื่อป้านะคะคุณป้าโอบไหล่คยองซูไว้และลูบหัวเบาๆ

    ถ้าพี่ชานยอลเป็นอะไรไปอีกคน ผมก็ไม่เหลือใครแล้ว เพราะเรามีกันอยู่สองคน ผมไม่น่าทำไม่ดีกับพี่เค้าเลย ผมมันเหลวไหลเอง ผมมันไม่ดีเลยคยองซูได้แต่โทษตัวเองให้คุณป้าฟัง

    ไม่หรอกค่ะ คุณไม่ผิด คุณดูแลคุณชานยอลมาด้วยดีตลอด คุณให้ทุกอย่างกับเค้ามามากพอแล้ว คุณอย่าโทษตัวเองไปเลย คุณทำดีที่สุดแล้วนะคะ

     

    ระหว่างนั้น...............

    ใครเป็นญาติคนเจ็บครับ

    ผมครับคยองซูลุกขึ้นยืนแสดงตัวทันที่ที่หมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน

    อย่างนี้นะครับ ครับ คนเจ็บเค้าทำร้ายตัวเองด้วยการเอาเศษแก้วมาปาดบริเวณแขนทั้งสองข้าง แต่ว่าบาดแผลไม่ได้ลึกมากนะครับ อาการภายนอกไม่น่าเป็นห่วง ส่วนอาการที่เมาไม่ได้สตินั้น น่าเป็นห่วงนะครับ เนื่องจากคนเจ็บมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว นั่นคือแพ้แอลกกอฮอล์ คุณพอจะทราบดีใช่มั้ยครับ

    ครับ

    คนเจ็บดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปมาก อาการแพ้ได้กำเริบมาตั้งแต่ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา อาการหอบหืดที่เกิดขึ้นเป็นอาการแพ้ขั้นรุนแรงหรือเฉียบพลัน ทำให้คุณชานยอลขาดอากาศหายใจและหมดสติไปครับ

    อ่อ ใช่ครับ พี่ชานยอลไม่เคยดื่มเหล้าเลย แล้วปกติเค้ามีโรคหอบหืดก็เป็นโรคที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กแล้วด้วยครับ

    งั้น ผมจะขอดูอาการจนกว่าจะได้สตินะครับ ให้ผมย้ายไปห้องไหนดีครับ

    ห้องพิเศษเลยครับคยองซูแสดงอาการเป็นห่วงชานยอลอย่างเห็นได้ชัด และได้เฝ้าดูชานยอลจนกระทั่งย้ายไปรักษาตัวต่อที่ห้องคนไข้พิเศษ

     

    เมื่อคยองซูเห็นว่าคุณหมอได้ให้ยาและเฝ้าดูอาการให้แล้ว จึงขอตัวไปพักผ่อนก่อน 

    คุณป้าครับ งั้นผมขอกลับไปอาบน้ำก่อนนะครับ ฝากคุณป้าด้วยนะครับเดี๋ยวผมจะรีบกลับมา

    ได้เลยค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้นะคะคุณป้าจับไหล่คยองซูให้รู้สึกว่าวางใจได้

     

    คยองซูเลือกใช้วิธีส่งข้อความทางไลน์ไปบอกจงอินว่า วันนี้จะขอลางาน 1 วัน จงอินอ่านข้อความทันทีแต่ไม่ได้ตอบกลับอะไรทั้งสิ้น

     

    คยองซูอาบน้ำจนสบายตัวแล้ว ก็นั่งเฝ้ารอคำตอบที่จะตอบกลับมาแต่ก็

    ทำไมอ่านแล้วไม่ตอบนะ เป็นอะไรไปอีกคนเนี่ย 

     

    “เสียงรถใครมาจอดหน้าบ้านเนี่ย คยองซูแหวกม่านจากชั้นสองห้องนอนตัวเองเพื่อดูว่าใครมาจอดรถไว้หน้าบ้าน

    ตายแล้ว คุณคิมมาได้ไงเนี่ยคนที่คยองซูกำลังนึกถึงก็ปรากฎตัวขึ้น ทำให้คยองซูต้องรีบแต่งตัวและลงไปต้อนรับ

     

    จงอินยืนพิงรถยิ้มหน้าบานอยู่หน้าบ้าน  เซอร์ไพร์สสสสส

    เซอร์ไพร์สบ้าอะไรกันคุณคิม ผมส่งข้อความไปนานแล้วก็ไม่ยอมตอบกลับนะ พอดีว่าวันนี้ผมมีธุระ ...

