คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ⚛︎ Chapter 2 : อีกมุมมอง ⚛︎
Ch.2
; อีกมุมมอง
ฉันรู้ร้านนัดหมายเมื่อพี่จิวหักพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้ายังร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง มันเป็นร้านซึ่งอยู่แถวหน้ามอฉัน ก่อนหน้าถึงได้เคยมีโอกาสมาลองแล้วหลายครั้ง ทั้งมากับเพื่อนและมากับพี่โซน ถือว่าเป็นร้านโปรดร้านหนึ่งเลยล่ะ
เพราะฉันน่ะชอบเทมปุระที่สุด
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะกระจกรถฝั่งพี่จิวดังขึ้น ขณะที่เราทั้งคู่กำลังปลดเบลท์เพื่อลงจากรถ ครั้นเงยหน้ามองจึงพบว่าเป็นพี่จินนั่นเอง เจ้าของการกระทำ
“จินออกมารับ”
“อืม”
แม้การตอบรับจะติดเฉยชา แต่การเร่งดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตูลงรถไปให้น้องสาวคนเดียวหอมแก้มทักทายนั้น ช่างเป็นการแสดงความรักคืนกลับได้น่ารักไม่แพ้กัน
ถึงเป็นคนดุก็พร้อมเป็นคนอบอุ่นเพื่อน้องได้เหมือนกันสินะ
“ไหน”
“พี่โซน”
จากเคยเผลอยืนมองพี่น้องคู่อื่นทักทายกัน ก็ถึงคราวตัวเองได้ทำบ้าง ฉันยกมือไหว้พี่โซนซึ่งไม่รู้ว่าเดินมาหากันตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่เขาวางมือลงบนศีรษะฉัน ก่อนโยกไปมาเหมือนที่ชอบทำเวลาเจอกัน ชวนให้ฉันเผยรอยยิ้มกว้างๆ ออกมาทันพลัน
แม้ไม่ใช่พี่น้องท้องเดียวกัน แต่เพราะโตมาโดยมีเขาให้จดจำในฐานะพี่ชายมาตลอด จิตใต้สำนึกจึงเปรียบเขาไม่ต่างจากพี่ชายคนหนึ่ง
เราสองคนเริ่มรู้จักกันเพราะคุณแม่ฉันทำงานเป็นพยาบาลพิเศษให้กับคุณย่าของพี่โซน ซึ่งที่ผ่านมาคุณท่านและพี่โซนต่างก็ใจดีกับครอบครัวฉันมาก คอยช่วยเหลือฉันกับแม่นีมาตลอดร่วมสิบปี นับแต่แม่นีเข้าไปทำงานดูแลคุณท่าน การโตมาของฉันถึงได้มีมุมมองต่อทั้งคู่ไม่ต่างจากคนในครอบครัว และพวกเราก็นับถือกันเช่นนั้นเสมอมา ไม่เคยคิดเกินเลยและจะไม่มีวันมีอะไรนอกเหนือจากนั้นไปได้
“ทำไมไหนมาพร้อมพี่มันได้”
เป็นคำถามที่ต่อให้จะถามโดยที่ใบหน้าหล่อๆยังคงรอยยิ้มบางเบาไว้ไม่คลาย ทว่าแววตากลับชวนให้ฉันอึกอักขึ้นมายังไงชอบกล
“หนูบังเอิญเจอพี่จิวตอนจะกลับพอดีค่ะ พี่เขาเลยชวนกลับด้วยกัน”
จะเรียกชวนก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะความจริงเหมือนพี่จิวหยิบฉันติดรถมาด้วยเสียมากกว่า
“เหรอครับ?”
