ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
สภาวะจินโซน

ลำดับตอนที่ #1 : #จินโซน [1] : จินไม่เอา

  • อัปเดตล่าสุด 19 ก.พ. 67


Ch.1

; จินไม่เอา

 

“อีจิน มึงเร็วๆ”

“รีบไปไหน”

“ไปหาคนมาฟาดหน้าอีพายบูดไง มึงลืมแล้วรึไงฮะ”

“พึ่งมาถึงเขาคงไม่รีบกลับมั้ง”

“ไม่รู้ล่ะ กูต้องกันไว้ก่อน พลาดคนนี้ไปกูต้องอกแตกตายแน่ๆ”

ปลิว ว่าด้วยอารมณ์ในน้ำเสียง ไม่ได้ใส่ที่ฉัน แต่เป็นยังใครอีกคนซึ่งริอ่านมาตัดหน้าคว้าตัวนักแสดงหนังสั้นที่กลุ่มเราจองมาเป็นเดือนๆ ไปอย่างหน้าด้าน ซ้ำขโมยตอนไหนไม่ขโมย มาเอาไปในช่วงเวลากระชั้นชิดต้องส่งเรื่องให้อาจารย์ถึงขนาดนี้ การโดนปลิวลากมาผับชื่อดังในเวลาสามทุ่มจึงเป็นไปเพื่อตามดีลนักแสดงคนใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าดีกรีความหล่อความดังนั้นยิ่งกว่าคนเก่าอย่างเทียบไม่ติด อารมณ์รีบร้อนและมุ่งมั่นที่ปลิวมีในเวลานี้ จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้

“พี่เค!”

“เห้ย มากันเร็วจังวะ”

“ไหนอะพี่เค พี่ไนท์คนดังเพื่อนของพี่”

ไร้การรั้งรอ เพียงถึงโต๊ะที่พวกพี่เทคของปลิวอย่าง พี่เค นั่งอยู่ เจ้าตัวพลันปรี่ตรงเข้าถามถึงคนที่ต้องการเจอด้วยอารามใจร้อน ตัวฉันเลยเลือกได้แต่ยืนส่งยิ้มบางเบาทักทายพี่คนอื่นร่วมโต๊ะให้แทน

“โห มึงรีบเหรอปลิว ใจเย็นดิตอนนี้มันยังไม่ถึงเลยมั้ง”

“จริงน้องปลิว มานั่งดื่มกับพวกพี่รอก่อนดีกว่ามา” พี่ต้นเพื่อนพี่เค

“เออ นั่งรอก่อน เดี๋ยวมันกับเพื่อนก็มาไม่นานหรอก”

“เฮ้อ ก็ได้ค่ะ”

เพราะคนที่ตามหายังมาไม่ถึง เราทั้งสองถึงต้องย้ายมานั่งรอที่โซฟาก่อนอย่างไร้ทางเลือก และเพราะปลิวเข้าไปนั่งก่อนข้างพี่เคพี่เทคมันก่อน ที่นั่งฉันเลยเป็นริมสุดไปโดยปริยาย

ผับนี้ฉันเคยมาหลายครั้ง โดยเฉพาะช่วงปีหนึ่ง เรียกได้ว่าเคยติดงอมแงมอยู่ช่วงหนึ่ง แต่หลังขึ้นปีสอง อารมณ์ที่เคยอยากมาก็น้อยลงเลยไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่ พอไม่ได้มานาน มาทีก็รู้สึกคึกคักดี

“จินเอาไร พี่ชงให้” พี่เคกล่าวแทรกเสียงเพลงมาถาม

“อีจินชงอะไรให้มันก็แดกหมดแหละพี่ โดยเฉพาะของฟรี”

ถือว่ารู้ใจ แต่วันนี้เกิดอยากเลือกกินเป็นพิเศษไง

“จินขอเหล้านะพี่”

“ชิ ทำเลือกนะมึงอะ”

“ฮ่าๆ ได้ครับ รอแป๊บนะ”

