ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขย่มเตียงรัก...หักคอดาร์ลิ่ง

    ลำดับตอนที่ #4 : เรื่องบนเตียง

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 51


                    ผมได้ยินเสียงกุกกักในห้องน้ำสักสามนาทีแล้วเสียงน้ำจากฝักบัวก็เข้ามาแทนที่  เดาว่าเธอคงจัดการกับชุดเจ้าปัญหานั่นได้เรียบร้อยแล้ว 

     

                    น้องหวานใช้เวลาเพียงไม่นานเธอก็ออกมา  ผมได้ยินเสียงเปิดประตูจึงรีบคว้าผ้าเช็ดตัวเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที  ภาพที่ผมเห็นทำให้ผ้าขนหนูผืนใหญ่แทบจะหลุดร่วงจากมือ  อยากจะหักคอผู้หญิงคนนี้จริงๆ

     

                    เมียผู้แสนน่ารักของผมนุ่งผ้าเช็ดตัวสีชมพูลายการ์ตูนผืนเล็กเพียงผืนเดียว  ไร้เสื้อคลุมและเสื้อใน  หยดน้ำเกาะพราวไปทั้งตัว  ผมเปียกลู่ตามรูปศีรษะเพราะเพิ่งสระ  นี่เธอจะทรมานใจผมไปจนถึงเมื่อไหร่

     

                    รีบๆอาบนะ  จะได้แกะของขวัญกัน

     

                    ผมรับคำก่อนจะเข้าไปจัดการตัวเองในห้องแคบๆนั่น  จัดการตัวเองที่ว่านี่หมายถึงแค่อาบน้ำชำระล้างคราบเหงื่อไคลอย่างเดียวนะครับ  ไม่ได้ทำอย่างอื่นด้วยจริงจริ๊ง

     

                    พอทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ต้องผงะอีกรอบครับ  น้องหวานเธอทำร้ายผมอีกแล้ว  ทำร้ายด้วยชุดนอนสายเดี่ยวบางๆ  ก้มทีขยับทีเห็นไปถึงตับไตไส้พุง  นี่เธอไม่อยากให้ผมทำอะไรเธอจริงๆหรือเปล่าเนี่ย  ดูคำพูดกับการกระทำมันตรงกันข้ามยังไงชอบกล

     

                    มาแกะของขวัญเร็ว

     

                    คุณนายอินทรีย์เธอขนกล่องของขวัญนับยี่สิบกล่องขึ้นไปบนเตียงพลางนั่งแกะกระดาษห่อหลากสีนั่นอย่างน่าสนุก  ก็ดีเหมือนกันครับ  นั่งแกะของขวัญคงทำให้ใจผมสงบขึ้นมาบ้าง 

     

                    แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้น้องหวาน  กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่และแชมพูก็ยิ่งชัดขึ้น  ปฏิกิริยาตอบสนองในร่างกายทำให้ผมกลั้นหายใจทันที  ไม่ดม ไม่มอง ไม่ลอง ไม่แตะ  ไม่เด็ดขาด!

     

                    นี่เพื่อนพี่วีให้มา พี่วีแกะสิ  เธอยื่นกล่องเล็กจิ๋วมาให้  ผมยื่นมือไปรับ  ตาจดจ้องเพียงแต่กล่องเท่านั้น

     

                    แต่เนื่องจากสติสัมปชัญญะยังครบถ้วนแม้หัวใจจะกระเจิดกระเจิงไปไหนต่อไหน  ทำให้ผมเริ่มเอะใจว่ากล่องเล็กแค่นี้ข้างในมันจะเป็นอะไร  นั่นสินะ  มันควรจะเป็นอะไร...หึหึ

     

                    น้องหวานแกะเถอะ  ผมยื่นมันกลับคืนไปให้  เธอรับอย่างไม่ทันได้คิดอะไรมาก  เสร็จผมล่ะน้องหวาน  อยากทำให้ผมทรมานใจดีนัก

     

                    อี๋  เธอลากเสียงยาวก่อนจะใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งคีบบางอย่างขึ้นมาอย่างรังเกียจ

     

                    พี่วีรู้แล้วใช่มั้ยล่ะ  ถึงได้ให้หวานแกะ

     

                    พี่จะไปรู้ได้ไง  ไหนเพื่อนพี่ให้อะไร 

     

