คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : โด่ไม่รู้ล้มเป็นเหตุ
น้องหวานเบะปากอย่างไม่ชอบใจที่ผมชนะสองครั้งรวด ฝีมือมันคนละระดับกันน่าคุณเมีย
“ถอดเลยอีกหนึ่งชิ้น” ผมเร่งเร้า
“ไม่ต้องย้ำ รู้แล้ว”
ผมเห็นน้องหวานขมวดคิ้วจนแทบจะผูกกัน เธอมองเสื้อเกาะอกทีกางเกงทีอย่างตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะเสียสละชิ้นไหน อย่ามารักพี่เสียดายน้องตอนนี้เลยน้องหวาน ถอดสักชิ้นเถอะ พี่วีขอร้อง
แล้วน้องหวานก็ค่อยๆปลดกระดุมกางเกงยีนส์ออก เสียงรูดซิปดังก้องขึ้นในโสตประสาทเล่นเอาขนลุกซู่ จากนั้นภาพตรงหน้าก็ทำให้ผมเริ่มหายใจติดขัดอีกครั้ง ติดขัดจนไม่อยากจะหายใจอีกต่อไปเลยล่ะครับ
ก็น้องหวานดันมีกางเกงขาสั้นข้างในอีกตัว!
เขาออกมารณรงค์ช่วยโลกเลี่ยงปัญหาโกลบอลวอร์มมิ่งกันออกจะครึกโครม ก็รู้อยู่ว่าอุณหภูมิมันร้อนขึ้นๆทุกวัน ยังจะมาใส่เสื้อใส่ผ้าเสียหลายตัว เปลืองผงซักฟอกน่ะรู้บ้างมั้ยคุณเมีย ยุคสมัยนี้เขาต้องซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยนะครับ
“ใส่เยอะอย่างนี้นี่เองถึงชวนพี่เล่นแบบนี้ เจ้าเล่ห์นักนะเรา”
“เขาเรียกว่าพร้อมทุกสถานการณ์ต่างหาก” ขอให้พร้อมไปได้ตลอดรอดฝั่งนะครับคุณเมีย
เราเริ่มเกมกันอีกยก ครั้งนี้ล่ะที่ผมหมายมั่นปั้นมือว่าอย่างน้อยก็น่าจะเห็นไม่ข้างบนก็ข้างล่าง หรือไม่ผมก็คงได้ถอดเสื้อยืดที่ใส่อยู่นี่ออก ดีเหมือนกันครับ เพราะผมก็อยากโชว์อกสามศอกที่รอเธอมาซบเสียเหลือเกิน
“ยำยิงเยาปั๊กกะเป่ายิงฉุบ” ครั้งเดียวจบ ไม่ซ้ำ
น้องหวานออกกระดาษ ผมออก...ค้อน
ผมแพ้! ไม่เป็นไรครับ ยังมีโอกาสให้ได้แก้ตัวกันอีกหลายยก
“ถอดเดี๋ยวนี้เลย”
“อยากเห็นล่ะสิท่า” ผมยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ตัวเองก็อยากเห็นของเค้าเหมือนกันล่ะสิ” น้องหวานเชิดหน้าสี่สิบห้าองศาใส่ผม
“อยากสิ ไม่งั้นไม่เล่นหรอก ชวนเล่นอะไรก็ไม่รู้ ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้”
“งั้นเลิกเล่นแล้ว”
อยู่ดีๆน้องหวานก็งอนขึ้นมาเสียเฉยๆ โธ่! นึกว่าจะได้เห็นแล้วเชียว นอกจากไม่ได้เห็นแล้วยังไม่ได้โชว์อกสามศอกให้เธอดูอีกต่างหาก ขาดทุนอีกแล้วครับ ยิ่งรู้จักกับน้องหวานผมก็ยิ่งขาดทุนย่อยยับ
“อย่างอนเลยน่า มาเล่นกันต่อเถอะ” เห็นใจผมหน่อยสิครับคุณนายอินทรีย์(ชื่อจริงน้องหวานครับเผื่อคุณผู้อ่านจะลืม)
“ไม่เล่น”
“พี่ยังไม่ได้ถอดเลยนะ หวานไม่อยากดูเหรอ เล่นกันต่อเถอะ”
“ไม่”
“ก็ได้ๆ ไม่เล่นก็ไม่เล่น งั้นพี่ไปออฟฟิศดีกว่า เดี๋ยวเย็นๆจะกลับ”
ผมหยิบกุญแจรถทำท่าจะเดินออกไปจริงๆตามที่ปากว่า ในใจไม่ได้คิดแผนกงแผนการอะไรหรอกนะครับ แต่ไม่นึกว่าแม้ไม่มีแผนมันกลับพลิกผันให้สถานการณ์ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิมอีก
“เดี๋ยว งั้นเปลี่ยนเกม ไม่เล่นเป่ายิงฉุบแล้ว เล่นไพ่อีแก่กัน”
