คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ⚛︎ Chapter 5 : คนเนื้อหอม ⚛︎
Ch.5
; คนเนื้อหอม
ช่วงอาทิตย์แรกในการกลับบ้านพร้อมเจ้านาย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ฉันยังนั่งเกร็งบนรถหรูของพี่จิวตลอดทาง ไม่มีแววจะเคยชินกับความเงียบระดับเขาขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
ดีหน่อยที่ในหนึ่งอาทิตย์ฉันจะเข้าร้านแค่วันอังคาร พุธ และศุกร์เท่านั้น เป็นสามวันที่ฉันมีเรียนแค่ช่วงเช้า เลิกก็หกโมงเย็นบ้าง ทุ่มหนึ่งบ้างสลับๆกันไป ส่วนวันหยุดจะทำเต็มวันแบบเสาร์เว้นเสาร์ มันเป็นตารางงานเดียวที่พี่โซนอนุญาตให้ฉันทำ เพราะพี่เขายังห่วงอยากให้ฉันโฟกัสเรื่องเรียนเป็นหลักก่อน
เคยขอด้วยว่าหากเรื่องงานเริ่มกระทบเรื่องเรียนก็ขอให้ฉันเลือกอนาคตตัวเองเป็นที่หนึ่งเสมอ ซึ่งฉันก็ยอมรับปาก และตั้งใจไว้อย่างมุ่งมั่นเลยว่าจะลำดับความสำคัญในชีวิตให้ดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ได้ ไม่ให้แม่นี พี่โซน หรือแม้กระทั่งคุณย่าของพี่เขาต้องมาคอยห่วงด้วยเด็ดขาดเลย
“ไหน ทางนี้ๆ”
ฉันกวาดสายตาตามเสียงเรียก พบกลุ่มเพื่อนตัวเองตรงโต๊ะหินอ่อนติดต้นไม้ใหญ่ ไม่รอช้าสาวเท้าเร็วๆ เข้าไปหาในทันที
“ทำไมมากันเร็วจังเลย”
เวลาอยู่กับเพื่อน ฉันมักสดใสกว่าปกติเสมอ คงเพราะไม่ต้องจริงจังเหมือนเวลาทำงาน และทุกคนก็ล้วนเป็นเพื่อนที่ฉันไว้ใจ แม้พวกเราจะพึ่งรู้จักกันตอนขึ้นปีหนึ่งในคณะมนุษยศาสตร์เอกอิ้ง แต่ด้วยนิสัยที่เหมือนๆ กัน ชอบอะไรคล้ายกัน พวกเราเลยเข้ากันได้ดีราวกับคนรู้จักมาหลายปี
“นิโดนป่านมันลากมากินข้าวเช้าด้วยน่ะสิ เลยต้องมาเช้าเลย”
นิ เพื่อนผู้หญิงหน้าตาน่ารักแถมยังส่วนสูงเท่ากันกับฉันว่าทั้งสีหน้างอแง
นับเป็นเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องด้วยนิกับป่านอยู่พักหอเดียวกัน และป่านก็ขับมอเตอร์ไซค์เป็นคนเดียว เวลาไปไหนมาไหนทั้งคู่จึงมักตัวติดกันเป็นธรรมดา
“แล้วปาล์มล่ะ ทำไมวันนี้มาเช้ากับเขาด้วย”
ฟุ่บ
ฉันเลือกทิ้งตัวลงนั่งที่ว่างข้างปาล์ม เพื่อนผู้ชายหนึ่งเดียวในกลุ่มเรา ถึงปาล์มจะชื่อเหมือนผู้หญิง แต่ความจริงแล้วเขาเป็นผู้ชายแท้นะ เป็นคนที่ตัวสูงแถมยังหน้าตาดีมากด้วย รุ่นพี่ในคณะกรี๊ดเขากันหลายคนเลย ตอนเป็นเฟรชชีก็เกือบโดนจับไปเป็นเดือนคณะแล้วด้วย แต่ปาล์มคนรักความสงบเขาไม่ยอมน่ะ
ฟุ่บ
“ตื่นมาซื้อหมูปิ้ง ซื้อมาฝากเธอด้วย”
“หืม ปาล์มซื้อมาให้เราจริงเหรอ”
“อืม”
หมูปิ้งย่างเตาถ่านห่อด้วยใบตองหอมๆ แค่เห็นปาล์มยื่นมาตรงหน้า ก็หอมเตะจมูกจนอดใจไม่ไหวแล้ว
ฟุ่บ
รีบรับมาไม่มีเกี่ยงเลย
“ขอบคุณนะปาล์ม ไว้วันหลังเราจะซื้อไก่ทอดหน้าหอเราที่เป็นร้านโปรดเธอมาฝากบ้าง”
“จะไม่ลืมหรอกใช่มั้ย?”
