คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF] WE fell in LOVE by LiTAz
WE fell in LOVE.
“ใจคอมึงจะมองจนพี่เค้ากระโดดมาขี่คอมึงเลยหรือไง?”
เสียงทุ้มต่ำของเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆฉุดให้คนที่กำลังนึกถึงจินตนาการอันแสนหวานต้องหุบยิ้มฉับทันทีทันใด จงฮยอนขมวดคิ้วมุ่นพลางหันไปมองไอ้เพื่อนตัวสูงก่อนจะมองเลยไปยังเพื่อนอีกคนที่นั่งหน้าแฉล้มอยู่ไม่ห่าง สองแขนเอื้อมออกไป คว้าหมับเข้าที่มือของแทมินโดยไม่ลืมจะส่งสายตาระห้อยเพื่อเรียกร้องขอความเห็นใจ
“มึงช่วยกูหน่อยดิ่”
“อีกล่ะ”
“นะแทมินนี่ ครางนี้กูสัญญาเลยว่ากูจะไม่ปอดแหกเหมือนคราวที่แล้ว มึงช่วยกูนะ”
“หึ”
ไม่ใช่เสียงของคนที่กำลังมองหน้าเขาอย่างเห็นใจหรอก แต่กลับเป็นเสียงของไอ้โย่งที่กระแทกแก้วโกโก้ปั่นลงบนโต๊ะม้าหินจนเกล็ดสีน้ำตาลอ่อนกระเด็นออกจากขอบแก้วนั่นต่างหาก มินโฮดึงมือจงฮยอนอออกจากมือของแทมิน ไม่สนใจว่าเจ้าของมือหยาบๆนั่นจะเหนียวเป็นตุ๊กแกแค่ไหน
“กูว่าไม่ใช่แค่คราวที่แล้วหรอก คราวก่อนก็ด้วย คราวนู้นก็อีก มึงอ่ะ ป๊อดทุกรอบ ถุย!”
คนถูกว่าอ้าปากจะเถียงกลับเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ได้แค่ทำปากพะงาบๆเมื่อไม่รู้จะสรรหาอะไรมาเป็นข้อแก้ต่างให้ตัวเองได้ในเมื่อสิ่งที่ชเวมินโฮพูดมาน่ะ...มันถูกเป๊ะทุกอย่าง! ฮ่วย!!!
“กูว่ามึงเปลี่ยนใจเฮอะ”
“เปลี่ยนใจเหี้ยไรล่ะ กูจองของกูมาตั้งเป็นปีเรื่องอะไรจะให้เปลี่ยนใจ”
“แต่ถ้าขืนมึงเอาแต่จองกับตัวเองแล้วไม่บอกพี่เค้าเนี่ย กูว่าชาตินี้ทั้งชาติมึงก็ทำได้แค่จองว่ะ”
เหมือนถูกตีแสกหน้า... จงฮยอนมองแทมินที่พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับมินโฮแล้วพ่นลมหายใจยาวเฟื้อยออกมา เด็กหนุ่มแนบแก้มลงกับพื้นโต๊ะม้าหินอ่อนเย็นเฉียบ ในขณะที่สมองซีกขวากำลังคิดและวิเคราะห์ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี สมองซีกซ้ายก็มีแต่ภาพของใครอีกคนที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งดอกลิลลี่ ดวงตาเรียวบวกรอยยิ้มหวานบาดใจนั่นกำลังส่งมาให้เขา เสียงใสตะโกนเรียกชื่อเขาดังกังวานจนอยากจะพุ่งตัวเข้าไปหาซะเดี๋ยวนี้
อ่า... แค่คิดก็มีความสุข...
“จงฮยอน”
“อย่ายุ่ง” บอกปัดเมื่อเพื่อนสะกิดที่ไหล่เบาๆ ดวงตาคมลอยเหม่อเมื่อภาพฝันในจินตนาการนั้นเหมือนกำลังลอยวนอยู่ตรงหน้า
“ขอกูยุ่งหน่อยเฮอะ น้ำลายมึงไหลเปื้อนชีทกูว่ะ”
“ช่างชีทมึงดิวะแทมิน ไม่เห็นไงวะว่าพี่คีย์กำลังส่งตาวิงค์ให้กูอยู่ น่ารักมากเลยว่ะ ฮี่ฮี่ฮี่” พูดพลางยกสองมือขึ้นปิดปากหัวเราะคิกคัก
แทมินสบตามินโฮก่อนที่ต่างฝ่ายจะต่างพาเอนตัวเข้าหากัน
“กูว่ามันกำลังจะเป็นบ้า”
“กูว่ามันบ้าไปแล้ว”
กระซิบกระซาบกันสองคนเมื่อคนที่นอนน้ำลายไหลยืดเมื่อครู่เปลี่ยนมาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบทันควัน
“มึงว่ามันฝันถึงอะไรอยู่” แทมินถามอย่างสงสัยเต็มทน
“กูว่า...มันคงเพิ่งค้นพบว่าพี่คีย์มีเมียและลูกอีกสามรออยู่ที่บ้าน"
“สะ สามเลยอ๋อ? โครตฟิตอ่ะ
”
แทมินถามตาโต พร้อมกับกระพริบตาปริบๆ
ส่วนอีกคนที่กำลังถูกพูดถึง...จงฮยอนดิ้นเร่าๆเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่น ริมฝีปากเบะออก ทำท่าเหมือนพร้อมร้องไห้ตลอดเวล
า
ในทุ่งดอกลิลลี่...จงฮยอนกำลังถือกระชอนอันใหญ่เท่าฝาชี เด็กหนุ่มส่งยิ้มให้คีย์ที่กำลังยืนเต้นบัลเล่ต์ท่ากรรเชียงก่อนจะตวัดสายตาไปยังผีเสื้อตัวเล็กที่กำลังบินวนรอบกลุ่มผมของรุ่นพี่ร่วมคณะ
...ไอ้ผีเสื้อเลววว!! กล้าดียังไงบินไปเกาะผมพี่คีย์ของกู๊!! ถ้าผมพี่คีย์กูมีเศษอะไรติดอยู่จะทำไง ไอ้... ไอ้... เช็ดดดดดด เอาจริงๆคือกูอิจฉามึงมากเลยว่ะผีเสื้อตัวจ้อย กูอยากสัมผัสบ้างไรบ้าง หือออออออ
น้องจงอิจฉาจุง... T_T
“รับน้องปีนี้มึงมาเป็นพี่สรรค์กับกูนะ”
คำพูดที่ไม่ต่างอะไรจากคำสั่งดังตั้งแต่จงฮยอนยังไม่ทันจะหย่อนก้นนั่ง ชายหนุ่มผมสีเงินเป็นเอกลักษณ์มองเพื่อนสนิทที่ดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายสันทนาการประจำรุ่นแล้วส่ายหน้าดิก
“กูจะเป็นพี่เชียร์!”