“อีแก่กินน้ำเหรอ”
“ไม่ใช่ อีแก่กินยาดองต่างหาก”
ยาดอง! สำนึกรู้ของผมตอนนี้คือเธอชวนผมเล่นไพ่อีแก่ และใครแพ้ต้องกินยาดอง! ไอ้ผมก็ไม่ถูกกับมันซะด้วยสิ แต่ได้ยินว่าเห็นมีสูตรม้ากระทืบโลง มีสรรพคุณทำให้อะไรที่ไม่โด่ มันจะโด่ขึ้นมาแบบไม่รู้ล้มเลยล่ะ น้องหวานเธอจะพนันกันด้วยยาดองสูตรนี้หรือเปล่านะ
“ว่าไง จะเล่นมั้ย” ใครจะปฏิเสธล่ะครับคุณเมีย บอกแล้วว่าผมไม่ได้ไม่เสียอยู่แล้วทุกกรณี
“เล่นแน่นอน ว่าแต่จะไปเอายาดองมาจากไหน”
“ของคุณพ่อพี่วีไง มีเป็นโหลๆ”
โห! ของคุณพ่อน่ะสูตรเด็ดเคล็ดลับฉบับสุดยอดม้ากระทืบโลงเลยนะ เป็นไงเป็นกันครับงานนี้ นอกจากจะได้กินยาดองของแปลกแล้ว อาจจะได้เสียกับเมียตัวเองเพราะฤทธิ์ของมันด้วย เห็นมั้ยครับว่ามีแต่ได้กับได้
น้องหวานลงไปข้างล่างสักครู่แล้วก็กลับขึ้นมาอย่างเร็วไวพร้อมด้วยยาดองหนึ่งโหลใหญ่ สีเหลืองประหลาดของมันเริ่มทำให้ผมหวั่นไหว จะรอดมั้ยเนี่ย
ยกแรกเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัดจนน่าวังเวง น้องหวานและผมต่างมีสมาธิจดใจอยู่กับไพ่ในมือ ไม่มีใครยอมใคร ไม่มีการออมมือให้ มีแต่ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ใครพลาด...เมาแน่
ดูเหมือนเกมนี้น้องหวานจะถนัดเป็นพิเศษ ยกแรกเธอจึงเอาชนะผมได้อย่างสบายๆ พี่ต่อให้หรอกน้องหวาน อย่าเพิ่งดีใจไปล่ะ
“หนึ่งจอก”
เธอส่งแก้วเล็กเท่าสองข้อนิ้วชี้มีน้ำสีเหลืองหม่นๆอยู่เกือบเต็มมาให้ ผมรู้สึกขยาดกับมันเล็กน้อย ภาพในวันวานยังคงฝังลึกอยู่ใต้ก้นบึ้งของหัวใจ ก็ผมน่ะกินทีไรไม่เกินห้าแก้วไม่แคล้วต้องล้มคอพับคออ่อนทุกที
ผมสูดลมเข้าปอดอย่างเต็มที่ก่อนจะกระดกรวดทีเดียวหมดแก้ว เอาวะ! ตายเป็นตาย
ยกต่อมาไม่ต้องเดาเลยครับ ผมแพ้อีกตามเคย แพ้ด้วยเจ็ดดอกจิกนี่แหละ
“อีกจอก”
หลังจากยาดองจอกที่สองผ่านปากลงไปจนถึงท้อง ผมก็เริ่มมีอาการมึนๆ คล้ายกับว่ากำลังเมากึ่มๆได้ที่ แถมยังรู้สึกแปลกๆตรงช่วงหว่างขาจนน่าเสียวไส้
“สองจอกแค่นี้ มึนแล้วเหรอพี่วี”
มึนน่ะไม่เท่าไหร่หรอกคุณเมีย แต่มันเริ่มมีอาการอย่างอื่นด้วยนี่สิ
เราเล่นกันต่อครับ น้องหวานดูจะสะใจเหลือเกินที่เห็นผมพลาดท่า แต่ก็ดีใจได้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ เพราะยกนี้ผมชนะ
“หมดแก้ว หมดแก้ว” ผมร้องเชียร์อย่างสมใจ หน้าตาแบบคุณเมียผมนี่ไม่ต้องถึงแก้วหรอกครับ แค่หนึ่งส่วนสี่ก็น่าจะเมาจนเดินไม่ตรงแล้ว
น้องหวานทำหน้าเหยเกเพียงแค่ได้จิบน้ำสีเหลืองรสชาติเฝื่อนลิ้นนั้น ผมแอบอมยิ้มในใจ ถึงทีพี่วีบ้างล่ะน้องหวาน คราวนี้จะได้ชิมกันซักทีว่าหวานหรือไม่หวาน...หึหึ
“หวาน คออ่อนจัง แค่นี้ก็เมาแล้วเหรอ” เธอตวัดสายตาพิฆาตมารมาทางผมก่อนจะกระดกแก้วรวดเดียวหมดจอกอย่างที่ผมต้องการ ผมลอบแสยะยิ้มกับตัวเอง หึหึ เสร็จแน่คุณเมีย!
