คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ท ฤ ษ ฎี สี แ ร ก : Achromatic
Achromatic
“ เห้ย ! มึงรีบไปตามควายไหนวะ ? ”
พู่กันตะโกนไล่หลังเพื่อนสนิทที่กำลังเดินจ้ำอ้าวไปบนทางเท้า
สองมือหอบข้าวของพะรุงพลัง แขนของเขาเหน็บเอากระดานที่ใช้สำหรับรองกระดาษวาดภาพขนาดใหญ่เอาไว้
และสองมือก็เต็มไปด้วยถุงพลาสติกที่ใส่ขวดสีโปสเตอร์มากมาย
“ ก็กูหิวข้าวอ่ะ
มึงก็ไวๆดิ่วะ ”
ไอ้เพื่อนหันหน้ากลับมาตอบ
แต่เท้าก็ยังคงจ้ำอ้าวต่อไป พู่กันก็ทำได้เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังเพื่อนตัวแสบให้ทัน
ถึงแม้จะเป็นเพื่อนตัวแสบ แต่ถ้าไม่ได้ไอ้เจ้าเพื่อนคนนี้
เขาก็คงจะหาที่ติวดีๆไม่ได้สักทีแหละนะ...
“ มึง.. แล้วพี่ติวที่มึงว่าเนี่ย
สนิทกับรุ่นพี่มึงมากป่ะ ? ”
เขาเอ่ยถามเพื่อนของเขาด้วยความนึกสงสัย
พู่กันกำลังพยามที่จะหัดทำงานด้านศิลปะ เพราะเขาอยากที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะ
และเพื่อนของเขาก็แนะนำให้เขาเข้ามาติวที่มหาวิทยาลัยที่เพื่อนของรุ่นพี่เรียนอยู่
เพื่อนคนนั้นชื่อว่า ปอง ....ซึ่งก็คือไอ้คนที่รีบเดินตามควายนี่แหละ ...
“ ไม่อ่ะ
มึงคิดว่าเด็กวิดวะ จะสนิทกับเด็กศิลป์ ... เอาจริงดิ่ ? ”
ปองตอบกึ่งคำถาม ..
แต่มันช่างเป็นคำตอบที่ ... ( ไปติวกับเพื่อนของรุ่นพี่กูมั้ยล่ะ ? )
เขาฟังคำตอบนั้นพรางนึกถึงคำเชิญชวนที่ปองเคยพูดเอาไว้
ก่อนที่เขาจะตัดสินใจมาที่นี่ในวันนี้
“ … อ ... เห้ย!
แล้วไหนมึงบอกว่าเค้าเป็นเพื่อนกันไง ?? ”
“ เพื่อน ? ....
อ้าว กูพูดแบบนั้นหรอ ? ”
ปองตอบกลับมา ..
พู่กันหยุดชะงักพรางจ้องไปยังเพื่อนด้วยตาเขม็ง
ปองที่กำลังนึกถึงคำพูดตัวเองก็พลอยหน้าเสียไปด้วย (แค่เบาๆ)
ก่อนที่หน้ามึนๆของเพื่อนเวรนั้นจะเมินไปทางอื่นอย่างไม่ใยดี
“ เอาน่า
จะเพื่อนไม่เพื่อนก็ไม่เกี่ยวหรอก มึงมาติวนิ่ ไม่ได้มาตีกับเค้า ช้ะ ? ”
พูดจบมันก็เดินจ้ำอ้าวต่อไป
สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง .. ไม่ก้มหน้ามองสิ่งที่อยู่ต่ำกว่าสายตา แถมพูดจาแบบนี้
มันคงจะเป็นเหตุผลที่ว่า
ทำไมปองถึงได้มีรอยส้นตีนติดเสื้อผ้ากลับบ้านอยู่บ่อยๆ พู่กันมองตามหลังเพื่อนสนิทไป
ก่อนจะเดินตามอย่างชั่งใจ พรางคิดถึงเรื่องพี่ติวที่ปองกำลังจะพาไปเจอ
ไม่ทันไรเขาก็เห็นกลุ่มเด็กนักเรียนหลายคนกำลังนั่งวาดรูปอยู่บนพื้น ในกลุ่มคนเหล่านั้น
มีคนที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กมหาลัยคอยคุมอยู่ด้วย ...
