ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] กอล์ฟฐา .. ใจละเมอ

    ลำดับตอนที่ #7 : -7- เลขาในชีวิตจริง

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 56


    หลังจากวันนั้นมาฉันก็รู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ไปในทางที่ดีขึ้นระหว่างฉันกับเจ้านายที่รัก
    และที่สำคัญสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าการทำงานดูจะแฮปปี้ขึ้นไปอีก
    ก็ตรงที่พักนี้ฉันไม่ค่อยได้ยินเสียงริงโทนที่คุ้นเคยจากโทรศัพท์ของพี่ฐา
    จะว่าไปก็คงตั้งแต่วันที่ฉันป่วยนั่นแหละ...




    "กอล์ฟ.."

    "คะพี่ฐา ว่าไงคะ" ฉันสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวมาแตะที่ไหล่เบาๆ

    "พี่จะบอกว่ากอล์ฟรู้เรื่องที่บริษัทเราและบริษัทในเครือจัดทริปไปต่างจังหวัดหรือยังคะ"

    "ยังไม่ทราบเลยค่ะ"

    "เดี๋ยวศุกร์-อาทิตย์ของอาทิตย์หน้าบริษัทเราจะไปออกทริปที่วังน้ำเขียวค่ะ หลังจากที่ประชุมกันแล้ว
    เห็นบอกว่าจะแบ่งกรุ๊ปทำกิจกรรม มีกิจกรรมแบ่งเป็นฐานๆและอาจจะมีกีฬาสันทนาการเข้ามาด้วยค่ะ"

    "จริงหรอพี่ฐา กอล์ฟอยากเล่นอ่ะ จะว่าไปกอล์ฟไม่ได้เล่นอะไรแบบนี้นานมากแล้วนะ"
    ฉันพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แทบจะกระโดดโลดเต้นไปกับข่าวดีที่เพิ่งรู้มา

    "ดีใจเป็นเด็กได้ของเล่นเลยนะเรา" ฐาพูดพลางลูบหัวเด็กน้อยตัวโต



    โอ้ย ฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูก แน่ละในชีวิตของฉันตั้งแต่เด็กเป็นเด็กกิจกรรมมาโดยตลอด
    ยิ่งกับกีฬาที่ท้าทายความกล้า ความมันส์จากการผจญภัย ยิ่งปลุกปั่นอารมณ์ความอยากของฉันจริงๆเลย
    อยากจะให้ถึงวันนั้นเร็วๆแล้วสิ ..

    เหตผลที่สำคัญที่ฉันอยากจะไปก็คือ "ฉันจะได้ไปเที่ยวกับพี่ฐา"
    แค่นั้นจริงๆ แค่นี้ก็เป็นเหตผลที่มากเกินพอ ที่จะทำให้ฉันไปทริปครั้งนี้อย่างเต็มใจ : )








    ..........................






    "ขอบคุนนะคะที่มาส่ง ขับรถกลับดีๆนะคะ" ฉันขอบคุนสารถีที่ฉันแอบหวังว่า
    นอกจากขับรถมาส่งแล้วยังเป็นสารที่ขับเคลื่อนความรู้สึกดีๆในใจฉันด้วย

    "จ๊ะ พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะคะ" พี่ฐาส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจมาให้ก่อนจะขับรถออกไป


    วันนี้รู้สึกเหมือนกลับบ้านมาเร็วเป็นพิเศษ อาจจะเพราะรถติดน้อยกว่าทุกวัน
    เลยทำให้รู้สึกเหมือนมีเวลาว่างมากขึ้น จะว่าไปทุกวันนี้กลับมาถึงก็อาบน้ำเข้านอน
    ไม่ค่อยได้เสพย์ข่าวสารดูเลย ทีวีฝุ่นจะจับอยู่แล้ว ถ้าไม่มีแม่บ้านคอยทำความสะอาด
    ฉันคงสามารถเอานิ้วเขียนเป็นคำเหมือนกระจกรถได้แน่ๆ..



    "เอาละค่ะ เดี๋ยวช่วงหน้าเรามาติดตามข่าวของนางเอกสาวนางแบบชื่อดัง ฐา กิตติ์ลภัส
    ที่ว่าได้เลิกรากับแฟนหนุ่มไปมาดๆ ชัวร์หรือมั่ว ใช่หรือไม่ ช่วงหน้ามาติดตามกันค่ะ"



    เดี๋ยวนะ...นี่เกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่ฐากับคุณอาร์ม ทั้งๆที่ไม่นานมานี้เขาทั้งคู่ยังนัดทานข้าวกันอยู่เลย
    แล้วพี่ฐาตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง ..


