ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขย่มเตียงรัก...หักคอดาร์ลิ่ง

    ลำดับตอนที่ #5 : เรื่องเสียว(ไส้)

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 51


                    พอพูดจบน้องหวานก็กดตัดสายก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ยังที่เดิมแล้วนอนต่อ  ผมได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอจึงแน่ใจว่าเธอหลับสนิทอีกครั้ง  ครั้นหันไปมองนาฬิกาบนหัวเตียงก็พบว่าเพิ่งตีสีกว่าๆจึงล้มตัวลงนอนเข้าสู่นิทรารมย์ตามเธอไปติดๆ

     

                    ผมตื่นขึ้นในตอนเช้าเพราะมีคนเปิดม่านปล่อยให้แสงอาทิตย์เข้ามาแยงตาราวกับจะแกล้งกัน  พอขยี้ตาและเพ่งมองก็พบว่าเป็นผู้หญิงรูปร่างหน้าตาจัดว่าสวยคนหนึ่งกำลังจัดการกับม่านให้เข้าที่  ผมตกใจรีบลุกขึ้นพลางขยี้ตาอีกครั้งเพื่อปรับสายตาให้ชัดขึ้น 

     

                    ทำไมน้องหวานถึงมาอยู่ในห้องพี่ได้

     

                    น้องหวานทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะมองผมด้วยสายตาแปลกๆ  ผมผิดหรือครับที่ถามแบบนี้

     

                    ก็เราแต่งงานกันเมื่อวาน

     

                    เอ้อ  พี่ลืมไป  ผมยิ้มแหยกลับไปให้เธอ  อารามคนเพิ่งตื่นนอนสมองมันเลยยังไม่เข้าที่เข้าทาง  อย่าถือสาหาความกันเลยนะครับ

     

                    เอ่อ  น้องหวานมีอีกเรื่องนึงจ้ะ

     

                    น้องหวานหันมาหาผม  เอียงคอรอฟังอย่างตั้งใจ  ผมหายใจเข้าลึกที่สุดเท่าที่เคยทำมาก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่คงจะทำให้เธอโมโหอยู่ไม่น้อย

     

                    เรื่องโทรศัพท์เมื่อคืน  คือ...พี่ขอโทษนะ

     

                    โทรศัพท์?”  เธอเอียงคอไปอีกข้างเหลือบตาไปมาแล้วสักพักก็ร้องอ๋อ

     

                    โทรศัพท์ผู้หญิงคนนั้น?” 

     

                    จ้ะ  นั่นแหละ  พี่จะไม่ให้เขาทำแบบนั้นอีก  พี่สัญญา  สัญญาแค่ไม่ให้แม่คู่ขาของผมทำแบบนั้นอีก  แต่มิได้สัญญาว่าจะเลิกยุ่งกับหล่อนหรอกนะครับ  โปรดเป็นพยานในความสัตย์ซื่อของผมด้วย

     

                    หวานไม่ได้ติดใจอะไรหรอก  จะโทรมาอีกหวานก็ไม่ว่า  แต่อย่าโทรมาตอนกลางคืนก็พอ  หวานขี้เกียจตื่นมารับ 

     

                    ผมมองหน้าน้องหวานอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง  เกิดมายังไม่เคยเห็นคนในใจกว้างเท่าแม่น้ำขนาดนี้มาก่อน  เธอช่างเป็นเมียที่ประเสริฐจริงๆ

     

                    อีกเรื่องจ้ะ

     

                    ว่ามา

     

                    คือที่หวานบอกเขาไปว่าใช้ถุงยางหมดไปสามกล่องน่ะ  พี่คิดว่าโอกาสหน้าบอกเขาว่าสามครั้งจะดีกว่า  เพราะถุงยางปกติมันกล่องละสามชิ้น  ใช้สามกล่องก็ปาไปตั้งเก้าครั้ง  ถึงพี่จะอึดพอแต่พี่ไม่มักมากขนาดนั้นนะจ๊ะ

     

                    ผมทันได้เห็นแก้มนิ่มของน้องหวานระเรื่อขึ้นก่อนที่เธอจะปิดประตูใส่หน้าผมดังโครม  ตามมาด้วยคำด่าที่ผมคิดว่าน่ารักที่สุด

     

                    พี่วีบ้า!”

