คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ไม่มีอารมณ์
“แกออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ กล้าดียังไงถึงได้เสนอหน้ามาหาแฟนฉันถึงนี่”
น้องหวานมองหน้าผม ผมมองหน้าน้องหวาน เรามองหน้ากันไปมาอยู่พักใหญ่ ไม่มีใครพูดอะไร มีแต่เสียงสบถด่าคำหยาบคายจากปลายสายที่ส่งมาเป็นระยะ ผมหายใจไม่ทั่วท้องเลยล่ะครับ เกิดมาก็เพิ่งจะเคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์รถไฟชนกันอย่างนี้เป็นครั้งแรก คุณเมียบังเกิดเกล้าก็คงไม่ต่างกัน รายนั้นคงกระวนกระวายอยู่ไม่น้อยที่อยู่ดีๆจากตำแหน่งเมียหลวงผู้ครองใบทะเบียนสมรส ดันถูกยัดเยียดให้เป็นชู้กับแฟนชาวบ้านแทน งานนี้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับน้องเปรี้ยวเธอมากยิ่งกว่ามาก อย่างน้อยก็ได้เห็นว่าลีลาบนเตียงที่ว่าเผ็ดร้อนยังสู้คำด่ามากมายที่ปล่อยออกมาจากปากเธอไม่ได้ ไม่รู้เธอไปสรรหามาจากไหน อาทิ
‘นังชะนีไม่มีหาง ไม่มีปัญญาหา ตี๊ด(เซนเซอร์) เองหรือไง เอากระเทยแถวบ้านฉันแก้ขัดไปก่อนมั้ยล่ะ’
‘นังสตรอเบอร์รี่เน่า อย่างแกน่ะ คุณรัชเขาไม่เอาให้เหนื่อยหรอก’
ผมไม่อยากทนฟังอีกต่อไปจึงกดตัดสายและปิดเครื่อง ก่อนจะตัดสินใจยุติเรื่องบ้าๆนี่เสียที
“พี่จะลงไปพูดกับเขาเอง”
“เดี๋ยวพี่วี”
“พี่วีรักผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า” ผมขมวดคิ้ว แปลกใจที่เธอถามทำไมในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้
“ไม่รักอยู่แล้ว” ผมตอบอย่างไม่คิดเลยครับ ถึงมีเวลาคิดก็คงจะยืนยันคำตอบเดิม
“หวานมีวิธีให้ผู้หญิงคนนั้นเลิกยุ่งกับพี่วี”
“วิธีอะไร”
“เชื่อหวาน รับรองได้ผลแน่”
น้องหวานอธิบายแผนการทั้งหมดให้ผมเข้าใจ ผมทำตาโตเท่าไข่ไดโนเสาร์ในขณะที่นั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ ผมว่า...ไม่ใครก็ใครได้ตายกันไปข้างแน่ๆ อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งล่ะที่ขาดใจตาย
“เอาแน่เหรอหวาน”
“อื้ม” เธอพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“เอาก็เอา”
น้องเปรี้ยวจ๋า เห็นทีงานนี้พี่คงต้องลาก่อน ไม่ใช่ว่าพี่เบื่อลีลาร้อนแรงดุจไฟบรรลัยกัลป์ของน้องหรอกนะ แต่พี่ถือคติว่า ‘อดเปรี้ยวไว้กินหวาน’!
“พร้อมนะ” น้องหวานถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า
แผนการกำจัดจุดอ่อน(ของชีวิตคู่)กำลังจะเริ่ม ณ บัดนี้!
