ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขย่มเตียงรัก...หักคอดาร์ลิ่ง

    ลำดับตอนที่ #2 : เกือบถึงวันน้ำ(สังข์)หลั่ง

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 51


                    เรื่องยุ่งๆมันยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้นหรอกครับ หลังจากที่ผมเพียรอธิบายให้พ่อกับแม่ฟัง ยกตรรกะมากมายมาอ้าง ชักแม่น้ำสี่ห้าร้อยสายมาบอก แต่ก็ไม่มีใครเชื่อผม ไม่มีใครเชื่อสักนิดว่าผมกับรินรตีเราไม่เคยเล่นจ้ำจี้กัน ให้ตายสิพับผ่า!
     
                    ถ้าเมียแกไม่กลับมา ฉันจะหาแม่ใหม่ให้ลูกแก นรกสิครับงานนี้ นอกจากมีลูกแบบไม่ตั้งใจ ยังพ่วงเมียจำเป็นมาด้วยอีกคน 
     
                    ก็ผมบอกแล้วไงครับแม่ว่านี่ไม่ใช่ลูกผม
     
                    ก็ถ้าไม่ใช่ลูกแก แล้วผู้หญิงเขาจะมาทิ้งไว้หน้าบ้านเราเหรอ 
     
                    มันอาจเป็นความคิดชั่ววูบไงครับแม่
     
                    แม่ทำหน้าสะอิดสะเอียนในตัวผมเต็มทน ผมทราบครับว่าผมดูเหมือนผู้ชายไร้ความรับผิดชอบ ปัดสวะให้พ้นตัว แต่ขอโทษเถอะครับ! นั่นไม่ใช่ลูกผม เข้าใจกันหน่อย!
     
                จะว่าไปผมกับรินรตีเราไม่เคยมีสัมพันธ์เกินเลยไปกว่าความเป็นเจ้านายกับลูกน้อง เธอสวยครับผมยอมรับ แต่ผมมันไม่ใช่ประเภทสมภารกินไก่วัดซะด้วยสิ เราเลยเป็นได้แค่นั้น สาบานก็ได้เอ้า ผมไม่เคยเห็นแม้แต่ขาอ่อนของเธอซักเสี้ยววินาที  แล้วอะไรคือเหตุผลที่เธอมาทิ้งลูกไว้หน้าบ้านผมแบบนี้ ผมไม่ได้เป็นครูอนุบาลกลับชาติมาเกิดซะหน่อย เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย?
     
                    แล้วนี่แกตั้งชื่อลูกหรือยัง ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ลูกผม
     
                    แม่ก็ช่วยๆตั้งให้หน่อยแล้วกันครับ 
     
                “ลูกแกก็ตั้งเองสิ
     
                    ชื่อน้องเอิญแล้วกัน เด็กวัยเพียงไม่กี่เดือนนั่นหัวเราะใหญ่
     
                    เอิญ แปลว่าอะไร เป็นมงคลหรือเปล่า 
     
                    เอิญ มาจากบังเอิญ เหมาะกับเด็กดีนี่ครับ บังเอิญแม่มาทิ้งไว้หน้าบ้านจนทุกคนบังเอิญเข้าใจว่าเป็นลูกผม ผมก็เลยบังเอิญต้องรับเลี้ยงเด็กนี่ต่อไป ท้ายประโยคผมกระแทกเสียงเพราะเก็บระงับอารมณ์ไม่อยู่ ทุกอย่างมันกดดันเกินกว่าที่จะรับไหว จนทำให้ผมไม่ทันได้คิดว่า...ทำไมไม่พาเด็กไปตรวจดีเอ็นเอ
     
                เช้าวันต่อมาแม่ยังคงมีทีท่าจะหาศรีภรรยาที่ดีให้ผมให้ได้ ท่านพยายามต่อสายถึงเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่มีลูกสาวหลานสาว หวังจะให้เกิดการดูตัวหรืออะไรเทือกนั้น คิดจะถามความเห็นผมสักนิดล่ะเป็นไม่มี ส่วนลูกกำมะลอของผมนั่นหรือครับ เพิ่งกินนมไปเมื่อสักครู่ ความจริงเด็กนี่ก็น่ารักอยู่หรอกครับ...ตาโต แก้มใส ปากนิด จมูกหน่อย เครื่องหน้าสวยเหมือนแม่ แต่เพราะเรื่องบ้าๆนี่แท้ๆทำให้ผมรักแกไม่ลง
     
