คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : น า ที ที่ (๓) : # ถ้วยบะหมี่ค้างคืน
- 1:11 MISS YOU ALWAYs # 3 -
เสียงโทรศัพของเก้าดังขึ้น... เก้ากวาดปลายมือหาโทรศัพท์และกดรับมันโดยที่ยังไม่ลืมตา แสงจากบานหน้าต่างจ้าจนเขาแทบจะลืมตาไม่ขึ้น “ ฮัลโหล.. อ่อ.. รอแป๊ปนึงนะเดี๋ยวลงไปเปิดให้ .. ” เก้าพูดจบก็กดวางสายไป แพรโทรมาบอกกับเขาว่าตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านแล้ว
เก้าขยี้ตาตัวเองและลืมตาสู้แสง เขารู้สึกหนักๆที่ตัวก่อนจะมองเห็นว่าเมฆนอนคุดคู้ทับไหล่ของเขาอยู่ เก้าหยุดมองหนิ่งๆเรียบเรียงเรื่องราวอยู่สักครู่ก็ค่อยๆขยับตัวออกจากเมฆที่หลับสนิทไม่รู้เรื่อง เขาลุกขึ้นนั่งหลับตามึนๆอยู่บนเตียงก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่ไหล่ตัวเอง..
“ อืมหืม... ไอซกมก.. ”
เก้าบ่นอย่างฉุนๆเมื่อเห็นว่าแขนเสื้อของเขาเปียกน้ำลายของเมฆเป็นดวงๆ ... เขาเอื้อมมือคว้าแว่นตาที่โต๊ะข้างเตียงมาสวม และลุกขึ้นจากเตียงเพื่อลงไปเปิดประตูบ้านให้กับแพร์
“ อ้าว.. ประวิทย์.. มาด้วยหรอ ? ”
เก้าถามขึ้นเมื่อเขาเปิดประตูและพบว่าแพรยืนอยู่กับประวิทย์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มในงานครั้งนี้ “ อื้อ .. ประวิทย์เค้าบอกว่าอยากมาช่วยอ่ะ เราเลยพามาด้วย ” แพรตอบ ประวิทย์พยักหน้ารับอยู่ข้างๆ “ แล้วมีใครมาอีกมั่งอ่ะ ? ” แพรถามขึ้นพรางชะโงกมองเข้าไปในบ้าน เก้าขยี้ผมตัวเองก่อนจะจับรวบไปด้านหลังดวงตากึ่งหลับกึ่งลืม “ ไม่มีใครมาหรอก มีแต่ไอ้เมฆ มันหลับอยู่ข้างบนอ่ะ ” แพรยิ้มและพยักหน้ารับ
“ เข้ามาก่อนสิ่ ” ทั้งแพรและประวิทย์เดินเข้าบ้านไป
.................
..................................
หลายชั่วโมงผ่านไป...
ทั้งสี่คนกำลังวุ่นวายอยู่กับกระดาษหลายแผ่นที่วางเกลื่อนกลาดบนพื้นห้อง เนื่องจากแพรเป็นผู้หญิง งานทั้งหมดจึงต้องย้ายลงมาทำที่ชั้นล่าง
“ อาการของโลกซึมเศร้าอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ ถูกมะ ”
เสียงของแพรแสดงความคิดเห็นขณะเดียวกันนั้นเอง ประวิทย์ก็พูดเสริมขึ้นมา
“ ล ล แล้วปัจจัยอื่นๆก็อาจจะทำให้เกิดภาวะเครียด ซึ่งมันก็นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ” …
“ แล้วถ้างั้น ความคิดฆ่าตัวตาย กับโรคซึมเศร้ามันเป็นเรื่องเดียวกันรึเปล่า ฮ่าๆๆ ” แพรหัวเราะและถามขึ้น
“ มันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แต่ว่าโรคซึมเศร้าอาจจะนำมาเฉยๆ ไม่ใช่เป็นว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะมีความคิดฆ่าตัวตายทุกคนมั้ง ” เก้าเสนอความเห็นของตัวเองขึ้นมาบ้าง
“ ความคิดฆ่าตัวตายมันเกิดมาได้จากหลายสาเหตุนะ ถ้าอยากรู้ว่าเกิดมาจากอะไรคงต้องดูว่าคนไข้มีอาการอะไรร่วมบ้างมั้ง ไม่งั้นคงมาตอบส่งๆไม่ได้หรอก ” เขาพูดต่อ
