ฉันสาวน้อยผู้โดษเดี่ยว มีนามว่า “ปาริฉัตร” ต้องอาศัยอยู่กับพี่คนละแม่ที่ชื่อว่า “ปรารถนา” ที่คอยโขกสับ ด่าว่าฉันอยู่ตลอดเวลา แต่ฉันไม่มีวันยอม ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่เลี้ยงฉัน(แม่ปรารถนา)จะไปต่างประเทศอีกนานกว่าจะกลับก็ตามทีเถอะ เพราะว่าคนอย่าง”ปาริฉัตร” ไม่ใช่ซินเดอเรลล่าที่ถูกแม่เลี้ยงใช้งานอย่างทารุณ
    “ต้า เบล นี่พี่สาวฉันเอง  คินทร์(ภาคินทร์แฟนฉันเอง) พี่สาวฉัน”
        “สวัสดีค่ะ”
        “อือ! สวัสดี”
    “สวัสดีครับ”
        ทันทีที่นาเห็นหน้าคินทร์ ก็รู้สึกชอบขึ้นมา และจากเสียงอุบาทๆที่ทักทายเพื่อนของฉันเมื่อกี้ก็เปลี่ยนไป
    “สวัสดีจ๊ะ”
    “นา นี่คินทร์แฟนฉัน”
    “งั้นหรอ” หน้าของนาเปลี่ยนสีในทันทีที่รู้ว่าฉันกับคินทร์เป็นแฟนกัน
    “ฉัตรฉันมีเรื่องจะคุยกับแก” แล้วนาก็ลากฉันไปหลังบ้าน
    “เดี๋ยวฉันมานะ”
    “อื้อ”
                                                              -------------------------------------
    “นา เธอลากฉันมามีธุระอะไร”
    “ฉันแค่อยากจะบอกแกว่า ฉันชอบคินทร์”
    “เธอจะบ้าหรือไง เธอก็รู้อยู่ว่าฉันเป็นแฟนกับคินทร์ เธอยังจะมาแย่งคินทร์ไปทำไม”
    “ก็คนนี้ฉันชอบจริงๆไ
    “คนอย่างเธอชอบใครเป็นด้วยหรอ”
    “เป็นสิ โดยเฉพาะของๆเธอ  และเธอก็จำไว้ด้วยนะ ว่าอะไรที่เป็นของเธอฉันจะต้องเอามาเป็นของฉันให้ได้  ไม่ว่ามันจะแรกมาด้วยวิธีใดก็ตาม”
    “เธอนี่มันบ้า”
    “ว่าฉันบ้าใช่ไหม  นี่แหนะ!” นาผลักฉันล้มลงไปกองกับพื้น
    “นา” ฉันตะโกนออกมาเสียงดังจนทุกคนรีบวิ่งเข้ามาดูว่าเกิอะไรขึ้น
    “ฉัตร! ฉัตร! ฉัตร! เป็นอะไรหรือเปล่า”
    “เอ่อ! มะ ไม่...” ฉันยังพูดไม่จบ นาก็พูดแทรกขึ้น
    “ไม่มีอะไรหรอกคินทร์ ฉัตรมันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว อยู่เฉยๆแล้วชอบโวยวายขึ้นมาไ
    “นี่...”
