คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : น า ที ที่ (๖) : ถ้าไม่อยากกินโจ๊ก
...เสียงคีย์บอร์ดถูกพิมพ์ดังมาจากโต๊ะคอม..
ปลายนิ้วที่ละเลงลงบนแป้นพิมพ์นั้นส่งเสียงได้น่ารำคาญเหลือเกิน โดยเฉพาะเวลาที่เขากำลังนอนอยู่.. เก้าขยี้หัวตัวเองด้วยความรำคาญเสียงกุกกักที่แทรกเข้ามาในหัวขณะที่เขาหลับ .. ในที่สุดเขาก็ทนไม่ได้จนต้องลืมตาขึ้นมา..
เมฆกำลังนั่งสรุปรายงานอยู่ที่โต๊ะคอม
นาฬิกาที่โต๊ะข้างเตียงบอกเวลาแปดโมงเช้า... เก้านั่งนิ่งมองไปยังเมฆจากบนเตียง พรางคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน... เขาลุกขึ้นจากเตียงและเดินเข้าห้องน้ำไป เมฆยังคงจริงจังอยู่กับงานตรงหน้าโดยไม่ได้สนใจเพื่อนตัวเองสักเท่าไหร่ งานตอนนี้ก็ใกล้จะเสร็จเต็มทีแล้ว เขาอุส่ารีบตื่นมาตั้งแต่เช้าเพื่อจะทำมันให้เสร็จ และเพื่อให้แพรกับประวิทย์ได้มีเวลาอ่านรายงานนานพอที่จะเตรียมตัวพรีเซ้นต์ในวันพรุ่งนี้...
เสียงเก้าเดินออกจากห้องน้ำหลังจากที่เขาหายไปสักพัก..
“ หิวยังวะ ” เมฆเอ่ยถามทั้งที่ยังคงจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่
“ ไม่ ”
“ งานใกล้เสร็จแล้วอ่ะ ออกไปหาไรกินกันมะ ” เสียงคีย์บอร์ดยังคงดังอยู่เรื่อยๆ เก้าโยนผ้าขนหนูลงในตะกล้าหลังจากที่เขาเช็ดผมจนหมาด
“ กูไม่หิว ”
“ กูอยากกินโจ๊กหน้าเซเว่นว่ะ ” เมฆยังคงพูดต่อไปโดยไม่ได้สนใจคำปฏิเสธของเก้า..
“ มึงก็รีบๆทำแล้วไปกิน “ เก้าพูดพรางเปิดตู้เสื้อผ้า มือของเขาดึงเอาเสื้อยืดออกจากไม้แขวนในตู้มาสวม
“ เสร็จแล้ววววว... วู้ววว ”
เสียงคลิ๊กเมาส์ดังมาจากโต๊ะคอมพิวเตอร์ เมฆเซฟงานทั้งหมดก่อนจะปิดคอมและหันไปมองยังเก้าซึ่งยืนอยู่หน้ากระจก.. “ ไปกินโจ๊กกัน ”
“ เสร็จแล้วก็ออกไป ”
“ ไปดิ่ ” เมฆยังคงชวนด้วยความตื๊อ
“ กูไม่หิว มึงไปได้แล้ว ”
“ แต่กูอยากกินอ่ะ ไปเหอะ ”
เมฆยังคงเอ่ยปากชวนทั้งที่เก้าปฏิเสธ เขามักจะทำอย่างนั้นประจำและสุดท้ายเก้าก็จะยอมตามใจ แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเมื่อเก้ามีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก มิหนำซ้ำเขายังตรงเข้ามาลากแขนของเมฆออกจากห้องนอน
“ เห้ยยยย อะไรอ้ะ ! ”
“ ออกไป ”
เมฆงวยงงกับท่าทีของเก้า เขาไม่เคยถูกเก้าไล่ออกจากห้องมาก่อนเลย เขาถูกเก้าลากลงจากบันไดไปที่ประตูบ้านก่อนที่จะถูกเพื่อนรักเหวี่ยงร่างของเขาออกไปจนพ้นประตู
“ ออกไป! ”
เสียงของเก้าดังปะทะหน้าของเขาไม่ทันไรประตูก็ถูกเหวียงปิด ต่อหน้าต่อตา เขาได้แต่ยืนงงอยู่หน้าประตูและไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด...