ฉันกะพริบตาถี่มองพี่ชายตัวสูง ก่อนที่ความรู้สึกกระเดิดกระดากจะแล่นปรี่เข้าเล่นงาน เมื่อพี่โซนเล่นตวัดสายตาไปทางพี่จิวเสียดุดัน แสดงอาการไม่พอใจจากการใกล้ชิดนี้อย่างโจ่งแจ้ง พลันพาให้ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วน จนต้องรีบยกมือไม้ขึ้นห้ามปรามคนพี่ทั้งใบหน้าร้อนซู่
พี่โซนอย่าพึ่งมาหวงน้องในสถานการณ์แบบนี้ได้มั้ยคะ…พี่จะหวงน้องกับใครก็ได้ น้องไม่เคยติด แต่กับพี่จิวนี่มันไม่ได้นะ
คนระดับพี่เขาไม่ได้ชอบไหน และก็ไม่มีทางชอบด้วย ดูใบหน้าที่เริ่มขมวดคิ้วเพราะถูกพี่ดุทางสายตานั่นสิ น้องไม่เคยอายเพราะถูกพี่หวงขนาดนี้มาก่อนเลยนะพี่โซน
ฮื่ออ
“จินหิวแล้ว เราเข้าร้านกันเถอะ”
เป็นพี่จินคนสวย ผู้เอ่ยทำลายความน่าอายครั้งนี้ให้ฉัน คนแรกที่รีบพยักหน้ารับคำชวนของเธอจึงเป็นลูกไหนคนนี้ยังไงล่ะ
เผลอพยักหงึกหงักไปถึงสามทีถ้วนเลยด้วย
“พี่มีเรื่องอยากคุยกับแฟนเธอ”
พี่จิวกล่าวเสียงเรียบ ทว่าให้ความรู้สึกน่าหวาดผวาเสียเหลือเกิน
“เข้าไปสั่งรอก่อน”
“พี่จิว จินเคยบอกแล้วนะว่าพี่ชายกับน้องเขยตีกันไม่ได้”
ประโยคนั้นเหมือนจะส่งให้นัยน์ตาลุ่มลึกของพี่จิวพลันเข้มขึ้นอีก ขนาดตวัดตาดุใส่พี่จินทันทีแบบนี้ คงยังไม่หายหวงพี่จินเรื่องพี่โซนแน่เลย…
ก็นะ…น้องสาวคนเดียวแถมสวยขนาดนี้ จะไม่หายห่วงง่ายๆ ก็เป็นเรื่องเข้าใจได้อยู่
“อย่าดุจิน”
“มึงเลิกให้ท้าย ส่วนนี่ก็เลิกพูดย้ำ”
พี่จินยังคงสีหน้ามุ่ยๆ ใส่พี่จิวได้ แม้จะโดนดุเต็มขั้นแล้ว
“รีบไปรอในร้าน ก่อนพี่จะหมดอารมณ์คุยดี”
“ถ้าทะเลาะกัน โดนดีแน่”
อยากเก่งเหมือนพี่จินบ้างจัง กล้าแข็งข้อกับผู้ชายหน้าดุถึงสองคน ดูฉันสิ…แค่ยืนดูเขาเถียงกันก็ใจสั่นเข้าขั้นร่อแร่แล้ว
ตัวงี้หดลงเหลือสองนิ้วไปเรียบร้อย
ฟุ่บ
“ไปเถอะไหน ไปกินของอร่อยก่อนกัน”
ขณะเดินตามแรงจูงพี่จินเข้าร้านไม่มีขัดขืน ร่างกายก็อดหันกลับมองด้านหลังเป็นระยะไม่ได้ กลัวเขามีปัญหากันก็เรื่องหนึ่ง แต่กลัวพี่โซนจะดุพี่จิวเพราะหวงน้อง นั่นเป็นเรื่องน่าอายมากกว่า
พี่จิวเขาจะมามองเด็กอายุพึ่งจะยี่สิบอย่างไหนเป็นอื่นนอกจากน้องพี่ได้ยังไงกันคะ พี่โซนต้องหยุดคิดอะไรที่มันไม่มีทางเป็นไปได้และไม่มีทางเกิดขึ้นก่อนเลย
ไหนกับเขา…ให้ตายก็ไม่มีทางมีสถานะแบบพี่กับพี่จินไปได้!
“เธอชอบเทมปุระเหรอ?”