พลันโดนเบ้หน้าใส่ไปทีจากเพื่อนรักข้างกาย ไม่ได้จริงจังเพราะนี่ถือเป็นขั้นปกติของการหยอกล้อ ทั้งที่ฉันกับปลิวพึ่งรู้จักกันตอนเข้าเรียนปีหนึ่งที่คณะนิเทศ นับรวมแล้วไม่ถึงสามปีเต็มดี แต่กลับรู้สึกสนิทราวรู้จักมาสิบปี คงจากนิสัยหลายอย่างที่คล้ายคลึง ค่อนข้างจัดจ้านไปทางแรงสำหรับคนอื่นมอง เราสองคนถึงเลือกคบกันแค่นี้ แต่ก็ใช่จะถึงขั้นหยิ่งปิดกั้นคนอื่น เพราะเพื่อนในคณะเราก็คุยได้เกือบหมด นิสัยโดยแท้ของปลิวเองก็ค่อนข้างเฟรนลี่ต่างจากฉัน

“อะแก้วมึง ส่วนนี่แก้วจิน เต็มที่เลยวันนี้กูเลี้ยงเอง”

“แบบนี้ค่อยสมกับเป็นพี่เทคของปลิวคนสวยหน่อย”

เพราะเป็นคนสวยที่แสร้งเชิดหน้าสะบัดผมน่าได้น่าหมั่นไส้เข้าขั้น เลยได้รับฝ่ามือจากพี่เทคตัวเองผลักหัวสวยๆ นั่นไปที

ไม่สนิทจริงทำไม่ได้นะแบบนี้

ถึงจะอยู่คนละคณะ คนละชั้นปีกับพวกพี่เค แต่ที่มาสนิทได้ขนาดนี้ก็เพราะเราเคยไปค่ายด้วยกันมาตอนฉันกับปลิวอยู่ปีหนึ่ง เป็นค่ายที่ทำให้คนอินโทรเวิร์ตอย่างฉันได้พี่เทคกลับมา ชื่อพี่เค้ก และพี่เขาก็เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของพี่เค แค่วันนี้เจ้าตัวไม่ได้มา

“น้องจิน น้องปลิวมาชนหน่อยค่า”

“ชนค่าา”

เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน จากตั้งใจมาคุยธุระ พอได้เหล้าเข้าปากอารมณ์คนเคยติดเหล้าก็จุดติด โดยเฉพาะเพื่อนปลิวที่เริ่มได้เม้าท์อย่างออกรสออกชาติกับรุ่นพี่ร่วมโต๊ะ ยิ่งลืมสิ้นแล้วถึงเรื่องสำคัญ

กระทั่งฉันเองรู้ตัวอีกทีก็ยกแก้วที่สี่เข้าให้แล้ว พอเริ่มกรึ่มหน่อยๆ สันดานเดิมในตัวก็ยิ่งกำเริบ ท่ามกลางผู้คนหนาตาในผับ ฉันรับรู้ถึงการจับจ้องจากผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ ที่ไม่คิดใคร่สนตอนแรกเพราะไม่คิดว่าจะอยู่นาน แต่มาตอนนี้ชักไม่ใช่ จะขอมองกลับบ้างคงไม่ผิดหรอกใช่มั้ย

ฟุ่บ

เพียงหนึ่งปราดตา ได้รับการตอบสนองดีเกินคาด แต่น่าแปลกที่กลับไม่มีใครเข้าตาเลยสักคน ลองมองซ้ำดูรอบสองก็แล้ว ความเฉยชาในใจยิ่งตอกย้ำว่าไม่มีจริง สุดท้ายก็ได้แต่เลือกเบี่ยงความสนใจมายกแก้วดื่มต่ออย่างเหนื่อยหน่าย…

ทั้งที่สัมผัสได้ว่าหนึ่งในสายตานั้นน่าสนใจอยู่แท้ๆ

ความย้อนแย้งผุดขึ้นใจกลางความนึกคิด เมื่อความรู้สึกร้อนลวกบริเวณผิวกายราวกับโดนใครจับจ้องไม่ละสายตากำลังดำเนินอยู่จริงๆ

ทั้งที่รับรู้ถึงแต่กลับไม่อาจหาเจ้าของสายตานั้นได้เจอ ในใจเลยเริ่มจะงุ่นง่านขึ้นมาหน่อยๆ หรือฉันมันคนเมาที่เพ้อพกไปเอง?

