ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้ามเข้า ห้องเก็บของ 2 | OFF LINE

    ลำดับตอนที่ #2 : ท ฤ ษ ฎี สี แ ร ก : Achromatic

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27
      0
      15 มี.ค. 58


    +

     
    ท ฤ ษ ฎี สี แ ร ก
    Achromatic






     

                “ เห้ย ! มึงรีบไปตามควายไหนวะ ?

                พู่กันตะโกนไล่หลังเพื่อนสนิทที่กำลังเดินจ้ำอ้าวไปบนทางเท้า สองมือหอบข้าวของพะรุงพลัง แขนของเขาเหน็บเอากระดานที่ใช้สำหรับรองกระดาษวาดภาพขนาดใหญ่เอาไว้ และสองมือก็เต็มไปด้วยถุงพลาสติกที่ใส่ขวดสีโปสเตอร์มากมาย

                ก็กูหิวข้าวอ่ะ มึงก็ไวๆดิ่วะ

                ไอ้เพื่อนหันหน้ากลับมาตอบ แต่เท้าก็ยังคงจ้ำอ้าวต่อไป พู่กันก็ทำได้เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังเพื่อนตัวแสบให้ทัน ถึงแม้จะเป็นเพื่อนตัวแสบ แต่ถ้าไม่ได้ไอ้เจ้าเพื่อนคนนี้ เขาก็คงจะหาที่ติวดีๆไม่ได้สักทีแหละนะ...

     

                มึง.. แล้วพี่ติวที่มึงว่าเนี่ย สนิทกับรุ่นพี่มึงมากป่ะ ?  ”

                เขาเอ่ยถามเพื่อนของเขาด้วยความนึกสงสัย พู่กันกำลังพยามที่จะหัดทำงานด้านศิลปะ เพราะเขาอยากที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะ และเพื่อนของเขาก็แนะนำให้เขาเข้ามาติวที่มหาวิทยาลัยที่เพื่อนของรุ่นพี่เรียนอยู่ เพื่อนคนนั้นชื่อว่า ปอง ....ซึ่งก็คือไอ้คนที่รีบเดินตามควายนี่แหละ ...


                ไม่อ่ะ มึงคิดว่าเด็กวิดวะ จะสนิทกับเด็กศิลป์ ... เอาจริงดิ่ ?

                ปองตอบกึ่งคำถาม .. แต่มันช่างเป็นคำตอบที่ ... ( ไปติวกับเพื่อนของรุ่นพี่กูมั้ยล่ะ ? ) เขาฟังคำตอบนั้นพรางนึกถึงคำเชิญชวนที่ปองเคยพูดเอาไว้ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจมาที่นี่ในวันนี้

     

                “ … อ ... เห้ย! แล้วไหนมึงบอกว่าเค้าเป็นเพื่อนกันไง ??  ”

                “ เพื่อน ? .... อ้าว  กูพูดแบบนั้นหรอ ?

                ปองตอบกลับมา .. พู่กันหยุดชะงักพรางจ้องไปยังเพื่อนด้วยตาเขม็ง ปองที่กำลังนึกถึงคำพูดตัวเองก็พลอยหน้าเสียไปด้วย (แค่เบาๆ) ก่อนที่หน้ามึนๆของเพื่อนเวรนั้นจะเมินไปทางอื่นอย่างไม่ใยดี

                เอาน่า จะเพื่อนไม่เพื่อนก็ไม่เกี่ยวหรอก มึงมาติวนิ่ ไม่ได้มาตีกับเค้า ช้ะ ?

                พูดจบมันก็เดินจ้ำอ้าวต่อไป สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง .. ไม่ก้มหน้ามองสิ่งที่อยู่ต่ำกว่าสายตา แถมพูดจาแบบนี้ มันคงจะเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมปองถึงได้มีรอยส้นตีนติดเสื้อผ้ากลับบ้านอยู่บ่อยๆ  พู่กันมองตามหลังเพื่อนสนิทไป ก่อนจะเดินตามอย่างชั่งใจ พรางคิดถึงเรื่องพี่ติวที่ปองกำลังจะพาไปเจอ ไม่ทันไรเขาก็เห็นกลุ่มเด็กนักเรียนหลายคนกำลังนั่งวาดรูปอยู่บนพื้น ในกลุ่มคนเหล่านั้น มีคนที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กมหาลัยคอยคุมอยู่ด้วย ...