เสียง ดัง ฟัง ชัด!
จงฮยอนอมยิ้มกริ่มเมื่อเห็นแทมินเริ่มหน้ามุ่ย ทำปากขมุบขมิบ
“น้ำหน้าแบบมึงเนี่ยนะจะไปเป็นพี่เชียร์ รุ่นน้องคงกลัวจนหัวเราะไม่หยุด” มินโฮที่เพิ่มจะก้าวมาถึงแต่ทันได้ยินประโยคแสดงเจตจำนงของจงฮยอนชัดถ้อยชัดคำเอ่ยถาม ร้อนถึงคนที่โดนปรามาศต้องรีบเงยหน้าขึ้นยืนยันความต้องการของตัวเอง เอาให้เสียงดังฟังชัดกว่ารอบแรก
“กูจะเป็นพี่เชียร์ครับ!”
“เพราะ?”
“แค่ยืนทำหน้านิ่งๆรุ่นน้องก็ระทวยจนรีบทอดสะพานให้ไม่ทันแล้วครับ”
“ใครบอกมึงเหรอครับ?” มินโฮถามอย่างแปลกใจ ไม่รู้ว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันไปเอาทฤษฎีบ้าๆแบบนี้มาจากไหน
“กูสังเกตตอนเรารับน้อง ไอ้คุณพี่แจจินครับ ตัวเล็กเท่าหัวนมกู หน้าตางี้ก็โลวคลาสสุดๆ แต่ขอโทษ...สาวๆกรี๊ดใส่กันชิบหายวายป่วงเลยครับ!”
“จริงเหรอครับ?!”
“ครับ!!”
...
...
...
“มินโฮ...”
“กูเปล่าถามครับ”
“แทมิน...”
“กูก็เปล่าครับ”
จงฮยอนกรอกตามองเพื่อนสนิททั้งสองสลับกันไปมา ใบหน้าแฉล้มๆของแทมินฉีกยิ้มกว้างจนลูกตาเรียวๆกลายเป็นสระอิหยิ๋บยี๋ พอๆกับมินโฮที่ยิ้มแฉ่งจนแทบเห็นฟันครบทุกซี่ น่าแปลกที่ไอ้เพื่อนทั้งสองคนมันไม่ได้ส่งมายิ้มมาให้เขา แต่กลับมองตรงไปยังด้านหลังของเขาแทนซะนี่
“กูว่านะ...”
“มึงอย่าว่าอะไรอีกเลยดีกว่าครับ” แทมินกัดฟันพูดทั้งที่ปากยังคงฉีกยิ้มกว้างเหมือนเดิม
“กูว่า...กูซวยแล้วล่ะครับ”
ชิบหายยยยยยยยยยยยยยยยยย
จงฮยอนเงยหน้าขึ้นก่อนจะป๊ะกับสายตาของรุ่นพี่ที่มีตำแหน่งเป็นประธานเชียร์ปีสาม อีแจจินส่งยิ้มให้รุ่นน้องตัวแสบพร้อมกับวางมือลงบนไหล่ของจงฮยอน
“กูตัวเล็กเท่าหัวนมมึงแล้วมีปัญหาอะไรเหรอครับ หรือว่า...กูไปขอนมมึงดูดครับคุณจงฮยอน”
จงฮยอนกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ มองคุณพี่แจจินที่ยังส่งยิ้มหวานบาดใจมาให้แล้วได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆกลับคืน เสียงหัวเราะที่พยายามจะกลั้นเอาไว้ของรุ่นพี่ที่ยืนขนาบข้างซ้ายขวาของแจจินพอจะช่วยให้บรรยากาศชวนหวาดเสียวในตอนนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ทว่า...
โคดป๊าโคดม๊า!!!!! ทำไมคนสวยของกูต้องมาพร้อมพี่แจจินด้วยยยยยยยยย
“ห่านจงฮยอน กูเคลียร์กับมึงอยู่ มองแต่คีย์อยู่ได้”
ไม่พูดเปล่า ยังอุตส่าห์ตบกระโหลกเบาๆเรียกสติของคนที่กำลังจะเริ่มต้นทำหน้าเคลิ้ม น้ำลายปริ่มมุมปากให้วิญญานกลับเข้าร่างตามเดิม คนถูกพาดพิงซึ่งมัวแต่ยืนจิ้มเกมในไอโฟนเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกถึงสายตาหลายๆคู่ที่กำลังจ้องมาทางตน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ยิ่งเห็นเพื่อนในกลุ่มอย่างแจจินยกมือเกาหัวทำหน้าปวดลิ้นปี่แล้วก็ยิ่งงงหนักกว่าเดิม
“อะไรวะ?”
“น่ารักอย่างกับดอกลิล...อุ๊ป!”
มินโฮที่อยู่ใกล้จงฮยอนมากกว่าใครยกสองมือขึ้นปิดปากเพื่อนเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเผลอหลุดคำพูดชวนอ้วกออกมาต่อหน้ารุ่นพี่เป็นขโยง
“เหี้ยยยยยย น้ำลายมึง!”
คนที่สติหลุดไปตั้งแต่เห็นนายในฝันยกมือขึ้นโบกไหวๆให้กับคีย์ที่ไม่รู้ตัวและหันกลับไปสนใจไอโฟนในมือต่อตามเดิม ผิดกับคนอื่นๆที่เหลือ แทมินคว้ากระเป๋าเป้แล้วรีบลุกออกไปทันที................. กูไม่อยู่แล้วโว้ยยย!
ส่วนแจจินที่ตั้งใจจะให้ไอ้รุ่นน้องตัวแสบเลี้ยงโซจูเป็นการไถ่โทษตามประสาคนวงเหล้าเดียวกันก็ยังอดจะยกมือกุมขมับไม่ได้ จริงๆก็ไม่ได้โกรธอะไร กับจงฮยอนเองก็สนิทกันดี เพราะสมัยไอ้ตัวแสบนี่เพิ่งเข้าปีหนึ่งมาใหม่ๆก็ถูกเขาลองของซะจนสนิทสนมกัน ถึงได้รู้ไงว่าไอ้นี่มันริปีนเกลียวหวังเด็ดเดือนคณะ แรกๆก็ยุให้มันจีบเพื่อนเขาอยู่หรอก แต่หลังๆ พอเห็นสภาพมันเป็นแบบนี้แล้ว บอกตามตรง...