“ เก้า.. ถ้าไม่อยากกินโจ๊กกินอย่างอื่นก็ได้นะ... ”
...เมฆเอ่ยขึ้นไม่ได้ดังมากมายนัก.. เขาแค่หวังว่าเก้าจะยืนอยู่หลังประตูและได้ยินสิ่งที่เขาพูด แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมาประตูยังคงปิดสนิท...
เมฆเดินกลับเข้าบ้านตัวเองพรางครุ่นคิดว่าเขาทำอะไรผิดไปรึเปล่า อาจเป็นเรื่องที่เขาหนีไปเที่ยว หรือเขาอาจจะทำอะไรไม่ดีตอนที่หลับอยู่ ความคิดฟุ้งซ่านยังคงเล่นงานเขาไปเรื่อยๆ.....
...................
..............................................
หลังบานประตูที่ปิดลง เก้าได้ยินเสียงแผ่วเบาของเมฆดังผ่านบานประตูมา
“ เก้า.. ถ้าไม่อยากกินโจ๊กกินอย่างอื่นก็ได้นะ... ”
เสียงที่ไม่สดใสเหมือนเคย... เก้าทำได้เพียงยืนนิ่งๆซึมซับเอาความรู้สึกหนักหน่วงและกลืนมันลงคออย่างยากลำบาก... ถึงแม้ว่าการทำแบบนี้อาจจะทำให้เมฆเสียใจ แต่เขาก็คิดว่ามันคงดีกว่าถ้าเขาจะอยู่ห่างๆเมฆเอาไว้... เพราะถ้าหากเขาไม่รักษาระยะห่างให้ดี... หัวใจของเขาอาจจะทำเรื่องเลวร้าย... จนตัวเขาก็ยอมให้อภัยตัวเองไม่ได้..
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นเก้าและเมฆก็คุยกันน้อยลง
เก้ามักจะนั่งเงียบๆเวลาเรียน และถึงแม้ว่าเมฆจะนั่งอยู่ข้างๆเขาแต่เขาก็จะไม่สนใจ... เมฆเลิกหลับในห้องเรียนและพฤติกรรมต่างๆของเมฆก็เริ่มเปลี่ยนไป เขาหยุดเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่เก้าไม่ชอบ และหยุดทำตัวไร้สาระต่างๆนาๆ.. เพราะเมฆคิดว่าการที่เก้าเย็นชาใส่เขาอาจเป็นเพราะเขาทำตัวแย่มาโดยตลอด...
เมฆพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เก้ากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีกับเขาตามเดิม... เมฆพยายามโดยที่เขาไม่รู้เลยว่ามันยิ่งทำให้หัวใจของเก้าเจ็บปวดยิ่งขึ้น.....
...................
..............................................
เสียงโทรศัพท์ของเมฆดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงทำความเคารพอาจารย์เมื่อหมดคาบเรียนพอดิบพอดีเมฆลังเลที่จะรับโทรศัพท์ หลายวันมานี้ทั้งโจ้และบาสพยายามติดต่อเขาหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย เพราะคิดว่าจะโทรกลับไปเองหลังจากที่คืนดีกับเก้าแล้ว..
เก้าเก็บข้าวของและลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมฆรีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าโดยที่ไม่ได้รับสายและคว้าข้าวของบนโต๊ะมาถือไว้ เขารีบเดินย่ำเท้าตามเก้าไปให้ทัน
... เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะเก็บชีทใส่กระเป๋าด้วยซ้ำไป ...
