ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขย่มเตียงรัก...หักคอดาร์ลิ่ง

    ลำดับตอนที่ #8 : ประกบปาก

    • อัปเดตล่าสุด 19 ม.ค. 51


                    ผมหรี่ตาจับพิรุธน้องหวานแต่ก็ไม่พบอะไรผิดสังเกต  ไม่แน่ใจว่าเธอเคยประกบปากกับใครมาก่อนหรือเปล่า  เพราะถ้านี่เป็นจูบแรกเธอคงรู้สึกเสียดายจนไม่อยากจะเสียมันไปให้กับใครแม้แต่สามีทางนิตินัยอย่างผม  แต่มองดูแล้วเธอก็มิได้รู้สึกอะไรนัก  ในเมื่อเธอยื่นมันมาเป็นข้อเสนอ  แสดงว่าเธอเองก็คงเคย...น่าจะเคยกับแฟนเก่า  เพราะเท่าที่จำได้เธอบอกว่าเธอแต่งงานกับผมเพราะประชดอดีตคนรัก  เฮ้ย!  นอกจากจูบแล้วมันทำอะไรน้องหวานของผมอีกหรือเปล่าเนี่ย

     

                    จูบปากนะ  ต้องพูดกันไว้ก่อนครับ  เพราะผู้หญิงอย่างคุณเมียผมนี่เจ้าเล่ห์เหลือร้าย  ขืนเธอกลับคำให้จูบแค่แก้ม  ผมก็เสียเปรียบแย่

     

                    ได้ 

     

                    แบบเฟรนช์คิสนะ

     

                    อื้อ  จะไปกันได้หรือยัง

     

                    ระหว่างทางที่ผมขับรถไปห้างสรรพสินค้าที่ใกล้บ้านที่สุด  น้องหวานก็ถามปัญหาชวนโลกแตกอีกแล้ว

     

                    พี่วี  เวลาจูบกัน  เขาทำยังไงเหรอ 

     

                    ก็จูบน่ะหวาน  จูบก็คือจูบ  ผมพยายามแล้วนะครับ  แต่มันอธิบายได้แค่นี้จริงๆ

     

                    หวานต้องทำยังไงบ้าง 

     

    อยู่เฉยๆแล้วจะดีเอง  ผมพูดตัดบทก่อนที่น้องหวานจะถามอะไรที่มันล่อแหลมต่อจิตใจของผมและของคุณผู้อ่านไปมากกว่านี้  ก็อย่างว่าแหละครับได้เมียแต่ยังไม่เคยได้เสีย  น้องหวานเธอเลยยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ 

     

    เอ๊ะ!  แต่ถ้าถามอย่างนี้  ก็แสดงว่าเธอยังไม่เคย  ไอ้แฟนเก่ามันปล่อยน้องหวานให้ลอยนวลมาขนาดนี้ได้ยังไงกัน  เป็นผมนะ...เรียบร้อยโรงเรียนพี่วีไปแล้ว

     

    พี่วี  ผู้ชายนี่คิดแต่เรื่องอย่างว่าตลอดเลยเหรอ  ถูกต้องนะคร๊าบ! 

     

    ไม่ใช่หรอกจ้ะ  ต้องตอบแบบสุภาพบุรุษหน่อยครับ  เรียกคะแนนนิยมจากน้องหวานสักนิด  เผื่อเธอจะยอมมากกว่าแค่ให้จูบ

     

    ถ้าไม่ใช่  งั้นทำไมพี่วีถึงอยากมีอะไรกับหวานจัง  ผมอึ้ง  ไม่รู้จะตอบเธออย่างไรดีเพราะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

     

    คือพี่...