“มินโฮ”
“คะ ครับ?”
“มึงพามันไปโรงบาลบ้างนะ กูว่าถ้ามันไม่เป็นโรคประสาทมันก็ต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ น่ากลัวชิบหาย” พูดก่อนจะลากคีย์ที่ยังเอาแต่สนใจโทรศัพท์ในมือตัวเองเดินดุ่มๆออกไป
“ปล่อยมันเหอะ น้ำลายมันทะลักปากแล้วมั้งป่านนี้”
จินกิที่ยืนกอดอกกลั้นหัวเราะมาตั้งแต่แรกพูดพร้อมกับใช้หนังสือตีเบาๆที่ไหล่ของมินโฮ รุ่นพี่ร่วมภาคมองเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่ทำตาละห้อยชะเง้อคอมองตามเพื่อนเขาไปแล้วได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงๆ
“กูห้ามตัวเองไม่ได้”
จงฮยอนพูดขึ้นหลังจากที่รุ่นพี่ทั้งโขยงพากันเดินหายไปหมด... อยากร้องไห้! คิมจงฮยอนคนหล่ออยากร้องไห้สมเพชตัวเอง!!
“กูควรทำไงดี ฮือออออ พี่คีย์ต้องคิดว่ากูเป็นโรคจิตแน่เลย มินโฮ๊!!” คร่ำครวญ...พร้อมกับไถหน้าลงบนต้นแขนเพื่อนอย่างอับจนหนทาง
เด็กหนุ่มตัวสูงกรอกตารอบเบ้า ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแรงๆจนน้ำมูกกระเด็น
“ไม่ใช่พี่แค่คีย์หรอก กูด้วย!!”
+
“จาจัมยองสอง!”
“แต่มึงมาคนเดียว”
แทมินที่ยืนถือกระดาษจนออเดอร์พูดพร้อมกับรับแผ่นเมนูกลับคืน เด็กหนุ่มลูกชายเจ้าของร้านจาจัมยองย่านทงแดมุนยืนมองเพื่อนที่ไม่สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย ทันทีที่สั่งอาหารเสร็จไอ้ตัวแสบก็หันออกไปมองนอกร้าน จ้องตรงไปยังร้านขายดอกไม้ซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งของถนนพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
“กูละเกลียดมึงจริงๆเลย”
“พี่คีย์น่ารักตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยว่ะ”
“เช็ดเป็ดจงฮยอน”
...ช่วยหันหน้ามารับรู้ความเกลียดของกูด๊วยยยยย!
แทมินพ่นลมหายใจดังพรืดแล้วหมุนตัวกลับไปหลังร้าน ปล่อยให้ไอ้เพื่อนสุดเพ้อเจ้อ...ที่ทำได้แต่เพ้อไปวันๆนั่งเกาะหน้าต่างร้านมองดอกลิลลี่ของมันต่อไป
“ถ้าชอบคีย์มันมากนักก็บอกมันไปเลยซี”
เสียงคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของคนคุ้นตา จินกิเดินถือถ้วยจาจัมยองมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามจงฮยอน ออร่าที่เปล่งออกมาจากทุกทวารของรุ่นพี่ตรงหน้าชวนให้จงฮยอนกระดากใจกับหน้าตาตัวเองจนอดจะนึกอิจฉาไม่ได้...
“นี่ถ้าหล่อได้ซักครึ่งของพี่จินกินะ พ่อจะจับดอกลิลลี่มาขยี้ ขยำ และก็ขย่ม เอาแบบไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน!”
ผลั๊วะ!!
“ตบผมทำไมอ่ะพี่?” จงฮยอนถามอย่างตกใจที่จู่ๆก็ถูกอีกฝ่ายตบหัวจนจมูกเกือบลงไปทิ่มพื้นโต๊ะ
“คิดดังไปล่ะ”
ชิบหาย...
“แหะแหะแหะ สงสัยมันจะออกมาจากจิตใต้สำนึก”
คนที่รู้ตัวว่าเผลอหลุดความคิดออกมาเป็นรูปประโยคหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะจัดการคีบหัวไชเท้าดองสีเหลืองเข้าปากแก้เขิน
“ว่าแต่แก...”
“ว่าแต่?” จงฮยอนย้อนถามจินกิเมื่อคนที่ทำท่าจะพูดอะไรกลับกั๊กคำพูดไว้เสียเฉยๆ
“ว่าแต่แกรู้ได้ไงว่าจะได้เป็นฝ่ายขยี้ ไม่แน่...อาจจะไม่ใช่ดอกลิลลี่ แต่เป็นดอกไม้กินแมลงแทนก็ได้”
“ห๊ะ?” จงฮยอนมองคนที่อมยิ้มแปลกๆแล้วขำพรืด “พูดอะไรเข้าใจยาก ถ้าต้องถูกคนน่ารักแบบนั้นกิน ผมนี่ยอมให้กินตั้งแต่หัวถึงหางเลย! วู้ววววว”
จินกิมองเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่เอาแต่หัวเราะร่าแล้วอมยิ้มมุมปากโดยไม่ขยายความอะไรเพิ่ม...
“ว่าแต่พี่มาทำอะไรที่นี่คนเดียวอ่ะ มาเพื่อกินจาจังมยอนเนี่ยนะ?”
“ใครว่ามาคนเดียว ฉันนัดคีย์ไว้ แต่เผอิญมาก่อนเวลาก็เลยมาหาอะไรลงท้อง”
“อ่า... จะไปไหนกันอ่ะ?”
“พี่ปีสี่เค้าเรียกปีสามนัดประชุมเรื่องรับน้องนอกกันตอนบ่าย ยังไงจากบ้านฉันไปมหาลัยก็ต้องเปลี่ยนรถไฟใต้ดินที่สถานีนี้อยู่แล้ว ก็เลยนัดคีย์ไว้จะได้ไปพร้อมกัน”
“อ่อ...”
