ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : -7- เลขาในชีวิตจริง
หลังจากวันนั้นมาฉันก็รู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ไปในทางที่ดีขึ้นระหว่างฉันกับเจ้านายที่รัก
และที่สำคัญสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าการทำงานดูจะแฮปปี้ขึ้นไปอีก
ก็ตรงที่พักนี้ฉันไม่ค่อยได้ยินเสียงริงโทนที่คุ้นเคยจากโทรศัพท์ของพี่ฐา
จะว่าไปก็คงตั้งแต่วันที่ฉันป่วยนั่นแหละ...
"กอล์ฟ.."
"คะพี่ฐา ว่าไงคะ" ฉันสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวมาแตะที่ไหล่เบาๆ
"พี่จะบอกว่ากอล์ฟรู้เรื่องที่บริษัทเราและบริษัทในเครือจัดทริปไปต่างจังหวัดหรือยังคะ"
"ยังไม่ทราบเลยค่ะ"
"เดี๋ยวศุกร์-อาทิตย์ของอาทิตย์หน้าบริษัทเราจะไปออกทริปที่วังน้ำเขียวค่ะ หลังจากที่ประชุมกันแล้ว
เห็นบอกว่าจะแบ่งกรุ๊ปทำกิจกรรม มีกิจกรรมแบ่งเป็นฐานๆและอาจจะมีกีฬาสันทนาการเข้ามาด้วยค่ะ"
"จริงหรอพี่ฐา กอล์ฟอยากเล่นอ่ะ จะว่าไปกอล์ฟไม่ได้เล่นอะไรแบบนี้นานมากแล้วนะ"
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แทบจะกระโดดโลดเต้นไปกับข่าวดีที่เพิ่งรู้มา
"ดีใจเป็นเด็กได้ของเล่นเลยนะเรา" ฐาพูดพลางลูบหัวเด็กน้อยตัวโต
โอ้ย ฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูก แน่ละในชีวิตของฉันตั้งแต่เด็กเป็นเด็กกิจกรรมมาโดยตลอด
ยิ่งกับกีฬาที่ท้าทายความกล้า ความมันส์จากการผจญภัย ยิ่งปลุกปั่นอารมณ์ความอยากของฉันจริงๆเลย
อยากจะให้ถึงวันนั้นเร็วๆแล้วสิ ..
เหตผลที่สำคัญที่ฉันอยากจะไปก็คือ "ฉันจะได้ไปเที่ยวกับพี่ฐา"
แค่นั้นจริงๆ แค่นี้ก็เป็นเหตผลที่มากเกินพอ ที่จะทำให้ฉันไปทริปครั้งนี้อย่างเต็มใจ : )
..........................
"ขอบคุนนะคะที่มาส่ง ขับรถกลับดีๆนะคะ" ฉันขอบคุนสารถีที่ฉันแอบหวังว่า
นอกจากขับรถมาส่งแล้วยังเป็นสารที่ขับเคลื่อนความรู้สึกดีๆในใจฉันด้วย
"จ๊ะ พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะคะ" พี่ฐาส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจมาให้ก่อนจะขับรถออกไป
วันนี้รู้สึกเหมือนกลับบ้านมาเร็วเป็นพิเศษ อาจจะเพราะรถติดน้อยกว่าทุกวัน
เลยทำให้รู้สึกเหมือนมีเวลาว่างมากขึ้น จะว่าไปทุกวันนี้กลับมาถึงก็อาบน้ำเข้านอน
ไม่ค่อยได้เสพย์ข่าวสารดูเลย ทีวีฝุ่นจะจับอยู่แล้ว ถ้าไม่มีแม่บ้านคอยทำความสะอาด
ฉันคงสามารถเอานิ้วเขียนเป็นคำเหมือนกระจกรถได้แน่ๆ..
"เอาละค่ะ เดี๋ยวช่วงหน้าเรามาติดตามข่าวของนางเอกสาวนางแบบชื่อดัง ฐา กิตติ์ลภัส
ที่ว่าได้เลิกรากับแฟนหนุ่มไปมาดๆ ชัวร์หรือมั่ว ใช่หรือไม่ ช่วงหน้ามาติดตามกันค่ะ"
เดี๋ยวนะ...นี่เกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่ฐากับคุณอาร์ม ทั้งๆที่ไม่นานมานี้เขาทั้งคู่ยังนัดทานข้าวกันอยู่เลย
แล้วพี่ฐาตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง ..