    ไม่ต้องสาธยาย ฉันอ่านแล้ว แล้วที่มาถึงเนี่ยก็จะมาตอบไง ... ตกลงฉันไม่ให้ลานะ เพราะฉันกลัวจะทนคิดถึงนายไม่ได้ จงอินทะเล้นทำท่าจะขโมยหอมแก้มคยองซู

    อย่าครับคุณคิม อย่ามาทำลุ่มล่ามตรงนี้นะครับ คยองซูดันหน้าจงอินออก

    แล้วนี่จะให้ฉันยืนคุยกับนายตรงนี้อีกนานมั้ยเนี่ย 

     “อ่อ งั้นเข้าบ้านมาก่อนครับ

     

    พอจงอินเห็นข้าวของในบ้านกระจัดจายเกลื่อนพื้น ทั้งเศษแก้ว ทั้งขวดเหล้า รอยเลือด

    นี่อะไรกันเนี่ย เมื่อคืนโจรขึ้นบ้านหรือไง ทำไมบ้านเป็นแบบนี้

    คุณคิมอย่าเดินไปตรงนั้นนะครับ ผมยังไม่ได้ทำความสะอาดเลย คยองซูรีบห้ามจงอินไม่ให้เดินไปบริเวณที่มีเศษแก้วกระจายอยู่

    แล้วนี่แฟนนายไปไหนหล่ะ ไม่มาต้อนรับฉันหน่อยหรือไง ที่มาถึงนี่ก็ตั้งใจจะมาทำความรู้จักกับแฟนนายนะเนี่ย

    อืม....ตอนนี้ไม่อยู่ครับ

    น่าเสียดาย จงอินลอยหน้าลอยตา รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่พลาดไม่ได้เจอ

    คุณคิมครับ ที่คุณคิมมาเพราะต้องการแค่นั้นจริงๆ หรอ

    ใช่ ฉันแค่อยากมาดูหน้าแฟนนาย ทำไมหรอหรือว่านายอยากให้ฉันมาทำอะไร จงอินยังคงเดินสำรวจไปรอบๆ บ้าน จนไปสะดุดที่รูปคู่ของคยองซูกับชานยอล  คนเนี่ยน่ะหรอ แฟนนาย หล่อดีนะแต่ว่าน้อยกว่าฉันนิดนึง

    ก็หลงตัวเองไปได้เนอะ

    หรือนายจะปฏิเสธ จงอินล็อคคอคยองซูไว้แล้วจ้องหน้ารอคำตอบจากคยองซู

    “...................” คยองซูไม่ตอบได้แต่หลบสายตาเจ้าเล่ห์ของจงอิน จนจงอินต้องเลิกแกล้งไปเอง

    แล้วตกลงว่าเค้าไปไหนซะล่ะ

    ตอนนี้เค้าอยู่โรงพยาบาลครับ เมื่อคืนเกิดเรื่องนิดหน่อย

    เพราะฉันใช่ไหม.. จงอินทำหน้าเหมือนกับรู้ว่าตัวเองเป็นตัวปัญหา

    เพราะผมต่างหาก ไม่เกี่ยวกับคุณคิมหรอกน่า แต่คยองซูก็กลับโทษตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว

    เพราะเราสองคนต่างหาก อย่ามัวแต่โทษตัวเองคนเดียวซิ จงอินลูบผมคยองซูเพื่อให้คยองซูไม่ต้องไปคิดมาก

     

    แต่จะไม่ให้ไปคิดมากได้ยังไง ปกติชานยอลเป็นคนขี้หึงขี้หวงถึงขั้นเป็นบ้าได้เลย ขนาดอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ชานยอลยังหาเรื่องมาหึงได้ ไม่อยากจะคิดถึงบรรยากาศเมื่อคืนเลย ชานยอลคงเหมือนคนใกล้บ้าที่คลุ้มคลั่งอาละวาดไปหมด ..

     

    อืม

    แล้วแฟนนายเป็นยังไงมั้ง

    ตอนนี้ดีขึ้นแล้วครับ เหลือแต่เฝ้าดูอาการแทรกซ้อน

    แล้วจงอินก็เหลือบไปเห็นไม้เท้าที่ตกอยู่บนพื้น ก่อนที่จะถามไปด้วยความสงสัย

    อันนี้ ของใครเนี่ย จงอินหยิบไม้เท้าอันนั้นมาแกว่งเล่นไปมา

    ของแฟนผมเองครับ แฟนผมเค้าสูญเสียความรู้สึกช่วงล่างมานานสามปีแล้วครับ  แล้วตอนนี้ก็กำลังหัดเดินอยู่” คยองซูหันมายิ้มด้วยความภูมิใจในตัวชานยอล ก่อนจะหันไปทำความสะอาดพื้นต่อ