จงฮยอนพยักหน้าหงึกหงัก ดวงตากลมใสกระพริบปริบๆ
“เอ้า จาจังมยอนของมึง รีบกินแล้วก็รีบออกจากร้านกูไปได้แล้ว เกะกะลูกค้าคนอื่น”
แทมินที่โผล่มาพร้อมถ้วยจาจังมยอนชามโตเอ่ยอย่างไม่รักษาน้ำใจ ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อหันมาอีกฝั่งแล้วเห็นจินกินั่งอยู่ด้วย คนแก่กว่าเพียงแต่ส่งยิ้มให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นรุ่นน้องร่วมคณะ ร่วมภาค และที่สำคัญ...ยังเป็นน้องรหัสของเค้าเองอีกด้วย
“ไหนพี่บอกไม่ชอบนั่งริมกระจกไง” แทมินเอ่ยถาม ริมฝีปากยู่เข้าหากันพร้อมกับหัวคิ้วที่ผนวกจนชิดแทบจะผูกเป็นโบว์
“ก็เห็นเพื่อนนายนั่งอยู่คนเดียว กลัวจะคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เกิดคุมสติตัวเองไม่อยู่ ถลาออกไปลากคีย์ขึ้นรถก็แย่น่ะสิ”
“พี่...” จงฮยอนเงยหน้าจากถ้วยจาจัมฮยอนมาเอ่ยท้วง
“วางใจได้ครับ เพื่อนผมมันเก่งแต่ปาก เอาจริงๆโครตป๊อดเลย ฮ่าๆๆๆ”
“แทมิน...”
“ใครจะไปรู้ เห็นคีย์ทีตางี้เป็นประกาย น้ำลายก็จะไหลซะให้ได้”
“เฮ้ยพี่...”
“ได้แค่นั้นแหละครับ ลองลากพี่คีย์มาอยู่ตรงหน้าสิ โหยยย ไร้น้ำยาสุดๆไปเลย ผมนะอายแทนประจำ”
จงฮยอนมองเพื่อนสนิทกับรุ่นพี่ที่ไม่ค่อยจะสนิทแต่ก็สนิท(เอ๊ะ?) ไม่สิ เพื่อนสนิทกับพี่รหัสมันนินทา และหลอกด่าเขาซึ่งๆหน้า ถึงเรื่องเรียนจะฉลาดสู้ไอ้หน้าขาวที่กำลังว่าเขาป่าวๆนี่ไม่ได้ แต่เรื่องทางโลกน่ะ คิมจงฮยอนเจนจัดนะครับพี่น้องครับ!
“หยุด!!!”
ในที่สุด หลังจากทนฟังคำสบประมาทตัวเองมาร่วมนาที จงฮยอนก็จัดการส่งแทมินกลับไปดูแลลูกค้าคนอื่นต่อ รวมถึงยอมสละจาจังมยอนหนึ่งถ้วยของตัวเองให้จินกิ แลกกับการให้อีกฝ่ายหยุดพูดเรื่องของเขาซะ
... โคตรเจนจัดทางโลกเลยครับ ผมเก่งมั้ย?! อริ๊! –v-
“กลางวันนี้มึงหาไรกินคนเดียวนะ กูกับมินโฮต้องไปประชุมเรื่องรับน้อง หรือสนใจจะไปนั่งประชุมกับพวกกูมั้ยล่ะ?”
แทมินเอ่ยขณะเดินออกจากชอปเครื่องกล มือขาวๆเปื้อนน้ำมันจาระบีรวมไปถึงขี้เหล็กจนดำปี๋ เช่นเดียวกับเพื่อนทั้งสองคนที่เดินขนาบซ้ายขวา ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำมันจนต้องพากันย่นจมูก จงฮยอนเช็ดหน้ากับแขนเสื้อชอปสีเทาเข้มของตัวเองก่อนจะส่ายหน้ารัว
“ไม่อ่ะ พวกมึงประชุมห้องแอร์กัน ขืนเข้าไปทั้งสภาพแบบนี้กูอ้วกแตกแน่ ไปนั่งผึ่งลมบนดาดฟ้าดีกว่า ประชุมเสร็จแล้วมึงค่อยโทรเรียกกู ตอนบ่ายไม่มีเรียนใช่มั้ยล่ะ เดี๋ยวกูรอ ค่อยไปหาอะไรกินพร้อมกัน”
“ตามใจ ว่าแต่มึงจะไม่เป็นพี่สันกับกูแน่นะ เป็นเฮอะ กูอยากได้คนมาเต้นแมงมุมว่ะ ท่าขยุ้มมึงอ่ะเด็ดสุด ชนะทั้งคณะเลย นะ เป็นเฮอะ” แทมินเอ่ยแกมขอร้อง มือสองข้างกระตุกชายเสื้อเพื่อนพร้อมกับเช็ดมือไปมาโดยที่เจ้าของเสื้อไม่ทันรู้ตัว
“ไม่เป็น! กูรับปากพี่แจจินไว้แล้ว อีกอย่างมึงก็รู้ว่าพี่คีย์เค้าเป็นพี่เชียร์ แล้วกูจะเสียเวลาไปเป็นพี่สันทำบ้าอะไร ไปได้แล้วไป เสร็จแล้วอย่าลืมโทรหากูนะ ไม่โทรมากูฟ้องพ่องมึงแน่”
จงฮยอนโบกมือไล่เพื่อนแล้วเดินขึ้นชั้นสองซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องน้ำชาย จัดการเปิดน้ำล้างคราบน้ำมันรวมถึงฝุ่นผงต่างๆออกจากแขนและใบหน้า ก่อนจะกดลิฟท์ขึ้นไปยังชั้น 6 แล้วลากขาเดินขึ้นบันไดต่อไปอีกชั้นเพื่อไปหาที่นอนเล่นบนดาดฟ้าระหว่างรอเพื่อนสนิททั้งสองคน
ลมเย็นๆในวันที่ท้องฟ้าไม่มีแสงแดดนี่มันช่าง...สวรรค์ซะจริง
จงฮยอนเดินไปยังแทงค์น้ำขนาดใหญ่ที่ปกติเขามักจะชอบหลบมานั่งเอนหลัง หากแต่วันนี้มันดันแปลกไปจากทุกที... ใครบางคนจับจองพื้นที่ว่างๆนั่นแล้วเรียบร้อย แถมไม่ใช่แค่มานั่งผึ่งลมแบบที่เขาเตรียมจะทำ แต่ถึงขั้นนอนหลับอย่างสบายอารมณ์แทน และถ้าตาไม่ฝาดหรือสติไม่หลอนจนเกินไป ไอ้คนที่นอนอยู่นั่นมัน...
