ปลายฝนต้นหนาว ที่ 18 September 2014
พลันใดที่ได้ลงเรือบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติ เมืองโอ๊คแลนด์ การได้มาเยือนดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาวครั้งนี้ ฉันมาในคราบนักเรียนมาเรียนภาษาก่อนสี่เดือน แต่มีระยะเวลาวีซ่านักเรียนอยู่ได้หกเดือน ด้วยคำแนะนำของพี่สาวคนหนึ่งที่ครั้งหนึ่งได้พบกันในในการจัดงานให้คำแนะนำเด็กWAH จากที่เราได้ตกลงกันแล้ว ก็เพื่อเตรียมตัวรอขอ working holiday scheme ที่ฉันดันได้ตัวสำรองมาที่ไม่มีทางรู้ล่วงหน้าเลยว่าฉันจะมีสิทธิขอวีซ่าภายนอกประเทศได้ไหม ก็ต้องลองเสี่ยงมาลัยแห่งรักดูกันล่ะ
เดินทางหมื่นลี้ ก็ต้องเริ่มจากก้าวแรก ไฉนเลยเล่าจะได้ไปถึงที่หมายกัน
เมื่อฉันนั้นทนกับความกดดันจากการว่างงานนานๆไม่ได้ จำเลยต้องออกเดินทางหนีออกจากบ้านอีกครั้ง ไม่เข้าใจแม่จริงๆทำไมถึงไม่อยากให้ลูกทำงานประจำนะ ทั้งที่อุตส่าห์ได้งานเป็นพนักงานต้อนรับที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งแถวสาธร แล้วแท้ๆ สวัสดิการก็ดี เงินเดือนก็เริ่มต้นขั้นต่ำ ที่ไม่ได้ถูกกดอะไรมากมาย เพื่อนร่วมงานก็เป็นมิตรดี ไหงมากดดันให้ลูกต้องออกจากงานเพราะทำงานเป็นกะ ทั้งที่งานก็ไม่ได้หนักอะไรด้วยความเป็นห่วงของแม่ แต่แม่กลับสนับสนุนให้ลูกได้เดินทางไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก ทำงานแรงงาน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืน ไม่เข้าใจจริงๆ
Homestay with Kiwi family
ก่อนที่จะตัดสินใจหนีมาทำเรื่องเรียนภาษา พี่พิมได้ติดต่อที่พักแบบโฮมสเตย์ให้อยู่ชั่วคราว หนึ่งเดือน ขับรถพาฉันมาส่งที่ บ้านเลขที่ 2/130 Williamson Avenue , GreyLynn เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว อาศัยอยู่กับโฮสต์แม่กับลูกสาวอยู่กันตามลำพังสองคน มีห้องนอนส่วนตัวซึ่งเดิมทีคงเป็นของลูกสาวที่ชื่อจูลี่ แต่เขาเอามาให้เราเช่าพักในราคา NZ$1210 รวมค่าอาหารการกินอย่างน้อยสองมื้อ
วันแรกที่ได้เดินทางมาถึง ไม่ได้พักผ่อนหลังจากการเดินทางอันยาวนานบนเครื่องกว่าสิบชั่วโมง ก็ต้องเก็บของเข้าห้องพัก แล้วออกไปกับสองแม่ลูก เพื่อที่จะไปดูการแข่งขันกีฬาฮอกกี้ของจูลี่ ด้วยความอ่อนล้าของร่างกายที่ไม่ได้พักอย่างเต็มที่บนเครื่อง ฉันไม่รู้สึกถึงความสนุกเลย ทั้งที่คนอื่นต่างตะโกนโวกเวกเชียร์กันลั่นสนาม อันที่จริงมันเป็นการละเล่นกีฬาระหว่างเด็กมัธยม