“ไม่ลืมๆ”
ถึงเป็นคนขี้ลืม แต่เจอร้านไก่ทอดคุณลุงหน้าหอทุกวันก็ต้องจำได้อยู่แล้ว ส่วนตอนนี้ขอรองท้องด้วยหมูปิ้งร้านโปรดก่อนแล้วกันนะ
“เห้ยๆ แล้วของพวกเราอะไอ้ปาล์มมี่”
“ไม่มี”
“สองมาตรฐานโครตๆ!”
ฉันชะงักมือที่กำลังจับไม้หมูปิ้งขึ้นกัด คิดไปมาแล้วก็เห็นตามที่ป่านว่า ตอนแรกนึกว่าปาล์มซื้อมาฝากทุกคนเสียอีก เพราะงั้นถึงอดจดจ้องเขาไปด้วยอีกคนไม่ได้
ฟุ่บ
“ไม่ต้องมองหน้า แค่เห็นพวกมันกินข้าวเช้ากันแล้วเลยไม่ซื้อมาฝากด้วยก็เท่านั้น”
อ้อ…เป็นแบบนั้นเอง
“เชื่อตายแหละ”
“จริง ใครจะไปเชื่อมัน”
อะ อ้าว ฉันคนนี้ไง
“กินเถอะ ไม่ต้องสนใจ เหลือเวลาแค่สิบห้านาทีเดี๋ยวไม่ทัน”
“อื้อ”
นั่นสินะ ต้องส่งงานต้นคาบก่อนด้วย คิดได้แล้วจึงรีบจัดการข้าวเช้าที่ปาล์มซื้อมาฝากโดยเร่งด่วน
“ลูกไหน”
“หืม”
เพราะปากกำลังเคี้ยวตุ้ยๆ จึงทำได้เพียงครางรับทั้งเลิกคิ้วมองนิคนเรียก
“ช่วงนี้ไหนสวยขึ้นจริงๆ นะ มีเคล็ดลับอะไรดี บอกพวกเราบ้างสิ”
“ใช่ๆ ไหนแต่งหน้าเก่งขึ้นเยอะเลย เรื่องความสวยความงามมันต้องแชร์กันนะเตง เก็บไว้คนเดียวไม่ดี”
ฉันกลืนอาหารที่พึ่งเคี้ยวเสร็จพอดีลงคอ ก่อนหลุดหัวเราะน้อยๆ เมื่อเห็นทั้งนิทั้งป่านทำหน้าจริงจังขั้นสุดยามพูด
เป็นครั้งแรกเลยนะที่มีคนทักฉันเรื่องแต่งหน้าเนี่ย สงสัยการเคี่ยวเข็ญของพี่จินจะเริ่มเห็นผลขึ้นบ้างแล้วสิ ดีใจจัง
“บอกได้อยู่แล้ว ช่วงนี้เราได้แฟนพี่ช่วยสอนมาอีกทีน่ะ ถึงตอนนี้ยังไม่ค่อยรู้เรื่องมาก แต่จะแชร์ให้ทุกอย่างเท่าที่รู้ตอนนี้เลยนะ”
“หืม แฟนพี่นี่หมายถึงพี่จินใช่รึเปล่า?”