“พี่ต้องทำยังไง”
น้องหวานบอกให้ผมเริ่มแผนโดยการเปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ หลังจากแง้มผ้าม่านแอบดูอีกรอบก็พบว่าน้องเปรี้ยวเพียรโทรศัพท์มาหาผมตลอดเวลาอย่างไม่ลดละ แน่นอนว่าการเปิดเครื่องของผมจะทำให้เธอโทรติด นั่นหมายถึง...เหยื่อจะติดกับของเราทันที ฟังดูเหมือนแผนการล่อซื้อยาบ้านะครับ แต่มันดุเด็ดเผ็ดมันยิ่งกว่านั้นหลายเท่านัก
“ฮัลโหลๆ ได้ยินมั้ย นี่แกปิดเครื่องหนีฉันเหรอ” ผมกดรับโทรศัพท์ทันทีที่โทรศัพท์สั่น ยิ่งรู้ว่าเป็นน้องเปรี้ยวโทรมา ขามันก็สั่นตามไปด้วย
“...” ผมนิ่ง เพราะตามแผนผมต้องไม่พูดอะไรครับ แต่ต้องทำอย่างอื่นแทน
“พูดสิพี่วี” เธอป้องปากกระซิบ
“อ้าว ก็ไหนตามแผนบอกว่าไม่ต้องพูด” ผมกระซิบกลับไป
“พูดสิ พูดอะไรก็ได้ บอกรักหวานก็ได้ เร็ว” ยังมาเร่งผมอีกแน่ะแม่คุณ ตกลงจะให้พูดหรือไม่ให้พูดกันแน่เนี่ย
“พี่-รัก-หวาน” ผมออกเสียงชัดถ้อยชัดคำ
“พูดให้มันมีชีวิตชีวาหน่อยสิ” เธอกระซิบสั่ง
ลืมบอกไปครับว่าในระหว่างนั้นน้องเปรี้ยวยังคงส่งเสียง ‘ฮัลโหล’ ซ้ำๆอยู่อย่างนั้นไม่รู้เบื่อ ส่วนน้องหวานก็หยิบเสื้อผ้าของเราสองคนโปรยไปทั่วห้อง แถมยังสั่งให้ผมถอดเสื้อถอดผ้าเหลือไว้แต่กางเกงขาสั้นใส่ติดกายเพียงตัวเดียว
คุณผู้อ่านหลายท่านคงจะพอเดาแผนการของเราสองคนออกแล้วใช่มั้ยครับ แผนตื้นๆแบบนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า แต่น้องหวานยืนยันนักยืนยันหนาว่ารับรองผลร้อยเปอร์เซ็นต์ มันจะแน่นอนขนาดนั้นเชียวหรือครับ กะอีแค่ล่อให้น้องเปรี้ยวมาเห็นฉากรักระหว่างน้องหวานกับผมแค่นั้น
“นี่ เวลาพี่วีทำเรื่องอย่างว่า พี่วีพูดว่าอะไรบ้าง” มาถามอะไรกันตอนนี้เนี่ย
“หูแตกหรือไง ได้ยินมั้ยนังชะนีไม่มีหาง” เสียงน้องเปรี้ยวตะโกนแทรกเข้ามาจากโทรศัพท์ สงสัยคงยังไม่ได้ยินที่ผมบอกรักน้องหวานเมื่อครู่
“ว่าไง ตอนนั้นน่ะพี่วีพูดอะไรบ้าง” น้องหวานยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะถามปัญหาโลกแตกกับผม
“ไม่ได้พูด ทำอย่างเดียว” ผมป้องปากกระซิบตอบ
“โอ๊ย อย่ามาเล่นสงครามประสาทกับฉันนะ” น้องเปรี้ยวยังส่งเสียงโหวกเหวกมาให้เราสองคนได้ฟังอยู่ตลอด แต่ผมรู้...ใกล้จะถึงเวลาที่ความอดทนของน้องเปรี้ยวจะหมดลงแล้ว สักพักก็เป็นอย่างที่ผมคิดจนได้
“แกตายแน่!” น้องเปรี้ยวทิ้งท้ายก่อนที่สายจะตัดไป
ผมกับน้องหวานมองหน้ากัน ผิดแผนแล้วมั้ยล่ะ!
“เพราะพี่วีนั่นแหละ ไม่ยอมทำตามที่หวานบอก” อ้าว มาโทษกันอีกแม่คุณ
“ก็หวานนั่นแหละ บอกพี่อีกอย่าง พอเริ่มแผนจริงกลับสั่งให้ทำอีกอย่าง”
“นี่โทษกันเหรอ”
“อย่าเพิ่งเถียงได้มั้ย น้องเปรี้ยวหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้เนี่ย”
ผมแอบแง้มผ้าม่านดูอีกครั้ง มองที่หน้าประตูก็ไม่พบใคร แต่รถของน้องเปรี้ยวก็ยังอยู่แล้วตัวเธอหายไปไหน เฮ้ย! ผมเห็นเธอแล้ว...
น้องเปรี้ยวกำลังปีนรั้วเข้ามาในบ้าน!