ฉันเลยแอบไปเดินเล่นอยู่คนเดียวรอบๆบริเวณคลายความเบื่อ ได้พบกับผู้คนมากมายที่เป็นเพื่อนโฮสต์แม่ที่ต่างพาลูกสาวเขามาแข่งกัน ฉันไม่ค่อยสนใจกีฬาเท่าไหร่ แต่พอจะทราบผลสรุปของการแข่งขัน ปรากฏว่าทีมจูลี่แพ้ให้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างหน้าเสียเลย ก่อนเดินทางกลับที่พัก พวกเราแวะทานบะหมี่น้ำ กับเป็ดย่าง หมูกรอบกัน ช่างเป็นอาหารมื้อแรกที่ไม่เลว วันนี้เหนื่อยพอแล้ว และหนทางของวีซ่านี้ยังอีกยาวไกล ไฉนเลยขอพักหลับเป็นตายก่อนล่ะกัน กู้ดไนท์โอ๊คแลนด์
หลังจากนั้นหนึ่งเดือน
ฉันขอย้ายออกไปหาที่อยู่เอง เพราะราคาบ้านเช่าในแต่ละวีคที่สูงเอาการ และตอนนั้นฉันยังไม่ได้ทำงานอะไรด้วย นอกจากเรียนอย่างเดียว ถ้าฉันจะอยู่ต่อโฮสต์แม่ก็จะให้ราคาบ้าน NZ$240 per week แต่อย่าลืมว่ามีห้องส่วนตัว และรวมค่าน้ำค่าไฟค่าอินเตอร์เน็ต และบางทีคงมีอาหารให้ด้วยสักมื้อ ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตาม ฉันก็ขอย้ายออกล่ะกัน
แล้วจะไปอยู่ไหนล่ะ?
รู้อะไรกันไหมว่าที่นิวซีแลนด์มีหนึ่งเวบไซต์ที่เป็นที่นิยมเหมือนกับ GUMTREE ด้วย เป็นแหล่งรวมหาบ้านเช่า หางาน ขายของ หาเพื่อนหาแฟน เพื่อที่จะวางแผนชีวิตที่จะอยู่ประเทศนี้ต่อไป ก็ไปคิดกันเอาเองล่ะกันเนอะ ฉันเริ่มค้นหาข้อมูลที่ http://www.trademe.co.nz เพื่อลองหาเพื่อนร่วมห้องมาช่วยกันแชร์ค่าห้อง ส่วนเรื่องของราคาจะอยู่ที่ประมาณ NZ$110-135 นี่คือราคาที่นอนอยู่ในห้องเดียวกันสองสามคน อาจจะต้องแบ่งเตียงกันนอนด้วย อยู่ตามอาพารต์เม้นต์ หรือบ้านสไตล์หอพัก มีห้องน้ำ ห้องครัวรวม หรือถ้าคุณมีงบประมาณมากกว่านี้ ประมาณ NZ$150 ขึ้นไป ความเป็นอยู่ก็จะดีขึ้นหน่อย คือมีห้องแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวเล็กๆ หรือไม่ก็อาจจะมีเตียงเป็นของตัวเองไม่ต้องไปแบ่งพื้นที่นอนกับใคร
เอาที่สบายใจล่ะกันนะ
Volt apt (shared room or bed - short term)
ส่วนฉันเป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยเรื่องมาก อยู่แบบไหนก็ได้ขอแบบถูกๆไว้ก่อน ก็เลยไปจับพลัดจับพลูได้มาอยู่ที่ ตึกVOLT apartment 430 Queen street อยู่ใจกลางเมืองเลย การเดินทางค่อนข้างสะดวก สามารถเดินไปกลับโรงเรียนภาษาได้ แค่ห้านาที ตอนนั้นได้ราคาประมาณ NZ$125 per week อยู่ร่วมกับคนอินเดีย อยากจะเตือนว่า การหาบ้านในเวบไซต์คนเดียลงมาโพสไว้เยอะมาก ร้อยละห้าสิบก็ต้องสุ่มเจอคนกลุ่มนี้ไว้ก่อน