                    เมียสุดที่รักคีบเจ้าสิ่งนั้นก่อนปล่อยลงตรงหน้าผม  ไม่บอกก็รู้ครับว่ามันคือ...ถุงยางอนามัย  ผมหัวเราะคิกเมื่อเห็นเธอทำหน้ามุ่ย

     

                    ให้มาตั้งสามกล่อง  จะใช้หมดมั้ยเนี่ยคืนนี้

     

                    พี่วีบ้า

     

                    ผมโดนลงโทษด้วยหมอนสามใบที่ถูกปาอย่างระรัวเร็วมาที่หน้าหล่อๆ  แต่ผมไม่ยอมถูกรังแกฝ่ายเดียวหรอก  ผมใช้หมอนข้างตีหัวเธอสามทีเป็นการแก้แค้น  หน้าน้องหวานยิ่งบึ้งกว่าเดิมร้อยเท่า  เธอคว้ากล่องถุงยางขึ้นมาปาใส่หัวผม  ได้เรื่องเลยครับ...ด้วยความแรงและระยะที่ห่างกันเพียงไม่ถึงสองเมตร  ทำให้มุมกล่องเจาะหน้าผากผมเต็มที่  สรุปคือ  ผมเลือดออกเพราะกล่องถุงยาง!

     

                    หวานขอโทษ

     

                    น้องหวานเสียงอ่อย  หน้าซีดลงทันที  ผมยิ้มให้เธอเป็นการปลอบใจ  ปากก็บอกว่าไม่เป็นไรๆกลัวเธอจะไม่เชื่อว่าไม่เป็นไรจริงๆ  แค่เลือดไหลซิบๆน่ะจิ๊บจ๊อยครับ

     

                    เธอรีบพาผมไปล้างแผล  ทั้งที่ของเหลวสีแดงนั่นออกมาไม่ถึงหยด  ก่อนจะยื่นกระดาษทิชชู่ให้ผมห้ามเลือดไว้ก่อน  ส่วนตัวเธอเองรีบเก็บกล่องของขวัญไปไว้ยังมุมห้อง  แล้วเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลอันเล็กที่ผมเก็บไว้ในลิ้นชักอย่างรีบเร่ง

     

                    คุณเมียผู้แสนดีจัดแจงให้ผมนั่งพิงหัวเตียงเพื่อรอทำแผล  เธอใช้สำลีชุบทิงเจอร์ทาให้อย่างเบามือ  แสบน่ะแสบครับ  แต่สมาธิของผมมันเตลิดเปิดเปิงไปไหนแล้วก็ไม่รู้  ก็น้องหวานเล่นเอาหน้าเข้ามาใกล้จนห่างกันแค่คืบ  กลิ่นหอมหวานนั่นโชยมาเตะจมูกทุกเสี้ยววินาที  อย่างนี้ใครจะอดใจไหว

     

                    หอมจัง

     

                    ผมพูดอย่างที่ใจคิด  เค้นเอาสายตาอย่างที่จะทำให้หญิงละลายมาใช้  หวังว่ามันจะได้ผลนะครับ  แต่ผมลืมคิดไปว่าน้องหวานไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไป  เธอแกร่งยิ่งกว่าหินผาบนยอดเขาเหลียงซาน!

     

                หอมทิงเจอร์เหรอคะ

     

                    จ้ะ  หอมทิงเจอร์ก็หอมทิงเจอร์  หมดอารมณ์เลยครับโดนตอบกลับมาแบบนี้

     

                    เสร็จแล้ว

     

                    น้องหวานแปะพลาสเตอร์ให้ผมเรียบร้อย  เก็บเครื่องไม้เครื่องมือทำแผลใส่กล่อง  ก่อนจะเดินไปเก็บมันไว้ในที่เดิม  จังหวะนั้นผมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเธอ  เปิดหาเสื้อคลุมนอนสักตัวเผื่อมันจะช่วยให้บางสิ่งบางอย่างไม่โผล่ออกมาล่อตาล่อใจผมยามค่ำคืน

     

                    ใส่เสื่อคลุมซะ  จะได้ไม่หนาว  แอร์มันเย็นนะตอนดึก

     

                    ผมส่งเสื้อคลุมนอนให้เธอ  น้องหวานรับไว้อย่างงงๆ  แต่เธอกลับเอาไปพาดบ่าแทน

     

                    หวานร้อน  เมืองไทยร้อนจะตาย  อยู่เท็กซัสไม่ร้อนเท่านี้

     

