คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ⚛︎ Chapter 4 : บางสิ่งกำลังก่อเกิด ⚛︎
Ch.4
; บางสิ่งกำลังก่อเกิด
“พี่…มากับไหนได้ยังไง?”
ตั้งแต่มาเจอพี่จินยังสถานที่นัดพบ ซึ่งเป็นเวิร์คช้อปแห่งหนึ่ง เธอก็เอาแต่มองฉันสลับกับพี่คนดุไม่หยุด
“ขอเขามา”
ฉันเผยสีหน้าเลิกลั่กไม่รู้ตัว พี่จะตอบเหมือนหนูไปกีดกันพี่แบบนั้นไม่ได้นะคะ
“…คือพี่จิวรู้ว่าหนูมีนัดกับพี่จิน แล้วก็คงอยากมาเจอพี่ หนูเลยได้ติดรถพี่จิวมาด้วยค่ะ”
พี่จินยังคงมองฉันสลับกับพี่ชายเธออยู่ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนยอมพยักหน้าเข้าใจนิ่งๆ ตามแบบฉบับของเธอ
“เห็นพี่กับลูกไหนเข้ากันได้ดีจินก็ดีใจ”
เข้ากันได้ดี?
พี่จินหมายถึงเข้ากันแบบไหนคะ ถึงหนูจะอ่านคนไม่ค่อยออกแต่ประกายวาววับเล็กๆ ราวนึกสนุกตอนมองฉันกับพี่จิวนั้น ชวนให้อยู่ไม่สุขเป็นเอาเสียเลย ทั้งพี่โซนทั้งพี่จิน พากันคิดไปถึงไหนแล้ว
“อย่ามัวดีใจ”
“ทำไมคะ”
“ระวังสาย กลายเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา”
พี่จินคนสวยพลันพลิกข้อมือขึ้นดูเวลา คิ้วเรียวสวยนั้นเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นมองพี่ชายตัวเองด้วยใบหน้าติดยุ่งแต่ก็ยังน่ารักอยู่มาก
“เข้าร้านกันเถอะ จินไม่อยากเป็นคนสวยที่สาย”
“โซนให้ท้ายมาเยอะ”
พี่จิวกล่าวเสียงเรียบ อ่านไม่ออกว่าต้องการสื่อจริงจังหรือหยอกเย้าน้องตัวเองกันแน่ เอาเป็นว่าหลังยืนคุยกันอยู่ด้านล่างร้านเป็นนานสองนาน ในที่สุดเราทั้งสามคนก็ได้ขึ้นมายังสตูดิโอที่พี่จินจองไว้ทันเวลา
ตั้งแต่ได้รู้จักพี่จิน ฉันก็เหมือนได้เพื่อนคอยให้คำปรึกษาเรื่องความสวยความงามมาเพิ่มอีกหนึ่งคน พี่จินน่ะเป็นคนสวยที่ดูแลตัวเองดีอยู่เสมอ แถมยังแต่งหน้าแต่งตัวเก่งเอามากๆ เป็นคนสวยที่มีเสน่ห์และเซ็กซี่ได้ทุกอิริยาบทโดยไม่ต้องพยายาม พอลองแอบถามเคล็ดลับ พี่จินก็เผยความลับบอกกันไม่มีกั๊ก ช่วยแนะนำฉันอย่างจริงจังทุกอย่างเลย
ช่วงนี้นอกจากกะตือรือร้นเรื่องทำงานพาร์ทไทม์แล้ว เลยมีเรื่องดูแลตัวเองนี่แหละ ที่ฉันอยากจะเก่งขึ้น เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมั่นใจเวลาออกมาใช้ชีวิตกว่าเก่า การมีพี่จินเป็นตัวอย่างดีๆ ให้เห็น มันพาให้ฉันมีแรงฮึดอยากพยายามให้ดีบ้าง
และนั่นเป็นสาเหตุให้พี่จินเลือกลงทุนจองคอร์สวิเคราะห์ Personal color คู่ไว้ ฉันเองไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องนี้มากนัก รู้แค่ว่ามันจะทำให้ฉันเข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่งหน้าแต่งตัวง่ายขึ้น เป็นพื้นฐานที่พี่จินเองก็ยังไม่มีโอกาสได้มาลองเช็กจริงจัง พอหาวันที่สองเราทั้งคู่ต่างมีเวลาตรงกันได้ จึงตกลงพากันมาทันที
“จินกับไหนทำนาน พี่จิวจะรอจริงเหรอ”
“อืม”
“รอไหวจริงอะ”