ซึ่งช่วงนั้นฉันรีบหาบ้านมาก ก็เลยต้องตกที่นั่งลำบากแบบนี้ ยังดีว่าบ้านนี้ไม่กินกะหรี่หรือเครื่องเทศในตัวมากนัก เป็นบ้านค่อนข้างสะอาด อากาศถ่ายเท โดยรวมก็ไม่ได้เลวร้ายมากหรอก เหมือนที่เพื่อนคนไทยได้บอกไว้ว่า ถ้าเจองูกับแขกให้ตีแขกก่อน ฉันก็คิดว่าจะอยู่มาเรื่อยๆเพราะดูไม่น่ามีปัญหาอะไร มีคีย์การ์ดเข้าตึกได้ตลอด มีสระว่ายน้ำ ห้องอบซาวน่าและฟิตเนสด้วย แต่พื้นที่ในเมืองค่อนข้างเล็ก สระว่ายน้ำเลยแคบยิ่งกว่าท่อระบายน้ำ ไม่รู้จะสร้างทำไมถ้าจะเล่นซ่ะแคบขนาดพอดีตัวแบบนี้ ไม่ขอเปรียบเทียบกับสระว่ายน้ำที่ในตัวเมืองซิดนี่ย์ ดูดีกว่ากันเยอะมาก เอาเถอะอยากทำอะไรก็ทำกันเถอะ ฉันเข้าใจสภาพการณ์แบบนี้
และแล้วก็ถึงเวลาย้ายบ้านอีกครั้ง
Empire apt (contract 6 months)
เมื่อฉันได้มีคอนเนกชั่นมากขึ้น หรือได้มารู้จักกับเพื่อนเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ได้มาเรียนได้มาทำงานที่ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง ฉันได้พบกับเพื่อนๆคนไทยที่จะมาเป็นรูมเมทร่วมกันแล้วเราจะมาเซ็นต์สัญญาบ้านเช่ากันเอง หกเดือนนับจากนี้ ที่ EMPIRE apartment 21A Whitaker Place, Grafton , Symond street มันดีตรงที่ได้มีเพื่อนชาติเดียวกัน แม้ฉันจะต้องแชร์ห้องกับเพื่อนผู้ชายก็ตาม แต่พวกเราสนิทมักคุ้นกันพอสมควรจากการที่ได้ทำงานที่เดียวกัน แล้วแบบต้องหาบ้านในเวลาเดียวกันก็เลยตัดสินใจมาอยู่ร่วมกันเลย เพื่อนผู้ชายที่เป็นเหมือนเพื่อนสาวสองสามคน คนหนึ่งแปลงเพศแล้วจ้า ส่วนอีกสองคนเป็นตุ๊ดและเกย์ สรุปแล้วไม่มีผู้ชายแท้ๆสักคนจ้า อ่อแล้วภายในบ้านยังมีพี่ที่เป็นผู้หญิงจริงๆอีกคนหนึ่งกับฉัน รวมกันเราอยู่ห้าคน ภายในห้องสามห้องนอน สองห้องน้ำ รวมห้องครัวกับห้องนั่งเล่นด้วยกัน มีทำความสะอาดให้ทุกวันเสาร์ แต่ก็ได้รวมค่าทำความสะอาดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว มีค่าธรรมเนียมแรกเข้ากับค่าทำความสะอาดรวม NZ$600 คือราคานี้เสียเปล่าเลย มีค่าบอนด์ต่างหากประมาณ NZ$2100 รวมค่าคีย์การ์ดเข้าตึกสามสี่อัน ถ้าทำหายเขาจะหักจากตรงนี้ แต่เวลาย้ายออกหรือหมดสัญญาจะได้คืน แล้วก็จะมีค่าเช่าห้องอีก จ่ายเป็นวีคๆไป ตกวีคละ NZ$580 รวมค่าน้ำค่าไฟ แต่ถ้าอยากได้ค่าอินเตอร์เน็ตก็ต้องเสียเพิ่มตามจำนวนGB ก็ในอาทิตย์หนึ่ง ก็เสียกันอยู่ที่ประมาณ NZ$640 ฉันเป็นคนนำเงินมาจ่ายค่าบ้านทุกวีคด้วยความไว้วางใจจากเพื่อนๆ พวกเราห้าคนจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตคนละ NZ$4 ช่วงที่พวกเราทำสัญญาช่วงแรกๆได้รับโปรโมชั่นพิเศษ NZ$620 including internet ถูกลงวีคล่ะ NZ$10 per week ในแต่ละคนก็จะเสียค่าเช่าบ้านคนละ NZ$110-120 ไม่รวมอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มมา $4 ส่วนพี่สาวอีกคนหนึ่งเขาเช่าห้องอยู่คนเดียวเลย อยู่ที่ราคา NZ$160
สภาพห้องค่อนข้างสะอาด อาพาร์ตเม็นต์แบบให้นักเรียนเช่า ก็เลยไม่จำเป็นต้องมีสัญญายาวเป็นปีเหมือนที่อื่นๆ มีฮีสเตอร์ให้ทุกห้อง แต่ถ้าค่าไฟเกิน 60 U ต้องเสียเพิ่มแต่ก็ไม่เคยมีห้องไหนเกินนะ มีเครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้าแบบหยอดเหรียญ ครั้งละ NZ$ 3
หกเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก
ถึงเวลาที่เพื่อนสาวสองคนของฉันต้องกลับไทยเพราะหมดวีซ่านักเรียนแล้ว ความเป็นอยู่ที่แสนสบายและเป็นกันเองกำลังจะหมดไปเมื่อฉันต้องย้ายบ้านใหม่ ไปทำสัญญาเช่าห้องกับรูบี้ เป็นเหมือนเอเย่นซี่ คนเวียดนามที่ทำเรื่องติดต่อบ้านให้ไม่ต้องผ่านเวบ มีสัญญาอยู่สามเดือน และเงื่อนไขแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน นายหน้าคนนี้เธอฉลาดมีวิธีการพูดที่นุ่มๆ แต่เฉียบคมมาก ความจริงไม่จำเป็นเลยที่ต้องมีค่าธรรมเนียมการเข้า มีค่าทำความสะอาด NZ$ 30 ต่อสัญญา มีค่าบอนด์แล้วแต่นางจะเรียกเก็บ นางเป็นคนที่ค่อนข้างทริกกี้จู้จี้หรือมีลูกเล่นพอควร
ฉันได้ทำการตกลงเช่าบ้าน เริ่มจากที่นี่...
level 3/ 106 room, 3 Exmouth street, Eden Terrace (Dormitory/flat apt)
ลักษณะบ้านเช่าเป็นสไตล์หอพักสามชั้น เตียงเป็นเตียงสองชั้น ห้องหนึ่งอยู่สามสี่คน มีห้องน้ำชั้นละห้อง มีเครื่องซักผ้าเครื่องเดียวเก่าๆ บางห้องมีระเบียงไว้ตากผ้า บางห้องที่ไม่มีก็จะมีที่ตากผ้าให้ แต่ไม่ค่อยโปร่ง เพราะเป็นเหมือนที่จอดรถคล้ายๆห้องแถวประมาณนั้น บ้านไม่ค่อยสะอาดแต่ก็พออยู่ได้ คนส่วนใหญ่อยู่ก็เพราะสัญญา ไม่อย่างนันก็จะไม่ได้ค่าบอนด์คืน ฉันจ่ายค่าเช่าบ้านประมาณ NZ$120 ต่ออาทิตย์ รวมค่าน้ำค่าไฟค่าอินเตอร์เน็ต
