คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : My Heart :( ความต้องการของหัวใจ -2- END --
ในระหว่างที่ยืนรับลมริมระเบียงอยู่นั้น ภาพเหตุการณ์ในอดีตก็ปรากฎขึ้นมาในความคิดที่เหม่อลอยอยู่
[Special Reborn Talk :]
นึกถึงเมื่อก่อน...
“ตื่นแล้วเหรอ~ ฮิๆ^w^” ประโยคกวนๆที่แสนซ้ำซากเอื้อนเอ่ยออกมาจากริมฝีปากสีชมพูสวยของผู้เป็นบอสแห่งวองโกเล่ หลังจากที่เจ้าตัวถือวิสาสะเข้ามาในห้องนอนฉัน แล้วมานั่งเท้าคางทักทายกวนจุดยืน ฉันตื่นขึ้นมาทีไรก็ต้องโมโหกับท่าทางของเจ้านั่นทุกที
“ทำบ้าอะไรของแกฟระ!!”
“ก็ปลุกนายไง ^^”
“แล้วใครใช้ให้แกเข้ามาในห้องฉัน”
“ก็เข้ามาทุกวันไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ อีกอย่างห้องนายก็เหมือนห้องฉันแหละ
ฮ่าๆๆๆ ^O^”
“งั้นเหรอ…หึหึ //ควักปืนออกมาทันใด ขวับ!”
แล้วฉันก็ไล่ยิงตะเพิดเจ้าบอสกะล่อนให้ออกไปจากห้องฉัน
แล้วมันก็เป็นแบบนี้ทุกเช้า…
และไม่ว่าจะทำอะไร หมอนั่นก็คอยแหย่เส้นประสาทฉันตลอด แต่ก็ชอบยิ้มอ่อนโยนมาให้อยู่เรื่อย
ทุกๆครั้งที่หมอนั่นคอยยื่นความหวังดีมาให้ แต่ฉันกลับไม่กล้าที่จะตอบรับมันไป
กลับเอาแต่มีอคติและปฏิเสธตลอด ทั้งๆที่นายพยายามจะบอกฉัน และแสดงความรู้สึกของนายให้ฉันรู้ แต่ฉันกลับคอยที่จะสร้างกำแพงมากั้นไว้มากมาย
ทำไมกันล่ะ ทำไม ..ทำไมถึงไม่กล้าที่จะรับมันงั้นหรือ
‘รีบอร์นนน ฉันหิวง่าาา~O~’ (เดินลูบท้องป้อยๆเข้ามาอ้อน)
‘กินลูกปืนฉันก่อนมั้ย - -*’
‘รีบอร์นนน ฉันง่วงแล้วอ่ะ TO^’ (นั่งฟุบเอกสารบนโต๊ะ เกาหัวยิกๆ)
‘ทำให้เสร็จกองนั้น แล้วนอนได้ -O-’ (กองเอกสารท่วมโต๊ะ)
‘นายจะไปไหนเหรอ ให้ฉันไปด้วยสิ^^’
‘ไม่ได้!! เกะกะ!!’
‘รีบอร์น นายทำอะไรน่ะ ฉันช่วยนะ^^’
‘ไม่ต้อง!!’
‘อ่ะ..กินซะสิ หิวไม่ใช่เหรอ^^’
‘ไม่หิว!!’
‘เบิร์ดเดย์น้าาา รีบอร์นนน^^’ (ให้ของขวัญ)
‘ไม่เอา..ไม่ชอบ’ (เดินผ่านไปเลย)
‘รีบอร์น..นายไม่สบายรึป่าว ดูหน้าซีดไปนะ’
‘ช่างฉันเหอะน่า! นายน่ะไปทำหน้าที่ของนายซะ!!’
‘นี่นายไปบุกรังโจรคนเดียวเลยเหรอ! จะบ้ารึไง! มันอันตรายนะ!!’
‘เรื่องของฉัน!’
วันนั้น...
หลังจากเสร็จภารกิจตามล่ามาเฟียอันธพาลแก๊งใหญ่ มันเป็นสถานการณ์ตึงเครียดมาก แม้ว่าเหตุการณ์จะจบลงไปแล้ว แต่ความกังวลกลับวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของทุกคน ความตึงเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความหวาดกลัวกับการตายไปของลูกน้องเป็นจำนวนมาก ทำให้ฝ่ายเราเสียขวัญไปไม่น้อย
แต่ถึงกระนั้น สิ่งเดียวที่ฉันไม่อาจอยู่เป็นสุขได้คือ การที่ได้รับรู้ว่าบอสของพวกเราได้ตกอยู่ในอันตราย และเป็นเป้าหมายของพวกมัน
ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย ขณะที่กำลังเครียดกับเรื่องใครบางคน
บุคคลที่เกี่ยวข้องก็ได้เข้าจู่โจมกอดทางด้านหลังทันที
‘เย่!! เจอแล้วว มาอยู่นี่เองเหรอรีบอร์น~’
‘เฮ้ย!!’