“ไหว”
“พี่นี่น่ารักที่สุด”
ภาพพี่จินยามอ้อนคนพี่นั้นทั้งดูน่ารักและดูเป็นภาพหายากในเวลาเดียวกัน ผู้ชายซึ่งมีบุคลิกภายนอกสั่นขวัญฉันจนตัวหดเหลือสองนิ้วได้ทุกครั้งที่เจอ หากไม่เห็นกับตา คงไม่อาจเชื่อว่าเขาจะสามารถใช้สายตาอ่อนลงยามมองใครสักคนได้ถึงขนาดนี้
อืม...ไม่แน่ว่า หากได้เห็นมุมนี้ของเขาบ่อยๆ ฉันอาจเลิกกลัวเขาได้ในสักวัน
“เรามาเริ่มวิเคราะห์ขั้นแรกกันเลยดีมั้ยคะ”
“ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
หากไม่ได้พี่จิน ฉันคงไม่รู้ว่ามีทางลัดให้เรารู้จักและเข้าใจตัวเองได้รวดเร็วเช่นนี้ แทบไม่รู้ตัวเลยว่าใช้เวลาไปมากแค่ไหน รู้แค่มันสนุกกับการได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มากจนลืมสิ่งอื่นรอบตัวไปเลย
ส่วนพี่จิวนั้น เขายังคงนั่งทำงานรอได้โดยไม่เร่งไม่ร้อน ทำฉันเผลอหลุดคิดเรื่องเขาเสียเป็นจริงเป็นจังอยู่ครู่หนึ่ง…
คิดไปว่าถ้าเป็นเขา คงไม่ต้องเสียเวลามาเช็กโทนสีของตัวเอง เมื่อคู่สีของเสื้อผ้าที่เขามักหยิบจับมาใส่ก็ล้วนเข้ากับเขาได้ดีโดยไร้ที่ติอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่รู้ว่ามีดาร์กโทนในแบบจำแนกปกติหรือเปล่า แต่มันดูเป็นเฉดจำเพาะสำหรับเขาจนนึกโทนอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ ช่างเป็นคนที่ใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้มได้ออร่าจับกระจัดกระจายเสียเหลือเกิน…
หลังใช้เวลาไปหลายชั่วโมง ผลสรุปก็ออกมาว่าลูกไหนคนนี้เป็นสาวคูลโทนแบบซัมเมอร์ ส่วนพี่จินเป็นสาวคูลโทนเหมือนกัน แต่เหมาะกับวินเทอร์มากกว่า
“ไหน พี่อยากไปซื้อเมกอัปใหม่”
“ร้อนวิชาจนต้องไปซื้อทันทีเลยใช่มั้ยคะคุณจิน”
ไม่ใช่แค่ฉันที่หลุดยิ้มกับความอยากลองวิชาของพี่จิน เพราะแม้แต่พี่เจ้าของร้านยังยิ้มเอ็นดูตาม
ความจริงไม่ได้มีแค่พี่จินหรอกที่ตื่นเต้น ฉันเองพอรู้โดยละเอียดว่าโทนเครื่องสำอางแบบไหนเหมาะกับตัวเอง ก็นึกอยากลองไปหาซื้อเปลี่ยนดูเหมือนกัน ฉันเป็นคนขี้ลืมน่ะ กลัวปล่อยทิ้งไว้นานแล้วจะลืม ยิ่งเป็นคนไม่สันทัดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ด้วย เดี๋ยวที่เรียนไปจะเสียของโดยเปล่าประโยชน์เอาได้
“ต้องอ้อนให้พี่จิวพาไปวันนี้เลย”
ท่าทีมุ่งมั่นเกินใครของพี่จินพาฉันลอบมองไปยังคนรอ ร่างสูงกำลังนั่งพาดข้อเท้าข้างหนึ่งทับหน้าขาอีกข้าง บนตักมีแมคบุ๊ควางทับอยู่ ลำคอแกร่งกำลังขยับหมุนวนเพื่อขับไล่ความเกร็งเครียดของกล้ามเนื้อ เป็นท่าทางธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อคนทำเป็นเขา ภาพลักษณ์ที่ได้ถึงออกมาจึงน่ามองปนแบดสุดใจในเวลาเดียวกัน
จึก จึก
“พี่จิวของน้อง”
“เสร็จแล้ว?”
“อือ รอนานมั้ย”
“พี่ทำงานรอ ถึงนานก็ไม่ได้รอโดยเปล่าประโยชน์”
งานยุ่งน่าดูเลย…
“อยากได้อะไร?”
