คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Vol.4
กิจกรรมการรับน้องในช่วงบ่ายใกล้จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งและแน่นอนว่าหนุ่มมาดกวนอย่าง คิม ฮันบิน มาถึงก่อนใครเนื่องจากโดนรุ่นพี่ร่วมสถาบันเก่าอย่าง คิม จินฮวาน หมายหัวเอาไว้ตั้งแต่เห็นหน้าเค้าครั้งแรก และการที่เค้าชอบไปกวนประสาทรุ่นพี่ร่างเล็กก็มีเหตุผลง่ายๆ นั้นเพราะรีแอ็คชั่นของคนร่างเล็กนะสิที่ทำให้เค้าชอบกวน ชอบแหย่ รุ่นพี่คนนี้มาตั้งแต่โรงเรียนเก่าแล้ว คนอะไรสะกิดนิดสะกิดหน่อยก็โวยวายซะใหญ่โต จนบางทีถึงขั้นลงไม้ลงมือเลยก็มี เพื่อนก็ชอบถามเหมือนกันว่าทำไมต้องแกล้งแต่พี่จินฮวาน ไม่ไปกวนคนอื่นบ้าง ไม่ใช่ว่าไม่แกล้งคนอื่นนะแต่มันไม่สนุกเหมือนตอนแกล้งพี่จินฮวาน และหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นทำให้เค้าเลือกเข้ามาเรียนที่นี่เพื่อพิสูจน์อะไรบ้างอย่างที่คาใจมาตลอด และหวังว่าเค้าจะได้คำตอบสักที
“มึงสายไป 3 นาที เพราะฉะนั้นมึงต้องวิดพื้น 30 ครั้งกูคิดนาทีล่ะ 10 ครั้ง เอาเริ่มได้ จะมัวยืนหาพระแสงอะไร ทำดิ...” จินฮวาน ที่ยืนมองนาฬิกาข้อมืออยู่เอ่ยเสียงกร้าว เค้ากลับมาจากการพักกินข้าวก่อนเพื่อนๆรวมแก็งเพราะต้องการดูว่าไอรุ่นน้องตัวดีมันจะทำตามที่เค้าสั่งไว้หรือเปล่า
“โห้ยยย...ใจร้ายว่ะ สายแค่ 3 นาทียังนับอีก คนอะไรใจดำชะมัด” ฮันบินบ่นเสียงดังอย่างจงใจให้คนตรงหน้าได้ยิน
“มึงเงียบไปเลยนะ..สำหรับคนอย่างมึงแค่นี่ยังน้อยไป ไอเด็กเวร..”
“เอาเถอะๆ ยอมทำก็ได้ แต่พี่ต้องตอบคำถามก่อน โอเคมั้ย”
“มึงมีสิทธิต่อรองตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเรื่องอะไรกูต้องตอบมึงด้วย”
“ก็ถ้าพี่ไม่ตอบ ผมจะแฉเรื่องน่าเกียจๆที่พี่ทำตอน ม.ปลายให้ทุกคนฟังให้หมด” ฮันบินยกยิ้มอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า จินฮวานจ้องตารุ่นน้องตรงหน้าอย่างไม่ลดละ เค้าค่อยๆเดินเข้าไปหา
ฮันบินก่อนจะเอ่ยบ้างอย่างออกมา
“มึงห้ามเอ่ยถึงเรื่องตอน ม.ปลายเด็ดขาดเข้าใจมั้ย..ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่”
“ก็ไม่รู้สินะ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าพี่จะเอายังไง จะยอมตอบคำถามดีๆ หรือจะให้ผมพูดเลือกเอาก็
แล้วกัน” ฮันบินยักไหล่กวนๆตามสไตล์ของเค้า
“เออๆๆ จะถามอะไรก็ถามมา แต่กูบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่ากูจะยอมมึงครั้งนี้ครั้งเดียว ไม่มีครั้งที่
สองแน่..”
“ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว เอาล่ะ..จะถามแล้วนะ”
“ก็ถามดิว่ะลีลาอยู่นั้นอ่ะ”
“ทำไมพี่ถึงลาออกกลางคันล่ะ ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ฮันบินถามด้วยสีหน้าจริงจังกว่าที่เคย
“มึงจะอยากรู้ไปทำไม”
“ไหนบอกจะตอบดีๆไง เร็วดิผมอยากรู้ ..”