ทำไมชอบทำให้ตกใจอยู่เรื่อย แล้วนี่ไม่รู้ตัวเลยรึไงว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย
ไม่รู้ตัวเลยเลยเหรอ ยังจะมามัวเล่นอยู่อีกงั้นเหรอ
‘รีบอร์น...ฉัน..’ (คลายอ้อมกอดก่อนจะเดินมาข้างหน้า)
‘อะไร!’ (เริ่มอารมณ์เสีย)
‘ฉันรักนายนะ’
‘O_O!!!’
ว่าไงนะ! พูดเล่นเหรอ ฉันหูฝาดไปรึป่าว หรือฉันฝันไป อะไรกัน
ทำไมฉันถึงกลับยิ่งโมโหล่ะ
เพราะห่วงหมอนี่งั้นเรอะ...
แต่ทั้งที่ตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายนะ ไม่รับรู้หรือไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยหรือไง
จะบ้ารึไง!! มามัวเล่นอะไรอยู่!! นี่มันความเป็นความตายนะ!!! ตื่นซะที!!!
‘นายคิดไงกับฉันงั้นเหรอ?? ^^’ สึนะยังคงถามต่อด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
ไม่เคยคิดเลยรึไงว่าคนอื่นต้องมาห่วงขนาดนี้ ไม่เคยรับรู้เลยรึไง!!
‘หุบปากซะ!! โตได้แล้ว!! ตาสว่างซะที!! ยังจะมาเล่นอยู่อีกเหรอ
หน้าที่นายคืออะไรกัน ลืมไปแล้วเหรอไง!! นายเป็นบอสของวองโกเล่นะ!
ยังจะมามัวเล่นไม่รู้จักโตอยู่ได้ คอยทำให้คนอื่นต้องมาเป็นห่วงอยู่เรื่อย
วันๆเอาแต่ทำตัวไร้ประโยชน์ นายมันไร้ความรับผิดชอบ อ่อนแอเกินไปแล้ว
รู้รึป่าวว่านายตอนนี้น่ะ จะเดินออกจากคฤหาสน์นี้ยังยากเลย ไม่รู้รึไงว่า
ตัวเองกำลังโดนหมายหัวอยู่นะ นายกำลังอยู่ในอันตรายนะ รู้รึป่าว!!
เลิกเล่นซะที ฉันรำคาน!!’
ไม่นะ! ประโยคต้องห้ามถูกเปล่งออกไปโดยไม่ทันคิด ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ได้โปรด อย่าเพิ่งนะ
ดวงตาสึนะเบิกโพลงด้วยอาการที่คาดไม่ถึง ดวงตาสีน้ำตาลสั่นระริก
มีน้ำใสๆมาคลอที่เบ้าตา
...จบกัน.. นี่ฉันทำร้ายแววตาอ่อนโยนนั่นลงได้ยังไงกัน
เพียงเพราะสถานการณ์บีบบังคับเหรอ ความกังวล ตึงเครียดทุกๆอย่างเหรอ
หรือเพียงเพราะว่า.. ฉันกลัว.. กันแน่
.................................
...........
‘นั่นเป็นคำตอบสินะ...’ แววตาที่เจ็บปวด บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นแววตาที่ไร้อารมณ์ เย็นชา และเยือกเย็น มือเรียวค่อยๆเลื่อนขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของผู้เป็นบอส
‘เอ่อ..คือ...’
ไม่นะ! สึนะ ฉันขอโทษ!
‘เรื่องนั้นฉันรู้ ยังไง..ฉันก็ต้องเป็นเป้าหมายพวกมันอยู่แล้ว
เพราะว่าฉันฆ่าหัวหน้าของพวกมันไปแล้วไงล่ะ..’
ว่าไงนะ! ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้!
‘..สึนะ...’
