ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] The Eschatology

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 56


    Intro

     

     

                    ในค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์  ชายเสื้อฮูดสีดำร่างสูงย่างกรายเข้าคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่ที่บ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของได้อย่างดี  ชายนิรนามไม่สนใจความร่ำรวยแต่อย่างใดสิ่งที่น่าสนใจคือ  ถ้าเขาทำภารกิจสำเร็จลุล่วง  เขาจะได้เงินก้อนใหญ่  ชายนิรนามคว้ากระบอกปืนขึ้นมา  สายตาสอดส่องจ้องหากล้องวงจรปิด

     

    ตามประสาของบ้านคนรวยระบบรักษาความปลอดภัยจะใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ชายร่างสูงคว้าแว่นตาที่สามรถจับสัญญาณของเลเซอร์ได้  พอสวมใส่ไปเท่านั้นแสงเลเซอร์สีแดงที่สามารถตัดขาดทุกสิ่งได้แค่เพียงพริบตา  และแน่นอนมาทำการใหญ่ต้องมีคนร่วมกระบวนการ

     

    ชายที่ถือปืนหันไปให้สัญญาณให้ชายชุดดำที่สามารถปืนขึ้นไปที่ระเบียงได้อีกฝั่ง  ชายชุดดำได้รับสัญญาณก็ปืนเข้าไปที่ห้องหนึ่ง  เปิดหน้าต่างห้องออกอย่างช้าๆ  ย่างเท้าไปที่ปลายเตียงมีคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งกำลังหลับใหล  ชายชุดดำเล็งปืนไปที่เป้าหมายทั้งสองเตรียมจะเหนี่ยวไกปืน

     

    “แม่ฮะ  ผมฝันร้าย”  เด็กน้อยตัวเล็กผิวขาวเดินเข้ามา  เสียงพูดปลุกให้สามีภรรยาคู่นั้นตื่นมา  เมื่อผู้เป็นสามีเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น  จึงเข้าไปตระครุบยื้อแย่งปืนจากชายชุดดำ

     

    “คุณพาลูกๆหนีไป”  ไม่รอช้าฝ่ายผู้เป็นภรรยาคว้ามือเด็กน้อยวัย  ขวบ  มุ่งหน้าไปที่ห้องนอนของลูก

     

    “เด็กๆ  ตื่น  เราต้องหนีกัน”  คนเป็นแม่ปลุกลูกอีกสามคนให้ตื่นขึ้น  เด็กน้อยตัวกลมวัย  ขวบ  และเด็กน้อยตัวเล็กวัย  4 ขวบ 2 ขวบ  ก็ตื่นขึ้นมา

     

    เพล้งงงงงงงง

     

    เสียงกระจกแตกเผยให้เห็นผู้บุกรุกเข้ามาถึงสองคน  สัญญาณเตือนภัยดังไปทั่วบ้าน   ผู้เป็นแม่เห็นสัญชาตญาณของคนเป็นแม่จึงเข้ามากั้นผู้บุกรุกทั้งสอง

     

    “หนีไป  แม่บอกให้หนีไป”  พี่คนโตสุดรีบดึงน้องๆออกจากเหตุการณ์ตรงหน้า  เด็กน้อยทั้งสี่คนวิ่งไปเรื่อยๆ  จนไปถึงห้องครัว

     

    ปัง  ปัง

     

    เสียงปะทะกันระหว่างผู้ร้ายกับบอดี้การ์ดของพ่อดังขึ้นไปทั่วบ้านทำให้เด็กน้อยวัยสองขวบร้องไห้ออกมา  พี่คนโตพอพาน้องๆมาถึงห้องครัว  ก็เดินไปหยิบรูปผลไม้ขนาดเล็กที่ประดับไว้ในห้องครัวหมุน  360  องศา  ห้องครัวที่มีเคาท์เตอร์ถูกแยกออกจากกันเผยให้เห็น  ช่องอุโมงค์ขนาดเล็กที่เข้าไปได้

     

    พี่คนรองรู้หน้าที่ดีเลยเดินเข้าไปก่อนต่อด้วยน้องคนเล็ก  คนที่สามและพี่คนโตซึ่งปิดประตูอุโมงค์ลงทันที

     

    “มันหายไปไหนว่ะ”  ชายร่างท้วมเดินเข้ามาในห้องครัว

     

    “ผมเห็นพวกมันวิ่งมาทางนี้จริงๆ”  ชายตัวเล็กมองไปทั่วห้องครัว

     

    “หาให้ทั่ว”  หัวหน้าชายร่างสูงสั่ง  ใครจะไปรู้ว่าตระกูลนี้จะทำในสิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อน  เป็นบ่อเกิดของสงครามได้

     

    “ล้างเผ่าพันธุ์พวกมันทั้งตระกูล”

     

     

     

     



     

    “พี่ฮะ  มันเกิดอะไรขึ้น”  น้องคนที่สามถามพี่คนโต  ตอนนี้พวกเขาทั้งสี่ไม่มีที่ไป  เด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้แต่เดินไปมาไม่กล้าเดินหนีออกห่างจากอุโมงค์  เผื่อพ่อแม่ผ่านมาจะได้เจอพวกเขา

     

    “พี่ก็ไม่รู้”  เขาจะต้องดูแลน้องๆแทนพ่อแม่พลางกอดปลอบน้องคนเล็กที่ดูจะร้องไหนักไปอีก

     

    “ฮือ  ฮือ  พ่อ  อึก  กับ  แม่  อึก  จะเป็นไรไหม”  น้องชายคนเล็กพูดพลางปนสะอื้นไปมา

     