พรี่ครีย์ย์ย์ย์ย์ย์ย์ย์ย์ !!!!!!!!!!!!
โอ้ล่ะพ่อ...
หลับพริ้มชวนให้ปล้ำมาก...
จงฮยอนหันซ้ายหันขวา...ไม่มีใคร มีแค่หนึ่งคือเขา และสองคือคนที่นอนหลับอยู่ตรงนั้น
อืม... ถ้าแค่เดินไปนั่งใกล้ๆคงไม่เป็นล่ะมั้ง แหงสิ ก็แค่ไปนั่งเฉยๆเองนี่... ใช่ ก็แค่ไปนั่งเฉยๆ ฮี่ๆๆ ^++++^
จงฮยอนหย่อนก้นลงนั่งข้างคีย์ที่ยังนอนหลับตานิ่ง ก่อนจะเขยิบเข้าใกล้ทีละนิดอย่างเบาที่สุดเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว ดวงตากลมใสเหล่มองใบหน้าขาว ไล่ตั้งแต่เปลือกตาที่ปิดสนิท มายังปลายจมูกมนๆ ก่อนจะจ้องนิ่งอยู่ที่ริมฝีปากสีอ่อน
ชิบหายแล้ว...
จงฮยอนสะบัดหน้าไล่ความคิดแปลกๆที่บินว่อนอยู่ในหัว พยายามให้มันกระเจิดกระเจิงหายไป ฝ่ามือทั้งสองข้างยันพื้นคอนกรีตแล้วจัดการโยกตัวเองให้ขยับถอยห่าง แต่สุดท้ายก็ใช้สองมือของตัวเองนั่นแหละโยกตัวกลับมานั่งอยู่ที่เดิม
ถ้าแบบว่า...ขอ... ขอจูบ... นิดนึง...แค่นิดเดียว!... ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร.........................รึเปล่าวะ?
ฮือออออ ก็คนสวยของเค้าสวยอ่ะ!! เอ๊ะ... หรือจะทำแบบหนังจีนที่เคยดูสมัยเป็นเด็ก เอาผ้าคลุมหน้าแล้วจูบแม่มเลย! เอี้ยก้วยก็เอี้ยก้วยเถอะ เจอเชี้ยจงฮยอนแล้วจะหนาว หึหึ
จงฮยอนเหล่มองคนที่ยังนอนหลับตานิ่งอยู่ท่าเดิมแล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เป็นไงเป็นกัน!!
“มาเป็นของน้องจงซะดีๆ...”
“ขโมย”
“.....!!!!!”
คีย์มองคนที่กึ่งๆจะคล่อมตัวเขาไว้ ใบหน้าของอีกฝ่ายยื่นเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแทบจะชิด มิหนำซ้ำยังทำปากจู๋ บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวกำลังคิดจะทำอะไร
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
จงฮยอนแหกปากร้องลั่นก่อนจะรีบถอยร่นออกไป ปากคอสั่นแถมเหงื่อยังแตกพลั่กๆ มองดอกลิลลี่ที่ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วจัดการยกสองมือปิดปากตัวเองเอาไว้
ไม่...ไม่ได้ทำ ยังไม่ได้จูบเลยนะ!!.... ชิบหายแล้ว พี่คีย์ต้องคิดว่ากูเป็นโรคจิตแน่ๆ โฮ้วววว ม๊ายยย~~!!
“อุตส่าห์หลบมาหาที่นอนเงียบๆยังมาเจอคนขี้ขโมยซะได้” คนแก่กว่าพูดพร้อมกับปิดปากหาว มองคนที่นั่งตัวลีบแล้วคว้าเสื้อชอปสีเทาเข้มของตัวเองที่พับซ้อนเป็นหมอนหนุนขึ้นมาสะบัดก่อนจะจัดการสวมทับเสื้อยืดอีกชั้น
“ขะ ขโมย? ผมไม่ใช่ขโมยนะ!!” คนที่จู่ๆก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยขึ้นมาดื้อๆรีบปฏิเสธพัลวัน
“นายจะขโมยจูบฉัน”
“ห๊ะ?.......... อ่อ......”
คีย์มองคนที่อ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ทำเพียงแค่อ้าปากพะงาบๆแล้วก็จัดการปิดปากตัวเองตามเดิม แก้มกลมๆของอีกฝ่ายแดงเรื่อ ไม่รู้เพราะเขินหรือเพราะลมเย็นๆที่พัดอยู่ตอนนี้กันแน่ แต่ดูจากภาพรวมแล้วน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่าล่ะมั้ง
“นี่... ถ้าอยากจูบฉันล่ะก็ เดินเข้ามาขอกันตรงๆเลยสิ”
ดวงตาใสแจ๋วเบิกขึ้นอย่างตกใจกับคำพูดตรงไปตรงมาของคนตรงหน้า ยิ่งเห็นใบหน้าน่ารักๆส่งยิ้มมุมปากแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนให้ก็ยิ่งต้องประหลาดใจมากกว่าเดิม
ทะ ทำไมขนคอกูลุกแปลกๆวะ
“หรือถ้าไม่กล้า จะเชิญชวนกันก็ได้นะ”
เชิญ.... ชวน? ห๊ะ??.........ห๊า??????!!!!!!!!!!!!!!
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยย”
จงฮยอนแหกปากลั่น มองแขนตัวเองที่ถูกคีย์จับพร้อมทั้งกระชากเข้าไปหาจนหน้าแทบคว่ำ ใบหน้าของคนน่ารักที่ตัวเองเพ้อจนน้ำลายหกมาตลอดหนึ่งปีลอยวนอยู่ใกล้แบบเส้นยาแดงผ่าน
เดี๋ยว...เดี๋ยววววว.... กูจะรุกพี่คีย์ กูไม่ได้จะให้พี่คีย์มารุกกู๊!!!!!!! พร่องงงงงงงงงส์
“เก็บไว้เป็นความลับของนายกับฉันนะ”
“ห๊า?”
อะไรวะ!! ทำไมกูถึงพูดเป็นแต่คำนี้วะ!!! เชี้ยไรเนี่ยยยยย วอทแฮฟเพ่นวินมายไลฟ์!!!!!!!!!!
“ไม่ใช่...ผมไม่ได้...!!!!!!!!”