     

    หรือหวานมีดีแค่เป็นผู้หญิง  ทำเรื่องอย่างว่ากับพี่วีได้  แค่นั้นเองเหรอ 

     

    บรรยากาศเริ่มตึงเครียดครับ  ผมเองก็ไม่รู้จะแก้สถานการณ์อย่างไรดี  เห็นทีงานนี้คงต้องจอดรถข้างทางคุยกันให้เข้าใจเสียหน่อย 

     

    พี่วีจอดรถทำไม 

     

    พี่อยากคุยกับหวานให้เข้าใจ  เรื่อง...มีอะไรกัน

     

    น้องหวานเสไปมองกระจกด้านข้างไม่ยอมมองหน้าผมตรงๆ  ผมปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองและของน้องหวานก่อนจะจับบ่าเธอทั้งสองข้างให้หันมาหาผม

     

    พี่อาจจะเป็นผู้ชายเลวๆในสายตาเราที่คิดแต่เรื่องบนเตียงตลอดเวลา  แต่ก็เป็นเพราะว่าที่ผ่านมาพี่เจอแต่ผู้หญิงที่ต้องการแค่นั้น  ไม่มีการผูกพัน  ไม่มีการแต่งงาน  แต่พวกเขาไม่เหมือนกับหวาน  หวานเป็นเมีย  หวานจดทะเบียนกับพี่  แต่จะให้พี่เลิกสันดานเดิม  รอจนกว่าเราจะรักกันแล้วค่อยทำเรื่องอย่างนั้น  มันก็ทรมานเกินไป  พี่อาจจะแหย่หวานวันละนิดวันละหน่อย  แต่พี่ก็ยังยืนยันสัญญาเดิมว่าถ้าหวานไม่ยอม  พี่ก็จะรอจนกว่าเราจะรักกัน  แต่ถ้าหวานยอม  พี่ก็พร้อมเสมอนะจ๊ะ 

     

    คุณเมียทำท่าเหมือนน้ำตาจะคลอเบ้าตอนที่ผมร่ายยาวความรู้สึกของตัวเอง  แค่เหมือนนะครับ  เพราะคำพูดของผมคงไม่ซาบซึ้งใจขนาดนั้น  โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายเนี่ยทำเอาผมโดนน้องหวานหยิกที่ต้นแขนแบบปราศจากซึ่งความสงสารแม้เพียงนิด

     

    พี่วียังมีผู้หญิงคนอื่นอีกมั้ยนอกจากเปรี้ยว

     

    ไม่มีแล้ว  พี่คบทีละคน

     

    พี่วีไม่เคยรักใครเลยเหรอ

     

    ไม่เคยหรอก  ผมมองน้องหวานยิ้มๆ  ก่อนหยอดประโยคเด็ด

     

    อยากเป็นคนแรกที่พี่รักมั้ยล่ะ 

     

    บ้า!”  คุณเมียด่าผมแบบน่ารักๆอีกแล้ว

     

    ไม่นานนักเราก็เดินทางไปถึงศูนย์การค้าใจกลางเมือง  น้องหวานดูตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่างตรงหน้าเสียเหลือเกิน  เธอเดินดูนู่นดูนี่ตามประสาผู้หญิง  ดีหน่อยที่ชอบใจอะไรเธอก็ตัดสินใจซื้อเลยไม่ต้องรอให้เดินจนทั่วทุกร้านอย่างที่ผู้หญิงหลายคนของผมเขาทำกัน  แต่มันก็ยังน่าเบื่อมากอยู่ดีสำหรับผม

     

    หนึ่งชั่วโมงผ่านไปถุงกระดาษนับสิบถุงก็อยู่ในมือผมอย่างพะรุงพะรัง  นี่ถ้าได้น้ำเปล่าอีกสักขวด  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกสักซอง  เธอเดินทางไปต่างจังหวัดได้เลยนะครับนี่  ค้างอีกสองคืนก็ยังไหว  เล่นซื้อเสื้อผ้าซะอย่างกะจะเปลี่ยนยกตู้  ไอ้ที่มีอยู่น่ะผมก็ว่าไม่น้อยแล้วนะ  ปกติผู้หญิงเขาเป็นอย่างนี้กันทุกคนหรือครับ

     