“ วุ่นวายจัง ก็แค่คิดฆ่าตัวตาย แบบว่าบางทีเค้าอาจจะไม่ได้โรคจิตก็ได้ม้างงงง ฮ่าๆ ” แพรพูดขึ้นอย่างติดตลก
“ ความคิดฆ่าตัวตายเป็น ไซโคติกเสมอ มันแปลว่า ความคิดฆ่าตัวตายเป็นความคิดที่ผิดปกติเสมอไม่ใช่หรอ แล้วถ้าเป็นไซโคติกแล้ว ยังไงก็ต้องรักษาใช่มั้ยล่ะ ? ”
หลังจากที่เถียงกันอยู่นานเสียงของเมฆก็ดังขึ้นพร้อมข้อคิดเห็นของเขา เพื่อนๆต่างหันไปสนใจในสิ่งที่เขาพูด เป็นอีกครั้งที่หลายๆคนรู้สึกว่าเมฆซ่อนความเป็นอัจฉริยะเอาไว้ภายใต้ใบหน้าที่ไม่เอาไหน
“ อ้า !! ใช่ๆ! จำได้แล้ว ที่อาจารย์สุเทพ สอนในห้องไง ที่ว่าไซโคติกคือโรคจิตที่ต้องได้รับการรักษา !! ” ประวิทย์พูดอย่างนึกขึ้นได้
“ ไม่จริงอ่ะ ฉันเห็นนายหลับตลอดทั้งคาบนั้นเลย นายรู้เรื่องได้ไง ???? ” แพร์พูดขึ้นพรางหรี่ตาจ้องไปยังเมฆ เมฆเงยหน้าขึ้นมองแพรแล้วเกาคอตัวเองเบา “ เราเหมือนได้ยินแล้วจำได้รางๆอ่ะ ไม่รู้ดิ่ ” เมฆตอบ ระหว่างนั้นสายตาของเก้าก็จับจ้องไปที่เมฆตลอดพรางคิดในใจว่าเมฆทำแบบนั้นได้ยังไง
สำหรับเก้าแล้ว เมฆเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสัยและน่าสนใจมาก ถ้าหากเก้าจะสามารถทำให้เมฆเทเอาความอัจฉริยะออกมาให้เห็นในทีเดียวได้ เขาก็คงจะลองทำมันไปแล้ว.. “ นายดูไม่น่าฉลาดเลยนะเมฆา ” ประวิทย์พูดขึ้น “ โถ... น่ามึงฉลาดตายห่าอ่ะไอ้แว่น ” เมฆสวนกลับทันที เนื่องจากประวิทย์สวมแว่นตาหนาเตอะและบุคลิกท่าทางก็ดูไม่ค่อยจะเต็มบาทในความคิดของเมฆ และประวิทย์ก็มังจะชอบพูดติดๆขัดๆเหมือนคนติดอ่างด้วยในบางครั้ง
“ อย่าด่ากระทบกูดิ่ ” เก้าพูดพรางถอดแว่นตาออกวางไว้ข้างตัว ทั้งสี่คนหัวเราะเฮฮากับท่าทีของตัวเองและเพื่อนๆ....
.................
..................................
หลังจากฟ้ามืดลงทั้งแพรและประวิทย์ก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน... เก้านั่งพิมพ์รายงานอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ตัวเดิมในขณะที่เมฆนอนแผ่อยู่บนเตียง
“ คุณกฤษฎีคร้าบบบบ ใกล้เสร็จยางคร้าบบบบ ” เก้าหันไปมองเมฆเมื่อได้ยิน
“ จะเสร็จแล้ว ทำไมวะ ”
“ ผมหิวละคร้าบบบบบบ ” เมฆพูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาทเล็กน้อย
“ ...ฮื่มมมม... เออๆ จะเสร็จแล้วรอแป๊ปนึง ”
เก้าเร่งมือทำให้เสร็จเพราะตัวเขาเองก็หิวพอๆกัน หลังจากเซฟงานเรียบร้อยทั้งคู่ก็ออกไปหาของกินแถวๆหน้าปากซอยบ้าน หลังจากกินข้าวด้วยกัน เมฆก็ขอแยกตัวไปจากเก้าโดยที่ไม่ยอมบอกว่าจะไปไหนเหมือนเช่นทุกครั้ง เก้ามักจะต้องอยู่เงียบๆคนเดียวในคืนวันศุกร์หรือเสาร์ เพราะเจ้าเพื่อนตัวแสบของเขามักจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย กว่าจะกลับถ้าไม่ดึกมากก็ใกล้จะเช้า ...