“ นายๆ โทษนะ
ห้องน้ำไปทางใหนหรอ ? ”
เด็กผู้ชายคนนึงถามปอง
ดูท่าทางเขาจะรีบๆนิดหน่อย ปองมองไปยังเด็กคนนั้นก่อนจะชี้มือห่างออกไปทางด้านหลังตึกใหญ่โต
..
“ ทางนั้น
เดินตรงไปเลี้ยวซ้าย ”
ปองตอบ .. เด็กผู้ชายชะเง้อมองตามมือของปองไป
เพราะว่ามันดูไกลเอามากๆ แถมยังต้องเดินอ้อมตึกไปอีก
เด็กผู้ชายหันกลับมาหาปองอีกครั้ง
“ มีทางอื่นที่ไวกว่านี้มั้ยอ่ะ
? ”
“
…. มี๊ ...
วิ่งตรงไปเลี้ยวซ้าย ”
ปองตอบ .. เด็กผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นดูเหมือนจะอึ้งเล็กน้อย
แต่เขาก็เลือกที่จะเดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย ตามที่ปองบอก ..
ส่วนเจ้าปองก็มองตามหลังเด็กคนนั้นไปอย่างมีชัย
...
“ มึงนี่...
จะไปกวนตีนเค้าทำไมวะ ”
“ กูบอกทางพอ
ไม่ได้กวนตีน นั่นไงพี่ติวมึง ”
เพื่อนตัวแสบบอกปัด
ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปทางกลุ่มเด็กนักเรียนที่นั่งวาดรูปอยู่
และตรงนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดนักศึกษาอยู่ด้วย
ดูท่าทางเหมือนกำลังจะพยายามสอนเด็กนักเรียนหญิงคนนึงผสมสีอยู่นะ..
...............................................
………………………………………………………….
สองชั่วโมงผ่านไป...
พู่กันก็ลงมานั่งบนพื้นปูนที่บริเวณใต้ตึกเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ สีโปสเตอร์ที่เขาซื้อทาถูกเปิดออกและผสมลงในถาดสี
และในมือของเขาก็ถือพู่กันเอาไว้...
กลิ่นของสีโปสเตอร์ลอยขึ้นมาแทบจะทุกครั้งที่ปลายพู่กันของเขาลากลงบนผิวกระดาษร้อยปอนด์
“ ชอบสีเย็นหรอครับ ?
”
เสียงของพี่ติวถามขึ้น
พู่กันเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยิน ใบหน้าพร้อมรอยยิ้มที่ดูสดใสอยู่ไม่ห่างจากเขานัก
พี่คนนี้ยิ้มหวานดีจริงๆ พู่กันพยักหน้ารับและส่งยิ้มกลับไป
“ แต่พี่ว่าลองผสมสีร้อนลงไปบ้างก็ดีนะ
”
ไม่พูดเปล่า ..
รุ่นพี่หยิบพู่กันที่แช่อยู่ในแก้วน้ำขุ่นๆขึ้นมา ก่อนจะแตะสีเหลืองในจานสีและแต้มปลายพูกกันชุ่มน้ำลงบนกระดาษของเขา..
สีของท้องฟ้ายามเย็นที่ครึ้มไปด้วยสีน้ำเงิน..
ช่องว่างที่ยังพอมีอยู่ตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยสีเหลืองของปลายพุ่กันจากรุ่นพี่..
ก็แปลกดีที่ท้องฟ้าสีครามบนกระดาษชื้นๆนั้นดูอบอุ่นขึ้นมาในทันที ..
“ แล้วก็..
ลองสีนี้... ”
รุ่นพี่พูดพรางเอื้อมมือไปหยิบจานสีของเขามาถือไว้
.. จานสีที่มีแต่สีโทนร้อนอยู่เต็มไปหมด..แตกต่างจากจานสีที่พู่กันมี..
ซึ่งมีแต่สีที่เย็นจนดูเศร้าหมอง..
แต่มันก็หน้าแปลกนะ
เพราะว่าในกระดาษของรุ่นพี่คนนั้น .. เป็นภาพของสวนดอกทานตะวันกับแสงแดดยามเช้า..
