ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขย่มเตียงรัก...หักคอดาร์ลิ่ง

    ลำดับตอนที่ #3 : ถอดเสื้อผ้า

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 51


                รัก  คำสั้นๆที่ผมไม่เคยนึกถึง  ส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่คำสั้นๆเช่นเดียวกันครับ  แต่เป็นคำว่า เซ็กส์แทน โปรดอย่ามองผมด้วยสายตาเช่นนั้นครับ  ผมไม่หื่นกระหายเรื่องอย่างว่าถึงขนาดลืมหูลืมตาไม่ขึ้น  เพียงแค่ขาดได้แต่ไม่ยอมขาดเท่านั้นแหละ

     

                    นะ  ถือว่าหวานขอร้อง  เธอย้ำอีกครั้งเมื่อผมไม่พูดอะไร

     

                    แล้วเมื่อไหร่น้องหวานจะรักพี่ล่ะ  พี่ไม่ต้องรอจนแก่เลยเหรอ 

     

                    ทำตัวดีๆเดี๋ยวหวานก็รัก 

     

    ยุทธการสานสัมพันธ์กับว่าที่เมียตัวเองกำลังเริ่มขึ้นครับ  จากที่ผมสังเกต...น้องหวานดูฉลาดทันคน  แต่ไม่หวานสมชื่อ  ออกจะห้าวๆไม่ยอมคนเสียมากกว่า  แต่ไอ้เรื่องหวานนี่ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเพราะยังไม่ได้ลองชิม  เอาไว้ผมได้ลองเมื่อไหร่  จะมายืนยันอีกทีครับว่าหวานหรือไม่หวาน

     

                    หวานคงรังเกียจผู้ชายลูกติดอย่างพี่  อ้อนไว้ก่อนพ่อสอนไว้ครับ

     

                    ตกลงน้องเอิญเป็นลูกพี่วีจริงๆเหรอ

     

                    ผมนิ่ง  ไม่รู้ว่าแม่เล่าเรื่องให้ฝ่ายนู้นฟังมากน้อยแค่ไหน  อาจจะเล่าทั้งหมดหรือบางส่วนผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ  ครั้นจะถามว่ารู้อะไรมาบ้างก็เห็นจะไม่สมควร  ผมจึงเลี่ยงด้วยการเปลี่ยนเรื่องจะดีกว่า

     

                    พรุ่งนี้แต่งตัวสวยๆนะ

     

                    พี่วีเปลี่ยนเรื่อง  หัวคิ้วของเธอชนกันอย่างคนโดนขัดใจ 

     

                    ผมถอนหายใจ  สามีภรรยาไม่ควรมีเรื่องปิดบัง  ไหนๆก็ต้องร่วมหอลงโลงกันแล้ว  เธอควรมีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ทุกเรื่องราวเกี่ยวกับผมและน้องเอิญ

     

                    น้องเอิญไม่ใช่ลูกพี่

     

                    คุณป้าบอกว่าพี่วีไม่ยอมรับต่างหาก  เธอพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา  แต่ผมกลับรู้สึกอยู่ลึกๆว่าเธอก็คิดว่าผมเป็นผู้ชายที่สมควรใส่กระโปรงผู้หญิงแทน

     

                    สรุปคือคุณแม่เล่าให้ฟังหมดแล้ว  แล้วถามพี่ทำไม

     

                    แค่อยากรู้ว่าพี่วีจะตอบยังไงมากกว่า 

     

                    ความเงียบครอบงำเราทั้งสองคนไว้อีกครั้ง  เธอนั่งรับประทานผลไม้สดที่ผมสั่งมาให้โดยไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ  ผมเองก็ไม่ต่างกัน

     

                    ทำไมไม่ตรวจดีเอ็นเอ  เสียงใสทำลายความเงียบและความโง่ของผม

     

                    เออ  นั่นน่ะสิ  ทำไมพี่ถึงคิดไม่ออกนะ 

     