แถมยังรู้ใจคนน้องเก่งมากด้วย
“จินกับน้องอยากไปซื้อของต่อ พี่พาเราไปนะ”
ฟุ่บ
นัยน์ตาลุ่มลึกปรายขึ้นมองกัน แม้ประกายในตาเขาจะไร้แววอื่นใดนอกจากเฉยชาเป็นปกติ แต่ยังทำฉันสะดุ้งได้เหมือนเคย
“จะไปไหน”
“ใจดีแบบนี้ พี่โซนตกกระป๋องของจริงแล้ว”
“แสดงว่าวันอื่นเป็นพี่ที่ตกแทน”
ฉลาดสวนกลับเกินไปแล้ว น่ากลัวสุดๆ
“ไม่เคยเถอะ ไม่มีวันไหนที่พี่ชายจินจะตกกระป๋องได้เด็ดขาด”
“ก็ดี”
พี่จินพลันเผยยิ้มได้ใจ
“มีวันนั้นขึ้นมา คงต้องตัดตำแหน่งน้องเขยทิ้งให้มันจบๆ”
ก่อนจะหุบลงแทบไม่ทัน…
การออดอ้อนของพี่จินเป็นผลให้เราได้มาช็อปสโตร์เครื่องสำอางกันต่อ พี่จิวยังคงเว้นระยะให้เราสองคนได้ดีเสมอ เขาไม่เร่งไม่พอ ยังไม่ถามกระทั่งว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ทำเพียงบอกว่าจะไปนั่งทำงานรอที่ร้านกาแฟไม่ไกล ก่อนปล่อยให้เราสองคนช็อปกันได้เต็มที่
อ่า แถมยังทิ้งแบล็กการ์ดใส่มือพี่จินพร้อมออกคำสั่งราบเรียบว่า อะไรที่ออกจากร้านนี้ ไม่ว่าจะของใคร ให้รูดได้เลย
สำหรับพี่จินคงไม่แปลกอะไร แต่ฉันจะกล้าไปใช้บัตรเขาได้ยังไง ของใช้ฉัน ฉันก็ต้องจ่ายเองสิถึงจะถูก ไม่มีทางใช้เงินเขาจ่ายเด็ดขาดเลย
“วางลงซะไหน”
“แต่ว่าพี่จินคะ…”
“เด็กดีต้องไม่ดื้อพี่”
สาเหตุที่ทำฉันนึกอยากร้องไห้ในวันนี้ ล้วนมาจากพี่น้องบ้านเดียวกัน…
“พี่ชายเธอยังเปย์พี่บ่อยอย่างกับอะไร พี่จิวจ่ายให้เธอบ้างก็ถือว่าเท่าเทียมดี คิดแบบนั้นสิถึงจะถูก?”
โถ่ พี่จินคะ หนูจะไปคิดแบบนั้นได้ยังไงกัน พี่เป็นแฟนพี่โซน ได้รับการดูแลอย่างดีแบบนั้นมันก็ถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ
“พี่ตัดสินให้แล้วว่า ใช้บัตรพี่จิวจ่ายดีที่สุด”
พรึ่บ
ไม่ทันแล้ว ตะกร้าอะไรที่อุตส่าห์แยกใส่แยกถือมาตั้งแต่แรก ล้วนแล้วแต่ถูกน้องสาวพี่คนดุแย่งไปคิดเงินและใช้แบล็กการ์ดรูดจ่ายให้หมดสิ้น
ถ้าแม่นีรู้เข้าว่าฉันยอมให้คนอื่นจ่ายค่าของใช้ให้แทน ลูกไหนคนนี้ต้องโดนตีก้นอย่างแน่นอนเลย
หมับ
“ไปหาพี่จิวกันเถอะ”
“ก็ได้ค่ะ…”
ฉันได้แต่เดินห่อเหี่ยวตามแรงจูงของพี่จินไป ครั้นมาถึงหน้าร้านกาแฟที่พี่คนดุนั่งรออยู่ คนจูงมือนำกันก็อาสาเข้าไปเรียกคนรอเอง ทว่ายังไม่ทันได้เดินเข้า มือถือเธอพลันร้องดังขึ้น เหมือนมีใครสักคนโทรมาพอดี
“พี่โซนโทรมา”
อ่า ห่างกันนานคงเริ่มคิดถึงแฟนแล้วแน่ๆ เลย
“พี่ต้องรับสายก่อน เธอไปเรียกพี่จิวให้แทนที”
“ดะ ได้ค่ะ”
จู่ๆ เหมือนจะงานเข้ากะทันหันเสียแล้ว ปากก็ดันไวตอบรับไปไม่ดูความกล้าอันน้อยนิดของตัวเองเลย แต่ทำไงได้อ่า พี่จินก็รีบปลีกตัวไปรับสายแฟนแล้วด้วย
เอานะลูกไหน แค่เรียกพี่คนดุเอง ไม่ต้องคุยอะไรมากสักหน่อย