ไม่

ความรู้สึกฉันในเรื่องอย่างว่า ไม่เคยผิดพลาด

ฟุ่บ

กึก

วินาทีนั้น ไม่อาจรู้ว่าสิ่งใดดลใจ แค่รู้ว่าพอหาจากบริเวณเดียวกันไม่พบ จึงลองเคลื่อนสายตาขึ้นอีกระดับ ในตอนนั้นฉันถึงได้เจอ…เจอกับสายตาที่หาไม่ได้ก่อนหน้านี้

ดวงตาสีดำสนิทจรดสบลงก่อนที่ฉันจะช้อนมองเขา เจ้าของประกายตาร้อนลวกคู่นั้นอยู่ในชุดสีดำสนิททั้งตัว รูปร่างเขาสูงโปร่งกำยำ กระทั่งใบหน้ายังสมบูรณ์แบบเข้าขั้น ขนาดเว้นระยะห่างถึงชั้นสองในห้องวีไอพี เขาก็ยังสามารถแผ่มวลความรู้สึกแรงร้อนในตัวไกลมาถึงนี่ได้ เป็นคนที่เพียงแค่สบตา ก็ร้อนรุ่มไปทั้งตัว

ทำไม…ถึงงานดีได้อะไรขนาดนั้น?

“เดี๋ยวนะพี่เค เมื่อไหร่เพื่อนพี่จะมาอะ ถ้าช้ากว่านี้หนูเมาแล้วนะพี่”

“เออว่ะ กูก็ลืมเลย มึงอะไม่เตือนกู”

“โอ๊ย พี่แหละมัวแต่ชวนคุยเนี่ย”

“เออๆ กูไลน์ตามมันให้เดี๋ยวนี้แหละ”

ประโยคโต้เถียงของสองคนข้างกาย ชักนำสายตาฉันให้กลับคืนโต๊ะ ครั้นเหลือบมองปลิวเร่งพี่เคให้ตามเพื่อนมาก็พึงระลึกได้ตามว่าสิ่งสำคัญที่ควรต้องทำวันนี้คืออะไร ดังนั้นกับเขาคนนั้น…จะสานต่อคงไม่ได้

“เดี๋ยวมันมา รอแป๊บ”

“พี่ต้องช่วยหนูคุยด้วยนะพี่เค”

“เออๆ รู้แล้วน่า”

ทั้งที่พยายามแล้วกับการโฟกัสแค่เรื่องงาน แต่สายตากับจิตใจยังไม่วายหลุดโฟกัสจนเคลื่อนมองไปยังชั้นสองได้อยู่อีก คงต้องโทษที่เขาไม่ยอมหยุดมอง ไอ้ฉันเลยยากจะหักห้ามใจ

ยอมรับตามตรงว่า อยากได้

ถ้าไม่ติดเรื่องที่มี ฉันคงส่งยิ้มท้าทายกลับคืน เอาแบบที่เขาคนนั้นจะทนนั่งนิ่งเฉยต่อไปไม่ไหวอีกเลย 

“มีไรวะเค ตามกูเป็นเมียเลย”

ขณะนั้น ผู้ชายคนหนึ่งที่เพียงมองแวบเดียวก็สัมผัสได้ถึงออร่ากระจัดกระจายรอบตัว พลันก้าวตรงมายังโต๊ะ เดาได้ทันทีว่าเขาคือ พี่ไนท์ นักแสดงจำเป็นที่ฉันกับปลิวต้องการตัวในวันนี้

ปลิวเคยสาธยายให้ฟังว่าพี่เขาเป็นอินฟลูฯ ชื่อดังที่กำลังฮอตมากในช่วงนี้ รับรองได้จากสายตาสาวๆ รอบโต๊ะที่หันมองตามกันแทบจะเหลียวหลัง ปิดทุกความสงสัยว่าทำไมปลิวถึงมุ่งมั่นอยากได้พี่เขานัก เพราะพี่คนนี้แหละ จะมาตบหน้าพายบูดได้ดีที่สุด

พรึ่บ

“สวัสดีค่ะพี่ไนท์ หนูปลิวนะคะเป็นน้องเทคพี่เคค่ะ”

“อ่า ครับ”

“ที่กูเรียกมึงมาเพราะเรื่องน้องนี่แหละไนท์”

“?”