ฝ่ามือตีรัวลงบนหลังบางๆของคนแก่กว่าเมื่อริมฝีปากอุ่นๆกดทับลงมาบนริมฝีปากของเขาแบบพอดิบพอดี คนที่ตั้งใจจะมาขโมยจูบในตอนแรกเบิกตาโตเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกดที่มากขึ้นบนริมฝีปากของตัวเอง
ปลายลิ้นร้อนๆไล้วนอยู่บนริมฝีปากก่อนจะอาศัยจังหวะที่คนด้านล่างยังตกตะลึงไม่หายสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“อื้อ...”
รสจูบที่ถูกอีกฝากชักนำอย่างตรงไปตรงมาทำเอาคนถูกไล่ต้อนแทบลอย ฝ่ามือสองข้างที่ฟาดลงบนหลังของคนด้านบนในตอนแรกเปลี่ยนเป็นโอบรอบแผ่นหลังนั่นไว้แน่น
คีย์กดจูบร้อนๆลงบนซอกคอของจงฮยอน ระเรื่อยไปตามกระดูกไหปลาร้า โดยไม่ลืมจะฝากรอยจางๆทิ้งเอาไว้ทุกที่ที่ริมฝีปากลากผ่าน ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงเสื้อยืดสีน้ำเงินของจงฮยอนขึ้นเหนืออก
มันใช่หรอวะ?
เดี๋ยวนะ...
น้องจงว่าไม่น่าใช่ว่ะครับ...
“หยูดดดดดดดดดดด!!!!!!”
จงฮยอนยกสองมือขึ้นผลักคนที่ตั้งหน้าตั้งตาสูบอากาศจากปากเขาไม่หยุดกระเด็นออกไป ก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่ไปกับพื้นคอนกรีตพร้อมกับกอบโกยอากาสกลับเข้าสู่ปอดของตัวเองอีกหน
เมื่อกี้...กูโดนจูบปาก หรือโดนดูดปากกันแน่วะพ่องงงงงงงงงง !!!!
รู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงนกร้องจิ๊บๆบินวนไปวนมาอยู่รอบหัว จงฮยอนตะเกียกตะกายลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง สองตามองไปยังคนที่นั่งขัสมาธิส่งยิ้มแป้นมาให้เขา ปกติถ้าเจอแบบนี้เข้าไปมีหวังคงได้นั่งน้ำลายยืดจนเสื้อเปียกทั้งตัว แต่ทำไมตอนนี้ ไอ้รอยยิ้มของพี่คีย์มันถึงดูน่ากลัวพิกลฟระ โฮร่... น้องจงถูกดูดปากอ่ะ ไม่ย๊อมมม
“ไม่ชอบเหรอ?” คีย์เอ่ยถามพร้อมเอียงคอมองอย่างสงสัย
“โครตรชอบอ่ะ... ไม่ใช่!!”
จงฮยอนทึ้งผมตัวเอง มองคนที่นั่งหัวเราะอยู่ไม่ห่างแล้วอยากจะกระโดดลงจากชั้น 7 ให้รู้แล้วรู้รอด... อย่ามายิ้มหวานให้นะ! อย่ามามุ้งมิ้งใส่ น่ารักสึดอ่ะ โฮๆๆๆ
“ชื่อจงฮยอนรึเปล่า”
“ชื่อ?... ใช่!”
“ชอบฉันใช่มั้ย?”
“...ห๊า!” วอทอาร์ยูอากส์เค็ดมี๊...!!!!!!!!!!
จงฮยอนถอยร่นไปข้างหลังเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าก็ลุกเดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มมุมปาก คีย์มองคนที่ถอยหลังไปจนชิดกำแพงตึกแล้วย่อตัวลงนั่ง มือขวายกขึ้นเชยคางคนที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เอาไว้
“พรุ่งนี้ขึ้นมาอีกสิ”
“ห๊า?!”
“นี่พูดเป็นอยู่คำเดียวหรือไง” คนที่เริ่มรำคาญเอ่ยถามพร้อมกับดึงมือตัวเองกลับคืน
“ก็...ก็...” จงฮยอนอ้าปากค้าง พอเห็นรุ่นพี่ที่ตัวเองแอบชอบจ้องตรงมาก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก...
เดี๋ยวสิเดี๋ยว โพสิชั่นนี้มันไม่ใช่อ่ะ! ไม่ใช่!!! T__T
“วันนี้นายตัวเหม็น”
เหม็น? ตัวเหม็น? จงฮยอนกระพริมตาปริบ มองดอกลิลลี่ตรงหน้าที่ส่งยิ้มมาให้อีกหน
“พรุ่งนี้ขอหอมกว่านี้นะ”
จุ๊บ...
ริมฝีปากสีหวานกดเบาๆลงบนหน้าผากของจงฮยอน คีย์ระบายยิ้มหวาน มองเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่ตัวแข็งค้างไปแล้วจึงค่อยลุกเดินจากมา ปล่อยทิ้งจงฮยอนให้นั่งอึ้งอยู่อย่างนั้น...
พรุ่งนี้ขอหอมกว่านี้นะ
ขอหอมกว่านี้นะ
กว่านี้นะ
.
.
.
ได้ยินเสียงแอคโค่อะไรมั้ยอ่ะ... มันดังลั่นอยู่ในหูเนี่ย แล้วก็ๆๆๆ แล้วก็เสียง ‘จุ๊บ’ ด้วยอ่ะ ได้ยินป่ะ ได้ยินป่ะ ได้ยินมั๊ยอ่ะคู๊นนนนนน กหาดฟรนยหเยฟรนก สติหลุด... ปั๊บปี้จงสุดคิวท์กรวยใตพังไปแล้วเรียบร้อยครับท่าน #ปิดม่าน
“อ๊าคคคคคคคคคคคค”
จงฮยอนตะโกนออกมาดังลั่นดาดฟ้า สองมือยกขึ้นกุมแก้มตัวเองพร้อมกับลงไปดิ้นซ้ายดิ้นขวาอยู่บนพื้น ภาพเหตุการณ์ชวนสยิวกิ้วที่หัวใจฉายซ้ำกลับมาอีกรอบ ทั้งจูบแบบฮาร์ดคอร์ ทั้งรอยยิ้ม ทั้งคำพูด ทั้งสายตา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำชัดเจนซะจนไม่กล้าแอ๊บว่าฝันไป
คิมจงฮยอนนนน มึงเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกกกกกก โฮๆๆๆ ถูกจูบบบบ ถูกดอกลิลลี่จูบบบบ ถูกคนสวยจูบบบบ ถูกนางในดวงใจจูบบบบ
โอเค... คิดอีกทีกูอยู่ข้างล่างก็ได้ บัยส์
พวีดดดดดดดดดดด
O-<---<
ในขณะที่เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายจากชายหนุ่มผู้ถูกพรากจูบแรกไปยังคงดังต่อเนื่องไม่มีทีท่าจะหยุด...