     

                นายๆ โทษนะ ห้องน้ำไปทางใหนหรอ ?

                เด็กผู้ชายคนนึงถามปอง ดูท่าทางเขาจะรีบๆนิดหน่อย ปองมองไปยังเด็กคนนั้นก่อนจะชี้มือห่างออกไปทางด้านหลังตึกใหญ่โต .. 

                ทางนั้น เดินตรงไปเลี้ยวซ้าย

                ปองตอบ .. เด็กผู้ชายชะเง้อมองตามมือของปองไป เพราะว่ามันดูไกลเอามากๆ แถมยังต้องเดินอ้อมตึกไปอีก เด็กผู้ชายหันกลับมาหาปองอีกครั้ง

                มีทางอื่นที่ไวกว่านี้มั้ยอ่ะ ?

                “  …. มี๊ ...      วิ่งตรงไปเลี้ยวซ้าย

                ปองตอบ .. เด็กผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นดูเหมือนจะอึ้งเล็กน้อย แต่เขาก็เลือกที่จะเดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย ตามที่ปองบอก .. ส่วนเจ้าปองก็มองตามหลังเด็กคนนั้นไปอย่างมีชัย   ...

                “ มึงนี่... จะไปกวนตีนเค้าทำไมวะ
                “ กูบอกทางพอ ไม่ได้กวนตีน   นั่นไงพี่ติวมึง

                เพื่อนตัวแสบบอกปัด ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปทางกลุ่มเด็กนักเรียนที่นั่งวาดรูปอยู่ และตรงนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดนักศึกษาอยู่ด้วย ดูท่าทางเหมือนกำลังจะพยายามสอนเด็กนักเรียนหญิงคนนึงผสมสีอยู่นะ..

     

     

    ...............................................

    ………………………………………………………….

     

     

                สองชั่วโมงผ่านไป... พู่กันก็ลงมานั่งบนพื้นปูนที่บริเวณใต้ตึกเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ สีโปสเตอร์ที่เขาซื้อทาถูกเปิดออกและผสมลงในถาดสี และในมือของเขาก็ถือพู่กันเอาไว้... กลิ่นของสีโปสเตอร์ลอยขึ้นมาแทบจะทุกครั้งที่ปลายพู่กันของเขาลากลงบนผิวกระดาษร้อยปอนด์

     

                ชอบสีเย็นหรอครับ ?

                เสียงของพี่ติวถามขึ้น พู่กันเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยิน ใบหน้าพร้อมรอยยิ้มที่ดูสดใสอยู่ไม่ห่างจากเขานัก พี่คนนี้ยิ้มหวานดีจริงๆ พู่กันพยักหน้ารับและส่งยิ้มกลับไป

                แต่พี่ว่าลองผสมสีร้อนลงไปบ้างก็ดีนะ

                ไม่พูดเปล่า .. รุ่นพี่หยิบพู่กันที่แช่อยู่ในแก้วน้ำขุ่นๆขึ้นมา ก่อนจะแตะสีเหลืองในจานสีและแต้มปลายพูกกันชุ่มน้ำลงบนกระดาษของเขา.. สีของท้องฟ้ายามเย็นที่ครึ้มไปด้วยสีน้ำเงิน.. ช่องว่างที่ยังพอมีอยู่ตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยสีเหลืองของปลายพุ่กันจากรุ่นพี่.. ก็แปลกดีที่ท้องฟ้าสีครามบนกระดาษชื้นๆนั้นดูอบอุ่นขึ้นมาในทันที ..

                แล้วก็.. ลองสีนี้...

                รุ่นพี่พูดพรางเอื้อมมือไปหยิบจานสีของเขามาถือไว้ .. จานสีที่มีแต่สีโทนร้อนอยู่เต็มไปหมด..แตกต่างจากจานสีที่พู่กันมี.. ซึ่งมีแต่สีที่เย็นจนดูเศร้าหมอง..  