                    ยังครับ ชีวิตผมยังยุ่งไม่พอ ป้าตะเพียนจับผมเข้าคอร์สคุณพ่อมือใหม่ สอนอุ้ม สอนอาบน้ำ สอนเปลี่ยนผ้าอ้อม สอน...สอน...และสอนผมในทุกเรื่องเกี่ยวกับเจ้าตัวเล็ก แถมแม่ยังบังคับให้ผมแทนตัวเองว่า พ่อเวลาพูดกับ น้องเอิญ ด้วย เอาเข้าไปครับพี่น้อง!
     
                ‘พ่อจะทำยังไงกับหนูดีครับน้องเอิญ
     
                    นับสิบวันตั้งแต่น้องเอิญมาอยู่กับผม เบอร์โทรศัพท์ติดต่อถึงรินรตีทุกเบอร์ผมโทรกระหน่ำไม่เว้นสามเวลาหลังอาหาร ที่อยู่ที่เธอเขียนไว้ตอนสมัครงานผมก็ไปมาแล้ว แต่ปรากฏเป็นเพียงแค่บ้านเช่า เจ้าของบอกว่าคนเช่าคนก่อนออกไปตั้งนานแล้ว ค้างค่าเช่าไว้อีกตั้งสามเดือน ผมเลยบังเอิญต้องจ่ายค่าเช่าให้เธออีกแน่ะ
     
                    เจ้าตัวเล็กนี่ก็โตขึ้นทุกวัน ผมเองก็ต้องทำงานกว่าจะกลับก็ค่ำมืด ป้าตะเพียนแกก็ไม่ค่อยว่าง ลำพังงานบ้านงานเรือนก็ใช้เวลาเกือบทั้งวัน คุณพ่อก็เลี้ยงเด็กไม่เป็นตามประสาผู้ชาย ส่วนคุณแม่มีภารกิจต้องไปเก็บค่าเช่าคอนโดและทวงหนี้ที่ตลาดไม่เว้นแต่ละวัน สรุปคือ...ผมคงต้องมีเมียจริงๆ
     
                    แม่ปรานีผมมากโขอยู่ครับ คราวนี้ไม่ต้องลุ้นว่าว่าที่เจ้าสาวของผมจะหน้าตาเป็นยังไง แม่มีแค็ตตาล็อกบรรดาเหล่าดรุณีทั้งหลายมาให้ดูกันถึงที่ เลือกเอาตามใจชอบ น่าจะมีโปรโมชั่นแต่งหนึ่งแถมหนึ่งด้วยนะครับ
     
                    ผมได้คุยกับแม่จริงๆจังๆในเย็นวันหนึ่งใกล้สิ้นปี เรื่องเดิมๆครับ...
     
                    ผมต้องแต่งงานจริงๆเหรอครับแม่
     
                    แววตาของแม่วูบแสงลง แม่เลี้ยงผมมาย่อมรู้ดี ผมรักอิสระ จริงอยู่ผมมีผู้หญิงเยอะ ไหลตามน้ำไปได้เรื่อยๆ พอใจก็คบด้วย เบื่อก็เลิกกันไปไร้พันธะ แต่คราวนี้อิสระกำลังจะถูกพรากออกไป ผมย่อมทนไม่ได้ พอๆกับที่แม่คงทนไม่ได้เช่นกันที่เห็นผมเศร้า
     
                    เพื่อลูกนะตารัช 
     
                    เสียงของแม่คล้ายปลอบประโลม แม่รักผมผมรู้ แต่แม่ก็รักหลานไม่น้อยไปกว่ากัน เกือบครึ่งเดือนที่น้องเอิญมาอยู่กับเรา บ้านที่เคยเงียบเหงาถูกเติมเต็มด้วยความสุข ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยกลับบ้านเพราะไปเที่ยวกลางคืนหลังเลิกงานจบด้วยค้างกับผู้หญิงสักคนแล้วก็ตื่นมาทำงานตอนเช้า ดูเหมือนเป็นผู้ชายแย่ๆคนหนึ่งใช่มั้ยครับ แต่ก็ไม่แย่พอที่จะไม่มีความรับผิดชอบ พอมีน้องเอิญผมก็กลับบ้านเร็วขึ้นมาช่วยป้าตะเพียนเลี้ยงลูก ทุกอย่างทำให้ผมเริ่มปลง บางทีฟ้าคงลิขิตให้ผมได้มาเจอกับน้องเอิญ...และเธอคนนั้น
     