“นี่มึงอยากรู้จริงๆใช่มั้ย ว่ากูออกจากโรงเรียนทำไม ” ฮันบินพยักหน้ารับทันที จินฮวานมองดู
ฮันบินที่ตอนนี้ทำหน้าตาอยากรู้อยากเห็นแบบสุดๆ แล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ และนั้นก็เป็นยิ้มเล็กๆครั้งแรก ที่ทำให้ฮันบินอึ้งไปเล็กน้อยกับการกระทำของชายร่างเล็กตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าจินฮวาน
จะรู้ตัวว่าโดนจ้องอยู่จึงหุบยิ้มทันที เห็นดังนั้นฮันบินจึงหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ขำอะไรของมึง..”
“ก็ขำพี่นั้นแหละ ทำเป็นเก๊กอยู่ได้ จะยิ้มก็ยิ้มเถอะไม่มีใครเค้าว่าหรอกน่า”
“ยิ้มอะไร ใครยิ้ม มึงอย่ามามัวนะ”
“โอเคๆๆ ไม่ได้ยิ้มก็ไม่ได้ยิ้ม แล้วตกลงพี่จะบอกได้รึยังว่าออกจากโรงเรียนทำไม”
“กูแค่ต้องย้ายตามที่บ้านไปอยู่ที่อื่น เลยต้องออกกลางคัน”
“จริงอ่ะ ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่นแน่นะ”
“เรื่องอื่น เรื่องอะไรของมึง มีเรื่องอื่นอีกเหรอว่ะ”
“เฮ้ออ..ค่อยโล่งอกหน่อย ว่าแต่ที่ผมถามพี่ตอนนั้นจะให้คำตอบผมได้รึยัง” ฮันบินเปลี่ยนโหมดอย่างรวดเร็ว จนอีกฝ่ายตั้งรับแทบไม่ทัน
“ถาม..??? ถามอะไรของมึง” จินฮวานขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย
“กำ นี่พี่ลืมหมดแล้วเหรอ ก็ตอนนั้นอ่ะ ที่ผมถามพี่ที่โรงยิมไง จำได้ยัง..”
“โรงยิม..ตอนนั้น..ตอนไหนว่ะนึกไม่ออกเว้ยย มึงถามว่าไร เรื่องสำคัญเหรอ...???”
“ใช่..สำคัญมาก”
“สำคัญมากด้วย เรื่องไรว่ะ”
“ถ้าพี่จำไม่ได้จริงๆ งั้นผมจะถามพี่อีกครั้ง และครั้งนี่พี่ต้องตอบผมทันที ห้ามขอเวลาคิดอีก
ตกลงมั้ย”
“เออๆๆ..ถามมาดิกูอยากรู้เหมือนกันว่า มันจะสำคัญอะไรกันนักกันหน่า”
“พี่ตั้งใจฟังดีๆนะ อย่าพึ่งโวยวายฟังให้จบก่อน คือ ตอนนั้นผมถามพี่ว่า เออ..คือ”
“ว่าอะไรว่ะ อ้ำๆอึ้งๆอยู่นั้นแหละ เร็วๆดิ”
“วันนั้นผมถามว่า ผมขอลองจีบพี่ดูได้มั้ย...” เงียบ..ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับใดๆ เพราะตอนนี้จินฮวานไม่สามารถบอกได้เลยว่ารู้สึกยังไง มันมึนๆงงๆ เค้าได้แต่ยืนอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน และแน่นอนเค้าเริ่มที่จะนึกออกแล้วว่าเหตุการณ์ที่ไอเด็กนี่พูดถึงมันเกิดอะไรขึ้น เรื่องมันมีอยู่ว่า ไอเด็กห่านี่มันโรคจิตชอบกวนตีนเค้าทุกครั้งที่เจอกัน ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ขนาดในห้องน้ำมันยังไม่เว้น อยู่มาวันนึงมันก็เดินมาบอกว่ามีเรื่องสำคัญอยากคุยด้วย หน้าตามันดูจริงจังมาก เค้าเลยยอมเดินตามมันไปที่โรงยิม