    นี่คงเป็นเหตุผลที่นายไม่ได้มีอะไรกับเค้าเลยใช่มั้ย ถึงว่าเมื่อคืน นายมัน ........ สุด ๆ

    แล้วคุณคิมจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกทำไมล่ะครับ คยองซูเอามือปิดปากจงอินไม่ให้พูด

     

    จงอินจับมือของคยองซูทั้งสองข้างมาประกบที่แก้มตัวเอง  นายจะปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ ... ฉันทำแบบนายไม่ได้หรอกนะ

     

    คุณคิม ผมขอร้อง คุณคิมอย่าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกนะครับ อย่าให้ผมต้องรู้สึกผิดกับเค้าไปมากกว่านี้เลย

    ก็ได้ ถ้านายต้องการแบบนั้น ฉันจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราก็ได้..

     

    จงอินรู้สึกผิดหวังที่คยองซูไม่อยากจดจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน งั้นฉันกลับก่อนแล้วกัน เผื่อนายจะได้เอาเวลาไปเคลียร์ปัญหาอะไรของนาย ถ้าพร้อมจะมาทำงานเมื่อไหร่ก็มาแล้วกัน

    คุณคิมครับ ขอบคุณนะครับ คยองซูดึงแขนจงอินไว้

    นายจะขอบคุณฉันเรื่องอะไร

    ขอบคุณที่คุณคิมเข้าใจผมนะครับ ขอบคุณจริงๆ

    จงอินไม่พูดอะไรตอบกลับ กอดที่อบอุ่นเท่านั้นที่จงอินสามารถทำได้ จงอินกอดคยองซูไว้และกระซิบข้างหูเบาๆ ว่า ที่ฉันบอกว่านายไปว่าฉันชอบนาย ก็แปลว่าฉันชอบนายจริงๆ นะ

    ...........

     

    ชานยอลหายดีจนกลับมาอยู่ที่บ้านได้แล้ว 

     “พี่ชานยอล ดีใจมั้ยที่ได้กลับมาอยู่บ้านแล้ว เห็นอยู่โรงบาลบ่นอยากกลับบ้าน พอได้กลับบ้านก็มาทำหน้าตาบอกบุญไม่รับอีกแล้ว นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่หายงอนอีกหรอ

    คือแฟนหายไปคืนนึง ให้เหตุผลว่าต้องนอนเฝ้าเจ้านาย เป็นนาย นายจะไม่โกรธหรอ

    ก็มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ จะให้ผมตอบแบบไหนที่จะถูกใจพี่หล่ะ

    ถ้าพี่หายงอน แล้วนายจะให้อะไรเป็นของขวัญ

    ผมก็ไม่รู้ว่าจะให้อะไรพี่เป็นพิเศษ เอาเป็นว่าพี่อยากได้อะไรล่ะครับ

    พี่ขอมีอะไรกับนายสักครั้งได้มั้ย” ชานยอลยิ้มเขินๆ ที่ต้องขอมีอะไรกับแฟนตัวเองสักครั้ง

    ห๊า ...... ทำไมถึงมาขอกันแบบนี้ ปกติพี่ไม่เคยต้องการเลยนะ

    นะนะ ก็เราเป็นแฟนกันนะ ถ้านายไม่ให้พี่แล้วนายจะเก็บไว้ให้ใคร

    ก็ ก็ .. เปล่าเก็บไว้ในใคร แต่ว่าเราไม่ได้มีอะไรกันมานานมากนะพี่ ที่ผมรู้มาพี่ก็ไม่มีความรู้สึกตรงนั้นไม่ใช่หรอครับ

    แต่พี่ก็จะพยายามไง

    เอางี้ พรุ่งนี้เราหาหมอกายภาพกัน ไปเช็คร่างกายของพี่ก่อนดีมั้ย

    ไม่อ่ะ พี่ไม่อยากไป

    ถ้าดื้อไม่ไปแบบนี้  ผมก็จะไม่ยอมมีอะไรกับพี่หรอก

    ก็ไม่เห็นต้องไปหาหมอเลย พี่บอกว่าพี่ทำได้ก็ทำได้ไง ทำไมไม่เชื่อใจกันบ้าง

    จะให้ผมเชื่ออะไรจากพี่ได้อีก อย่างเรื่องที่พี่หายแล้ว พี่ยังไม่ยอมบอกผมน่ะหรอ

    ใครบอกนาย??  นังป้าสาระแนนั้นนะหรอ .. ถ้าพี่เดินได้แล้วพี่จะต้องมาใช้ไอ้ไม้เท้าบ้าๆ นี้ทำไม ก็โยนมันทิ้งไปเลยซิ ชานยอลโยนไม้เท้าไปแล้วล้มตัวลงกับพื้นเหมือนกับที่เคยทำเพื่อเรียกร้องความสนใจของคยองซู