เก้าเดินเข้าบ้านพร้อมกับถุงขนมจากร้านมินิมาร์ทแถวบ้าน เขาเอาของกินเก็บเข้าตู้เย็นและแยกของอย่างอื่นไว้ในที่ๆมันควรจะอยู่.. เสียงโทรศัพท์ของเก้าดังขึ้น เขารับมันในขณะที่กำลังจัดระเบียบข้าวของในห้องครัว แพรโทรมาบอกเรื่องงานกลุ่ม ดูเหมือนว่าแพรและประวิทย์ลงความเห็นให้เมฆเป็นคนสรุปรายงานคนสุดท้าย ซึ่งเก้าเองก็เห็นด้วย ... หลังจากตกลงกับแพรเขาก็โทรหาเมฆเพื่อบอกข้อตกลงของเพื่อนๆ
“ ฮัลโหล เมฆ .. อยู่ใหนวะ ”
“ อยู่กับเพื่อน .. แถวๆนี้แหละ มีไร ”
“ คืนนี้มึงสรุปรายงานกลุ่มทีดิ่ แพรกับประวิทย์จะเป็นคนพรีเซ้น ”
“ อ๋อ เออได้ ”
“ เดี๋ยวกูเอารายงานไปทิ้งไว้ให้ที่ห้องนะ ”
“ เห้ยๆ เก้า มึงว่างป่ะวะ ? ”
“ มีไร ”
“ มึงเอาเป๋าตังมาให้กูทีได้ป่ะ กูลืมไว้ที่บ้าน ”
“ ….ตลอดเลยมึงอ่ะ..... ที่ไหนล่ะ ? ”
เมฆบอกที่อยู่ให้กับเก้า ซึ่งเก้ารู้ดีว่าเป็นที่ไหนแต่เขาไม่คิดว่าเมฆจะไปทำอะไรอยู่แถวๆนั้น เขาเองก็แปลกใจที่รู้ว่าเมฆหายไปทุกคืนวันหยุดเพื่อไปอยู่ที่แบบนั้นจริงเหรอ ... เก้าหยิบเอารายงานกลุ่มไปไว้ที่บ้านของเมฆ เขามีกุญแจบ้านทั้งสองหลังเพราะเมฆมักจะซุ่มซ่ามลืมกุญแจไว้ในห้องบ่อยๆเก้าจึงทำสำรองเอาไว้ เพราะเขาไม่อยากที่จะต้องเป็นคนปีนระเบียงบ้านเพื่อเปิดประตูให้เมฆอีกเป็นครั้งที่ สอง สาม หรือว่าสี่ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องขอกุญแจจากเมฆ...
ภายในบ้านแม้จะเป็นบ้านแฝดแต่สภาพด้านในก็ต่างกันมาก บ้านของเมฆไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ ห้องชั้นล่างเป็นเพียงห้องว่างเปล่า บนพื้นมีเศษกล่องและลังเบียวางชิดกำแพงทั้งสองข้าง เศษกระดาษร้อยปอนด์ที่ใช้แล้วถูกกองรวมๆกันไว้ที่ข้างกำแพง ส่วนที่ควรจะเป็นห้องครัวก็ว่างเปล่า มีเพียงกระติกน้ำร้อนกับตู้เย็นใบเล็กๆวางอยู่บนโต๊ะ รอบๆโต๊ะมีซองกาแฟและซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหล่นเกลื่อนกลาด เก้าเดินผ่านสิ่งเหล่านั้นไปพรางคิดในใจว่าถ้ามีงูสักตัวเลื้อยออกมาจากกองขยะพวกนั้นเขาก็จะไม่แปลกใจเลย
ไฟทางเดินขึ้นบันใดถูกเปิดขึ้นก่อนที่ประตูห้องนอนของเมฆจะถูกเปิดออกเช่นกัน เมื่อเขาก้าวเท้าเข้าห้องก็เตะกับบางอย่างจนกระเด็น
มันคือถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เหลือน้ำซุปทิ้งไว้ราวครึ่งถ้วย ตอนนี้มันหกกระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง ดูจากสภาพของน้ำซุป เมฆน่าจะกินมันตั้งแต่เมื่อวันก่อน แต่เอาเถอะ.... ต่อให้เขาไม่เตะมันหกพื้นห้องก็คงไม่ได้สะอาดขึ้นกว่าเดิมเท่าไหร่ ...
ในห้องนอนที่โล่ง ไม่มีแม้แต่ทีวี มีเพียงเตียงนอนและพัดลมอีกหนึ่งตัว ข้างเตียงมีขวดเหล้าขวดเบียร์สารพัดยี้ห้อ วางจนแทบไม่เหลือที่ให้วางอะไรได้ บนพื้นห้องบางจุดมีกระป๋องน้ำอัดลมที่ข้างในอัดแน่นไปด้วยก้นบุหรี่ ...
“ ....ไอ้ซกมก... โสโครกเกินมนุษย์มนาไปมั้ยเนี่ย... ”
เขาถึงกับพูดออกมาเมื่อเห็นสภาพห้อง เก้าทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงและมองไปรอบๆเพราะเขาไม่อยากจะเตะอะไรหกมากไปกว่านี้ รายงานกลุ่มถูกวางไว้บนเตียง...
เก้าเปิดลิ้นชักหัวเตียงของเมฆอย่างอยากรู้อยากเห็น ภายในมีเพียงกระเป๋าสตางค์ไฟแช็กกับซองบุหรี่และที่เปิดขวดเบียร์ กับกระดาษอะไรสักอย่างที่ยับจนอ่านไม่ออก .... มันดูไม่น่าจะเป็นห้องที่คนใช้นอนได้เลยจริงๆ .... เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ของเมฆจากลิ้นชักและเดินออกจากห้องอย่างระมัดระวัง...
-
Little Talk.
มีอะไรจะบอกอย่างนึงแหละ...
{ แอด , เม้น , โหวต ... เพื่อเป็นการ บอกรักกันเบาๆ นะครับ.. }
ความคิดเห็น