คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : น า ที ที่ (๘) : นิโคติน
- 1:11 MISS YOU ALWAYs # 8 -
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น เก้ากวาดมือกดปิดเสียงแหลมน่าหนวกหูทิ้งไปก่อนจะขยี้ตาตัวเองและดันตัวลุกขึ้นนั่ง ตาที่ยังไม่ลืมดีมองไปข้างๆตัวเพื่อหาเพื่อนรักที่นอนคุ้ดคู้อยู่เมื่อคืน แต่ทว่าเตียงนั้นว่างเปล่า เก้าลืมตาขึ้นมองอีกครั้งมันก็ยังคงว่างเปล่า..
...กลิ่นหอมๆของอาหารรสคาวลอดผ่านใต้บานประตูห้องเข้ามา..
เก้าลุกขึ้นจากเตียงและเดินตามกลิ่นนั้นไป.. เมฆกำลังวุ่นวายอยู่กับการทำมื้อเช้าที่เร่งรีบ.. มันเป็นภาพแปลกใหม่ของเก้า... เมฆไม่เคยตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้า ปกติแค่ต้มมาม่ากินเองได้ก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากแล้วสำหรับเมฆ
...กลิ่นของซุปร้อนๆหอมเตะจมูกเอามากๆ
เก้าเดินวนไปมารอบๆ เมฆซึ่งกำลังโยนอะไรต่อมิอะไรลงหม้อต้มใบเล็กๆ
“ ตื่นแล้วเรอะ ” เมฆพูดทักขึ้นเมื่อเห็นเก้าเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ
“ มึงทำกับข้าวเป็นด้วย ? ” เก้าเอ่ยถามพรางชะโงกหน้ามองลงไปในหม้อต้ม. .
“ อะไร..มึงก็กินออกจะบ่อยไม่ใช่ไง๊ ? ”
สิ้นคำตอบของเมฆเก้าก็นึกย้อนไปว่า เมื่อไหร่คือบ่อย ? เก้าหันไปจ้องหน้าเมฆ และเมฆก็จ้องกลับมา..
“ กูก็เอาไปให้มึงกับแม่ที่บ้านบ่อยนะเว่ย จำไม่ได้หรอ ? ”
เมฆพูดดังนั้นเก้าจึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนตอนอยู่ที่ต่างจังหวัดนั้น เมฆมักจะยกเอาถ้วยกับข้าวมาฝากที่บ้านของเก้าอยู่บอยๆ และใครๆในบ้านก็มักจะพูดว่าแม่ของเมฆทำอาหารอร่อยมาก...
“ นั่นแม่ มึงทำไม่ใช่เหรอ ? ”
“ เหอะ ไม่ใช่อ่ะ ”
เก้าต้องประหลาดใจกับความน่ามหัศจรรย์ของเมฆอีกครั้ง ... ไม่รู้ว่าทำไมมนุษย์เมฆถึงได้มีเรื่องมาเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา.... ทั้งสองคนนั่งทานอาหารเช้าที่โต๊ะตัวเล็กๆในบ้านของเก้า.. ซุปหอมน้ำต้มกระดูกไก่กับข้าวสวยๆร้อนๆที่ฟูกำลังดีนั้นทำให้ทั้งสองคนกวาดข้าวจนเกลี้ยงจานเลยทีเดียว...
หลังมือเช้าของทั้งคู่เก้าอาสาเป็นคนเก็บถ้วยชามไปล้างเมฆจึงขึ้นไปอาบน้ำก่อน ระหว่างที่เก้ายกถ้วยชามลงไปในอ่างล้างจานนั้นรอยยิ้มเล็กๆก็แต้มขึ้นมาบนใบหน้าของเขาอย่างหยุดไม่ได้...
ถึงแม้ว่าเก้าจะกินกับข้าวที่เมฆยกมาให้บ่อยๆ แต่เขาก็ไม่เคยรู้เลยว่าเมฆเป็นคนทำมันด้วยตัวเอง... จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรก.. ที่เมฆทำอาหารให้เค้ากินอย่างเป็นทางการ ..
...ถ้าไม่นับเวลาที่เมฆชงเหล้าแล้วคะยั้นคะยอใหเก้าลองกินมันดูสักครั้ง...
เก้าล้างจานชามต่างๆจนสะอาดเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับขึ้นไปบนห้องนอนอีกครั้ง ..