                    แต่ตรวจแล้วจะได้อะไรล่ะ  ถ้าน้องเอิญไม่ใช่ลูกพี่วี  ก็ในเมื่อแม่เด็กหายไปไหนก็ไม่รู้  พี่วีจะส่งน้องเอิญไปสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเหรอ  แล้วงานแต่งงานของเราอีกล่ะ  ปล่อยให้มันคลุมเครืออย่างนี้ดีกว่า  ไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นลูกของพี่วีจริงๆหรือเปล่า  พี่วีก็ทำงานของพี่วีไป  เดี๋ยวหวานเลี้ยงลูกให้

     

                    แหม  แม่คุณ!  นอกจากหน้าอกหน้าใจจะใหญ่แล้ว  สมองยังโตอีกต่างหาก  คิดให้ผมซะเสร็จสรรพ  คุณแม่เข้าใจหาเมียให้ผมนะเนี่ย

     

                    แล้วเราล่ะ  ที่ว่าประชดแฟนเก่าน่ะ  พูดเล่นหรือพูดจริง 

     

                    เอาไว้หวานจะเล่าให้ฟังวันหลัง

     

                    สักพักเราก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับครับ  ผมไม่อยากจะซักไซ้ในเหตุผลที่เธอยอมร่วมหัวจมท้ายกับผม  มีเมียสวย-สาว-ขาว-อึ๋ม  แค่นี้ก็ทำเอาชีวิตคุณพ่อลูกติดอย่างผมสดใสขึ้นเป็นกอง  ถือว่าพระเจ้ายังเมตตาฟ้ายังเข้าข้างอยู่ครับ

     

                    เช้าวันต่อมาถึงงานพิธีสละโสด  เพื่อนผองน้องพี่ของผมมากันคับคั่งเพราะอยากเห็นหน้าว่าที่เพื่อนสะใภ้ใจจะขาด  ส่วนไอ้เรื่องที่ว่าคู่ขาของผมจะมาตามจองล้างจองผลาญถึงงานแต่ง  เลิกคิดเถอะครับ  ขอบอกว่านี่ไม่ใช่นิยายน้ำเน่าเคล้าไข่ยุงลาย  มีแต่ไข่คน...อาหารโปรดของคุณพ่อผมเองครับ  นี่คิดกันไปถึงไหน

     

                    ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้วอย่าลืมโทรมาเล่าให้ฟังบ้างนะไอ้น้อง

     

                    ขอให้มีชีวิตที่ สุดยอดทุกๆวันนะเพื่อนเลิฟ

     

                    อย่าแย่งนมลูกกินนะไอ้รัช

     

                    สารพัดคำพูดสองแง่สองง่ามที่กระซิบข้างหูผมทำเอาใจหายใจคว่ำ  ถ้าน้องหวานได้ยินไม่รู้เธอจะรู้สึกอย่างไร  ไอ้ที่มองผมในแง่ไม่ดีเรื่องลูกอยู่แล้ว  อาจจะพานเกลียดขี้หน้าผมไปเลยก็ได้ 

     

                    เมื่อยมั้ย  

     

                    อึดอัดมากกว่า  ชุดคับ

     

                    ผมพยายามจะไม่มองไปถึงสาเหตุที่ทำให้ชุดไทยสีครีมรัดรูปนั่นรัดแน่นเข้าไปอีก  แต่ลูกตาเจ้าปัญหามันก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบลงมามองเนินเนื้อนุ่มนิ่มที่โผล่พ้นเกาะอกในช่วงที่ไม่มีสไบคลุมขึ้นมาอวดสายตาประชาชี  อุ๊แม่เจ้า!  เลือดกำเดาจะพุ่ง  น้องหวานมองหน้าผมเขม็งก่อนจะใช้นิ้วเรียวหยิกเข้าที่ต้นแขนผมเต็มแรง 

     

                    ทะลึ่ง!” 

