ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short fic Reborn

    ลำดับตอนที่ #3 : [6927]Late Lies Love มันเป็นภาคต่อ..

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 52


    Title : Late Lies Love
    Author : Nay
    Genre : Yaoi
    Pairing : 6927
    Song : ความคิด ของstamp



    nate: ฟิคสั้นชั้นมีแต่เรื่องเพ้อๆ

    แต่งได้แต่แบบเนี่ย NCเค้าแต่งไม่เป็น

    ถ้าอ่านแล้วงงหรือไม่เข้าใจ โปรดอภัยด้วยคะ


    เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ Lies Like Love

    -----------------------------------------------





    ยังเดินผ่านทุกวัน ที่ๆเราพบกัน เมื่อก่อน






    ในวันที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทาจนเกือบดำ นั่นเป็นลางบอกว่า ฝนคงจะตกในไม่ช้า กาลเวลาผ่านไปเท่าไหรไม่ทราบได้ รู้เพียงอย่างเดียวว่ามันเป็นเวลาที่ยาวนาน ร่างสูงนอนขดตัวอยู่บนเตียงใหญ่ที่แสนนุ่มสบาย ปลายนิ้วเรียวยาวไล่ไปตามเนื้อผ้าที่เย็นชื่น ร่องรอยของใครบางคนที่เคยนอนอยู่ตรงนี้ยังคงอยู่ ไม่ได้ลบเลือนหายไปไหน… ชายหนุ่มค่อยๆหลับตาลงช้าๆ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างที่คาดเดาได้ยาก ก่อนจะลืมตามองบนเพดานที่ว่างเปล่า








    คุณนี่มัน..โง่จริงๆ








    คิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะในลำคอเหมือนคนบ้า ร่างสูงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงอย่างเชื้องช้า ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนกับต้องการยื้อเวลาให้มากที่สุด….นัยตาสองสียังคงเลื่อนลอยไร้สีสัน จะก้าวขาแต่ละก้าวก็เหมือนโดนโซ่เหล็กล่ามไว้ ทำให้รู้สึกไม่อยากก้าวออกไปไหน แต่เค้าก็จำเป็นต้องไป…




    เพียงแค่ก้าวเดินออกจากห้องเพียงไม่กี่ก้าว ก็ต้องเซงจิต ..
    “อะไรฟะ นี่แกยังไม่เตรียมตัวอีกเรอะ”โกคุเทระ ฮายาโตะบ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อพบสภาพของคนตรงหน้า
    “เดี๋ยวก็ไปงานไม่ทันหรอก”



    “มันไม่เกี่ยวกับคุณ”มุคุโร่ตอบสั้นๆ พร้อมสะบัดหน้าเมินหนี นั่นมันทำให้โกคุเทระอารมณ์สูงขึ้นในทันที



    “หนอย…แก…”นัยตาสีมรกตฉากแววกร้าวทันใด พร้อมจะกระโจนตะครุบเหยื่ออยู่ทุกเมื่อ ถ้าหากหนุ่มเบสบอลไม่ห้ามปรามไว้



    “ใจเย็น โกคุเทระ”ยามาโมโตะกล่าวพร้อมรั้งแขนคนอารมณ์ร้อนเอาไว้ สายตาสีนิลยังคงจับจ้องแผ่นหลังที่กำลังจะจากไป อารมณ์แปรปวนของโกคุเทระไม่ได้อยู่เหนือความคาดการณ์ของเค้าเลยแม้แต่น้อย


    “นายต้องมาให้ได้นะ” หนุ่มเบสบอลบอกไล่หลังไป ไม่ว่ามุคุโร่จะสนใจฟังหรือไม่ก็ตาม “สึนะคงดีใจ”





    ฝีเท้าถูกเร่งให้เร็วขึ้น เพื่อไปให้ไกลจากที่แห่งนี้ เพียงแค่เอ่ยชื่อของคนๆนั้น มันก็ทำให้ใจมันกระตุกวูบแล้ว มันช่างเจ็บ..เจ็บมาก






    คุณทำให้ผมเจ็บ












    ยังจำซ้ำๆได้ทุกตอน ราวกับมีใครมาหมุน ย้อนเวลา












    เศษเสี้ยวความทรงจำแล่นกลับเข้ามาในสมอง อยากจะลืมใจจะขาด แต่ก็ไม่อาจลืมได้เลย
    ในวันนั้นคุณคงเจ็บเหมือนกันใช่ไหมครับ? ในวันที่ผมสาบานว่าจะโกหกคุณ….ว่าเกลียด..