เมฆอาบน้ำและแต่งชุดนักศึกษาพร้อมที่จะไปเรียน.. แต่นักศึกษาเมฆกลับนอนซุกผ้าห่มอยู่บนเตียงเสียนี่ .เก้ายิ้มขำพรางจัดเตรียมเสื้อผ้าไปอาบน้ำแต่งตัวโดยปล่อยให้เมฆนอนพักต่อไปก่อน... ไม่นานนักเก้าเดินออกจากห้องน้ำและสวมชุดนักศึกษาสะอาดตา เมฆยังคงนอนซุกหน้าอยู่กับผ้าห่มผืนหนา..
..เก้าเดินมานั่งลงบนเตียง ข้างๆเมฆที่หลับสนิท..
เขาจ้องมองภาพเพื่อนรักของตัวเองในตอนหลับ พรางคิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา... ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่เมฆกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดเขาได้ถึงเพียงนี้... ปลายนิ้วของเก้าไล่สัมผัสปอยผมนุ่มมือของเมฆ มันนุ่มลื่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ.. เพราะที่เก้าเคยจำได้นั้นผมของเมฆยังสั้นกุดและสากมือ.. แต่ตอนนี้มันทั้งยาว.. ทั้งนุ่ม.. และเย็นเหมือนผ้าแพร..
ปลายนิ้วของเขาไล่สัมผัสไปจนถึงโคนผมที่เริ่มอุ่น ก่อนที่เขาจะเกี่ยวเอาเส้นผมนุ่มลื่นนั้นทัดเอาไว้กับใบหูร้อน.. ..
....แล้วเมื่อไหร่กันนะ.. ที่ขนตาของเมฆยาวขนาดนี้ ?...
....เมื่อไหร่กันที่ผิวของเมฆนวล..และเนียนขนาดนี้...
เขาจำมันไม่ได้เลย... เก้าแตะปลายนิ้วลงบนผิวแก้มที่เนี่ยนนุ่มเบาๆ.. เปลือกตาของเมฆเริ่มขยับเล็กน้อย ก่อนที่มันจะค่อยๆปรือลืมขึ้นมาอย่างช้าๆ.. เก้าดึงมือกลับมาวางไว้ข้างๆตัวเหมือนเดิมเมื่อเห็นว่าเมฆลืมตาขึ้นมาแล้ว
“ ไปเรียนกันเหอะ จะสายแล้วนะ ”
เก้าพูดบอก เมฆยืดตัวบิดขี้เกียจก่อนจะลุกขึ้นมานั่งหาววอดอยู่ข้างๆเก้า... ทั้งสองลุกจากเตียงและรับเช้าวันใหม่อย่างเต็มตา......
…………………
……………………………..
ในห้องเรียนที่บรรยากาศเดิมๆกำลังดำเนินไป โปรเจคเตอร์ผืนใหญ่ก็กำลังฉายวิชาเดิมๆแต่เนื้อหาต่างออกไปจากครั้งก่อนๆ.. นักเรียนหน้าเดิมๆก็ยังคงนั่งจดเนื้อหาต่างๆลงในสมุดของตัวเอง.. แต่ดูเหมือนว่านอกจากเนื้อหาบนโปรเจกเตอร์ที่เปลี่ยนไปนั้น... ยังมีบางสิ่งที่เปลี่ยนไปด้วย...
เมฆนั่งลืมตาโพลงมองไปยังโปรเจคเตอร์
เขานั่งเท้าคางมองมันนิ่งๆถึงแม้ว่าแววตาของเขานั้น จะดูไม่ได้ใส่ใจกับเนื้อหาบนโปรเจคเตอร์เลยสักนิด.. แต่ถึงอย่างนั้นมันก็แปลกที่เขาไม่ได้หลับอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนทุกครั้ง ..
เก้าที่นั่งอยู่ข้างๆเมฆก็ยังคงก้มๆเงยๆจดสิ่งสำคัญลงในสมุด ถึงจะมีบางครั้งที่สายตาของเก้าหันมาจับจ้องที่เมฆบ้าง... กระดาษของเก้าพลิกไปมาหลายครั้ง เสียงดินสอขีดคร่าข้อความที่ผิดดังสลับกับเสียงปลายดินสอที่จดบันทึกข้อความ...
เก้าจดข้อความต่างๆแบบไม่ประติดประต่อ.. เสียงของอาจารย์นั้นดังมาเป็นห้วงๆ.. มันซึมเข้าหัวของเขาน้อยกว่าทุกวัน.. เก้าพะว้าพะวังเรื่องที่เมฆเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย... จนกระทั่งหมดคาบเรียนก็กลายเป็นว่า ...
...เก้ากลับสรุปใจความสำคัญที่เรียนมาไม่ได้เลย....