"กลับมาอีกครั้งแล้วนะคะ ตามที่สัญญากันไว้ ตอนนี้เราไปฟังเสียงสัมภาษณ์คุณฐา กิตติ์ลภัสกันเลยดีกว่าค่ะ"
ภาพในโทรทัศน์ที่ปรากฏคือภาพพี่ฐากำลังถูกนักข่าวรุมให้สัมภาษณ์เรื่องที่เลิกรากับคุณอาร์ม
"คุณฐาคะ ที่มีข่าวออกมาว่าคุณได้เลิกรากับแฟนหนุ่มแล้วจริงป่ะคะ"
"ก็..ห่างๆกันแล้วค่ะ แต่ยังไงก็ยังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันค่ะ ยังคุยกันบ้างตามประสา"
"แล้วที่เลิกกันเป็นเพราะมือที่สามหรือเปล่าคะ"
"อ๋อ ในเรื่องมือที่สามคงไม่มีค่ะ มันเป็นเรื่องของคนสองคนมากกว่า ไม่เกี่ยวกับมือที่สามค่ะ"
"แล้วในอนาคตมีโอกาสจะรีเทิร์นป่ะคะ"
"ฐาก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะว่ามีไหม แต่น่าจะไม่นะคะ ชีวิตฐาคงเปิดรับสิ่งใหม่ๆมากกว่าค่ะ"
"เอาละค่ะเราก็ได้ฟังคำตอบจากคุณฐาไปแล้วนะคะ ......."
หลังจากฟังคำสัมภาษณ์ของพี่ฐาจบ ฉันก็ไม่สนใจเสียงใดใดที่แว่วเข้ามาในโสตประสาทอีกเลย
เหมือนกับว่าฉันปิดเสียงทีวีไปแล้ว แม้ว่าทีวีจะยังคงเปิดอยู่และมีเสียงรายการตลอดเวลา
จริงๆฉันควรดีใจที่พี่ฐาเลิกกับพี่อาร์มมากกว่านี้ จริงๆฉันควรดีใจที่ไม่ต้องแอบชอบคนมีเจ้าของ
แต่เปล่าเลย..ฉันไม่ได้ห่วงความรู้สึกของฉันมากกว่าความรู้สึกของพี่ฐา
ฉันห่วงว่าพี่ฐาจะต้องคิดมาก ฉันกลัวที่จะเห็นน้ำตาจากดวงตาสวยคู่นั้น
ฉันจะไม่ยอมให้ตาสวยคู่นั้นต้องเปื้อนน้ำตา...
ฉันตัดสินใจโทรหาพี่ฐา..
"อ่าวว่าไงจ๊ะ นานๆทีจะโทรมาหาพี่ที" เสียงพี่ฐาดูเหมือนว่าจะเป็นปกติ เสียงหวานเหมือนทุกครั้งที่ได้ยิน
"คือ..."
".."
"คือว่า"
"คืออะไรคะ" พี่ฐาคงรอคำตอบจากฉันนานเกินจนต้องเอ่ยปากถามถึงเรื่องราวขึ้นมา
"กอล์ฟเห็นข่าวพี่กับคุณอาร์มในทีวีน่ะค่ะ เลยเป็นห่วง"
"ขอบคุนนะคะที่เป็นห่วงพี่ พี่ไม่เป็นไรหรอก"
"จริงๆนะคะ กอล์ฟเป็นห่วงพี่กลัวพี่ฐาจะคิดมาก.."
" คือพี่ดีขึ้นมากแล้วแหละ ไหนๆก็โทรมาแล้ว ถ้าอยากรู้พี่จะเล่าให้ฟัง เราจำวันที่เราไม่สบายได้ไหม.."
..................
"ขอโทษนะคะที่ฐามาช้าไปหน่อย พี่อาร์มเลยรอนานเลย"
ฉันมาถึงช้าเกินกว่าเวลาที่นัดไว้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงได้
สาเหตคงไม่ต้องพูดถึงเพราะฝนที่โปรยปรายและการจราจรที่หนาแน่นนั่นเอง
"ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่รอได้ อีกอย่างพี่เข้าใจว่าฝนมันตก" พี่อาร์มตอบกลับมาอย่างเข้าใจ
"สั่งอาหารไหมครับ หิวหรือเปล่า" พี่อาร์มยื่นเมนูอาหารมาให้ฉันเปิดดู
"ไม่ดีกว่าค่ะ ขอกาแฟร้อนแก้วนึงพอ"
อาจจะเพราะอากาศที่เป็นพิษและการเหน็ดเหนื่อยจากงานทำให้ฉันไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าที่ควร
พี่อาร์มพยักหน้ารับ พลางเรียกเด็กเสิร์ฟมาเพื่อสั่งกาแฟร้อนให้ฉัน..
"เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ พี่อาร์มมีอะไรจะคุยกับฐาคะ ถึงบอกในโทรศัพท์ไม่ได้ต้องนัดออกมาที่นี่แทน"
ลางสังหรณ์ของฉันมันบอกว่าเรื่องที่จะคุยมันต้องสำคัญมากๆและแน่นอนว่าสำคัญต่อความสัมพันธ์
ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างไปในแนวทางใดสักทางอาจจะบวกไม่ก็ลบอย่างแน่นอน..
ระหว่างทางที่เดินทางมาที่นี่ ฉันเผื่อใจไว้กับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
เพราะระยะหลังนั้นความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่เรียบง่ายจนแทบไม่มีสิ่งน่าตื่นเต้นมาให้รู้สึกแปลกใหม่
ในการดำเนินชีวิตแม้แต่น้อย พวกเราคบกันมานานจนความรู้สึกกลายเป็นผูกพัน คอยดูแลกัน
มากกว่าจะเป็นความรักแบบฉาบฉวยเหมือนหนุ่มสาวทั่วๆไป..
"คือ ฐารู้ใช่ไหมว่าพักหลังมานี้ความรักของเราดูไม่มีอะไรคืบหน้าเลย" พี่อาร์มกุมมือฉันพลางค่อยๆเข้าเรื่องทีละนิด
"ค่ะ"
"สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ..ครอบครัวของพี่ต้องการให้พี่หมั้นหมายกับผู้หญิงที่คุณพ่อของพี่อยากให้พี่แต่งงานด้วย
ซึ่งพี่ปฏิเสธคุณพ่อไม่ได้..พี่รู้ว่าพี่มันแย่เองที่ต้องมาบอกกับฐาแบบนี้ แต่พี่อยากให้ฐาเข้าใจพี่ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักฐา
แต่เพื่อความสบายใจของคุณพ่อและครอบครัว....."
หลังจบประโยคนั้นพี่อาร์มก็ก้มหน้าลงพลางบีบมือฉันแน่น
"พี่ก็ไม่รู้ว่า..จากนี้ไป ฐาจะเกลียดจะโกรธพี่ไหม ถึงฐาจะโกรธจะเกลียดพี่ก็ไม่เป็นไร
เพราะพี่ทำให้ฐาเสียใจ ถ้าพี่เลือกได้พี่อยากให้เรายังคุยกันได้ในฐานะพี่น้องทีดีต่อกัน.."
ฉันรู้ว่าพี่อาร์มก็คงลำบากใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และแน่นอนว่าฉันก็เสียใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น
แต่ลองย้อนกลับมาคิดว่าถ้าเป็นฉันเองฉันก็คงลำบากใจไม่ต่างกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของฉัน
มันจุกอยู่ในความรู้สึกจนร้องไห้ไม่ออก ความรู้สึกตีกันไปหมดจนแทบจะสื่อไม่ได้ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไงกันแน่..
ในความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลมีอยู่เสี้ยวเล็กๆที่ฉันรู้สึกโล่งใจซึ่งไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน..
"พี่อาร์มคะ ไม่เป็นไรนะคะ ฐาเข้าใจดี เพราะถ้าเป็นฐาๆก็คงทำแบบพี่อาร์มเนี่ยล่ะค่ะ
ยังไงไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะยังเป็นพี่น้องกันอยู่เสมอ ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ถ้ามีงานมงคลอย่าลืมเชิญฐานะคะ"
ฉันยิ้มตอบพี่อาร์มพลางกุมมือพี่อาร์มไว้แน่น และฉันก็เข้าใจได้ว่าพี่อาร์มคงเข้าใจ
ในความรู้สึกของฉันที่ยินดีกับพี่อาร์มอย่างจริงใจ..
"วันนี้ขอบคุนมากนะคะที่เลี้ยงกาแฟ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้เอง ยังไงก็ขอบคุนฐานะครับที่อุส่ามาพบพี่ ยังไงจากนี้ไปเราจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันนะครับ"
พี่อาร์มเข้ามากอดฉันก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นรถ
จริงๆฉันก็คิดเอาไว้แล้วว่าสักวัน มันก็คงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
แต่แค่ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทัน..
สิ่งที่น่าสงสัยในความรู้สึกตอนนี้คือ..ความสบายใจแปลกๆมันเกิดเพราะอะไรกันแน่
..........................