    หวาน  พอหรือยัง  พี่เมื่อยแล้วนะ 

     

    อีกนิดนึง  ใกล้ครบแล้ว 

     

    จะซื้ออะไรอีก 

     

    หวานอยากซื้อเสื้อให้น้องเอิญ

     

    ผมทำหน้าเมื่อยทันที  ที่ซื้อๆไปนี่ผมก็ไม่มีมือจะถือแล้วนะครับคุณเมีย  ขืนซื้อเยอะกว่านี้  คงต้องเอาถุงแขวนคอแล้วล่ะครับ 

     

    พี่ไม่ไหวแล้วหวาน  เมื่อยก็เมื่อย  หนักก็หนัก

     

    หวานช่วยถือ  น้องหวานแบ่งถุงไปถือครึ่งหนึ่ง  ไม่หนักแล้วครับ  แต่ก็เมื่อยอยู่ดี 

     

    คุณเมียเดินจ้ำอ้าวไปนู่นไม่สนใจผมที่ได้แต่ยืนถอนหายใจ  นี่ถ้าไม่ได้จุมพิตแบบเฟรนช์คิสนะ  ผมไม่มีวันยอมตกเป็นเบี้ยล่างของเธอแน่

     

    เดินเร็วๆหน่อยสิพี่วี 

     

    น้องหวานตีหน้ายักษ์ใส่เมื่อผมทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจเธอสักอย่าง  ก็คนมันเหนื่อยนี่ครับ  เหนื่อยยิ่งกว่าตอนเล่นบนเตียงกับแม่พวกสาวๆตั้งแต่เที่ยงคืนยันเช้าอีกนะผมว่า

     

    แต่ผมก็เพิ่งรู้ว่าความเหนื่อยมันมีประโยชน์!

     

    น้องหวานเดินมาหาผม  มือน้อยๆนั่นเอื้อมมาฉวยมือผมก่อนที่เธอจะถูลู่ถูกังผมไปตามทางที่ใจเธอต้องการ  สารภาพว่ามีกำลังใจขึ้นมานิดนึงครับหลังจากที่ได้สัมผัสกับมือนิ่มๆของน้องหวาน  ถ้ามือยังนิ่มขนาดนี้แล้วอย่างอื่นมันจะนิ่มขนาดไหนนะ...หึหึ

     

    ตลอดทางเราก็ยังจับมือกันอยู่อย่างนั้น  หลายครั้งที่เธอดึงมือออกเพื่อหยิบจับสินค้ามาดูใกล้ๆ  แต่พอมือเธอว่าง  ผมก็จับมือเธอต่อครับ  เรื่องอะไรจะพลาดโอกาส  ในเมื่อน้องหวานเองเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร  อย่างนี้ก็เสร็จผมน่ะสิ

     

    จนบ่ายคล้อยนั่นล่ะครับเราถึงจะได้กลับบ้านกัน  หมดเงินไปหลายพันอยู่ครับ  และด้วยความเป็นสุภาพบุรุษมาดแมนแฮนซั่มอย่างผมก็ต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่แล้ว  รูดการ์ดกันจนเหงื่อตก  นี่ถ้ารางวัลมันไม่ล่อใจขนาดนี้  ผมคงเผ่นแน่บไปตั้งนานแล้ว

     

    เดี๋ยวพี่วี  แวะร้านขายยาก่อน 

     

    ผมจอดรถตามความต้องการของเธอ  หวังว่าคงจะไม่ชวนผมไปช็อปปิ้งในร้านขายยาอีกหรอกนะ

     

    จะซื้ออะไรน่ะหวาน

     

    ซื้อยาทาหน้าให้พี่วีไง  เนี่ยรอยแดงๆที่โดนตบยังอยู่เลย  หวานดูที่บ้านแล้วไม่เห็นมียาทาแก้ฟกช้ำ

     

    แล้วน้องหวานเธอก็เดินลงจากรถไป  ทิ้งให้ผมนั่งนิ่งอึ้งกิมกี่อยู่ตรงนั้น  เกิดมานอกจากแม่และป้าตะเพียนแล้ว  ยังไม่เคยมีใครใส่ใจผมถึงขนาดนี้ 

     

    อย่าน่ารักนักสิจ๊ะน้องหวาน  เดี๋ยวพี่ก็รักซะหรอก!