“ทำไงดี” น้องหวานนิ่งไปสักสามวินาทีก่อนคิดแผนสองรองรับแผนแรกที่เพิ่งแตกเป็นเสี่ยงๆไปเมื่อครู่
“พี่วีไปปลุกป้าตะเพียนนะ แล้วให้ป้ารั้งผู้หญิงคนนั้นไว้สักสิบนาที หลังจากนั้นให้ปล่อยเข้ามาที่ชั้นบนได้ โอเคมั้ย นี่...แต่พอบอกป้าตะเพียนเสร็จ พี่วีต้องรีบขึ้นมาเลยนะ” ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะลงมือทำตามแผนเป็นการด่วน
นับว่าบุญยังหนุนนำครับ ป้าตะเพียนดูละครหลังข่าวอยู่ยังไม่ทันได้นอน ผมไม่มีเวลามากพอที่จะอธิบายแผนการได้ละเอียด จึงสักแต่ว่าสั่งๆตามที่น้องหวานบอกมา ป้าตะเพียนแกก็พอรู้หน้าที่เพราะฉากแบบนี้มันมีในหนังน้ำเน่าออกบ่อย
ผมรีบตะเกียกตะกายขึ้นบันไดด้วยความเร็วสูงเพื่อไปรับคำสั่งจากน้องหวานต่อ
“มาเร็วๆ”
น้องหวานเร่ง ตอนนี้เธออยู่ในชุดสายเดี่ยวเสียวหลุดสีแดงกับกางเกงขาสั้นกุดสีเดียวกัน เธอไปเอาชุดนางแมวยั่วสวาทแบบนี้มาจากไหนเนี่ย แต่ไม่มีเวลาถามแล้วครับ ต้องรีบเตรียมการก่อนที่น้องเปรี้ยวจะบุกเข้ามาได้
คุณผู้อ่านตื่นเต้นกันบ้างมั้ยครับ ผมนี่หัวใจจะวายอยู่แล้ว
“เดี๋ยวเราจะนอนบนเตียง ทำท่าเหมือนมีอะไรกัน โอเค๊”
“เฮ้ย! แล้วมันต้องทำยังไง ไอ้ท่าเหมือนมีอะไรกันเนี่ย”
“ก็ท่าไหนก็ได้ เวลาคนมีอะไรกันเขาทำท่าไหน เราก็ทำท่านั้นแหละ”
“ก็มันมีหลายท่านี่น้องหวาน เลือกมาซักท่าสิ”
“พี่วี นี่อย่ามากวนนะ” ผมไม่ได้กวนเลยแม้แต่น้อย แต่มันมีเป็นร้อยๆท่า แล้วผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณเธอโปรดปรานท่าไหนเป็นพิเศษ
“โอเค ท่าเบสิค” ผมสรุป เพราะเดี๋ยวชักช้าจะเสียการใหญ่
น้องหวานลงไปนอนหงายบนเตียง เธอไม่ลืมที่จะยีหัวตัวเองให้ดูยุ่งๆนิดหน่อยเหมือนคนที่เพิ่งผ่านศึกรักมาหมาดๆ แถมยังกวักมือเรียกผมให้ลงไปนอนทับเธออีกต่างหาก บอกตามตรงเลยครับ...ณ ตอนนี้ ผมไม่มีอารมณ์อะไรทั้งนั้น น้องชายผมเองก็เช่นกัน
“มานี่ เร็วๆ”
ผมจำใจลงไปนอนบนเตียง ยังไม่ได้นอนทับครับ แค่นอนข้างๆ อารมณ์ตื่นเต้นปนเสียวไส้ทำให้หัวสมองของผมว่างเปล่าในเรื่องอย่างว่า หากคุณยังนึกความรู้สึกนี้ไม่ออก ลองจินตนาการดูว่าตอนนี้มีฮิปโปทั้งฝูงกำลังวิ่งเข้ามาหาคุณ คุณยังจะปฏิบัติภารกิจขึ้นสวรรค์หรือเปล่าล่ะ ก็คงไม่ใช่มั้ย...เพราะขืนอยู่ต่อไปโดนฮิปโปเหยียบตายก็ได้ลงนรกแทนแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมว่า ถึงไม่ใช่ฮิปโปทั้งฝูง แค่น้องเปรี้ยวคนเดียวผมก็ได้เจอท่านยมบาลชัวร์ๆ
“อ้าว บอกให้ทำเหมือนมีอะไรกันไง”
“แต่พี่ไม่มีอารมณ์นี่หวาน”
“อย่าเพิ่งมาตายด้านตอนนี้ได้มั้ย” เขาไม่เรียกตายด้านครับน้องหวาน มันดูโหดร้ายเกินไป เขาเรียกแค่ว่า ‘ไม่มีอารมณ์’
“เออ เอาก็เอาวะ” ผมพลิกตัวไปนอนทับน้องหวาน ทับจริงๆเลยครับ กะให้แบนตายหายใจไม่ออกกันไปข้าง
ในระหว่างที่เรากำลังตระเตรียมตัวให้พร้อม ผมและเธอไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าสถานการณ์ข้างล่างระหว่างป้าตะเพียนกับน้องเปรี้ยวมันคุกรุ่นแค่ไหน จนเมื่อได้ยินเสียงตึงตังคล้ายคนกำลังวิ่งขึ้นบันไดนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าป้าตะเพียนคงรั้งน้องเปรี้ยวไว้ไม่อยู่เสียแล้ว
“ทำไงดี น้องเปรี้ยวมาแล้ว”
“พี่วีก็ทำเหมือนปล้ำหวานสิ”
“ก็พี่ไม่มีอารมณ์ คนมันตื่นเต้น”
“งั้นเดี๋ยวหวานทำเอง!”
=====================================
คอมเม้นท์เถอะ ได้โปรด แล้วจะมาอัพทุกวัน
ความคิดเห็น