"แล้ว..ตอนนี้พี่ฐารู้หรือยังคะ ว่าทำไมพี่ฐาถึงสบายใจที่ได้เลิกกับพี่อาร์ม" ฉันอดถามในสิ่งที่ค้างคาไม่ได้เช่นกัน
"ตอนนั้นพี่อาจจะไม่รู้ แต่ตอนนี้พี่ว่าพี่เริ่มรู้แล้วค่ะ" พี่ฐาตอบด้วยน้ำเสียงที่สบายใจแทบจะไม่เหมือนอาการของคนเลิกกับแฟน
"แค่พี่สบายใจ กอล์ฟก็สบายใจแล้วล่ะค่ะ ยังไงถ้าพี่มีอะไรไม่สบายใจ หรืออยากระบายก็บอกกอล์ฟได้นะคะ
ถ้าพี่คิดว่ากอล์ฟมีคุณสมบัติมากพอจะเป็นที่ระบาย ที่ปรึกษา ให้กับพี่..."
ฉันรู้ว่าฉันอาจจะเป็นได้แค่เลขาที่คอยทำงาน คอยเช็คตารางเวลางาน เช็คเอกสารการประชุม
พี่อาจจะเห็นฉันเป็นได้แค่นี้ แต่ฉัน..ก็อยากให้พี่มองฉันให้มากกว่านี้ ฉันอยากดูแลพี่ในชีวิตจริงมากกว่านี้
หรืออาจจะแค่เป็นที่พักพิงให้พี่ตอนพี่อ่อนแอ...
"กอล์ฟ..เลขาน่ะต้องรู้ทุกเรื่องของเจ้านายนะ แต่นั่นคือในเวลางาน"
"ค่ะ..." นั่นสินะ เวลางานเท่านั้นแหละกอล์ฟ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
"แต่พี่ไม่ได้อยากให้กอล์ฟเป็นเลขาของพี่เฉพาะในเวลางาน บางทีพี่ก็อยากได้เลขาในชีวิตจริงเหมือนกันนะคะ"
"พี่ฐา...พูดอะไรน่ะคะ กอล์ฟไม่เข้าใจ" .////.
"ไม่รู้สิ พี่แค่อยากมีคนมาดูแลพี่รับรู้เรื่องของพี่ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องงานแบบ..ที่กอล์ฟกำลังทำอยู่ตอนนี้ไง
คือจริงๆพี่ก็ยังไม่ได้บอกเรื่องที่เลิกกับพี่อาร์มให้ใครฟังหรอก เพราะพี่ไม่รู้ว่าสมควรเล่าให้ใครฟังดี"
"แล้วทำไมพี่ฐาถึงมาเล่าเรื่องนี้ให้กอล์ฟฟังคะ"
"ไม่รู้สิ ถ้าพี่บอกว่าพี่แค่อยากเล่าให้เราฟัง มันเป็นเหตผลที่มากพอไหม..."
"พะพอก็ได้ค่ะ..งั้นพี่ฐาพักผ่อนนะคะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันค่ะ"
"โอเคค่ะ ขอบคุนมากนะคะที่โทรมาหาและเป็นห่วงกัน"
"ใครบอกว่ากอล์ฟเป็นห่วงพี่ฐาคะ กอล์ฟแค่อยากจะโทรมาคุยข่าวกอตซิปดาราเฉยๆ" ฉันพูดพลางหัวเราะพลาง
"หรอคะ งั้นพี่คงเข้าใจผิดไปเองสินะว่ามีคนห่วงพี่ งั้นฝันดีนะคะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันค่ะ"
สิ้นสุดคำนั้นสายก็ถูกตัดลงทันที งานเข้าแล้วกอล์ฟเอ้ยยย T^T
เหมือนกำลังถูกงอนยังไงอย่างนั้น แต่พี่ฐาโตแล้วคงไม่งอนหรอกมั้ง
แล้วนี่ควรทำยังไงละ ส่งข้อความไปง้อดีไหม..หรือโทรกลับไป
คิดได้แล้วล่ะ ตัดสินใจแล้วว่า..
...................
"ตู๊ด ตู๊ด" ใครส่งข้อความมานะ
"ปกติถ้างอนก็จะไม่คุยกัน
ไม่ได้บอกว่าให้หายงอน
แต่กอล์ฟอยากจะคุยกับพี่ฐานะคะ
เพราะฉะนั้นหายงอนนะคะ ดีกัน : ) "
"เด็กบ้า...."
........................
writer talk : )
วันนี้อัพตั้งสามตอนแหน่ะ
ไม่รุ้ว่าหวานพอโดนใจไหม
พี่อาร์มกับฐาเลิกกันแล้ว
แต่ถ้าจะลงเอยกันเลยมันคงง่ายไปเนอะ
ต่อจากนี้จะมีอะไรเข้ามาอีก
หรือจะลงเอยกันดีนะ
ยังไม่บอก (เปล่าหรอก จริงๆยังไม่คิด555)
ขอบคุนที่ติดตามนะคะ นักอ่านที่รัก : )
และที่สำคัญสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าการทำงานดูจะแฮปปี้ขึ้นไปอีก
ก็ตรงที่พักนี้ฉันไม่ค่อยได้ยินเสียงริงโทนที่คุ้นเคยจากโทรศัพท์ของพี่ฐา
จะว่าไปก็คงตั้งแต่วันที่ฉันป่วยนั่นแหละ...