แล้วมันก็เริ่มเปิดประเด็นทันที มันบอกว่ารู้สึกแปลกๆเวลาอยู่ด้วยกัน อะไรทำนองเนี่ยแหละ พอมันพล่ามจบ มันก็ถามคำถามเดียวกับที่มันถามเมื่อกี้นี้ ในตอนนั้นบอกเลยว่าก็ไม่ได้รังเกียจอะไรมันหรอกนะแต่กูตกใจ กูตั้งตัวไม่ทัน ทำตัวไม่ถูก ก็เลยบอกมันไปว่าขอคิดดูก่อน พอหลังจากนั้นเค้าก็ต้องย้ายโรงเรียนกะทันหันเลยไม่ได้ให้คำตอบมัน แถมเค้ายังทำโทรศัพท์หายตอนย้ายบ้านอีก เลยขาดการติดต่อกันไป จนมาเจอมันที่นี่นั้นแหละ
“ตอบมาเร็วๆดิ นี่ผมให้เวลาพี่คิดมาหลายปีแล้วนะ” ฮันบินเริ่มเอ่ยคาดคัน คนร่างเล็กที่ยื่นนิ่ง
อยู่ตรงหน้า
“ไม่...” จินฮวานเอ่ยเสียงดังฟังชัด และก็หนักแน่นมากพอที่จะทำให้ฮันบินยืนนิ่งไปเช่นเดียวกัน
“ทำไม” ฮันบินยังคงไม่ยอมง่ายๆมีอย่างที่ไหน เค้ารอคำตอบมาเป็นปีๆ ตอบมาแค่ไม่คำเดียวขอรู้เหตุผลหน่อยเถอะ
“ไม่ ก็คือ ไม่ จะซักไซ้รอะไรนักหน่า นี่กูไม่เอาเลือดหัวมึงออกก็ดีแค่ไหนแล้ว” จินฮวานมองหน้า
รุ่นน้องด้วยใบหน้าแข็งกร้าว แต่ก่อนที่ฮันบินจะได้พูดอะไรออกไป บรรดารุ่นพี่ และเพื่อนๆก็เดินกลับมาจากการพักกลางวันเสียก่อน ทำให้เค้าต้องยุติการสนทนาเอาไว้เพียงเท่านี้ แต่มีเหรอคนอย่าง คิม ฮันบินจะยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านพ้นไปง่ายๆ
“ผมต้องรู้ให้ได้ว่าพี่มีเหตุผลอะไร และพี่ก็ต้องเป็นคนพูดมันออกมาด้วยตัวเอง ไม่เชื่อค่อยดู”
พูดจบเค้าก็เดินเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆทันที
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรว่ะ โอ้ยย..เวียนหัวโว้ยยย..” จินฮวานขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมด นั้นทำให้เพื่อนรวมแก็งที่พึ่งเดินมาถึง งงไปตามๆกัน
“มึงเป็นห่าอะไรไอเตี้ย โวยวายอะไรของมึง” ซึงฮุนเดินเข้าไปถามรุ่นน้องที่ยืนสติแตกอยู่คนเดียว จินฮวานหันกลับไปมองรุ่นพี่คนสนิทที่พึ่งเดินมาถึงก่อนจะค่อยๆสงบสติอารมณ์ลง
“มากันแล้วเหรอ..แล้วนี่ไอซึงยูนหายไปไหนล่ะ” จินฮวานถามขึ้นเพราะไม่เห็นเพื่อนตาตี๋อยู่ที่นี่ด้วย
“มันตามพี่จินวูไปที่ลานหน้าตึกแล้ว กูล่ะหมั่นไส้ แม่งออกตัวแรงเหลือเกิน”
“นี่มันเอาจริงเหรอว่ะพี่ เรื่องพี่จินวู ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างไอตี๋จะหลงเสน่ห์หน้าหวานๆของพี่จินวู
เข้าซะได้ ” จินฮวานเอ่ยขึ้น