    ร่างสูงเดินปะปนไปกับฝูงชน ราวกับพระเจ้ากำลังลงโทษเขาอยู่ นับตั้งแต่วันนี้ เขาคงต้องอยู่โดดเดี่ยวอีกครา
    ถ้าผมไปงานนี้ ผมจะได้เจอคุณอีกครั้งใช่ไหม?










    แต่ก็คงจะหมุนย้อนได้แค่ในความคิด ในชีวิตจริงคงไม่เจอกันอีกแล้ว










    สมองรำลึกในวันที่เธอจะจากไป




    วันนั้นเรานัดจะไปเที่ยวด้วยกัน ระหว่างผม กับ คุณ
    หลังจากที่ผมได้ทำงานอย่างหนัก ผมก็ควรได้เวลาพักผ่อนสบายๆกับคนที่รักบ้าง..ผมอดใจรอที่จะเจอคุณไม่ได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาที จึงไปรอคุณที่จุดนัดพบก่อนชั่วโมงหนึ่ง แต่ผมก็ต้องตกใจ เมื่อคุณมาเร็วกว่าผมซะอีก..




    ชายหนุ่ม ไม่สิ คุณยังเป็นเด็กหนุ่มเสมอในสายตาผม เด็กหนุ่มเจ้าของผมฟูนุ่มหันมาทางผมด้วยความตกใจเช่นกัน นัยตากลมโตสีอ่อนหันมามองผมอย่างงงๆ ก่อนจะแย้มรอยยิ้มให้ผม “มุคุโร่ นายมาเร็วนะ”



    นั่นแหละที่ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ “คึหึหึหึ คุณก็เหมือนกันละครับ” ผมอดใจไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปจุมพิตบนหน้าผากเบาเป็นการทักทาย “วันนี้จะไปไหนดีละครับ”



    ใบหน้าของเด็กชายลังเลเล็กน้อย “เอ่อ..มุคุโร่”



    “ครับ?”ผมขานรับเบาๆ



    “นายคงไม่โกรธนะ”สึนะเอ่ย “ชั้นคงไปเดทกับนายไม่ได้แล้วละ”



    ผมปล่อยรังสีไม่เป็นมิตรออกมาทันที และดูเหมือนร่างบางตรงหน้าจะรู้สึกได้จึงรีบอธิบาย
    “มะ มันช่วยไม่ได้นินา..”เสียงหวานกล่าวเสียงอู้อี้ “ชั้นมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำ”



    “มันสำคัญกว่าผมอีกหรอครับ…”ผมพยายามปั้นหน้ายิ้มเต็มที่ “ธุระนั่นน่ะ”



    ร่างเล็กผงกหัวขึ้นลงช้าๆ “มันเป็นการเจรจาอะไรนิดหน่อยน่ะ..นายคงไม่โกรธใช่ไหม?”




    “ครับ”ผมตอบน้ำเสียงประชด “ผมไม่โกรธ(แน่ๆ)”



    “ง่า..”สึนะหลบสายตา ก่อนจะโค้งตัว90องศา “ขอโทษนะ ชั้นขอโทษ ”



    “ผมไม่ต้องการคำขอโทษครับ” ผมนึกสนุก คิดอยากแกล้งซะแล้วซิ ถึงจะไม่ได้ไปเดทด้วยกัน แต่อย่างน้อยก็แกล้งซะหน่อยคงไม่เลว แต่ความคิดนั้นต้องหายไป เมื่อคนตรงหน้าส่งสายตาวิงวอนเป็นการเผด็จศึก ผมจึงได้แต่ถอนหายใจ มาไม้นี้..แกล้งไม่ลงเลย..ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี คุณก็ไม่เคยเปลี่ยนจริงๆนะครับ



    “การเจรจาอาจไม่ยื้อเยื้อก็ได้”ร่างเล็กจับปลายคางทำหน้าคิดหนัก พร้อมบ่นงึมงำเบาๆ
    “อาจใช้เวลาซักสองสามชั่วโมง ไม่น่าเกินจากนั้น”




    “ถ้าแค่สองสามชั่วโมง ผมจะรอครับ”



    สึนะสะบัดศีรษะปฎิเสธ มือเล็กทั้งสองข้างแกว่งไปมาพัลวัน
    “ไม่ต้องหรอก อาจนานกว่านั้นก็ได้ นายไม่ต้อง…”