"กอล์ฟ.."
"คะพี่ฐา ว่าไงคะ" ฉันสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวมาแตะที่ไหล่เบาๆ
"พี่จะบอกว่ากอล์ฟรู้เรื่องที่บริษัทเราและบริษัทในเครือจัดทริปไปต่างจังหวัดหรือยังคะ"
"ยังไม่ทราบเลยค่ะ"
"เดี๋ยวศุกร์-อาทิตย์ของอาทิตย์หน้าบริษัทเราจะไปออกทริปที่วังน้ำเขียวค่ะ หลังจากที่ประชุมกันแล้ว
เห็นบอกว่าจะแบ่งกรุ๊ปทำกิจกรรม มีกิจกรรมแบ่งเป็นฐานๆและอาจจะมีกีฬาสันทนาการเข้ามาด้วยค่ะ"
"จริงหรอพี่ฐา กอล์ฟอยากเล่นอ่ะ จะว่าไปกอล์ฟไม่ได้เล่นอะไรแบบนี้นานมากแล้วนะ"
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แทบจะกระโดดโลดเต้นไปกับข่าวดีที่เพิ่งรู้มา
"ดีใจเป็นเด็กได้ของเล่นเลยนะเรา" ฐาพูดพลางลูบหัวเด็กน้อยตัวโต
โอ้ย ฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูก แน่ละในชีวิตของฉันตั้งแต่เด็กเป็นเด็กกิจกรรมมาโดยตลอด
ยิ่งกับกีฬาที่ท้าทายความกล้า ความมันส์จากการผจญภัย ยิ่งปลุกปั่นอารมณ์ความอยากของฉันจริงๆเลย
อยากจะให้ถึงวันนั้นเร็วๆแล้วสิ ..
เหตผลที่สำคัญที่ฉันอยากจะไปก็คือ "ฉันจะได้ไปเที่ยวกับพี่ฐา"
แค่นั้นจริงๆ แค่นี้ก็เป็นเหตผลที่มากเกินพอ ที่จะทำให้ฉันไปทริปครั้งนี้อย่างเต็มใจ : )
..........................
"ขอบคุนนะคะที่มาส่ง ขับรถกลับดีๆนะคะ" ฉันขอบคุนสารถีที่ฉันแอบหวังว่า
นอกจากขับรถมาส่งแล้วยังเป็นสารที่ขับเคลื่อนความรู้สึกดีๆในใจฉันด้วย
"จ๊ะ พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะคะ" พี่ฐาส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจมาให้ก่อนจะขับรถออกไป
วันนี้รู้สึกเหมือนกลับบ้านมาเร็วเป็นพิเศษ อาจจะเพราะรถติดน้อยกว่าทุกวัน
เลยทำให้รู้สึกเหมือนมีเวลาว่างมากขึ้น จะว่าไปทุกวันนี้กลับมาถึงก็อาบน้ำเข้านอน
ไม่ค่อยได้เสพย์ข่าวสารดูเลย ทีวีฝุ่นจะจับอยู่แล้ว ถ้าไม่มีแม่บ้านคอยทำความสะอาด
ฉันคงสามารถเอานิ้วเขียนเป็นคำเหมือนกระจกรถได้แน่ๆ..
"เอาละค่ะ เดี๋ยวช่วงหน้าเรามาติดตามข่าวของนางเอกสาวนางแบบชื่อดัง ฐา กิตติ์ลภัส
ที่ว่าได้เลิกรากับแฟนหนุ่มไปมาดๆ ชัวร์หรือมั่ว ใช่หรือไม่ ช่วงหน้ามาติดตามกันค่ะ"
เดี๋ยวนะ...นี่เกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่ฐากับคุณอาร์ม ทั้งๆที่ไม่นานมานี้เขาทั้งคู่ยังนัดทานข้าวกันอยู่เลย
แล้วพี่ฐาตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง ..