“อย่าพึ่งทำหน้างง นั่งก่อนมามึงอะ”

“เออ ท่าจะสำคัญจริง”

เมื่อเห็นพี่เคดึงพี่ไนท์เข้ามานั่งด้วย ฉันจึงขยับนั่งชิดริมมากขึ้นเพื่อเปิดทางให้พี่เขา กลายเป็นว่าคนคั่นกลางระหว่างปลิวกับพี่เคคือพี่ไนท์ แน่นอนว่าพอคนที่รอมาถึง เพื่อนฉันที่กรึ่มระดับหนึ่งอยู่แล้วย่อมไม่รอช้า ทำการทาบทามพี่คนดังราวกับขายตรงโดยมีพี่เคช่วยเชียร์อัพอีกแรงทันที ส่วนฉันน่ะเหรอ...ได้แต่นั่งให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด

“เป็นไง มึงพอช่วยน้องกูได้มั้ยวะ น้องมันเดือดร้อนจริงๆ ว่ะ”

“หนูรับรองเรื่องค่าตัวพี่ว่าไม่กด จ่ายตามเรทแถมบวกเพิ่มให้แน่นอนค่ะ”

“อืม…ก็ไม่ใช่ไม่ได้นะครับ พี่แค่ต้องขอดูเรื่องคิวงานก่อนว่าช่วงที่เราว่าพี่พอรับงานนี้ได้รึเปล่า”

“เออ กูเข้าใจว่ามึงต้องกลับไปคุยกับพี่ผู้จัดการมึงก่อน งั้นมึงค่อยให้คำตอบน้องกูก็ได้ ยังพอมีเวลาอยู่”

“อือ กูจะรีบคุย ถ้าว่างก็ช่วยได้เต็มที่ครับ น้องไม่ต้องห่วง”

“ฮื้อ ขอบคุณมากเลยนะคะ”

เพราะเพื่อนปลิวเล่นใหญ่ถึงขั้นไหว้ขอบคุณพี่เขาไม่หยุด ฉันผู้นั่งข้างจึงต้องไหว้ตามไปด้วย เลยได้รับเป็นยิ้มทรงเสน่ห์กลับคืน

“ว่าแต่มึงมากับใครอะ พวกไอ้อาร์?”

“อือ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออก วันนี้ไอ้โซนว่างพวกกูเลยต้องรีบมา”

“นั่งตรงไหนกันวะ”

ไม่ได้คิดอยากเห็นเพื่อนเขา แต่เมื่อเขาเล่นชี้ให้มองต่อหน้า สายตามันย่อมเผลอมองตามไปเอง

“ข้างบน”

ข้างบนที่พี่ไนท์พูดถึงทำฉันชะงักนิ่ง เมื่อบนนั้นที่เขาว่า…มันเป็นตำแหน่งเดียวกับเจ้าของสายตาที่ฉันอยากได้คนนั้นอยู่ เขาบังเอิญเป็นเพื่อนพี่ไนท์ ซ้ำยังเป็นคนรู้จักของพี่เค กระทั่งพี่เทคฉันคงต้องรู้จัก

พอบังเอิญเป็นคนใกล้ตัว สำหรับฉันเขาจึงเป็นคนที่ไม่สมควรไปข้องแวะด้วยอย่างถึงที่สุด ฉันไม่ชอบสร้างสัมพันธ์กับคนรู้จัก ดังนั้นถึงจะอยากได้มากขนาดไหน

ฉันก็ไม่เอา

 

#จินโซน

ไม่เอาจริงอะ ????

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×