ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : -8- ขี้งอน
วันนี้ฉันก็ตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวตามปกติ แล้วก็รีบลงมารอพี่ฐาข้างล่างเพื่อไปทำงานด้วยกัน
ตรงเวลาเหมือนเดิม เจ็ดโมงเช้ารถสปอร์ตคันงามก็มาเกยหน้าประตูใหญ่..
"ป้าทิพย์ กอล์ฟไปแล้วนะคะ" ฉันยกมือไหว้ป้าทิพย์พลางหอมแก้มป้าทิพย์ฟอดใหญ่
"จ้า ตั้งใจทำงานนะอย่าดื้อกับพี่เค้าล่ะ"
"ค่าาา.." ฉันรับปากป้าทิพย์พร้อมๆกับเปิดประตูรถเก๋งคันงาม
"สวัสดีค่ะพี่ฐา.." ฉันทักทายสารถีคนดีที่ตอนนี้กำลังหมุนพวงมาลัยออกจากรั้วบ้านฉัน
"..." ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนข้างกายที่ท่านเรียก มีแต่การพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบรับ
หรือว่าจะยังไม่หายงอนเรื่องเมื่อวานแน่ๆเลย ทั้งๆที่ก็ส่งข้อความไปง้อแล้วแท้ๆ
ทำไมยังไม่หายงอนอีกล่ะ หรือว่าพี่ฐาจะโกรธเรามากแน่ๆเลย นี่เราควรทำยังไงเนี่ย..
บรรยากาศบนรถเงียบสงบจนแทบได้ยินเสียงความคิดของฉันที่กำลังตัดพ้อคนหน้านิ่งออกมาโวยวาย..
บรรยากาศก็เป็นไปอย่างนั้นจนกระทั่งถึงที่บริษัท ตั้งแต่เช้าทำงานกันโดยไม่ได้คุยกันสักคำเดียว
เอาเอกสารเข้าไปให้แล้วก็เลือกที่จะประหยัดถ้อยคำอธิบายให้ชัดเจนโดยประหยัดคำพูดมากที่สุด
อันไหนใช้โพสอิทแปะได้ก็แปะ..
ไม่ใช่ฉันไม่อยากคุย ไม่ใช่ไม่อยากง้อ แต่ฉันง้อไปแล้ว
ความจริงคือฉันไม่ใช่เป็นคนที่ง้อใครบ่อยๆ จะพูดง่ายๆก็คือ ฉันไม่เคยง้อใคร
ในชีวิตนี้นับครั้งได้จริงๆ มันจึงไม่แปลกเลยที่เราจะไม่คุยกันแบบนี้..
จะว่าไปนี่ก็เที่ยงแล้ว ครึ่งวันผ่านไป โดยที่ยังตั้งแง่กันอยู่เลย
ไม่มีใครเริ่มคุยกับใครก่อน เฮ้อออออ..ฉันควรทำยังไงกับเจ้านายที่งอนเป็นเด็กอยู่ในห้องทำงานดีเนี่ย
"ค่ะคะ...." ฉันสะดุ้งเฮือกกับมือที่วางลงบนไหล่ ฟู่ว..พี่แอนนี่เองตกอกตกใจหมด
"กอล์ฟ..คุณฐาให้พี่มาบอกว่าคุณฐาจะทำงานไม่ลงไปทานข้าวนะคะ ให้กอล์ฟลงไปก่อนเลย ส่วนเอกสารจะรีบทำให้เสร็จ แล้วเดี๋ยวทานข้าวเสร็จค่อยขึ้นมาเอา คุณฐาจะวางไว้ที่โต๊ะให้นะจ๊ะ" พี่แอนส่งต่อข้อความจากคุณเจ้านาย
"ได้ค่ะ..ขอบคุนมากนะคะพี่แอน" ฉันส่งยิ้มให้พี่แอน
นี่จะไม่พูดกันจริงๆใช่ไหม แล้วทำไมถึงไม่กินข้าว แล้วถ้าปวดท้องขึ้นมาจะทำยังไง
โรคกระเพาะก็เป็น งอนแล้วไม่ยอมกินข้าวใช่ไหม บ้างานขึ้นมาเชียวนะ
...............................