บอกตัวเองแล้วก็ก้าวเท้าเข้าร้านไป ไม่ทันต้องกวาดตามองหา สายตาของใครหลายคนในร้านก็นำพาให้เจอเข้าได้โดยอัติโนมัต
ร่างสูงเจ้าของรอยสักรูปดอกไม้บนลำคอจับจองที่นั่งบนเคาน์เตอร์บาร์ติดกระจก เขานั่งพาดแขนกับพนักเก้าอี้ตัวสูงข้างตัวที่ว่าง ในมือจับขอบแก้วเครื่องดื่มไว้ราวกับชินเวลาจับแก้วเหล้า ส่วนอีกข้างใช้มันในการทำงาน
คนอะไรจะดูดีได้ทุกอิริยาบทเลยนะ
ตึก ตึก
“พี่จิวคะ”
ฉันร้องเรียก และร่างสูงก็ตอบสนองทันทีด้วยการเคลื่อนสายตาดำขลับมามอง พี่จิวหลุบมองถุงกระดาษในมือฉัน ไม่กล่าวสิ่งใดแต่เลือกพับปิดจอแมคบุ๊กลง แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
นั่น...บังคับให้ฉันดูตัวเล็กลงทันพลัน เมื่อต้องมายืนเทียบรัศมีคนสูงร่วมร้อยแปดสิบกว่าเช่นเขา เป็นความสูงที่ต่อให้จะเคยพอใจกับระดับส่วนสูงร้อยหกสิบสามของตัวเอง ก็สามารถทำให้ลบลืมความรู้สึกนั้นไปได้ง่ายๆ
“พี่จินรออยู่…”
ฟุ่บ
ร่างกายพลันชะงักและแข็งทื่อ ชั่วเสี้ยววินาทีที่กำลังจะหันหลังนำใครอีกคนไปหาพี่จิน กลับเป็นเวลาเดียวกันที่ฉันไม่คาดคิดว่าร่างสูงจะค้อมตัวลงหา แล้วสอดก้านนิ้วเข้าเกี่ยวกับถุงหูหิ้วในมือฉันไปถือครอง
ช่วงวินาทีที่เรียวนิ้วเขาลากสัมผัสผ่านหลังนิ้วฉัน ร่างกายหนั่นแน่นบางส่วนเฉียดโดนช่วงแขนกัน แม้กระทั่งลมหายใจร้อนจัดยังมีช่วงรินรดเข้ายังช่วงแก้ม...
ทุกสิ่งอย่างนั้นล้วนสร้างผลกระทบหนักหน่วงให้กับฉัน หัวใจยังคงเต้นผิดจังหวะ ปลายจมูกยังคงคุกรุ่นไปด้วยกลิ่นน้ำหอมแสนลึกล้ำของคนตรงหน้าได้
ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสกำลังก่อเกิดขึ้นในตัว และเพราะไม่คุ้นเคย จึงไม่อาจแม้จะอธิบายให้ตัวเองได้เข้าใจ
“จินรออยู่ไหน พูดให้ครบ”
ฉันกะพริบตาถี่ พยายามขับไล่ความร้อนซึ่งเกาะกุมช่วงหน้าแก้ม ครั้นตั้งสติพูดตอบไปได้ก็ฟังดูแผ่วเบาเสียเหลือเกิน
“หน้าร้านค่ะ”
คล้ายได้ยินเสียงทุ้มครางรับบางเบา ก่อนจะสลับเป็นฝ่ายก้าวนำฉันออกจากร้านแทน
การต้องเดินตามแผ่นหลังกว้าง พวงการได้รับสายตามากคู่จากผู้หญิงหลายคนในร้านซึ่งพร้อมใจกันจับจ้องมา ล้วนแล้วแต่จะทำให้ลูกไหนคนนี้วางตัวไม่เป็นธรรมชาติได้ทั้งสิ้น
ที่คิดว่าสักวันคงเลิกกลัวเขาได้ บางทีวันนั้นอาจไม่มีทางมาถึงเลยก็ได้
ขนาดบังเอิญมาใกล้ชิดบ้างแล้ว ยังไร้วี่แววโดยสิ้นเชิงเลยแบบนี้ การเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวช่างเป็นอะไรที่ยากเย็นจังเลย
#ของจิว
หล่อดีนัก กัดซะเลย
ปล. อัปเดตต้นฉบับนะคะ ตอนนี้ได้ประมาณ 90% แล้ว ใครรออีบุ๊กเดี๋ยวมาอัปเดตเรื่อยๆน้าา
ความคิดเห็น