     

                    หลังจัดการธุระส่วนตัวภายในห้านาทีผมก็เดินไปสมทบกับน้องหวานที่โต๊ะอาหาร  วันนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า  แม้แต่น้องเอิญก็ยังมาร่วมโต๊ะ  ลูกสาวตัวเล็กของผมอ้าแขนรอให้อุ้มทันทีเมื่อเห็นหน้า

     

                    ว่าไงคนเก่ง

     

                    งัมงัม  ภาษาเด็กครับ  โปรดอย่าคิดมากและโปรดอย่าคิดที่จะแปล  ผมเคยลองแล้ว  ไม่สามารถจริงๆครับ  คล้ายกับเอาภาษาฝรั่งเศสรวมเข้ากับภาษาเขมร 

     

                    กินข้าวหรือยังลูก  แน่นอนครับ  น้องเอิญยังยืนยันคำตอบเดิม...งัมงัม

     

                ทำไมลงมาช้านักล่ะตารัช 

     

                    ผมมองหน้าน้องหวานที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  ก่อนจะหันกลับไปตอบคำถามแม่บังเกิดเกล้าด้วยท่าทียียวนกวนบาทาเมียยิ่งนัก

     

                    ก็น้องหวานน่ะสิครับ  เมื่อคืนเล่นเอาผมไม่ได้นอน 

     

                    น้องหวานหันขวับมาทางผมทันที  ผมก้มหน้าก้มตาตักข้าวใส่ปากทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่  ในใจกลับลิงโลดเต็มที่ที่ได้เอาคืนเมียตัวเองบ้าง 

     

                    สงสัยแม่จะได้หลานอีกคนซะแล้วมั้ง  คุณแม่พูดอย่างอารมณ์ดี  ในขณะที่คุณพ่อหัวเราะอยู่ในลำคอ  ป้าตะเพียนอมยิ้มเอ็นดู  ขนาดน้องเอิญยังส่งเสียง งัมงัม  เห็นด้วย  เห็นทีงานนี้คงจะต้องรีบทำให้ทุกคนสมหวังซะแล้ว

     

                    ว่าไงล่ะหวาน  คุณแม่อยากมีหลานแน่ะ 

     

                    เมียหมาดๆของผมส่งยิ้มเอียงอายไปให้แม่สามี  แต่ไม่วายยังหันมาจิกตาใส่ผมจนได้

     

                    ป้าต้องทำไข่ลวกให้คุณรัชทานทุกเช้าหรือเปล่าคะเนี่ย  ป้าตะเพียนเออออด้วยอีกคน  เอาเป็นว่ายกที่หนึ่งสำหรับวันนี้พี่ชนะขาดนะจ๊ะน้องหวานที่รัก

     

                    หลังมื้อเช้าของวันน้องหวานกับผมตกลงกันว่าจะเปิดคอร์สสอนเลี้ยงน้องเอิญ  เจ้าตัวเล็กดูจะชอบใจน้องหวานอยู่ไม่น้อยจึงไม่มีท่าทีโยเยเลยเมื่อเธอเข้ามาเล่นด้วย 

     

                    สอนอุ้มก่อนแล้วกัน

     

                    คุณเมียผมนี่ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนต้องคิดว่าเธอเคยมีลูกมาเป็นโขยงแน่ๆ  เพราะแค่อธิบายไม่กี่คำ  เธอก็ทำได้ดีเสียจนอยากจะมอบโล่คุณแม่ตัวอย่างให้  ก็ดีครับ  เธอจะช่วยแบ่งเบาภาระป้าตะเพียนและพ่อกำมะลออย่างผมบ้าง

     

                    เล่นกันไปเล่นกันมา  ผมเองก็เริ่มเคลิ้มๆ  ผลสุดท้ายก็เลยหลับไปบนที่นอนของลูกจนได้  กำลังจะฝันดีเชียวครับน้องเอิญก็ดันร้องไห้จ้าขึ้นมาเสียก่อน

     

                    ลูกเป็นอะไรน่ะหวาน  ผมฝืนใจลืมตาตื่นทั้งที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม

     

                    กินไม่ได้  อันนี้กินไม่ได้ 

     

                    หวานไม่ตอบผมครับ  เธอคงไม่ได้สนใจที่ผมถามเพราะมัวแต่แกะมือน้องเอิญที่คอยล้วงเข้าไปในเสื้อคอลึกนั่นแทน  ผมพอเข้าใจสถานการณ์แล้วครับ...น้องเอิญหิวนม  เฮ้อ!  พ่อก็หิวเหมือนกันลูก