วันนี้ตั้งแต่ขับรถออกจากบ้านยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักที
คุยกันแค่เรื่องงาน ก็นั่นสินะ มีหน้าที่ทำงานอยู่ในเวลางานก็ต้องคุยเรื่องงานสินะ
จะให้มาชวนคุยอะไรกันมากกันมาย..
จริงๆฉันก็หายงอนตั้งแต่เมสเสจเมื่อคืนแล้วล่ะ แต่แค่อยากแกล้งเลขาตัวโตของฉันเฉยๆ
แค่อยากให้ง้ออีกหน่อย อีกนิดเดียวก็จะหายอยู่แล้วเชียว นี่อะไรไม่มีท่าทีว่าจะง้อฉันเลยสักนิด
เชอะ ไม่ง้อก็ไม่ง้อ ไม่คุยด้วยก็ได้
จริงๆไม่ใช่ไม่หิว จริงๆไม่ใช่ว่าอยากมานั่งทำงานงกๆในเวลาที่คนอื่นพักเที่ยงกันหรอกนะ
แต่ช่วยไม่ได้นิ ถ้าลงไปกินก็ต้องเจอกัน ทั้งๆที่ไม่คุยกัน มันก็คงน่าอึดอัดดี
อีกอย่าง..ฉันแค่อยากรู้ว่ากอล์ฟจะปล่อยฉันไว้แบบนี้ไหม
แต่ความจริงก็ไม่แปลก ก็ฉันเลือกที่จะไม่ลงไปทานข้าวเอง เขาจะมาสนใจฉันทำไม นั่นสินะ
คิดได้แบบนี้ก็นั่งทำงานต่อไป...
"ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูคงเป็นพี่แอนแน่ๆ
"เข้ามาสิคะ"
"ใจคอจะไม่ทานอะไรหน่อยหรอคะ" เสียงที่คุ้นเคยถามฉันโดยที่ฉันยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองด้วยซ้ำ
"ไม่ล่ะค่ะ พี่ไม่หิว กอล์ฟลงไปทานสิคะ" ฉันตอบคำถามโดยที่สายตายังจับจ้องแต่เอกสารตรงหน้า
ไม่ยอมละสายตาไปมองคนตัวสูงที่ฉันรู้สึกได้ว่ากำลังจ้องฉันอยู่
"พี่ฐาคะ....กอล์ฟซื้อโยเกิร์ตกับขนมปังแฮมชีสมาให้ทานหน่อยนะคะจะได้ไม่ปวดท้องนะคะ"
"..." ฉันเงยหน้าจากกองเอกสารไปมองคนตัวสูงที่หิ้วขนมขึ้นมาโชว์หราอยู่ตรงหน้าฉัน
"งานเดี๋ยวค่อยทำก็ได้นะคะ ถ้าปวดท้องขึ้นมาจะทำยังไงคะ"
"ก็ไปหาหมอไงคะ จะให้ทำยังไงละคะ พอดีไม่มีคนเป็นห่วงพี่ซะด้วย"
ฉันกระแทกเสียงกับคำว่าเป็นห่วงพอประมาณเหมือนต้องการให้คนตรงหน้ารับรู้ว่ากำลังจะสื่ออะไร
"พี่ฐา...หายงอนกอล์ฟนะคะ ที่กอล์ฟรีบลงไปซื้อของขึ้นมาให้ทานนี่พี่ฐายังบอกว่ากอล์ฟไม่ห่วงพี่ฐาอีกหรอ"
ฉันพูดปลายประโยคด้วยเสียงอ่อย ฉันไม่รู้จะง้อพี่ฐายังไง ฉันพยายามแล้ว
"กอล์ฟห่วงพี่ด้วยหรอ"
ฉันหยักหน้าช้าๆแทนคำตอบ ก้มหน้างุดๆหนีสายตาหวานที่กำลังจ้องมองมา
"อะไรนะพี่ไม่ได้ยินเลย กอล์ฟว่าไงนะ"
ฉันแอบเห็นรอยยิ้มที่มุมปากพี่ฐา นี่แกล้งกันชัดๆนี่หน่า คนเจ้าเล่ห์ เจ้าเล่ห์นักนะ อย่าให้ถึงที่เราบ้างละกัน
แต่กว่าจะถึงที่ฉัน ฉันคงต้องผ่านศึกครั้งนี้ไปให้ได้ก่อน โดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธได้เลยจริงๆ
"กอล์ฟ..."
"กอล์ฟ.." พี่ฐาทวนคำฉันเหมือนเป็นการบอกว่ากำลังรอฟังอยู่นะ
"กอล์ฟห่วงพี่ฐา" ฉันพูดได้เร็วและเบา ลิ้นฉันเกือบจะพันกันจนพูดไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว
"ก็แค่เนี้ยแหละ" พี่ฐายิ้มกว้างอย่างผู้ได้รับชัยชนะ
ฉันซื้อโยเกิร์ตมาสองถ้วยของพี่ฐาถ้วยนึงของฉันถ้วยนึงและแซนวิสอีกคู่นึงให้พี่ฐา
ฉันแกะแซนวิสให้พี่ฐาทานในขณะที่พี่ฐาทานอยู่นั้น ฉันก็ไปคว้าน้องโยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่มาเปิดฝา
และกำลังจะตักสตอรเบอร์รี่ลูกโตเข้าปาก พี่ฐาก็จับมือฉันพลางฉวยโอกาสให้ป้อนเข้าปากตัวเอง
แงงง T^T
"พี่ฐา !!! ..."
"ทำไมหรอคะ เรียกพี่ทำไมคะ" พี่ฐาเคี้ยวสตอรเบอร์รี่ลูกโตของฉันอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับทำแก้มป่อง
นี่ถ้าไม่เห็นว่าเพิ่งหายงอนนะ มีวางมวยแน่ๆอ่ะ
"สตอรเบอร์รี่ของกอล์ฟอ่ะพี่ฐา งืออออ TT ของตัวเองก็มีแย่งเค้ากินทำไมอ่ะ"
"ก็พี่อยากกินที่กอล์ฟกำลังกินอยู่หนิ ไม่ได้หรอคะ" พี่ฐาพูดพลางดึงจมูกรั้นๆของฉัน
แถมยังเผลอหัวเราะออกมาอย่างกลั้นขำไม่อยู่
"ได้ก็ได้ค่ะ" เถียงก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ ถ้าเลือกได้นะ ให้กลับไปไม่คุยกันดีกว่า T^T
"ดีมากค่ะ ค่อยน่ารักหน่อย"
หลังจากมื้อเที่ยงผ่านไปก็ถึงเวลาทำงานแล้วสินะ
ฉันคงได้ทำงานอย่างมีความสุขสักที หลังจากที่ง้อคุณเจ้านายได้สำเร็จสักที
จะได้เลิกพ่อแง่แม่งอนกับฉันสักที..
"งั้นเดี๋ยวกอล์ฟไปทำงานต่อก่อนนะคะพี่ฐา"
"กอล์ฟคะ นี่ค่ะ" พี่ฐาส่งกระดาษที่มีจดหมายเลขอะไรสักอย่างไว้สองบรรทัด
"อะไรคะพี่ฐา นี่เลขบัญชีหรืออะไรหรอคะ กอล์ฟไม่คุ้นกับเลขพวกนี้เลย"
"จะคุ้นได้ไงละคะ นี่เป็นเลขจองตั๋วหนัง คือพี่จองไว้ตั้งแต่ตอนเราลงไปกินข้าวแล้วน่ะ" พี่ฐาก้มหน้าลงมองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ
"แล้ว..นี่พี่ฐาจองเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ไม่คุยกันเนี่ยนะคะ 555 ตัวเองมั่นใจได้ไงคะว่าเค้าจะไปกับตัวเอง"
"ก็..ไม่รู้สิ ถ้ากอล์ฟไม่ไปพี่คงชวนคนอื่นไปแทนมั้งคะ หรือกอล์ฟจะไม่ไปงั้นพี่ขอคืนนะคะเดี๋ยวไปชวนคนอื่นแทนก็ได้"
พี่ฐายื่นมือออกมาทำท่าเหมือนจะขอบัตรคืนจริงๆ เรื่องอะไรฉันจะให้พี่ฐาไปดูกับคนอื่นละ ไม่มีทาง
"ใครบอกว่ากอล์ฟจะไม่ไปคะ..งั้นกอล์ฟขอโทรบอกป้าทิพย์ก่อนนะคะ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ"
"ทำไมล่ะคะ เดี๋ยวป้าทิพย์เป็นห่วง ต้องบอกไว้ก่อนว่าจะกลับบ้านดึก"
"ก็..พี่โทรบอกป้าทิพย์ให้แล้วเหมือนกัน" พี่ฐาพูดพลางก้มหน้างุดๆลงกับโต๊ะ
นี่เดี๋ยวนะ..ไวมาก ไวเป็นบ้าเลย โอ๊ยเจ้านายของฉันไวจริงๆ
"พี่ฐา..โอ๊ย งั้นทีหลังนะคะ ไม่ต้องบอกกอล์ฟหรอกค่ะว่าจะพาไป อุ้มขึ้นรถเลยเถอะ มัดมือชกชัดๆเลยนะ"
"แฮะแฮะ.. มัดมือชกหรอ งั้นแสดงว่ากอล์ฟไม่อยากไปใช่ไหมละ งั้น..พี่ไปชวนคนอื่นก็ได้นะคะ"
"พี่ฐาาาา...ก็ลองดูสิคะ ^^" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆบวกกับรอยยิ้มมุมปากที่ชวนให้ขนลุกมากกว่า
...........................