ช่วงแรกๆรู้สึกหายใจหายคอไม่สะดวก แบบใจหายที่บ้านที่เคยอยู่แบบสบายๆกำลังหายไปแล้วตอนนี้ต้องมาแบ่งพื้นที่กันอยู่แน่นขนัด อึดอัดยัดเยียดกันอยู่ห้องละสี่คน คล้ายๆแบ็คแพ็คเกอร์ แต่ตอนนี้ฉันชินชาแล้วล่ะที่จะอยู่แบบนี้ โชคดีที่ได้มีเพื่อนคนไทยที่เป็น working holiday เหมือนกันอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งคนนี้เป็นเพื่อนของเพื่อนแอ้ม คนที่เคยสัญญาว่าจะมานิวซีแลนด์ด้วยกัน และเป็นคนที่แนะนำฉันให้ได้รู้จักกับวีซ่านี้ ไม่นานนักแอ้มก็มาสมทบบ้านนี้สักอาทิตย์แล้วก็ย้ายออกไป ไม่ค่อยมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันมากนัก ต่างคนต่างจุดหมายปลายทาง แต่แค่เรามีอุดมการณ์ร่วมกันในการมาครั้งนี้
อย่างน้อยฉันก็มีเพื่อนที่พอรู้จักมักคุ้นบ้างล่ะน่ะ ก็ยังดี
ถึงเวลาที่ต้องย้ายบ้านอีกแล้วสินะ
เมื่อฉันกับเจ้าของบ้านเกิดมีปากเสียงกันนิดหน่อย เพราะความจู้จี้จุกจิกของนาง ซึ่งทำให้ฉันจับพลัดจับพลูไปอยู่ที่ YWCA ตามคำแนะนำของมายา รูมเมทที่เคยอยู่ด้วยกัน เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนรุ่นแม่อายุราวห้าสิบแล้ว แต่นางมาหาบ้านเช่าถูกๆ
โฮสเทลเฉพาะสตรีล้วน ต่างจากYMCA ที่อยู่กันแบบคละ
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ใคร แต่อยู่ที่ตัวเอง
เพราะปัญหาฉันคือเข้ากับใครไม่ค่อยได้ จึงอยู่ร่วมกันลำบาก ทั้งที่ตัวฉันไม่ได้แคร์ใครอะไรมากนัก แต่กฎระเบียบก็คือสิ่งที่คนอยู่ร่วมกันต้องปฎิบัติตาม แต่คนที่เป็นเจ้าของบ้านเช่าก็ไม่ควรมาก้าวก่ายผู้เช่ามากเกินไปขนาดนี้ เขาแค่ได้บอกว่าเป็นสิทธิเจ้าของ ฉันไม่อยู่ก็ได้ ออกก็ออก ซึ่งตอนนั้นหาที่ไหนไม่ได้แล้วจริงๆ เลยตัดสินใจเช่าห้องของตัวเองที่เป็นโฮสเทล แบบที่พวกแบ็กแพ็กเกอร์เขาอยู่กัน ส่วนใหญ่ห้องเช่าแบบนี้จะราคาสูงกว่าห้องแบ่งเช่าตามอพาร์ตเมนต์ ฉันได้ห้องขนาดพอดีตัว มีเตียงเดี่ยว ตู้เย็นเล็กๆ ที่ไม่เย็นเท่าไหร่ มีฮีตเตอร์ที่เปิดเฉพาะหน้าหนาว มีโต๊ะเขียนหนังสือและชั้นวางของ ห้องน้ำรวมแยกอยู่นอกห้อง ทำความสะอาดตลอดแบ่งเป็นสองช่วง และห้องครัว ห้องอาหารกว้าง เปิดโล่งอยู่ด้านล่างตรงรีเซปชั่น มีลิฟต์สะดวกแก่การขนย้าย และขึ้นลง
ส่วนเรื่องราคาก็แล้วแต่ปี ซึ่งก็ราคาขึ้นตลอดเวลา ช่วงที่ฉันอยู่จะตกราคาวีคละ $189 / week + bond 2 weeks in advance (เท่าที่รู้กันคือ ค่าเช่าล่วงหน้าไ้ด้คืนเต็มๆ) ไม่รวมค่าอินเตอร์เน็ต มีสัญญาเช่าสั้นๆอยู่แค่สองวีคแรกเท่านั้น
โดยรวมถือว่าไม่เลวทีเดียวสำหรับคนชอบใช้ชีวิตตามลำพัง แต่ค่อนข้างเงียบเหงาเกินไปนิดนึง ถึงฉันจะไม่ชอบสังคม แต่ก็ไม่ชอบอยู่คนเดียวมากนัก เลยตัดสินใจย้ายออกหลังจากหมดสัญญาสองสัปดาห์ แล้วจากนี้ไปจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ?