     

                    มาหาพ่อมา  ผมรับน้องเอิญเข้ามาปลอบ  เจ้าตัวเล็กยังไม่เลิกทำหน้าเบะแถมยังคอยแต่จะเอื้อมมือไปจับอวัยวะให้นมของน้องหวานที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก  อย่าจับลูก...เก็บไว้ให้พ่อจับบ้าง

     

                    เดี๋ยวหวานไปชงนมให้

     

                    ไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมขวดนมที่มีน้ำสีขาวอยู่เกินครึ่ง  แปลกใจอยู่เหมือนกันที่ยังไม่ได้สอนแต่เธอกลับชงนมเป็น  แต่ตอนนั้นไม่มีเวลาได้สนใจอะไรมากนักเพราะน้องเอิญเริ่มร้องไห้หนักขึ้น  ผมทดลองหยดน้ำนมลงบนหลังมือก็พบว่ามันอุ่นได้ที่  ครั้นพอลองชิมก็ต้องยอมรับว่าอร่อยดีเหมือนกัน  แหม!  อยากจะมอบเกียรติบัตรคุณแม่ดีเด่นให้เธอด้วยอีกสักใบ

     

                    น้องเอิญนอนกินนมอย่างเอร็ดอร่อยบนฟูกนิ่ม  ผมนอนข้างๆคอยดูลูกก็เพลินดีเหมือนกันครับ  ส่วนน้องหวานนอนอยู่อีกด้านหนึ่งมองดูเจ้าตัวน้อยอย่างสนอกสนใจ

     

                    กินอย่างนี้ไปก่อนนะ  แม่หวานของหนูเขาไม่มีน้ำนม  เราเลยอดกินทั้งพ่อทั้งลูก  ผมพูดกับลูกพลางไล้แก้มแกอย่างเบามือ  อยู่ดีๆน้องหวานก็เอื้อมมือมาตีแขนผมเสียเฉยๆ

     

                    พี่เจ็บนะ  ทำไมหวานซาดิสม์จัง

     

                    ก็พี่วีทะลึ่ง

     

                    พี่แค่พูดความจริง  ผิดด้วยเหรอ  ผมเบะปากเลียนแบบลูก

     

                    หวานไม่คุยด้วยแล้ว  พี่วีเอาแต่พูดอะไรก็ไม่รู้

     

                    น้องหวานลุกขึ้นเดินออกไป  จะรั้งเอาไว้ก็ไม่ทันเพราะก้าวฉับๆเดินออกจากห้องไปนู่นแล้ว

     

                    ดูสิน้องเอิญ  แม่หวานงอนตุ๊บป่องไปนู่นแล้ว  ผมพยักเพยิดให้ลูกดูทั้งที่รู้ว่าแกยังไม่รู้ความ  น้องเอิญหัวเราะคิกก่อนจะคายจุกขวดนมแล้วพูดกับผมว่า งัมงัม

     

     

                    ตกกลางคืนหลังรับประทานอาหารมื้อเย็นและอาบน้ำเสร็จ  ผมก็เข้าไปช่วยน้องหวานกล่อมเจ้าตัวเล็กนอน  แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักเพราะพอไปถึงน้องเอิญก็หลับปุ๋ยไปแล้ว

     

                    หวาน  ผมเรียกเธอเสียงอ่อน  ตั้งแต่เมื่อตอนสายถึงตอนนี้เรายังไม่ได้คุยกันสักคำ เดินเฉียดตัวเธอนิดๆหน่อยๆก็ทำท่าปั้นปึ่งใส่  ผมทำอะไรผิดหรือครับ

     

                    อะไร

     

                    โกรธพี่เหรอ

     

                    เปล่า

     

                    โกรธพี่เรื่องอะไร

     

                    เอ๊ะ  ก็บอกว่าไม่ได้โกรธ  น้องหวานเริ่มทำท่าจะเอาเรื่อง

     

                    งั้นทำแผลให้พี่หน่อย  ผมชี้ไปที่ศีรษะตัวเอง  แผลจากกล่องถุงยางนั่นแหละครับ  หวังว่าคุณผู้อ่านคงจำกันได้

     

                    ทำเอง  หวานจะนอน

     