“ เรียนรู้เรื่องมั้ยมึง ? ”
เมฆเอ่ยถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่เดินออกจากห้องเรียนไปตามระเบียงทางเดิน
“ ถามทำไมวะ ? ” เก้าถามพรางหันไปมองเมฆ
“ กูเห็นมึงนั่งจ้องกูทั้งคาบเลย มีไรรึเปล่า ? ”
สิ้นคำพูดของเมฆเก้าได้แต่ถามตัวเองว่าจริงเหรอ ? เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเมฆรู้สึกตัวเรื่องที่เขาเหลือบมองเมฆอยู่บ่อยๆ ถึงจะรู้ตัวเองว่าหันไปมองบ้างแต่มันบ่อยขนาดที่เมฆผิดสังเกตเลยอย่างนั้นหรือ ?
“ ก็ไม่ได้มีอะไรนิ่.. แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่หลับล่ะ ? ” เก้าตอบเลี่ยงไปและหาเรื่องอื่นชวนคุยแทน เมฆหันมามองเขาเล็กน้อยพรางคลำหาอะไรบางอย่างที่กระเป๋าเสื้อของตัวเอง
“ ก็เดี๋ยวกูไปกรนใส่แล้วมึงก็รำคาญกูอีก ”
เมฆตอบ.. เก้าได้ยินดังนั้นก็คิดในใจอยากจะให้เมฆกลับไปเป็นเหมือนเดิมมากกว่า... มันก็จริงที่เก้าเคยรำคาญที่เมฆเอาแต่หลับตลอดเวลาที่เรียนหนังสือ แถมบางครั้งก็กรนออกมาอย่างเสียมารยาท.. แต่อย่างน้อยถ้าเมฆหลับก็คงจะไม่ถูกจับได้ว่าแอบมองเมฆอยู่บ่อยๆ
... เมฆหยิบลูกอมออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะแกะมันออกมาอมไว้เปลือกของห่อลูกอมตกลงบนพื้นขณะที่เขากำลังจะยัดมันกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ เปลือกพลาสติกใส่ๆข้างในยังมีลูกอมเม็ดสีน้ำตาลเหลืออีกหนึ่งเม็ด เก้ามองเห็นก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นลูกอมที่ใช้ในคนที่พยายามจะเลิกบุหรี่
“ จะเลิกบุหรี่หรอ ? ” เก้าเอ่ยถามขึ้นขณะที่เมฆก้มลงไปเก็บเปลือกลูกอมยัดใส่กระเป๋าเสื้อตามเดิม
“ …ก็ลองดูอะ.... ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเลิกได้.. ” เมฆตอบโดยไม่สบตาเก้าและเริ่มย่ำเท้าเดินห่างออกไปเล็กน้อย
“ จะเลิกเพราะกูไม่ชอบอีกรึเปล่า ? ” เก้าถามไล่หลังไปทันที ... เมฆหยุดเล็กน้อยไม่ถึงกับชะงัก..เขาถอนหายใจเบาๆ...
“ กูจะพยายามก็แล้วกันนะ ” เมฆตอบเพียงแค่สั้นๆและย่ำเท้าเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
.... เก้าที่มองตามหลังเมฆไปจนลับสายตาตอนนี้หายใจไม่ทั่วท้อง...
เก้ายังไม่เข้าใจว่าที่เมฆพยายามจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขามากมาย.. นั้นเพื่ออะไรกัน.. และไม่ว่ามันจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่การทำแบบนี้มันยิ่งทำให้เก้ารู้สึกว่าตัวเองสำคัญต่อเมฆมาก... มันอาจจะกลายเป็นความหวังเล็กน้อยที่น่าลำบากใจ.. เก้าไม่รู้เลยว่า ถ้าหสกเมฆรู้ว่าเขาคิดไม่ซื่อเมฆจะรู้สึกหรือตอบสนองต่อเขาอย่างไรบ้าง...
เมฆเดินออกมาจากห้องน้ำท่าทีของเขาดูหงุดหงิดเล็กน้อย..
เห็นได้จากสีหน้าของเขาที่ไม่สดใสเหมือนเคย.. ทั้งสองคนนั่งทานมื้อเที่ยงด้วยกันที่โรงอาหารพร้อมๆกับแพรและประวิทย์ ระหว่างที่มื้อเที่ยงกำลังดำเนินไปโทรศัพท์ของเมฆดังขึ้นหลายครั้ง แต่เมฆก็ไม่ได้สนใจจะรับมันสักเท่าไหร่นัก ประวิทย์มักจะคอยมองท่าทีของเมฆอยู่บ่อยๆ จนมันทำให้เมฆรู้สึกรำคาญในบางครั้ง
เสียงใสๆของแพรถึงจะน่ารัก แต่เพราะว่าเธอพูดเก่งเหลือเกิน พูดจนเมฆตอบคำถามเธอไม่ทัน.. หรือแม้แต่เก้าที่วันๆก็เอาแต่จ้องเขาอยู่ได้.. ถามว่ามีปัญหาอะไรก็ไม่ยอมบอก.. เขารู้สึกว่าโลกใบนี้มันช่างขัดใจ ขัดอารมณ์เขาเหลือเกิน..