     

    พอมาถึงบ้านก็ได้รับข่าวที่ไม่ค่อยจะดีนัก  คุณแม่บอกว่าน้องเอิญโยเยตลอดทั้งวัน  ทำอย่างไรก็ไม่หยุดร้องไห้ซักที  จนเมื่อครู่เพิ่งให้กินนมแล้วก็หลับไป  แถมยังถ่ายท้องเยอะกว่าปกติจนน่าเป็นห่วง 

     

    พาไปหาหมอดีกว่าค่ะคุณแม่  น้องหวานออกความเห็น

     

    เอาไว้ตื่นก่อนแล้วกัน

     

    เมื่อตกลงกันได้ผมกับน้องหวานจึงพากันขึ้นไปเก็บของข้างบน  พอถึงห้องน้องหวานก็หยิบเสื้อผ้าชุดนั้นชุดนี้มาลองอย่างสนุก ผมเองก็นอนบนเตียงดูเธอหมุนตัวไปมาหน้ากระจกเพลินๆ  สักพักก็นึกขึ้นมาได้  ผมยังไม่ได้รางวัลเลยนี่

     

    หวาน  รางวัลพี่ล่ะ  แก้มสีกุหลาบนั้นระเรื่อขึ้นอย่างน่ามอง

     

    เดี๋ยวก่อน  หวานยังลองเสื้อไม่ครบเลย

     

    ก็ให้รางวัลพี่ก่อน  แล้วค่อยไปลองก็ได้

     

    แต่...

     

    ไม่มีแต่  มานั่งนี่ 

     

    ผมตบฟูกที่นอนข้างตัวเบาๆเป็นเชิงบอกให้เธอมานั่งข้างๆ  น้องหวานนิ่งคิดชั่วครู่ก่อนจะเดินมานั่งแหมะตรงตำแหน่งที่ผมต้องการ

     

    ผมเชยคางเธอเบาๆก่อนจะดึงให้ใบหน้าสวยๆนั้นใกล้เข้ามายิ่งขึ้น...ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ  จนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน  น้องหวานดูท่าจะตื่นเต้นเพราะตัวเธอเริ่มสั่นน้อยๆอย่างคนไม่เคย  ไม่เป็นไรนะจ๊ะ  เดี๋ยวพี่วีจะสอนให้แบบไม่หวงวิชาเลย

     

    ริมฝีปากบางของน้องหวานอยู่ใกล้เพียงไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร  ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ  แต่กระนั้นความตื่นเต้นและความปรารถนาที่ท่วมท้นก็เป็นตัวผลักดันให้ผมได้ลิ้มรสความหวานที่เฝ้าฝันหามานาน  มันดื่มด่ำยิ่งกว่าครั้งใดๆ  จนผมไม่อยากถอนริมฝีปากจากความหวานนั้นเลยแม้เพียงเศษเสี้ยวของวินาที

     

    หวาน  รู้ตัวมั้ยว่าตัวเองน่ะหวานสมชื่อ  ผมพร่ำบอกเสียงแหบพร่าอย่างคนไร้สติ

     

    ความหลงใหลทำให้ผมกลับไปครอบครองเรียวปากตรงหน้าอีกครั้ง  มือไม้เริ่มไม่อยู่กับที่  มันปัดป่ายไปทั่วอย่างอยากจะสัมผัสทุกสัดส่วน 

     

    แต่สติที่กระเจิดกระเจิงกระจัดกระจายของเราทั้งสองก็กลับมาที่เดิมเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู

     

    ใครมาขัดจังหวะอีกวะเนี่ย!
    ==============================
    คอมเม้นท์มีพลีส!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×