    พี่ลุกขึ้นมาเหอะพี่ไม่ต้องมาแกล้ง ผมรู้เรื่องพี่หมดแล้วคยองซูไม่ได้สนใจกับท่าทีเดิมๆ ของชานยอลเหมือนที่ผ่านๆ มา

    ชานยอลกำหมัดกัดปากตัวเอง ด้วยความโกรธที่เสียหน้าและความมาแตกก่อนเวลาอันควร  เอิ่ม พี่เดินได้ เดินได้มานานแล้วด้วย แต่ที่พี่ไม่บอกนายก็เพราะพี่ยังอยากให้นายดูแลพี่แบบนี้ตลอดไป

    ความเห็นแก่ตัวมันทำให้พี่กลายเป็นคนขี้โกหกตั้งแต่เมื่อไหร่

    “......................” ชานยอลได้แต่ก้มหน้าไม่ตอบอะไร

     “ชีวิตของผม ผมให้พี่มาแทบค่อนชีวิตแล้ว พี่จะเอาอะไรจากผมอีก ความเชื่อใจหรอ ต่อไปผมคงให้พี่ได้แค่พี่น้องก็แล้วกัน นั่นคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคนแล้วนะ

    พี่น้องงั้นหรอ ?? นายคิดว่า ฉันคิดกับนายแค่นั้นหรอ

     

    ................

     

    15 วันแล้วที่คยองซูไม่ได้ไปทำงานและไม่ได้ติดต่อไปหาจงอินเลย เป็น 15 วันที่ทั้งสองคนต่างทรมาน จงอินต้องบินไปกลับออสเตรียช่วงนี้บ่อยๆ เพราะว่ารับจ๊อบพิเศษไว้ 

     

    ข้อความไลน์ ..

    คุณคิมครับ พรุ่งนี้ผมพร้อมจะกลับไปทำงานแล้วครับ

    [นายมาหาฉันได้ไหม.................. ที่ออสเตรีย ถ้านายตกลงฉันจะให้คนจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้ นายพร้อมหรือเปล่า]

    “.....................”

    [ฉันให้เวลานายคิด 1 ชั่วโมง พอมั้ย..]

    ผมจะไปหาคุณครับ

    [ก็เพราะนายคิดถึงฉัน เหมือนกับที่ฉันคิดถึงนายมากใช่มั้ย]

    ไม่ใช่แบบนั้นหรอครับ ผมยังทำงานไม่คุ้มกับเงินที่ได้มามากกว่า

    [เงินอีกแล้ว เมื่อไหร่นายจะเลิกพูดเรื่องเงินสักที ฉันไม่คุยกับนายแล้ว ยังไงพรุ่งนี้ฉันจะให้คนของฉันติดต่อไป นายเตรียมตัวให้พร้อมแล้วกันนะ]

    ครับผม

    [ฉันคิดถึงนายนะ หัดฟังไว้แล้วก็ตอบกลับบ้าง อย่าปล่อยให้ฉันคิดอยู่ฝ่ายเดียว]

    “......................” คยองซูนิ่งไปเหมือนทุกทีที่จงอินต้องการคำตอบอะไรทำนองนี้

     

     

     ………………………………………………………

     

    และตั้งแต่วันที่คยองซูกับชานยอลได้เลิกกัน ชานยอลก็หายตัวออกจากบ้านไป โดยที่ไม่ได้เอาอะไรไปเลย นอกจากเงินในบัญชีที่คยองซูฝากไว้ในกับชานยอลทุกเดือน  นั่นไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ สามารถเอาไปตั้งตัวได้เลย ส่วนนึงของค่าจ้างที่คยองซูรับมาก่อนหน้านี้ เค้าก็ให้ชานยอลไปหมด

    ในใจลึกๆ คยองซูก็ยังเป็นห่วงเรื่องความรู้สึกของชานยอลอยู่ไม่น้อย แต่กลับเป็นฝ่ายชานยอลมากกว่าที่ไม่เหลือเยื่อใยกับคยองซูเลยสักนิด ความดีที่คยองซูเคยทำมาก็ไม่เคยนึกอยากจะขอบคุณด้วยซ้ำ

     

     

     