“อืม ใช่แล้ว”
ไม่แปลกที่นิจะเดาออก เพราะพวกเธอรู้ว่าพี่โซนเปรียบเหมือนพี่ชายคนหนึ่งของฉัน และพี่จินก็เป็นพี่สาวคนสวยที่ดังมากๆ ในมอเราด้วย
“โหย ไหนได้ครูเป็นพี่จินนี่เอง มิน่า เพื่อนเราถึงได้สวยวันสวยคืนขนาดนี้”
“ปกติไหนก็น่ารักอยู่แล้ว” ปาล์มว่าเสียงเรียบ
“ก็ใช่ไง เมื่อก่อนน่ารัก แต่เดี๋ยวนี้สวยเพิ่มขึ้นมาด้วย”
“ขอบคุณนะทุกคน เอาเป็นว่าต่อไปได้เคล็ดลับอะไรมาอีกเราจะรีบมาบอกนิกับป่านต่อทันทีเลย แบบนี้ดีมั้ยๆ”
“เป็นความคิดที่ดีที่สุดเลยไหน”
“พร้อมเป็นคนสวยไม่ไหวแล้วเนี่ย”
พี่จินบอกเสมอว่าเป็นผู้หญิงต้องอย่าหยุดดูแลตัวเอง การแต่งหน้าก็คือการรักตัวเองแบบหนึ่ง ฉันเลยดีใจที่จะทำให้เพื่อนอีกตั้งสองคนได้รักและเพิ่มความมั่นใจให้ของตัวเองได้บ้าง
ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่เพื่อความสวยแล้ว ผู้หญิงอย่างเราต้องอดทนให้ได้
เมื่อคาบเช้าจบลง กลุ่มเราก็ชวนกันมากินมื้อเที่ยงยังโรงอาหารของคณะก่อนแยกย้าย วันอังคารแบบนี้ฉันมีไปทำงานร้านสักพี่จิวต่อ ส่วนนิกับป่านได้ยินว่าจะไปดูหนังกัน ส่วนปาล์มจะไปเล่นเกมกับกลุ่มเพื่อนผู้ชายต่อล่ะ
“ไหนเอาอะไรมั้ย เรากับป่านว่าจะไปซื้อไอติม”
“ไม่เอาๆ ป่านกับนิซื้อเลย”
“โอเค ถ้าเปลี่ยนใจก็ทักบอกนะ”
“จ้ะ”
พวกเรากินข้าวเที่ยงกันเสร็จแล้ว แต่ยังคงหาของหวานกินเล่นกันอยู่ ระหว่างรอทั้งสองคนไปซื้อก็นั่งคุยเรื่องการบ้านกับปาล์มรอพลางๆ ด้วยคืนนี้กลุ่มเรานัดคอลทำงานพร้อมกัน
ตือดึง
หืม ใครทักมานะ
“แป๊บนึงนะปาล์ม”
บอกคนตัวสูงฝั่งตรงข้ามแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมา ยังไม่ทันกดเข้า โนติแจ้งเตือนบนหน้าจอก็ทำฉันชะงักไปชั่วขณะ
J. : พี่มาหาจินที่มอ
J. : กำลังจะเข้าสตู เธอก็รอไปพร้อมกัน
พะ พี่จิวเหรอ?
พี่เขามีคอนแทคส่วนตัวฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?
ความงงงวยและสับสนทำฉันไม่กล้ายืนยันกับตัวเองว่าคนที่พึ่งทักมาเป็นพี่ชายพี่จินจริงๆ จึงได้ตอบกลับไปว่า
LN. : พี่จิวเหรอคะ
J. : ครับ
ตอบเร็วมากเลย เป็นพี่จิวจริงด้วย
J. : อยู่ตรงไหน
ประโยคนั้นทำฉันเริ่มลนลาน ครั้นย้อนขึ้นอ่านข้อความตั้งต้น อาการอยู่ไม่สุขยิ่งเพิ่มระดับขึ้น
พี่จะรอบคอบเกินไปแล้วค่ะ แค่มาหาพี่จินพอดีเลยคิดแวะรับฉันเข้าร้านด้วยแค่นั้นเหรอ ช่างใจดีกับเด็กพาร์ทไทม์คนนี้มากเกินไปแล้ว...