แล้วสักพักทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนการอันชั่วร้ายที่ผมได้ตั้งไว้ น้องหวานมีอาการมึนๆ ผมเองก็เริ่มเมาๆ คนมึนกับคนเมามาเจอกัน แถมยังนอนอยู่บนเตียงสองต่อสอง อะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ยี่สิบนาทีถัดมาหลังจากที่ผมกับเธอเล่นไพ่กันไปอีกสองเกม ผลปรากฏว่าเธอแพ้ทั้งสองยกต้องซดไปอีกสองจอก เล่นเอาน้องหวานมึนหนัก ตาปรือแทบปิด...และต่อจากนั้นไม่กี่วิเธอก็ฟุบคาเตียง
ได้เวลาสนุกแล้วซี...ได้เวลาสนุกแล้วซี
ผมเก็บไพ่ไว้ในสำรับตามเดิม แล้วหันไปจัดการกับโหลยาดองที่น้ำสีเหลืองในนั้นพร่องไปไม่เท่าไหร่ ต้องขอบคุณยาดองและคนบนฟ้าที่อุตส่าห์ช่วยดลใจให้น้องหวานคิดเกมนี้ออก
จัดการอะไรเสร็จสรรพ ก็ถึงเวลาที่ผมตั้งตารอคอย น้องหวานหลับพริ้มไม่ได้สติอยู่บนเตียงนุ่ม เสื้อสายเดี่ยวปิดบังอะไรได้ไม่มิดนัก ยิ่งเข้าใกล้กลิ่นหอมหวานที่คุ้นเคยก็ยิ่งชัดขึ้น จากเดิมที่คิดแค่ว่าจะแหย่เล่นนิดๆหน่อยๆ พอให้ได้รู้รสว่าเธอหวานสมชื่อหรือไม่ แต่ตอนนี้เห็นทีสติที่ไม่สามารถควบคุมได้จะสั่งการให้ทำอะไรๆที่มากกว่านั้น
ผมใช้นิ้วชี้เขี่ยสายเดี่ยวที่คล้องอยู่บนบ่าน้องหวานออกไป เนินไหล่นวลเนียนอวดโฉมอยู่ตรงหน้าคล้ายจะยั่วให้สัมผัส ใจผมเต้นแรง ความคิดหนึ่งแล่นวูบขึ้นมาในสมอง นี่ผมกำลังจะทำมิดีมิร้ายกับเมียตัวเองทั้งที่เธอปราศจากซึ่งสติสัมปชัญญะหรือนี่
ความละอายใจฉายชัดในดวงตาของผม คงเพราะฤทธิ์ของยาดองเป็นแน่แท้ที่ทำให้ผมมีความคิดบ้าๆอย่างนี้ ไม่น่าเลย...ไม่น่าเลยจริงๆ
ผมดึงสายเล็กๆของตัวเสื้อให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม มองดูใบหน้างามนั้นด้วยความสำนึกผิดอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แต่ยังไม่ทันจะที่บั้นท้ายจะยกขึ้นจากฟูกนิ่มๆนั้น มือของน้องหวานก็จับหมับเข้าที่ข้อมือผม
“อย่าทิ้งหวานไป อย่าทิ้งหวาน”
เสียงน้องหวานอู้อี้อยู่ในลำคอ ผมหันไปมองเธออีกครั้งก็พบว่าเธอก็กำลังปรือตามองผมอยู่เช่นกัน
“อย่าทิ้งหวาน อย่าทิ้งหวานนะ”
ปากบางๆสีแดงอมชมพูขยับพูดไม่หยุด แล้วเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดอีกครั้ง...