                    เธอชื่ออินทรีย์ครับ ชื่อเล่นว่า หวาน ผมหัวเราะก๊ากในครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ ผู้หญิงอะไรชื่อ อิน-ซี’ น่ากลัวชะมัด แม่เล่าว่าเธอเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเพื่อนสนิทท่านเอง แต่แม่ไม่มีรูปเธอให้ดูหรอกนะครับ แม่บอกว่าคนนี้ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว ตอนแรกผมค้านหัวชนฝาเลยครับ เรื่องอะไร คนไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันจะมาตกล่องปล่องชิ้นกันได้ แต่เถียงไปก็ไร้ประโยชน์ครับ การแต่งงานควรมีขึ้นในเร็ววัน เพราะป้าตะเพียนเหนื่อยล้าเกินกว่าจะเลี้ยงน้องเอิญและทำงานบ้านไปด้วยไหว ผมเลยต้องแต่งงานต้นปีหน้า ณ ตอนนั้นก็อีกราวๆเจ็ดวันครับ!
     
                “ทำไมแกไม่หาพี่เลี้ยงเด็กวะ
     
                    ผมเอาการ์ดไปแจกเพื่อนและเล่าเรื่องอันน่าเหลือเชื่อให้ฟัง มันถามอย่างที่หลายๆคนกำลังสงสัยนั่นล่ะครับ ทำไมผมไม่จ้างพี่เลี้ยงเด็กสักคน เหตุผลอาจจะดูฟังน้ำเน่าไปหน่อยนะครับ มารดาบังเกิดเกล้าบอกกับผมว่า
     
                    เด็กขาดแม่มันจะขาดความอบอุ่น พี่เลี้ยงเด็กน่ะมันก็แค่เลี้ยงไปวันๆ แต่มันไม่เลี้ยงด้วยใจ
     
                ‘แล้วน้องหวานจะไม่มีปัญหาแน่หรือครับ
     
                    ไว้แกถามเขาเอาเองแล้วกัน
     
                ‘แล้วถ้าวันนึงรินกลับมาล่ะครับแม่
     
                    นี่แกดูไม่ออกเลยเหรอว่าแม่นั่นน่ะจงใจทิ้งเด็กไว้กับแกแบบถาวร
     
                ผมถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อย มันสายเกินกว่าที่ผมจะแก้ไขอะไรได้แล้วจริงๆ
     
                    แล้วไหนเจ้าสาววะ ไม่เห็นพามา เพื่อนผมกระเซ้า
     
                    ยังไม่เคยเห็นหน้าเหมือนกันว่ะ ผมตอบตามตรง
     
                    เฮ้ย อะไรกัน 
     
                    จริงครับ ตั้งแต่เจ๊อินทรีย์แกตกปากรับคำแต่งงานกับผม เธอก็ไม่เคยโผล่หน้ามาให้ได้ยลโฉมเลยสักครั้ง มีแต่คำบอกเล่าของแม่ว่าเจ๊แกสวยอย่างนู้นอย่างนี้ ขอให้สวยอย่างที่บอกแล้วกันครับ เพราะผมไม่อยากซวยไปมากกว่านี้
     
                    การเตรียมงานพิธีดำเนินไปอย่างรีบเร่ง ผมวิ่งวุ่นอยู่คนเดียวไร้เงาว่าที่เจ้าสาว นี่เธอไม่มีแก่ใจจะมาช่วยผมสักนิดเลยหรือ
     