New Zealand Radio building (Studio room)
อยู่กับเจ้าของคนเวียดนามคนเดิม เพิ่มเติมคือต้องทนอยู่เพราะการหาบ้านเช่าที่ราคาไม่แพงมาก และรูมเมทไม่ใช่อินเดียช่างยากเย็นนัก ในโอ๊คแลนด์ ฉันย้ายออกไปอยู่ในตึกเรดิโอ level 4 , 171 Hobson street, CBD Auckland เป็นห้องแบ่งเช่าจากออฟฟิศที่มีครัวเล็กๆ และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ เหมือนอพาร์ตเม้นต์ทั่วไปที่ต่างจากออฟฟิศ มีสองห้องนอน ห้องแรกจะเรียกว่า Master room ก็ได้ มีเตียงสองชั้น สองเตียง เรียกว่า bunk bed ส่วนอีกห้องหนึ่งเรียกว่า Second room มีแค่สองเตียงเดี่ยว แน่นอนว่าราคาต่างกัน
ห้องชุดแรก ตกคนละ $140 / week including water, power, wifi
ห้องชุดสอง ตกคนละ $160+/week including water, power, wifi
ฉันนี่ถือว่าเป็นตัวปัญหาที่อยู่ที่ไหนก็ได้ไม่นาน ถึงเวลาที่ต้องย้ายออกกลับไปอยู่ที่เดิมตรง 3 Exmouth ห้องเดิมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม เหลืออยู่แค่สองเตียง คนอยู่ในบ้านน้อยลง ไม่อัดแน่นเหมือนเมื่อก่อน แต่ที่เพิ่มเติมคือราคาสูงขึ้นถึง $165 / week มาติดตามกันต่อไปว่าตัวปัญหาจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ?
และหวังว่าข้อมูลที่มาจากประสบการณ์จริงจะเป็นประโยชน์สำหรับคนจะหาบ้านในเมืองโอ๊คแลนด์นะคับ
......
ข้อมูลทั่วไป
ที่พักในนิวซีแลนด์
มีทางเลือกที่พักหลากหลายประเภทสำหรับนักศึกษาที่พักอาศัยในนิวซีแลนด์
• โฮมสเตย์
ก่อนทำเรื่องมาที่นิวซีแลนด์ ฉันได้ติดต่อโฮมสเตย์ไว้ โดยมีพี่สาวคนหนึ่งคอยช่วยดูแลให้ ความจริงเขาจะให้เลือกโฮสแฟมิลี่ได้ เช่น แพ้อาหารอะไรไหม มีเด็กเล็กอยู่ในบ้านด้วยได้ไหม มีสัตว์เลี้ยงได้ไหม สูบบุหรี่หรือเปล่า เป็นต้น ซึ่งฉันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคำถามข้างต้นเท่าไหร่ แต่ที่ฉันขอเพิ่มคือ ไม่ขอโฮสที่เป็นคนไทย เพราะอย่างน้อยเสียเงินไปทั้งทีน่าจะเอาคนท้องถิ่นดีกว่าไหม
ครอบครัวโฮสจะให้บริการอาหารที่รวมอยู่ในค่าเช่าแล้ว และจะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตในประเทศนิวซีแลนด์ โฮมสเตย์ไม่เหมือนกับการพักในโรงแรม โดยจะต้องให้ความเกรงใจต่อครอบครัวและบ้านพักของพวกเขา