    "กลับมาอีกครั้งแล้วนะคะ ตามที่สัญญากันไว้ ตอนนี้เราไปฟังเสียงสัมภาษณ์คุณฐา กิตติ์ลภัสกันเลยดีกว่าค่ะ"
    ภาพในโทรทัศน์ที่ปรากฏคือภาพพี่ฐากำลังถูกนักข่าวรุมให้สัมภาษณ์เรื่องที่เลิกรากับคุณอาร์ม

    "คุณฐาคะ ที่มีข่าวออกมาว่าคุณได้เลิกรากับแฟนหนุ่มแล้วจริงป่ะคะ"

    "ก็..ห่างๆกันแล้วค่ะ แต่ยังไงก็ยังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันค่ะ ยังคุยกันบ้างตามประสา"

    "แล้วที่เลิกกันเป็นเพราะมือที่สามหรือเปล่าคะ"

    "อ๋อ ในเรื่องมือที่สามคงไม่มีค่ะ มันเป็นเรื่องของคนสองคนมากกว่า ไม่เกี่ยวกับมือที่สามค่ะ"

    "แล้วในอนาคตมีโอกาสจะรีเทิร์นป่ะคะ"

    "ฐาก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะว่ามีไหม แต่น่าจะไม่นะคะ ชีวิตฐาคงเปิดรับสิ่งใหม่ๆมากกว่าค่ะ"



    "เอาละค่ะเราก็ได้ฟังคำตอบจากคุณฐาไปแล้วนะคะ ......."

    หลังจากฟังคำสัมภาษณ์ของพี่ฐาจบ ฉันก็ไม่สนใจเสียงใดใดที่แว่วเข้ามาในโสตประสาทอีกเลย
    เหมือนกับว่าฉันปิดเสียงทีวีไปแล้ว แม้ว่าทีวีจะยังคงเปิดอยู่และมีเสียงรายการตลอดเวลา


    จริงๆฉันควรดีใจที่พี่ฐาเลิกกับพี่อาร์มมากกว่านี้ จริงๆฉันควรดีใจที่ไม่ต้องแอบชอบคนมีเจ้าของ
    แต่เปล่าเลย..ฉันไม่ได้ห่วงความรู้สึกของฉันมากกว่าความรู้สึกของพี่ฐา
    ฉันห่วงว่าพี่ฐาจะต้องคิดมาก ฉันกลัวที่จะเห็นน้ำตาจากดวงตาสวยคู่นั้น
    ฉันจะไม่ยอมให้ตาสวยคู่นั้นต้องเปื้อนน้ำตา...


    ฉันตัดสินใจโทรหาพี่ฐา..




    "อ่าวว่าไงจ๊ะ นานๆทีจะโทรมาหาพี่ที" เสียงพี่ฐาดูเหมือนว่าจะเป็นปกติ เสียงหวานเหมือนทุกครั้งที่ได้ยิน

    "คือ..."

    ".."

    "คือว่า"

    "คืออะไรคะ" พี่ฐาคงรอคำตอบจากฉันนานเกินจนต้องเอ่ยปากถามถึงเรื่องราวขึ้นมา

    "กอล์ฟเห็นข่าวพี่กับคุณอาร์มในทีวีน่ะค่ะ เลยเป็นห่วง"

    "ขอบคุนนะคะที่เป็นห่วงพี่ พี่ไม่เป็นไรหรอก"

    "จริงๆนะคะ กอล์ฟเป็นห่วงพี่กลัวพี่ฐาจะคิดมาก.."

    " คือพี่ดีขึ้นมากแล้วแหละ ไหนๆก็โทรมาแล้ว ถ้าอยากรู้พี่จะเล่าให้ฟัง เราจำวันที่เราไม่สบายได้ไหม.."







    ..................






    "ขอโทษนะคะที่ฐามาช้าไปหน่อย พี่อาร์มเลยรอนานเลย"
    ฉันมาถึงช้าเกินกว่าเวลาที่นัดไว้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงได้
    สาเหตคงไม่ต้องพูดถึงเพราะฝนที่โปรยปรายและการจราจรที่หนาแน่นนั่นเอง


    "ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่รอได้ อีกอย่างพี่เข้าใจว่าฝนมันตก" พี่อาร์มตอบกลับมาอย่างเข้าใจ

    "สั่งอาหารไหมครับ หิวหรือเปล่า" พี่อาร์มยื่นเมนูอาหารมาให้ฉันเปิดดู

    "ไม่ดีกว่าค่ะ ขอกาแฟร้อนแก้วนึงพอ"
    อาจจะเพราะอากาศที่เป็นพิษและการเหน็ดเหนื่อยจากงานทำให้ฉันไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าที่ควร
    พี่อาร์มพยักหน้ารับ พลางเรียกเด็กเสิร์ฟมาเพื่อสั่งกาแฟร้อนให้ฉัน..