    “ต้องไม่เป็นไร  พ่อแม่เราเก่งจะตาย”  น้องคนรองพูดด้วยสีหน้าแน่วแน่

     

    ผ่านไปหลายชั่วโมงไม่เห็นวี่แววของผู้เป็นพ่อกับแม่จะโผล่มา  เด็กน้อยต่างหลับใหลเพราะความเหนื่อยล้า    หลับนับไปชั่วโมง  แสงอาทิตย์ส่องแสงขึ้นเป็นเช้ารุ่งอรุณของวันใหม่  เด็กน้อยทั้งสี่จึงตัดสินใจกลับบ้านอีกครั้ง

     

    การกลับบ้านครั้งนี้สภาพบ้านดูไม่เหมือนเดิมข้าวของกระจัดกระจายไปหมด  แต่พวกเขาไม่สนสิ่งหนึ่งที่พวกเขาตามหาคือ  พ่อกับแม่  เด็กน้อยทั้งสี่กลับไปที่ห้องนอนของตนเองก็เห็นร่างที่ไร้ลมหายใจของผู้เป็นแม่หลับใหล  น้องคนเล็กวิ่งไปสวมกอดของผู้เป็นแม่ก่อนตามด้วยพวกพี่ๆ

     

    “แม่ฮะ   ตื่นสิฮะ  เช้าแล้วนะ” เด็กน้อยต่างร้องเรียกผู้เป็นแม่  แต่ร่างไม่มีการตอบสนอง น้ำตาใสๆของเด็กน้อยหลั่งใหลออกมา  พวกเขาต่างกอดแม่ไว้

     

    “แล้วพ่อหล่ะ” พี่คนโตเหมือนได้สติก่อนร้องถามหาพ่อทันที

     

    “พ่อฮะ  พ่อฮะ”  เสียงเรียกไปทั่วบ้าน  แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ  น้องคนรองรู้สึกแปลกก็รีบวิ่งไปที่ห้องนอนของพ่อแม่ทันที  พี่คนโตเห็นรีบตามไปในทันที  สิ่งที่ได้พบไม่แตกต่างจากการเห็นแม่สักเท่าไหร่  ข้างกายของบิดามีกระดาษหนึ่งแผ่นวางไว้อยู่ข้างๆ  เด็กน้อยรีบคว้ามา

     

    “เสียงไรว่ะนั่น  ไปดูเร็ว”  เสียงของผู้ชายกลุ่มหนึ่งดังมาจากข้างล่าง  เด็กน้อยต่างไหวตัวทันพาน้องๆ  วิ่งไปที่ห้องครัวและกลับไปที่อุโมงค์อย่างรวดเร็ว

     

    “เมื่อกี้เสียงไรว่ะ”  หัวหน้าถามลูกน้อง

     

    “ผมก็พร้อมพี่นั่นแหละ”  ลูกน้องตัวเล็กย้อนถามเจ้านายแต่สิ่งที่ได้รับมาคือการตบกระโหลกลูกน้องที่กล้ายอกย้อน

     

     

     

     



     

    ถึงลูกรัก

    มินซอก  จุนมยอน  จงแด  และจงอิน  พ่อเขียนจดหมายนี้ขึ้นมาเพื่อบอกบางสิ่ง  ถ้าลูกเห็นจดหมายนี้แล้วแสดงว่าพ่อกับแม่ได้จากลูกไปแล้ว  แต่สิ่งหนึ่งที่พ่ออยากบอกลูกทั้งสี่  ว่า  พ่อขอโทษในสิ่งที่ได้ทำไป  พ่อมีแล็บแห่งหนึ่งไว้ลิตเชื้อไวรัสที่สามารถทำให้คนๆหนึ่งมีร่างกายแข็งแรง  ฟันแทงไม่เข้า  สิ่งที่พ่อผลิตขึ้นมามีประโยชน์ต่อกองทัพมาก  แต่มันดันมีผลข้างเคียงมันทำให้มนุษย์คนหนึ่งต้องกลายเป็นสิ่งชั่วร้าย  และมันเป็นสิ่งหนึ่งที่คนทั่วโลกต่างแย่งชิงมาเป็นเจ้าของ  ถ้าหลงไปอยู่ผิดคนจะทำให้โลกนี้เกิดวินาศขึ้น

    ปล.พ่อมีตัวอย่างไวรัสแนบไว้ด้วย

     

    เด็กทั้งสี่เมื่อนั่งอ่านจดหมายแผ่นนี้แล้วแสดงว่าพ่อกับแม่ต้องรู้ว่าต้องมีคนมาแย่งชิง  ถึงได้เขียนจดหมายไว้  แต่สิ่งหนึ่งที่สงสัยพวกเขาเห็นแค่แผ่นกระดาษแต่ตัวยาได้หายไปไหนแล้ว

     

    “ต้องมีคนเจอจดหมายก่อนพวกเราแล้ว”  มินซอกลองสรุปดู  แต่ถึงยังไงก็เถอะ  พวกเขายังเป็นเด็กไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไป

     

    “ผมจะแก้แค้น   ถ้าอยากได้ตัวยานี้มากนัก  ผมจะแพร่ให้เป็นทั่วโลก”  ซูโฮคิดสิ่งหนึ่งขึ้นมาเพราะความโลภของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด  เขาจะเป็นคนพาโลกไปสู่ยุคโลกาวินาศเอง

     

     

     

     

    Talk

    แหะๆ  แอบมาเปิดเรื่องใหม่  ไม่มีอะไรมากเรื่องนี้คู่แปลก  และเนื้อเรื่องจะแปลกๆ






    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×