    “ไปกันเถอะคินทร์” นาลากตัวคินทร์ออกไป
    “ไปไหน”
    “ตามมาเถอะ” และแล้วคินทร์ก็ออกไปกับนาจนได้
    “ฉัตรเป็นอะไรหรือเปล่า” ต้าถามอย่างเป็นห่วง
    “ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง”
    “ไม่เป็นอะไรได้ยังไง เล่นล้มลงไปนอนกองกับพื้นซะขนาดนั้น” เบลพูด
    “นั่นน่ะสิ มีอะไรก็บอกพวกเราได้นะ พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ เพื่อนย่อมปรึกษาเพื่อนได้เสมอ ในยามที่เพื่อนเดือดร้อน” ต้าพูด
    “แต่ถ้าเธอไม่อยากบอกพวกเราตอนนี้ก็ได้ ถ้าเธอลำบากใจ แต่ให้เธอรู้ไว้นะว่าพวกเราพร้อมที่จะรับฟัง” เบลพูด
    “เอาล่ะ ฉันยอมบอกพวกเธอก็ได้ ว่าความจริงแล้วฉันมีเรื่องกับนา คือ นาบอกว่าเค้าจะแย่งทุกอย่างที่เป็นของฉัน”
    “รวมทั้งคินทร์ด้วยใช่ไหม” เบลพูด
    “พี่เธอนี่ร้ายกว่าที่ฉันคิดนะ” ต้าพูด
    “ช่างเค้าเถอะ”
    “ช่างได้ไง อีตาคินทร์ก็เหมือนกันนะ  มีแฟนอยู่แล้วทั้งคนยังจะไปยุ่งกับคนอื่นอีก” ต้าพูด
    “นั่นน่ะสิ  เดี๋ยวฉันเจอหน้านะจะด่าให้เละทั้งคู่เลยคอยดู”
    “เอาเถอะ  นี่ก็ถือว่าเป็นข้อพิสูจน์ละกันว่าคินทร์รักฉันจริงหรือเปล่า”
    “ก็ได้ แต่เธอไม่คิดมากแน่นะ” เบลถาม
    “อื้อ! ฉันไม่ซีเรียสอยู่แล้ว” (ทั้งที่ในใจอยากจะร้องไห้ออกมา)
    “งั้นก็ดีแล้วล่ะ แต่ว่าตอนเนี่ย...” ต้าพูด
    “มีอะไรหรอ” ฉันถาม
    “คือ..ว่า..ฉันหิวแล้วอะ”
    “โห! คิดว่าอะไร งั้นเราก็ไปกันเลย” ฉันพูด
    “แต่ก่อนไปฉันขอไปซื้อของเปลี่ยนแปลงโฉมของตัวเองก่อนละกัน”
    “ก็ดี ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าคินทร์เห็นเธอตอนแปลงโฉมแล้วสวยขึ้นเค้าจะทำหน้ายังไง” เบลพูด
    “นั่นสิ” ต้าพูด
    “งั้นเราไปกันเลย”
                                                        -----------------------------------------------
    “คินทริ์อยากกินอะไรสั่งเลย”
    “ไม่เป็นไรผมอยากกลับบ้าน”
    “จะรีบกลับไปไหน อยู่กินอะไรเป็นเพื่อนฉันก่อนสิ”
    “แต่ ผมเป็นห่วงฉัตร”
    “ยัยนั่นน่ะหรอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เอาตัวรอดเก่งทีเดียวเลยล่ะ”
    “แล้วนารู้จักฉัตรดีแค่ไหนล่ะ”
    “โอ๊ย! ฉันน่ะรู้จักยัยนั่นดีกว่าใครเลยล่ะ”
    “จริงหรอ” คินทร์ถามอย่างสงสัย
    “ก็จริงน่ะสิใครจะกล้าหลอก”
    “แล้วฉัตรเป็นคนยังไง”
    “ยัยนั่นนิสัยก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไร ชอบใช้ให้ฉันทำโน่น ทำนี่ แถมชอบแย่งของๆฉันอีกด้วยนะ”
    “แต่ตั้งแต่ที่ผมคบกับแตรมาเค้าก็ไม่เห็นจะมีท่าทางอะไรที่บอกว่าเค้านิสัยไม่ดีเลยนี่”
        (แล้วจะถามทำไม)
    “คอยดูไปเถอะ อีกไม่นานมัน เอ้ย! เค้าก็ออกลายเองแหละ อีกไม่นานหรอก”
        หลังจากที่ฉันกับเพื่อนๆเดินซื้อของเสร็จ
    “หิวกันหรือยังจ๊ะ” ฉันถามเพื่อน
    “แหม ถามได้ฉันน่ะหิวจะตายอยู่แล้วนะ” ต้าตอบ