น้องหวานยันตัวขึ้นมาโน้มคอผมลงไปจูบปากกับเธอ แต่แค่ประกบครับ ไม่ได้ดื่มด่ำเหมือนครั้งก่อนที่เราจุมพิตกัน และผมเองก็ยังตกใจที่คุณเมียมาเริ่มเกมรักตอนบ่ายแก่ๆอย่างนี้ จึงยังไม่ได้ตอบสนองกับเรียวปากนุ่มนิ่มนั้น
“สัญญาสิ ว่าจะไม่ทิ้งหวานเหมือนเมื่อก่อน สัญญา”
ยิ่งเธอพูดอย่างนี้ผมยิ่งไม่มีอารมณ์เลยครับ ความสงสัยมันพุ่งปรี๊ดขึ้นมาแทนที่ความเสียวซ่าน เมื่อก่อน...เธอพูดว่าเมื่อก่อน...แปลว่าเราเคยเจอกันก่อนหน้านี้เหรอครับ เฮ้ย! แล้วผมไปทิ้งเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ
แต่ช้าก่อนครับ...อย่าเพิ่งไปสนใจคำพูดของเธอ
คุณผู้อ่านช่วยโปรดระลึกไว้เสมอตั้งแต่ ณ วินาทีนี้เป็นต้นไปเลยนะครับว่าผมเมายาดอง และทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์ของมัน ผมไม่ได้ตั้งใจ...ไม่ได้แม้แต่จะคิดเลยว่าเรื่องมันจะเป็นไปในทำนองนี้
ต่อนะครับ...ทำใจดีๆไว้นะคุณผู้อ่าน
น้องหวานเพียรพูดย้ำกับผมหลายรอบเรื่องที่ให้ผมสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเธอไป ผมจึงจำใจต้องกระซิบชิดริมฝีปากของเธอยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าต่อให้ฟ้าจะผ่าลงมาผมก็ไม่ทิ้งเธอแน่ๆ คุณเมียพึมพำอะไรสักอย่างที่ผมจับใจความไม่ได้ก่อนจะบดเบียดเรียวปากเข้ามา...ยั่วพี่เองนะน้องหวาน พี่ไม่ผิด
ผมซอกซอนชิมรสความหวานจากเธอจนอิ่มพลางเอามือละไล้ไปจนทั่วสรรพางค์กาย ไม่นานสายเดี่ยวตัวจิ๋วก็หลุดออกไปอย่างง่ายดาย เนินอกอวบเต่งตึงช่างเย้ายวนเกินกว่าที่ผมจะห้ามใจ ยิ่งได้สัมผัสเต็มฝ่ามือ อารมณ์ก็ยิ่งกระเจิดกระเจิง ทีแรกก็ว่าคุมไม่อยู่ตอนนี้ชักจะกู่ไม่กลับแล้วครับ
เกมรักร้อนแรงดำเนินขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมปลดตะขอบราออกก่อนจะเหวี่ยงมันลงข้างเตียง สิ่งที่ปรากฏตรงหน้ายิ่งทำให้ผมหยุดไม่ได้ ริมฝีปากเข้าครอบครองเนื้อนุ่มนิ่มนั้นอย่างหลงใหล ยิ่งผมต้องการอยากจะสมรักกับเธอมากเท่าไหร่ อาการแปลกๆบางอย่างก็ทำให้ผมเปลี่ยนจากเมาเป็นมึนหนัก...
หลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว ยิ่งพยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้นก็ยิ่งปวดหัว แล้วผมก็เริ่มเอะใจเมื่อเห็นสภาพเปลือยเปล่าของตัวเอง หันไปมองน้องหวานที่นอนอยู่ข้างๆก็พบว่าเธอมีสภาพไม่ต่างกัน
ผมแก้ผ้า น้องหวานก็ไม่มีเสื้อผ้าติดกายสักชิ้น แถมยังมีร้อยจูบแดงๆของผมทั่วตัวเธอ
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ
นี่ผมกับน้องหวานเรา...กันแล้วเหรอ?!
==========================================
comment me please
ความคิดเห็น