    แต่มันก็หน้าแปลกนะ เพราะว่าในกระดาษของรุ่นพี่คนนั้น .. เป็นภาพของสวนดอกทานตะวันกับแสงแดดยามเช้า.. ทั้งๆที่สีในจานสีดูร้อนเอามากๆ แต่ภาพที่อยู่ในกระดาษ กลับดูอบอุ่น.. ไม่ทันไร สีชมพูอมแดงก็ถูกปาดป้ายลงบนกระดาษของพู่กัน .. ท้องฟ้าสีครามตอนนี้ดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวาขึ้นมามากเลย...

     

    ......

               นัดพบ ! ”

                เสียงเล็กๆ แต่ดังลั่นของผู้หญิง.. ตะโกนเข้ามาในกลุ่ม .. รุ่นพี่ชะงักและหันไปยังต้นเสียง ก่อนที่พูกันปลายสีแดงนั้นจะถูกวางลงในแก้วน้ำ... เขามองตามหลังรุ่นพี่ที่รีบลุกออกไป และรุ่นพี่นัดพบก็เดินไปหาหญิงสาวหน้าตาดีคนนั้น ในมือของเธอถือดอกกุหลาบสีขาวเอาไว้ด้วย ..  แต่ไม่ทันไรดอกไม้ในมือของเธอก็ลอยไปบนอากาศ .. มันถูกเขี้ยงใส่รุ่นพี่คนนั้นอย่างจัง


                .. ตามด้วยเสียงตบฉาดใหญ่..  


    รุ่นพี่ได้แต่ยืนนิ่งๆ แก้มของเขาแดงจนเห็นได้ชัด .... ไม่มีใครรู้ ว่าเธอตบรุ่นพี่คนนั้นทำไม และเธอก็เดินจากไปอย่างไม่ใยดี ... นัดพบยืนนิ่งเงียบ.. ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ที่จ้องมองไปยังเขา ... เด็กนักเรียนหยุดวาดภาพ และต่างอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ... พู่กันเองก็เช่นกัน หรือแม้แต่ปองซึ่งนั่งกินลูกชิ้นทอดอยู่ไม่ห่างก็ยังร่วมอึ้งไปกับเหตุการณ์นี้ด้วย ..

                ในความเงียบนั้น .. นัดพบก้มลงเก็บดอกไม้บนพื้น เขามองมันด้วยสายตาที่เศร้า..  แต่ในความเศร้ามันเหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่ รอยยิ้มจางๆแต้มบนริมฝีปากก่อนที่ดอกไม้สีขาวช้ำนั้นจะถูกหย่อนลงในถังขยะ ...

     

    พู่กันจ้องมองรุ่นพี่ที่เดินกลับไปยังที่ของตน มือที่จับด้ามพู่กันพยายามอย่างมากที่จะวาดรูปสวนดอกไม้ที่แสนอบอุ่นนั้นต่อไป ..   พี่ติวคนนั้นกำลังจะร้องไห้รึเปล่านะ ที่โดนตบไปเมื่อกี้ คงจะเจ็บมาก ถ้าเขาร้องไห้ออกมาตอนนี้ก็คงน่าอายใช่มั้ย ? พู่กันทำได้เพียงแค่คิด .. สีในถาดของรุ่นพี่คนนั้นมีแต่สีที่มองแล้วรู้สึกร้อนอยู่เต็มไปหมด .. แต่ก็แปลกดีที่ปลายพู่กันของรุ่นพี่คนนั้นกลับควบคุมสีร้อนให้อบอุ่นได้ ... แต่ก็แปลกดี .. ที่มันเหมือนกับว่า ภาพวาดอุ่นๆนั่น มันยังขาดอะไรไป ... แต่ ....

     

    พี่ครับ .. เอาสีฟ้าหน่อยมั้ย ?

    จานสีโทนเย็นถูกเลื่อนไปชนกับจานสีโทนร้อน..  นัดพบก้มหน้ามองสีในถาดสีนั้นก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของถาดสีที่มีแต่สีอมน้ำเงินอยู่เต็มไปหมด ...






     
    รู้ที่เธอมีน้ำตา รู้เธอคงเหนื่อยและล้าาา : ) 









    Little Talk.
    มีอะไรจะบอกอย่างนึงแหละ...
    { แอด , เม้น , โหวต ... เพื่อเป็นการ บอกรักกันเบาๆ นะครับ.. }

    (C) ELIZILE
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×