     

                    ทีคนอื่นมองไม่เห็นเข้าไปหยิกเขาบ้างเลย  ทีพี่มองนะหยิกเอาๆ  ผมลูบต้นแขนป้อยๆทำตัวน่าสงสารเป็นที่สุด

     

                    เพราะหวานรู้ว่าพี่วีน่ะคิดอกุศล

     

                    เปล๊า  ผมปฏิเสธเสียงสูง

     

                    ผู้ชายเหมือนกันหมดทุกคน

     

                    น้องหวานเดินหัวเสียเข้าไปข้างใน  ให้ตาย!  ผมก็แค่ตวัดสายตาผ่านนิดเดียว  เธอช่างมีเรดาร์อย่างหาตัวจับยากจริงๆ

     

                    งานดำเนินไปเรื่อยๆครับ  เราไม่ได้จัดใหญ่โตอะไร  เชิญแต่ญาติมิตรสนิทกันมาเท่านั้น  เพราะไม่อยากให้มันฉาวไปมากกว่านี้  แค่เพื่อนบ้านทั้งซอยเม้าท์กันให้แซ่ดเรื่องน้องเอิญ  ผมก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว

     

                    ก็เอาตั้งไว้บนบ่าแกเหมือนเดิมนั่นแหละ  แม่ตอกกลับมาอย่างเจ็บแสบในตอนนั้น

     

                    โธ่  แม่  ขนาดผมยังทนไม่ได้  แล้วน้องหวานจะทนไหวได้ไง

     

                หน็อย  เห็นเขาสวยหน่อยล่ะทำเป็นเห็นใจ

     

                เท่านั้นแหละครับ  ไม่มีอะไรจะเถียง  เพราะแม่พูดถูกทุกประการ

     

                    หลังงานเลี้ยงเลิกไม่กี่นาทีก็ได้ฤกษ์ส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอครับ  เนื่องจากเราจัดงานกันที่บ้าน  โต๊ะจีนก็ตั้งเต็นท์กันกลางถนนไม่เกรงใจใคร  ตอนส่งตัวก็เลยสะดวกหน่อยเพราะไม่ต้องตีรถกลับไปกลับมา  ที่สำคัญประหยัดกว่าไปจัดที่โรงแรมอีกครับ 

     

                    ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายทยอยเข้ามาอวยพรเราในห้องหอรอรัก  คุณแม่น้องหวานน้ำตาไหลพรากที่ลูกสาวได้เป็นฝั่งเป็นฝา  ป้าตะเพียนก็ไม่แตกต่างกันครับเอามือแตะหัวตาเป็นระยะๆ  ส่วนน้องเอิญที่อยู่ในอ้อมแขนของป้าแกกลับหัวเราะชอบใจใหญ่ที่พ่อจำเป็นอย่างผมจะมีเมีย  พ่อก็อยากจะหัวเราะอย่างน้องเอิญนะลูกถ้าคุณแม่คนใหม่ของหนูเขาจะอนุญาตให้พ่อปั๊มลูกมาเป็นเพื่อนเล่นกับหนูอีกสักคน

     

                ไม่นานก็เหลือเราอยู่แค่สองคน  ตั้งแต่เกิดมา...นอนเตียงเดียวกับผู้หญิงทีไรมันก็ต้องมีเรื่องให้คึกคักทุกที  แต่นี่อะไร  ทำได้แค่มองหน้ากับยิ้มให้  ผมจะผ่านคืนนี้ไปได้มั้ยเนี่ย

     

                    หวังว่าพี่วีจะไม่ลืมสัญญาของเรา  เธอส่งสายตาอำมหิตพิฆาตมารมาทางผม  จะทำอะไรได้ล่ะครับนอกจากพยักหน้าหงึกหงักไปตามระเบียบ

     

                น้องหวานเดินถือผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำหลังพูดจบ  เป็นอันว่าผมต้องทรมานกับกิเลสของตัวเองไปอีกสักพักจนกว่าน้องหวานจะอาบน้ำเสร็จ  และหลังจากนั้นผมจะไปอาบน้ำ  ปิดไฟ  นอน...จบค่ำคืนอันแสนขมขื่นของการเข้าหอ

     

                    แต่...โปรดกลับไปอ่านชื่อเรื่องอีกสักครั้งเถอะครับ

     

                    ขย่มเตียงรัก...หักคอดาร์ลิ่ง!