    คยองซูเดินทางมาถึงที่พักที่จงอินจัดเตรียมไว้ให้ โดยที่ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย

    ขอโทษนะครับ ผมจะติดต่อคุณคิมได้ยังไงครับ คยองซูสะกิดถามคนที่พาเค้ามาส่งที่นี่

    คุณคิมสั่งว่าให้คุณแต่งตัวหล่อๆ รอ แล้วเวลาทุ่มนึงคุณคิมจะมารับนะครับ

    อ่อ ๆ ครับ สั่งไว้แค่นั้นใช่มั้ยครับ

    ครับผม

     

     

    ชุดสูทตัดเย็บอย่างดี ใหม่แกะกล่องถูกส่งมาจากพนักงานของโรงแรม จัดส่งให้คุณคยองซู โดยมีโน้ตสั้นๆ ว่า ใส่ชุดนี้รอฉันนะ

     

    ชุดสูทสีดำเงาที่ถูกตัดเย็บขึ้นมาอย่างดี ด้วยเนื้อผ้าบางเบาพิเศษและใส่สบาย พอดีกับสัดส่วนของคยองซู แถมยังมีป้ายที่คอเสื้อว่า คยองซู อีกต่างหาก

     

    19.00 น. เวลานัดหมาย

    ติ๊ด ด  ด เสียงคีย์การ์ดถูกแตะที่เครื่องที่หน้าห้อง

    คุณคิมมาแล้วคยองซูรีบวิ่งไปรอรับหน้าประตู เป็นจังหวะที่จงอินผลักประตูเข้ามาพอดี

    เอ้า ไม่ต้องรีบ เป็นไรไปห๊ะ คิดถึงฉันมากหรือไง ไม่ต้องพุ่งมาขนาดนี้ก็ได้

    เปล่า ก็แค่รอมา 5 ชั่วโมงแล้วคยองซูทำหน้างอใส่จงอิน

    งอนหรอ ทำหน้าดีๆ หน่อยเร็ว ทำหน้าแบบนี้ใครจะเชื่อว่าฉันไม่ได้บังคับนายมา

    ตกลงนี่เราจะไปไหนกัน

    งานรับรางวัลของฉัน ฉันอยากให้คนสำคัญได้มาเห็นความสำเร็จของฉันบนเวที ฉันจะให้กล้องแพลนมาที่นายด้วย นายทำหน้าหล่อๆ รอไว้นะ

    แล้วทำไมกล้องต้องแพลนมาล่ะด้วย

    ก็นายคือคนสำคัญในชีวิตฉันไง ไม่แพลนที่นายแล้วจะแพลนที่ใครจงอินยิ้มหวานให้คยองซู  ไป เราไปกันได้แล้ว เดี๋ยวจะสายนะ

     

    คยองซูเดินนำหน้าจงอินไป

    จะไปไหน มานี่เลย จงอินโก่งแขนให้คยองซูทำหน้าที่ควงเค้าออกไปแทนที่จะเดินตัวลอยออกไปแบบนี้

    ไม่ต้องหรอกครับ อย่าเว่อร์ไปเลยคุณคิม ผมเดินไปเองได้ไม่หลงทางหรอกครับ

    นายเลิกเรียกฉันว่าคุณคิมสักที ให้เรียกฉันว่าพี่คิมหรือที่รักจะดีกว่า

    ที่รัก  คิดได้ไง เรียกคุณคิมอ่ะดีแล้วครับ

    เรื่องมาก !! นายมันไม่เคยได้ดั่งใจฉันเลยสักอย่าง

    .........

    .........

     

    ..............................

    TALK : 100% คอมเม้นให้กำลังใจกันหน่อยเน่อ นี่ก็อัพบ่อยเว่อร์ อย่าเพิ่งหนีไปไหนนะถ้าเราหายไป เง้อ!!






    นอกเรื่อง
     มีเรื่องจะมาบอก ตอนนี้เรามีบอทคุณคิม @k_k_im รออยู่ที่ทวิตเตอร์นะคะ มีไรข้องใจเข้าไปด่า เอ้ย ถามได้ที่นั่นเลย ส่วนในอนาคตจะมีบอทคยองซูผู้แสนดีหรือเปล่านั้นก็ยังไม่รู้นะคะ เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครอยากมาเล่นด้วยหรือเปล่า
     






    <3 เฟบไว้ซิคะ <3
     


     

    |HELLO|

    Tag : #ฟิครักซึมเศร้า
    cut #ฟิครักซึมเศร้า
    Twitter : @Zeaan_B

    อ่านให้สนุกนะคะ






     



     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×