“ค่ะพี่จิน หนูชอบเทมปุระค่ะ”
“ชอบเหมือนพี่จิว”
เป็นคำพูดธรรมดาแต่ชวนฉันยิ้มแห้งได้ยังไงชอบกล
ขนาดเข้ามาสั่งอาหารรอแล้ว ยังตามมาหลอกหลอนไม่หยุดเลยคนเรา
“แล้วพี่จินชอบมั้ยคะ อาหารญี่ปุ่น”
“กินได้ แต่ให้เลือกก็ขออะไรที่เผ็ดถึงใจดีกว่า”
อ่า ถ้าจำไม่ผิด เหมือนพี่จินจะเป็นคนสวยที่ชอบกินเผ็ดมาก ชอบขนาดครั้งหนึ่งได้เข้าโรงพยาบาล เพราะกระเพาะอาหารอักเสบ ทำพี่โซนทั้งเครียดทั้งเป็นห่วงไปหลายวันเลยล่ะ
แต่บางทีคนสวยก็ต้องมาคู่กับความแซ่บ เป็นเรื่องห้ามได้ยากจริงๆ นั่นแหละเนอะ
“พี่ลักยิ้มต้องอยากกินอันนี้แน่ๆ”
ท่าทางตั้งใจเลือกเมนูให้แฟนของพี่จินชวนยิ้มจนฉันปกปิดไว้ไม่ไหว เชื่อมั้ยว่าตั้งแต่เห็นคู่รักมา ฉันไม่เคยเห็นคู่ไหนน่ารักได้เท่าพี่โซนกับพี่จินเลย
เวลาทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน มันเป็นอะไรที่ชวนเขินเอามากๆ บางทียังนึกสงสัย ว่าคนเป็นแฟนกันแล้วยังต้องคลั่งรักกันขนาดนี้เลยเหรอ คนเห็นอย่างฉันมันฟินจะแย่ทุกทีเลย
“ไหนต้องกินเยอะๆ เพราะงั้นสั่งให้หมดเลยเป็นดีที่สุด”
เป็นอีกครั้งที่ฉันเผลอมองพี่จินด้วยความรู้สึกทั้งขอบคุณทั้งดีใจ
ขอบคุณที่เธอเปิดใจให้กัน
ดีใจที่เราเข้ากันได้เป็นอย่างดี
แรกเริ่มเดิมที ฉันเคยเป็นต้นเหตุทำให้พี่จินกับพี่โซนต้องทะเลาะกันหนักถึงขั้นเกือบเลิกรา จากการเลือกทำอะไรโดยไม่ปรึกษาใครของฉัน
กว่าทั้งคู่จะกลับมาคืนดีกัน ฉันจึงไม่คาดหวังเลยว่าตัวเองยังจะเข้าหน้ากับแฟนของพี่ชายติด ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะเป็นที่ยอมรับ แต่มาวันนี้พี่จินแสดงออกชัดหมดแล้วว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่เกิด และพร้อมเปิดรับกันแค่ไหน
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น นับเป็นหนึ่งเหตุผลให้ฉันได้มาทำงานกับพี่จิว เขารู้เรื่องของฉันกับพี่โซนแล้ว ทว่ายังไม่วางใจพอกับความสัมพันธ์ของเรา กลัวว่าจะยังมีอะไรนอกเหนือจนทำให้พี่จินช้ำใจได้อีก พี่จิวจึงเรียกฉันไปคุยพร้อมหยิบยื่นตำแหน่งงานในร้านสักของเขามาให้ เพื่อให้ฉันอยู่ในสายตาและง่ายต่อการสังเกตความประพฤติ ซึ่งฉันก็ยินดีทำงานกับเขาด้วยความเต็มใจ
อะไรที่ทำแล้วช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ใจได้ ทำให้ทุกคนสบายใจขึ้นได้ ฉันยินดีทำทั้งสิ้น เพราะฉันอยากให้พี่โซนได้รักกับคนที่เหมาะสมแบบพี่จิน
เชื่อมั้ยว่า…นับแต่รู้จักพี่โซนมาแต่เล็กจนโต ฉันไม่เคยเห็นเขารักใครเท่าพี่จินมาก่อนเลย เห็นเขาทั้งรักทั้งจริงจังกับเธอขนาดนี้ ไม่พยายามให้พี่ชายสมหวังแล้วฉันจะยังกล้านับตัวเองเป็นน้องเขาได้ยังไง มีแต่จะทำทุกทางเท่าที่จะทำได้แหละนะ
แม้ว่าเจ้านายคนใหม่จะน่ากลัวไปหน่อย แต่ลูกไหนคนนี้ทนได้อยู่แล้ว
ราวห้านาทีถัดจากนั้น พี่โซนและพี่จิวถึงตามเข้าร้านมา บนร่างกายของทั้งคู่ไร้ร่องรอยของความฟกช้ำ เป็นเรื่องชวนโล่งใจที่พวกเขาพูดคุยกันด้วยดี ไม่มีการใช้กำลังอย่างที่กังวลเกิดขึ้น
เช่นนั้น การร่วมมื้ออาหารด้วยกันจึงเป็นไปอย่างที่ควรเป็น แม้ลักษณะนิสัยของทั้งสามคนจะเป็นคนไม่ค่อยชอบพูดเท่าไหร่ แต่การคอยป้อนคอยตักอาหารให้กันของพี่จินกับพี่โซน บวกกับความไม่ลืมคอยออดอ้อนเอาใจคนพี่ตามประสาน้องของพี่จิน บรรยากาศบนโต๊ะจึงไม่ทำฉันเกร็งอย่างที่คิดไว้เลย
ฟุ่บ
“จะสั่งเพิ่มเหรอคะ?”