    ผมฉวยมือเล็กนั้นเอาไว้ พร้อมใช้ริมฝีปากจุมพิตไปที่หลังมือเบาๆ นั่นทำให้คนตรงหน้าสงบลงใบหน้าหวานแดงระเรื่อ…ช่างน่ารักจริงๆ
    ร่างบางกระโจนเข้าสวมกอดผมอย่างไม่ทันตั้งตัว “บอกรักชั้นซักครั้งซิ มุคุโร่” เสียงหวานเอ่ยเบาๆคล้ายเสียงกระซิบ ผมกระตุกยิ้มบางพร้อมกอดรัดให้แน่นยิ่งขึ้น


    “ผมเกลียดคุณ”สิ้นคำบอกรัก(?) มันทำให้ใบหน้าหวานทำหน้าเหยเกประหลาดๆ
    ผมยังคงจำคำสาบานที่ผมให้ไว้ในวันเอพริลฟูลเมื่อหลายปีก่อนได้











    ต่อจากนี้ ทุกๆวัน ทุกเช้า ทุกกลางวัน ทุกเย็น และก่อนนอน












    ผมจะโกหกคุณ เหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา









    จนถึงตอนนี้คุณก็ยังไม่ยอมเป็นของผม




    นัยตากลมโตสีอ่อนจ้องมองผมตาไม่กระพริบ เหมือนกำลังคาดหวังให้ผมพูดคำนั้นเต็มที่ ผมจึงบอกทางให้
    “ถ้าคุณอยากฟังคำๆนั้น คุณรู้นี่ครับ ว่าต้องทำยังไง”



    “มันน่าอายนี่นา”คนในอ้อมกอดบ่น “ทำแบบนั้นแล้วจะได้ฟังคำๆนั้นเพียงคำเดียว ชั้นว่ามันไม่ยุติธรรม”



    “คึหึหึหึ ยุติธรรมซิครับ”ผมยิ้มกว้างแล้วกระซิบที่ข้างหู “คุณจะได้รับความสุขชั่วนิรันดร์”



    สึนะหน้าแดงแบบกู่ไม่กลับ แล้วซุกหน้าลงแผ่นอกของผม
    “แล้วชั้นจะคิดดู อาจจะเป็นหลังเดทก็ได้ ถ้าชั้นกลับมาทันน่ะนะ” ร่างเล็กกล่าวลอยๆ “ถึงตอนนั้นนายอาจกลับไปแล้วละ”



    “ผมสัญญา”ปลายนิ้วไล่ไปตามเส็นผมทีละเส้นเบาๆ “ผมจะยืนรอคุณอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน”
    นั่นทำให้ร่างเล็กยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เรากอดกันแนบแน่นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะจากกัน เราจูบลากันหวานซึ้งเยี่ยงคนรัก ทั้งๆที่ฐานะของเราเป็นเพียงท้องฟ้าและสายหมอก…







    วันนั้นผมยืนคอยหลายชั่วโมง








    .










    .






    .













    .










    ยืนอยู่ตรงที่เดิม แต่ไม่มีวี่แวว เธอจากไปแล้ว และคงไม่ย้อนคืนมาหา






    .









    .




    .







    โดยไม่รู้เลย..ว่าคุณไม่มีวันกลับมา












    .




    ในวันนั้น
















    ผมปล่อยคุณไปได้ยังไง…



    .........................







    .





    .






    ผมไปยืนรอคุณที่เดิม เวลาเดิมทุกวัน เหมือนคาดหวังให้คุณกลับมา







    ได้แต่ฝาก ความคิด ของฉันเอาไว้ เผื่อวันไหนเธอผ่านมา








    รอเป็นชั่วโมงๆ เหมือนวันนั้น








    เห็นที่เดียวกันนี้ เธอจะนึกขึ้นได้ว่า










    เผื่อคุณนึกขึ้นได้ว่า










    เคยมีคนหนึ่งยืนข้างเธอ อยู่ตรงนี้เสมอ ตลอดมา








    ผมยังคงรักษาสัญญา รอคุณอยู่ตรงนี้เสมอ








    นัยตาสองสีที่ว่างเปล่า เหม่อลอย มองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ความรู้สึกที่อยากเจอนั้น มันห้ามไม่อยู่ซะแล้วซิ..






    อยากเจอเธอเหลือเกิน เพราะก่อนที่เราต้องเดินแยกทาง








    นั่นมันทำให้ผมเจ็บเสมอ









    ฉันมีความคิดหลายๆอย่าง หลายอย่างเหลือเกินที่ฉันไม่ได้พูดไป









    อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ ถ้าผมไปงานนั้น ผมจะได้เจอคุณไหม?






    แต่กลับมานึกขึ้นได้ในเวลานี้ ในเวลาที่เธอเดินจากฉันไปแสนไกล










    หากผมไปงานนั้น ผมจะได้กอดคุณเอาไว้ในอ้อมแขนอีกไหม?