                    ใจร้าย  ตัวเองทำหัวเขาเจ็บแท้ๆยังจะไม่รับผิดชอบ  ได้ผลครับ...น้องหวานเดินปึงปังไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลทันที

     

                    อย่าเพิ่งดีใจ  ไม่ทำให้หรอก  พี่วีพูดเอง  ห้ามหวานแตะตัวพี่วีเด็ดขาด  น้องหวานยกริมฝีปากขึ้นข้างหนึ่งยิ้มเยาะอย่างเป็นต่อ  ผมได้แต่อึ้งคิดหาทางแก้เกมอยู่ในใจ

     

                    ทำแผลถือเป็นข้อยกเว้น

     

                    ไม่  ไม่  ไม่  คุณเมียปฏิเสธเสียงแข็ง

     

                    ไม่ก็ไม่  ปล่อยให้แผลมันเน่า  ให้พี่เป็นบาดทะยักตายไปเลย 

     

                    ผมแกล้งทำเป็นเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บในลิ้นชักตามเดิม  แต่ยังไม่ทันที่จะได้ดึงลิ้นชักออกมา  น้องหวานก็ขัดขึ้นเสียก่อน

     

                    ทำให้ก็ได้

     

                    เหมือนหนังเวียนมาฉายซ้ำอีกรอบ  น้องหวานและผมนั่งในตำแหน่งเดิม  เธอหยดทิงเจอร์ไอโอดีนลงบนสำลีก่อนจะทาลงบนแผลอย่างเบามือ  ปิดท้ายด้วยการแปะพลาสเตอร์ก็เป็นอันเรียบร้อย

     

                    ความรู้สึกของผมก็ไม่ต่างกับเมื่อวานเท่าไรนัก  กลิ่นแชมพูและสบู่หอมอ่อนๆจากตัวน้องหวานเป็นตัวทำลายทั้งสติและสมาธิให้กระเจิดกระเจิง  แต่ความใกล้ชิดอย่างชนิดที่หน้าห่างกันแค่คืบไม่ได้ทำให้น้องหวานรู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อย  เธอยังคงตีหน้านิ่ง  บอกแล้วครับว่าเธอเป็นหญิงแกร่ง  ไม่ว่าจะแทะโลมอย่างไรไม่เคยสะดุ้งสะเทือนและ...ไม่หวั่นแม้วันมามาก

     

                    มองอะไร 

     

                    มองเมียตัวเอง  มองไม่ได้เหรอ

     

                    ไปมองคนอื่นดีกว่ามั้ง  คนที่โทรมาน่ะ 

     

                    หึงล่ะซี้ 

     

                    น้องหวานไม่ตอบ  แต่ผมก็ทราบดีครับว่าเธอคงไม่ได้รู้สึกหึงหวงอะไร  คนเพิ่งรู้จักกันแค่สามวัน  อย่าว่าแต่หึงเลยครับ  แค่ชอบก็คงยากอยู่เหมือนกัน 

     

                    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของเราสองคน  น้องหวานอยู่ใกล้กว่าจึงเอื้อมมือไปหยิบมาให้ผม  แต่...บังเอิญเธอคงเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอพอดี  มือที่ยื่นมาจึงหดกลับไปและนิ้วเรียวก็กดรับสายแทน

     

                    ฮัลโหล  น้องหวานทำหน้าเครียดอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  มันจะไม่เครียดได้อย่างไรล่ะครับ  ก็คนที่โทรมาน่ะคือ...น้องเปรี้ยว...ผู้หญิงที่เพิ่งโทรมาตอนตีสี่กว่าๆของวันนี้

     

                    นี่แกอีกแล้ว  น้องหวานเธอคิดอย่างไรไม่ทราบกดเปิดลำโพงให้ผมฟังด้วย 

     

                    ใช่ 

     

                    นี่แปลว่าแกอยู่ในบ้านกับแฟนฉัน

     

                    ใช่  น้องหวานมุ่นคิ้วตอบกลับไป  ไม่กี่อึดใจต่อมาเธอก็เดินไปที่หน้าต่าง  แง้มผ้าม่านพอให้มีช่องมองเห็นได้  ผมเดินตามน้องหวานไป  มองทะลุไปตามช่องนั้นแล้วก็พบว่า...

     

                    น้องเปรี้ยวยืนอยู่หน้าประตูบ้าน!
    =====================================
    คอมเม้นท์กันหน่อยเร้ววว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×