"เด็กอะไรน่ากลัวจัง" ฉันพูดพลางส่ายหัวเล็กน้อยให้กับเด็กตัวโตที่เพิ่งเดินออกจากห้องไป
...........................
writer talk : )
เป็นยังไงบ้างคะตอนนี้ พ่อแง่แม่งอนกันใหญ่แล้วตอนนี้
มีความรู้สึกว่าตอนนี้เป็นอีกตอนนึงที่น่ารัก
แต่งเองยังรู้สึกอิจฉาตัวละคร
โอ๊ยดีใจอ่ะ ที่แต่งไม่กี่วันมีคนคอยติดตามคอยให้กำลังใจ
ขอบคุนนักอ่านที่รักนะคะ ขอบคุนมากจริงๆ
แล้วที่บอกว่าอัพถี่ คือช่วงนี้ยังไม่ตัน 5555
ยังอยากถ่ายทอดเรื่องราวให้อ่านกันเรื่อยๆ
ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งกันซะก่อนเน้อ ขอบคุนค่า :D
ตรงเวลาเหมือนเดิม เจ็ดโมงเช้ารถสปอร์ตคันงามก็มาเกยหน้าประตูใหญ่..
"ป้าทิพย์ กอล์ฟไปแล้วนะคะ" ฉันยกมือไหว้ป้าทิพย์พลางหอมแก้มป้าทิพย์ฟอดใหญ่
"จ้า ตั้งใจทำงานนะอย่าดื้อกับพี่เค้าล่ะ"
"ค่าาา.." ฉันรับปากป้าทิพย์พร้อมๆกับเปิดประตูรถเก๋งคันงาม
"สวัสดีค่ะพี่ฐา.." ฉันทักทายสารถีคนดีที่ตอนนี้กำลังหมุนพวงมาลัยออกจากรั้วบ้านฉัน
"..." ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนข้างกายที่ท่านเรียก มีแต่การพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบรับ
หรือว่าจะยังไม่หายงอนเรื่องเมื่อวานแน่ๆเลย ทั้งๆที่ก็ส่งข้อความไปง้อแล้วแท้ๆ
ทำไมยังไม่หายงอนอีกล่ะ หรือว่าพี่ฐาจะโกรธเรามากแน่ๆเลย นี่เราควรทำยังไงเนี่ย..
บรรยากาศบนรถเงียบสงบจนแทบได้ยินเสียงความคิดของฉันที่กำลังตัดพ้อคนหน้านิ่งออกมาโวยวาย..
บรรยากาศก็เป็นไปอย่างนั้นจนกระทั่งถึงที่บริษัท ตั้งแต่เช้าทำงานกันโดยไม่ได้คุยกันสักคำเดียว
เอาเอกสารเข้าไปให้แล้วก็เลือกที่จะประหยัดถ้อยคำอธิบายให้ชัดเจนโดยประหยัดคำพูดมากที่สุด
อันไหนใช้โพสอิทแปะได้ก็แปะ..
