ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [da]dew on the cross

    ลำดับตอนที่ #2 : นอกหน้าต่าง 2 >>ต่อๆ

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 50



     “
    น้องคะ . . .น้องคะ . . .

     “อือ. . .อ่า. . . อ่าว  เจ้าตัวที่ถูกเรียกลืมตาขึ้น 

      แอร์ฮอสเตสสาวมองหน้าเด็กตรงหน้าอย่างงงๆ ดูเหมือนเธอจะปลุกคนขี้เซาคนนี้ซักพักแล้ว

      “  เอ่อ. . คือพี่จะบอกว่าอีกชั่วโมงนึงเราก็จะถึงแล้ว น้องยังไม่ได้ทานอะไรเลย จะทานอะไรหน่อยมั๊ย เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้

       อีกชั่วโมงจะถึง ! ไรกันเนี่ย เพิ่งจะขึ้นมาเองไม่ใช่หรอ นี่ฉันหลับไปนานขนาดนั้นเลย

     “  ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ

      เธอยิ้มให้ก่อนที่พนักงานสาวจะเดินจากไป

       เห้ออ! จะถึงแล้วก็ดี 

     
      
    หน้าต่างที่เปิดอยู่ ทำให้เห็นปลายปีกเครื่องบินลิบๆท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมมืดสนิทภายนอก สายตา ว่างเปล่าเหม่อมองอย่างไร้จุดหมาย รอให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่ตาคู่โตก็สังเกต . . . กับอะไรดำๆลอยเข้ามาติดกับปีกเครื่อง เธอยื่นหน้าเข้าใกล้หน้าต่างเพ่งสิ่งนั้น  

      อะไรเนี่ย ไอ่ดำๆนั่น 

      อะไรบางอย่างใส่ผ้าคลุมสีดำดูกลมกลืนไปกับสภาพอากาศมืดครึมและไม่สะทบสะท้านไปตามแรงลม 

     
    สิ่งนั้นนิ่งเหมือนไม้ที่ถูกปักเข้ากับปีกเครื่องบิน นิ่งมาก


       
    เสียงตึก ตัก ตึก ตัก ดังจนตัวเองรู้สึก ลึกๆก็ภาวนาให้ทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน เธอปิดหน้าต่างลง พิงพนักเก้าอี้ พยายามข่มตาหลับไม่นึกถึงสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อครู่

     

        ตึ๊ง !! “เรียนท่านผู้โดยสารทุกท่าน ขณะนี้ เราจะใช้เวลาอีกประมาณ สี่สิบนาที เราก็จะร่อนลงสู่ท่าทากาศยานแล้ว มีรายงานสภาพอากาศจากหอการบิน อากาศภายนอกมมีลมแรงฝนตกหนัก อาจเกิดหลุมอากาศบ้าง ขออภัยในความไม่สะดวกของทุกท่านด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ  


         แต่
    !!ทันทีที่หล่อนกำลังจะประกาศซ้ำเป็นภาษาอื่นต่อ    วูบบบบบบ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


      พูดไม่ทันขาดคำหลุมอากาศที่ว่าก็เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวทันที ทำเอาแอร์สาวเขวไปชนกำแพงพร้อมกับเสียงร้องด้วยความตกใจจากผู้โดยสาร 

     
      “
    โอยย เสียวท้องง เด็กสาวริมหน้าต่างก็ไม่ได้ตั้งตัวเหมือนกับผู้คนรอบๆ ที่เริ่มสนทนากัน บ้างก็เปิดหน้าต่างดูบรรยากาศข้างนอก เธอนึกถึงสิ่งที่เห็นเมื่อกี้นี้อย่างหวาดๆ แต่ความอยากรู้นั่นก็กระตุ้นให้มือข้างขวายื่นไปเปิดหน้าต่างขึ้นอย่างช้า ๆ . . . . .  แต่

     

        วูบบบบบบบบบบบ

     

       หลุมอากาศเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกครั้ง ทำเอามือผลักหน้าต่างจนสุดแต่เมื่อเงยหน้ามองภาพที่ปรากฎกลับไม่ใช่ท้องฟ้าสีดำ  แต่ปรากฏหน้าขาวซีดของชายผู้หนึ่งแนบติดกับกระจก !!!!!!!!!!!! ส่วนประสาทกระตุ้นความตกใจนั้นให้กลายเป็นเสียงกรีดร้อง อีกมือก็คว้าหน้าต่างปิดดังปึง


       “
    ตึก ตัก ตึก ตัก เสียงหัวใจเต้นโครมครามราวกับอยู่ในคอนเสิร์ต มือกุมท้องที่เสียวเพราะหลุมอากาศ ก้มตัวงอกอดหมอนที่ตัก พยายามเรียกสติกลับคืน