    หากเธอนั้นยังอยู่ จะกอดเธอให้ชื่นใจ และคอยพูดออกไปทุกสิ่งที่อยู่ในใจฉัน









    ผมจึงรีบออกตัววิ่ง วิ่งไปที่งานนั่น วิ่งไปโดยไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยอีกแล้ว มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมอยากทำ นั่นก็คือ การได้พบกับคุณอีกครั้ง….






    ฟ้าอากาศไม่เคยเข้าข้าง หยาดเม็ดฝนเริ่มตกลงมาเรื่อยๆ จากปอยๆ ก็ทวีความแรงขึ้นคล้ายพายุ การมองไปข้างหน้านั้นลำบากมาก ฝนตกหนักเสียจนทำให้ผมมองไม่เห็น






    ฝีเท้าชะลอตัวลง เมื่อไปถึงที่จัดงาน…เพราะเม็ดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหรือเพราะผมมาช้าเกินไปก็ไม่ทราบได้ แต่รู้เพียงอย่างเดียวคือไม่มีใครอยู่แล้ว งานคงเสร็จไปแล้ว







    ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้ อาจไม่เห็นได้ด้วยตา







    ร่างสูงไม่ขยับ นัยตาสองสีแสนเศร้าจ้องมาที่สิ่งตรงหน้า มันคือโลงศพสีดำของใครบางคน..
    ผมนั่งคุกเข่าลงข้างๆโลงศพสีดำทะมึนช้าๆ ในขณะที่ผมจะเปิดฝา มือของผมสั่นระริกเพราะความกลัว ไม่ใช่เพราะความหนาว



    นัยตาสองสีเบิกกว้าง ก่อนจะหรี่ลง จ้องมองใบหน้าหวานซึ่งหลับตาพริ้มคล้ายคนนอนหลับ ปลายนิ้วค่อยๆไล่สัมผัสผิวเนียนละเอียดของร่างบางช้าๆ เหมือนกลัวคนตรงหน้าจะตื่น








    ฉันได้ฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้า








    “ตัวคุณเย็นจังเลยครับ”ร่างสูงเอ่ยเสียงงึมงำ พลางใช้นิ้วเกลี่ยผมสีอ่อนให้พ้นใบหน้าหวาน มุคุโร่โน้มตัวไปจุมพิตร่างเย็นนั้น ที่หน้าผาก จมูก แก้มนุ่ม ก่อนจะประทับริมฝีปากที่แสนเย็นไร้ชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย
    หยาดน้ำฝนตกปอยๆ ก่อนจะค่อยๆหยุดลง ใบหน้าคมแหงนมองท้องฟ้า แล้วหลับตาลง สะกัดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้



    ผมรู้สึกผิดตลอด รู้สึกผิดที่ไม่เคยพูดความจริงกับคุณ คุณจะให้อภัยผมได้ไหม?







    มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า..





















    “ผมขอโทษ..”นัยตาสองสีจ้องมองใบหน้าหวาน “ผมรักคุณนะครับ สึนะโยชิคุง”









    ผมจะไม่พูดคำว่าเกลียดกับคุณอีกแล้ว


















    ผมจะพูดคำว่ารักกับคุณคนเดียว..











    แม้ฟ้าจะสดใส แต่ในใจของผมยังขุ่นมัว แม้ฝนจะหยุดตก แต่ทำไมหน้าจึงยังมีหยาดน้ำไหล
    ทั้งๆที่ผมบอกรักคุณแล้ว ทำไมผมถึงไม่มีความสุข














    หากย้อนเวลากลับไป






















    ทุกๆวัน ทุกเช้า ทุกกลางวัน ทุกเย็นและก่อนนอน
























    ผมอยากพูดคำว่ารักให้คุณได้ยิน..




























    แต่นั่น..มันคงสายเกินไปแล้วใช่ไหม?




    -------------------------The end-------------


    ไม่เคยคิดว่าจะแต่งภาคต่อน้า

    แต่พอฟังเพลง ความคิด แล้ว มันทำให้เกิดไอเดียนี้ขึ้นมาอ่ะ(ไม่รู้ว่าท่านผู้อ่านจะเคยฟังเพลงนี้กันอ่ะเปล่า


    ตอนแรกยังหวั่นๆอยู่ว่าจะให้เป็นคู่6927หรือ 1827ดี แหะๆ



    ขอบพระคุณที่สละเวลามาอ่านนะคะ

    คอมเม้นติชมตามสบายน่อ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×