     

                    เรื่องขย่มเตียงรักน่ะผมไม่รู้เหมือนกันครับว่าจะได้ทำเมื่อไหร่  แต่เรื่องหักคอดาร์ลิ่งเนี่ย  ผมกำลังจะได้ทำอยู่    บัดนี้แหละ

     

                    พี่วี  มานี่หน่อย 

     

                ยุบหนอ  อย่าพองหนอ  ยุบหนอ  อย่าพองหนอ

     

                พี่วี  ได้ยินหรือเปล่า  มานี่หน่อย

     

                    อะไรอีกวะเนี่ย  ผมที่หงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกลับยิ่งหงุดหงิดใหญ่เมื่อเสียงหวานนั่นมาขัดจังหวะการทำสมาธิกำจัดตัณหาราคะในตัวเอง

     

                    ผมเดินไปหาเธอหน้าห้องน้ำ  น้องหวานออกมาด้วยชุดไทยชุดเดิม  คือผมเองก็ไม่สันทัดเรื่องเสื้อผ้าผู้หญิงหรอกนะครับ  โดยเฉพาะชุดไทยนี่อธิบายลักษณะไม่ถูกเหมือนกัน  มันคงเป็นชุดไทยสมัยเมื่อร้อยปีที่แล้วประยุกต์กับเมื่อสองร้อยปีที่แล้วอย่างไรผมเองก็ไม่ทราบได้  แต่ถ้าจะให้ช่วยถอดล่ะก็...ผมทราบครับว่าต้องทำอย่างไร

     

                    ถอดเสื้อให้หน่อย  ถอดไม่ออก

     

                    เฮ้ย!” 

     

                    ผมอุทานดังลั่น  ครั้นจะให้ช่วยถอดจริงๆมือไม้มันกลับสั่นไปหมด  ใจเต้นโครมครามราวกับไม่เคยถอดเสื้อผ้าให้ผู้หญิง 

     

                    เร็ว  อึดอัด  แน่ะ  ยังมาเร่งผมอีก

     

                    แต่น้องหวานเป็นผู้หญิง  แล้วพี่ก็เป็นผู้ชาย

     

                    เธอมองหน้าผมอย่างไม่สบอารมณ์พลางยกมือเท้าสะเอว

     

                    หวานรู้แล้ว  ว่าหวานน่ะเป็นผู้หญิง  แล้วพี่ก็เป็นผู้ชาย

     

                    เอ้า  ผู้หญิงคนนี้  มันน่าหักคอเสียจริงๆ  ก็ในเมื่อรู้แล้วยังจะมาให้ผมช่วยถอดเสื้อให้อีก 

     

                    รูดซิปเร็วสิ  หวานจะได้อาบน้ำ

     

                    เอ๊ะนี่เรา  พี่ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ  เธอทำหน้าเหมือนเพิ่งคิดออกครับว่าไม่สมควรให้ผมช่วย 

     

                    โอ๊ย  งั้นคิดว่าหวานเป็นน้องเอิญก็ได้

     

                    มันเหมือนกันซะที่ไหนล่ะหวาน

     

                    นี่เธอไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่เพื่อต้องการจะยั่วผมกันแน่เนี่ย  ถ้าไม่เกรงใจอยากจะตอกกลับไปแล้วว่า

     

                    ของหวานน่ะใหญ่กว่าของน้องเอิญตั้งเยอะ

     

                ไม่ช่วยก็ไม่ต้องช่วย  ถอดเองก็ได้  คนไม่มีน้ำใจ

     

                    ผมยอมเป็นคนไม่มีน้ำใจครับคุณเมียบังเกิดเกล้า  แต่ถ้าขืนผมถอดเสื้อผ้าให้ล่ะก็  ผมได้เป็นคนผิดสัญญาแน่ๆ

     

                    แล้วนี่ผมจะรอดมั้ยครับคืนนี้
    ==================================================
    คอมเม้นท์กันเยอะๆหน่อยน้า
    พลีส!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×