J. : จินสั่งให้ไปรับ
J. : ไม่ทำไม่จบ
ปะ เป็นพี่จินเองเหรอคนริเริ่มความคิดนี้ แล้วพอชื่อพี่จินถูกหยิบยกมาใช้ ฉันดันเกิดอาการแย้งไม่ออกโดยชะงักเลยนี่ไง
จะมีทางไหนให้ลูกไหนคนนี้เลือกได้อีก…
LN. : หนูอยู่โรงอาหารคณะมนุษย์ค่ะ
J. : อีกสิบนาทีถึง รอข้างหน้า
LN. : ค่ะ
ในช่วงเวลาน่าห่อเหี่ยวใจ ป่านกับนิก็กลับมาที่โต๊ะพอดี ฉันใช้ห้านาทีที่เพื่อนจัดการกับของหวานไปกับการปลงจิตใจ
ครั้นแยกย้ายกับเพื่อนได้ก็เดินออกมารอพี่คนดุแถวหน้าโรงอาหาร บริเวณที่รถยนต์สามารถขับเข้ามาถึงได้ ตอนนี้ก็ใกล้สิบนาทีที่เขาบอกแล้ว
“ไหน”
“ปาล์ม?”
ขณะมองหารถของใครบางคน ปาล์มซึ่งแยกกันไปหยกๆ กลับขับบิ๊กสกู๊ตเตอร์มาจอดติดฟุตบาทที่ฉันยืนอยู่เข้า
“ไหนกลับยังไง ให้เราไปส่งมั้ย?”
“ไม่เป็นไรๆ ปาล์มกลับเลย”
“ไหนจะกลับยังไง”
“เรา…รอพี่มารับน่ะ”
“พี่โซนน่ะเหรอ?”
ฉันหันมองมาเซราติคันสีดำเทาแสนคุ้นตา รถหรูเด่นหราจนเรียกสายตาจากนักศึกษารอบข้างได้โดยพร้อมเพรียง ลืมคิดไปได้ยังไงกันนะ ว่าตอนนี้คนที่โรงอาหารเยอะยิ่งกว่าอะไร
“ไหน?”
“เอ่อ คือพี่เรามาพอดีเลย เรากลับก่อนนะปาล์ม”
“พี่โซนเปลี่ยนรถตั้งแต่เมื่อไหร่…”
เสียงพึมพำของปาล์มใช่ว่าฉันจะไม่ได้ยิน แต่จะให้อธิบายว่าเจ้าของรถไม่ใช่พี่โซนอย่างที่เขาเข้าใจ ก็ดูจะขยันอธิบายมากไป
เอาเป็นว่าให้เขาเข้าใจแบบนั้นไปน่ะดีแล้ว
[JIW PART]
ปึง
เทียบจอดรถรอลูกไหนลาเพื่อนผู้ชายของเธอไม่นานนัก คนที่จินสั่งให้ผมมารับเข้าสตูด้วยก็เดินมาขึ้นรถ
เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่ได้เห็นน้องสาวโซนในชุดนักศึกษา เพราะปกติเธอจะเปลี่ยนชุดก่อนมาทำงานร้านผมทุกครั้ง ได้เห็นแล้วก็คิดว่าดูสดใสสมวัยดี ดูมีชีวิตชีวาแตกต่างกับตอนต้องอยู่กับผม
“พี่จิว สวัสดีค่ะ”
“อืม”
ผมปรายตามองกระจกข้างรถ ชั่งใจว่าควรต้องบอกคนข้างกายหรือไม่ เรื่องที่เพื่อนของเธอยังคงมองมาไม่ละสายตา ดูออกเลยว่าท่าจะเป็นห่วงเป็นใยน่าดู แต่นิ่งคิดแล้วก็เลือกปล่อยผ่าน เมื่อมันไม่ใช่ธุระใดที่ผมต้องไปเสียเวลา
“แถวนี้คาเฟ่ไหนใกล้?”