       “เมื่อกี้มันอะไรกัน  เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วจนไม่อาจเข้าใจได้

     
       ผีหรอ
    ?ใครกัน? เราไม่ได้ทำอะไรให้เค้าซะหน่อยๆจะออกมาทำไม อาจจะเป้นคนที่ตกเครื่องบินตาย โดนฆาตกรรมแทงเลือดกระฉูด ถีบตกทะเลตายยยย   ไม่น้า  บ้าๆ เว่อละ

       แต่ความคิดมากมายก็ยังไม่หยุดผุกขึ้นมา ตามด้วยภาพของหน้าชายหน้าซีด ถึงจะเป็นแค่เสี้ยววินาทีที่ตาของเธอและชายคนนั้นสบกัน ช่วงเวลาแสนสั้นที่เธอมั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาดไปแน่ๆ  เมื่อไหร่จะถึงกัน อยากกลับบ้านแล้ววว

     
       “
    น้องคะ เป็นไรรึเปล่า

      เสียงหวานทำเอาเธอสะดุ้ง นี่ฉันร้องดังขนาดนั้นเลยหรอ

       ตกใจนิดหน่อยอ่าค่ะ พี่คะอีกกี่นาทีจะถึงหล่ะคะ

       ยี่สิบนาทีประมาณนั้นแหละจ่ะ ไม่นานหรอก ดอกไม้สวยจังนะ

       แอร์สาวมองที่ช่อดอกไม้ช่อใหญ่ บรรจุดอกไม้หลายชนิดเป็นหย่อมๆ ดูแล้วก็รู้เลยว่าเอาจากหลายๆช่อมามัดรวมๆกัน 

       อย่าลืมเอาลงหล่ะ  

      
       
    ถ้าลืม เจ้าพวกนั้นจะฆ่าฉันมั้ยเนี่ย เธอยังจำหน้าและบรรยากาศตอนที่คนเหล่านั้นยื่นช่อดอกไม้ให้กับมือได้ ทั้งคำพูดกับ เสียงหัวเราะที่ชวนให้นึกถึง

       แต่เหตุการณ์สยองเมื่อกี้ก็แทรกให้นึกถึงใบหน้านั้นมากกว่าทันทีที่ลืมตัวเอาหัวพิงกับหน้าต่าง ฉันอุส่าห์ลืมไปได้แล้วเชียวว ไม่ว่าจะพยายามนึก  ถึงเรื่องดีๆแค่ไหน หน้าซีดเป็นเผือกต้มก็ยังรีพีทซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนวีดีโอที่กรอกกลับไปซ้ำที่ตอนเดิม แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้อยากดูเอาซะเลย พอซะทีได้ม๊ายยยยยยยยยยย

       หยะ อย่ามายุ่งกับหนูเลยนะคะ กลับบ้านแล้วจะทำบุญไปให้นะคะ สาธุ

      เด็กสาวp\ยกมือไหว้ ก้มหน้าหัวจุ่มลงไปในดอกไม้  ไม่รู้ว่าคำขอนั้นจะเชื่อได้มั๊ย แต่ก็ภาวนาให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

     

     

    แล้วว . . .

     เครื่องบินก็ค่อยๆ ลดตัว ต่ำลง ต่ำลง . . .  ผ่านลมที่กระโชกแรง

    จนบุคคลปริศนาของสาวน้อยที่ยืนต้านอยู่นานทนไม่ไหว

      เหอๆ

      ใบหน้าแสยะยิ้มอย่างไม่น่าไว้ใจ พลางพลักร่างตัวเองลอยขึ้นตามแรงลม ร่างที่เบาเหมือนขนนก ผ้าคลุมผืนใหญ่นั้นทำให้เค้าเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของผืนท้องฟ้าสีดำนั้น  ไม่มีใครสังเกตเห็นเขาได้

    เขามองเครื่องบินที่ต่ำลงๆจากเขาไป สายตาเย็นชามองที่หน้าต่างตรงปีกเครื่อง

       “ เด็กสาวตัวแค่นี้ ไม่สิ เด็กธรรมดาสามัญที่มีอะไรอย่างเธอ ไม่มีวันที่จะเป็นไปตามคำทำนายนั่นแน่ เธอไม่มีวันที่จะได้ครองพลังนั้นแน่  ไม่มีทางงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! “      

       เสียงหัวเราะดังพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าก่อนจะหายไปในกลีบเมฆ

     

        เค้าเป็นใครกันแน่ . . .  

      แต่อย่างน้อยเค้าก็ทำให้เด็กสาวไม่กล้ามองนอกหน้าต่างเครื่องบินไปอีกนาน . . .  




       *PS. เย่ในที่สุดก็เซฟได้แล้วววว  เย่ๆๆๆ     ได้ลงจากเครื่องซะทีน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×