“ เมฆ !! เก้า !! ”
เสียงของแพรตะโกนไล่หลังมา เก้าและเมฆต่างหันกลับไปมอง แพรกำลังวิ่งตามหลังมาจากที่ไกลๆโดยมีประวิทย์วิ่งดุ๊กๆตามหลังมาด้วย
“ นี่! เฮ้อออ รีบไปไหนกันห๊ะ ? ” แพรตบไหล่เมฆดังป้าบก่อนจะจับไหล่เมฆเอาไว้เพื่อประคองตัวเองไม่ให้ล้มจากความเหนื่อยที่รีบวิ่งมาเมื่อสักครู่
“ แล้วจะวิ่งมาทำไม่ล่ะเนี่ย ” เมฆเอ่ยถามพร้อมก้มลงมองแพรที่ก้มหน้าหอบแฮกๆอยู่
“ วันนี้วันเกิดประวิทย์อ้ะ ไปฉลองกันป้ะ ? ” แพรเงยหน้าขึ้นมองเก้าและเอ่ยปากชวนทั้งที่ยังหอบหายใจอยู่นิดๆ สิ้นคำถามของแพร เมฆหันขวับไปมองยังเก้าและรอฟังคำตอบ... เก้านิ่งเงียบไปสักพัก..เขาไม่แม้แต่จะสบตากับเมฆ
“ อืม ที่ไหนล่ะ ”
แพรและเก้าตกลงนัดสถานที่กันและเก้าก็อาสาว่าจะเป็นคนขับรถไปส่งให้ ทั้งแพรและประวิทย์จึงติดรถของเก้าไปด้วย เมฆและประวิทย์นั่งที่เบาะหลังของคนขับและแพรนั่งข้างๆเก้าที่กำลังขับรถอยู่
แพรและเก้านั่งคุยกันไปตลอดทางโดยที่เมฆเองก็ไม่เข้าใจว่าตกลงแล้วเก้าเป็นอะไรกันแน่ ท่าทีที่เก้าแสดงกับคนอื่นยังปกติดีอยู่ มีเพียงแค่กับเมฆเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
เสียงโทรศัพท์ของเมฆดังขึ้นอีกครั้งเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของโจ้ คราวนี้เมฆเลือกที่จะกดปิดเสียงโทรศัพท์ของเขาทิ้งไปซะ
“ ออ้าว.. ไม่รับหรอเมฆา ” ประวิทย์เอ่ยถามเมื่อเห็นเมฆเมินสายเรียกเข้า
“ อืม ขี้เกียจรับอ่ะ ไม่มีไรจะคุย ” เมฆพูดปัดไป
...............
...........................
ไม่นานนักรถยนต์ของเก้าก็ถูกจอดอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตอนนี้ฟ้าเริ่มจะมืดลงแล้วทั้งสี่คนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีอาหารต่างๆมากมายและกลิ่นของมันก็หอมชวนให้หิวได้ในทันที
“ บุฟเฟ่ต์ที่นี่ให้ของเยอะดีเนอะ ”
แพรพูดขึ้นหลังจากที่เธอเดินไปเดินมาเลือกของกินจนหนำใจแล้วก็กลับมายังโต๊ะพร้อมอาหารมากมาย ตอนนี้ประวิทย์ยังคงยืนเก้ๆกังอยู่ที่บาร์อาหารเพื่อเลือกอาหารที่ถูกใจ แก้วน้ำว่างเปล่าบนโต๊ะตั้งอยู่สี่ใบเมฆจึงลุกขึ้นหยิบแก้วเพื่อจะไปเติมน้ำให้กับเพื่อนๆ
“ มึงกินไร ”
เมฆเอ่ยถามเก้าขณะที่หยิบแก้วน้ำของเก้าและของตัวเองไว้ในมือ
“ ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวกูไปตักเอง ” พูดจบเก้าก็ดึงแก้วออกจากมือของเมฆก่อนจะลุกขึ้นหยิบแก้วน้ำของแพรมาถือไว้ด้วย
“ เราจะไปเอาน้ำแพรเอาไร ”
“ งั้นเราฝากเอาน้ำส้มละกันนะ เอ้อนี่ เมฆจะไปด้วยป้ะ ? ” เมฆพยักหน้ารับ เมื่อแพรเห็นดังนั้นก็หยิบแก้วน้ำของประวิทย์ส่งให้กับเมฆ
“ เราฝากเอามาให้ประวิทย์ด้วยนะ ของประวิทย์เอาน้ำเปล่าจ้ะ ” แพรพูดบอก เมฆจึงรับแก้วน้ำจากแพรก่อนจะเดินตามหลังเก้าออกไปเพื่อกดน้ำที่บาร์
เก้ากดน้ำของตัวเองและของแพรอยู่ที่ตู้กดน้ำ เมฆเดินไปยืนข้างๆก่อนจะวางแก้วลงบนชั้น