    "เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ พี่อาร์มมีอะไรจะคุยกับฐาคะ ถึงบอกในโทรศัพท์ไม่ได้ต้องนัดออกมาที่นี่แทน"
    ลางสังหรณ์ของฉันมันบอกว่าเรื่องที่จะคุยมันต้องสำคัญมากๆและแน่นอนว่าสำคัญต่อความสัมพันธ์
    ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างไปในแนวทางใดสักทางอาจจะบวกไม่ก็ลบอย่างแน่นอน..

    ระหว่างทางที่เดินทางมาที่นี่ ฉันเผื่อใจไว้กับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
    เพราะระยะหลังนั้นความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่เรียบง่ายจนแทบไม่มีสิ่งน่าตื่นเต้นมาให้รู้สึกแปลกใหม่
    ในการดำเนินชีวิตแม้แต่น้อย พวกเราคบกันมานานจนความรู้สึกกลายเป็นผูกพัน คอยดูแลกัน
    มากกว่าจะเป็นความรักแบบฉาบฉวยเหมือนหนุ่มสาวทั่วๆไป..


    "คือ ฐารู้ใช่ไหมว่าพักหลังมานี้ความรักของเราดูไม่มีอะไรคืบหน้าเลย" พี่อาร์มกุมมือฉันพลางค่อยๆเข้าเรื่องทีละนิด

    "ค่ะ"

    "สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ..ครอบครัวของพี่ต้องการให้พี่หมั้นหมายกับผู้หญิงที่คุณพ่อของพี่อยากให้พี่แต่งงานด้วย
    ซึ่งพี่ปฏิเสธคุณพ่อไม่ได้..พี่รู้ว่าพี่มันแย่เองที่ต้องมาบอกกับฐาแบบนี้ แต่พี่อยากให้ฐาเข้าใจพี่ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักฐา
    แต่เพื่อความสบายใจของคุณพ่อและครอบครัว....."


    หลังจบประโยคนั้นพี่อาร์มก็ก้มหน้าลงพลางบีบมือฉันแน่น


    "พี่ก็ไม่รู้ว่า..จากนี้ไป ฐาจะเกลียดจะโกรธพี่ไหม ถึงฐาจะโกรธจะเกลียดพี่ก็ไม่เป็นไร
    เพราะพี่ทำให้ฐาเสียใจ ถ้าพี่เลือกได้พี่อยากให้เรายังคุยกันได้ในฐานะพี่น้องทีดีต่อกัน.."


    ฉันรู้ว่าพี่อาร์มก็คงลำบากใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และแน่นอนว่าฉันก็เสียใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น
    แต่ลองย้อนกลับมาคิดว่าถ้าเป็นฉันเองฉันก็คงลำบากใจไม่ต่างกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของฉัน
    มันจุกอยู่ในความรู้สึกจนร้องไห้ไม่ออก ความรู้สึกตีกันไปหมดจนแทบจะสื่อไม่ได้ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไงกันแน่..
    ในความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลมีอยู่เสี้ยวเล็กๆที่ฉันรู้สึกโล่งใจซึ่งไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน..


    "พี่อาร์มคะ ไม่เป็นไรนะคะ ฐาเข้าใจดี เพราะถ้าเป็นฐาๆก็คงทำแบบพี่อาร์มเนี่ยล่ะค่ะ
    ยังไงไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะยังเป็นพี่น้องกันอยู่เสมอ ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ถ้ามีงานมงคลอย่าลืมเชิญฐานะคะ"

    ฉันยิ้มตอบพี่อาร์มพลางกุมมือพี่อาร์มไว้แน่น และฉันก็เข้าใจได้ว่าพี่อาร์มคงเข้าใจ
    ในความรู้สึกของฉันที่ยินดีกับพี่อาร์มอย่างจริงใจ..



    "วันนี้ขอบคุนมากนะคะที่เลี้ยงกาแฟ"

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้เอง ยังไงก็ขอบคุนฐานะครับที่อุส่ามาพบพี่ ยังไงจากนี้ไปเราจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันนะครับ"
    พี่อาร์มเข้ามากอดฉันก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นรถ




    จริงๆฉันก็คิดเอาไว้แล้วว่าสักวัน มันก็คงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
    แต่แค่ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทัน..

    สิ่งที่น่าสงสัยในความรู้สึกตอนนี้คือ..ความสบายใจแปลกๆมันเกิดเพราะอะไรกันแน่






    ..........................