    “งั้นฉันจะแนะนำร้านที่อร่อยๆแถวนี้ให้เอาไหม”
    “โอ๊ย! คุณฉัตรขาไม่ต้องแนะนำแล้ว พาไปเลย” เบลตอบ
    “อา จ้า จ้า จ้า”
        ในเวลาต่อมาฉันก็ขับรถมาถึงร้านที่พวกเราจะมาทานข้าวกัน เมื่อแนมองเข้าไปในร้านเพื่อดูว่ามีโต๊ะไหนว่างพอที่จะให้พวกเรานั่งกันบ้าง ฉันก้ต้องอึ้ง เพราะว่าสิ่งที่ฉันเห็นแทนโต๊ะก็คือ
    “อ้าว! ฉัตรมากินข้าวที่นี่ด้วยหรอ มานั่งด้วยกันสิ” นาทักขึ้นพร้อมกับโบกมือเรียก แต่ความจริงฉันรู้ว่าเค้าไม่ค่อยอยากให้ฉันไปนั่งที่ตรงนั้นสักเท่าไหร่หรอก แต่ที่พูดออกมาก็เพราะว่าอยู่ต่อหน้าคินทร์
    “ฉัตรทำไมไม่ไปนั่งล่ะ” เบลถาม
    “เอ่อ! คือว่า”
        พอดีต้าเหลือบไปเห็น ฉันก็เลยไม่ต้องพูดอะไรมาก
    “เธอจะกลัวอะไร ในเมื่อเค้าชวนเราก็ไปนั่งเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ และอีกอย่างฉันก็อยากเห็นหน้าอีตาคินทร์ตอนที่เค้าเห็นเธอตอนแปลงโฉมใหม่ด้วย ดูซิว่าอีตานั่นจะทำหน้ายังไง” ต้าพูด
    “ใช่ ความจริงเธอไม่ต้องกลัวอะไรเลยด้วยซ้ำ  ในเมื่อเธอมาก่อน” เบลพูด
    “อือ ก็ได้ฉันจะยอมไปนั่ง”
          เมื่อฉันกับเพื่อนๆเดินไปนั่งที่โต๊ะที่มีทั้งนา และคินทร์
    “ฉัตร เธอนั่งตรงข้ามกับคินทร์นะ”
        (ยัยเบลนะยัยเบลรู้ก็รู้อยู่ว่าฉันไม่อยากนั่งยังจะยัดเยียดให้ฉันนั่งอยู่ได้)
    “ไม่กล้านั่งหรอฉแตร กลัวอะไรไม่ทราบ” นาพูดแกนกกระแหนฉัน
    “ใครว่าฉันไม่กล้า” ฉันพูดออกไปด้วยความมั่นใจ (อีตาคินทร์บ้าแทนที่จะช่วยกันหน่อยก็ไม่มี นั่งบื้ออยู้ได้) ฉันบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
    “ฉัตร!” คินทร์อุทานขึ้นมา
    “ตกใจขนาดนั้นเลยหรอคินทร์” ฉันพูดเองแหละ
    “ทำไมเธอต้องทาปาก  ทาแก้มด้วยล่ะ คิดว่าสวยมากเลยหรือยังไง” คินทร์พูด(ความจริงที่คินทร์พูดออกมาอย่างนั้นก็เพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็นความน่ารักสดใสที่ฉันมีอยู่ในตอนนี้  เค้าอยากเห็นฉันน่ารักแค่คนเดียว)
    “คือ...เอ่อ.....”
    “แล้วนายยุ่งอะไรด้วยล่ะ” ต้าพูดแบบประชด
    “ก็นี่มันฟะ.........”
    “แค่คำว่าแฟนนายยังไม่กล้าเปิดปากออกมา นายรักฉัตรจริงหรือเปล่า” เบลพูดแต่ทำนองด่าประชด
    “พวกเธอคิดว่าที่คินทร์แสดงออกมาแบบนี้  เธอยังจะคิดว่าคินทร์รักเธออยู่อีกเหรอ  ฮะฉัตร ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะ..........” นายังไม่ทันพูด
    “พอเถอะ ฉันเค้าใจแล้วว่าเค้าคิดยังไง” ฉันหันหน้าไปมองที่คินทร์
    “คินทร์! เรา..เลิก...กัน”
    “ไม่นะฉัตร ผมไม่ยอมเด็ดขาด”
    “ในเมื่อนายเลือกเอง  ฉันก็ห้ามไม่ได้” ฉันกำลังจะวิ่งหนีไป แต่คินทร์รั้งมือฉันไว้ก่อน
    “ฉันทำผิดอะไร เธอถึงจะเลิกกับฉัน”
    “นายไม่ผิดหรอกคนที่ผิดคือฉันเอง  ลาก่อนนะคินทร์ รักษาสุขภาพด้วย” ฉันดึงมือคินทร์ที่จับแขนฉันไว้ออกและวิ่งหนีไป
        (ทำไม ทำไม ฉันถึง...ถึงได้... ฮือ!... ฮือ!... ฮือ!...)