“ของอย่างงี้ มันไม่เข้าใครออกใคร มึงดูอย่างไอดำดิ อยู่ดีๆก็ชอบผู้ชายเฉยเลย ตัวมึงเองก็เหอะไอจินฮวาน ระวังนะเว้ย บางทีเรื่องพวกนี้อาจเกิดขึ้นกับมึงบ้างก็ได้ใครจะไปรู้ ” ซึงฮุนหันไปพูดกับรุ่นน้องข้างตัวขำๆ ก่อนจะเดินไปสมทบกับมิโนที่ยืนคุมการรับน้องอยู่ ส่วนจินฮวานก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ก็สิ่งที่รุ่นพี่พูดเมื่อกี้มันกำลังเกิดขึ้นกับเค้าตอนนี้น่ะสิ
“เชี้ยเอ้ยย...ทำไมเรื่องมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ว่ะเนี่ย..” จินฮวานอุทานออกมาก่อนจะเดินตามซึงฮุนไปเพื่อเริ่มกิจกรรมการรับน้องในช่วงบ่าย และเมื่อเค้าเดินไปถึงสิ่งแรกที่เห็นคือสายตาของฮันบินที่จ้องมาที่เค้าไม่วางตา ส่วนจินฮวานก็จ้องตอบกลับไปอย่างไม่มีใครยอมใคร ฮับบินยักคิ้วส่งมาให้แทนคำยั่ว ก่อนที่จินฮวานจะส่งนิ้วกลางสวนกลับไปอย่างทันควัน ฮันบินทำท่ารับมันเอาไว้แล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกง พร้อมกับหันไปส่งจูบให้จินฮวานอย่างจนใจแกล้งคนร่างเล็กที่ตอนนี้ยืนกำหมัดแน่น ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ฮับบินยกยิ้มอย่างผู้มีชัยที่สามารถกวนประสาทรุ่นพี่ร่างเล็กได้สำเร็จ ส่วนจินฮวานก็เป่าลมออกจากปากเพื่อระบายความโกรธที่เริ่มพุ่งสูงขึ้น แต่ดูเหมือนความอดทนของเค้าจะต่ำกว่ามาตรฐาน เค้าเดินเข้าไปหาฮันบินทันที ก่อนจะกระชากคอเสื้อรุ่นน้องตัวดีแล้วลากออกไปจากแถว รุ่นน้องที่เหลือต่างก็งงกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงรุ่นพี่คนอื่นๆด้วย
“ใจเย็นๆไอจินฮวาน เกิดอะไรขึ้นอีกว่ะเนี่ย” มิโนรีบวิ่งเข้าไปห้ามทันที
“ไม่มีอะไรหรอกพี่ ไม่ต้องตกใจพวกพี่เริ่มกันไปก่อนเลยนะไม่ต้องรอ” จินฮวานพูดจบก็ลากฮันบินให้เดินตามตนไป โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“อ้าว..เห้ยย แล้วนั้นมึงจะพาน้องไปไหนว่ะ ไอจินฮวาน..” มิโนตระโกนไล่หลังรุ่นน้องไป แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเพราะจินฮวานเดินหายไปเสียแล้ว
“นี่มันวันโลกาวินาศรึไงว่ะ วุ่นวายชิบหาย...” ซึงฮุนบ่นออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
ตอนนี้จินฮวานลากรุ่นน้องมาดกวนอย่างฮันบินมาถึงสวนด้านหลังคณะเรียบร้อยแล้ว
แต่ระหว่างทางที่เดินมาเค้ากลับไม่รู้ตัวเลยว่า ฮันบินเดินอมยิ้มมาตลอดทาง นั้นเพราะท่าทางที่แสดงออกกับใบหน้าที่ดูจิ้มลิ้มนั้นมันช่างขัดกันแบบสุดๆแถมยังโดนคนร่างเล็กจับมือมาตลอดทาง แล้วแบบนี้จะไม่ให้ยิ้มได้ยังไงกัน
“กูขอพูดให้เคลียเลยนะ ว่ากูไม่ชอบผู้ชาย แล้วกูก็ไม่ชอบขี้หน้ามึงด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องที่มึงถามกูเมื่อกี้ กูจะถือว่ากูไม่ได้ยินและกัน จบนะ..”