    "แล้ว..ตอนนี้พี่ฐารู้หรือยังคะ ว่าทำไมพี่ฐาถึงสบายใจที่ได้เลิกกับพี่อาร์ม" ฉันอดถามในสิ่งที่ค้างคาไม่ได้เช่นกัน

    "ตอนนั้นพี่อาจจะไม่รู้ แต่ตอนนี้พี่ว่าพี่เริ่มรู้แล้วค่ะ" พี่ฐาตอบด้วยน้ำเสียงที่สบายใจแทบจะไม่เหมือนอาการของคนเลิกกับแฟน

    "แค่พี่สบายใจ กอล์ฟก็สบายใจแล้วล่ะค่ะ ยังไงถ้าพี่มีอะไรไม่สบายใจ หรืออยากระบายก็บอกกอล์ฟได้นะคะ
    ถ้าพี่คิดว่ากอล์ฟมีคุณสมบัติมากพอจะเป็นที่ระบาย ที่ปรึกษา ให้กับพี่..."
    ฉันรู้ว่าฉันอาจจะเป็นได้แค่เลขาที่คอยทำงาน คอยเช็คตารางเวลางาน เช็คเอกสารการประชุม
    พี่อาจจะเห็นฉันเป็นได้แค่นี้ แต่ฉัน..ก็อยากให้พี่มองฉันให้มากกว่านี้ ฉันอยากดูแลพี่ในชีวิตจริงมากกว่านี้
    หรืออาจจะแค่เป็นที่พักพิงให้พี่ตอนพี่อ่อนแอ...



    "กอล์ฟ..เลขาน่ะต้องรู้ทุกเรื่องของเจ้านายนะ แต่นั่นคือในเวลางาน"

    "ค่ะ..." นั่นสินะ เวลางานเท่านั้นแหละกอล์ฟ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

    "แต่พี่ไม่ได้อยากให้กอล์ฟเป็นเลขาของพี่เฉพาะในเวลางาน บางทีพี่ก็อยากได้เลขาในชีวิตจริงเหมือนกันนะคะ"

    "พี่ฐา...พูดอะไรน่ะคะ กอล์ฟไม่เข้าใจ" .////.

    "ไม่รู้สิ พี่แค่อยากมีคนมาดูแลพี่รับรู้เรื่องของพี่ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องงานแบบ..ที่กอล์ฟกำลังทำอยู่ตอนนี้ไง
    คือจริงๆพี่ก็ยังไม่ได้บอกเรื่องที่เลิกกับพี่อาร์มให้ใครฟังหรอก เพราะพี่ไม่รู้ว่าสมควรเล่าให้ใครฟังดี"

    "แล้วทำไมพี่ฐาถึงมาเล่าเรื่องนี้ให้กอล์ฟฟังคะ"

    "ไม่รู้สิ ถ้าพี่บอกว่าพี่แค่อยากเล่าให้เราฟัง มันเป็นเหตผลที่มากพอไหม..."

    "พะพอก็ได้ค่ะ..งั้นพี่ฐาพักผ่อนนะคะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันค่ะ"

    "โอเคค่ะ ขอบคุนมากนะคะที่โทรมาหาและเป็นห่วงกัน"

    "ใครบอกว่ากอล์ฟเป็นห่วงพี่ฐาคะ กอล์ฟแค่อยากจะโทรมาคุยข่าวกอตซิปดาราเฉยๆ" ฉันพูดพลางหัวเราะพลาง

    "หรอคะ งั้นพี่คงเข้าใจผิดไปเองสินะว่ามีคนห่วงพี่ งั้นฝันดีนะคะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันค่ะ"

    สิ้นสุดคำนั้นสายก็ถูกตัดลงทันที งานเข้าแล้วกอล์ฟเอ้ยยย T^T
    เหมือนกำลังถูกงอนยังไงอย่างนั้น แต่พี่ฐาโตแล้วคงไม่งอนหรอกมั้ง
    แล้วนี่ควรทำยังไงละ ส่งข้อความไปง้อดีไหม..หรือโทรกลับไป


    คิดได้แล้วล่ะ ตัดสินใจแล้วว่า..






    ...................






    "ตู๊ด ตู๊ด" ใครส่งข้อความมานะ




    "ปกติถ้างอนก็จะไม่คุยกัน
    ไม่ได้บอกว่าให้หายงอน
    แต่กอล์ฟอยากจะคุยกับพี่ฐานะคะ
     เพราะฉะนั้นหายงอนนะคะ ดีกัน : ) "



    "เด็กบ้า...."








    ........................








    writer talk  : )

    วันนี้อัพตั้งสามตอนแหน่ะ
    ไม่รุ้ว่าหวานพอโดนใจไหม
    พี่อาร์มกับฐาเลิกกันแล้ว
    แต่ถ้าจะลงเอยกันเลยมันคงง่ายไปเนอะ
    ต่อจากนี้จะมีอะไรเข้ามาอีก
    หรือจะลงเอยกันดีนะ
    ยังไม่บอก (เปล่าหรอก จริงๆยังไม่คิด555)
    ขอบคุนที่ติดตามนะคะ นักอ่านที่รัก : )
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×