        วันรุ่งขึ้น
    “ฮ้าว! ทำไมเช้าเร็วจัง  ยังไม่อยากตื่นเลย” (แต่ก็ต้องตื่น แต่วันี้ฉันจะเป็นฉัตรคนใหม่ที่ไม่เหมือนเมื่อวันวาน ฉันจะต้องไม่ซึมเศร้า อาบน้ำแล้วลงไปข้างล่างดีกว่า)
        หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จก็ลงไปข้างล่างเพื่อที่จะไปซื้อของต่อข้างนอก
    เฟี๊ยว---------! เสียงรถใครก็ไม่รู้เลี้ยวมาจอดหน้าบ้านด้วยความเร็วสูง แต่ว่าฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นรถของคินทร์
    “อ้าว! คินทร์มาหาฉันหรอ” นาพูด
    “เอ่อ!......”
    “รอแป๊ปนึงแล้วกัน เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อน”
    “ตะ แต่ว่า”
    “ไม่มีคำว่าแต่ เดี๋ยวฉันมา แป๊ป---เดียวจริงๆ ก็แหมคินทร์มาชวนไปเที่ยวทั้งที ฉันก้อยากจะแต่งตัวให้สวยๆ นะ รอหน่อย” นาวิ่งขึ้นไปแต่งตัวข้างบน
    “คนอะไรพูดเองเออเองก็เป็นด้วย” ฉันบ่นคนเดียวอีกแล้ว
    “ฉัตร ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
    “คุย คุยอะไรฉันว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
    “ใครว่า เธอต้องไปกับฉัน” คินทร์พูดจบก็ลากตัวฉันไป
    “นายจะพาฉันไปไหน”
    “พาไปในที่ที่เราพบกันครั้งแรกยังไงล่ะ”
        ในรถ
    “ฉันจะกลับบ้าน”
    “เธอรังเกียจฉันมากนักหรือไง”
    “ใครอยากจะอยู่กับแฟนพี่ตัวเองสองต่อสองล่ะ เดี๋ยวพี่ก็หาว่าฉันแย่งของๆพี่อีก” แกล้งพูดไปอย่างนั้นแหละ ยั่วโมโหนายนั่นเล่น
        คินทร์หยุดรถกะทันหัน  โดยที่ฉันยังไม่ทันตั้งตัว
    “นายบ้าไปแล้วหรือไง  เดี๋ยวรถก็ชนจนได้”
        คินทร์ค่อยๆเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ฉัน  จนฉันไม่แทบสามารถขยับตัวได้เลย เพราะเค้าเอาหน้าเข้ามาแทบติดหน้าฉัน
    “ทำไมเธอถึงไม่ยอมฟังฉันบ้าง”
    “ทำไมเหรอกะ.......อุ๊บ.......!” เค้าจูบปากฉัน แล้วท่าทางของเขาคงจะปล่อยฉันยากซะด้วย
    “คนบ้า คนฉวยโอกาส  เผี๊ยะ.....!” ฉันผลักเค้าออกและตบหน้าเค้าอย่างแรง แล้ววิ่งลงจากรถไป
    “ฉัตร! เดี๋ยว  ฉัตร!” คินทร์วิ่งตามฉันลงมา
    “ฉัตร! ระวัง”
        ตู้ม------------!