"กลับมาอีกครั้งแล้วนะคะ ตามที่สัญญากันไว้ ตอนนี้เราไปฟังเสียงสัมภาษณ์คุณฐา กิตติ์ลภัสกันเลยดีกว่าค่ะ"
ภาพในโทรทัศน์ที่ปรากฏคือภาพพี่ฐากำลังถูกนักข่าวรุมให้สัมภาษณ์เรื่องที่เลิกรากับคุณอาร์ม
"คุณฐาคะ ที่มีข่าวออกมาว่าคุณได้เลิกรากับแฟนหนุ่มแล้วจริงป่ะคะ"
"ก็..ห่างๆกันแล้วค่ะ แต่ยังไงก็ยังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันค่ะ ยังคุยกันบ้างตามประสา"
"แล้วที่เลิกกันเป็นเพราะมือที่สามหรือเปล่าคะ"
"อ๋อ ในเรื่องมือที่สามคงไม่มีค่ะ มันเป็นเรื่องของคนสองคนมากกว่า ไม่เกี่ยวกับมือที่สามค่ะ"
"แล้วในอนาคตมีโอกาสจะรีเทิร์นป่ะคะ"
"ฐาก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะว่ามีไหม แต่น่าจะไม่นะคะ ชีวิตฐาคงเปิดรับสิ่งใหม่ๆมากกว่าค่ะ"
"เอาละค่ะเราก็ได้ฟังคำตอบจากคุณฐาไปแล้วนะคะ ......."
หลังจากฟังคำสัมภาษณ์ของพี่ฐาจบ ฉันก็ไม่สนใจเสียงใดใดที่แว่วเข้ามาในโสตประสาทอีกเลย
เหมือนกับว่าฉันปิดเสียงทีวีไปแล้ว แม้ว่าทีวีจะยังคงเปิดอยู่และมีเสียงรายการตลอดเวลา
จริงๆฉันควรดีใจที่พี่ฐาเลิกกับพี่อาร์มมากกว่านี้ จริงๆฉันควรดีใจที่ไม่ต้องแอบชอบคนมีเจ้าของ
แต่เปล่าเลย..ฉันไม่ได้ห่วงความรู้สึกของฉันมากกว่าความรู้สึกของพี่ฐา
ฉันห่วงว่าพี่ฐาจะต้องคิดมาก ฉันกลัวที่จะเห็นน้ำตาจากดวงตาสวยคู่นั้น
ฉันจะไม่ยอมให้ตาสวยคู่นั้นต้องเปื้อนน้ำตา...
ฉันตัดสินใจโทรหาพี่ฐา..
"อ่าวว่าไงจ๊ะ นานๆทีจะโทรมาหาพี่ที" เสียงพี่ฐาดูเหมือนว่าจะเป็นปกติ เสียงหวานเหมือนทุกครั้งที่ได้ยิน
"คือ..."
".."
"คือว่า"
"คืออะไรคะ" พี่ฐาคงรอคำตอบจากฉันนานเกินจนต้องเอ่ยปากถามถึงเรื่องราวขึ้นมา
"กอล์ฟเห็นข่าวพี่กับคุณอาร์มในทีวีน่ะค่ะ เลยเป็นห่วง"
"ขอบคุนนะคะที่เป็นห่วงพี่ พี่ไม่เป็นไรหรอก"
"จริงๆนะคะ กอล์ฟเป็นห่วงพี่กลัวพี่ฐาจะคิดมาก.."
" คือพี่ดีขึ้นมากแล้วแหละ ไหนๆก็โทรมาแล้ว ถ้าอยากรู้พี่จะเล่าให้ฟัง เราจำวันที่เราไม่สบายได้ไหม.."
..................
"ขอโทษนะคะที่ฐามาช้าไปหน่อย พี่อาร์มเลยรอนานเลย"
ฉันมาถึงช้าเกินกว่าเวลาที่นัดไว้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงได้
สาเหตคงไม่ต้องพูดถึงเพราะฝนที่โปรยปรายและการจราจรที่หนาแน่นนั่นเอง
"ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่รอได้ อีกอย่างพี่เข้าใจว่าฝนมันตก" พี่อาร์มตอบกลับมาอย่างเข้าใจ
"สั่งอาหารไหมครับ หิวหรือเปล่า" พี่อาร์มยื่นเมนูอาหารมาให้ฉันเปิดดู
"ไม่ดีกว่าค่ะ ขอกาแฟร้อนแก้วนึงพอ"
อาจจะเพราะอากาศที่เป็นพิษและการเหน็ดเหนื่อยจากงานทำให้ฉันไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าที่ควร
พี่อาร์มพยักหน้ารับ พลางเรียกเด็กเสิร์ฟมาเพื่อสั่งกาแฟร้อนให้ฉัน..
"เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ พี่อาร์มมีอะไรจะคุยกับฐาคะ ถึงบอกในโทรศัพท์ไม่ได้ต้องนัดออกมาที่นี่แทน"
ลางสังหรณ์ของฉันมันบอกว่าเรื่องที่จะคุยมันต้องสำคัญมากๆและแน่นอนว่าสำคัญต่อความสัมพันธ์
ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างไปในแนวทางใดสักทางอาจจะบวกไม่ก็ลบอย่างแน่นอน..
ระหว่างทางที่เดินทางมาที่นี่ ฉันเผื่อใจไว้กับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
เพราะระยะหลังนั้นความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่เรียบง่ายจนแทบไม่มีสิ่งน่าตื่นเต้นมาให้รู้สึกแปลกใหม่
ในการดำเนินชีวิตแม้แต่น้อย พวกเราคบกันมานานจนความรู้สึกกลายเป็นผูกพัน คอยดูแลกัน
มากกว่าจะเป็นความรักแบบฉาบฉวยเหมือนหนุ่มสาวทั่วๆไป..
"คือ ฐารู้ใช่ไหมว่าพักหลังมานี้ความรักของเราดูไม่มีอะไรคืบหน้าเลย" พี่อาร์มกุมมือฉันพลางค่อยๆเข้าเรื่องทีละนิด
"ค่ะ"
"สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ..ครอบครัวของพี่ต้องการให้พี่หมั้นหมายกับผู้หญิงที่คุณพ่อของพี่อยากให้พี่แต่งงานด้วย
ซึ่งพี่ปฏิเสธคุณพ่อไม่ได้..พี่รู้ว่าพี่มันแย่เองที่ต้องมาบอกกับฐาแบบนี้ แต่พี่อยากให้ฐาเข้าใจพี่ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักฐา
แต่เพื่อความสบายใจของคุณพ่อและครอบครัว....."
หลังจบประโยคนั้นพี่อาร์มก็ก้มหน้าลงพลางบีบมือฉันแน่น
"พี่ก็ไม่รู้ว่า..จากนี้ไป ฐาจะเกลียดจะโกรธพี่ไหม ถึงฐาจะโกรธจะเกลียดพี่ก็ไม่เป็นไร
เพราะพี่ทำให้ฐาเสียใจ ถ้าพี่เลือกได้พี่อยากให้เรายังคุยกันได้ในฐานะพี่น้องทีดีต่อกัน.."
ฉันรู้ว่าพี่อาร์มก็คงลำบากใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และแน่นอนว่าฉันก็เสียใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น
แต่ลองย้อนกลับมาคิดว่าถ้าเป็นฉันเองฉันก็คงลำบากใจไม่ต่างกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของฉัน
มันจุกอยู่ในความรู้สึกจนร้องไห้ไม่ออก ความรู้สึกตีกันไปหมดจนแทบจะสื่อไม่ได้ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไงกันแน่..
ในความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลมีอยู่เสี้ยวเล็กๆที่ฉันรู้สึกโล่งใจซึ่งไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน..
"พี่อาร์มคะ ไม่เป็นไรนะคะ ฐาเข้าใจดี เพราะถ้าเป็นฐาๆก็คงทำแบบพี่อาร์มเนี่ยล่ะค่ะ
ยังไงไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะยังเป็นพี่น้องกันอยู่เสมอ ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ถ้ามีงานมงคลอย่าลืมเชิญฐานะคะ"
ฉันยิ้มตอบพี่อาร์มพลางกุมมือพี่อาร์มไว้แน่น และฉันก็เข้าใจได้ว่าพี่อาร์มคงเข้าใจ
ในความรู้สึกของฉันที่ยินดีกับพี่อาร์มอย่างจริงใจ..
"วันนี้ขอบคุนมากนะคะที่เลี้ยงกาแฟ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้เอง ยังไงก็ขอบคุนฐานะครับที่อุส่ามาพบพี่ ยังไงจากนี้ไปเราจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันนะครับ"
พี่อาร์มเข้ามากอดฉันก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นรถ
จริงๆฉันก็คิดเอาไว้แล้วว่าสักวัน มันก็คงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
แต่แค่ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทัน..
สิ่งที่น่าสงสัยในความรู้สึกตอนนี้คือ..ความสบายใจแปลกๆมันเกิดเพราะอะไรกันแน่
..........................