ไม่ใช่ฉันไม่อยากคุย ไม่ใช่ไม่อยากง้อ แต่ฉันง้อไปแล้ว
ความจริงคือฉันไม่ใช่เป็นคนที่ง้อใครบ่อยๆ จะพูดง่ายๆก็คือ ฉันไม่เคยง้อใคร
ในชีวิตนี้นับครั้งได้จริงๆ มันจึงไม่แปลกเลยที่เราจะไม่คุยกันแบบนี้..
จะว่าไปนี่ก็เที่ยงแล้ว ครึ่งวันผ่านไป โดยที่ยังตั้งแง่กันอยู่เลย
ไม่มีใครเริ่มคุยกับใครก่อน เฮ้อออออ..ฉันควรทำยังไงกับเจ้านายที่งอนเป็นเด็กอยู่ในห้องทำงานดีเนี่ย
"ค่ะคะ...." ฉันสะดุ้งเฮือกกับมือที่วางลงบนไหล่ ฟู่ว..พี่แอนนี่เองตกอกตกใจหมด
"กอล์ฟ..คุณฐาให้พี่มาบอกว่าคุณฐาจะทำงานไม่ลงไปทานข้าวนะคะ ให้กอล์ฟลงไปก่อนเลย ส่วนเอกสารจะรีบทำให้เสร็จ แล้วเดี๋ยวทานข้าวเสร็จค่อยขึ้นมาเอา คุณฐาจะวางไว้ที่โต๊ะให้นะจ๊ะ" พี่แอนส่งต่อข้อความจากคุณเจ้านาย
"ได้ค่ะ..ขอบคุนมากนะคะพี่แอน" ฉันส่งยิ้มให้พี่แอน
นี่จะไม่พูดกันจริงๆใช่ไหม แล้วทำไมถึงไม่กินข้าว แล้วถ้าปวดท้องขึ้นมาจะทำยังไง
โรคกระเพาะก็เป็น งอนแล้วไม่ยอมกินข้าวใช่ไหม บ้างานขึ้นมาเชียวนะ
...............................
วันนี้ตั้งแต่ขับรถออกจากบ้านยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักที
คุยกันแค่เรื่องงาน ก็นั่นสินะ มีหน้าที่ทำงานอยู่ในเวลางานก็ต้องคุยเรื่องงานสินะ
จะให้มาชวนคุยอะไรกันมากกันมาย..
จริงๆฉันก็หายงอนตั้งแต่เมสเสจเมื่อคืนแล้วล่ะ แต่แค่อยากแกล้งเลขาตัวโตของฉันเฉยๆ
แค่อยากให้ง้ออีกหน่อย อีกนิดเดียวก็จะหายอยู่แล้วเชียว นี่อะไรไม่มีท่าทีว่าจะง้อฉันเลยสักนิด
เชอะ ไม่ง้อก็ไม่ง้อ ไม่คุยด้วยก็ได้
จริงๆไม่ใช่ไม่หิว จริงๆไม่ใช่ว่าอยากมานั่งทำงานงกๆในเวลาที่คนอื่นพักเที่ยงกันหรอกนะ
แต่ช่วยไม่ได้นิ ถ้าลงไปกินก็ต้องเจอกัน ทั้งๆที่ไม่คุยกัน มันก็คงน่าอึดอัดดี
อีกอย่าง..ฉันแค่อยากรู้ว่ากอล์ฟจะปล่อยฉันไว้แบบนี้ไหม
แต่ความจริงก็ไม่แปลก ก็ฉันเลือกที่จะไม่ลงไปทานข้าวเอง เขาจะมาสนใจฉันทำไม นั่นสินะ
คิดได้แบบนี้ก็นั่งทำงานต่อไป...
"ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูคงเป็นพี่แอนแน่ๆ
"เข้ามาสิคะ"
"ใจคอจะไม่ทานอะไรหน่อยหรอคะ" เสียงที่คุ้นเคยถามฉันโดยที่ฉันยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองด้วยซ้ำ
"ไม่ล่ะค่ะ พี่ไม่หิว กอล์ฟลงไปทานสิคะ" ฉันตอบคำถามโดยที่สายตายังจับจ้องแต่เอกสารตรงหน้า
ไม่ยอมละสายตาไปมองคนตัวสูงที่ฉันรู้สึกได้ว่ากำลังจ้องฉันอยู่
"พี่ฐาคะ....กอล์ฟซื้อโยเกิร์ตกับขนมปังแฮมชีสมาให้ทานหน่อยนะคะจะได้ไม่ปวดท้องนะคะ"
"..." ฉันเงยหน้าจากกองเอกสารไปมองคนตัวสูงที่หิ้วขนมขึ้นมาโชว์หราอยู่ตรงหน้าฉัน
"งานเดี๋ยวค่อยทำก็ได้นะคะ ถ้าปวดท้องขึ้นมาจะทำยังไงคะ"
"ก็ไปหาหมอไงคะ จะให้ทำยังไงละคะ พอดีไม่มีคนเป็นห่วงพี่ซะด้วย"
ฉันกระแทกเสียงกับคำว่าเป็นห่วงพอประมาณเหมือนต้องการให้คนตรงหน้ารับรู้ว่ากำลังจะสื่ออะไร
"พี่ฐา...หายงอนกอล์ฟนะคะ ที่กอล์ฟรีบลงไปซื้อของขึ้นมาให้ทานนี่พี่ฐายังบอกว่ากอล์ฟไม่ห่วงพี่ฐาอีกหรอ"
ฉันพูดปลายประโยคด้วยเสียงอ่อย ฉันไม่รู้จะง้อพี่ฐายังไง ฉันพยายามแล้ว
"กอล์ฟห่วงพี่ด้วยหรอ"
ฉันหยักหน้าช้าๆแทนคำตอบ ก้มหน้างุดๆหนีสายตาหวานที่กำลังจ้องมองมา
"อะไรนะพี่ไม่ได้ยินเลย กอล์ฟว่าไงนะ"
ฉันแอบเห็นรอยยิ้มที่มุมปากพี่ฐา นี่แกล้งกันชัดๆนี่หน่า คนเจ้าเล่ห์ เจ้าเล่ห์นักนะ อย่าให้ถึงที่เราบ้างละกัน
แต่กว่าจะถึงที่ฉัน ฉันคงต้องผ่านศึกครั้งนี้ไปให้ได้ก่อน โดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธได้เลยจริงๆ
"กอล์ฟ..."
"กอล์ฟ.." พี่ฐาทวนคำฉันเหมือนเป็นการบอกว่ากำลังรอฟังอยู่นะ
"กอล์ฟห่วงพี่ฐา" ฉันพูดได้เร็วและเบา ลิ้นฉันเกือบจะพันกันจนพูดไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว
"ก็แค่เนี้ยแหละ" พี่ฐายิ้มกว้างอย่างผู้ได้รับชัยชนะ
ฉันซื้อโยเกิร์ตมาสองถ้วยของพี่ฐาถ้วยนึงของฉันถ้วยนึงและแซนวิสอีกคู่นึงให้พี่ฐา
ฉันแกะแซนวิสให้พี่ฐาทานในขณะที่พี่ฐาทานอยู่นั้น ฉันก็ไปคว้าน้องโยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่มาเปิดฝา
และกำลังจะตักสตอรเบอร์รี่ลูกโตเข้าปาก พี่ฐาก็จับมือฉันพลางฉวยโอกาสให้ป้อนเข้าปากตัวเอง
แงงง T^T
"พี่ฐา !!! ..."
"ทำไมหรอคะ เรียกพี่ทำไมคะ" พี่ฐาเคี้ยวสตอรเบอร์รี่ลูกโตของฉันอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับทำแก้มป่อง
นี่ถ้าไม่เห็นว่าเพิ่งหายงอนนะ มีวางมวยแน่ๆอ่ะ
"สตอรเบอร์รี่ของกอล์ฟอ่ะพี่ฐา งืออออ TT ของตัวเองก็มีแย่งเค้ากินทำไมอ่ะ"
"ก็พี่อยากกินที่กอล์ฟกำลังกินอยู่หนิ ไม่ได้หรอคะ" พี่ฐาพูดพลางดึงจมูกรั้นๆของฉัน
แถมยังเผลอหัวเราะออกมาอย่างกลั้นขำไม่อยู่
"ได้ก็ได้ค่ะ" เถียงก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ ถ้าเลือกได้นะ ให้กลับไปไม่คุยกันดีกว่า T^T
"ดีมากค่ะ ค่อยน่ารักหน่อย"
หลังจากมื้อเที่ยงผ่านไปก็ถึงเวลาทำงานแล้วสินะ
ฉันคงได้ทำงานอย่างมีความสุขสักที หลังจากที่ง้อคุณเจ้านายได้สำเร็จสักที
จะได้เลิกพ่อแง่แม่งอนกับฉันสักที..