ทั้งๆที่สีในจานสีดูร้อนเอามากๆ แต่ภาพที่อยู่ในกระดาษ กลับดูอบอุ่น.. ไม่ทันไร
สีชมพูอมแดงก็ถูกปาดป้ายลงบนกระดาษของพู่กัน ..
ท้องฟ้าสีครามตอนนี้ดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวาขึ้นมามากเลย...
......
“ นัดพบ ! ”
เสียงเล็กๆ แต่ดังลั่นของผู้หญิง..
ตะโกนเข้ามาในกลุ่ม .. รุ่นพี่ชะงักและหันไปยังต้นเสียง ก่อนที่พูกันปลายสีแดงนั้นจะถูกวางลงในแก้วน้ำ...
เขามองตามหลังรุ่นพี่ที่รีบลุกออกไป และรุ่นพี่นัดพบก็เดินไปหาหญิงสาวหน้าตาดีคนนั้น
ในมือของเธอถือดอกกุหลาบสีขาวเอาไว้ด้วย .. แต่ไม่ทันไรดอกไม้ในมือของเธอก็ลอยไปบนอากาศ ..
มันถูกเขี้ยงใส่รุ่นพี่คนนั้นอย่างจัง
.. ตามด้วยเสียงตบฉาดใหญ่..
รุ่นพี่ได้แต่ยืนนิ่งๆ แก้มของเขาแดงจนเห็นได้ชัด
.... ไม่มีใครรู้ ว่าเธอตบรุ่นพี่คนนั้นทำไม และเธอก็เดินจากไปอย่างไม่ใยดี ... นัดพบยืนนิ่งเงียบ..
ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ที่จ้องมองไปยังเขา ... เด็กนักเรียนหยุดวาดภาพ
และต่างอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ... พู่กันเองก็เช่นกัน
หรือแม้แต่ปองซึ่งนั่งกินลูกชิ้นทอดอยู่ไม่ห่างก็ยังร่วมอึ้งไปกับเหตุการณ์นี้ด้วย
..
ในความเงียบนั้น ..
นัดพบก้มลงเก็บดอกไม้บนพื้น เขามองมันด้วยสายตาที่เศร้า.. แต่ในความเศร้ามันเหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่
รอยยิ้มจางๆแต้มบนริมฝีปากก่อนที่ดอกไม้สีขาวช้ำนั้นจะถูกหย่อนลงในถังขยะ ...
พู่กันจ้องมองรุ่นพี่ที่เดินกลับไปยังที่ของตน
มือที่จับด้ามพู่กันพยายามอย่างมากที่จะวาดรูปสวนดอกไม้ที่แสนอบอุ่นนั้นต่อไป ..
พี่ติวคนนั้นกำลังจะร้องไห้รึเปล่านะ ที่โดนตบไปเมื่อกี้ คงจะเจ็บมาก
ถ้าเขาร้องไห้ออกมาตอนนี้ก็คงน่าอายใช่มั้ย ? พู่กันทำได้เพียงแค่คิด
.. สีในถาดของรุ่นพี่คนนั้นมีแต่สีที่มองแล้วรู้สึกร้อนอยู่เต็มไปหมด ..
แต่ก็แปลกดีที่ปลายพู่กันของรุ่นพี่คนนั้นกลับควบคุมสีร้อนให้อบอุ่นได้ ... แต่ก็แปลกดี
.. ที่มันเหมือนกับว่า ภาพวาดอุ่นๆนั่น มันยังขาดอะไรไป ... แต่ ....
“ พี่ครับ .. เอาสีฟ้าหน่อยมั้ย ? ”
จานสีโทนเย็นถูกเลื่อนไปชนกับจานสีโทนร้อน.. นัดพบก้มหน้ามองสีในถาดสีนั้นก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของถาดสีที่มีแต่สีอมน้ำเงินอยู่เต็มไปหมด ...
มีอะไรจะบอกอย่างนึงแหละ...
{ แอด , เม้น , โหวต ... เพื่อเป็นการ บอกรักกันเบาๆ นะครับ.. }
ความคิดเห็น