                    เวรกรรม...ดันมีเมียเคยอยู่เมืองนอกเป็นปีๆ  เธอเลยชินกับอากาศหนาว  เห็นทีงานนี้จะต้องบังคับ

     

                    ใส่เถอะ  มาพี่ช่วยใส่ 

     

                    ผมถือวิสาสะจับแขนเธอยัดเข้าไปในแขนเสื้อ  และทำกับแขนอีกข้างเช่นเดียวกัน  น้องหวานมองตาปริบๆแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

     

    เป็นห่วงหวานขนาดนั้นเชียว 

     

    พี่เป็นห่วงตัวเองมากกว่า

     

    พูดจบผมก็หันหลังกำลังจะเดินไปที่เตียงแต่มือเล็กๆนั่นกลับคว้าชายเสื้อผมไว้  ผมหันหลังกลับตามสัญชาตญาณเพราะคิดว่าน้องหวานคงมีเรื่องจะคุยกับผมต่อ  แต่เปล่าเลย...เธอกลับ..

     

    ห้อมแก้มผมพร้อมกระซิบข้างหูว่า

     

    ราตรีสวัสดิ์  โอ๊ย!  จะยั่วกันไปถึงไหน  เดี๋ยวพ่อก็ปล้ำซะหรอก

     

    เอาวะ  ไหนๆก็ไหนๆแล้ว  ยั่วกันถึงขนาดนี้  มันก็ต้องคุยกันหน่อย

     

    เดี๋ยวหวาน  ในเมื่อหวานมีเรื่องขอร้องได้  พี่ก็อยากขอร้องเหมือนกัน

     

    ว่ามาสิ

     

    ห้ามนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ  ห้ามใส่ชุดนอนโป๊ๆแบบนี้  และที่สำคัญห้ามแตะเนื้อต้องตัวพี่  อย่างเมื่อกี้นี่  ห้ามเด็ดขาด  แค่นี้แหละที่พี่อยากจะขอ

     

    น้องหวานไม่รับปากผม  แต่กลับหัวเราะอย่างชนิดที่เรียกว่าท้องแข็งท้องงอเลยครับ  ไอ้คำขอร้องแกมบังคับของผมนี่มันน่าขันตรงไหนเหรอ

     

    พี่วีนี่หวงตัวจังเลย  อย่างนี้ยิ่งน่าแกล้ง  หวานยังคงหัวเราะคิกคักตอนพูดประโยคนี้กับผม

     

    นี่แปลว่าที่ผ่านมาหวานแกล้งพี่  ผมหรี่ตาจับพิรุธ

     

    ใช่  ตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำเสียด้วย

     

    อย่าล้อเล่นกับผู้ชายแบบนี้อีกนะหวาน  กับพี่น่ะไม่เป็นไรหรอก  แต่กับคนอื่นน่ะไม่ได้ 

     

    รู้แล้วน่า

     

    สรุปว่าคืนนั้นเราต่างแยกย้ายกันหลับอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะเหนื่อยกันมาทั้งวัน  จะให้ทนทะเลาะกันถึงเช้าก็เห็นจะไม่ไหว  หลับอย่างเดียวครับ...ไม่ได้หลับนอนแต่อย่างใด

     

    บางคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะสับสนมึนงงว่า  เฮ้ย!  อะไรเนี่ย  เริ่มเรื่องก็มีเด็กมาโผล่อยู่หน้าบ้าน  พอมาตอนสองแต่งงานซะแล้ว  พอตอนสามสนิทกับเมียซึ่งเจอกันได้แค่สองวัน  ตอนสี่เมียผมไม่ท้องเลยเหรอ  ดีใจครับที่อ่านแล้วงง  เพราะผมก็งงกับชีวิตและความรู้สึกของตัวเองอยู่เหมือนกัน

     

    จริงอยู่ที่ผมกับน้องหวานเราเพิ่งเจอกันเมื่อวาน  แต่เรื่องการสานสัมพันธ์(สวาท)กับผู้หญิงไม่เป็นปัญหาสำหรับผมอยู่แล้วครับ  น้องหวานเองเธอก็เป็นคนขี้เล่นขี้แกล้งอย่างที่เห็น  และคงจะเห็นว่าควรจะเริ่มทำความคุ้นเคยกับผมเสียแต่เนิ่นๆเพราะต้องอยู่กันไปอีกนาน  ผมไม่เถียงครับว่าเราเริ่มสนิทกันเร็วมากจนเธอถึงขั้นยั่วผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเล่นเอาเกือบตบะแตก  แต่เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วครับ...สนิทยิ่งกว่านี้ได้ยิ่งดี  ขอแบบ แนบแน่น  เนื้อแนบเนื้อยิ่งเข้าท่า!