• ที่พักภายในวิทยาเขต แบบหอพักนักศึกษา
โดยปกติแล้วหอพักนักศึกษาจะตั้งอยู่ภายในวิทยาเขตหรือห่างไปไม่ไกล โดยมีห้องพักเดี่ยวหรือห้องพักรวมให้บริการ ค่าเช่าจะรวมผ้าปูที่นอน บริการทำความสะอาดและอาหาร นักศึกษาจะรับประทานเช้าและเย็นทุกวันที่โรงอาหารรวม
หอพักนักศึกษาเป็นทางเลือกอันดีเยี่ยมที่จะได้พบปะผู้คนเนื่องจากจะมีการจัดกิจกรรมทางสังคมและกีฬาสำหรับผู้พักอาศัยเป็นประจำ
สถาบันการศึกษาบางแห่งจะให้บริการที่พักแบบไม่รวมอาหาร โดยกลุ่มนักศึกษาขนาดเล็กประมาณ 6 ถึง 8 คนจะมีห้องพักของตนเองและใช้ครัวและห้องนั่งเล่นร่วมกัน
ขอแนะนำให้คุณทำการจองที่พักภายในวิทยาเขตแต่เนิ่นๆเนื่องจากเป็นที่พักที่เป็นที่ต้องการอย่างสูง
• ที่พักแบ่งเช่า
การใช้ที่พักร่วมกันหรือเช่าที่พักเอกชนนอกวิทยาเขต เรียกว่าการเช่าแฟลตร่วมกัน เป็นที่นิยมมากในหมู่นักศึกษานานาชาติ คุณสามารถดูที่พักว่างได้จากกระดานประกาศภายในวิทยาเขต ทางออนไลน์ (ดูลิงค์ด้านล่าง) และจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งฉบับวันพุธและวันเสาร์ โดยปกติแล้วคุณจะต้องจัดหาเฟอร์นิเจอร์ของตนเอง โดยสามารถเช่าหรือซื้อของมือสองได้ในราคาที่ค่อนข้างถูก
เมื่อทำการเช่าบ้านพัก อพาร์ทเม้นต์หรือสตูดิโออพาร์ทเม้นต์ เจ้าของที่พักจะขอให้คุณชำระค่าเช่าล่วงหน้าและต้องมีเงินประกันการเช่าเท่ากับค่าเช่าหนึ่งเดือน คุณต้องชำระค่าไฟฟ้า แก๊ส โทรศัพท์และประปารวมถึงค่าเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยตนเอง
นักศึกษาอาจตัดสินใจเลือกเช่าห้องพักหรือบ้านพัก/อพาร์ทเม้นต์ร่วมกับเพื่อนเป็นกลุ่ม หรืออาจมีกลุ่มนักศึกษาที่ประกาศรับเพื่อนร่วมที่พักเพิ่มเติม นอกจากนี้คุณอาจเลือกพักคนเดียว (หรือเป็นครอบครัว)ด้วยการเช่าห้องสตูดิโอหรืออพาร์ทเม้นต์ขนาดเล็ก โดยค่าใช้จ่ายในการเช่าที่พักคนเดียวจะสูงกว่าเช่าห้องพักในสถานที่พักขนาดใหญ่เล็กน้อย
ข้อดีของการพักอาศัยในที่พักให้เช่า คือคุณจะมีอิสระมากกว่าทั้งทางด้านสังคมและการเงิน นอกจากนี้นักศึกษาจะได้รับประโยชน์ด้านวัฒนธรรมจากการได้พักอาศัยในชุมชนท้องถิ่น
เวบไซต์ที่พอจะมีประโยชน์บ้าง
realestate.co.nz/
gumtree.co.nz
apartments.co.nz/
trademe.co.nz
ความคิดเห็น