    “ฉัตรเธอต้องไม่เป้นอะไรนะ  ฉันจะพาเธอไปส่งโรงพยาบาล”
        ตอนนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเป้นอะไรไป หลังจากนั้นฉันก็หมดสติไป
        ที่โรงพยาบาล  หนึ่งชั่วโมงผ่านไปที่ห้อง  ICU
    “หมอครับฉัตรเป็นยังไงบ้าง”
    “คือว่าคนไข้เสียเลือดมากครับ แล้วเลือดที่ตรงกับคนไข้ตอนนี้ก็หมดพอดีผมคิดว่าถ้าเรารอคนที่จะมาบริจาค ผมคิดว่าคงไม่ทันกาลแน่”
    “แล้วเลือดของฉัตรกรุ๊ปอะไรครับ”
    “เอบี เน็คทีปครับ”
    “ผมบริจาคเองครับ  ผมเลือดกรุ๊ปเดียวกับคนไข้ครับ”
    “งั้นเชิญทางนี้ครับ”
        เวลาผ่านไปสามชั่วโมง
    “ที่นี่ที่ไหน  แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
    “ฉัตรเป็นยังไงบ้าง”
    “ที่นี่ที่ไหน”
    “ที่นี่ก็ยม  เอ้ย!  โรงพยาบาลไง” เสียงแป๊นๆ อย่างนี้แค่พูดคำเดียวฉันก็จำได้แล้วว่าเป็นเสียงของพี่สาวฉันเอง
        แล้วฉันก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
    “งั้นผมไปแต่งตัวก่อนนะครับ  ฝากฉัตรด้วย”
    “ได้จ๊ะ  ไม่ต้องเป็นห่วง  แต่นี่มันก็ดึกมากแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้” ที่นาพูดออกไปอย่างนั้นก็เพราะว่ามีแผน
    “งั้นก็ได้ครับ  แต่ผมฝากฉัตรด้วยนะ”   
        เมื่อคินทร์ออกไปจากห้อง
    “ตายยากจริงๆเลยนะแก  ดูซิว่าคราวนี้ยังจะมีใตรหน้าไหนมาช่วยแกอีกหรือเปล่า  แหมมีแต่คนคอยเป็นห่วง”
        นาถือหมอนมาเพื่อจะปิดจมูกฉันแล้วให้ฉันตาย  แต่ฉันตื่นขึ้นมาทันจึงวิ่งหนีไป
        รุ่งเช้าเมื่อคินทร์มาถึง
    “นา ฉัตรล่ะ”
    “ฉัตรหนีไปแล้วล่ะ  ตะ  แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ” นาพูดอย่างร้อนรน
        คินทร์วิ่งออกไปหาฉัน  แต่ตามหาไม่พบ จึงนึกถึงที่ที่ฉันอยากจะไปกับเค้าสองคน  นั่นก็คือที่ที่เราพบกันครั้งแรก
    “ฉัตรเธออยู่ไหน  เธอไม่รู้หรือไงว่าคนที่ฉันรักมากที่สุด  และไม่มีวันเปลี่ยนใจก็คือเธอ  ฉันรักเธอ”
        ฉันเดินผ่านมาเจอคินทร์นั่งเหม่อลอย  ด้วยความหมดหวัง  ที่น้ำตก  ที่ที่ฉันกับคินทร์พบกันครั้งแรก
    “คินทร์”
        คินทร์ได้ยินเสียงฉันจึงหันมามองอย่างรวดเร็ว
    “นายมาทำอะไรที่นี่”
    “ก็มาตามหาหัวใจของฉันที่ถูกคนแถวนี้ขโมยมาน่ะสิ”
    “แล้วใครขโมยมาก็ไปหาคนนั้นสิ” ฉันเดินหนีไป
    “ฉัตรเดี๋ยวก่อน” คินทร์วิ่งมาจับมือฉันไว้
    “เธอจะไปไหน  หัวใจฉันอยู่ที่เธอนะ  ถ้าเธอจะไปไหนฉันก็ต้องไปด้วยสิ”
        คินทร์จับมือฉันขึ้นมาจูบอย่างอ่อนโยน
    “ฉันมีอะไรจะบอก”
    “มีอะไรก็บอกมาสิ”
    “ฉันรักเธอ และจะรักตลอดไป”
    “ฉันก้มีอะไรจะบอกนายเหมือนกัน”
    “อะไรหรอ”
    “ฉันก็รักนาย”
        ฉันและเขาโอบกอดกันอย่างอบอุ่น
    “ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้เธอจากฉันไปไหนอีก  ฉันจะอยู่ดูแลเธอตลอดไป”
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น