‘ฉันยังทำหน้าที่ไม่ดีพออีกเหรอ นายยังเห็นความรู้สึกของฉันเป็นเพียง
สิ่งที่เชื่อถือไม่ได้อีกงั้นเหรอ แล้วมีอะไรอีกล่ะ ที่ฉันยังบกพร่อง
แล้วมีอะไรอีกล่ะ ที่ฉันยังไม่ได้รับผิดชอบ...’
เพราะฉันใช่มั้ย ที่ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของนาย
‘...ฉัน...’
‘เมื่อไร..ฉันจะดีพอในสายตานายซักที’
สึนะเดินออกไปจากห้องโดยไม่หันหลังกลับมาอีกเลย
มันจบแล้วสินะ...
ตอนเช้าที่ลืมตาขึ้นมา ก็พบแต่เพียงความว่างเปล่า แสงแดดที่ส่องลงมากระทบกับสายตา มันยิ่งตอกย้ำว่าวันนี้ มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว...
ไม่มีคนมาคอยทำท่าทางกวนประสาทคอยปลุกด้วยรอยยิ้มร่าเริงอีกแล้ว..
ไม่มีบทสนทนาใดๆ ไม่มีความสนุกสนานกันบนโต๊ะอาหารอีกแล้ว..
ไม่มียามว่างของเราอีกแล้ว..
ไม่มีใครคอยห่วงใย ไม่มีคนคอยบ่นยามที่ทำอะไรบ้าบิ่น..
ไม่มีของขวัญวันเกิดพร้อมคำอวยพร..
มีแต่เพียงความว่างเปล่าในตอนเช้า ความเงียบบนโต๊ะอาหาร
ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
การคุยกันของเราก็ห่างเหินมากขึ้น
‘รู้แล้ว’
คำพูดที่ไม่ทันขาดคำ กลับถูกขัดด้วยท่าทางเย็นชา
‘ฉันจะออกไปดูงานข้างนอก’
ไม่สนใจว่าฉันจะเอากาแฟมาวางไว้ให้ตรงหน้าโต๊ะทำงาน
กลับเดินออกไป ทิ้งคำโกหกเอาไว้ดูต่างหน้า
ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ เพราะฉันเป็นคนจัดตารางงานให้หมอนั่นเอง
แล้ววันนี้ ก็ไม่มีคิวงานอะไรเลยด้วย
นายไม่ต้องการจะเจอหน้าฉันแล้วใช่มั้ย..ถึงได้พยายามหลบหน้าฉัน...แบบนี้..
ฉันมันผิดเอง ทั้งๆที่ใจคิดอีกอย่าง กลับพูดออกไปอีกอย่างโดยไม่คิด ทั้งๆที่..
...อยากทำอะไรให้นายกินหลังจากความเหน็ดเหนื่อยจากงาน
...อยากไปส่งเข้านอน และห่มผ้าให้
...อยากไปไหนด้วยกัน ทุกที่ ทุกเวลา ทุกวินาที
...อยากเจอหน้ากัน อยากอยู่ใกล้กันตลอดเวลา
...อยากรับความหวังดีของนาย
...อยากรับความห่วงใย
...อยากรับของขวัญจากนาย
......อยากทำให้นายมีความสุข...มากกว่านี้
............อยากขอโทษ................
[--End--]
ขณะที่ความคิดได้หลุดลอยไปไกลนั้น มีบางเสียงที่แล่นเข้าสู่โสตประสาท
เสียงที่แสนคุ้นเคยและชวนให้คิดถึง
เสียงครางของใครบางคนที่เขารู้จักดีเอ่ยขึ้นจากห้วงนิทรา ทำให้รีบอร์นหลุดจากภวังค์ และหันขวับมายังเตียงที่มีร่างบางนอนอยู่ ที่ขณะนี้ได้ยันตัวเองลุกขึ้นมานั่ง
พลางลูบหัวตัวเองป้อยๆ ท่าทางเบลอๆ มึนๆ และกำลังมึนงง
สายตาที่ยากจะคาดเดาและเต็มไปด้วยความหมายมากมายถูกสื่ออกมา
และกระทบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลที่เพิ่งจะได้สติ
ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโพลงขึ้นทันทีที่สายตาของตนพบเข้ากับร่างสูงริมระเบียง
บุคคลปริศนาที่ดูคุ้นตา ลักษณะที่ดูคุ้นเคยนั่น
สายตาของทั้งคู่ต่างไม่ละจากกันอย่างเนิ่นนานเหมือนโดนมนต์สะกดยังไงยังงั้น...
TO BE CONTINUE >>
ความคิดเห็น