“ มึงยังโกรธกูอยู่หรอ ? ” เมฆถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ
“ เปล่า ” เก้าตอบด้วยท่าทีเย็นชาแต่ในความเย็นชาก็แฝงไปด้วยความรำคาญจนเมฆรู้สึกได้
“ มันเรื่องอะไรวะมึงบอกกูได้มั้ย ”
เก้ายังคงก้มหน้าก้มตากดน้ำต่อไปโดยไม่สนใจในสิ่งที่เมฆพูด
เมฆยืนมองดูเก้าในหัวของเขามันสบสนไปหมด ชั่ววูบหนึ่งความโมโหก็วิ่งเข้ามาแทนทีความคิดและสติของเมฆ เขากระชากแขนของเก้าที่ถือแก้วน้ำอยู่เพื่อให้เก้าหันมาคุยกับเขาจนแก้วหลุดออกจากมือและกระเด็นไปไกล เสียงแก้วที่แตกดังลั่นทำเอาคนหลายคนที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่หันไปมองยังทั้งสองเป็นตาเดียว
“ มึงเป็นอะไรวะ จะเอาไงก็บอกกูมาดิ่ ! ”
เมฆข่มอารมณ์โมโหเอาไว้และถามออกมาตรงๆเพราะเขาเหนื่อยเหลือเกินกับการที่จะพยายามเดินตามเก้าโดยที่ไม่รู้เลยว่าเก้าคิดอะไรอยู่
“ กูไม่ได้จะเอาอะไร มึงนั่นแหละจะเอาอะไร ”
เก้าตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายแต่เย็นชา
.... สิ้นคำตอบกึ่งคำถามของเก้าเมฆนิ่งเงียบไปสักครู่หนึ่งก่อนจะเดินย่ำเท้าผ่านเก้าไป เขาชนไหล่เก้าดังอั้ก แต่ก็ไม่ได้ใยดีหรือหันกลับไปขอโทษใดๆทั้งสิ้น เมฆเพียงแค่อยากออกไปจากตรงนั้นออกไปจากชีวิตของเก้า เพราะเขาทนไม่ไหวกับการถูกเมินใส่เหมือนว่าเขาเป็นตัวน่ารำคาญ ..
....... กว่าจะรู้ตัวอีกทีเมฆก็เดินอยู่ข้างถนนที่ไม่รู้ว่าคือที่ไหน .......
ไฟถนนสองข้างทางเป็นสีส้มสว่างจ้าผู้คนมากมายเดินไปมาขวักไขว่ เมฆทิ้งตัวลงนั่งที่ข้างฟุตบาทมือล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบบุหรี่ที่เหลืออยู่ไม่กี่มวนในซองที่ยับยู่ยี่ ไฟแช็คถูกจุดขึ้นที่ปลายมวนกระดาษสีขาว ควันอุ่นๆมันช่วยให้เขาคลายอารมณ์หงุดหงิดลงได้มากเลยทีเดียว ...
ถึงแม้ว่าบางครั้งเขาจะถูกมองจากคนแปลกหน้าที่เดินผ่านไปมาแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ มันก็ไม่แปลกที่ใครๆจะมองในเมื่อเขาสวมชุดนักศึกษาแต่ดันมานั่งริมถนนแล้วสูบบุหรี่ในที่สาธารณะแบบนี้.. ควันขาวลอยคละคลุ้งอยู่ทั่วบริเวณที่เขานั่ง...
.. นิโคตินอาจจะช่วยให้เขาคลายความหงุดหงิดลงได้ก็จริง ....
...แต่มันก็ไม่ได้ช่วยคลายความข้องใจให้เขาได้เลย..
เมฆดีดมวนบุหรี่ที่หดสั้นจนแทบจะถึงก้นกรองทิ้งลงบนพื้น ประกายไฟจากปลายมวนกระดาษหลุดกระเด็นเป็นดวงๆอยู่ข้างๆกับรอเท้าผ้าใบของเขา เมฆตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาโจ้ เพื่อนอีกคนที่เขาคิดว่าคงเป็นเพื่อนและที่พึ่งคนสุดท้ายในเวลานี้ .....
... การปฏิเสธความรู้สึก..
มันไม่ได้ใช่วยให้ 'ความรู้สึก' นั้นหายไปหรอกนะ.. เก้า
มีอะไรจะบอกอย่างนึงแหละ...
{ แอด , เม้น , โหวต ... เพื่อเป็นการ บอกรักกันเบาๆ นะครับ.. }
ความคิดเห็น