“อืม”
ฉันผู้มีความสุขกับการกินเทมปุระของโปรดจนลืมเลือนไปชั่วขณะว่ามีคนที่ตัวเองกลัวนั่งร่วมโต๊ะด้วย แถมเขาคนนั้นยังนั่งฝั่งตรงข้ามกันอีก พอรู้ตัวเงยหน้าขึ้นมอง พบพี่จิวกำลังเลื่อนนิ้วเรียวสวยกดสั่งอาหารผ่านไอแพดอยู่
ฟุ่บ
เกือบได้สำลักอาหารในคอ เมื่อไม่คิดว่าคนจดจ่อกับสิ่งที่ทำจะคิดปรายตาขึ้นสบมองกันเข้าดื้อๆ
“จะเอาอะไรเพิ่ม”
ไม่ทันได้หลุบตาหนี น้ำเสียงราบเรียบพลันขยับถามขึ้นเสียก่อน เมื่อนั้นจึงได้ตอบปฏิเสธเขาไปแทบไม่ทัน
“ไม่ค่ะ หนูพอแล้ว”
“กินเยอะๆ ของโปรดก็จะหมดแล้ว เอามาเพิ่มอีกหน่อย”
พี่โซนซึ่งนั่งข้างกันและคงได้ยินตามด้วยโพล่งบอก
“พี่จิวสั่งไปแล้วนะ”
“สั่งอะไรครับ เทมปุระ?”
“อือ ชุดใหญ่เลย”
พี่จินตอบแฟนตัวเอง พลางหันจอไอแพดที่พี่จิวพึ่งกดเพิ่มรายการอาหารไปมาให้เราเห็นตาม
“สั่งซะเยอะ พี่กินหมดหรือไง”
“ช่วยกันกิน”
การตอบกลับของพี่จิวต่อพี่โซน เป็นไปอย่างเรียบเฉย นิ้วเรียวยาวซึ่งสวยเป็นเอกลักษณ์เหนือใครยังคงใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาใส่จานตัวเองได้น่ามองไม่เปลี่ยน
คงมีแค่ฉันที่ไม่อาจเข้าใจยามพี่จิวสื่อสารได้เต็มร้อย ผิดกับพี่จินและพี่โซนที่ดูเข้าถึงความหมายที่พี่คนนี้ต้องการสื่อได้โดยไม่ต้องพยายาม
เพราะเป็นคนประเภทเดียวกันอะไรทำนองนั้นรึเปล่านะ?
เอาเป็นว่าและแล้วการสั่งอาหารเพิ่มก็ผ่านไปจนมาเสิร์ฟ ฉันไม่ได้สั่งอะไรอีกจึงไม่สนใจนัก มุ่งจัดการของโปรดชิ้นสุดท้ายในจานอย่างมีความสุขต่อไป
ฟุ่บ
ในตอนนั้น ครรลองสายตายามก้มอยู่ของฉัน พลันมองเห็นจานอาหารถูกเลื่อนมาตรงหน้า ก้านนิ้วเรียวยาวนั้นบ่งบอกว่าเจ้าของการกระทำเป็นใคร
ฉันอดไม่ได้จะเงยหน้าขึ้นมองคนฝั่งตรงข้าม เลื่อนมาให้กันไม่พอ พี่จิวยังหยิบโชยุมาเทในช่องสำหรับใส่ซอสให้เสร็จสรรพ
แม้ทุกการกระทำจะดำเนินไปด้วยท่าทีเฉยชาไร้อารมณ์ไม่เปลี่ยน แต่กลับชวนให้รู้สึกว่ากำลังถูกเทคแคร์เล็กๆ อยู่อย่างไรอย่างนั้น…
“กิน”
อะ อะไรกันล่ะ
มาสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นจัดขนาดนี้ หรือความจริงแล้วพี่แค่อิ่มแล้ว เลยผลักมาให้หนูจัดการแทนดื้อๆ กันแน่อ่า
ใช่ ต้องใช่แบบนั้นแน่นอนเลย
#ของจิว
คือสั่งมาให้ อยากให้น้องกิน
แบบนั้นสินะ โอเคๆ แค่กๆๆๆ
ความคิดเห็น