                    จนเมื่อก่อนจะถึงวันงานหนึ่งวัน เบอร์แปลกหน้าก็โชว์ขึ้นหราที่หน้าจอโทรศัพท์
     
                    ขอสายคุณรัชวีค่ะ
     
                    พูดอยู่ครับ
     
                    นี่ฉันเองนะ
     
                    ฉันน่ะใครครับ
     
                “หวาน 
     
                    หวานไหนครับ
     
                    ก็หวานที่กำลังจะแต่งงานกับคุณพรุ่งนี้ไง 
     
                    เธอนัดผมให้เจอกันที่ร้านอาหารบรรยากาศดีแห่งหนึ่งครับ ผมไปตามนัดด้วยอยากรู้ว่าหน้าตาว่าที่เมียและแม่ของน้องเอิญในอนาคตจะเป็นเช่นไร ระหว่างรอก็ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ กลัวอะไรหลายๆอย่าง เป็นต้นว่า กลัวเธอจะไม่ยอมเลี้ยงลูกให้ กลัวเธอจะรับไม่ได้ กลัวเรื่องต่างๆนานา กลัวจนไม่ทันได้มองว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินตรงมายังโต๊ะที่ผมนั่งอยู่
     
                    คุณรัชวีหรือเปล่า
     
                    ผมหันขวับไปตามเสียงอย่างเร็วไวด้วยหมายมั่นว่าต้องเป็นเธอ...แม่ยอดยาหยี อินซี ของผม ภาพตรงหน้าทำให้ผมตะลึงงันไปชั่วอึดใจ แม่โกหกผมนี่ครับ เธอไม่เห็นสวยเหมือนกับที่แม่ชมเปาะ
     
                    แต่เธอ...ซูเปอร์สวยต่างหาก!
     
                    ผิวขาวอมชมพูอย่างคนสุขภาพดี คิ้วโก่งได้รูป ดวงตากลมโต ปากรูปกระจับ ผมดำมันขลับยาวสลวย หุ่นดีจนต้องน้ำลายหก แถมอกยังอึ๋มได้ใจ นี่แหละเสป็ค!
     
                “จะจ้องฉันอีกนานมั้ย
     
                    ไม่จ้องแล้วก็ได้ครับคุณ อินซี’” เธอถลึงตาใส่ พร้อมบอกอย่างชัดถ้อยชัดคำ
     
                    โปรดเข้าใจซะใหม่ ฉันชื่อ อิน-ทะ-รี
     
                    ขอโทษจ้ะ แหะๆ ผมหัวเราะแก้เก้อ หลงเข้าใจผิดมาเสียตั้งนานว่าได้เจ้าสาวชื่อแม๊นแมน
     
                    ฉันเรียกคุณว่าพี่วีแล้วกันนะ
     
                    งั้นผมเรียกคุณว่าน้องหวาน
     
                    น้องหวานถามผมเรื่องงานพิธี เธอขอโทษขอโพยพร้อมทำหน้าสำนึกผิดที่ไม่ได้มาช่วย เหตุเป็นเพราะเธอเพิ่งกลับจากอเมริกาหลังไปเรียนต่อด้านบัญชีที่เท็กซัส โอ้โฮ...ผมมีเมียดีกรีนักเรียนนอกเชียวครับ
     
                    ทำไมหวานถึงแต่งงานกับพี่ล่ะ
     
                    ประชดแฟนเก่า
     
                    หา!” อึ้งสิครับงานนี้ นี่ผมกลายเป็นเครื่องมือแก้แค้นแฟนเก่าของเธอไปแล้ว
     
                    ทำไมไม่แต่งกับคนอื่น ทำไมต้องเป็นพี่
     
                    หวานอยากมีลูก แต่ก็ไม่อยากมีกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก
     
                    ผมพยักหน้าหงึกหงักเข้าใจก่อนจะหันกลับมาสนใจกับอาหารเลิศรสตรงหน้า ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็โพล่งประโยคที่ผมไม่อยากจะได้ยินมันเลยแม้แต่น้อย
     
                    หวานอยากขอ เราอย่ามีอะไรกันเลยนะ
                    ผมสำลักข้าวทันที น้องหวานรีบรินน้ำให้อย่างเป็นห่วงเป็นใย 
     
                    แต่เราแต่งงานกันนะหวาน ผมหว่านล้อมเสียงอ่อน
     
                    หวานเข้าใจ หวานแค่ขอเวลาสักพัก
     
                    นานแค่ไหน 
     
                    จนกว่าเราจะรักกัน

    =================================================
    ช่วยคอมเม้นท์หน่อยค่ะ  จะได้รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี
    นะค๊า  T_____________________________T
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×