"งั้นเดี๋ยวกอล์ฟไปทำงานต่อก่อนนะคะพี่ฐา"
"กอล์ฟคะ นี่ค่ะ" พี่ฐาส่งกระดาษที่มีจดหมายเลขอะไรสักอย่างไว้สองบรรทัด
"อะไรคะพี่ฐา นี่เลขบัญชีหรืออะไรหรอคะ กอล์ฟไม่คุ้นกับเลขพวกนี้เลย"
"จะคุ้นได้ไงละคะ นี่เป็นเลขจองตั๋วหนัง คือพี่จองไว้ตั้งแต่ตอนเราลงไปกินข้าวแล้วน่ะ" พี่ฐาก้มหน้าลงมองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ
"แล้ว..นี่พี่ฐาจองเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ไม่คุยกันเนี่ยนะคะ 555 ตัวเองมั่นใจได้ไงคะว่าเค้าจะไปกับตัวเอง"
"ก็..ไม่รู้สิ ถ้ากอล์ฟไม่ไปพี่คงชวนคนอื่นไปแทนมั้งคะ หรือกอล์ฟจะไม่ไปงั้นพี่ขอคืนนะคะเดี๋ยวไปชวนคนอื่นแทนก็ได้"
พี่ฐายื่นมือออกมาทำท่าเหมือนจะขอบัตรคืนจริงๆ เรื่องอะไรฉันจะให้พี่ฐาไปดูกับคนอื่นละ ไม่มีทาง
"ใครบอกว่ากอล์ฟจะไม่ไปคะ..งั้นกอล์ฟขอโทรบอกป้าทิพย์ก่อนนะคะ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ"
"ทำไมล่ะคะ เดี๋ยวป้าทิพย์เป็นห่วง ต้องบอกไว้ก่อนว่าจะกลับบ้านดึก"
"ก็..พี่โทรบอกป้าทิพย์ให้แล้วเหมือนกัน" พี่ฐาพูดพลางก้มหน้างุดๆลงกับโต๊ะ
นี่เดี๋ยวนะ..ไวมาก ไวเป็นบ้าเลย โอ๊ยเจ้านายของฉันไวจริงๆ
"พี่ฐา..โอ๊ย งั้นทีหลังนะคะ ไม่ต้องบอกกอล์ฟหรอกค่ะว่าจะพาไป อุ้มขึ้นรถเลยเถอะ มัดมือชกชัดๆเลยนะ"
"แฮะแฮะ.. มัดมือชกหรอ งั้นแสดงว่ากอล์ฟไม่อยากไปใช่ไหมละ งั้น..พี่ไปชวนคนอื่นก็ได้นะคะ"
"พี่ฐาาาา...ก็ลองดูสิคะ ^^" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆบวกกับรอยยิ้มมุมปากที่ชวนให้ขนลุกมากกว่า
...........................
"เด็กอะไรน่ากลัวจัง" ฉันพูดพลางส่ายหัวเล็กน้อยให้กับเด็กตัวโตที่เพิ่งเดินออกจากห้องไป
...........................
writer talk : )
เป็นยังไงบ้างคะตอนนี้ พ่อแง่แม่งอนกันใหญ่แล้วตอนนี้
มีความรู้สึกว่าตอนนี้เป็นอีกตอนนึงที่น่ารัก
แต่งเองยังรู้สึกอิจฉาตัวละคร
โอ๊ยดีใจอ่ะ ที่แต่งไม่กี่วันมีคนคอยติดตามคอยให้กำลังใจ
ขอบคุนนักอ่านที่รักนะคะ ขอบคุนมากจริงๆ
แล้วที่บอกว่าอัพถี่ คือช่วงนี้ยังไม่ตัน 5555
ยังอยากถ่ายทอดเรื่องราวให้อ่านกันเรื่อยๆ
ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งกันซะก่อนเน้อ ขอบคุนค่า :D
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น