“ไม่จบอ่ะ..ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด อีกอย่างพี่จะปล่อยมือผมได้ยัง” ฮันบินเอ่ยยิ้มๆก็จินฮวานยังไม่ยอมปล่อยมือเค้าเลยนะสิ จินฮวานได้ยินดังนั้นก็รีบปล่อยมือทันที แต่ฮันบินกับบีบมันไว้แน่นกว่าเดิม จินฮวานมองหน้าฮันบินก่อนจะใช้มืออีกข้างพยายามแกะมือออกจากการจับกุมของอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนมือปลาหมึกของฮันบินจะชนะเพราะตอนนี้มือทั้งสองข้างของเค้าถูกรุ่นน้องตรงหน้ากุมเอาไว้เสียแล้ว
“ปล่อยนะเว้ยย...มึงมาจับมือกูทำไมว่ะ กูบอกให้ปล่อยไง” จินฮวานบิดมือไปมาเพื่อหวังว่าจะหลุดจากการจับกุมของอีกฝ่าย
“เรื่องอะไร...ปล่อยก็โดนต่อยดิ”
“มึงรู้ก็ดีและ..อย่าให้กูหลุดไปได้นะ มึงโดนหนักแน่” จินฮวานเอ่ยคาดโทษ
“งั้นไหนๆก็ต้องโดนต่อยอยู่ดี ก็ขอโดนแบบสมศักดิ์ศรีหน่อยและกัน” ไม่ว่าเปล่าเค้าก้มลงไปหอมแก้มคนร่างเล็กตรงหน้าฟอดใหญ่ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่เค้าเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะพูดมันออกไป
“น่ารักจังนะ คิม จินฮวาน..” ฮับบินยิ้มกว้างกว่าครั้งไหนๆ เพราะภาพที่เห็นตอนนี้คือ ชายร่างเล็กที่น่าขึ้นสีจางๆอย่างห้ามไม่ได้ ยืนอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น และนั้นยิ่งตอกย้ำให้เค้ามั่นใจมากขึ้นว่าเค้าชอบรุ่นพี่คนนี้จริงๆ
“ก่อนที่พี่จะด่า พี่ตั้งใจฟังให้ดีๆนะ ผมจะเปลี่ยนใจพี่ให้ได้ ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม” ฮันบินเอ่ยเสียงเข้ม จินฮวานกัดริมฝีปากแน่น ก่อนที่จะเอ่ยบางอย่างออกไป
“มึงก็ฟังกูให้ดีๆนะ กูไม่มีวันชอบคนอย่างมึง ไม่ว่ามึงจะใช้วิธีไหนก็ตาม”
“พี่มั่นใจได้ไง ว่าจะไม่เปลี่ยนใจ..”
“งั้นเรามาพนันกันมั้ย ถ้ามึงทำให้กูเปลี่ยนใจไม่ได้ภายในหนึ่งเดือน มึงต้องทำเรื่องขอย้ายคณะ”
“และถ้าผมทำได้ล่ะ ผมจะได้อะไร..”
“ถ้ามึงทำได้กูจะยอมทำตามที่มึงขอทุกอย่างหนึ่งวัน แบบไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น มึงจะว่ายังไง...” จินฮวานยื่นข้อเสนอที่ทำให้ฮันบินเริ่มสนใจอยู่ไม่น้อย
“งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าพี่ชนะผมจะลาออกจากที่นี้ และไม่มาให้พี่เห็นหน้าอีก แต่ถ้าผมชนะพี่ต้องยอมคบกับผม และยอมทำตามที่ผมบอกทุกอย่างไม่ว่าเมื่อไหร่ หรือที่ไหนก็ตาม..”
“ก็น่าสนใจดีนี่...งั้นกูตกลงตามนั้นภายในเวลาหนึ่งเดือน มาดูกันว่ามึงกับกู ใครมันจะแน่กว่ากัน”
“ได้...แล้วเราจะได้รู้กันว่าพี่จะเก่งแต่ปากรึเปล่า”
“มึงเตรียมตัวลาออกได้เลยไอเด็กเวร...”
“กลัวแต่ใครบ้างคนจะเปลี่ยนใจซะก่อนนะสิ..”
“กูไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่..”
“แต่ผมจะต้องเปลี่ยนใจพี่ให้ได้ ไม่เชื่อค่อยดูไปก็แล้วกัน...” ทั้งสองคนประสานตากันอย่างดุเดือดโดยไม่มีใครยอมใคร เพราะต่างฝ่ายต่างมั่นใจมากว่าจะต้องเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน
TBC : ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำว่า ขอโทษก้าบบบ..ที่หายไปนานขนาดนี้ เนื่องจากไรเตอร์ต้อง
ย้ายไปทำงานต่างจังหวัด เพราะที่ทำงานถูกปิดเข้าไปทำงานมิได้ แต่ตอนนี้เค้ากลับมาแล้น
และจะพยายามอัพตอนต่อๆไปให้บ่อยขึ้นนะจ๊ะ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณรีดเดอร์ทุกๆท่านที่
ยังไม่ทิ้งกันไปไหน Luv U All จ๊วฟ จ๊วฟ... ถ้ามีข้อผิดพลาดก็คอมเม้นบอกกันได้เลยนะ
ดีไม่ดียังไงก็ติชมได้จร้า... <3 <3 <3
ความคิดเห็น