ณ มุมพักบันไดที่ห่างออกมาเพียงแค่ครึ่งชั้น คนที่ทำเป็นเดินจากมาอย่างมั่นใจนักหนาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้ากำลังย่อตัวนั่งบนขั้นบันได สองแขนโอบรอบเข่าของตัวเองไว้พร้อมกับฝังใบหน้าที่แดงจัดลงไป ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน รู้สึกเหมือนหัวใจใกล้จะระเบิดเข้าไปทุกที
บ้าไปแล้วคิมคิบอม... มึงไม่ใช่สาวน้อยแรกแย้มนะโว้ยยย ถึงจะได้เอาแต่เขินไม่หยุดแบบนี้ สต๊อป สต๊อป!!
“เชี้ยเอ้ย...” พึมพำเบาๆหลังจากเงยหน้าขึ้นมา ถึงอย่างนั้นริมฝีปากกลับหุบยิ้มไม่ได้เลย...
.
.
.
“เด็กนั่นจะมองอะไรกูนักหนาวะ” คีย์หันไปกระซิบถามเพื่อนซึ่งยืนอยู่ข้างกัน
ตอนนี้พวกเขากำลังลงรับน้องปีหนึ่งบริเวณหน้าภาค แน่นอนว่าการเป็นพี่เชียร์นั้นหมายถึงการ ว๊าก ว๊าก และ ว๊ากกกกก ทั้งโดนด่า โดนกัด โดนกดดัน และอีกสารพัดสารเพที่เด็กใหม่ต้องเจอ คำสั่งว่ามองตรงไปข้างหน้าดังขึ้นแทบจะทุกนาที แต่ทั้งที่โดนตะคอกใส่จนเส้นเอ็นรุ่นพี่แทบจะแตกทะลุคอ ไอ้เด็กใหม่หน้าละอ่อนนั่นก็ยังคอยแต่จะเหลือบสายตามามองเขาไม่เลิก บอกตรงๆว่า...ไม่พอใจโว้ยยยย
“เด็กโรงเรียนเก่ามึงป่าว”
“ไม่อ่ะ หน้าตาแบบนี้เกิดมาเพิ่งเคยเห็น”
คีย์ตอบ น้ำเสียงติดจะหงุดหงิดเมื่อไอ้เด็กน้อยที่กำลังพูดถึงชำเลืองสายตามาทางเขาอีกหน
.
“ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝาก หัวใจ
ลงทะเบียนฝากไว้ตัวเอากลับไป ใจเก็บรักษา
ยอมจำนนเธอแล้ววันนี้แค่แรก เห็นหน้า
ฝากไว้กับฉันนะหัวใจของเธอ แลกเบอร์โทร โอ๊ะ โอ โอย”
เสียงเพลงทรอท(?)ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะหม้อไหเท่าที่จะหาได้ภายในห้องพัก นักศึกษาชายกว่าสิบคนที่อัดกันอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆกำลังล้อมวงโดยมีศูนย์กลางของวงคือขวดเหล้า35ดีกรีพร้อมทั้งกับแกล้มสารพัดอย่าง
“จงฮยอน หมดแก้วนะมึง”
แจจินพูดพร้อมกับยัดแก้วใส่มือรุ่นน้องที่ตอนนี้แดงเถือกไปทั้งหน้าและคอ สติพร้อมหลุดตลอดเวลา
“มันไหวเหรอวะ กูว่าพามันไปนอนเฮอะ” ดงอุนตะโกนข้ามกลุ่มมา มองจงฮยอนที่ตอนนี้เริ่มไหลลงไปนอนกับพื้นทั้งที่มือยังถือแก้วเหล้าไว้มั่น ไม่มีกระฉอกซักหยด
“จะรีบไปไหนวะ” จินอุนซึ่งนั่งอยู่ข้างมินโฮ(ที่ตอนนี้ก็กำลังกรึ่มได้ที่)เบรกไว้
“ช่ายยย กว่ากูจะมอมมันได้ขนาดนี้ แม่โขงกูหมดไปตั้งสองขวด” แจจินหันมาพูดกับเพื่อนแล้วหันไปดึงตัวจงฮยอนกลับขึ้นมานั่ง วางแขนพาดรอบคอไอ้รุ่นน้องตัวแสบ พร้อมถามคำถามที่คิดไว้ในใจออกมา
“มึงชอบคีย์ใช่ป่ะ”
เงียบกันไปทั้งกลุ่ม ก่อนที่เสียงเฮจะดังลั่นห้องเมื่อจงฮยอนพยักหน้าหงึกหงัก
“กูว่าแล้วมั้ยล่ะ สายตากูพลาดที่ไหน สงสัยตั้งแต่มันมองคีย์แล้วน้ำลายยืดแล้ว!” จินอุนลุกขึ้นนั่งบนเข่า ชี้ไม้ชี้มือไปยังไอ้ตัวแสบ
“มึงกล้ามากไอ้น้อง ไม่รู้ซะแล้วว่าเล่นอยู่กับใคร” อูฮยอนหัวเราะลั่นหลังพูดจบ พาเอาคนอื่นๆหัวเราะตามไปด้วย
“กูว่างานนี้สนุกแน่ พวกมึงพนันกับกูป่ะ” แจจินที่ผลักหัวจงฮยอนกลับไปนอนแผ่อยู่บนพื้นตามเดิมหันมามองหน้าเพื่อนในวง ข้ามมินโฮที่ยังนั่งหน้าอึน รวมทั้งแทมินและรุ่นน้องอีกสองคนที่ตาใกล้จะปิดร่อมร่อไป
“กูว่าไม่ เพราะกูดูจากสภาพเด็กนี่แล้ว กูว่ามันป๊อด” ดงอุนพูดหลังจากยกแก้วเหล้าขึ้นกระดก
“เออ กูก็คิดงั้น ดูไร้น้ำยาว่ะ”
“งั้นมาพนันกัน”
กลุ่มที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายยื่นแก้วเหล้าออกไปตรงหน้าหลังทำข้อตกลงร่วมกันเรียบร้อย...