“ วันนี้นายดูหงุดหงิดตลอดเลยนะเมฆา ” ประวิทย์ถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะเห็นเมฆฮึดฮัดอยู่ตลอดเวลา
“ นั่นสิ่ ฉันนึกว่าฉันคิดไปเองคนเดียวนะเนี่ย ” แพรเองก็คิดแบบนั้นแต่เธอเลือกที่จะไม่พูดจนกระทั่งประวิทย์ถามขึ้นมา...
“ ....... ”
เมฆนิ่งเงียบ.. และไม่ตอบอะไร เขาตักข้าวเข้าปากเพื่อให้ปากตัวเองไม่ว่างตอบคำถามใดๆ.. แม้แต่คำถามของเพื่อนๆตอนนี้ก็ทำให้เขารำคาญได้ไม่น้อยเลยทีเดียว...
“ คนมันหงุเหงิด.. เพราะขาดนิโคตินมั้ง ” เก้าพูดขึ้น ทั้งแพรและประวิทย์หันไปมองยังเก้า..
“ นิโคติน ? บ บุหรี่หมดหรอเมฆา ? ” ประวิทย์ถามขึ้นเมื่อได้ยินดังนั้น
“ ไม่ใช่หรอก มันจะเลิกบุหรี่น่ะ ”
เก้าตอบคำถามของประวิทย์เพราะรู้ว่าเมฆคงจะหงุดหงิดจากคำถามเซ้าซี้ของเพื่อนๆเต็มที ... เมฆวางช้อนลงและยกแก้วน้ำขึ้นดื่มตามเข้าไปเพื่อจะกลืนข้าวที่เต็มปากอยู่ลงไปพร้อมๆกับน้ำ.. มันก็อาจจะเป็นไปได้ที่อาการหงุดหงิดของเขาเกิดขึ้นมาเพราะขาดสารนิโคตินจากบุหรี่
“ ว้าววว... ทำไมถึงคิดเลิกได้อ้ะ ? ..... มีแฟนหรอ !? ใช่ป้ะ !? ”
แพรร้องถามน้ำเสียงของเธอตื่นเต้นและนัยน์ตาเป็นประกาย .. เมฆที่กำลังกระดกน้ำอยู่นั้นตอนนี้พ่นน้ำกลับลงไปในแก้วเรียบร้อยแล้ว.. เก้าทำได้เพียงเอียงตัวหลบน้ำที่พุ่งออกมาจากปากของเมฆและตบหลังเพื่อนรักที่สำลักน้ำเพื่อช่วยให้เพื่อนหายใจหายคอได้สะดวกขึ้น.. ประวิทย์และแพรที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็พลอยตกอกตกใจไปด้วย..
“ ตกลงยังไงเนี่ย ? มีแฟนจริงๆใช่ป้ะ ? ”
แพรถามย้ำขึ้นอีกครั้งขณะที่ใช้กระดาษทิชชูซับน้ำที่กระเด็นมาจากเมฆเมื่อสักครู่ เมฆดึงกระดาษทิชชู่มาปิดปากตัวเองเอาไว้ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร “ เมฆ เมฆ! ” เสียงของเก้าตะโกนไล่หลังของเมฆก่อนที่เก้าจะลุกขึ้นและวิ่งตามเมฆออกไปติดๆ... ทิ้งให้ทั้งแพรและประวิทย์นั่งงวยงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น...
.................
..............................................
“ เมฆ ! รอกูด้วยดิ่วะ ! ” เก้าวิ่งตามหลังเมฆที่เดินย่ำเท้าพรวดๆออกไป
“ เห้ย ไอ้เมฆ! ” เขาตะโกนเรียกเพื่อนรักอยู่หลายครั้งแต่เพื่อนก็ไม่ยอมหันกลับมาเลย เก้าเอื้อมมือคว้าเสื้อเชิตสีขาวของเมฆและกระชากดึงให้เมฆหันกลับมาหาเขา
มันได้ผลเมฆเซถลาและหันกลับมาตามแรงกระชาก
แต่มือของเมฆนั้นปัดเอามือของเก้าออกไปอย่างไม่ใยดี และสีหน้าแววตาของเมฆที่มองมายังเก้ามันก็แสนจะเย็นชาจนดูเหมือนเกลียดชัง.. เก้าเองไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน... ถึงแม้ว่าเมฆจะเป็นคนเกเรแต่เมฆไม่เคยมีท่าทีก้าวร้าวกับเขามาก่อนเลย แววตาเย็นชาของเมฆมันทำให้เขาร้อนวาบและเปลี่ยนเป็นเย็น..จนชาไปทั้งตัว..