“พี่จิวจะซื้อเครื่องดื่มเหรอคะ”
“ครับ”
กล่าวเสียงราบเรียบก่อนขยับหักคอไปมา การใช้ชีวิตบนรถแต่เช้ายันบ่าย ถึงไม่เจอรถติดหนักแต่ถือว่าน่าเหนื่อยหน่ายกว่าปกติ ไม่นึกต้องการอะไรในตอนนี้นอกจากคาเฟอีนเข้มๆ สักแก้วก่อนเข้าไปเคลียร์งาน
“หนูไม่รู้ว่าจะถูกปากพี่มั้ย แต่แถวหน้ามอฝั่งซ้ายมีอยู่ร้านหนึ่งค่ะ หนูดื่มบ่อยๆ ก็รู้สึกว่าอร่อยดีค่ะ”
“อร่อยก็คืออร่อย ไม่ใช่คนเรื่องมากขนาดนั้น”
เทสกาแฟผมไม่ได้ล้ำลึก จะแบบไหนก็ดื่มได้ทั้งนั้น ขอแค่ไม่จางเป็นน้ำเปล่าก็พอ
การช่วยชี้บอกตำแหน่งของลูกไหนทำผมหักพวงมาลัยเข้าจอดหน้าคาเฟ่ที่เธอว่าในเวลาต่อมา ไม่ลืมให้ลูกไหนทักถามคนที่สตูด้วยว่าอยากดื่มอะไรกัน ตอนเข้ามาสั่งจึงไม่ได้มีแค่กาแฟของผม แต่มีทั้งน้ำทั้งขนมของทุกคนรวมอยู่
Rrr Rrr
ขณะยืนรอลูกไหนสั่งให้คนอื่น โทรศัพท์ผมเกิดดังขึ้น หน้าจอโชว์เบอร์โทรต่างประเทศ คาดเดาได้ว่าเป็นหุ้นส่วนสักคนในธุรกิจต่างประเทศที่ผมพึ่งไปลงทุนมา ความจำเป็นต้องรับสายทำให้ผมผลักแบล็กการ์ดในมือไปไว้ในการถือครองของลูกไหน กล่าวสั้นๆ ว่า พี่ต้องออกไปคุยธุระ แล้วปลีกตัวออกจากร้านมา
การพูดคุยติดพันอยู่ครู่ใหญ่ แต่คงพอดีกับออเดอร์หลายสิบอย่างที่สั่งไป หลังกดตัดสายลงได้จึงกลับเข้าร้านอีกครั้งเพื่อช่วยใครอีกคนถือ
ทว่า...กลับต้องหยุดฝีเท้าลงก่อนถึงตัวเธอ เมื่อเจอลูกไหนติดคุยกับผู้ชายคนหนึ่งตรงส่วนบริการตัวเองในร้านอยู่
ท่าทางของลูกไหนแสดงออกชัดว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ ใบหน้าขาวใสนั้นเผยยิ้มใสซื่ออยู่ตลอดเวลาที่พูดคุย ไม่รู้เป็นมาเช่นไร ก่อนอีกฝ่ายจะจากไปถึงได้วางมือบนลาดไหล่ของเธอ แล้วตบลงเบาๆ เหมือนเอื้อเอ็นดูมากเข้าให้ที
ก่อนหน้าเป็นเพื่อนคนที่ขับบิ๊กสกู๊ตเตอร์ มาตอนนี้เป็นรุ่นพี่ที่ดูสนิทสนม สายตาที่ทั้งสองต่างใช้มองก็ใช่ว่าจะแตกต่างกัน
น้องสาวโซนตอนอยู่มหาลัย ท่าจะเนื้อหอมกว่าที่ผมคิด
ซึ่งหากให้มองตามความเป็นจริง ก็ดูไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร
#ของจิว
ฮิฮิ สุดหล่อว่าอะไรนะหืมม
ปล.บทนี้ฉากคู่น้อยไป เดี๋ยวมาต่อเพิ่มให้อีกตอนนะ!
ความคิดเห็น