     

    ส่วนเรื่องที่ว่าเราแต่งงานกันได้อย่างไร  เธอตอบตกลงเพราะอะไร  ทำไมนักเรียนนอกที่ดูเหมือนจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ถึงมาแต่งงานกับผม  ผมก็ไม่รู้จะบอกอย่างไรดีครับ...เพราะผมเองก็ไม่ทราบ  แต่เอาไว้จะแอบสืบมาเล่าให้ฟังครับ

     

    ส่วนที่สงสัยว่าทำไมไอ้เจ้าชู้ไก่แจ้อย่างผมถึงได้ยอมแต่งงานอย่างง่ายดายเพราะเด็กคนเดียว  ทั้งที่ก็ไม่ใช่ลูกของตัว  พิจารณาตามหลักความเป็นจริงก็ไม่น่าจะมีผู้ชายอย่างผมอยู่บนโลก  แต่อย่าลืมครับว่าเหตุผลตัดสินไม่ได้ทุกเรื่อง  ความรู้สึกต่างหากที่มีผลกับทุกเหตุการณ์

     

    และเรื่องแต่งงานกับเรื่องน้องเอิญ  ผมใช้หัวใจตัดสิน...ไม่ใช่เหตุผล

     

    แต่จะเป็นเพราะรู้สึกอย่างไรถึงได้ทำไปแบบนั้น  อ่านไปเรื่อยๆสิครับ  แล้วจะทราบ...

     

     

     

    เสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผมดังขึ้นขัดจังหวะการนอนหลับของเราสอง  ตอนนั้นผมยังงัวเงียอยู่ครับ  ความรู้สึกมันคล้ายกำลังฝันอยู่  ครึ่งหลับครึ่งตื่น  แต่น้องหวานเธอคงรู้สึกตัวก่อนผมจึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์และกดรับแทน

     

    ฮัลโหล  ด้วยความที่ในห้องมันเงียบมาก  ผมจึงได้ยินปลายสายอย่างชัดเจนราวกับถือหูโทรศัพท์คุยเสียเอง

     

    ฮัลโหล  น้องหวานส่งเสียงกลับไปอย่างงัวเงีย

     

    นี่แกเป็นใคร  กล้าดียังไงมารับโทรศัพท์แฟนฉัน  ได้ยินอย่างนี้ตามันก็เบิกกว้างขึ้นทันทีครับ  ให้ตาย!  คู่ขาปาท่องโก๋คนไหนบังอาจโทรมากวนใจตอนนี้นะ

     

    แล้วแกเป็นใคร  กล้าดียังไงโทรมาหาแฟนฉัน  เอากับเธอสิครับ  ผมลุกขึ้นนั่งจ้องหน้าน้องหวาน  แต่เพราะห้องมันมืดมากเลยไม่อาจทราบได้ว่าเธอกำลังแยกเขี้ยวใส่ผมอยู่หรือเปล่า

     

    ฉันก็เป็นเมียเขาน่ะสิ  แม่คุณ  ตอบอย่างนี้เอามีดมาแทงผมเลยดีกว่า  น้องหวานฆ่าผมตายแน่ๆ

     

    ฉันก็เป็นเมียเขาเหมือนกัน  หวานตอบหนักแน่น  ฟังจากเสียงเธอคงโมโหอยู่ไม่น้อย

     

    อีบ้า  อี...  สารพัดคำด่าหยาบคายส่งตรงมายังเจ้าสาวหมาดๆของผม  เธอยังนิ่งครับ  รอจนอีกฝ่ายเงียบไป  เธอจึงพูดในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง

     

    จะบอกให้เอาบุญ  วันนี้ฉันกับเขาเราอยู่ด้วยกันทั้งคืน  ลีลาเขาเด็ดมาก  อ่อ  ถุงยางหมดไปแล้วสามกล่อง  มีที่อยู่มั้ยล่ะ  จะได้ส่งหลักฐานไปให้ดูทางไปรษณีย์  อุ๊แม่เจ้า!


    ===================================
    คอมเม้นท์เถอะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×