“นี่พวกมึงจะนอนกันได้ยัง เสียงดังไปถึงห้องกู!”
ประตูห้องถูกกระแทกเปิดพร้อมการปรากฏตัวของคนที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนา คีย์ยืนเท้าเอว มองเพื่อนแต่ละคนที่มือยังถือแก้วเหล้าค้างเอาไว้ สายตาหยุดนิ่งเมื่อหันไปเห็นไอ้เด็กน้อยตัวปัญหาในความคิดนอนเลื้อยอยู่บนพื้นพร้อมกับกอดขวดเหล้าเปล่าเอาไว้แนบอก
“รีบกินแล้วก็รีบไปนอนซะ ถ้าตีสองแล้วกูยังไม่ได้นอนนะ พวกมึงจะไม่มีที่ให้ซุกหัวนอนอีกเลยทั้งคืนนี้และคืนพรุ่งนี้”
สั่งเสียงเขียวแล้วเดินกลับทางเดิม ไม่ลืมกระแทกปิดประตูห้องเสียงดังปัง!เป็นการแถมท้าย
“จะจีบคีย์... สภาพมึงแบบนี้จะไหวมั้ยวะจงฮยอน” จินอุนพูด ส่ายหน้าถอนหายใจไปมา
“สู้เค้าเว้ย” แจจินที่ยังคงยึดมั่นในตัวจงฮยอนตบหลังรุ่นน้องเบาๆ ถึงแม้ว่าคนที่กำลังพูดด้วยจะหลับสนิท หมดสติไปแล้วเรียบร้อย
.
“มองไรวะ” จินกิที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะหินหน้าชอปเอ่ยถามเพื่อน ชะเง้อหน้าเข้าไปในชอปภาคที่กำลังดูวุ่นวาย
“เปล๊าาา” คีย์ตอบปัด หันหน้ากลับมาพลางส่ายหน้าดิก
“น้องปีหนึ่งนี่หว่า ทำไมลงชอปกันไวจัง มันไม่ต้องรอลงชอปเครื่องกลตอนปิดเทอมก่อนเหรอวะ” จินกิที่ยังสงสัยไม่เลิกเดินไปเกาะหน้าต่าง ไล่สายตาไปยังรุ่นน้องหน้าคุ้นตา ก่อนจะป๊ะเข้ากับน้องรหัสตัวเองที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าเครื่องจักรตัวใหญ่
“แทมิน!”
“พี่จินกิ?!”
“ลงชอปเหรอ?”
“เปล่าครับ อาจารย์แค่พามาดูหน้าตาไอ้ตัวยักษ์พวกนี้เฉยๆ”
คีย์ละสายตาจากเพื่อนสนิทที่กำลังยืนคุยกับน้องรหัสอย่างสนิทสนมไปยังเครื่องจักรอีกตัวซึ่งตั้งอยู่ด้านในของห้อง เด็กน้อยหน้าละอ่อนที่เริ่มจะคุ้นหน้าเขาเข้าทุกวันยืนเตี้ยลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างเพื่อนตัวสูง
กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ...
คีย์ท่องประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในใจ ทิ้งหัวตัวเองลงบนโต๊ะหิน ทาบหน้ากับพื้นโต๊ะเย็นเฉียบ รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ!
.
“อ่าวคีย์ ไปไหนมาวะ กูหาให้ทั่ว”
คนที่เพิ่งก้าวขาลงบันไดขั้นสุดท้ายหันไปมองเพื่อนสนิทที่กำลังเดินตรงเข้ามาหา จินกิหอบชีทปึกหนาไว้ในอ้อมแขน ทำหน้าทำตาเหรอหรา
“ขึ้นไปบนดาดฟ้ามา” ตอบปัดๆแล้วรีบชวนเปลี่ยนเรื่อง “มึงมีไรอ่ะ”
“แจจินฝากกูมาบอกว่าพรุ่งนี้มีนัดประชุมเชียร์ อย่าลืมล่ะ”
“ก็ประชุมที่หอเหมือนเดิม ทำไมต้องฝากมึงมาบอก?”
“พรุ่งนี้เค้าเรียกประชุมกันทุกชั้นปี ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามตาย! แจจินมันว่างี้อ่ะ”
“ทุกชั้นปี? งี้ก็รวมปีหนึ่งด้วยดิ่?”
“อื้อ ทุกปี”
ใบหน้าของเด็กแสบที่เพิ่งแยกกันไม่ถึงยี่สิบนาทีปรากฏวูบขึ้นมาในหัว ดูเหมือนว่า...พรุ่งนี้จะมีอะไรดีๆรอเขาอยู่เยอะเลยทีเดียว
คีย์ยิ้มกับตัวเอง สองมือล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อชอป ก่อนจะเริ่มก้าวเท้าไปทางหน้าตึกพร้อมกับจินกิ
แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ น้องจงฮยอน...ของพี่
END.
TALK: อัลไลอ่ะะะะะ นี่มันฟิคอัลไลลลล กรี๊ดดดดดดดดด ไม่ใช่อ่ะ โพสิชั่นนี้มันไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ มันเป็นฟิคจงคีย์นะคะ! ย้ำนะว่ายังเป็นฟิคจงคีย์อยู่ ถึงแม้พี่คีย์ในเรื่องจะเกือบปลุกปล้ำน้องจงกลางดาดฟ้าท้าแดดก็ตาม TvT
เราไม่เคยแต่งฟิคแนวนี้นะคะ แต่งเองก็ยังรู้สึกว่ามันแปลกๆนะ ฮาาาา แต่เอาเถอะ เปลี่ยนแนวบ้าง เดี๋ยวจะไม่มีใครอ่านฟิคเราซะก่อน ฉลองวันแห่งฟามรักด้วยล่ะ! เปลี่ยนธีมให้เป็นสีแดงด้วยล่ะ! อินเลิฟกันสุดๆอ่ะ! แต่เหมือนจะมีปัยหาเรื่องการจัดหน้านิดหน่อย เราพยายามแก้แล้วค่ะ สี่รอบล่ะ ไม่ไหวล่ะ ไปล่ะ T__T
เจอกันอีกทีเมื่อไหร่ดี? วันเกิดจงฮยอนเลยนะคะ ฮาาาาาาาาาาาาาาา
เกือบลืม!! >>>>>>>>>.. คลิ๊กสิ!!
ความคิดเห็น