"แล้ว..ตอนนี้พี่ฐารู้หรือยังคะ ว่าทำไมพี่ฐาถึงสบายใจที่ได้เลิกกับพี่อาร์ม" ฉันอดถามในสิ่งที่ค้างคาไม่ได้เช่นกัน
"ตอนนั้นพี่อาจจะไม่รู้ แต่ตอนนี้พี่ว่าพี่เริ่มรู้แล้วค่ะ" พี่ฐาตอบด้วยน้ำเสียงที่สบายใจแทบจะไม่เหมือนอาการของคนเลิกกับแฟน
"แค่พี่สบายใจ กอล์ฟก็สบายใจแล้วล่ะค่ะ ยังไงถ้าพี่มีอะไรไม่สบายใจ หรืออยากระบายก็บอกกอล์ฟได้นะคะ
ถ้าพี่คิดว่ากอล์ฟมีคุณสมบัติมากพอจะเป็นที่ระบาย ที่ปรึกษา ให้กับพี่..."
ฉันรู้ว่าฉันอาจจะเป็นได้แค่เลขาที่คอยทำงาน คอยเช็คตารางเวลางาน เช็คเอกสารการประชุม
พี่อาจจะเห็นฉันเป็นได้แค่นี้ แต่ฉัน..ก็อยากให้พี่มองฉันให้มากกว่านี้ ฉันอยากดูแลพี่ในชีวิตจริงมากกว่านี้
หรืออาจจะแค่เป็นที่พักพิงให้พี่ตอนพี่อ่อนแอ...
"กอล์ฟ..เลขาน่ะต้องรู้ทุกเรื่องของเจ้านายนะ แต่นั่นคือในเวลางาน"
"ค่ะ..." นั่นสินะ เวลางานเท่านั้นแหละกอล์ฟ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
"แต่พี่ไม่ได้อยากให้กอล์ฟเป็นเลขาของพี่เฉพาะในเวลางาน บางทีพี่ก็อยากได้เลขาในชีวิตจริงเหมือนกันนะคะ"
"พี่ฐา...พูดอะไรน่ะคะ กอล์ฟไม่เข้าใจ" .////.
"ไม่รู้สิ พี่แค่อยากมีคนมาดูแลพี่รับรู้เรื่องของพี่ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องงานแบบ..ที่กอล์ฟกำลังทำอยู่ตอนนี้ไง
คือจริงๆพี่ก็ยังไม่ได้บอกเรื่องที่เลิกกับพี่อาร์มให้ใครฟังหรอก เพราะพี่ไม่รู้ว่าสมควรเล่าให้ใครฟังดี"
"แล้วทำไมพี่ฐาถึงมาเล่าเรื่องนี้ให้กอล์ฟฟังคะ"
"ไม่รู้สิ ถ้าพี่บอกว่าพี่แค่อยากเล่าให้เราฟัง มันเป็นเหตผลที่มากพอไหม..."
"พะพอก็ได้ค่ะ..งั้นพี่ฐาพักผ่อนนะคะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันค่ะ"
"โอเคค่ะ ขอบคุนมากนะคะที่โทรมาหาและเป็นห่วงกัน"
"ใครบอกว่ากอล์ฟเป็นห่วงพี่ฐาคะ กอล์ฟแค่อยากจะโทรมาคุยข่าวกอตซิปดาราเฉยๆ" ฉันพูดพลางหัวเราะพลาง
"หรอคะ งั้นพี่คงเข้าใจผิดไปเองสินะว่ามีคนห่วงพี่ งั้นฝันดีนะคะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันค่ะ"
สิ้นสุดคำนั้นสายก็ถูกตัดลงทันที งานเข้าแล้วกอล์ฟเอ้ยยย T^T
เหมือนกำลังถูกงอนยังไงอย่างนั้น แต่พี่ฐาโตแล้วคงไม่งอนหรอกมั้ง
แล้วนี่ควรทำยังไงละ ส่งข้อความไปง้อดีไหม..หรือโทรกลับไป
คิดได้แล้วล่ะ ตัดสินใจแล้วว่า..
...................
"ตู๊ด ตู๊ด" ใครส่งข้อความมานะ
"ปกติถ้างอนก็จะไม่คุยกัน
ไม่ได้บอกว่าให้หายงอน
แต่กอล์ฟอยากจะคุยกับพี่ฐานะคะ
เพราะฉะนั้นหายงอนนะคะ ดีกัน : ) "
"เด็กบ้า...."
........................
writer talk : )
วันนี้อัพตั้งสามตอนแหน่ะ
ไม่รุ้ว่าหวานพอโดนใจไหม
พี่อาร์มกับฐาเลิกกันแล้ว
แต่ถ้าจะลงเอยกันเลยมันคงง่ายไปเนอะ
ต่อจากนี้จะมีอะไรเข้ามาอีก
หรือจะลงเอยกันดีนะ
ยังไม่บอก (เปล่าหรอก จริงๆยังไม่คิด555)
ขอบคุนที่ติดตามนะคะ นักอ่านที่รัก : )
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น