เก้าหันหลังให้เมฆและเดินออกมาด้วยอารมณ์ที่ครุกรุ่น.. ก่อนที่แขนของเขาถูกรั้งเอาไว้ “ เก้า ! ” เมฆคว้าแขนของเก้าเอาไว้ เขาไม่ได้ดึงหรือกระชากเพียงแต่รั้งเอาไว้อย่างอ่อนแรง...
“ กูขอโทษ.. ”
สิ้นคำพูดของเมฆเก้าหันหน้ากลับไปชำเลืองมอง
“ ถ้ามึงลำบากใจอยู่ห่างๆกูไปก่อนก็ได้นะ ”
เมฆปล่อยมือจากแขนของเก้าเมื่อได้ยินดังนั้น.. เขาทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นมือกุมหัวเอาไว้
“ มันไม่ใช่เว่ย.. ” เก้าซึ่งยืนอยู่ข้างๆยังไม่ได้หันกลับไปหาเมฆเพียงแต่ยืนอยู่เฉยๆ..
“ กูก็ไม่รู้.. ว่ากูเป็นอะไรอ่ะ.. แต่กูไม่ได้อยากอยู่ห่างๆมึงหรืออะไรแบบนั้นนะเว่ย.. แม่ ง! กูไม่รู้จะบอกมึงยังไงว่ะคือกูก็ยังไม่รู้ว่ากูเป็นอะไรอ่ะเก้า !! ”
เสียงของเมฆดังลั่นขึ้นมาน้ำเสียงนั้นถึงจะฟังดูก้าวร้าวแต่มันก็เต็มไปด้วยความสับสน เมฆตบมือไปตามกระเป๋าเสื้อเหมือนกับทุกครั้งที่เขาหงุดหงิดหรือเครียดจัดๆ เพื่อหาที่พึ่งทางใจของเขา แต่มันก็มีแค่เพียงลูกอมสีน้ำตาลรสโคล่าเท่านั้นที่เขาหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“ แม่ งไม่เห็นจะได้ผลเลย !! ”
เมฆเหวี่ยงซองลูกอมอัดลงบนพื้นตรงหน้า .. เม็ดลูกอมที่ยังเหลืออยู่กระเด็นออกจากซองและกลิ้งหายออกไปจากสายตาของเขา.. เก้าก้มลงดึงแขนของเมฆเบาๆ
“ ..ลุกขึ้นเหอะ.. ”
เมฆเงยหน้าขึ้นมองเก้าก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นไปตามคำเรียกของเพื่อนรัก... เมฆเริ่มมีเหงื่อซึมตามมือเล็กน้อย.. และเขาหงุดหงิดตลอดเวลา.. แม้แต่กับเก้าเองเขาก็รู้สึกว่าน่ารำคาญอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน..
“ กูขอโทษนะ .. กูไม่ได้ตั้งใจปัดมือมึง ”
เมฆพูดกับเก้าและหวังว่าเขาจะเข้าใจ.. ทั้งๆที่เมฆเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเองตอนนี้เลย
“ ไม่เป็นไร ” เก้าตอบกลับไปและตบใหล่ของเมฆเพื่อเป็นการปลอบประโลม..
ทั้งคู่กอดคอกันเดินกลับไปที่รถเพื่อจะกลับไปยังบ้านหลังจากที่ไม่มีวิชาอะไรให้เรียนต่อ.. เก้ากอดคอเมฆเดินไปตามทางเหมือนเพื่อนรักทั่วๆไป.. แต่ภายในใจของเขานั้นสบสนและว้าวุ่น..
เมฆที่เก้าร้าว เมฆที่เย็นชา ...
เก้าไม่รู้เลยว่าความเย็นชานั้นเป็นเพราะอาการขาดนิโคติน.. หรือเป็นเพราะเมฆ ปฏิเสธเขากันแน่.. เขาได้แต่ภาวนาว่า ขออย่าให้มันเป็นอย่างหลังเลย....
มีอะไรจะบอกอย่างนึงแหละ...
{ แอด , เม้น , โหวต ... เพื่อเป็นการ บอกรักกันเบาๆ นะครับ.. }
ความคิดเห็น